เชียงใหม่ ฉก.สิงหนาท กกล.นเรศวร ร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ปาย , จนท.ตร.สภ.ปาย และร้อย ตำรวจตระเวนชายแดน 336 ยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด พื้นที่ อ.ปาย จว.ม.ส.

ฉก.สิงหนาท กกล.นเรศวร ร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ปาย , จนท.ตร.สภ.ปาย และร้อย ตำรวจตระเวนชายแดน 336 ยึดยาบ้า 6 ล้านเม็ด พื้นที่ อ.ปาย จว.ม.ส.


พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งตั้นและเคมีภัณท์ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งตั้นและเคมีภัณท์ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 ร่วมกับหน่วยทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองเพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชานแดน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ทำให้กลุ่มขบวนการพยายามขนยาเสพติดเข้าประเทศตามชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดตาก ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พยายามใช้กำลังกดดันทุกช่องทาง ประกอบกับการลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอด และอำเภอพบพระ จังหวัดตาก และ อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นอำเภอที่ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล โดยพร้อมมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่

ล่าสุด เมื่อ 19 ก.ค. 67 เวลา 1300 หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท กองกำลังนเรศวร โดย กองร้อยทหารราบ ที่ 723 ร่วมกับ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ปาย , จนท.ตร.สภ.ปาย และร้อย ตชด.336 ร่วมกับจุดชุดลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ บ.น้ำปลามุง ม.9 ต.แม่นาเติง อ.ปาย จว.ม.ส.
ผลการปฏิบัติ ตรวจพบ กระสอบดัดแปลง จำนวน 31 เป้ ภายในบรรจุยาบ้า รวมประมาณ 5 – 6 ล้านเม็ด

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งตั้นและเคมีภัณท์ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหน่วยได้จัดกำลังปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะช่วงหยุดยาวที่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือจำนวนมาก จึงต้องเพิ่มกำลังในการสกัดกั้นเต็มรูปแบบ ตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะด้าน อ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ อ.แม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดกั้นในพื้นที่พิเศษระหว่างแต่ละอำเภอ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยสอดส่องบุคคลที่เข้ามาในพื้นที่ของตนเองหากพบความผิดปกติสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้

เชียงใหม่ ชาวบ้านและกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมทำบุญเนื่องในวันเข้าพรรษาที่ม่อนพญานาคราช(คลิป)

ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ชาวบ้านและกลุ่มชาติพันธุ์หลายชนเผ่าในจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าไตร และสืบชะตาเสริมดวง พร้อมอัญเชิญพระพุทธชินราชองค์ใหญ่ หน้าตักกว่า 59 นิ้ว เตรียมนำประดิษฐานที่พระมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราชที่มึความสูงกว่า 10 ชั้น

วันนี้(19 กค.67) ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศทำบุญช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งมีคณะศรัทธา ชาวบ้านและกลุ่มชาติติพันธุ์หลายชนเผ่า เดินมาร่วมทำบุญจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์หลายชนเผ่า ต่างแต่งกายสวมเสื้อผ้าหลากสีสวยงามทั้งชายหญิง มาร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษา ถวายผ้าไตร และสืบชะตาเสริมดวง ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม ธรรมสถานม่อนพญานาคราช ซึ่งวันนี้ถือว่า เป็นงานวันพระใหญ่ โดยมีครูบาชัยประสิทธิ์ภิกขุ เจ้าสำนักธรรมสถานม่อนพญานาคราช เป็นผู้ทำพิธี

โดยบรรยากาศเช้านี้มีการอัญเชิญพระพุทธชินราชองค์ใหญ่ หน้าตักกว่า 59 นิ้วซึ่งมีผู้จิตศรัทธานำมาถวายซึ่งเป็นพระพุทธรูปสีขาวไข่มุก เพื่อเตรียมนำประดิษฐานที่พระมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราชที่มีความสูงกว่า 10 ชั้น ในโอกาสต่อไป โดยมีพี่น้องชาติติพันธ์หลากหลายชนเผ่า และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันยก แห่รอบพระมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราช สร้างความสนุกสนานครื้นเครง โดยเฉพาะ สีสันในงานนี้ กลุ่มชาติพันธุ์ชนเผ่าต่างๆ แต่งชุดหลากสีสวยงามโดยเฉพาะพี่น้อง ไตไทยใหญ่และกลุ่มชนเผ่า บะโฮ ซึ่งมีการแต่งตัวเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่านั้นๆ สร้างสีสันในงานไม่น้อย และหลังจากแห่พระพุทธชินราชองค์ใหญ่ เสร็จแล้ว ก็จะมีการถวาย เทียนพรรษาพร้อม ผ้าไตร จำนวน 99 ไต ถวายแก่พระสงฆ์ เสร็จพิธีมีการสืบชะตา เสริมดวง ให้กับผู้ที่มาร่วมงานในครั้งนี้

 

เชียงใหม่ “ดีพร้อม” เร่งยกระดับอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ภาคเหนือดันโปรเจกต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่ออุตสาหกรรมที่ยั่งยืน(คลิป)

“ดีพร้อม” เร่งยกระดับอุตสาหกรรมสีเขียวในพื้นที่ภาคเหนือดันโปรเจกต์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่ออุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งเดินหน้า ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมสีเขียวให้ก้าวไปข้างหน้า เพื่อโลก เพื่อเรา ผ่านกลไก 3 ด้าน คือ 1) Green Productivity 2) Green Marketing และ 3) Green Finance เพื่อผลักดันให้ภาคอุตสาหกรรมคำนึงถึงความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีนายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และนายวัชรุน จุ้ยจำลอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกันเปิดตัวงาน Moving Green Forward ”ก้าวไปข้างหน้า เพื่อโลก เพื่อเรา” #LANNA มาปลุกพลัง ปลดล็อค ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ สู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ และการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมด้วยคุณท๊อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนและผู้ก่อตั้ง Platform ECOLIFE พูดถึง Moving Green Forward ก้าวต่อไป เพื่อสร้างโอกาสจุดประกายสู่อุตสาหกรรมที่ยั่งยืน ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ เชียงใหม่

โดยโปรเจกต์กรีนต่าง ๆ ได้แก่ 1) เชียงใหม่เมืองคาร์บอนต่ำ 2) การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 3) Let’s plant meat 4) การนำกลับมาใช้ใหม่อย่างสร้างสรรค์ และ 5) กลุ่มถิ่นนิยม ผ่านการจัดกิจกรรม “Moving Green Forward ก้าวไปข้างหน้า เพื่อโลก เพื่อเรา” มุ่งการใช้นวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์จากความหลากหลายทางชีวภาพ และการใช้ประโยชน์จากของเสียด้วยกระบวนการอัพไซเคิล โดยตั้งเป้ายกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 450 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 273 ล้านบาท


นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับกาเปลี่ยนแปลงในหลายมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดความเสี่ยงและความผันผวนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้เกิดปรากฏการณ์ภาวะโลกเดือด ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มมากขึ้นจนเกินสมดุล ซึ่งรัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญพร้อมทั้งมองเห็นโอกาสและความท้าทายต่าง ๆ ให้กับภาคอุตสาหกรรมที่จะสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจและตอบโจทย์ตลาดโลกได้อย่างแข็งแกร่ง ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การบริหารงานของนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกกรม จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เร่งเดินหน้าผลักดันให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย ผ่านกลไก 3 ด้าน คือ 1) Green Productivity 2) Green Marketing และ 3) Green Finance ขานรับการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าเพื่ออุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

นายภาสกร กล่าวต่อว่า ทิศทางการขับเคลื่อนทั้ง 3 ด้าน สอดรับกับการดำเนินงานของดีพร้อมที่มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการทุกระดับให้สามารถปรับตัวได้เท่าทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ภายใต้นโยบาย “RESHAPE THE FUTURE : โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต” ผ่านกลยุทธ์การปรับตัวให้ก้าวทันอุตสาหกรรมยุคใหม่ (RESHAPE THE INDUSTRY) การสร้างการเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนผ่าน โครงการยกระดับธุรกิจ SME ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มุ่งส่งเสริมการใช้นวัตกรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการ การใช้ทรัพยากร และการหมุนเวียนวัสดุกลับมาใช้ใหม่ให้ได้มากที่สุด


สำหรับกิจกรรม “Moving Green Forward ก้าวไปข้างหน้า เพื่อโลก เพื่อเรา” ในพื้นที่ภาคเหนือในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเร่งสร้างการรับรู้ให้ภาคอุตสาหกรรมได้ตระหนักและให้ความสำคัญ ในการลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง ลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคเหนือเกิดความตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนสามารถนำไปต่อยอดให้เกิดเป็น Moving Green Career สร้างโปรเจกต์กรีน ดีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเพิ่มรายได้ จากแนวคิดความสำเร็จของผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือผ่านโปรเจกต์กรีนต่าง ๆ ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ได้แก่ 1) เชียงใหม่เมืองคาร์บอนต่ำ ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงพลังของทุกภาคีเครือข่ายสู่การทำงานร่วมกันเรียนรู้ร่วมกัน มองเห็นสาเหตุและเข้าใจภาพรวมของปัญหา PM2.5 จนเกิดเป็นกระบวนการแก้ปัญหาฝุ่นควันอย่างยั่งยืน 2) การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากฟางข้าว มาสร้างสรรค์สู่ผลิตภัณฑ์ตกแต่งผนังที่มีความสวยงาม มีคุณสมบัติพิเศษสามารถดูดซับเสียงและเป็นฉนวนกันความร้อน ซึ่งช่วยลดมลพิษจากการเผาฟางข้าวได้ 3) Let’s plant meat โปรตีนทางเลือกโดยวัตถุดิบที่ทำจากพืช โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ช่วยสร้างความยั่งยืนในมุมมองของวัตถุดิบอาหาร 4) การนำกลับมาใช้ใหม่อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะจากซองกาแฟ ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงมีแนวคิดนำกลับมาใช้ใหม่โดยออกแบบเป็นกระเป๋าอัพไซเคิล กระเป๋าแฮนด์เมดจากซองกาแฟ และ 5) กลุ่มถิ่นนิยม ที่สะท้อนให้เห็นถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักและอยากพัฒนาชุมชนของตัวเองด้วยการพัฒนาให้ความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์และกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติให้กับชุมชน พร้อมทั้งช่วยยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือ สร้างความยั่งยืนให้ระบบนิเวศอย่างสมดุล โดยตั้งเป้ายกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือกว่า 450 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 273 ล้านบาท และนำร่องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ มุ่งสู่เป้าหมาย 7.2 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีตามเป้าของกระทรวงอุตสาหกรรม

“ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 2 หลังจากเปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ โดยภายในงานวันนี้ จัดให้มีการเรียนรู้เทรนด์ธุรกิจ องค์ความรู้ต่าง ๆ และมุมมองการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมยุคใหม่ครบทุกมิติ ขณะเดียวกัน ยังมีการบรรยายและเสวนาจากองค์กรและบริษัทชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงการบริหารจัดการด้านอุตสาหกรรมสีเขียว กิจกรรมคลินิกให้คำปรึกษาแนะนำจากหน่วยงานพันธมิตรที่มาจัดแสดงสินค้านวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การให้แนะนำสินเชื่อสำหรับธุรกิจรักษ์โลกจากสถาบันการเงินต่าง ๆ และกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นอีก 2 ครั้ง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น และในพื้นที่ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ภายในเดือนกรกฎาคมนี้” นายภาสกร กล่าวทิ้งท้าย

เชียงใหม่ ลุงสมบุญ ร้องศูนย์​ดำรงธรรม​จังหวัดเชียงใหม่ สนง.ยุติธรรมฯ กรณี​ถูกฮุบที่ดิน 3 ไร่ 94 ตรว. (คลิป)

ลุงสมบุญ ร้องศูนย์​ดำรงธรรม​จังหวัดเชียงใหม่ สนง.ยุติธรรมฯ กรณี​ถูกฮุบที่ดิน 3 ไร่ 94 ตรว.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่​ นายสมบุญ กิจเศรณี พร้อมด้วยชาวบ้าน กว่า 30 คน เดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม​ต่อ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​เชียงใหม่​ ผ่านทางศูนย์​ดำรง​ธรรม​จังหวัด​เชียงใหม่​ พร้อมชูป้ายขอความเป็นธรรม กับหน่วยงานที่เดี่ยวข้อง ภายหลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วจนมาถึงวันนี้แต่เรื่องยังเงียบ

นายสมบุญ กิจเศรณี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าว เป็นของตน ซึ่งปลูกลำไย มะม่วง และทำบ่อปลาไว้ ทุกปีก็จะมีรายได้จากการนำผลผลิตดังกล่าวไปจำหน่าย ซึ่งพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ 94 ตารางวา ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวได้ถูกยึดเอาไป แต่พอมาทราบเรื่อง ตนก็ได้เข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.อ.นันทวัฒน์ ปานเปาว์ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับเจ้าของฟาร์มไก่และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว และดำเนินคดีกับผู้บริหารจำนวน 4 ราย และนิติบุคคลคือบริษัทของฟาร์มไก่ดังกล่าว 1 ราย รวมเป็น 5 ราย

ภายหลังจากดำเนินการแจ้งความปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่ดิน จะเข้าไปทำการรังวัด เพราะที่ของตนมีโฉนดถูกต้อง และมีการเสียภาษีที่ดินทุกปี ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปดำเนินการรังวัด ทำให้ตนสูญเสียรายได้ รวมทั้งต้นลำไย ต้นมะม่วง ที่ปลูกไว้ก็ถูกตัดหมด บ่อปลาที่มีอยู่ก็ถูกถม โดยเข้าไปในที่ดินตนเองไม่ได้เพราะฟาร์มไก่ล้อมรั้วไว้หมด ตนและครอบครัวจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นแค่ชาวบ้าน แต่ทางคู่กรณีเป็นถึงบริษัทใหญ่ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรม ศูนย์​ดำรง​ธรรม​จังหวัด​เชียงใหม่​และยุติธรรจังหวัด​เชียงใหม่​ช่วยเหลือโดยมี นายปฐวี ไชยเสน เจ้าหน้าที่​ศูนย์​ดำรง​ธรรม​จังหวัด​เชียงใหม่​ เข้ารับเรื่องร้องเรียน​ในครั้งนี้ พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งดำเนินการโดยคาดว่าภายใน 15 น่าจะทราบผลเบื้องต้น

จากนั้น นายสมบุญ กิจเศรณี เจ้าของที่ดิน พร้อมชาวบ้านเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ที่ยุติธรรม​จังหวัด​เชียงใหม่ ​โดยมีนางสาวณัฐนันท์ พิทักษา ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เข้าสอบถามและรับทราบถึงปัญหา ​พร้อมได้รับเรื่องร้องเรียน โดยจะนำเรื่องเข้าเสนอต่อคณะอนุกรรมการประจำจังหวัดฯ โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน เพื่อเร่งช่วยเหลือและดำเนินการอย่างโดยเร็วที่สุด.

เชียงใหม่ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรม โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์สานสัมพันธ์ สัญจร องค์กรสมาชิกภาค 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่(คลิป)

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรม โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์สานสัมพันธ์ สัญจร องค์กรสมาชิกภาค 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกิจกรรมโครงการ น้ำพระทัยพระราชทาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับประสบความเดือดร้อนและคนพิการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

ที่โรงแรมศิรินาถ การ์เด้นท์ จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยตำรวจโท มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธี เปิดโครงการ น้ำพระทัยพระราชทาน สานสัมพันธ์ สัญจร องค์กรสมาชิกภาค 9 และการสัมมนา โดยมีผู้ประสานงาน ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วม

มี นางจุไร ชำนาญ เป็นประธานกรรมการ ประสานงานส่วนภูมิภาค ภาค 9 และด็อกเตอร์ พิสมัย ตรีวิชา เป็นรองประธานฯ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย เพื่อให้ผู้บริหารสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และผู้แทนองค์กรสมาชิก ได้มีโอกาส มาพบปะแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องการสังคมสงเคราะห์ และปรึกษาหารือ การทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพ ในการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งการจัดกิจกรรม
โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน คนพิการ และผู้แทนองค์กรต่างๆ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ทั้งนี้กิจกรรมของสภาสังคมสงเคราะห์ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พันธกิจ สงเคราะห์และช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนและคนพิการ ส่งเสริมสนับสนุนป้องกัน แก้ไขปัญหา และพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง เด็ก เยาวชน สตรี อาสาสมัคร คนพิการ ผู้ยากไร้และผู้สูงอายุ

เชียงใหม่ ชาวบ้านเจ้าของที่ในอำเภอสันป่าตองเดือดร้อน ถูกฟาร์มไก่ยึดเอาที่ดินไปนับสิบปี(คลิป)

ชาวบ้านเจ้าของที่ในอำเภอสันป่าตองเดือดร้อน ถูกฟาร์มไก่ยึดเอาที่ดินไปนับสิบปี แจ้งความแล้วสุดท้ายยังเข้าที่ดินตนเองไม่ได้ ร้องทุกข์ขอสื่อช่วยเกรงจะไมได้รับความเป็นธรรม

(12 กค.67)ผู้สื่อข่าวรายงานริมถนนหน้าฟาร์มไก่แห่งหนึ่ง ริมคลองชลประทาน ใน ต.ขุนมะขามหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านนำโดย นายสมบุญ กิจเศรณี เจ้าของที่ดิน พร้อมกลุ่มชาวบ้านกว่า 20 คน ได้มาถือป้ายและรวมตัวบริเวณริมถนนหน้าฟาร์มไก่ โดยมีข้อความว่า ” ผู้สื่อมวลชนช่วยด้วย, และป้ายใหญ่ที่ติดรั้ว เขียนว่า “ฮุบ ที่สวนโค่นต้นลำไย โค่นต้นมะม่วง ถมบ่อเลี้ยงปลา“ และ ”ที่ดิน 3 ไร่ 94 ตารางวา แปลงนี้ บุกรุกของผมไป“ ส่วนข้อความที่ชาวบ้านนำยืนประท้วง ”ไม่สงสารชาวบ้านบ้างหรือ, บริษัทใหญ่โต ยังบุกรุกที่ชาวบ้านอีกหรือ, เรียกร้องความยุติธรรม, เรียกร้องสิทธิ์ความเป็นคน, ตัดลำไยมะม่วง ถมบ่อ รื้อรั้วทิ้ง ทำได้ลงคอ, ทำได้อย่างไร ที่มีโฉนด เสียภาษี ผมเกษตรกร คุณฮุบไปหาผลประโยชน์ เศร้าครับ” นอกจากนี้ก็ได้นำป้ายไวนิลไปติดไว้ที่บริเวณริมรั้วของฟาร์มไก่ดังกล่าว

ต่อมาทางพนักงานของไก่ เมื่อทราบว่ามีกลุ่มชาวบ้านมาชุมนุม ถือป้าย ก็ได้ออกมาทำการรื้อป้ายที่ติดไว้ริมรั้วของฟาร์มไก่ออก ก่อนจะกลับเข้าไปในฟาร์ม ขณะเดียวกันได้มีผู้บริหารของฟาร์มไก่รายหนึ่ง ได้ขับรถผ่านมาบริเวณที่กลุ่มชาวบ้านรวมตัวกัน พร้อมกับตะโกนบอกว่า ที่ดินกังกล่าวเป็นที่ดินครอบครองโดยปรปักษ์ นาน 11 ปีแล้ว ก่อนที่จะขับรถผ่านกลุ่มชาวบ้านไป

นายสมบุญ กิจเศรณี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าว เป็นของตน ซึ่งปลูกลำไย มะม่วง และทำบ่อปลาไว้ ทุกปีก็จะมีรายได้จากการนำผลผลิตดังกล่าวไปจำหน่าย ซึ่งพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ 94 ตารางวา ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวได้ถูกยึดเอาไป แต่พอมาทราบเรื่อง ตนก็ได้เข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.อ.นันทวัฒน์ ปานเปาว์ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับเจ้าของฟาร์มไก่และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว และดำเนินคดีกับผู้บริหารจำนวน 4 ราย และนิติบุคคลคือบริษัทของฟาร์มไก่ดังกล่าว 1 ราย รวมเป็น 5 ราย ภายหลังจากดำเนินการแจ้งความปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ที่ดิน จะเข้าไปทำการรังวัด เพราะที่ของตนมีโฉนดถูกต้อง และมีการเสียภาษีที่ดินทุกปี ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปดำเนินการรังวัด ทำให้ตนสูญเสียรายได้ รวมทั้งต้นลำไย ต้นมะม่วง ที่ปลูกไว้ก็ถูกตัดหมด บ่อปลาที่มีอยู่ก็ถูกถม เข้าไปในที่ดินตนเองไม่ได้เพราะฟาร์มไก่ล้อมรั้วไว้หมด ตนและครอบครัวจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นแค่ชาวบ้าน แต่ทางคู่กรณีเป็นถึงบริษัทใหญ่ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้สื่อมวลชนช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางด้านนายสมบูญ เจ้าของที่ดินพร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปที่ สภ.สันป่าตอง เพื่อขอพบกับพนักงานสอบสวน หลังจากทราบว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกคู่กรณีทั้งหมดเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับจะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากป้ายไวนิลที่ได้นำไปติดไว้ที่รั้วฟาร์มไก่ดังกล่าว ได้ถูกพนักงานฟาร์มไก่รื้อถอนและนำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทางด้านร.ต.อ.นันทวัฒน์ ปานเนาว์ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของที่ดินมาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกคู่กรณีที่เป็นฟาร์มไก่ เดินทางมาพบเพื่อทำการสอบสวนแล้ว 1 ครั้ง และในวันนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เรียกมาเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิด “บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์” ซึ่งช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ที่ดินจะเข้าไปรังวัดก็ไม่สามารถเข้าไปได้ด้วย และในวันนี้หลังจากที่ทางฟาร์มไก่ เป็นเจ้าของและผู้เกี่ยวข้อง 4 ราย รวมถึงนิติบุคคลที่เป็นบริษัท 1 ราย รวม 5 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้ให้กลับไปรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่ทางฟาร์มไก่กล่าวอ้างมา หลังจากนั้นก็จะได้เรียกมาทำการสอบสวนอีกครั้ง
-พร้อมกันนี้ทางด้านคดีก็จะมีการตรวจสอบภาพจากดาวเทียม ตั้งแต่ปี 55 เป็นต้นมา ก็พบว่าที่ดินดังกล่าวยังเป็นสวน มีบ่อปลาอยู่ แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง มีการก่อสร้าง ช่วงแรกไม่ทราบว่าเป็นของเอกชน กระทั่งทางผู้เสียหายมาแจ้งความถึงได้ทราบว่าเป็นที่ของเอกชน มาตั้งบริษัททำฟาร์มไก่ ส่วนอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้่นในวันนี้ที่ทางผู้เสียหายจะแจ้งความเรื่องลักทรัพย์ เนื่องจากป้ายไวนิลที่ติดไว้ถูกรื้อถอนและนำไป ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมาย และเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และให้ทางคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยคำ จัดภูมิทัศน์บริเวณลานจุดชมวิวรองรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน (คลิป)

วัดพระธาตุดอยคำ จัดภูมิทัศน์บริเวณลานจุดชมวิวของวัด รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ขอพรโดยเฉพาะหลวงพ่อทันใจ หลังหมอกควันไฟป่าหมดไปเข้าสู่ช่วงฤดูฝน

ผู้สื่อข่าวเดินทางขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัดพระธาตุดอยคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่หมดไปและเข้าสู่ฤดูฝน บรรยากาศที่วัดพระธาตุดอยคำก็ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างๆ ต่างเดินทางขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุดอยคำ ที่สร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ส่วนภายในวิหารวัดพระธาตุดอยคำก็ประดิษฐาน พระรอดหลวง อายุกว่า 1,338 ปี เป็นพระรอดหินทรายที่มีอายุเก่าแก่

พ่อหนานอานนท์ มังสาสติ มัคนายกวัดพระธาตุดอยคำ บอกว่า ประชาชนส่วนใจที่เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยคำก็เพื่อมากราบ หลวงพ่อทันใจ ของวัดพระธาตุดอยคำ ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทางมาขอพรบนบานแล้ว เมื่อประสบความสำเร็จ ก็จะนำดอกมะลิมาแก้บน

นอกจากนั้นบริเวณลานจุดชมวิวของทางวัด สามารถมองเห็นด้านหลังของหอคำหลวง ภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์และตัวเมืองเชียงใหม่ มีพระพุทธรูปปางพระทานพร และพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปอยูในพระอริยาบถนอนตะแคงขวา บริเวณลานชมวิวก็ได้ปรับปรุงเพิ่มดอกไม้ และจุดสำหรับถ่ายภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยคำได้บันทึกภาพความประทับใจกลับไป ซึ่งหมอกควันก็ได้หมดไปแล้ว และเริ่มเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา ศรัทธาญาติโยมผู้ใจบุญทั้งหลายทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาขอพร โดยเฉพาะหวงพ่อพระเจ้าทันใจที่โดงดังไปทั่วโลก ซึ่งวัดพระธาตุดอยคำก็ถือว่าเป็นวัดท่องเที่ยววัดหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ขาดสาย

เชียงใหม่ Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่(คลิป)

Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อบ่ายวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ห้องประชุม B5 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียีติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุม Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่

โดยนายอาคม สุวรรณกันธา ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดเชียงใหม่ และที่ปรึกษาโครงการ Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ และกล่าวในที่ประชุม ว่า การจัดโครงการดังกล่าว จัดโดยกองทุนพัฒนาสุขภาวะจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมดำเนินโครงการขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยพลังงานสะอาดสู่เมืองคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ รวบรวมความต้องการของ ผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในการปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งรวบรวมแนวทางช่วยความช่วยเหลือแนวทางแก้ไขปัญหา จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบัน การเงิน และสถาบันการศึกษา

ที่ผ่านมาคณะทำงานได้ลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์ผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะ และดำเนินการจัด กิจกรรม Focus Group ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถแดงเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุมฝ้ายคำ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการหารือถึงปัญหาอุปสรรค แนวทางที่ต้องการรับความช่วยเหลือ รวมทั้งความรู้ ความเข้าใจในการดัดแปลงรถ EV พร้อมวิเคราะห์ถึงความพร้อมของผู้ประกอบการ จากการผลการ จัดกิจกรรมในวันดังกล่าวพบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากยังไม่ทราบถึงข้อดี ข้อเสียของการดัดแปลงรถ EV และ ถึงแม้จะมีผู้ประกอบการมากกว่าร้อยละ 54.8 ต้องการปรับเปลี่ยนรถก็ตาม แต่ยังคงมีความกังวลใจเกี่ยวกับ มาตรฐาน ความปลอดภัย ซึ่งในวันดังกล่าวได้มีผู้ประกอบที่เป็นอู่ดัดแปลงรถได้มายืนยันถึงความปลอดภัยให้กับ ผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะแล้วก็ตาม ซึ่งหากผู้ประกอบการต้องการดัดแปลงรถเป็น EV ผู้ประกอบการ ต้องการเงินลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา สถาบันการเงินถึง 100 % โดยมีค่าเฉลี่ยถึง ร้อยละ 33.3

นอกจากนี้ในวันที่ 23 เมษายน 2567 ณ ห้อง D204 อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการจัด Focus Group หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา รวมทั้งสถาบัน การเงิน เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้ แนวทางที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ใน การปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งรวบรวมแนวทางช่วยความช่วยเหลือ แนว ทางแก้ไขปัญหาในอนาคต

ทั้งนี้หากสามารถขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวได้จะสามารถมีส่วนร่วมแก้ปัญหา PM 2.5 ในภาคคาร์บอน ขนส่งรวมทั้งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างเชื่อมโยงเป็นระบบ และ สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้อีกด้วย รวมถึงโครงการรถแดงไฟฟ้า (EV) ที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการผลักดัน รถยนต์ EV ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดไม่มีการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสีย ประกอบกับจังหวัดเชียงใหม่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5

ดังนั้น การเร่งผลักดันให้รถสาธารณะ (รถแดง) ในตัวเมืองเชียงใหม่ปรับเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยพลังงาน ไฟฟ้า จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้รถสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใน ระยะแรกมีเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนรถแดงมาขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า จำนวน 100 คัน ซึ่งตรงกับเป้าหมาย ในการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ 20 ปี (พ.ศ. 2566 – 2585) ที่ต้องการให้เป็นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง เมืองแห่งโอกาส เป็นธรรม และเมืองที่เติบโตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนครแห่งชีวิตที่มี ความมั่งคั่ง และยั่งยืน

ในที่ประชุม ผศ.ดร.อนุชา พรมวังขวา ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คระวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวบรรยาย การสร้างความมั่นใจในการปรับเปลี่ยนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาประดิษฐ์รถสี่ล้อแดงแล้วให้เจ้าของรถสี่ล้อแดงขับได้ในระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรได้อีกด้วย.

เชียงใหม่ นักเรียนอนุบาลโรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต ร่วมกับผู้ปกครอง และคณะครู หล่อเทียนพรรษา(คลิป)

นักเรียนอนุบาลโรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต เชียงใหม่ ร่วมกับผู้ปกครอง และคณะครู หล่อเทียนพรรษา เพื่อนำไปถวายวัดใกล้โรงเรียนในเทศกาลเข้าพรรษา สืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวพุทธ

โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเทศกาลเข้าพรรษา โดยมีนายธวัช บุญประเสริฐ ผู้จัดการโรงเรียนจุดธูปเทียนบูชา พระรัตนตรัย เด็กชาย ภูชิเดช อินปั๋นแก้ว นักเรียนชั้นอนุบาล 3 / 2 ตัวแทนนักเรียน นำไหว้พระสวดมนต์ ตัวแทนนักเรียน ถวายขันขอศีล

นางพรรณี บุญประเสริฐ ผู้รับใบอนุญาต นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา จากนั้นผู้บริหาร นักเรียน และผู้ปกครอง ร่วมกันหล่อต้นเทียนพรรษา จำนวน 3 ต้น ที่มีการสืบทอด เป็นประเพณี ติดต่อกันมาทุกปี เพื่อปลูกฝั่งนักเรียนวิถีพุทธ จากนั้นถวายจตุปัจจัยไทยทาน พระสงฆ์ กล่าวอนุโมธนาและให้พร และนักเรียนร่วมกันนั่งสมาธิ แผ่เมตตา พระสงฆ์ ประพรมน้ำพุทธมนต์ เสริมสิริมงคล ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง จากนั้นนางพรรณี บุญประเสริฐ ให้โอวาทกับเด็กๆ

ทั้งนี้เทียนพรรษาที่หล่อทั้งหมด ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ก็จะมีขบวนแห่จากโรงเรียน นำไปถวายให้กับวัดลอยเคราะห์ อำเภอเมือง เพื่อให้พระสงฆ์ใช้จุดในการทำวัตรเย็น ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ตลอด 3 ดือน

เชียงใหม่ คนร้ายแต่งกายภูมิฐานใส่สูท เข้าไปขโมยเงินตู้บริจาคในพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม(คลิป)

คนร้ายแต่งกายภูมิฐานใส่สูท เข้าไปขโมยเงินตู้บริจาคในพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ไม้แขวนเสื้อ นำมาทำเป็นเส้นยาวประมาณ 1 ฟุต ใช้หมากฝรั่งติดปลาย แหย่ลงไปในช่องตู้บริจาคเงิน ให้หมากฝรั่งติดกับแบ๊งค์แล้วดึงเงินออกมา วงจรปิดชัดเจนสุดท้ายไม่รอด ถูกจับกุมได้คาที่พัก สารภาพทำมาแล้วกว่า 20 วัด และยังมีหมายจับคดี ชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรา จังหวัดชลบุรี


ภาพจากกล้องวงจรปิด วัดสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ที่บันทึกภาพคนร้าย แต่งกายใส่สูทภูมิฐาน อำพรางทำตัว เป็นนักท่องเที่ยว เข้าไปไหว้พระ แต่เมื่อไม่มีใคร ได้ขโมยเงินในตู้บริจาค ภายในพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ จำนวน 2 ตู้ ใช้เวลาไม่นาน ได้เงินไปทั้ง 2 ตู้ จำนวน 1,800 บาท โดยพฤติกรรมของคนร้าย ใช้เหล็กไม้แขวนเสื้อ ยาวประมาณ 1 ฟุต ปลายติดหมากฝรั่งทำเป็นกาว หย่อนลงไปในช่องตู้บริจาคเงิน ใช้ส่วนปลายที่ติดหมากฝรั่งแตะที่ธนบัตร ก็จะติดปลายไม้แขวนเสื้อ และดึงขึ้นมา ได้ทั้งแบ็ง 20 บาท และแบ๊ง 100 บาท เมื่อได้เงินจนหมด เหลือแต่เหรียญในตู้บริจาค จึงเดินออกจากวัดหลบหนีไป เหตุเกิดวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทางนาย บารมี อโศกพิทักษ์รัตนะ คณะกรรมการวัด จึงนำคลิปจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ ให้ติดตามจับกุมคนร้าย จนตำรวจใช้เป็นหลักฐาน ในการแกะรอย จนวันนี้สามารถติดตามจับกุม นาย นริศชาติ อายุ 26 ปี คนร้าย ได้ที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลาง ชุดสูทที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และเงินคืนมาได้บางส่วน

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ หลบหนีคดี มาจากจังหวัดชลบุรี และมาเช่าหอพักอาศัย และได้ก่อเหตุขโมยเงิน ตู้บริจาคตามวัดทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ มาแล้วกว่า 20 วัด จำได้เฉพาะ วัดบุปผารามได้เงิน 700 บาท วัดเจ็ดยอดได้เงิน 700 บาท วัดมหาวันได้เงิน 100 บาท วัดชมพูไม่ได้เงิน วัดสันติธรรมได้เงิน 1,800 บาท รวมวัดทั้งหมด ได้เงินไปประมาณร่วม 10,000 บาท นำมาใช้จ่าย และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีหมายจับคดี ชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเราโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขื่นได้ และบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยมีอาวุธ จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดี ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ