พระราชโพธิวรคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ,เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เจริญพรเนื่องในวาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568
ผู้เขียน: admin
เชียงใหม่ กำนัน ต.สันผีเสื้อ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงหลังถูกประธานสภาฯ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานเจ็บ(คลิป)
กำนัน ต.สันผีเสื้อ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงหลังถูกประธานสภาฯ ทำร้ายร่างกายเพื่อนร่วมงานเจ็บ
จากเหตุการณ์นายภูวรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาวตำบลสันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้ถูกประธานสภาตำบลฯ แห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เตะเข้าใบหน้าจนต้องเข้ารับการผ่าตัด เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงพลบค่ำวันที่ 24 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา กระทั่งผู้บาดเจ็บได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางประธานสภาฯ คู่กรณีที่ทำร้ายร่างกาย และเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกพลาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องว่าจะให้การช่วยเหลือ รวมทั้งบ้าน สจ.ชื่อดังรายหนึ่งที่เป็นจุดเกิดเหตุ และเกรงว่าอาจจะทำให้ได้รับความไม่เป็นธรรม
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 67 นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ พร้อมด้วยกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 3, 4, 5 และ 6 ได้เดินทางมาและขอชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ถูกพาดพิงจนเกิดความเสียหาย
นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า จากกรณีเหตุทำร้ายร่างกายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เหตุการณ์เกิดในช่วงผลบค่ำ ซึ่งตนได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นที่บ้านร้องอ้อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตนจึงได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองนั้น เพื่อให้ไปดูเหตุการณ์ เพราะอยู่ใกล้ที่สุด แต่ทางผู้ใหญ่บ้านติดธุระจึงได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปตรวจสอบแทน จากนั้นตนก็ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อไปสมทบ และผมได้เดินทางตามไปพร้อมกับสารวัตรกำนัน เดินประมาณ 15 นาที ตามไปตรวจสอบร่วมด้วย แต่พอไปถึงก็ไม่พบผู้บาดเจ็บแล้ว และทราบว่าได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อไปทำการรักษา
จากาการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีประธานสภาเทศบาลตำบล ที่เป็นคู่กรณีของผู้บาดเจ็บ ก็ให้ข้อมูลว่า ได้มาพบกันและพูดกวนโทสะกัน ด้วยความโมโหก็ด้วยอารมณ์พลั้งพลาดจึงได้เท้าเตะไป 1 ครั้ง ซึ่งขณะนั้นไม่รู้ว่าบาดเจ็บสาเหตุแค่ไหน แต่ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันอยู่แล้ว ต่อมาตนจึงได้แนะนำให้ประธานสภาฯ ที่เป็นคู่กรณี ติดตามไปยังโรงพยาบาล เพื่อตรวจเยี่ยมอาการและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลังเกิดเหตุ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะทั้งคู่ก็รู้จักกันมานานและทำงานร่วมกันมา ในวันนั้นทางประธานสภาฯ ก็ยังได้เอากระเช้า พร้อมกับเงินจำนวน 5,000 บาท ไปเยี่ยมด้วย
หลังเกิดเหตุทางผู้บาดเจ็บก็ได้ติดต่อมาและขอปรึกษากับทางผมตลอด ว่าควรจะทำอย่างไรบ้าง ไปพบเจอดีหรือไม่ กระทั่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงมาพบเจอเพื่อเจรจากันที่บ้านของผู้บาดเจ็บ โดยขอให้ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของผู้บาดเจ็บไปเป็นสักขีพยาน และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงไปร่วมด้วย แต่ไปถึงก็เพียงแค่นั่งฟังทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน และไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร เพื่อให้ทั้งสองคนเจรจากันเอง จากตอนแรกได้มีการเรียกร้องถึง 100,000 บาท แต่หลังจากเจรจา และด้วยความเห็นใจกัน และทั้งคู่ก็รู้จักกันมานาน จึงเหลือเพียง 30,000 บาท เป็นการช่วยเหลือ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุทะเลาะวิวาทของคนเพียงแค่สองคน ไม่ได้เกี่ยวกับทางฝ่ายปกครอง เหมือนกับที่เป็นข่าวออกไปว่า ฝ่ายปกครองลำเอียงไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลังจากมีข่าวออกไปก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะชาวบ้านที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงก็มาต่อว่าทางฝ่ายปกครองจนเกิดความเสียหาย แล้วได้รับการดูถูก เหยียดหยามจากผู้ที่ไม่เข้าใจ และคิดว่าฝ่ายปกครองไม่เอาไหน ทั้งที่ทางฝ่ายปกครองของเทศบาลตำบลสันผีเสื้อทำงานอย่างหนักและไม่เคยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และวางตัวเป็นกลางมาโดยตลอด และวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุ เพียงแต่ไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังได้รับแจ้งเท่านั้น
สำหรับฝ่ายผู้บาดเจ็บที่ไปแจ้งความและจะดำเนินการกับฝ่ายผู้ก่อเหตุนั้น ก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา ทางฝ่ายปกครองไม่ได้แนะนำหรือให้ดำเนินการอย่างไร ขึ้นอยู่กับทางผู้บาดเจ็บกับคู่กรณี
ขณะเดียวกันสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและถูกโยงไปถึงบ้านของ สจ.รายหนึ่ง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นเพียงสำนักงานของลูกชาย สจ.รายดังกล่าว ช่วงเกิดเหตุทั้งตัว สจ. และลูกชายไม่ได้อยู่ด้วย เพียงแต่เป็นสำนักงาน และบุคคลทั้งสองคนก็ทำงานร่วมกับลูกชายท่าน สจ.มาตลอด แต่การที่มีสื่อนำไปเสนอว่าอาจจะเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุก็ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วย
เชียงใหม่ “ผู้การฯพนม” ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ นามอิสระ เบอร์ 3 เน้นพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน(คลิป)
ผู้การฯพนม ลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ นามอิสระ เบอร์ 3 เน้นพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน
เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 25 ธ.ค.2567 ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สถานที่รับสมัคร นายก อบจ.เชียงใหม่ และ ส.อบจ.เชียงใหม่ พลตรี ดร.พนม ศรีเผือด อดีต ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จ.เชียงใหม่ พร้อมผู้ติดตามาให้กำลังใจ เดินทางมาลงรับสมัครเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ ได้หมายเลขประจำตัวผู้รับสมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 3 พร้อมชูนโยบาย “เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเจริญ จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้ เน้นเรื่องการศึกษา สาธารณสุข” ในส่วนประเด็นที่ตนตั้งใจตั้งแต่รับราชการมาแล้วคือ “การค้าชายแดน” อยากจะให้พี่น้องชายแดนชาวเชียงใหม่ มีเศรษฐกิจที่ดี ต้องการให้ทุกครัวเรือนมีรายได้เพิ่มที่ดี และมีฐานรากที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น “ผมเน้นย้ำเรื่องเศรษฐกิจมั่นคงมากยิ่งขึ้น”
ในวันนี้ผมมีความพร้อม และมาสมัครในนามกลุ่มอิสระ มีความตั้งใจในการที่จะมาบริหารจังหวัดเชียงใหม่ ไม่มีพรรคการเมืองบ้านใหญ่มาสนับสนุน ซึ่งจากการที่ผมเคยทำงานในเชียงใหม่แล้ว ก็ต้องการเข้ามาพัฒนาเชียงใหม่ ของเราอย่างตั้งใจจริง “ซื่อสัตย์ จริงใจ” ในการเข้ามาลงสมัครเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่
ส่วน ส.อบจ.เชียงใหม่ บางส่วนก็ลงในนามกลุ่มอิสระเหมือนกัน ตนเองคิดว่าคนที่จะมาเป็น ส.อบจ. ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน สีไหน ก็แล้วแต่ เมื่อมาได้เข้ามาอยู่ในองค์กร อบจ.แล้ว ตนคิดว่าทุกๆท่าน ที่สมัครก็ต้องการพัฒนาชุมชนของเขาเอง
“ผมหากได้เป็น นายก อบจ.เชียงใหม่ ผมคิดว่า สจ.ทุกๆท่านจะมาร่วมงานกัน ผมต้องการความเป็นสมานฉันท์ มาร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองจ.เชียงใหม่ของเราไปด้วยกัน” ในส่วนของพรรคใหญ่ ก็เป็นเรื่องของทางพรรคใหญ่ ที่เขาจะจัดการในเรื่องส่วนของเขา เราก็ดำเนินการในส่วนของเราที่เตรียมไว้แล้ว ว่าเราจะทำอะไรบ้าง 1-2-3-4 เราไม่ได้เป็นศัตรูใคร เรามาเพื่อสมานฉันท์การเมืองไทย เราอยากจะทำให้ จ.เชียงใหม่เรามีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้น “เราไม่มีพรรคไหนที่มาหนุนหลัง” ผมมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจริงๆ ถึงภาพเดิมที่ผมเคยลงสมัคร ส.ส.ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่วันนี้ผมได้ลาออกจากเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว“
ก็ขอฝาก หมายเลข 3 ผม “พลตรี ดร.พนม ศรีเผือด” ไว้ให้พี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ ได้เป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่ง ที่อาสาเข้ามาเพื่อพัฒนา จ.เชียงใหม่ให้ดีต่อไป
เชียงใหม่ โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงคริสต์มาส และหยุดยาว เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ห้องพักมากกว่า 60,000 ห้อง ถูกจองเต็มแล้วกว่าร้อยละ 80 (คลิป)
โรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงคริสต์มาส และหยุดยาว เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ห้องพักมากกว่า 60,000 ห้อง ถูกจองเต็มแล้วกว่าร้อยละ 80 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ พร้อมเชิญชวนคนไทย มาเที่ยวเชียงใหม่ ไทยช่วยไทย
บรรยากาศ โรงแรมสมายล์ล้านนา ในตัวเมืองเชียงใหม่ คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ที่มาท่องเที่ยว และเข้าพักในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ยาวไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ ทางโรงแรมก็มีการตกแต่ง ให้เข้ากับบรรยากาศคริสต์มาส และยังมีกิจกรรม ให้นักท่องเที่ยว ได้ร้อยลูกปัดเป็นการฝึกสมาธิ และให้เป็นของชำร่วย กับนักท่องเที่ยว นำกลับไปด้วย บางคนไม่มีสมาธิ ต้องทำหลายรอบ กว่าจะได้สายลูกปัดที่สวยงาม
นายไพศาล สุขเจริญ เจ้าของโรงแรมสไมล์ล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นนายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือตอนบนเปิดเผยว่า ขณะนี้โรงแรมในเชียงใหม่ ที่เป็นสมาชิกของสมาคม มีห้องพักกว่า 60,000 ห้อง ถูกนักท่องเที่ยว จองเต็ม เกินร้อยละ 80 ส่วนโรงแรมรอบๆตัวเมืองเชียงใหม่ ที่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก เป้าหมายคนไทยเป็นหลัก ก็จะมีน้อยหน่อย ยังไม่รวมที่พักรีสอร์ท ตามแหล่งท่องเที่ยว ตามม่อนดอยต่างๆ ในภาพรวมการท่องเที่ยว ถือว่าดีมาก เราดูจากสถิตินักท่องเที่ยว ของการบินเข้าแตะที่ 30,000 คนทุกวัน และเป็นนิมิตรหมายที่ดี คนที่เป็นนักท่องเที่ยว เข้ามาช่วงนี้ ต่างชาติเป็นหลัก เราก็ยังหวังว่าคนไทย
ส่วนหนึ่งหยุดยาวคริสต์มาส จนถึงปีใหม่ จึงขอเชิญชวนคนไทย ขึ้นมาเที่ยวทางเหนือช่วงนี้อากาศหนาวแล้ว และเย็นสบาย เราก็หวังว่าคนไทย ด้วยกันเดินทางขึ้นมาท่องเที่ยว ให้การสนับสนุนกัน ให้การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ มีการเติบโตขึ้นหรือแข็งแรงขึ้น ในส่วนที่เป็นระดับรากหญ้า หรือตลาดล่าง ที่ขายของฝากเช่น แคบหมู น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง หรือของกินที่เป็น ของฝากต่างๆ ที่ขายได้และมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะต่างชาติที่ เดินทางเข้ามาจะเที่ยว ในกลุ่มแคบๆ การซื้อของฝาก ก็จะเป็นเสื้อผ้า หรือที่เป็นของเล็กๆน้อยๆ กลับบ้านไปฝากก็จริง
“เราก็หวังว่าให้คนไทย ขึ้นมาเที่ยว เชียงใหม่ยังเป็นจังหวัด ที่น่าเที่ยวมากที่สุด ในภาคเหนือ และจำนวนนักท่องเที่ยว ที่จองเข้ามาก็จะเป็นเดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนมกราคม 2568 ก็จะเต็มทุกวัน และช่วงนี้มีการใช้จ่ายเยอะ จากจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาจากไฟล์บินเข้า วันละกว่า 30,000 คน ร้อยละ 80 py’เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งที่จองเข้ามา ก็จะอยู่ยาวถึง 4 – 5 คืน มากที่สุดยังเป็นนักท่องเที่ยวจีน รองลงมาเกาหลี มาเลเซีย และไต้หวัน” นายไพศาลกล่าว
เชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ MOU เปิดตัวโครงการเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่คาร์บอนต่ำ(คลิป)
เทศบาลนครเชียงใหม่ MOU เปิดตัวโครงการเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่คาร์บอนต่ำ
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์สร้างสรรค์เพื่อการ พัฒนาเมืองเชียงใหม่ (URC) พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและเปิดตัวโครงการเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่คาร์บอนต่ำ โดยมีนายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายณปวันชัย กุลฉัตรฐานนท์ กรรมการที่ปรึกษาเครือข่ายเขียวสวยหอม และผู้แทนเครือข่าย “เขียว สวย หอม” ร่วมลงนามความร่วมมือ พร้อมด้วยสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธีลงนาม MOU ในครั้งนี้
โดยภายในงานมีการเปิดวิดีทัศน์แนะนำโครงการเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่คาร์บอนต่ำ หลังจากนั้น นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวถึงเป้าหมายของการบันทึกความร่วมมือ เปิดตัวโครงการเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่คาร์บอนต่ำ โดยมี นายณปวันชัย กุลฉัตรฐานนท์ กรรมการที่ปรึกษาเครือข่ายเขียวสวยหอม กล่าวถึงภาคีเครือข่ายความร่วมมือโครงการเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่คาร์บอนต่ำ
หลังจากนั้นคณะสื่อมวลชน ได้ร่วมเปิดเส้นทางเที่ยวชมเมืองคาร์บอนต่ำ รอบปฐมฤกษ์ “เขียวชมเมืองคาร์บอนต่ำ” พร้อมชมเส้นทางเที่ยวชมจากศูนย์ URC – วัดเจดีย์หลวง – 4 แจ่ง 5 ประตูเมืองเก่า – เดินชมกาดมิ่งเมือง ชุมชน และวัดล่ามช้าง ซึ่งการนั่งรถเขียวชมเมืองคาร์บอนต่ำ รื่นรมย์กับต้นไม้ และชุมชนย่านเมืองเก่าเชียงใหม่ ผ่านโครงการเขียวชมเมือง โดยความร่วมมือของเทศบาลนครเชียงใหม่ กับเครือข่ายเขียวสวยหอมหอม ครับ โดยเส้นทางของเราวันนี้นะครับ เริ่มต้นศูนย์ URC – วัดเจดีย์หลวง – 4 แจ่ง 5 ประตูเมืองเก่าเชียงใหม่ – เดินชมกาดมิ่งเมือง ชุมชน และวัดล่ามช้าง โดยได้รับเกียรติจาก อาจารย์ภูเดช แสนสา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์อาสาในการนั่งรถเขียวชมเมืองคาร์บอนต่ำ ชมนิเวศประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่
เชียงใหม่ ผู้บัญชาการสำนักตรวจคนเข้าเมือง เปิดการอบรมผู้ประกอบการและนายจ้าง จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับให้ความรู้การตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล(คลิป
ผู้บัญชาการสำนักตรวจคนเข้าเมือง เปิดการอบรมผู้ประกอบการและนายจ้าง จังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับให้ความรู้การตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล สำหรับคนต่างด้าว 4 สัญชาติ ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ตามมติคณะรัฐมนตรี 24 กันยายน 2567
ที่ห้องประชุม รวงข้าว โรงแรมสมายด์ ล้านนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผู้บัญชาการสำนักตรวจคนเข้าเมือง เป็นประธานเปิดการอบรม ให้ความรู้การตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล สำหรับคนต่างด้าว 4 สัญชาติ มีกัมพูชา ลาว เมียนมาและเวียดนาม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ให้กับผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพันตำรวจเอก สุรชัย เอี่ยมผึ้ง ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ กล่าวรายงาน ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 เรื่องการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ ศ 2567 ซึ่งเห็นชอบการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว 2 กลุ่ม ได้แก่ การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 4 สัญชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และการต่ออายุใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว 4 สัญชาติ ที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสาร ที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ได้รับทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ในลักษณะ MOU
โดยขอความร่วมมือ นายจ้างและผู้ประกอบการ นำคนต่างด้าวไปจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล กับตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดโดยเร็ว ส่วนการต่อวีซ่าให้กับแรงงานต่างด้าว อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน ที่กระทรวงแรงงานกำหนด และปัจจุบันมีข่าวเกี่ยวกับการมอบอำนาจให้ตัวแทน หรือเอเจนซี่ ไปดำเนินการติดต่อ กับกระทรวงแรงงาน เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนั้น โดยชี้แจงว่าในส่วนขั้นตอน ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดที่เกินจากค่าธรรมเนียม ที่ทางราชการกำหนดไว้ และปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นตอน และหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งยังได้ขอความร่วมมือนายจ้างและผู้ประกอบการข้อมูลการรับคนต่างด้าวที่เข้าพักอาศัยภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อสืบสวนติตดามหากคนต่างด้าวกระทำความผิด
การอบรมในวันนี้ เพื่อให้นายจ้างและผู้ประกอบการได้รับทราบและเข้าใจแนวทาง การดำเนินการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วนและเกิดความสะดวก รวดเร็วแก่นายจ้างผู้ประกอบการการและเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้จัดการอบรมให้ความรู้การตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลสำหรับคนต่างด้าว 4 สัญชาติ
เชียงใหม่ อดีตอาจารย์มจร.เชียงใหม่ มอบพระธาตุเม็ดข้าวสารที่ได้รับมรดกตกทอดจากบิดา ให้กับวัดศรีปิงเมือง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อนำไปประดิษฐานคู่กับ พระพุทธรูปหลวงพ่อลอ(คลิป)
อดีตอาจารย์มจร.เชียงใหม่ มอบพระธาตุเม็ดข้าวสารที่ได้รับมรดกตกทอดจากบิดา ให้กับวัดศรีปิงเมือง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา เพื่อนำไปประดิษฐานคู่กับ พระพุทธรูปหลวงพ่อลอ ที่หายไปนานถึง 36 ปี และไปพบอยู่ในต่างประเทศ ขณะนี้นำกลับประเทศไทยแล้ว อยู่ระหว่างกรมศิลปากรดูแล และทางกรมศิลปากร จะส่งคืนพระพุทธรูป ให้ในวันที่ 15 มกราคม 2568 ทำให้ชาวบ้านพากันดีใจ ที่จะได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กลับมาพร้อมกัน
ที่บ้านพัก นายพรศิลป์ รัตนชูเดช อายุ 73 ปี ชาวบ้านนันทาราม จังหวัดเชียงใหม่ อดีตอาจารย์สอน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ทำพิธีอาราชธนา ส่งมอบพระธาตุเม็ดข้าวสาร ที่ได้รับมรดกตกทอดมาจากบิดา มอบให้กับนาย ผดุง วงค์กา นายกเทศมนตรีตำบลเมืองลอ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา พร้อมกับพระใบฎีกา ณัฐพล อติภัทโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดศรีปิงเมือง อำเภอจุน เพื่อนำกลับไปประดิษฐาน วัดศรีปิงเมือง ซึ่งเป็นวัดในเขตโบราณสถานในเมือง ลอ เมืองโบราณอายุกว่า 1,100 ปี
ทั้งนี้ นายพรศิลป์ บอกว่า ตนเองได้รับมรดกตกทอดพระธาตุฯต่อมาจากบิดา และทราบว่าพระธาตุ ที่มีในความครอบครอง ได้มาจากวัดร้าง ซึ่งอยู่ในเขตเมืองโบราณเมืองลอ จนกระทั่งทราบว่า วัดศรีปิงเมือง ที่มีพระพุทธรูป หลวงพ่อลอ ปางมารวิชัย สิงห์ 3 เนื้อสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 78 เซนติเมตร สูง 110 เซนติเมตร ที่หายไปจากวัดศรีปิงเมือง อำเภอจุน เมื่อปี 2531 หรือ 36 ปีที่ผ่านมา และมีคนไทยไปพบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ในสถานที่ประมูลโบราณวัตถุ ในยุโรป ประเทศสวิตเซอแลนด์ หน่วยงานต่างๆรวมทั้ง ส ส. จังหวัดพะเยา จึงได้มีการประสานงาน กับผู้ครอบครอง นำกลับสู่ประเทศไทย
และขณะนี้ทางกรมศิลปากร ได้ดำเนินการตรวจพิสูจน์ รูปแบบศิลปกรรม และวิธีทางวิทยาศาสตร์ พบว่าเป็นพระพุทธรูปของจริง ที่ถูกโจรกรรมไป เมื่อ 36 ปีก่อน จากวัดศรีปิงเมือง แต่ได้มีการกะเทาะปูนภายนอกออก เห็นแต่เนื้อสัมฤทธิ์ ขณะนี้ยังเก็บรักษาไว้ที่ กรมศิลปากร และทางกรมศิลปากร จะมีการมอบคืน ให้กับวัดศรีปิงเมือง ในวันที่ 15 มกราคม 2568 และตนเองทราบข่าว ก็ได้มอบพระธาตุฯ ให้กับวัดศรีปิงเมือง ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างพากันดีใจ ที่จะได้พระพุทธรูป และพระธาตุ กลับคืนสู่เมืองลอ และจะมีการเฉลิมฉลองสมโภช ในวันที่ 17 มกราคม 2568
เชียงใหม่ บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ วันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก(คลิป)
บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้ง นายก อบจ.เชียงใหม่ วันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก 2 บ้านใหญ่ พร้อมใจ ส่งผู้สมัครลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.เชียงใหม่ อย่างดุเดือด
เช้าวันนี้ (23 ธ.ค. 67) บรรยากาศการรับสมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ และ ส.อบจ.เชียงใหม่ ทั้ง 42 เขต ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดากองเชียร์จากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนต่างมารอเชียร์ผู้ลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่กันแต่เช้า โดยก่อนเวลา 08.30 น. ที่ผ่านมา นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตนายก อบจ. คนก่อน ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย และนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคประชาชน ได้เดินทางมารอเพื่อลงสมัครตั้งแต่เช้า ซึ่งการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ถือเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก เนื่องจากบ้านใหญ่ทั้งสองหลังต่างส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งเก้าอี้นายก อบจ. ซึ่งคาดว่าจะขับเคี่ยวสูสีกันอย่างแน่นอน
ต่อมาในเวลา 08.30 น. นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร และนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ได้เดินทางเข้ามาสมัครรับเลือกตั้งฯ โดยทั้งคู่ไม่สามารถตกลงลำดับกันได้ จึงต้องทำการจับสลากเบอร์พรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง ซึ่งผลการจับสลาก นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ได้หมายเลข 1 ส่วนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ได้หมายเลข 2 หลังจากนั้นหลังเวลา 08.30 ก็ได้มี พลตรี ดร.พนม ศรีเผือด ผู้สมัครอิสระ อดีต ผอ.กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ เพิ่มอีกหนึ่งคน เป็นผู้สมัครหมายเลข 3 ทำให้การเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายก อบจ.เชียงใหม่ ในครั้งนี้ ล่าสุดมีผู้ลงสมัครทั้งหมด 3 คน
โดยหลังจากการได้หมายเลขแล้ว ผู้สมัครแต่ละรายได้พบปะมวลชนผู้สนับสนุน ที่มารอต้อนรับ และส่งเสียงเชียร์ดังสนั่น รวมถึงเตรียมลงพื้นที่พบปะประชาชน ออกหาเสียง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก และสนุกสนานเป็นอย่างมาก
ด้าน นายมงคล สุขใส ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเต็มที่ทั้งในด้านความปลอดภัยและการเตรียมความพร้อมในวันเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และขอให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พร้อมทั้งช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับการเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคประชาชน ระบุว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ไม่หนักใจแต่อย่างใด ซึ่งพรรคประชาชนมีแนวนโยบายในการปฏิรูป อบจ.เพื่อทุกคน อยู่แล้ว ส่วน นายพิชัยเลิศพงศ์ อดิศร ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ก็ระบุว่า ตนเองพร้อมทำหน้าที่ต่อเนื่องจากเดิม และมั่นใจ ผู้สมัคร ส.อบจ.ของพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมทำงานต่อเนื่องทันทีเช่นกัน ส่วนกรณีที่พรรคประชาชนมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่มากกว่านั้น ตนเองคิดว่าต้องทำงานหนัก เพื่อให้ได้คะแนนเสียงของประชาชน
เชียงใหม่ นายอำเภอดอยสะเก็ด แถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลอาวุโส วีระชาติคัพครั้งที่ 2 (คลิป)
นายอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลอาวุโส วีระชาติคัพครั้งที่ 2 โดยร่วมกับอำเภอดอยสะเก็ด ชิงถ้วยผู้ว่า ราชการจังหวัดเชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม2567 ที่ว่าการอำเภอดอยสะเก็ด นายจักรินทร์ สิรินทรภูมิ นายอำเภอดอยสะเก็ด เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานการแข่งขันฟุตบอลอาวุโส วีระชาติคัพ ครั้งที่ 2 โดยปีนี้ได้ ทางทีมฟุตบอลวีรชาติคัพ FC ได้ร่วมกับ ทางอำเภอดอยสะเก็ด จัดการแข่งขัน ฟุตบอลรุ่นอาวุโส วีระชาติคัพ ครั้งที่ 2 ชิงถ้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนดการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป ณ สนามฟุตบอลเขื่อนแม่กวงอุดมธารา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
โดยจัดการแข่งขันจำนวน 1 รุ่น คือรุ่นอายุ 50 ปี ขึ้นไป โดยมี 12 ทีม เข้าร่วม และแบ่งสายเป็น 4 สาย พบกันหมด ใช้ผู้ตัดสินจาก สมาคมผู้ตัดสินแห่งประเทศไทย ตลอดการแข่งขัน ซึ่งวันนี้ เป็นวันแถลงข่าว การแข่งขันศึกฟุตบอล วีระชาติคัพ ครั้งที่ 2 ชิงถ้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เเละแถลงข่าว เปิดการแข่งขัน อย่างเป็นทางการ และจะได้มีการจับฉลากแบ่งสาย ในวันนี้
การแข่งขันในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ นักฟุตบอลอาวุโสมีกิจกรรมด้านกีฬาร่วมกัน ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์กับสุขภาพร่างกาย และพัฒนากีฬาฟุตบอลในท้องถิ่นให้มีมาตรฐานสูงขึ้น
เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จัดพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธรูปปางประทานพระเกศาธาตุและประทับรอยพระบาท และ ยกฉัตรทองคำ(คลิป)
วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จัดพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธรูปปางประทานพระเกศาธาตุและประทับรอยพระบาท และ ยกฉัตรทองคำ ขึ้นประดิษฐานภายในพระมหาเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทเมืองโยนก เป็นสิริมงคลแก่ทางวัดและพุทธศาสนิกชน
วันนี้ (21 ธ.ค. 67) นางฐาปนา รักติประกร รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันประกอบพิธีอัญเชิญองค์พระพุทธรูปปางประทานพระเกศาธาตุและประทับรอยพระบาท ขึ้นบนแท่นประดิษฐาน และ พิธียกฉัตรทองคำ ขึ้นประดิษฐานบนยอดมณฑปไม้สักทอง ภายในพระมหาเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทเมืองโยนก วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมี พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา ราชวรวิหารเป็นประธานฝ่ายสงฆ์
สำหรับรอยพระพุทธบาทแห่งนี้สันนิษฐานกันว่า มีมาพร้อมกับเส้นพระเกศาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในพระเจดีย์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ตามตำนานที่ปรากฏคู่มากับวัดว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมา ณ ดอยแห่งนี้ ขณะนั้นมีพญานาคสองตนได้แปลงร่างเป็นมนุษย์แล้วนำดอกบัวจากหนองชัวหน้าดอยทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมาถวายพระพุทธองค์ และสถานที่ถวายดอกบัวนั้นน่าจะเป็นจุดที่พระพุทธองค์ได้ทรงอธิษฐานประทับรอยพระบาทไว้ด้วย
โดยรอยรอยพระพุทธบาทเมืองโยนกที่พบบนยอดดอยสะเก็ด ที่ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นั้น เป็นรอยพระพุทธบาทแห่งที่ 4 จากรอยพระพุทธบาทสำคัญ 5 แห่งที่ปรากฏอยู่ตามประวัติโบราณ เป็นรอยพระพุทธบาทคู่ ขนาดใหญ่กว่าคนปกติเล็กน้อย ความยาวประมาณ 31 ซม. พระบาทข้างซ้ายเหลื่อมไปทางข้างหน้าเล็กน้อย ปลายพระบาททั้งคู่หันหน้าตรงไปทางทิศตะวันออก เป็นรอยพระพุทธบาทที่เหมือนจริงที่สุด เมื่อตรวจสอบตามสเกลพบว่ามีขนาดใกล้เคียงความสูงกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในรอยพระบาทนั้นนอกจากจะมีดวงตราพระธรรมจักรแล้ว ยังมีลายเอ็นเส้นก้านใบบัวปรากฏอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดูและรักษารอยพระบาทนี้ไว้ ทางจังหวัดเชียงใหม่และทางรัฐบาลไทย โดยกระทรวงมหาดไทย จึงได้ถวายที่ตรงนี้ให้กับทางวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เพื่อสร้างพระมหาเจดีย์และพลับพลามณฑปครอบรอยพระพุทธบาทในเมืองโยนกนี้ไว้ เพื่อให้เป็นปูชนียสถานสำคัญและให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา โดยได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2561 มาจนถึงปัจจุบันซึ่งใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ภายใต้งบประมาณกว่า 120 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ (21 ธ.ค. 67) เป็นการครบรอบ 6 ปี ของการก่อสร้าง