เชียงใหม่ ชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ จัด “เทศกาลลาบเมือง 2568” ครั้งที่ 5 อนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารและการแต่งกายพื้นเมือง(คลิป)

ชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ จัด “เทศกาลลาบเมือง 2568” ครั้งที่ 5 อนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารและการแต่งกายพื้นเมือง ต้อนรับปี๋ใหม่เมือง

วันนี้ (5 เม.ย. 68) ที่ลานน้ำพุหน้าเชียงใหม่ฮอลล์ เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เกียรติร่วมเปิดงาน “เทศกาลลาบเมือง 2568” ครั้งที่ 5  คุณกชพร เวโรจน์ มาดามหยก กล่าว สนับสนุนงาน  จัดโดยชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์การทำอาหารพื้นเมืองของชาวล้านนาอย่าง “ลาบเมือง” รวมถึงสนับสนุนการแต่งกายพื้นเมืองในช่วงเทศกาลปี๋ใหม่เมือง พร้อมทั้งผลักดันให้ “ลาบเมือง” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหาร

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การแข่งขันปรุงลาบเมืองในประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ลาบเนียน ลาบหมู ลาบควาย ลาบปลาเพี้ย และการประกวดจัดผักกับลาบอย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีการรักษามาตรฐานสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

งานเทศกาลลาบเมืองในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแห่งการสืบสานวัฒนธรรมล้านนา แต่ยังสร้างสีสันและความภาคภูมิใจให้กับชาวเชียงใหม่และผู้มาเยือนในช่วงเทศกาลปีใหม่เมืองอย่างอบอุ่นและน่าประทับใจ

เชียงใหม่ “บิ๊กซี “สืบสานประเพณีสงกรานต์ ร่วมผลักดันสู่เฟสติวัลระดับโลก จัดแคมเปญ “สาดสนุกรับสงกรานต์ที่บิ๊กซี” อัดโปรฉ่ำ ลดสูงสุด 50% (คลิป)

บิ๊กซี สืบสานประเพณีสงกรานต์ ร่วมผลักดันสู่เฟสติวัลระดับโลก จัดแคมเปญ “สาดสนุกรับสงกรานต์ที่บิ๊กซี” อัดโปรฉ่ำ ลดสูงสุด 50% กระตุ้นการเดินทางนักท่องเที่ยวไทย – ต่างชาติ คาดยอดขายโตกว่า 2,132 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ที่บิ๊กซีเชียงใหม่ 2 (บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า เชียงใหม่ศาลเด็ก) นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงาน “บิ๊กซี สืบสานประเพณีสงกรานต์” โดยมีนายสรนุช พิมสาลี ผู้จัดการบิ๊กซีเชียงใหม่ 2 กล่าววัตถุประสงค์ พร้อมมีพิธีรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุโดยมีหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม

นายสรนุช พิมสาลี ผู้จัดการบิ๊กซีเชียงใหม่ 2 กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ บิ๊กซี มีความตั้งใจเผยแพร่ประเพณีอันงดงาม สะท้อนถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยอันทรงคุณค่า ผ่านแคมเปญ “สาดสนุกรับสงกรานต์ที่บิ๊กซี” เพื่อป็นส่วนหนึ่งของพลังซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย พร้อมร่วมผลักดันเทศกาลสงกรานต์สู่เฟสติวัลระดับโลก และเป็น Global Summer Destination จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนในช่วงซัมเมอร์

นายสรนุช พิมสาลี ผู้จัดการบิ๊กซีเชียงใหม่ 2 กล่าวเสริมว่า เราพร้อมส่งมอบความสุข สนุกสนาน และความชุ่มฉ่ำ ให้กับลูกค้าชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยไปด้วยกัน โดยปีนี้เราจัดกิจกรรมพิธีเปิดงานสงกรานต์พื้นเมือง ที่บิ๊กซี 10 สาขาหัวเมือง ร่วมกับองค์กรภาครัฐส่วนท้องถิ่น พร้อมร่วมส่งมอบน้ำดื่มให้กับกรมทางหลวง เพื่อแจกจ่ายประชาชนตามเส้นทางเดินทางหลักสู่หัวเมือง นอกจากนี้ บิ๊กซี ได้เตรียมจุดบริการสถานีเติมน้ำสำหรับเล่นสงกรานต์ให้กับลูกค้าและนักท่องเที่ยว กว่า 100 จุด ในทุกหัวเมืองทั่วไทย ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบิ๊กซี มินิ ในจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, พัทยา, หาดใหญ่, ภูเก็ต และอีกหลายสาขาทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดเตรียมจุดถ่ายรูปเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ที่ตกแต่งในรูปแบบและบรรยากาศของศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย โดยมุ่งหวังเพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวสู่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าแคมเปญครั้งนี้ จะสร้างความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า รวมถึงสามารถสร้างยอดขายให้เติบโตกว่า 2,132 ล้านบาท อย่างแน่นอน

บิ๊กซี ตั้งใจคัดสรรสินค้าที่มีความหลากหลาย คุณภาพดี ในราคาสุดประหยัด ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดสังฆทาน อุปกรณ์เล่นน้ำ เสื้อผ้าคอลเลกชันสงกรานต์ และอาหารพร้อมทานสำหรับสังสรรค์ รวมทั้งกิจกรรมและโปรโมชันสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งก่อนและหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำ “ทัวร์ริสท์ เดสติเนชัน” (Tourist Destination) ทั้งยังมอบสิทธิพิเศษอีกมากมาย ซึ่งถือได้ว่ามาที่เดียวครบจบทุกความต้องการ

พิเศษ !!! พบกับโปรโมชันสุดฉ่ำ ฉลองสงกรานต์ ดังนี้
• คุ้มที่ 1 : สินค้าและโปรโมชันส่วนลดจัดเต็มจากหลากหลายพันธมิตรคู่ค้า ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า ชุดสังฆทาน อุปกรณ์เล่นน้ำ เสื้อผ้าคอลเลกชันสงกรานต์ และอาหารพร้อมทานสำหรับสังสรรค์
กว่า 1,000 รายการ พร้อมโปรโมชันจัดเต็ม รับฟรี สินค้าพิเศษหลากหลายรายการ คูปองส่วนลด และรางวัลพิเศษสำหรับผู้ที่มียอดซื้อสะสมถึงจำนวนที่กำหนด
• คุ้มที่ 2 : เพียงช้อปที่ บิ๊กซี มินิ ครบ 200 บาทขึ้นไปต่อบิล / วัน ครบ 5 ครั้ง รับคูปองแทนเงินสดมูลค่า 80 บาท
• คุ้มที่ 3 : พลาดไม่ได้ แลกซื้อไอเทมสำหรับช่วงซัมเมอร์และสงกรานต์ อาทิ กระติกเก็บความเย็น, สินค้าอาหารทานเล่นสำหรับสังสรรค์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ อีกมากมายในราคาพิเศษ
• คุ้มที่ 4 : พิเศษสำหรับลูกค้าบิ๊กพอยต์ แลกสุดคุ้ม คะแนน 1 พอยต์ รับ 1 บาท

ขอเชิญชวนลูกค้าทุกท่าน ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์และช้อปสินค้าคลายร้อน ในแคมเปญ “สาดสนุกรับสงกรานต์ที่บิ๊กซี” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2568 ที่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ พิเศษ! สมาชิกบิ๊กพอยต์ “สุขไปกันใหญ่ บิ๊กพอยต์ แต้มความสุข แลกง่ายได้ทุกวัน” ยิ่งสะสมมากยิ่งได้มาก ทุกการใช้จ่าย 25 บาท = 1 คะแนน ใช้คะแนนแลกรับส่วนลดทันที เช็กโปรโมชันดีๆ ได้ทุกวันที่ บิ๊กซี.

เชียงใหม่ เปิดตัวสมาคมการค้าผู้ประกอบการภาคเหนือ พร้อมอบรม “AI กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารงาน (คลืป)

เปิดตัวสมาคมการค้าผู้ประกอบการภาคเหนือ พร้อมอบรม “AI กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารงานก่อสร้าง” มุ่งเน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ พัฒนาผู้ประกอบการ

วันนี้( 4 เม.ย.68) เวลา 13.00 น. ที่ สถาบันส่งเสริมพฤฒพลังผู้สูงอายุ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายมงคล นิธิธรรมธรณ์ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการภาคเหนือ พร้อมด้วย นายชูชาติ บุญยัง นายโภคิน รบเลิศ นายปรารถนา เกตุวรภัทรา และคณะกรรมการสมาคมฯ พร้อมด้วยผู้ประกอบการ นักวิชาการ แขกผู้มีเกียรติ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

การจัดงานเปิดตัว “สมาคมการค้าผู้ประกอบการภาคเหนือ” อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก นายมงคล นิธิธรรมธรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยกล่าวถึงเจตนารมณ์ในการก่อตั้งสมาคมว่า สมาคมการค้าผู้ประกอบการภาคเหนือจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเวทีกลางในการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการในภูมิภาค เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านธุรกิจ นวัตกรรม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งผลักดันให้เกิดเครือข่ายทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งในระดับท้องถิ่น

กิจกรรมไฮไลต์ภายในงานคือการจัดอบรมในหัวข้อ “AI กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริหารงานก่อสร้าง” ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเนื้อหามุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และกระบวนการบริหารงานก่อสร้าง เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่

การเปิดตัวสมาคมในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการรวมพลังของผู้ประกอบการในภาคเหนือ เพื่อสร้างสังคมเศรษฐกิจที่มั่นคง ยั่งยืน และเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21

นายมงคล นิธิธรรมธรณ์ นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการภาคเหนือ เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ของสมาคม เพื่อส่งเสริม พัฒนา ผู้ประกอบการ ขนาดเล็ก ให้มีความรู้ความสามารถและศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งได้มีโอกาสทำธุรกิจร่วมกัน และช่วยเหลือกัน, เป็นศูนย์ประสานงานกับหน่วยงาน องค์กร ภาครัฐ เอกชน และ รัฐวิสาหกิจ เพื่อสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็ก ให้มีความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล, เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กได้ทำธุรกิจ ร่วมกับสังคมอย่างยั่งยืน (CSR) และ มีหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ที่ดีในการบริหารจัดการธุรกิจของตนเอง.

เชียงใหม่ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดงานและกิจกรรมแถลงข่าว “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง”(คลิป)

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานและกิจกรรมแถลงข่าว “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง”

วันนี้ (1 เม.ย.68) ณ โหล่งฮิมคาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานและกิจกรรมแถลงข่าว “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” โดยมีนายภิญโญ พัวศรีพันธุ์ นายอำเภอสันกำแพงกล่าวต้อนรับ นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานมูลนิธิสืบสานล้านนา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ร่วมพิธีเปิดงาน

“เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ จะจัดขึ้นตลอดเดือนเมษายนนี้ ซึ่งสันกำแพงเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ เมืองหัตถกรรมบนถนนต้นฉำฉาโบราณ ในอดีตที่ผ่านมา อ. สันกำแพงมีความรุ่งเรือง เรื่องเครื่องปั้นสันกำแพง ผ้าไหมและร่ม รวมถึงงานกระดาษสา ในปัจจุบันชุมชนหัตถกรรมในอำเภอสันกำแพงได้มีมีการรวมตัวกันในนาม 10 โหม้งโหล่งผญ๋า เพื่อให้เกิดการตามรอยหัตถกรรม ฟื้นความทรงจำความสันกำแพงสู่ความร่วมสมัย ร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และ การท่องเที่ยวชุมชนใน3เส้นทางน่าแอ่ว

จังหวัดเชียงใหม่ โดยคณะกรรมการขับเคลื่อน “เชียงใหม่เมืองเทศกาล” ได้ร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมเทศกาลที่สะท้อนอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ โดยหนึ่งในเทศกาลสำคัญ คือ “เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

“เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพง” นี้จัดขึ้น ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอดเดือนเมษายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยเชื่อมโยงพื้นที่ 3 กาดหัตถกรรมหลัก ได้แก่ กาดฉำฉา กาดจาวเขิน และกาดหนองพญาพรหม ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางสัมผัสเสน่ห์ของสันกำแพงผ่าน 3 เส้นทางหัตถกรรมที่น่าเที่ยว

อำเภอสันกำแพงเป็นศูนย์กลางหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ร่มบ่อสร้าง เครื่องปั้นดินเผา ผ้าไหม ผ้าฝ้าย และงานไม้แกะสลัก ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน นอกจากนี้ ยังมีเทศกาลสำคัญอย่าง เทศกาลร่มบ่อสร้าง ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองภูมิปัญญาท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน
ปีนี้

เทศกาลตามรอยหัตถกรรมความทรงจำสันกำแพงจะพิเศษยิ่งขึ้น ด้วยกิจกรรมเรียนรู้ 10 โหม้งโหล่งผญ๋า ที่นำเสนอภูมิปัญญาท้องถิ่นที่หาชมได้ยาก ได้แก่: โหม้งกาดจาวเขิน – สัมผัสวัฒนธรรมไทเขิน ชมงานขันโตกกลางบ้าน สรงน้ำพระไตวรญาณ และกิจกรรมหัตถกรรมเชิงอนุรักษ์ โหม้งกองดีมีศิลป์ – เรียนรู้ศิลปะล้านนา เช่น การทอผ้าจิ๋ว ปั้นเครื่องถ้วย ตัดตุง และตีแผ่นแร โหม้งห้วยทราย – ชมการปั้นหม้อโบราณ ฟังดนตรีค่าวอ่ำล้านนา และเรียนรู้วรรณกรรมท้องถิ่น โหม้งแช่ช้าง – ผลิตและเรียนดนตรีล้านนา เช่น ซึง สะล้อ และอังกะลุง โหม้งร้องวัวแดง – สาธิตการเลี้ยงปลาในนา การปลูกผักสวนครัว และงานจักสานพื้นบ้าน โหม้งหนองพญาพรหม – ร่วมทำบุญปีใหม่เมือง แขวนตุง และเพนท์เครื่องปั้นดินเผา โหม้งวัดป่าตาล – เรียนรู้หัตถกรรมทอผ้า นวดตอกเส้น และชมบ้านโบราณเฮือนเจ้าขุน
โหม้งแม่ปูคา – อบรมทำลาบเมือง ตีมีดลาบ และทำขนมโบราณล้านนา โหม้งโหล่งฮิมคาว – กิจกรรมทำสบู่ เทียนหอม ศิลปะเด็ก และตลาดหัตถกรรม พิพิธภัณฑ์บ้านจ๊างนัก – ชมปฏิมากรรมไม้แกะสลักและกิจกรรม Workshop ศิลปะไม้
พิเศษ! PASSPORT ตามรอยเรียนรู้งานหัตถกรรม

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษโดยสะสมตราประทับจาก 10 โหม้งโหล่งผญ๋า เพื่อรับของที่ระลึกสุดพิเศษจากชุมชน เป็นอีกหนึ่งสีสันของเทศกาลที่ไม่ควรพลาด เทศกาลนี้ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น แต่ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน และขยายฐานนักท่องเที่ยวให้กว้างขึ้น ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมสัมผัสเสน่ห์แห่งอำเภอสันกำแพง ตามคำขวัญที่ว่า “ทิวทัศน์ขึ้นชื่อ เลื่องลือคนงาม เขตคามโคนม ชื่นชมหัตถกรรม”

เชียงใหม่ “หน่อย อัศนี” เบอร์ 3  นำผู้สมัคร สท.ทั้งสี่เขตเบอร์ 7 – 12 กราบไหว้ขอพร “อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย” พร้อมลงพื้นที่ทั้ง 4 เขต(คลิป)

“หน่อย อัศนี” เบอร์ 3  นำผู้สมัคร สท.ทั้งสี่เขตเบอร์ 7 – 12 กราบไหว้ขอพร “อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย” พร้อมลงพื้นที่ทั้ง 4 เขต

วันนี้( 1 เม.ย.68) ที่ลานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ทางขึ้นดอยสุเทพ “หน่อย” นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายก ทน.เชียงใหม่ เบอร์ 3  นำผู้สมัคร สท.ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง เข้ากราบไหว้ขอพรอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ลงพื้นที่ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ยืนยันถึงความพร้อมที่จะรักษาเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่นครเชียงใหม่ในนามของ “พรรคเพื่อไทย” 

ขออาสาพี่น้องประชาชน เป็นตัวแทนทำหน้าที่อีกสมัยในนาม “พรรคเพื่อไทน” “เพื่อจะสานงานต่อและก่องานเพิ่ม” พัฒนานครเชียงใหม่ในทุกมิติ  “เชียงใหม่ใหม่กว่าเดิม” เพื่อพี่น้องประชาชนนครเชียงใหม่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นพร้อมพัฒนาเมืองยังต่อเนื่อง 

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เราจะเน้นย้ำถึงการพัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น “เศรษฐกิจ การศึกษา การบริการสาธารณะ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” โดยจะยึดหลักการเปิดกว้างและโปร่งใสในการบริหารจัดการ พร้อมเร่งดำเนินการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์และยั่งยืน เพราะเชียงใหม่ไม่ได้เป็นแค่เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเท่านั้น ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาสในการพัฒนาและเติบโต “เราจะไม่หยุดนิ่งในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเชียงใหม่” มุ่งมั่นที่จะทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่มีความทันสมัย ควบคู่กับการรักษาความเป็นธรรมชาติและวัฒนธรรมที่งดงาม เพื่อให้ “เชียงใหม่ใหม่เสมอ” ในทุกยุคทุกสมัย

นายอัศนี บูรณุปกรณ์ กล่าวอีกว่า  ผมมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะขออาสาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้พี่น้องประชาชนต่อ  โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนาม “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำงานพัฒนาเมืองเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเล็งเห็นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นหลักตลอดมา ผมเชื่อมั่นว่าการประสานงานกับทางอบจ.เชียงใหม่และส่งเสริมจากรัฐบาล ในนาม “พรรคเพื่อไทย” เพื่อส่งเสริมผลักดันและแก้ไขในปัญหาต่างๆ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

ผมพร้อมกลับมาทำงาน ผมขออาสารับใช้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้ง ผมจะทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสุดความสามารถ เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ผมตั้งใจไว้ให้เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อสร้างอนาคตให้ดียิ่งขึ้น  ตามวิสัยทัศน์ของผมที่ว่า  “เชียงใหม่ใหม่เสมอ” เพราะเมืองเชียงใหม่ไม่เคยหยุดนิ่ง วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะพัฒนาเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม นายอัศนี กล่าว

ผมขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดเชียงใหม่ทุกท่านสนับสนุนการร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับจังหวัดเชียงใหม่ของเรา ด้วยการเลือก “พรรคเพื่อไทย” ในเขตการเลือกตั้งทั้ง 4 เขตยกทีม พร้อมขอให้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครชาวเชียงใหม่ ร่วมกันแสดงพลังออกมาใช้สิทธิ์ ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่และสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ในวันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้.

เชียงใหม่ บรรยากาศรับสมัครนายกฯ-สท.นครเชียงใหม่วันแรกคึกคัก(คลิป)

บรรยากาศรับสมัครนายกฯ-สท.นครเชียงใหม่วันแรกคึกคัก วันแรกมีผู้สมัครนายกฯนครเชียงใหมถึง5คน

บรรยากาศการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่วันแรกที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สมัครและกองเชียร์แต่ละกลุ่มการเมืองทยอยมาก่อนการรับสมัครเวลา 08.30น. กลุ่มแรกเป็นทีมผู้สมัครหน้าใหม่กลุ่มเพื่อเชียงใหม่ ที่นำโดยผู้สมัครนายกเทศมนตรี “หยก”นางสาวปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ นักธุรกิจสาวรุ่นใหม่ที่มีนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ “เจ๊ปุ๊ย” อดีตรองนายก อบจ.เชียงใหม่แม่ยายผลักดันมาพร้อมกองเชียร์และผู้สมัคร สท.ทั้ง 4 แขวง

ตามมาด้วยทีมตัวแทนพรรคประชาชนนำโดยอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมื่อครั้งก่อนคือนายธีรวุฒิ แก้วฟอง”เหมา”พร้อมกับผู้สมัคร สท.ทั้ง 4 แขวง ตามมาด้วยทีมผู้สมัครกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมที่พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนนำโดย “หน่อย”นายอัศนี บูรณุปกรณ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่มาป้องกันตำแหน่งอีกสมัยพร้อมผู้สมัคร สท.ทั้ง 4 แขวงเช่นกันซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็เดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมด้วยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทยยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนในนามของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ด้วยว่า พรรคมั่นใจในการทำงานของนายอัศนีคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจทำงานจึงให้การสนับสนุนให้ประชาชนได้เลือกเป็นตัวแทนทำหน้าที่อีกสมัยในนามพรรคที่สนับสนับเพียงคนเดียวเพราะผลงานชัดเจนแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับประชาชนตัดสินใจซึ่งเชื่อว่าผลงานที่ผ่านมาเป็นสิ่งรับประกันได้ ส่วนการแข่งขันครั้งนี้มีหลายกลุ่มก็เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยไม่ได้กังวลอะไรส่วนผู้ใหญ่ในพรรคจะมาช่วยหาเสียงหรือไม่ยังไม่ได้หารือกัน ต่อมากลุ่มก้าวอิสระ ของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศนำโดยผู้สมัครนายกฯ นายการย์วิชญ์ วงษ์ทอง ก็ส่งผู้สมัครเข้าชิงเก้าอี้ครั้งนี้ตามด้วยกลุ่มอิสระอีกกลุ่มนำโดย ว่าที่ ร.อ.จอห์นนพดล วศินสุนทร ซึ่งทั้ง 5 กลุ่มมาก่อนเวลารับสมัคร กกต.เทศบาลนครเชียงใหม่จึงต้องมีการจับสลากหมายเลขของผู้สมัครตามระเบียบที่กำหนด

ส่วนบรรยากาศการรับสมัครที่เทศบาลต่างๆ ในเชียงใหม่พร้อมกันวันนี้ นายนพดล สุยะ ผอ.กกต.เชียงใหม่เผยว่า วันนี้เปิดรับสมัครวันแรกมีไปจนถึง 4 เม.ย.ซึ่งจะมีเลือกตั้งพร้อมกันครั้งนี้ 121 แห่ง ภาพรวมของการเตรียมการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยแต่ยอมรับว่าการแข่งขันท้องถิ่นครั้งนี้มีความคึกคักกว่าทุกครั้งโดยเฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ที่มีกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มส่งผู้สมัคร ซึ่งก็ได้กำชับทั้งเจ้าหน้าที่รวมถึงตัวผู้สมัครในการปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ผู้สมัครเกิดข้อผิดพลาดเสียสิทธิ์ได้ง่ายๆ โดยจากนี้วันที่ 9 เม.ย.จะจัดเวทีทำความเข้าใจกับผู้สมัครทั้งหมดทั้งระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนการใช้สิทธิ์ของประชาชนเชื่อว่ามีการตื่นตัวสูงสามารถเช็คสิทธิ์ของตนได้ทางแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโวตรวมทั้งข้อกฎหมายต่างๆ จากผลเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ใช้สิทธิ์มากจนได้รับรางวัลระดับประเทศ การเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้ก็คาดการณ์ว่าคนจะใช้สิทธิ์สูงเช่นกัน


ส่วนบรรยากาศกองเชียร์แต่ละกลุ่มมาร่วมลุ้นหมายเลขผู้สมัครกันคึกคึกโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง โเยพบว่า นอกจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มาให้กำลังใจกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมของนายอัศนี บูรณุปกรณ์ ที่สมัครในนามพรรคเพื่อไทยแล้วมีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ก็มาร่วมให้กำลังใจด้วย

สวนกันจับหมายเลขลำดับผู้สมัครเทศมนตรีนครเชียงใหม่ยื่นเอกสาร นางสาวปนันรัตน์ วิริยะกุลศานต์ หมาย 1
,นายธีรวุฒิ แก้วฟอง หมายเลข 2 ,นายอัศนี บูรณุปกรณ์ หมายเลข 3,นายการย์วิชญ์ วงษ์ทอง หมายเลข 4 และ
ว่าที่ ร.อ.จอห์นนพดล วศินสุนทร หมายเลข 5

เชียงใหม่ “กลุ่มสันผีเสื้อใหม่” ทำบุญสำนักงานฯ พร้อมแถลงนโยบาย “กล้าคิด ทำเป็น เน้นผลงาน ทำทันที 4 ปี ไม่ต้องรอ” (คลิป)

“กลุ่มสันผีเสื้อใหม่” ทำบุญสำนักงานฯ พร้อมแถลงนโยบาย “กล้าคิด ทำเป็น เน้นผลงาน ทำทันที 4 ปี ไม่ต้องรอ”

วันนี้(28 มี.ค.68) ที่สำนักงาน “กลุ่มสันผีเสื้อใหม่” นายสมบูรณ์ บุญเรือง(สจ.แอ๊ด) อดีต ส.อบจ.เขต 1 เมืองเชียงใหม่ อดีตรองประธานสภา อบจ.เชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร สท.เทศบาลตำบลสันผีเสื้อ “กลุ่มสันผีเสื้อใหม่” นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป เจริญพระพุทธมนต์ทำบุญสำนักงานกลุ่มผีเสื้อพลังใหม่ พรัอมแถงนโยบายต่อสื่อมวลชน

นายสมบูรณ์ บุญเรือง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า ผมมีความตั้งใจ พร้อมอาสาเข้ามาทำหน้าที่เพื่อพัฒนา ต.สันผีเสื้อ ถึงเวลาแล้วที่สันผีเสื้อ “ต้องเปลี่ยน สันผีเสื้อต้อง ดีกว่าที่เป็นอยู่” เน้นพัฒนาทำทันที 4 ปี ไม่ต้องรอ ผมขอโอกาสพี่น้องประชาชนชาวสันผีเสื้อ 4 ปี เพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน พัฒนาเมืองสันผีเสื้อให้เป็น “เมืองอัจฉริยะ เมืองแห่งสุขภาพ” น้ำไหลไฟสว่าง และมีความปลอดภัยสูง พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งตำบล โดยผ่านการดูแลจากเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ

นายสมบูรณ์ บุญเรือง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ เปิดเผยอีกว่า กลุ่มสันผีเสื้อใหม่ ขออาสานำทีมงานว่าที่ผู้สมัคร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ทั้ง 2 เขตเลือกตั้ง ทั้งหมด 12 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ และนักการเมืองท้องถิ่น ที่พร้อมอาสาลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อรับใช้ประชาชนในพื้นที่ ตำบลสันผีเสื้อ

ผมและทีมคณะผู้บริหาร ขออาสาเข้ามาทำงานแค่ 4 ปีเท่านั้น ถ้าไม่ดีไม่ต้องเลือกต่อ ขอโอกาสเข้าไปทำงาน เพื่อเปลี่ยนแปลง ต.สันผีเสื้อ ให้ดีขึ้นไม่ต้องรอนาน และโครงการต่างๆ ที่ผมจะเข้ามาพัฒนา ก็จะประสานงบกลาง และงบของท้องถิ่น ให้เป็นตำบลที่ทันสมัยกว่าพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมบูรณาการ และประสานการทำงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาท้องถิ่นไปในทิศทางเดียวกัน

ไม่ว่าจะเป็นจัดทำโครงการสันผีเสื้อเมืองอัจฉริยะ โครงการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สุขภาพดี มีพัฒนาการสมวัย โครงการจัดการขยะครบวงจร รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ การจัดการสิ่งเหลือใช้ ให้เป็นพลังงานทางเลือก โครงการถนนสายวัฒนธรรม โครงการฟื้นฟูเยียวยาและพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็กและเยาวชนย่านชานเมืองตำบลสันผีเสื้อ โครงการระบบบริการสาธารณสุขครบวงจร สู่สันผีเสื้อเมืองแห่งสุขภาพ โรงพยาบาลใกล้บ้านใกล้ใจ “รพ.สต.” โครงการระบบผันน้ำ โดยธรรมชาติ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ โครงการระบบฐานข้อมูล แผนที่ภาษี โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุแบบครบวงจร โครงการระบบสวัสดิการ โครงการเสริมสร้างความปลอดภัย โครงการศูนย์ควบคุมและสั่งการสันผีเสื้อ จัดตั้งชุดปฎิบัติการพิเศษสันผีเสื้อ ตลอด 24 ชั่วโมง และโครงการสร้างสนามกีฬาประจำตำบลสันผีเสื้อ ถึงเวลาแล้วที่ “สันผีเสื้อ” ต้องเปลี่ยนแปลง โดยโครงการทั้งหมด เป็นไปตามหน้าที่ และอำนาจของเทศบาลสันผีเสื้อ ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง “ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” นายสมบูรณ์ กล่าวในตอนท้าย


สำหรับเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ จะมีการเปิดรับสมัคร ในวันที่ 31 มี.ค. 2568 ถึงวันที่ 4 เมษายน 2568 และมีการเลือกตั้ง ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 พร้อมกันทั่วประเทศ.

เชียงใหม่ มาดามชาวเยอรมันวัย 69 ปี พร้อมสามีคนไทยวัย 90 ปี ใช้ชีวิตพอเพียง ทำสวนมะยงชิด และปลูกผักรับประทานเอง(คลิป)

มาดามเยอรมันวัย 69 ปี อดีตพนักงานสายการบิน พร้อมสามีอดีตช่างซ่อมเครื่องบิน คนไทยวัย 90 ปี ใช้ชีวิตพอเพียง ทำสวนมะยงชิด และปลูกผักรับประทานเอง ในหมู่บ้านท่าร้องขี้ควาย ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อคลายเหงา ในปั้นปลายชีวิต ไปๆมาๆ เชียงใหม่ – เยอรมัน มากว่า 30 ปี ผลผลิตแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน


มาดาม เคลาเดียร์ ( คราว- เดีย ) ไลวีเปอร์ อายุ 69 ปี ชาวเยอรมัน อดีตพนักงานสายการบินต่างชาติ พร้อมกับ คุณปู่ สุจริต ปุณฑริก อายุ 90 ปี สามี อดีตช่างซ่อมเครื่องบิน แต่ยังมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ทำสวนมะยงชิด อโวคาโด และไม้ผลอีกหลายชนิด และยังปลูกผักปลอดสาร ไว้รับประทานเอง บริเวณบ้านสวน ในพื้นที่กว่า 4 ไร่ บ้านท่าร้องขี้ควาย ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะไปๆมาๆ ระหว่างเชียงใหม่ กับเยอรมัน มานานกว่า 30 ปี ช่วงนี้ต่างประเทศ ยังอากาศหนาว จึงมาพักอาศัยที่นี่ และใช้เวลาว่าง ปลูกผักไว้รับประทานเอง ทำสวน เป็นการออกกำลังกายไปด้วย ขณะนี้ผลผลิต มะยงชิด ที่มีมากถึง 25 ต้น กำลังเริ่มสุก จึงช่วยกันเก็บมะยงชิด เพื่อนำไปแบ่งปัน แจกให้กับเพื่อนบ้าน หรือบุคคลที่รู้จัก หรือขายราคาแบ่งปัน ช่วงที่ไปต่างประเทศ ก็จะมีนายสว่าง ธาตุอินจันทร์ อดีตผู้ใหญ่บ้านท่าร้องขี้ควาย คอยดูแลบ้านและสวนให้

มาดาม เคลาเดียร์ (คราว-เดีย ) บอกว่าพูดได้หลายภาษา ทั้งอังกฤษ อิตาเลี่ยน เยอรมัน และกำลังเรียนภาษาไทย พอพูดได้บ้าง ชอบทำสวน ชอบผลไม้ไทย และชอบอากาศที่เชียงใหม่ ส่วนเยอรมัน ช่วงนี้อากาศจะหนาวมาก

คุณปู่ สุจริต สามีบอกว่า อดีตเป็นช่างซ่อมเครื่องบินโดยสาร มาซื้อสวนแห่งนี้ไว้เมื่อ 50 ปีก่อน ตอนแรกซื้อแค่ 2 ไร่กว่า และมาซื้อเพิ่มภายหลังอีก 2 ไร่ รวมเป็นกว่า 4 ไร่ เพื่อใช้พักผ่อน และหากทิ้งพื้นที่ไว้ก็เปล่าประดยชน์ จึงได้ปลูกผลไม้มะยงชิด อโวคาโด ทุเรียน เงาะ โดยเฉพาะช่วงนี้ มะยงชิด กำลังออกผลผลิตมาก แต่ละต้นเก็บผลผลิตได้ ประมาณ 60 กิโลกรัม นำไปแบ่งปันให้คนรู้จัก ได้ชิมมะยงชิด ปลอดสาร ใช้แต่ขี้ควายเป็นปุ๋ยบำรุงดิน รดชาด-กรอบ-หวาน อร่อย และอนาคตวางแผน จะใช้ชีวิตปั้นปลายที่เชียงใหม่

เชียงใหม่ ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ทหาร และภาคเอกชน GULF CMWTE ร่วมกับชุมชนบ้านป่าตึงน้อย ทำแนวกันไฟป่า ลด PM 2.5(คลิป)

ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ทหาร และภาคเอกชน GULF CMWTE ร่วมกับชุมชนบ้านป่าตึงน้อย ทำแนวกันไฟป่า ลด PM 2.5

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ที่สุสานบ้านป่าตึงน้อย หมู่ 1 ต.ป่าป้อง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นางสาวจันทร์จิรา จำปาอิน ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าตึงน้อย หมู่ 1 พร้อม จ.ส.อ.ชยพล ปัญญาจันทร์ มทบ.33 กองทัพบก พร้อมทหารจิตอาสา ชาวบ้าน และ จนท.ทต.ป่าป้อง ภาคเอกชน คือ ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท GULF และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ บริษัทเชียงใหม่เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี จำกัด (CMWTE) นายจิรศักดิ์ มีสัตว์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท กัลฟ์ ร่วมกันจัดโครงการ CSR “ ทำแนวกันไฟป่า และ คืนสมดุลให้ป่า ด้วยจุลินทรีย์ ” ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง จากปี พ.ศ.2567 ทางบริษัท CMWTE นำ องค์ความรู้ด้าน ฐานชีวภาพ และ จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมาจัดอบรมให้กับผู้นำชุมชนและประชาชน รวมตัวกันจำนวนกว่า 200 คน ที่สุสาน แล้วลงพื้นที่เข้าทำแนวกันไฟในป่าชุมชนบ้านป่าตึงน้อย(หลังสุสานบ้านป่าตึงน้อย) เพื่อลดปัญหาหมอกควันไฟป่า ลดฝุ่น PM 2.5

นางสาว จันทร์จิรา จำปาอิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านป่าตึงน้อย กล่าวว่า ชุมชนให้ความสำคัญมากเพราะป่าชุมชนเป็นแหล่งอาหารทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในการดำรงชีวิตของชาวบ้านมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ปัญหาไฟป่ามีมาอย่างต่อเนื่อง ในป่าจะมีใบไม้แห้งจำนวนมากในช่วงหน้าแล้ง เป็นเชื้อเพลิงให้เกิดไฟป่าสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมจำนวนมาก และเกิด PM 2.5 เป็นที่มาของการรวมกลุ่มเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่าทำแนวกันไฟกันทุกปี และทางราชการมีนโยบายในการลดการเผาป่าและป้องกันไฟป่าเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย จึงได้ร่วมกันในการทำแนวกันไฟกันมาอย่างต่อเนื่อง และเราได้รับการสนับสนุนจาก โครงการโรงไฟฟ้าขยะฯ ของบริษัทเชียงใหม่เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จี จำกัด(CMWTE) และกลุ่มบริษัท กัลฟ์ (GULF) นำพนักงานและประสานกองกำลังทหาร มทบ. 33 มาร่วมทำแนวกันไฟป่าช่วยทางชุมชน นอกจากนั้นบริษัทฯยังนำองค์ความรู้ด้าน ฐานชีวภาพ และ จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพมาจัดอบรมให้กับผู้นำชุมชนในโครงการ “ คืนสมดุลให้ป่าด้วยจุลินทรีย์“ และ สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ชุมชนอยู่ระหว่างการพัฒนาศูนย์ฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนมีองค์ความรู้เกี่ยวกับฐานชีวภาพและระบบนิเวศ ฯลฯ และสามารถเพาะเลี้ยงจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ นำมาช่วยเสริมศักยภาพในการย่อยสลายสลายใบไม้จากการทำแนวกันไฟป่าให้มีการย่อยสลายได้ดียิ่งขึ้นลดการเป็นเชื้อเพลิงไฟป่าและจะสลายเป็นอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารสำหรับต้นไม้ในป่าจะช่วยให้ดินดีมีชีวิตและยังเสริมสร้างการกระจายเชื้อจุลินทรีย์ในป่าที่มีความเสื่อมโทรมจากไฟป่า การตัดไม้ทำลายป่าจนเสียสมดุลให้ฟื้นฟูได้ดีมากยิ่งขึ้น และกิจกรรมในการฟื้นฟูป่าด้วยเชื้อราไมคอร์ไรซ่า หรือเชื้อเห็ดป่าเพื่อปลูกป่าเพิ่มเติมและคืนสมดุลให้ป่าในระยะต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางที่เสริมให้ชุมชนมีโอกาสทำงานอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าชุมชนได้ดีมากยิ่งขึ้น ต้องขอบคุณบริษัทฯ และทุกภาคส่วนที่มาร่วมสนับสนุนชุมชนของเรา ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนต่อไป

นางสาวจิรา ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า บ้านป่าตึงน้อย เป็น 1 ใน 4 หมู่บ้านใน ต.ป่าป้อง ที่มีพื้นที่ป่า 670 ไร่ วันนี้ทำแนวกันไฟป่าประจำปี จำนวน 3 ไร่ พื้นที่ยาว 6 กม.ในป่าชุมชน และพื้นที่ป่าคาร์บอนเครดิต จำนวน 5 แปลง ป่าชุมชนบ้านป่าตึงน้อย ถือว่าความสมบูรณ์ มีต้นพยุง ไม้แดง ไม้สัก และต้นยางนา เป็นธนาคารอาหารของชาวบ้านทุกฤดูกาล มีทั้งไข่มดแดง ผักหวาน ผักกรูด แมงมัน ผักพ่อค้าตีเมีย เห็ดเพาะ เห็ดตับเต่า และเห็ดระโงก อยากกินก็เข้ามาหาเก็บไปบริโภคได้ โดยเฉพาะฤดูแล้วไม่ต้องเผาป่าก็มีผักหวานให้เก็บกิน“ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านป่าตึงน้อย กล่าว

นายจิรศักดิ์ มีสัตย์ ผอ.บริหาร กลุ่มบริษัทกัลฟ์ กล่าวว่า “บริษัท GULF และ CMWTE เรามาตั้งในพื้นที่ชุมชน เราตระหนักว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน มีนโยบายชัดเจนในการร่วมกับชุมชนรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชน ซึ่งป่าชุมชนนับเป็นแหล่งทรัพยากรทางเศรษฐกิจการอาชีพ และ เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของชุมชน เราจึงได้อาสาเข้ามาร่วมสนับสนุนชุมชน รวมทั้งการประสานองค์ความรู้จากนักวิชาการ และหน่วยงานต่างๆ เข้ามาเสริมสร้างศักยภาพในการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าชุมชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นซึ่งจะสามารถพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืนได้ รู้สึกยินดีที่เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมชุมชนและยินดี สนับสนุนชุมชนต่อไป”

ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน ผช.ผอ.ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ กลุ่มบริษัท กัลฟ์ (GULF ) กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นโครงการ CSR เริ่มจากการทำแนวกันไฟป่า และในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงเราจะนำองค์ความรู้จากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยทั้งในสากลและประเทศไทย เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเกษตรศาสตร์ เป็นต้น เกี่ยวกับเชื้อเห็ด ”ไมคอร์ไรซ่า ” ซึ่งเป็นเชื้อราที่มีความสำคัญต่อระบบเครือข่ายการเชื่อมโยงการเจริญเติบโตร่วมกันของรากพืชไม้ป่า และ จุลินทรีย์ในดินชนิดต่างๆ ที่จะช่วยการเจริญเติบโต และสร้างภูมิคุ้มกันโรคพืช ยังช่วยสลายอินทรีย์วัตถุต่างๆเป็นธาตุอาหารให้กับพืชผ่านการอาศัยเกื้อกันกับระบบรากพืชคือ เชื้อราไมคอร์ไรซ่า กับ รากต้นไม้ ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกันตลอดอายุขัยของพืช เป็นต้นกำเนิดของเห็ดป่านานาชนิด เช่น เห็ดเผาะ เห็ด ไคล ระโงก เห็ดตับเต่า เห็ดโคนปลวก ฯลฯ ซึ่งศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ ได้ร่วมกับชุมชนวางแผนในการนำเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซ่า กลับคืนสู่ป่าสร้างความสมดุล มีการเพาะเชื้อใส่ในกล้าไม้ปลูกเสริมในป่า และนำเชื้อเห็ดป่าไปกระจายสู่บริเวณรากต้นไม้ในป่าเพิ่มจุลินทรีย์ในผืนป่าเสื่อมโทรมและจะนำเมล็ดพันธุ์กล้าไม้ป่านำมาแช่จุลินทรีย์เพิ่มอัตราการงอกและนำมาใส่ปั้นกับก้อนดินจุลินทรีย์และเชื้อเห็ด เพื่อนำไปกระจายสู่ป่าในช่วงฤดูฝนด้วย

และ ยังมีแผนการนำเชื้อเห็ดป่าต่างๆให้ชุมชนนำไปเพาะในป่าใกล้ชุมชนและสวนไร่นา เพื่อเป็นแหล่งอาหารประเภทเห็ดในชุมชนครอบครัวจะสามารถทดแทนการเผาป่าหาเห็ดให้ลดลง อันเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดไฟป่าด้วย เป็นแนวทางในการลดปัญหาไฟป่าและลดผลกระทบจาก PM 2.5 ได้ต่อไป ซึ่งความสำคัญอยู่ที่ความรู้และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยเฉพาะศูนย์เรียนรู้ฯจะเป็นกลไกการขับเคลื่อนที่สำคัญในการปฏิบัติการและต่อเนื่องได้ อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป รวมถึงภาคีความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆจะเสริมพลังได้มากยิ่งขึ้น


“กล่าวได้ว่า เป็นโครงการที่ดีมากท่ามกลางปัญหา PM 2.5 เกิดขึ้นอย่างมากในหลายพื้นที่ฯ และความมุ่งมั่นตั้งใจของ นางสาว จันทร์จิรา จำปาอิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 บ้านป่าตึงน้อย ฯ ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ เสียสละนำพาชุมชนป้องกันไฟป่ามาอย่างต่อเนื่องทุกปี และเกิดการสร้างเครือข่ายภาคราชการ องค์กรท้องถิ่น ทหาร และภาคเอกชน มาผนึกกำลังกันสร้างพลังขับเคลื่อนได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถอนุกรักษ์ฟื้นฟูป่าไม้ชุมชนให้อยู่คู่ชุมชน และลด PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้อย่างยั่งยืนต่อไป”

”ป่าที่เสื่อมโทรมจากน้ำป่ากัดเซาะ หรือไฟป่า ทำให้ป่าไม่เหมือนเดิม ต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น มีเชื้อไมคอร์ไรซ่าขยายไปหลายกิโลเมตร หากต้นไม้ใหญ่ 1 ต้นล้มตายไป จะส่งผลเสียหายกับต้นไม้อื่นๆอีก 47 ต้น จะไม่สามารถมีเห็ดให้ได้เก็บกิน ห้ดจะตาย หากเปรียบต้นไม้ใหญ่คือเสาส่งสัญาณโทรศัพท์ หากหักลงก็จะไม่มีสัญญาณและไม่มีอินเตอร์เนตเลยนั้นเอง“ ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน ผช.ผอ.ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ บริษัท กัลป์ และโครงการโรงฟฟ้าขยะ เชียงใหม่เวสเอ็นเนอร์จี จำกัด กล่าว.

เชียงใหม่ นายกฯ “มงคล” เทศบาลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด ไขก๊อกลาออก แสดงสปิลิต เพื่อตัดงบเลือตั้ง 4 ล้านเหลือ 2 ล้าน รอลงสมัครพร้อม สท.(คลิป)

“มงคล ชัยวุฒิ” นายกฯเชิงดอย ไขก๊อก ลาออก เปิดใจแสดงสปิลิต ลดงบเลือกตั้ง 4 เหลือ 2 ล้าน ลงสมัครพร้อม สท. เผยช่วยชาวบ้านแบบติดดิน จนประสบเหตุตกต้นไม้ขาอ่อนแรง นั่งวีลแชร์พร้อมทำหน้าที่นายกฯ ห่วง “พายุ ลมแล้ง” ต้นไม้หักทับบ้านชาวบ้าน สั่งตัดต้นไม้กิ่งไม้ให้ชาวบ้านไว้ล่วงหน้าแล้ว ยังฝาก ข้าราชการ-จนท.ทต.เชิงดอย ดูแลชาวบ้านช่วงรอการเลือกตั้ง

(25 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานที่ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย เป็นประธานเปิดการประชุมมอบหมายงาน และแจ้งที่ประชุมถึงการลาออกจากตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย

นายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย กล่าวว่า จริงๆแล้วการปฏิบัติหน้าที่นายกฯของตนจะหมดวาระในวันที่ 8 ม.ค.2569 ปีหน้า ส่วน สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเชิงดอย (สท.) จะหมดวาระในวันที่ 27 มี.ค.นี้

“ที่ต้องลาออก เพราะผมคิดมานานแล้วว่า เทศบาลแห่งหนึ่ง ต้องมีการเลือกตั้งเพียง 1 ครั้งพร้อมกันจะดีกว่าการที่มีการเลือกตั้ง 2 ครั้งเสียงบประมาณ 2 ครั้ง ทต.เชิงดอย เลือกตั้งครั้งหนึ่ง หมดงบประมาณไปครั้งละกว่า 2 ล้านบาท และหาก 2 ครั้ง รวมกว่า 4 ล้านบาท จะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ ผมจึงขอสละเวลาที่เหลือ 10-11 เดือนที่เหลือ ขอลาออกในวันนี้ เพื่อจะได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกฯ พร้อมกับเลือกตั้ง สท. และยังไม่เป็นการเสียเวลาของเจ้าหน้าที่ กกต.อีกด้วย”

นายมงคล บอกถึงประวัติส่วนตัวว่า ตนได้จบการศึกษา ม.รามคำแห่ง จบกฎหมาย จากนั้นกลับมาบ้านเกิดที่ ต.เชิงดอย ทำงานช่วยสังคมด้านต่างๆ ทำงานกองทุนหมู่บ้าน เป็นหัวหน้าคิวรถสี่ล้อรับจ้าง เป็นกรรมการสหกรณ์นครล้านนาเดินรถ จากนั้นมีการเลือกตั้ง สมาชิก อบต.ลงสมัครได้รับการเลือกตั้งได้ทำหน้าที่ จนมีการยกระดับเป็นเทศบาลตำบลเชิงดอย (ทต.) ก็ลงชิงสมัครนายกฯ ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกฯ ถึงปี พ.ศ.2555 นายเฉลิม สารแปง อดีต สจ.เชียงใหม่ มาชิงนายกเศมนตรีตำบลเชิงดอย นายเฉลิม ชนะการเลือกตั้ง ส่วนตนได้เป็น สท. และต่อมาผู้ใหญ่บ้านเกษียณ ตนก็ได้ไปเข้าไปเป็น ผู้ใหญ่บ้าน ทำงานได้ 3-4 ปี กำนันลาออก ตนได้รับการเลือกจากผู้ใหญ่บ้านให้เป็นกำนัน ทำหน้าที่ได้ปีกว่าๆ ต่อมา นายกฯเฉลิม นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย ได้เสียชีวิต ตนก็กลับมาลงสมัครรับการเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย จนถึงปัจจุบัน“

นายกมงคล บอกอีกว่า “ผมติดดิน ลูกทุ่ง ทำหน้าที่บริการชาวบ้าน น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก ทำ 3 อย่างนี้ได้ ก็ครองใจชาวบ้านแล้ว แต่ตอนนี้ไม่เพียงเท่านี้ ต้องดูแลเรื่องสุขภาพชาวบ้าน ด้านเจ็บป่วย และดูแลความปลอดภัยจากอุบัติภัยจากธรรชาติ น้ำท่วม พายุลมแล้งที่พัดต้นไม้กิ่งไม้ทับบ้านเรือนชาวบ้าน ก็นำเข้าบรรจุในการปฏิบัติหน้าที่ของ ทต.เชิงดอย และได้สั่งการให้ผู้บริหาร และ สท. และ จนท.กองช่าง ออกตัดกิ่งไม้ต้นไม้ใน 10 หมู่บ้านเดือนละหมู่บ้าน วนเวียนไป ทำงานล่วงหน้าไว้แล้ว เพราะเป็นห่วงว่า หากตนลาออกวันนี้ ลมแล้งจะมาต้นเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ก็หมดห่วงแล้ว อย่างไรก็ตามผมได้ฝากให้ข้าราชการ และ จนท.ทต.เชิงดอย ดูแลชาวบ้านไว้ด้วย ในช่วงรอการเลือกตั้งใหม่ที่จะมาถึง”

นายมงคล กล่าวถึงอุบัติเหตุของตนว่า “ส่วนผม ที่พลาดประสบอุบัติเหตุตกต้นมะพร้าง ที่หมู่ 7 บ้านร้องขี้เหล็ก ชาวบ้านแจ้ง ขอให้ตัดต้นไม้และต้นมะพร้าวในบ้าน ผมเห็นลูกน้องทำงานเหนื่อยแล้ว ก็อาสาเข้าไปช่วยตัดต้นมะพร้าว แต่พลาดคือ เมื่อเอาเลื่อยตัดต้นมะพร้าวขาดแล้วหัก ต้นมะพร้าวที่ตนขึ้นไปตัดได้ดีดเอาตัวของตนตกลงไปที่พื้นดิน กระดูกสันหลังแตกทับเส้นประสาท สลบไป 2 นาที จากนั้นถูกนำส่งโรงพยาบาลรับการรักษาหลายแห่ง ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง (ตอนนี้ดีขึ้น แต่ต้องนั่งวีลแชร์) อย่างไรก็ตาม ตนได้กลับมาทำหน้าที่ได้ตามปกติ คุณหมอก็แจ้งว่ามีโอกาสที่จะหายได้“

”การที่ผมประสบอุบัติเหตุครั้งนั้น อยู่ในช่วงปฏิบัติหน้าที่ หากผมไปดื่มสุราเมาแล้วขับรถประสบอุบัติเหตุ ผมจะไม่กลับมาทำหน้าที่นายกฯเลย แต่เมื่ออุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากการทำหน้าที่ และผมยังพร้อมที่จะดูแลชาวบ้าน ก็ขอลาออกวันนี้ และพร้อมลงสมัคร นายกเทศมนตรีเชิงดอย ในอีกสมัย จากนั้นก็จะวางมือทางการเมืองแล้ว“ นายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย กล่าว.