ลำพูน จังหวัด​ลำพูนเตรียมเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ Lamphun Story Telling ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและการท่องเที่ยว (คลิป)

จังหวัดลำพูน เตรียมเปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ “Lamphun Story Telling” ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นและ การท่องเที่ยวจังหวัดลำพูนเปิดตัวโครงการ “Lamphun Story Telling” ที่มุ่งพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน โดยเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวลำพูนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ ด้วยเป้าหมายในการสร้างการรับรู้และขยายตลาดการท่องเที่ยวจากเมืองรองสู่เมืองหลักในภาคเหนือของไทย

วันนี้(4 กพ.68) เวลา 17.00 น. ที่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานแถลงข่าว กิจกรรมสรุปการดำเนินกิจกรรมพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน ภายใต้โครงการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาเชิงสร้างสรรค์ Lamphun Sport Tourism Wellness Thailand

นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวถึงความพร้อมและศักยภาพของจังหวัดในการรองรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับจังหวัดใกล้เคียงอย่างเชียงใหม่ ลำปาง และเชียงราย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของภาคเหนือ ลำพูนเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,348 ปี มีทั้งวัดวาอาราม สถาปัตยกรรมล้านนา และประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเปิดโอกาสให้สามารถพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ


นางเกศกนก เดชมา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน กล่าวถึงการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว “Lamphun Story Telling” โดยเส้นทางต่างๆ จะมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ได้แก่
​​1. เส้นทางหัตถกรรมและศิลปวัฒนธรรม: “สัมผัสศิลป์พื้นถิ่นลำพูน” ที่จะพานักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมงานฝีมือพื้นบ้านและผ้าทอฝ้ายลำพูน
​​2. เส้นทางธรรมชาติและการผจญภัย: “ผจญภัยในอ้อมกอดธรรมชาติลำพูน” สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและธรรมชาติ
​​3. เส้นทางไลฟ์สไตล์สบายๆ: “Easy Day in Lamphun – ผ่อนคลายสไตล์ลำพูน” ที่เหมาะกับการพักผ่อนและสำรวจวิถีชีวิตท้องถิ่น
​​4.เส้นทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมประเพณี: “สะท้อนความเป็นลำพูน” ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสประวัติศาสตร์และศาสนสถานสำคัญ


การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนผ่านการเชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชนและการสร้างการรับรู้จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถในการตลาดและการบริการในชุมชนท่องเที่ยว รวมถึงการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปยังชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน “Lamphun Story Telling” จะช่วยสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่สนุกสนานและ เบิกบานใจ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตแบบลำพูนที่ยังคงความสงบเรียบร้อยและความเป็นมิตรอย่างยั่งยืน

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: Lamphun Story Telling หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน

เชียงใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด โครงการ “English We Like” เปิดการติวสอนภาษาอังกฤษผ่านข้อสอบของปีที่ผ่าน ๆมา(คลิป)

รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด โครงการ “English We Like” เป็นการเปิดการติวสอนภาษาอังกฤษผ่านข้อสอบของปีที่ผ่าน ๆมา เป็นการสื่อสารเทคนิค การพูดภาษาอังกฤษและคำศัพท์ เพิ่มพูนความรู้และเพื่อเป็นแนวทางนำไปใช้ในการทำข้อสอบสำหรับเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย พร้อมมอบทุนการศึกษาส่วนตัว ให้กับนักรียน ที่เรียนดีประพฤติตัวดี และยากจน จำนวน 10 ทุน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการเล่าเรียนต่อไป

 

วันนี้(4 กพ.68) เวลา 13.00 น. ที่หอประชุม 84 ปี โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิด โครงการ “English We Like” โดยมี ผู้อำนวยการ คณะครูโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ วิทยากร นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ เข้าร่วมในพิธี

นาย กฤตภัค สุธนวรกุล ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป กล่าวว่า การจัดโครงการ “English We Like” เป็นการติวสอนภาษาอังกฤษผ่านข้อสอบของปีที่ผ่าน ๆมา เป็นการสื่อสารเทคนิค การพูดภาษาอังกฤษและคำศัพท์ เพิ่มพูนความรู้และเพื่อเป็นแนวทางนำไปใช้ในการทำข้อสอบสำหรับเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศสามารถเข้าร่วม ติวกับโครงการได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทยมาเป็นปีที่ 17 แล้ว นับเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการติว เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ทุกคนจะมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมที่มีคุณค่า ภายใต้บรรยากาศ ที่สนุกสนานแนวคิด เทคนิคต่าง ๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งการพูด การฟัง การอ่านและการเขียน การทดลองทำข้อสอบของปีที่ผ่านมา ต่อไป

นอกเหนือจากในบทเรียน และนอกห้องเรียน เพื่อส่งเสริม ให้เด็กมีเทคนิคในการทำข้อสอบ TGAT เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เพื่อให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการ มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ทักษะภาษาอังกฤษในการสื่อสารและฝึกให้มีความกล้าในด้านการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดในอนาคตต่อไปโครงการ ” English We Like ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ โดยการนำติวเตอร์มืออาชีพมาแนะนำเทคนิคการข้อสอบ และแนะนำคำศัพท์ต่างๆ โดยนำข้อสอบปีที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างสอนเทคนิคการทำข้อสอบ TGAT-Eng เพื่อให้น้องๆนักเรียนได้นำไปใช้ใน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยได้รับการสนับสนุนในการจัดโครงการในครั้งนี้จาก บริษัท วินคอลมาเก็ตติ้ง จำกัด บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ (มหาชน)จำกัด บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ (มหาชน)จำกัด บริษัท คาลบี้ธนาวัธน์ จำกัด จำกัด บริษัท เซ็ปเป้จำกัด (มหาชน) บริษัท นิวเวฟ เอเชีย จำกัด บริษัท ยาดี จำกัด บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ปวีณ์มล จำกัด (KA)

จากนั้น นายกฤตถัด สุธนวรกุล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จำกัด จะได้มีการมอบทุนการศึกษาส่วนตัว ให้กับนักรียน ที่เรียนดีประพฤติตัวดี และยากจน จำนวน 10 ทุน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการเล่าเรียนต่อไป

เชียงใหม่ ผบช.ภ.5 แถลงข่าวการจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่ 3 คดี (คลิป)

ผบช.ภ.5 แถลงข่าวการจับกุมคดีสำคัญในพื้นที่ 3 คดี จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น / จับกุมผู้ต้องหาคดีค้าประเวณีเด็ก และ. ผลการปฏิบัติการจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการหยุดฝุ่น PM 2.5

วันนี้(3 กพ.68) ที่ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ชั้น 2 อาคารตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 แถลงข่าว จับกุมคดีสำคัญในพื้นที่ 3 คดี จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น / จับกุมผู้ต้องหาคดีค้าประเวณีเด็ก และผลการปฏิบัติการจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการหยุดฝุ่น PM 2.5

คดีที่ 1 จับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 3 ก.พ.68 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมตัวนายวงค์ตะวัน หรือหนึ่ง อายุ 35 ปี บ้านอยู่ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุม”

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากช่วงหัวค่ำวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวญี่ปุ่น อายุ 63 ปี กำลังเดินท่องเที่ยวชมเมืองในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ จากนั้นมีคนร้ายขับรถจยย.มาประกบแล้วกระชากกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น จนล้มได้รับบาดเจ็บก่อนชิงเอากระเป๋าที่มีเงินสดจำนวน 1,500 บาท เอกสารสำคัญหลายอย่างและโทรศัพท์มือถือก่อนหลบหนีไป หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตรวยสอบกล้องวงจรปิดและสามารถตามจับนายวงค์ตะวัน ได้ที่บ้าน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตกงาน ไม่มีเงินจึงก่อเหตุขึ้น โดยในอดีตคนร้ายเคยมีประวัติ ลักทรัพย์ และยาเสพติดติดคุกเข้าออกหมายครั้ง

คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาคดีค้าประเวณีเด็กพล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค5 ได้แถลงทลายเครือข่ายลักลอบขายประเวณีเด็ก โดยทางชุดสืบสวยภาค5 ได้รับแจ้งในโลกออนไลน์ว่ามีการโพสต์ว่ามีเด็กรับงานnv ซึ่งหมายความว่ารับงานดูแลและจบที่การมีเพศสัมพันธ์ รับงานในเชียงใหม่คนละ 3,500 บาท ทางเจ้าหน้าจึงปลอมตัวเข้าไปติดต่อ ล่อชื้อ จำนวน 3 คนที่โรงแรมม่านรูดในพื้นที่อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ต่อมาได้มีเด็กสาว อายุ 14 สองคน และอายุ 16 หนึ่งคน เข้าที่โรงแรมม่านรูดพร้อมขอรับเงินค่างาน ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมทั้งหมดไว้ ก่อนนำตัวมาให้สหวิชาขีพสอบสวน

โดยกลุ่มเด็กทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าทำงานแบบนี้มานานมีลูกค้าทั้งข้าราชการ นักท่องเที่ยวมากมายที่เคยมาร่วมหลับนอน สาเหตุที่ทำเพื่อหาเงินไว้กินเที่ยวตอนกลางคืน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการจับกุมไปภึงกลุ่มคนชื้อบริการเพื่อขยายผลการกระทำผิดต่อผู้มาใช้บริการกับเด็กต่อไป

คดีที่ 3 ผลการปฏิบัติการจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการหยุดฝุ่น PM 2.5 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่าจากนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะปัญหาการลักลอบเผาหาของป่า ที่เป็นจุดเริ่มของปัญหา โดยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ได้มีการดำเนินนโยบาย ตรวจสอบยานพาหนะที่ปล่อยควันดำ การตรวจสอบโรงงานและสถานที่ก่อสร้าง การควบคุมการเผา

สำหรับในพื้นที่ ตร.ภาค 5 ได้มีการเร่งดำเนินการทุกข้อสั่งการโดยผลการดำเนินการได้มีการตรวจสอบยานพาหนะมลพิษควันดำ ตรวจสอบยานพาหนะจำนวน 2,684 ครั้งโดยแบ่งเป็นรถขนส่ง 279 ครั้ง รถโดยสาร 244 ครั้ง และรถยนต์และรถจักยานยนต์อีก 2,100 ครั้ง ด้านการลักลอบเผาเรามีการจับกุมจำนวน 47 ครั้งในห้วง 4 วันที่ผ่านมานี้ และให้ตำรวจทุกพื้นที่ออกให้คำแนะนำประชาชนอยูสม่ำเสมอ ด้านโรงงานต่างๆได้มีการออกตรวจสอบไม่ให้มีการปล่อยมลพิษอยู่เป็นประจำ ซึ่งทุกมาตราการจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อลดปัญหามลพิษในปีนี้ให้ได้ ซึ่งพื้นที่เชียงรายประกาศห้ามเผา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 จนถึงวันที่ 31 พ.ค.68, เชียงใหม่ 1 ม.ค.จนถึง 15 พ.ค.68, น่าน 15 ม.ค.จนถึง 30 เม.ย.68, พะเยา 20 ก.พ.จนถึง 20 เม.ย.68, แพร่ 15 ก.พ.จนถึง 30 เม.ย.68, แม่ฮ่องสอน 1 ก.พ. จนถึง 30 เม.ย.68, ลำปาง 1 ม.ค. จนถึง 15 พ.ค.68 และลำพูน 1 ม.ค.จนถึง 30 เม.ย.68

เชียงใหม่ โค้งสุดท้าย “มาดามหยก” หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ ขอเลือกสนับสนุน พล.ต.ดร.พนม ศรีเผือก ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ เบอร์ 3 (คลิป)

“มาดามหยก” หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ ให้สัมภาษณ์ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นายกองการบริการส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 1 กพ.68 ที่จะถึงนี้ ขอเลือกสนับสนุน พล.ต.ดร.พนม ศรีเผือก ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 3

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้( 31 มค.68) น.ส.กชพร เวโรจน์ หรือ “มาดามหยก” หัวหน้าพรรคก้าวอิสระ ให้สัมภาษณ์ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง นายกองการบริการส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 1 กพ.68 ที่จะถึงนี้ ว่า ตนเองได้เลือกสนับสนุน พล.ต.ดร.พนม ศรีเผือก ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 3 เพราะพรรคก้าวอิสระมีสมาชิกอยู่แล้วในทุกๆจังหวัด การที่ออกมาสนับสนุน พล.ต.ดร.พนม ศรีเผือก ก็ต้องการอยากให้ประชาชนมีทางเลือกมากกว่าที่ผ่านมา และเนื่องจากว่าตนเองเป็นคนชาวเชียงใหม่ และพรรคก้าวอิสระ สำนักงานให้ญก็อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพรรคคนเชียงใหม่เพื่อคนเชียงใหม่โดยแท้จริง และเห็นว่ามีผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ หมายเลข 3 ที่ว่าเป็นทางเลือกพอดีเผื่อคนที่อยากจะโนโวสก็เป็นสิทธิ์ของพวกท่าน ถ้าถามว่าจะมาแข่งเพื่ออีก 2 พรรคหรือไม่นั้น ตนเองไม่เคยแข่ง ตนไม่อยากจะพูดว่าคนรุ่นใหม่ จะต้องเป็นคนกำหนดชะตาประเทศหรือกำหนดชะตาเชียงใหม่ แต่มองว่าทุกเพศทุกวัย อยากให้เป็นอิสระไม่ต้องแข่งกันใครเลย แต่การเมืองก็เป็นการแข่งขันไปในตัว ต้องดูคะแนนว่าชาวบ้านเค้าอยากเปลี่ยนหรือเปล่า เปลี่ยนจากสีแดง สีส้ม มาเป็นสีรุ้งดูบ้าง

เชียงใหม่ ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงใหม่ เผยผลการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบพรีเมียม มุ่งยกระดับเชียงใหม่สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง(คลิป)

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ เผยผลการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบพรีเมียม มุ่งยกระดับเชียงใหม่สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง

วันนี้ (23 ม.ค. 68) ที่โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ในนามของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมร่วมรับฟังแถลงสรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบพรีเมียมเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวมุ่งสู่การสร้างโอกาสทางธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรมหลักที่ 1 กิจกรรมประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี ยกระดับการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ที่สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ และภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมการตลาดและเจรจาธุรกิจกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว บูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายในประเทศกับภูมิภาคอื่นๆ

ด้านนายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้ ใช้ชื่อกิจกรรมว่า “เชียงใหม่พรีเมียมเน็ตเวิร์ค ประสบการณ์เหนือระดับ“ โดยได้มีการดำเนินกิจกรรมดังนี้ คือดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เตรียมการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบพรีเมียมเพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวมุ่งสู่การสร้างโอกาส ได้ดำเนินการเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2567 ขณะเดียวกันได้จัดกิจกรรมท่องเที่ยว เพื่อประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวคุณภาพสูงเชื่อมโยงตลาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย หรือ Fam Trip จำนวน 2 ครั้ง คือครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. – 1 ธ.ค. 2567 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 17 – 19 ม.ค. 2568 นอกจากนี้ยังดำเนินการจัดกิจกรรม Networking Dinner เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 ที่โรงแรมรติล้านนา รีสอร์ท และจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ผ่าน Influence, Tikkoker, Blocker ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวจากภาคต่างๆ กันเป็นจำนวนมาก

เชียงใหม่ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดงานอัตลักษณ์วิถี “ประเพณีกินข้าวใหม่”(คลิป)

 “วราวุธ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดงานอัตลักษณ์วิถี “ประเพณีกินข้าวใหม่” ภูมิปัญญาดั้งเดิม ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน ขอบคุณธรรมชาติที่ให้ผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์ และแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ ที่บันดาลให้มีความมั่นคงทางอาหาร

วันนี้(17 มค.68) ที่บริเวณพิพิธภัณฑ์เรียนรู้ราษฎรบนพื้นที่สูง สวนล้านนา ร.9 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิด “มหกรรมสืบสาน รักษา อัตลักษณ์วิถี ประเพณีกินข้าวใหม่ราษฎรบนพื้นที่สูง” โดยมีนายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิศุทธ์ พิศุทธกุล รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ กลุ่มชาติพันธุ์ 10 ชาติพันธุ์และประชาชนชาวเชียงใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

“มหกรรมสืบสาน รักษา อัตลักษณ์วิถี ประเพณีกินข้าวใหม่ราษฎรบนพื้นที่สูง” เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูง และยังการเผยแพร่ รักษา อัตลักษณ์วิถี ภูมิปัญญาของราษฎรบนพื้นที่สูง ในการการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างมิติความมั่นคงทางอาหาร เผยแพร่วัฒนธรรม “ประเพณีกินข้าวใหม่” ของราษฎรบนพื้นที่สูง (กลุ่มชาติพันธุ์) เพื่อเป็นการขอบคุณธรรมชาติที่ให้ผลผลิตอันอุดมสมบูรณ์ และแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ รวมทั้งเป็นการท่องเที่ยวแบบอัตลักษณ์เสน่ห์วิถีชีวิตของราษฎรบนพื้นที่สูงของ 10 กลุ่มชาติพันธุ์ ได้แก่ กะเหรี่ยง ม้ง เมี่ยน ลีซู ลาหู่ อาข่า มลาบรี ถิ่น ขมุ ลัวะ และชาติพันธุ์อื่น ๆ ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและเรียนรู้กับภูมิปัญญาดั้งเดิม ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน รวมทั้งเป็นช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มชาติพันธุ์

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมมากมาย อาทิ การจัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรบนพื้นที่สูง และความมั่นคงทางอาหารในชุมชนบนพื้นที่สูง การจัดแสดงบ้านจำลองวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ บูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าราษฎรบนพื้นที่สูงกว่า 50 ร้านค้า กิจกรรมประกวดการปรุงอาหาร การประกวดผลิตภัณฑ์สินค้าจากผ้าทอราษฎรบนพื้นที่สูง กิจกรรมสาธิตการผลิตสินค้าอาหารชุมชนบนพื้นที่สูง (Workshop) รวมทั้งกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจผลิตภัณฑ์ชุมชนบนพื้นที่สูง (Business Matching) และอีกไฮไลต์ของงาน คือ การแสดงแฟชั่นโชว์นำเสนอผลิตภัณฑ์ผ้าทอจากกลุ่มชาติพันธุ์ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย โดยจัดกิจกรรมระหว่างวันที่ 17 – 19 มกราคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์เรียนรู้ราษฎรบนพื้นที่สูง (สวนล้านนา ร.9) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่.

เชียงใหม่ ประธานสภา ทต.ดอยสะเก็ด ยื่นหนังสือติดตามผล กรณีร้องนายก ทต.ดอยสะเก็ด ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ (คลิป)

ประธานสภา ทต.ดอยสะเก็ด ยื่นหนังสือติดตามผล กรณีร้องนายก ทต.ดอยสะเก็ด ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 ที่อำเภอดอยสะเก็ด นายธีระพงษ์ ศรีนุ ประธานสภาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด พร้อมด้วยสมาชิกสภาฯ พร้อมด้วยกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เดินทางยื่นหนังสือติดตามผลการดำเนินการสอบสวน นายพณานนท์ สุนตาอินทร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด ต่อนายจักรินทร์ สิรินทรภูมิ นายอำเภอดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ขอทราบผลการดำเนินการการสอบสวน ที่สมาชิกสภาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด ที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นายพณานนท์ สุนตาอินทร์ นายกเทศมนตรี ในคดีอาญาฐานความผิดลักทัพย์ในสถานที่ราชการโดยใช้ยานพาหนะ ความเสียหายซุ้มประตูหลังคาหน้าทางเข้า บ้านลวงใต้ หมู่ 4 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 2 ซุ้ม บัดนี้ข้าพเจ้าและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด ได้รับหนังสือจากทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งตอบกลับตามที่ร้องเรียนมาใจความว่า

“จากพฤติกรรมดังกล่าว จังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาแล้วเห็นว่านายพณานนท์ สุนตาอินทร์มีพฤติการณ์เป็นการจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง ปฏิบัติไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงได้แจ้งนายอำเภอดอยสะเก็ดในฐานะ ผู้รับมอบอำนาจจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งจังจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 3105/2562 เรื่องมอบหมายให้ปฏิบัติราชการแทนตามมาตรา 71 วรรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 14) พศ. 2562 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ดำเนินการสอบสวนนายพณานนท์ สุนตาอินทร์ นายกเทศมนตรีตำบลดอยสะเก็ด ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 และที่แก้ไขเพิ่มมาตรา 73 ประกอบกฎกระทรวงการสอบสวนผู้ดำรงตำแหน่งบางตำแหน่ง ในเทศบาล พ.ศ.2563 ข้อ 3 ต่อไปแล้ว ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าประการใด จังหวัดเชียงใหม่จะรายงานให้ทราบต่อไป”

นายธีระพงษ์ ศรีนุ ประธานสภาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด พร้อมด้วยสมาชิกสภาฯ เห็นว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานพอสมควรแล้ว และมีพี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนสอบถามความคืบหน้ามาเข้ามามากมาย จึงเดินทางมาขอสอบถามการดำเนินการสอบสวนตามที่จังหวัดได้ทำหนังสือมายังสมาชิกสภาเทศบาลตำบลดอยสะเก็ด ที่ได้มอบหมายให้ทางนายอำเภอดอยสะเก็ด ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่าผลการดำเนินการสอบสวนดำเนินคืบหน้าไปถึงไหนอย่างไรเพราะว่าเรื่องเกิดมาเกือบ 2 ปีแล้วแต่ยังไม่ทราบความคืบหน้าของทางอำเภอได้ดำเนินการไปอย่างไร

โดยนายจักรินทร์ สิรินทรภูมิ นายอำเภอดอยสะเก็ดได้มอบหมายให้ นายอนุพงษ์ ขัติยะ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร เข้ารับหนังสือร้องเรียนและติดตามผลการดำเนินการสอบสวน พร้อมยื่นขอทราบผลการดำเนินงานภายใน 15 วัน พร้อมจะเดินทางมาติดตามผลอีกครั้งหนึ่ง

เชียงใหม่ ชนเผ่าลาหู่บ้านป่าไม้แดง อำเภอดอยสะเก็ด เต้นจะคึ ต้อนรับปีใหม่ 2568 (คลิป)

ชนเผ่าลาหู่บ้านป่าไม้แดง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เต้นจะคึ (กินวอ) เปลี่ยนศักราชใหม่ ต้อนรับปีใหม่ 2568

อนุรักษ์ประเพณี ต้อนรับปีใหม่เปลี่ยนศักราชใหม่ ชนเผ่าลาหู่ บ้านป่าไม้แดง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลากหลายหมู่บ้านในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด และ ใกล้เคียง ที่เป็นชนเผ่าลาหู่ จะมารวมตัวกันที่หมู่บ้านป่าไม้เเดง เเต่ละคนแต่งตัวด้วยชุดชนเผ่าอย่างสวยงาม เพื่อเฉลิมฉลอง วันขึ้นปีใหม่ ของชนเผ่าลาหู่ ผู้นำชนเผ่าจะนำขบวน เต้นรำ โดยเต้นตามจังหวะการบรรเลง ของกองยาว ผู้ชาย จะมีท่าทางเต้นอีกแบบหนึ่ง ส่วนผู้หญิง ก็จะมีการเต้นอีกแบบหนึ่งโดยการเดินหน้าถอยหลังสะบัดขา จานเส้นนี้เรียกว่าการ เต้นจะคึ ซึ่งถือเป็นประเพณีสืบทอดต่อกันมา ช่วงพิธี ต้อนรับปีใหม่ สร้างสีสันให้กับนักท่องเที่ยวภายในงาน ต้อนรับปีใหม่

เชียงใหม่ เคาท์ดาวน์โต้ลมหนาว ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมสถานม่อนพญานาคราช สวดมนต์ข้ามปี สร้างบารมีข้ามชาติ พร้อมจุดพลุปล่อยโคมลอยสวยงาม(คลิป)

เคาท์ดาวน์โต้ลมหนาว ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมสถานม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ สวดมนต์ข้ามปี สร้างบารมีข้ามชาติ จุดเทียนมหานาคบารมีเศรษฐีหมื่นล้าน เสริมดวงชะตา มีการจุดพลุและปล่อยโคมลอยกว่า 500 โคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างสวยงาม สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมา(31 ธค.67) ที่ ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมสถานม่อนพญานาคราชอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ พระครูบาชัยประสิทธิ์ภิกขุ เจ้าสำนักศูนย์ปฏิบัติธรรม ธรรมสถานม่อนพญานาคราช จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี สร้างบารมีข้ามชาติ จุดเทียนมหานาคารบารมีเศรษฐีหมื่นล้าน เสริมดวงชะตาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2568

ในการนี้มีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดและกลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมกิจกรรมหลายร้อยคน ร่วมทำพิธี สวดมนต์ข้ามปีและมีการจุดเทียนเสริมบารมี โดยเทียนที่นำมาจุด จะมีชื่อ แต่ละท่าน เขียนติดอยู่บริเวณเทียนที่จุด เพื่อเสริมดวงชะตา พร้อมร่วมกันสวดมนต์ข้ามปีร่วมกับพระภิกษุสงฆ์ สวดมนต์ จนถึงเวลาข้ามปี เปลี่ยนพุทธศักราชใหม่ 2568

จนถึงเวลา 00.00 นของวันที่ 1 มกราคม 2568 มีการจุดพลุและปล่อยโคมลอยกว่า 500 โคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างสวยงาม สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

เชียงใหม่ พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามสามัคคีมหากุศล สมทบทุนการสร้าง 3 พระอรหันต์แห่งโชคลาภ ทอดถวาย ณ วัดปางปอย อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่(คลิป)

พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนการสร้าง 3 พระอรหันต์แห่งโชคลาภ 1.พระสิวสี 2.พระอุปคุต 3.พระมหาสังกัจจายน์ ทอดถวาย ณ วัดปางปอย ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ที่วัดปางปอย ตำบลแม่คะ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ พระครูสุจิตตานุรักษ์ ดอกเตอร์(แก้ว ทนฺตจิตฺโต) เจ้าคณะอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานบุญทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล สมทบทุนการสร้าง 3 พระอรหันต์แห่งโชคลาภ 1.พระสิวสี 2.พระอุปคุต 3.พระมหาสังกัจจายน์ พิธีบวงสรวงเทพยดา โดยอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ พรหมขัติแก้ว(อ.ขาว) และ อาจารย์ศุภกิจ กิตติสกุลวงศ์

จากนั้นพระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ถวายผ้าปักสามัคดี พระสงน์อนุโมทบา เสร็จพิธี


ทั้งนี้ พระอาจารย์เพชร จนทวญโณ (เจ้าอาวาสวัดปางปอบ) พร้อมด้วยคุณพ่อสมโชค จันทร์ทอง/คุณแม่สุนีย์ ไซบธวัช/อาอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ พรหมขัติแก้ว(อ.ขาว)/อาจาจารย์ศุภกิจ กิตติสกุลวงค์และศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมจัดสร้าง 3 พระอรหันต์แห่งโชคลาภ คือพระสิวลี พระมหาสังกัจจายน์และพระอุปคุต ขนาดความสูง 3.9เมตร และแท่นฐานสูง 2 เมตร รวมความสูงเป็น 5.9 เมตร ประดิษฐานบนลานชั้น 3 อาคารปฏิบัติธรรมวัดปางปอย ต.แม่คะอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นที่กราบไหว้สักการะบูซาของเหล่าสำรชนทั้งหลายทุกสารทิศ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ของตำบลแม่คะ อำเภอฝาง ในโอกาสนี้จึงขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมสมทบทบทุนในการก่อสร้างในครั้งนี้ตามจิตศรัทธา และร่วมงานพิธี โดยพร้อมเพรียงกันหรือร่วมบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารธ.ก.ส.สาขาแม่สูน ชื่อบัญชี เงินบริจาควัดปางปอย เลขที่บัญชี 020230118840