เชียงใหม่ เทศบาลตำบลเชิงดอย จัดเจ้าหน้าที่ระดมเก็บซากโคมไฟที่ตกอยู่ที่เขตพื้นที่รับผิดชอบ ในรัศมี 10 กิโลเมตร (คลิป)

เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดเจ้าหน้าที่ระดมเก็บซากโคมไฟที่ตกอยู่ที่เขตพื้นที่รับผิดชอบ ในรัศมี 10 กิโลเมตร

เช้าวันนี้ (28 พย.66) นายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด สั่งการให้เเจ้าหน้าเทศบาล ลงพื้นที่เก็บซากโคมไฟ โคมลอย ที่ตกตามท้องถนน ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบรัศมี 10 กิโลเมตร หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เทศบาลตำบลเชิงดอย จัดงาน “งานเทศกาลโกมล้านนา ปู่จาผางผะตี๊บหนองบัวพระเจ้าหลวง ” ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก โดยงานจะมีไปจนถึงวันที่ 30 พย.นี้

เชียงใหม่ ชุดสืบสวนท่องเที่ยวเชียงใหม่ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเวียดนามติดตามทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ

ชุดสืบสวนท่องเที่ยวเชียงใหม่ ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเวียดนามติดตามทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ

เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66 เวลาประมาณ 18.20 น. พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ รอง ผบก.ทท.2 ตรวจความเรียบร้อยการให้บริการท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมเทศกาลยี่เป็ง ณ ข่วงประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ ได้มี MS.DO HOANG และ MR.DUOUNG VAN DAT นักท่องเที่ยวสามี-ภรรยา ชาวเวียดนาม มาขอความช่วยเหลือ กรณีทรัพย์สินมีค่าสูญหายหลายรายการดังนี้ 1. หนังสือเดินทางของ MS.DO HOANG และ MR.DUOUNG VAN DAT 2. โทรศัพท์มือถือ IPHONE 14 จำนวน 1 เครื่อง 3. โทรศัพท์มือถือ IPHONE 15 จำนวน 1 เครื่อง 4. บัตรเครดิต 3 ใบ 5. บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ 6. เงินสด 30,000 บาท ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าสะพายของนักท่องเที่ยว โดย MR.DUOUNG ให้การกับตำรวจท่องเที่ยวว่า ในขณะที่ตนเองกับภรรยาได้ถ่ายภาพชุดไทยเพื่อเป็นที่ระลึกนั้นได้วางกระเป๋าสะพาย ไว้ริมถนน หน้าวัดพันเตา ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ต่อมาพบว่ากระเป๋าดังกล่าวได้หายไปเป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน

โดย พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อวิรุทธ์ สุขแย้ม สว.งานสืบสวนฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.2 ทท.2 ออกติดตามทรัพย์และผู้ก่อเหตุโดยทันที เนื่องจากเป็นเหตุนักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน และส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวใน จว.เชียงใหม่ โดยจากการตรวจสอบลักษณะรูปพรรณของผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนเก็บขยะได้หยิบกระเป๋าใบดังกล่าวของนักท่องเที่ยวไป จึงเร่งติดตามตัวคนเก็บขยะ จนกระทั่งพบตัวได้ที่บริเวณริมถนนรอบคูเมืองใกล้กับประตูช้างเผือก โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ในการติดตามทรัพย์ของนักท่องเที่ยวกลับมาคืนมาได้ หลังเกิดเหตุนักท่องเที่ยวดังกล่าวได้กล่าวขอบคุณ และชื่นชมการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวในการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้

ทั้งนี้ตำรวจท่องเที่ยวขอความร่วมมือในการดูแลทรัพย์สินของท่านอย่างระมัดระวัง ไม่วางของมีค่าหรือหนังสือเดินทางไว้ห่างจากตัว และหากพบเห็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินสามารถติดต่อตำรวจท่องเที่ยวได้ทางหมายเลข 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง

เชียงใหม่ วัดพระบาทปางแฟน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ศรัทธาสาธุชน ร่วมทำบุญทอดกฐิน ประจำปี 2566 ได้ยอดกฐิน 1,350,090.81 บาท(คลิป)

โบสถ์วัดพระบาทปางแฟน เชียงใหม่ ใครมาสร้าง ก็ไม่สำเร็จ ถือว่าเป็นโบสถ์อาถรรพ์นานถึง 14 ปี ลูกศิษย์ลูกหา จึงมาแก้อาถรรพ์ร่วมกันมาสร้างใหม่ ภายใน 5 ปี รวมเป็น 19 ปี เดือนมกราคมปี 2567 ฉลองแก้อาถรรพ์ได้สำเร็จ และเป็นโบสถ์แปลก มีรูปปั้นยักษ์ ทั้งอาชีพนักข่าว คุณหมอ ทหาร นักดนตรี นักเลง เศรษฐี กู้ชีพกู้ภัย รอบฐานโบสถ์ มากกว่า 30 ตน ความหมายคือ หลากหลายอาชีพ ในการร่วมกันสร้าง ค้ำชูพระพุทธศาสนา


ที่วัดพระบาทปางแฟน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ศรัทธาสาธุชน ร่วมทำบุญทอดกฐิน โดยมีขบวนแห่ลูกแก้ว นั่งบนหลังม้า เต้นไปตามจังหวะเสียงปี่กอง เดินรอบพระอุโบสถ์ 3 รอบ ตามด้วยขบวนบริวารกฐิน เพื่อนำไปถวายกับ พระอาจารย์ โต เจ้าอาวาส วัดพระบาทปางแฟน นำปัจจัยไปสร้างโบสถ์ให้สำเร็จ ได้เงินมากกว่า 1,350,000 บาท โดยทางวัดได้แจกวัตถุมงคล ผ้ายันต์พิชัยสงคราม และตะกรุด มหาระงับเนื้อตะกั่วอวน รวมทั้งเหรียญท้าวเวสสุวรรณ ให้กับประชาชน ที่มาร่วมทำบุญในวันนี้ฟรี

โอกาสเดียวกัน ทางศิษย์วัด ยังได้เชิญชวนประชาชน มาร่วมเป็นเจ้าภาพ ในการสร้างพระอุโบสถ์ ซึ่งยังเหลืออีกไม่มาก ก็จะเสร็จตามกำหนด เป็นโบสถ์ที่ภายใน สวยงามมาก และยังแปลกบริเวณฐานภายนอก ที่มีรูปปั้นยักษ์ ในอริยบทต่างๆ ทั้งรูปปั้นยักษ์นักข่าวช่างภาพ มีกล้องถ่ายรูปคล้องคอ รูปปั้นยักษ์เป็นคุณหมอ รูปปั้นยักษ์ทหาร รูปปั้นยักษ์เซียนการพนัน รูปปั้นยักษ์เศรษฐี รูปปั้นยักษ์นักดนตรี รูปปั้นยักษ์กู้ชีพกู้ภัย ทั้งนี้ความหมายคือ ยักษ์เปรียญเสหมือนมนุษย์ ที่มาจากหลากหลายอาชีพ แต่ก็ช่วยกันค้ำชูพระพุทธศาสนา หากมองภายนอก จากรูปลักษณ์ที่เห็นมีหลากหลาย แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือทำบุญช่วยกันค้ำจุนพระพุทธศาสนา โดยพระอุโบสถ ก่อสร้างมานานมากถึง 14 ปี ใครมาสร้างก็ไม่สำเร็จ ถือว่าเป็นโบสถ์อาถรรพ์ ต้องปล่อยให้รกร้าง

และในช่วงไม่มีกี่ที่ผ่านมา ได้มีศิษยานุศิษย์ นำโดยคุณบอล เคณศอินทร์ศวร พร้อมกับกัลยาณมิตรสายบุญ มาร่วมกันสร้าง ใช้เวลาถึง 5 ปี จึงสร้างสำเร็จ รวมเป็น 19 ปี ยังเหลือปัจจัย อีก 3 ส่วน ทั้งโคมไฟระย้า ภายในและภายนอกอุโบสถ พร้อมติดตั้ง จำนวน 25 ชุด สนใจเป็นเจ้าภาพชุดละ 20,000 บาท ปิดทองทำสีประตูหน้าต่าง และผนังโบสถ์ จำนวน 18 ช่อง เป็นเจ้าภาพช่องละ 30,000 บาท และโครงการเทพื้น คอนกรีตพิมพ์ลายรอบอุโบสถ์ จำนวน 1,100 ตารางเมตร งบประมาณ 550,000 บาท ร่วมเป็นเจ้าภาพตารางเมตรละ 500 บาท หรือตามกำลังศรัทธา เพื่อเป็นการค้ำจุนพระศาสนาต่อไป และจะมีการทำบุญฉลองโบสถ์ หรือปอยหลวง ในวันที่ 27 – 29 มกราคม 2567

เชียงใหม่ ประชาชนทำบุญทอดกฐินที่วัดพระนอนแม่ปูคา บรวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ และบวงสรวง เบิกเนตร พญานาควิรูปักโข(คลิป)

ประชาชนทำบุญทอดกฐินที่วัดพระนอนแม่ปูคา บรวงสรวงท้าวเวสสุวรรณ และบวงสรวง เบิกเนตร พญานาควิรูปักโข จุดพลุประทัดหมื่นนัด ได้เลขห่างประทัด 83 กับ 546 ถูกซื้อหมดแผงขายหน้าวัด

เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานการประกอบพิธีทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2566 วัดพระป้าน (วัดพระนอนแม่ปูคา) ต.ตันเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พระครูสิทธิวโรทัย (พระอาจารย์อุเทน) เจ้าอาวาสวัดพระนอนแม่ปูคา นำลูกศิษย์และศรัทธาประชาชนประกอบพิธีทอดกฐินประจำปี พ.ศ.2566 มีการแสดงฟ้อนดาบ จากนั้นเริ่มต้นพิธีชาวบ้านได้จัดขบวนกฐินแห่รอบอุโบสถ 3 รอบ จากนั้นประกอบพิธีที่ศาลาปฏิบัติธรรมพุทธประทานพร ประกอบพิธีบวงสรวงท้าวเวสสุวรรณจาตุมหาราชิกา ประจำเดือน มีช่างฟ้อนนางรำถวาย 2 ชุด

ต่อด้วยพิธีบวงสรวง เบิกเนตร พญานาคราช ท้าววิรูปักโขนาคราช และนพเกตนาคินีมหาเทวี ทางพระครูสิทธิวโรทัย เจ้าอาวาสวัดพระนอนแม่ปูคา นำจุดธุปเทียนถวายเครื่องบวงสรวง ช่างฟ้อนนางรำได้ฟ้อนและรำถวาย ในพิธีได้จุดประทัดหมื่นนัด และจุดพลุดอกไม้ไฟ ชาวบ้านได้เก็บหางประทัดไว้ พบเลขเด็ด คือ 83 และ 546 ชาวบ้านนำไปเป็นเลขเด็ดงวนนี้

ช่วงบ่าย ประกอบพิธีพิธีทอดกฐินสามัคดีถวายปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมธนา เป็นอันเสร็จพิธีหลังจากเสร็จพิธีทั้งหมด ผู้สื่อเดินทางไปหน้าวัด จุดที่มีแผงขายลอตเตอรี่ สอบถามแม่ค้าถึงเลขเด็ด 83 กับ 546 ทั้งหมดขายไปหมดแล้ว ไม่เหลือในแผงเลย แม่ค้าบอกว่า ขายหมดไปตั้งแต่เที่ยงวันแล้ว หลังเสร็จสิ้นพิธีเบิกเนตร บวงสรวงพระญานาควิรูปักโข ที่ประกอบพิธีช่วงเช้าไปแล้วนั้น

สำหรับ พญานาคราช ท้าววิรูปักโขนาคราช และนพเกตนาคินีมหาเทวี ได้สร้างขึ้นมาใหม่ ภายในวัดพระนอนแม่ปูคา เพื่อให้ประชาขชนมาขอพร สร้างเสร็จภายใน 3 เดือนด้วยช่างจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นอกจากทางวัดมีพระนอนอนองค์ใหญ่ให้กราบไหว้บูชาแล้ว ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ขอพรอีกจำนวนมาก รวมทั้งพญานาควิรูปักโของค์ใหม่นี้ด้วย ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปขอพรได้ทุกวัน.

เชียงใหม่ พุทธศาสนิกชนไทยและชาวไทใหญ่ ร่วมบุญทอดกฐินวัดร้องอ้อ ปัจจัยนำปิดทององค์พระพุทธรูป ปางชนะมาร ปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในวัด(คลิป)

พุทธศาสนิกชนไทยและชาวไทใหญ่ ร่วมบุญทอดกฐินวัดร้องอ้อ เชียงใหม่ ปัจจัยนำปิดทององค์พระพุทธรูป ปางชนะมาร ปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในวัด

ที่วัดร้องอ้อ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พระอธิการชาญชัย กนฺตวีโร เจ้าอาวาสวัดร้องอ้อฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์องค์พิจารณากฐินสามัคคี ที่ศรัทธาสาธุชน ในพื้นที่ตำบลสันผีเสื้อ ทั้งชาวไทย ชาวไทใหญ่ ตลอดจนประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง นำมาทอดถวาย โดยมีนางณัฐณิชาช์ นนท์พงษ์ภัค พร้อมคณะฯ ประธานจุดธูปเทียนถวายพระพุทธรูป พร้อมด้วยนางสุกันยา ใหญ่วงศ์ ผู้อำนวยการส่วนประสานพื้นที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, นายสว่าง ธาตุอินทร์จันทร์ ประธานเครือข่ายศูนย์ประสานงานกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่และ 8 จังหวัดภาคเหนือ, นางสุรีย์ศรี แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน จังหวัดเชียงราย, นายพูนทวี พันธุ์จินดานนท์,นายลัก บุญชละ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ, นายศรีคราม ปิจมิจร ผอ.โรงเรียนวัดร้องอ้อ, นางเลนุ พอเพียง, คุณพ่อสานิต คุณแม่ศรีอ่อน เข็มขาว พร้อมด้วย คณะกรรมการดำเนินงาน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ในการถวายองค์กฐินสามัคคีในครั้งนี้ พระสงฆ์สวดอุปโลกน์กฐิน เป็นอันเสร็จพิธี

ทั้งนี้คณะศรัทธาในพื้นที่ตำบลสันผีเสื้อ มีทั้งชาวไทยพุทธ และชาวไทใหญที่นับถือศาสนาพุทธ เดินทางมาร่วมงานบุญ จำนวนกว่า 400 คน เป็นการถวายกฐินก่อนเทศกาลงานลอยระทง หรือยี่เป็งเชียงใหม่ ได้รับปัจจัยในการทอดกฐินสามัคคี โดยทางวัดร้องอ้อ จะนำไปใช้ในการปิดทององค์พระพุทธรูปปางชนะมาร พร้อมนำไปปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในวัดร้องอ้อ

ภายในพิธีทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ทางวัดยังได้จำลองสระน้ำวนเพื่อให้ ศรัทธาพุทธศาสนิกชน ได้บูชาเรือจำลอง เพื่อจุดเทียนบูชาลอยน้ำ เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และเสริมสิริมงคลด้วย นอกจากนี้ทางวัดร้องอ้อ ยังได้ประชาสัมพันธ์ เปิดจององค์พญาครุฑ โดยจะได้มีพิธีปลุกเสกในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สวดมนต์ข้ามปี ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยเปิดรับจอง องค์พญาครุฑพร้อมกรอบ เพื่อเข้าในพิธีปลุกเสก พร้อมกับรับองค์พญาครุฑ ในวันที่ 1 มกราคม 2567 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตนเองได้ที่วัดร้องอ้อ.

เชียงใหม่ สืบสวนท่องเที่ยวเชียงใหม่ร่วม พมจ. เชียงใหม่ คุมเข้ม ออกตรวจตรา ขอทานย่านถนนคนเดินวัวลาย เชียงใหม่

ชุดสืบสวนท่องเที่ยวเชียงใหม่ร่วม พมจ. เชียงใหม่ คุมเข้ม ออกตรวจตรา ขอทานย่านถนนคนเดินวัวลาย เชียงใหม่

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจับกุมช่วยเหลือ กลุ่ม“แก๊งขอทานจีน” ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ภายในประเทศไทย ในพื้นที่ กทม. นั้น


ล่าสุดเมื่อวันที่25 พ.ย. 66 เวลา 17.30 น.ภายใต้การอำนวยกรของ พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ ผบก.ทท.2,พ.ต.อ.อัมรินทร์  อัมพรมหา รอง ผบก.ทท.2, พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ รอง ผบก.ทท.2,พ.ต.อ.ปัญญณิชช์  ทองขุนนา  ผกก.2 บก.ทท.2,พ.ต.ท.มนต์ชัย  มะลิพวง รอง ผกก.2 บก.ทท. สั่งการให้ งานสืบสวน กก.2 ทท.2 โดย พ.ต.ต.อวิรุทธ์ สุขแย้ม สว.กก.2 ทท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ออกตรวจ เฝ้าระวังกลุ่มแก๊งขอทานชาวจีน ออกก่อความเดือดร้อนรำคาญ บริเวณแหล่งท่องเที่ยว ถนนคนเดินวัวลาย ต.หายยา อ.เมือง จว.เชียงใหม่ ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่เสียหาย


ผลการตรวจสอบไม่พบ แก๊งขอทานชาวจีนหรือขอทานอยู่ในจุดท่องเที่ยวถนนคนเดินดังกล่าว โดยได้ทำการประชาสัมพันธ์ยังนักท่องเที่ยวต่างชาติให้งดการบริจาค สนับสนุนกลุ่มขอทานดังกล่าว

โดยขอเรียนให้ท่านทราบว่า ตำรวจท่องเที่ยว มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติและชาวไทยที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนหรือนักท่องเที่ยวท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1155 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

เชียงใหม่ สมาคมชาวอีสานที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ทำพิธีแห่บุญผะเหวดหรือแห่พระเวสสันดร ก่อนช่วงลอยกระทง(คลิป)

สมาคมชาวอีสานที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับโรงเรียนธรรมราช วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ,มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และพุทธศาสนิกชน ทำพิธีแห่บุญผะเหวดหรือแห่พระเวสสันดร ก่อนช่วงลอยกระทง โดยในวันพรุ่งมีจะมีการเทศน์เรื่องพระเวสสันดร ที่วัดพระสิงห์วรวิหาร

วันนี้(25 พย.) ที่บริเวณภายในสวนสาธารณะหนองบวกหาด อำเภอเมือง เชียงใหม่ สมาคมชาวอีสานที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ,โรงเรียนธรรมราช วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ,มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันทำพิธีแห่บุญผะเหวดหรือพระเวสสันดร อันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นการขอขมาพระแม่ภายในสระน้ำ ผู้ที่มาร่วมงานจำนวนมากร่วมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินเที่ยวอยู่ภายในสวนสาธารณะหนองบวกหาด ต่างมาร่วมชมพิธี ดูการแสดงและชมช้างพลายแดนสยาม ซึ่งก็โชว์ลีลาเต้นท่ามการสายต่อของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จนต้องหยิบกล้อมมือถือขึ้นมาถ่ายความน่ารักเก็บเอาไว้

อ.โอม อารยศาสตร์ ซินแสเทียนเป่า บอกว่า หลังจากออกพรรษา และทำบุญกฐิน และก่อนจะถึงช่วงประเพณีลอยกระทง ทางสมาคมชาวอีสานที่อยุ่ในจังหวัดเชียงใหม่และทางภาคเหนือ จึงได้ร่วมกับโรงเรียนธรรมราชศึกษาซึ่งอยู่ในวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และพุทธศาสนิกชน จึงได้ร่วมกันทำพิธีแห่บุญผะเหวดหรือพระเวสสันดร ได้อันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นการขอขมาพระแม่คงคาในเวลาเดียวกัน โดยอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือพญานาคเจ้าแม่คงคาขึ้นมาฟังธรรม มารับบุญ ขึ้นมาร่วมประเพณี เรียกกันว่าแห่าผ้าผัาเหวดหรือแห่เทศมหาชาติทางภาคเหนือ วันนี้จึงได้ทำพิธีเพื่ออัญเชิญขึ้นมาจากน้ำ ด้วยความเชื่อศรัทธาของชาวพุทธ อันเชิญองค์พระอุปคุตและพระแม่คงคาพญานาคซึ่งอยู่ในเมืองบาดาลอยู่แล้ว พร้อมขบวนช้าง ขบวนนางรำต่างๆ ก็จะเชิญจากเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนให้ท่านได้มาโมทนาสาธุการพี่น้องพุทธศาสนิกชนเป็นการแสดงถึงอารยประเพณีของชาวเชียงใหม่ชาวล้านนาหรือชาวอีสานที่มารวมกันอยู่ที่แห่งนี้ เป็นการสร้างสรรสิ่งที่ดีงามร่วมกัน โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการเทศน์เรื่องพระเวสสันดรที่วัดพระสิงห์วรวิหาร

สำหรับพิธีแห่บุญผะเหวด เป็นสําเนียงชาวอีสานที่มาจากคําว่า “บุญพระเวส”หรือพระเวสสันดร เป็นประเพณีตามคติความเชื่อของชาวอีสานที่ว่า หากผู้ใดได้ฟัง เทศน์เรื่องพระเวสสันดรทั้ง 13 กัณฑ์จบภายในวันเดียว จะได้เกิดร่วมชาติภพกับพระศรีอริยเมตไตย

เชียงใหม่ เทศบาลตำบลเชิงดอยพร้อมจัดงาน “เทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางประทีป ปี​ 66” ระหว่างวันที่ 27-30 พย.66 นี้(คลิป)

สีสันและความสวยงามใน “เทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางประทีป ปี​ 66” ซึ่งเทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นที่ “หนองบัวพระเจ้าหลวง” ระหว่างวันที่ 27-30 พย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศลอยกระทงที่เทศบาลตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กำหนดจัดงาน “เทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางประทีป ปี​ 66” ประเพณียี่เป็งหนองบัวพระเจ้าหลวง โดยได้จัดสถานที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสัมผัสเทศกาลยี่เป็ง ระหว่างวันที่ 27-30 พ.ย.2566 นี้ เริ่มทดลองเปิดไฟทดสอบแสงสีเสียง พบว่า ชาวบ้านได้เดินทางมาลอยกระทงกันจำนวนมากแล้ววันนี้ และได้ถ่ายภาพกับดวงจันทร์จำลอง และอุโมงค์โคมที่ตกแต่งไว้ในหนองบัวพระเจ้าหลวงกันจำนวนมาก

นายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศ มนตรีตำบลเชิงดอย เปิดเผย ถึงความพร้อมการจัดงานเทศกาลยี่เป็ง โคมล้านนา ปู่จาผางประทีปหนองบัวพระเจ้าหลวง ในวันที่ 27 ถึง 30 พ.ย.2566 ซื่งเทศบาลได้จัดเตรียมสถานที่ เวทีประกวดเทพีจำแลง เทพบุตรยี่เป็ง และลานจอดรถ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวมาสัมผัสเทศกาลโคมไฟล้านนาแบบดั้งเดิม มาชมศิลปะการแสดงในรูปแบบวัฒนธรรมท้องถิ่น การตีกลองล้านนา การประกวดฟ้อนเล็บ ประกวดกระทงเล็ก เเละสุดอลังการคือการประกวดเทพีจำเเลง เทพบุตรยี่เป็ง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก นางสาวพิมพ์ลภัส ขัติวงษ์ นายกก่อตั้งสโมสร ไลออนส์ เพชร เพชรบูรณ์ ผู้สนับสนุนหลัก


นอกจากนี้ยังกิจกรรมการปล่อยโคมไฟลอยฟ้านับหมื่นดวง ชึ่งทาง ทต.เชิงดอยได้รับอนุญาตจากที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ดให้นักท่องเที่ยวร่วมปล่อยโคมไฟลอยฟ้าได้ ในช่วงเวลา 1 ทุ่มถึง 6 ทุ่ม วันที่ 27-30 พ.ย.2566

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสงานเทศกาลยี่เป็งโคมล้านนา ปู่จาผางประทีปหนองบัวพระเจ้าหลวง สามารถร่วมกิจกรรมฟรี โดยไม่ต้องซื้อตั๋ว นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมพื้นที่จอดรถไว้รอบสถานที่จัดงาน และยังมีรถบริการรถรับ-ส่ง นักท่องเที่ยวฟรีอีกด้วย.

น่าน กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการเสวนาการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค สัญจรครั้งที่ 2 ภาคเหนือ

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดโครงการเสวนาการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค สัญจรครั้งที่ 2 ภาคเหนือ

กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์จัดโครงการเสวนาการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค สัญจรครั้งที่ 2 ณ ห้องดอกเสี้ยว ชั้น 1 โรงแรมน่านตรึงใจ จ.น่าน เพื่อเปิดพื้นที่ให้มีการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ใน 5 ภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อขยายเครือข่ายการดำเนินการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ สร้างการตระหนักรู้ และถอดบทเรียนการดำเนินการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อของภาคีเครือข่าย นอกจากนี้ยังถือเป็นการลงพื้นที่ศึกษาการดำเนินงานของผู้ดำเนินการด้านการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ในแต่ละภูมิภาค ล่าสุดสัญจรขึ้นภาคเหนือ โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนสื่อ ได้แก่ ดร. สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์, นายพีรพน พิสณุพงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรม และ รองประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ ,นางสุนทรี ทับทิมไทย ชัยสัมฤทธิ์โชค ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และ อนุกรรมการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์, ดร.ตรี บุญเจือ อนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ และภาคีเครือข่ายภาคเหนือเข้าร่วมงาน

ดร. สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์ เผยว่ากองทุนพัฒนาสื่อ ทำงานเชิงรุกในพื้นที่กับเครือข่าย ที่ผ่านมามีผู้ขอทุนราว 1,000 ราย งบประมาณ 5,000 ล้านบาทขณะที่กองทุนสื่อ มีงบประมาณ 300 ล้านบาท จึงต้องพิจารณาโครงการฯ อย่างเข้มข้น ซึ่งสถานะโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เด็กรุ่นต่อไปก็เป็น Digital native เพราะความแรงและความเร็วของโลกเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ต่างกันคนในยุคก่อน ซึ่งอยู่ในสังคมเดียวกัน เราโตมากับสื่อที่มันเป็นสื่อ Manual สื่อเก่า ซึ่งทุกวันนี้ใช้สื่อใหม่ โดยการสื่อสารที่รวดเร็ว มีทั้งผลกระทบด้านดีและด้านร้าย ด้านดีเราสามารถที่จะเชื่อมโยงเข้าหากัน ส่วนด้านร้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการประทุษวาจา ที่กำลังยกระดับไม่ใช่เพียงแค่การเป็นภาษาที่ร้าย ๆ อย่างเดียวแต่ว่าสามารถนำไปสู่การทำร้ายจากความเกลียดชังและยกระดับไปถึงการจะต้องทำให้อีกฝ่ายหนึ่งแตกจากกันไปเลย และเรื่องการหลอกลวง หลอกให้รัก เพื่อหวังผลอย่างอื่น กองทุนพัฒนาสื่อฯ พยายามทำเรื่องเหล่านี้ และพยายามมากที่จะเชื่อมเครือข่ายสื่อดีเข้าด้วยกัน งานในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้มาพบกับเครือข่ายผู้ผลิตสื่อภาคเหนือ ทุกท่านที่มาร่วมงาน ล้วนมีศักยภาพในการผลิตสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

งานเสวนาการส่งเสริมการรู้เท่าทันและเฝ้าระวังสื่อ 5 ภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “รู้จัก รู้ใช้ รู้ทันสื่อ เพื่อการขับเคลื่อนสังคม” จะจัดจำนวนทั้งสิ้น 5 ครั้ง ครั้งต่อไปครั้งที่ 3: วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ภาคตะวันตกและภาคกลาง ณ รอยัล ริเวอร์แคว รีสอร์ทแอนด์สปา จ.กาญจนบุรี, ครั้งที่ 4: วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 ภาคตะวันออก ณ มณีจันทร์รีสอร์ท จ.จันทบุรี, ครั้งที่ 5: วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงแรมเซ็นทารา อุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี

เชียงใหม่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมต้อนรับลมหนาว Grand Opening Musical Fountain น้ำพุดนตรีที่สูงที่สุดในเอเชีย(คลิป)

วันนี้( 23 พย.66) สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมต้อนรับลมหนาว Grand Opening Musical Fountain น้ำพุดนตรีที่สูงที่สุดในเอเชีย และได้รับเกียรติจาก นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดพิธี และ นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวรายงาน พร้อมด้วย พลเอกโกศล ประทุมชาติ กรรมการบริหาร ทำหน้าที่ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ให้การต้อนรับ พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และแขกผู้มีเกียรติ ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นายกฤษดา ลาพิมล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร และผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า กิจกรรม Musical Fountain นี้ จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นการท่องเที่ยว และเป็นการสื่อสารองค์กรเชิงรุก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่พัฒนาจากกิจกรรมเดิมที่เรามีอยู่แล้ว โดยพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาใหม่ทั้งระบบแสง สี เสียง และนำแนวคิดสมัยใหม่มาผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเป็นของขวัญให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ และนับเป็นน้ำพุดนตรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีความสูงถึง 30 เมตร สูงที่สุดในเป็นการแสดงน้ำพุดนตรี มีการฉายภาพบนม่านน้ำที่ตื่นตาตื่นใจ และกำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวในขณะนี้ อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งสร้างสีสัน สร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยว และสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง High season อีกด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมกิจกรรมน้ำพุดนตรี สามารถเข้าชมได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยเปิดบริการทุกวัน ในรอบเวลา 16.15 น, 19.15 น. และ 20.45 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โทร. 053 – 999000, Line : @nightsafari, Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari