เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จัดพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธรูปปางประทานพระเกศาธาตุและประทับรอยพระบาท และ ยกฉัตรทองคำ(คลิป)

วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จัดพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธรูปปางประทานพระเกศาธาตุและประทับรอยพระบาท และ ยกฉัตรทองคำ ขึ้นประดิษฐานภายในพระมหาเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทเมืองโยนก เป็นสิริมงคลแก่ทางวัดและพุทธศาสนิกชน

วันนี้ (21 ธ.ค. 67) นางฐาปนา รักติประกร รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธรูปปางประทานพระเกศาธาตุและประทับรอยพระบาท ขึ้นบนแท่นประดิษฐาน และ พิธียกฉัตรทองคำ ขึ้นประดิษฐานบนยอดมณฑปไม้สักทอง ภายในพระมหาเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทเมืองโยนก วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมี พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

สำหรับรอยพระพุทธบาทแห่งนี้สันนิษฐานกันว่า มีมาพร้อมกับเส้นพระเกศาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ตามตำนานที่ปรากฏคู่มากับวัดว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมา ณ ดอยแห่งนี้ ขณะนั้นมีพญานาคสองตนได้แปลงร่างเป็นมนุษย์แล้วนำดอกบัวจากหนองชัวหน้าดอยทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมาถวายพระพุทธองค์ และสถานที่ถวายดอกบัวนั้นน่าจะเป็นจุดที่พระพุทธองค์ได้ทรงอธิษฐานประทับรอยพระบาทไว้ด้วย

โดยรอยรอยพระพุทธบาทเมืองโยนกที่พบบนยอดดอยสะเก็ด ที่ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นั้น เป็นรอยพระพุทธบาทแห่งที่ 4 จากรอยพระพุทธบาทสำคัญ 5 แห่งที่ปรากฏอยู่ตามประวัติโบราณ เป็นรอยพระพุทธบาทคู่ ขนาดใหญ่กว่าคนปกติเล็กน้อย ความยาวประมาณ 31 ซม. พระบาทข้างซ้ายเหลื่อมไปทางข้างหน้าเล็กน้อย ปลายพระบาททั้งคู่หันหน้าตรงไปทางทิศตะวันออก เป็นรอยพระพุทธบาทที่เหมือนจริงที่สุด เมื่อตรวจสอบตามสเกลพบว่ามีขนาดใกล้เคียงความสูงกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในรอยพระบาทนั้นนอกจากจะมีดวงตราพระธรรมจักรแล้ว ยังมีลายเอ็นเส้นก้านใบบัวปรากฏอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดูและรักษารอยพระบาทนี้ไว้ ทางจังหวัดเชียงใหม่และทางรัฐบาลไทย โดยกระทรวงมหาดไทย จึงได้ถวายที่ตรงนี้ให้กับทางวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เพื่อสร้างพระมหาเจดีย์และพลับพลามณฑปครอบรอยพระพุทธบาทในเมืองโยนกนี้ไว้ เพื่อให้เป็นปูชนียสถานสำคัญและให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา โดยได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2561 มาจนถึงปัจจุบันซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ภายใต้งบประมาณกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ (21 ธ.ค. 67) เป็นการครบรอบ 6 ปี ของการก่อสร้าง

เชียงใหม่ เทศบาลเมืองแม่เหียะเชียงใหม่ เปิดประชุมสภาสมัยแรก หลังการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ ได้ชี้แจงแถลงนโยบายฯ(คลิป)

เทศบาลเมืองแม่เหียะเชียงใหม่ เปิดประชุมสภาสมัยแรก หลังการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ ได้ชี้แจงแถลงนโยบาย โดยวาระเร่งด่วนเน้นน้ำไหลไฟสว่างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และขยายติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม สร้างความปลอดภัย


นาย กริณย์พล ไชยยาพิบูล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่เหียะ จังหวัดเชียงใหม่ หลังได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองแม่เหียะ ให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี วันนี้พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้กำหนดการบริหารราชการ ของเทศบาลเมืองแม่เหียะ โดยจะยึดมั่นในหลักการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และยึดมั่นในการให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการท้องถิ่น และก่อนนายกเทศมนตรีเข้ารับหน้าที่

ประธานสภาเทศบาลฯเรียกประชุมสภาเทศบาลสมัยแรก เพื่อให้นายกเทศมนตรี แถลงนโยบาย ต่อสภาเทศบาล โดยไม่มีการลงมติ ภายใน 30 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี โดยให้จัดทำนโยบายเป็นลายลักษณ์อักษร แจกจ่ายให้กับสมาชิกสภาเทศบาลทุกคน โดยนาย กริณย์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ กล่าวว่า จะทำตามนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ กับประชาชน ภายใต้แนวคิด แม่เหียะพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เพื่อให้เทศบาลเมืองแม่เหียะ เป็นชุมชนที่พัฒนาอย่างสมดุล มีความเท่าเทียม และสร้างอนาคตที่ดีกว่า สำหรับประชาชนทุกคน ในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยมีกรอบการพัฒนาระยะเวลา มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าใน 3 ระยะ กรอบระยะสั้น มุ่งเน้นการพัผมนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานและการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น ผ่านการสนับสนุนธุรกิจชุมชน และส่งเสริมการค้าขาย พร้อมสร้างรากฐานในการเข้าสู่สังคมดิจิทัล ด้วยโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี ระยะกลาง มุ่งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ให้แก่ประชาชนและลดความเหลื่อมล้ำ โดยการพัฒนาศักยภาพ ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ในการบริหารจัดการชุมชน พร้อมยกระดับความปลอดภัยในพื้นที่เทศบาล เพื่อสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และระยะยาว

เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อรักษาทรัพยากรและส่งต่อมรดกให้กับคนรุ่นหลัง พร้อมพัฒนาเมืองให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้และนวัตกรรม สร้างงานสร้างคน และวางระบบการบริหารจัดการที่ยั่งยืน เพื่อความเจริญเติบโตในอนาคต เพื่อทำให้เมืองแม่เหียะ ก้าวสู่การเป็นชุมชนต้นแบบที่ทันสมัยและยั่งยืน สร้างความสุขและความมั่นคง และความเท่าเทียมให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ภายใต้หลัก แม่เหียะพรุ่งนี้ที่ดีกว่าและจะมีการขยายการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคุมทั้งหมด

เชียงใหม่ ม.แม่โจ้ เปิดโรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในมหาวิทยาลัยไทย พร้อมลงนาม MOU ร่วมกับภาคเอกชน(คลิป)

ม.แม่โจ้ เปิดโรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์แห่งแรกในมหาวิทยาลัยไทย พร้อมลงนาม MOU ร่วมกับภาคเอกชนพัฒนางานวิจัยสู่การพัฒนานวัตกรรมให้บัณฑิตด้านพลังงานทดแทน

วันนี้ (18 ธ.ค. 67) ดร.วัชรินทร์ บุญฤทธิ์ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย และบรรยายพิเศษ “แผนพลังงานแห่งชาติ 2024 กับทิศทางการพัฒนาพลังงานทดแทนในประเทศไทย” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ ศรีเงินยวง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวต้อนรับ พร้อมทั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิกราน หอมดวง คณบดีวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวรายงาน และคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ผู้แทนบริษัททางด้านพลังงาน ผู้บริหารหัวหน้าส่วนงานจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ณ วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้

ผศ.ดร.สราวุธ พงวงษ์ศรี อาจารย์ประจำวิทยาลัยพลังงานทดแทน ม.แม่โจ้ กล่าวว่า โรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นโรงงานต้นแบบแห่งแรกในสถานศึกษาและส่วนราชการ ซึ่งสามารถผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานทางการเกษตร การใช้งานตกแต่งสถานที่ และการใช้ประโยชย์ในชีวิตประจำวัน เช่น การนำแผงเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาโรงเรือนผลิตพืช ช่วยประหยัดพื้นที่ ลดต้นทุนให้เกษตรกร และที่สำคัญคือเป็นสถานฝึกประสบการณ์ให้นักศึกษาได้เรียนรู้ปฏิบัติจริง พัฒนางานวิจัยของนักศึกษาในทุกระดับเพื่อนำไปสู่การพัฒนาและความก้าวหน้าของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

นอกจากนั้น ยังเป็นแนวทางในการสร้างรายได้ระหว่างเรียนให้แก่นักศึกษาด้วยการรับผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ตามวัตถุประสงค์ และการสร้างหลักสูตรฝึกอบรมด้านการติดตั้งและผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ เพื่อการสร้างราย พร้อมนำมาต่อยอดพัฒนาและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ของโรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้มีงบประมาณหมุนเวียนในการซ่อมบำรุงและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในลักษณะพี่งพาตนเองได้

ภายในงานได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่าง วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีพลังงานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์ ได้แก่ บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด , บริษัทลานนาโซลาร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด และ บริษัท เอสล่าร์ไทย วิศวกรรม จำกัด เพื่อร่วมสนับสนุนด้านวิชาการเป็นแหล่งฝึกสหกิจศึกษาของนักศึกษาระดับปริญญาตรี เพิ่มโอกาสในการได้งานทำของนักศึกษา รวมถึงการพัฒนาการวิจัยด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ ขยายผลจากงานวิจัยสู่การพัฒนานวัตกรรมเพื่อการสร้างโอกาสในการขยายผลของเทคโนโลยี วิจัยจากหิ้งสู่ห้าง นอกจากนั้น บริษัท โซลาร์ พีพีเอ็ม จำกัด ได้มอบเครื่อง Solar simulator เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน และการวิจัย ให้แก่วิทยาลัยพลังงานทดแทน อีกด้วย

เชียงใหม่ หนาวแล้วไม่ต้องกลัวหนาวพาไปเที่ยวนั่งแช่น้ำร้อนที่บ้านยางปู่โต๊ะ อำเภอเชียงดาว (คลิป)

บ่อน้ำร้อนที่ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ อยู่ไม่ไกลจากถ้ำเชียงดาว ชาวบ้านร่วมทั้งนักท่องเที่ยวแห่ลงแช่น้ำร้อน บางบ่อนักท่องเที่ยวเข้าไปนั่ง 4-5 คน เหมือนกับแช่น้ำแร่ในประเทศญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวพาไปที่ โป่งน้ำร้อนบ้านยางปู่โต๊ะ ตั้งอยูที่บ้านยางปู่โต๊ะ หมู่ 6 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติรักษาสภาพ ตั้งอยู่ปากทางศูนย์วิจัยสัตว์ป่าเชียงดาว ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างๆ ทะยอยเดินทางมาเที่ยวและลงแช่น้ำร้อนตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็น สามารถนั่งแช่น้ำร้อนได้ ซึ่งเป็นบ่อซีเมนต์ จำนวน 6 บ่อ นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติมักจะไปนั่งแช่น้ำร้อนในบ่อน้ำขนาดใหญ่ซึ่งสามารถจุคนนั่งได้ถึง 4- 5 คน โดยโป่งน้ำร้อนจะไหลออกมาจากพื้นดินลงสู่ลำห้วยแม่ก๊ะ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกแช่น้ำร้อนหรือเล่นน้ำเย็นได้ตามใจโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ บางบ่อนักท่องเที่ยวเข้าไปนั่ง 4-5 คน เหมือนกับแช่น้ำแร่ในประเทศญี่ปุ่น


อย่างไรก็ดีชาวบ้านในอำเภอเชียงดาว ออกมาวิตกในเรื่องการรักษาความสะอาดบริเวณโป่งน้ำร้อนยางปู่โต๊ะ รวมทั้งการจัดระเบียบสถานที่แห่งนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบริเวณบ่อรวมทั้งนำอาหารมานั่งรับประทานขณะนั่งแช่น้ำร้อน เกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมตามมา จึงอยากฝากไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดระเบียบ เพื่อให้โป่งน้ำร้อนแห่งนี้ได้อยู่คู่ชาวเชียงดาว และให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

แม่ฮ่องสอน รอง ผบ.นบ.ยส.35 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยด้านปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน(คลิป)

รอง ผบ.นบ.ยส.35 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยด้านปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน หวังปฏิบัติงานเชิงรุกในทุกมิติก่อนหยุดยาวเทศกาลปีใหม่

เมื่อ 17 ธ.ค. 67 เวลา 09.00 พล.ท.สมจริง กอรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (รอง ผบ.นบ.ยส.35 ) เปิดเผยว่า พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผบ.นบ.ยส.35 มอบหมายให้นำคณะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของ หน่วยด้านปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดตากและจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะ ร้อย.ร.421 หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ที่ ท่าข้ามสินค้าที่ 28 บ้านช่องแคบ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จังหวัดตาก โดยมีนายสราวุธ ภักดี ผอ.ปปส. ภาค 6 ร่วมให้ข้อมูลสถานการณ์ยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ในพื้นที่


รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (รอง ผบ.นบ.ยส.35 ) กล่าวว่าจากประเด็นเส้นเขตแดนไทย – เมียนมาในพื้นที่การวางกำลังของกองกำลังว้า โดยเฉพาะด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ จังหวัดเชียงใหม่บางส่วน ทำให้พื้นที่เหล่านี้มีการเข้มงวดในเรื่องของมาตรการเฝ้าตรวจเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้กลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ชะลอความพยายามในการลำเลียงยาเสพติดบางส่วน และมีการเปลี่ยนเส้นทางการนำเข้าไปยังด้าน อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ , จังหวัดเชียงราย และ สปป.ลาว เพิ่มมากขึ้น


จากสถานการณ์ด้านการข่าว พบว่ายาเสพติดยังคงพักคอยอยู่ตามแนวชายแดนในปริมาณมากเช่นเดิม แต่รูปแบบการลำเลียงมีความหลากหลาย โดยเฉพาะการลำเลียงผ่านระบบขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ยานพาหนะที่มีการดัดแปลง รวมถึง การซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะช่วงของเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภาคเหนือ รวมทั้งจากการตรวจยึดเคมีภัณฑ์ควบคุมจำนวนมาก ในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นสิ่งบอกเหตุได้ชัดเจนว่ากลุ่มผู้ผลิตยังคงมีความต้องการเคมีภัณฑ์เหล่านี้ นำไปใช้ในกระบวนการผลิตยาเสพติด ทั้งนี้ที่ผ่านมา นบ.ยส.35 จึงได้ร่วมกับ ปปส. ภาค 5 และภาค 6 เพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจและสกัดกั้นให้เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการลาดตระเวนตามแนวชายแดน การตั้งจุดตรวจระหว่างอำเภอเป้าหมาย ตลอดจนการอาศัยการข่าวจากหน่วยความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดไว้ ณ พื้นที่ชายแดนให้มากที่สุด

สำหรับผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นและปราบปรามของหน่วยตั้งแต่ 1 ต.ค. 67 – 16 ธ.ค.67 มีเหตุการณ์สำคัญ 44 เหตุการณ์ เกิดการปะทะ 9 ครั้ง ตรวจยึด/จับกุม 35 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่และจังหวัดตาก จับกุมยาบ้า 47 ล้านเม็ด, ไอซ์ 2,357 กก., เฮโรอีน 140 กก., เคตามีน 802.86 กก.ผู้ต้องหา 45 คน เปรียบเทียบในห้วงเวลาเดียวกัน มียาบ้าเพิ่มขึ้น 11 ล้านเม็ด คิดเป็นร้อยละ 23.95 ไอซ์ เพิ่มขึ้น 1,593 กก.คิดเป็นร้อยละ 208.6

เชียงใหม่ อากาศหนาวชมรมบำนาญส่งเสริมการเกษตรเชียงใหม่ พร้อมตัวแทนสื่อมวลชน มอบสิ่งของขาวบ้าน และเด็กเยาวชนในตำบลเมืองคอง(คลิป)

อากาศหนาว ชมรมบำนาญส่งเสริมการเกษตรเชียงใหม่ พร้อมตัวแทนสื่อมวลชน มอบสิ่งของขาวบ้าน และเด็กเยาวชน ครั้งที่ 4 ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยเด็กเยาวชนศูนย์พัฒนาเด็กอนุบาลและปฐมวัย อบต.เมืองคอง ก็จัดการแสดงต้อนรับ ได้รับขนมและตุ๊กตาผู้ใหญ่ใจดีมอบให้ สร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ

นายกฤตพล รชตเมธานนท์ นายอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ รับมอบสิ่งของจากนายสถาพร ไชยพันธ์ ประธานชมรมบำนาญส่งเสริมการเกษตรเชียงใหม่ ครั้งที่ 4 แล้วส่งมอบสิ่งของให้ชาวบ้าน และเลี้ยงอาหารเที่ยงให้ชาวบ้านและมอบขนมให้เด็กๆ ด้วย

นอกจากนั้นยังมีทางกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มไฮยีนา และ กลุ่มหมูป่าเอ็นดูโร่ พร้อมด้วยดีเจ หวานใจ ร่วมกันมอบตุ๊กตาให้เด็กเยาวชนศูนย์พัฒนาเด็กอนุบาลและปฐมวัย อบต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเด็กๆ ต่างดีใจที่ได้ขนมและตุ๊กตาน่ารักติดไม้ติดมือกลับไปบ้าน โดยสิ่งของที่มามอบครั้งนี้ มีถุงยังชีพ นม ,ขนม, อาหาร ,ตุ๊กตา และเงินสด ส่งมอบให้เด็กเยาวชนและชาวบ้าน ทั้งหมด 6 หมู่บ้าน รวม 160 ครอบครัว

สำหรับตำบลเมืองคองตำบลเมืองคองตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเชียงดาวประมาณ 43 กิโลเมตร เนื้อที่ตำบลเมืองคอง เป็นที่ราบสูงเชิงเขาพื้นที่ ทำกินบางส่วนอยู่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติติดเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวและเขตอุทยานแห่งชาติ ห้วยน้ำดัง โดยทั่วไปมีสภาพพื้นที่เป็นป่าเขา น้ำ ป่า อากาศ ยังอุดมสมบูรณ์ เป็นพื้นที่อยู่อ่างระหว่างขุนเขาเป็นทางผ่านไปยังอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีสภาพอากาศเย็นเกือบตลอดปี มีอุณภูมิอยู่ระหว่าง 10 – 38 

filter: 0; fileterIntensity: 0.0; filterMask: 0; captureOrientation: 0;
brp_mask:0;
brp_del_th:null;
brp_del_sen:null;
delta:null;
module: photo;hw-remosaic: false;touch: (0.79675925, 0.39567718);sceneMode: 8;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 0.0;aec_lux_index: 0;albedo: ;confidence: ;motionLevel: -1;weatherinfo: null;temperature: 29;

เชียงใหม่ สยามนิสสันเชียงใหม่ ห่วงใย ใส่ใจ ดูแล ฉลองครบรอบ 30 ปี(คลิป)

สยามนิสสันเชียงใหม่ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์นิสสันที่ได้รับการแต่งตั้งจากนิสสันมอเตอร์ประเทศไทย อย่างเป็นทางการในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน ให้บริการแบบครบวงจร ทั้งด้านขาย,ศูนย์บริการและอะไหล่ พร้อมศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐาน พร้อมด้วยทีมงานช่างผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่คอยส่งมอบความพึงพอใจอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าทุกระดับที่มาใช้บริการ โดยช่วงเย็นวันนี้(14 ธค.67) นายนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานเปิดงานครบรอบ 30 ปีสยามนิสสัน ที่สำนักงานใหญ่ สาขาดอนจั่น อำเภอเมือง เชียงใหม่

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริษัท สยามนิสสัน เชียงใหม่ กล่าวว่า สยามนิสสันเชียงใหม่ ให้บริการครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานใหญ่ (สาขาดอนจั่น) ตั้งอยู่แยกดอนจั่น ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ให้บริการครบวงจรทั้งด้านขาย บริการและศูนย์ซ่อมสีและตัวถังมาตรฐาน สาขาสนามบิน ถนนเชียงใหม่-หางดง ตรงข้ามโรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ สยามนิสสันเชียงใหม่ สาขาลำพูน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

 

ด้วยนโยบายในการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าสูงสุด ทำให้บริษัทสยามนิสสันเชียงใหม่ จำกัด ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพของการให้บริการทั้งในระดับนานาชาติและระดับประเทศ อาทิเช่น
(1) 2015-2016 NISTEC Nissan Service Technician Excellence Competency Award
(2) 2019-2020 NISAC Nissan Service Advisor excellence Competency award – EXCELLENT SERVICE ADVISOR
(3) SANPATONG BRANCH OF THAILAND 2014 NISSAN GLOBAL AWARD
(4) NISSAN BEST DEALER AWARD 2013
(5) NISSAN BEST DEALER AWARD 2017 ผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม
(6) ENDRACE AWARD 2009 รางวัลผู้จำหน่ายที่มีผลการขายดีเยี่ยม
(7) NISSAN BEST DEALER AWARD 3rd Place NORTH REGION Fiscal Year 2017 – SIAM NISSAN CHIANGMAI CO., LTD HEAD OFFICE
(8) NISSAN RETAIL CONCEPT Recognition Award Fiscal Year 2018 – NORTH REGION SIAM NISSAN CHIANGMAI CO., LTD. LUMPHUN
(9) NISSAN BEST IN CLASS AWARD SALES OF ACCESSORIES/NEW CAR SALES Fiscal Year 2020 – SIAM NISSAN CHIANGMAI – HEAD OFFICE
(10) BEST OF NORTH DEALER AWARD FY20 SIAM NISSAN CHIANGMAI
(11) NISSAN BEST DEALER AWARD 2015 1st PLACE NORTH REGION (ปี 2558)
(12) NISSAN BEST DEALER AWARD 1st Place NORTH REGION Fiscal Year 2020 – SIAM NISSAN CHIANGMAI SAN PHI SUEA
(13) AWARD FY22 BEST OF NORTH DEALER RETAIL PENETRATION SIAM NISSAN CHIANGMAI
(14) ศูนย์บริการนิสสันดีเด่น ประจำปี 2540
(15) ผู้จำหน่ายสยามนิสสันดีเด่นภาคเหนือ ด้านขาย และด้านอะไหล่
(16) NSSW AWARD 2010 รางวัลดีเด่นในการสร้างความพึงพอใจลูกค้าในภูมิภาค ประจำปี 2553
(17) รางวัลชนะเลิศด้านที่ปรึกษาการบริการและด้านตรวจสอบรถใหม่ก่อนส่งมอบ
(18) รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 Customer Promise บริษัท สยามนิสสัน เชียงใหม่ จำกัด (สำนักงานใหญ่) ปี 2024


บริษัท สยามนิสสัน เชียงใหม่ จำกัด สาขาดอนจั่น (สนญ.) 151 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50000 สาขาสนามบิน 55/1 หมู่ที่ 7 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
สาขาลำพูน 149/9 หมู่ที่ 3 ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 51000
โทร. 053-261126 เบอร์เดียวโทรได้ทุกสาขา Line Official : @nissanchiangmai Facebook : NISSAN Chiangmai-นิสสัน เชียงใหม่

 

เชียงใหม่ “กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์” เปิดตัวโรงงานมูลค่ากว่า 400 ล้าน “ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์” ชูเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต อาหาร-ผลไม้ สด/แปรรูป รักษ์สิ่งแวดล้อม รักชุมชน(คลิป)

กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ เปิดตัวโรงงานไฮไลฟ์ โกลบอล พูดส์ (Hylife Global Food) มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท มุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร โดยนำเทคโนโลยีทันสมัยใช้ใช้ในกระบวนการผลิต ทุกขั้นตอนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องเป้าหมายด้านการดำเนินธุรกิจที่มีความยั่งยืงยืนระดับโลก พร้อมสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทั้งในองค์กรและชุมชน เตรียมเปิดตลาดทั้งใน
และต่างประเทศ ดีเดย์พิธีเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการวันที่ 10 ธันวาคม 2567 งบประมาณทั้งสิ้น 422 ล้านบาท สร้างโรงงาน “ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์” ที่ได้มาตรฐาน

นายชูโบดีป ดัส (Mr.Shubhodeep Das) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ เปิดเผยว่า
และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อดำเนินธุรกิจ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผักและผลไม้ไม้ตัดแต่งสดพร้อมรับประทานและแปรรูป ทั้งภายในประเทศและส่งออก อีกทั้งปรารถนาจะมีส่วนในการสร้างความยั่งยืนร่วมกับชุมชน และท้องถิ่นที่ตั้งของกลุ่มบริษัทฯ ในจังหวัดเชียงใหม่


“ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด คือ ผักและผลไม้แปรรูป เช่น ผลไม้อบแห้ง,โกแลต รวมไปถึงข้าวแต๋นกรอบปรุงรสต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์แปรรูปจากบริษัท มีความแตกต่างจากบริอื่น คือ มีการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการทำงาน รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนนำนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการยึดอายุผักผลไม้ตัดแต่งพร้อมรับประทาน โดยยังคงแร่ธาตุจากธรรรและกระบวนการแปรรูปในสุญญากาศ เป็นต้น”

ด้าน ดร.บัณฑิต จำรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด ภายใต้กลุ่มบริษัทไฮไลฟ์ กล่าวด้วยว่า เราได้มีแผนในการป้องกัน เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไว้เป็นอย่างดี โดยทำการศึกษาและประเมินผลกระทบต่างๆ และได้มีการออกแบบระบบป้องกันผลกระทบไว้อย่างยังยังยืน และยังมีแนวนโยบายในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และการสร้างเครดิตคาร์บอน โดยดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาที่มีความจุ 999 กิโลวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 20 ปี โครงการนี้จะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ของบริษัทได้ถึง 1,000-1,200 ตัน/ปี และสร้างเครดิตคาร์บอน ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่เหมือนใครในอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะดำเนินการประเมิน Carbon Footorint ทั้งในระดับผลิตภัตภัณฑ์(CFP) และองค์กร (CFO) เพื่อก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคต

“นอกจากนี้ โรงงานของเรา ยังมีการบำบัดน้ำเสียขั้นสูง ควบคูไปกับการผลิตพลังงานจากก๊าซชีวภาพะบบการย่อยก๊าชชีวภาพขั้นสูงในการบำบัดน้ำเสียที่มีค่า BOD (Biochemical Oxygen Dารถบำบัดน้ำเสียได้ 100% และยัะยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 500 kWh ต่อวัน ระบบบนี้ไม่เพียงแต่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด แต่ยังสามารถเปลี่ยนของเสียให้เป็นพลังงานทดแทน ไม่เพียงเท่านั้น น้ำที่ได้รับการบำบัดแล้วจะถูกนำไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ใช้เป็นแหล่งน้ำในการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนการเกษตรและลมลพิษทางน้ำในน้ำในพื้นที่”

ดร.บัณฑิต จำรัส กล่าวเสริมด้วยว่า ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟัดส์ ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุบรรภัณฑ์ที่
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่เหลือจากกระบวนการผลิตทั้งหมดจะถูกรึไซเคิลหรือใช้ประโยชน์ใหม่โดยมึนโยบาย Zero-Waste และบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน เพื่อลดการทิ้งขยะให้เหลือน้อยที่สุด การดำเนินการตามแนวทางเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษาความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการผลิต การดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของไฮไลฟ์ โกลบอล พูดส์ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโรงงาน แต่ยังขยายผลไปถึงชุมชนท้องถิ่น โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดหาน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วให้กับเกษตรกรในพื้นพื้นที่และสร้างความร่วมมือกับชุมชนเกษตรกร ความสัมพันธ์เชิงบวกนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท แต่ยังส่งผลดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย ที่สำคัญ คือ สามารถสนับสนุนชุมชน หรือสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ โดยเราใช้แรงงานรวมถึงวัตถุดิบในกระบวนการผลิตเกือบทั้งหมดจากชุมชนโดยรอบโรงงาน ซึ่งจะมีทีมส่งเสริมที่จะเข้าอบรมให้ความรู้เกษตรกรและรับรองการซื้อผลผลิตเข้าสู่โรงงาน

นายชูโบดีป ดัส ยังเผยถึงแผนการตลาดด้วยว่า บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล ฟู้ดส์ จำกัด มีแนวทางการตลาดแบ่งออกเป็น ในประเทศ 30-40% และ ส่งออก 60-70% โดยตลาดในประเทศมีเป้าหมายจะนำค้าไปวางขายในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อชั้นนำในประเทศไทย ส่วนตลาดต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง และ ญี่ปุ่น โดยวางเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจใหม่ใน8 บริษัท ไฮไลฟ์ โกลบอล พูดส์ จำกัด จะขยายตลาดสู่ภูมิภาค ยุโรป รัสเซีย และจีน และตั้งจะเป็นคู่ค้าของห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกชื้อชั้นนำในประเทศไทย

“เรามีความคาดหวังว่าทุกนี้ จะเกิดผสดต่อสังคม ชุมชน ตามแนวนโอบายที่จะทุบขุมทุมกับชุมชุมขึ้นอย่างยังยืน โดยมีการสนับสนุนกันทั้งภาคแรงงาน การสร้างงานโดยรอบโรงงาน การรับซื้อผลผลิตเกษตรจากชุมชน รวมถึงการสนับสนุนกลับสู่ชุมชนผ่านโครงการ CSR ต่างๆ และการจ่ายคืนในระบบภาษีท้องถิ่น เพื่อให้ทั้งบริษัทฯและชุมชน พัฒนาและเติบโตร่วมกันไปอย่างเกื้อกูลและยั่งยืน” นายชูโบดีป ดัส กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ โรงงานเถิดผักและผลไม่เปรรูป ไฮโลพี โกลบอล พูดส์ ตั้งอยู่ที่ 267 หมู่ 17 ทำ7อหลังกอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และจะมีพิธีเปิดตัวโรงงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ธ
ที่จะถึงนี้

เชียงใหม่ เปิดงาน Creative Lanna Festival 2024 “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” 9 – 15 ธ.ค.67 (คลิป)

เปิดงาน Creative Lanna Festival 2024 “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” 9 – 15 ธ.ค.67

บริเวณข่วงพะยอม พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัด “เทศกาลล้านนาสร้างสรรค์ 2024” ภายใต้ธีม “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” Creative Lanna Festival 2024

โดยในงานเริ่มต้นด้วยการมอบรางวัลภูมิแผ่นดินปิ่นล้านนา ประจำปี พ.ศ. 2566 จากนั้นรับชมวีดิทัศน์เกียรติประวัติผู้ได้รับรางวัล ต่อมาก ศาสตราจารย์ปฏิบัติ ดร.เอกชัย มหาเอก รองอธิการบดี รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ กล่าวรายงานรายละเอียดการจัดงาน Creative Lanna Festival 2024 โดยมีศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน Creative Lanna Festival 2024 “เทศกาลล้านนาสร้างสรรค์ 2024” ภายใต้ธีม “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” ตามด้วยการแสดงพิธีเปิด มีขบวนพิธีเปิด “การบูชาเวียงเชียงใหม่” – Lighting & Mapping และแฟชั่นผ้า มช. มข. มอ. หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด แขกผู้มีเกียรติรับชมบรรยากาศต่างๆ ภายในงาน

ศาสตราจารย์ปฏิบัติ ดร.เอกชัย มหาเอก รองอธิการบดี และรักษาการผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวรายงานว่า สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ ได้ดำเนินการคัดเลือกรางวัลภูมิแผ่นดินปิ่นล้านนา มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 จวบจนถึงปัจจุบัน มีผู้ที่ได้รับรางวัลภูมิแผ่นดินปิ่นล้านนาแล้ว ทั้งสิ้น 73 ท่าน โดยคัดเลือกจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในด้านศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวล้านนา 6 สาขา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน ให้บุคคลทั่วไปได้ตระหนักถึงคุณค่าของผู้สืบสานวัฒนธรรมล้านนา และเชิดชูเกียรติประวัติแก่ผู้ที่ทำประโยชน์ต่อสังคม

จากการคัดเลือกของคณะกรรมการ รางวัลภูมิแผ่นดินปิ่นล้านนา มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2566 มีผู้ได้รับรางวัลจำนวน 6 ท่าน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ ดอนลาว สาขาส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญา, นายขวัญชัย สุรินทร์ศรี สาขาภาษาและวรรณกรรม, นายอานันท์ ราชวังอินทร์ สาขาทัศนศิลป์, นายศักดิ์สิทธิ์ เดชเสาร์แก้ว สาขาศิลปหัตถกรรมและภูมิปัญญางานช่างพื้นบ้าน, นางสาวลำดวน สุวรรณภูคำ สาขาศิลปะการแสดงหรือการขับขานพื้นบ้านและนายแดง พิทำ สาขาสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมล้านนา กล่าวได้ว่าทั้ง 6 ท่านนี้ เป็นผู้ที่คุณูปการต่อวงการศิลปวัฒนธรรมล้านนาเป็นอย่างมาก จึงเหมาะสมกับรางวัล เพื่อเชิดชูเกียรติประวัติให้ท่านได้ภาคภูมิใจ และเป็นขวัญกำลังใจให้สืบทอดความรู้แก่เยาวชนต่อไป


ทางด้านศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยว่า งานเทศกาลล้านนาสร้างสรรค์ Creative Lanna Festival 2024 ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” โดยมีการเล่าเรื่องผ่านพิธีบูชาเวียงเชียงใหม่ ที่ได้จากการค้นพบผ่านจารึกและเอกสารโบราณ ซึ่งได้หยิบยกเอาส่วนหนึ่ง คือการจำลองวิธีบูชาเวียงเจียงใหม่ ของอดีตหลายร้อยปีสู่การถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ของงานเทศกาลภายใต้ 7 Themes สร้างสรรค์ร่วมสมัย อันได้แก่ 1. สุขภาพ (Wellness) 2. สถาปัตยกรรมศาสตร์ (Heritage) 3. ศิลปะวัฒนธรรม (Art and Craft) 4. เครื่องแต่งกาย (Costume) 5. อาหาร (Gastronomy) 6. เทศกาล (Festival) 7. ดนตรีและการแสดง (Performing Music and Media)ประกอบด้วยกิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และฟื้นฟูจิตวิญญาณล้านนา อาทิ ขบวนแห่จำลองพิธีบูชาเวียงเชียงใหม่ พร้อมด้วยขบวนช่างฟ้อน เครื่องสักการะ การแสดงศิลปะ และดนตรีล้านนา การฉายภาพ Ligth Mapping และ Installation Art สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตล้านนา การจัดนิทรรศการ การเวิร์กช็อปงานหัตถกรรมล้านนาสร้างสรรค์ การเสวนา การฉายภาพยนต์กลางแปลง การบรรเลงดนตรีและการแสดงล้านนาร่วมสมัย รวมทั้งบูธจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง และอาหารท้องถิ่นกว่า 60 ร้าน

และในปีนี้ เราได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรหลากหลายสถาบัน ในการเข้าร่วมจัดกิจกรรม และนิทรรศการต่าง ๆ ภายในงาน อาทิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ภายใต้ความร่วมมือของ โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเพณี มข. – มอ. – มช. “3 พลังเพื่อแผ่นดิน Culture Expedition (A.C.E.) และ Art Bridge 27 สาธารณรัฐเกาหลี โดยกิจกรรมภายในงานเทศกาลล้านนาสร้างสรรค์ Creative Lanna Festival 2024 ตลอด 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 9-15 ธันวาคม 2567 นี้ เวลา 10.00 – 21.00 น. จัดขึ้นในช่วงเดียวกับเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567


ในนามของประธานยุทธศาสตร์ล้านนาสร้างสรรค์ และสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอขอบคุณท่านนายกสภาฯ ท่านผู้บริหารของ 2 สถาบัน ผู้ร่วมสนับสนุนการจัดงานทุกภาคส่วน ที่ร่วมบูรณาการต่อยอด และขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านงานเทศกาลล้านนาสร้างสรรค์ 2567 ด้วยกันในครั้งนี้ และหวังว่าจะได้ร่วมบูรณาการกันอย่างยืนต่อไปในอนาคต

สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและละล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดงาน “เทศกาลล้านนาสร้างสรรค์” Creative Lanna Festival 2024 ภายไต้ธีม “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-15 ธันวาคม 2567 ระหว่างเวลา 10.00 น. – 21.00 น. ณ ช่วงพะยอม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ จัดพิธีเปิดงานเทศกาลล้านนาสร้างสรรค์ Creative LannaFestival 2024 ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ภายใต้การขับเคลื่อนโดยยุทธศาสตร์ล้านนาสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยในปีนี้ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กำหนดจัดเทศกาลดังกล่าว ภายใต้ธีม “ฟื้นใจ๋เวียงเจียงใหม่” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์และฟื้นฟูจิตวิญญาณล้านนา

กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย กิจกรรม และการแสดงสุดตระการตา อาทิ ขบวนแห่จำลองพิธีบูชาเวียงเชียงใหม่ พร้อมด้วยขบวนช่างฟ้อน เครื่องสักการะ การแสดงศิลปะ และดนตรีล้านนา การฉายภาพ Mapping แสง สี เสียง และ Installation Art สะท้อuเรื่องราวประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตล้านมา การเวิร์กชอปงานหัตถกรรมล้านนามาผสานศิลปะสร้างสรรค์สมัยใหม่ที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่อัตลักษณ์สร้างสรรค์ นิทรรศการล้านนาสร้างสรรค์ บูธสินค้าพื้นเมือง และอาหารท้องถิ่นกว่า 60 บูธ ดนตรีและการแสดงกลางแจ้งในบรรยากาศล้านนาที่เป็นเอกลักษณ์ สนุกไปกับการฉายหนังกลางแปลง การบรรเลงดนตรีและการแสดงล้านนาร่วมสมัย ระหว่าง 9 – 15 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. – 21.00 บ. ณ พิพิธภัณฑ์เรือนโบราณล้านนา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสร้างสรรค์ และบริเวณข่วงพะยอม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าชมฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย

เชียงใหม่ ร่วมกับ CEA เปิดเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567 ครบรอบ 1 ทศวรรษจากพลังงานสร้างสรรค์ท้องถิ่น สู่การสร้างเศรษฐกิจเชียงใหม่ที่สมดุลและยั่งยืน(คลิป)

จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ CEA เปิดเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567 ครบรอบ 1 ทศวรรษจากพลังงานสร้างสรรค์ท้องถิ่น สู่การสร้างเศรษฐกิจเชียงใหม่ที่สมดุลและยั่งยืน

เย็นวันนี้ (7 ธ.ค. 67) ที่ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีเปิดเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567 “ครบรอบ 1 ทศวรรษจากพลังงานสร้างสรรค์ท้องถิ่น สู่การสร้างเศรษฐกิจเชียงใหม่ที่สมดุลและยั่งยืน” โดยมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ในฐานะกรรมการทำหน้าที่ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นประธานเปิดงาน ขณะที่ประชาชน และนักท่องเที่ยว ต่างเดินทางมาร่วมชมงานกันเป็นจำนวนมาก

โดยในปีนี้ “เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ 2567” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “SCALING LOCAL: Creativity, Technology, And Sustainability-For Reviving Recovery” ที่ขยายบทบาทของท้องถิ่น “SCALING LOCAL” เป็นการยกระดับศักยภาพท้องถิ่นที่ผสานทักษะ ความคิด ศิลปะวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ด้วยการใช้สเกลของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ท้องถิ่นในภาคเหนือกับความเป็นสากล ซึ่งภาคเหนือนั้น มีนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ๆ ที่สามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้แล้ว นอกจากนี้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานออกแบบได้เป็นอย่างดี รวมถึงยกระดับการจัดเทศกาลฯ ให้มีความยั่งยืน ทั้งในบริบทของโมเดลการทำธุรกิจและสิ่งแวดล้อม และหัวใจสำคัญของเทศกาลฯ คือการเปิดพื้นที่ทางความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเสมือนห้องทดลองที่นำเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับเมือง พร้อมกันนี้ยังเชื่อมหรือสร้างให้เกิดโปรดักส์ใหม่ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนเมืองมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เทศกาลฯ ดังกล่าว จะจัดขึ้นบน 2 ย่านสำคัญของเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ย่านเมืองเก่าเชียงใหม่ (กลางเวียงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์) ถึงล่ามช้าง ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของศิลปะวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น จนถึง ย่านช้างม่อย – ท่าแพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบเชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งความรู้ด้านการออกแบบอันทันสมัย นอกจากนี้เทศกาลยังจัดโปรแกรมอื่นๆ กระจายไปยังพื้นที่สำคัญทั่วเมือง เช่น หางดง, สันกำแพง ฯลฯ เพื่อให้ทุกคนสามารถสำรวจความน่าหลงใหลและความหลากหลายของเมืองเชียงใหม่ ผ่านการเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 7 – 15 ธันวาคม 2567 อีกด้วย


.