เชียงใหม่ “ซีพีเอฟ”-“พันธมิตร-คู่ค้า” ร่วม “ต่อชีวิตช้างไทย” มอบอาหารช้างคุณภาพ สู่กลุ่มช้างเปราะบาง (คลิป)

‘ซีพีเอฟ-พันธมิตร-คู่ค้า’ ร่วม “ต่อชีวิตช้างไทย” มอบอาหารช้างคุณภาพ สู่กลุ่มช้างเปราะบาง ที่ปางช้างแม่สา

(16 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานที่ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารและเจ้าของปางช้างแม่สา ต้อนรับนายสุพงษ์ ลักษณ์ธนากุล ผู้บริหารเชียงใหม่ธนากุลกรุ๊ปและนายฤทธิชัย ภูมิอมร ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจอาหารสัตว์บก นายพูนศักดิ์ ทองพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจอาหารโค บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน และทีมงาน ร่วมกันมอบอาหารช้างเอราวัล จำนวน 150 ถุง

โดยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ สานต่อโครงการ “ต่อชีวิตช้างไทย” จับมือพันธมิตรและคู่ค้าอาหารสัตว์บกทั่วประเทศ ร่วมบริจาคแต้ม (Point) สมทบทุนซื้ออาหารช้าง ช่วยเหลือช้างกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัย ผนึกกำลังร้านเชียงใหม่ธนากุล ร่วมส่งมอบอาหารช้างเอราวัณ รวม 12 ตัน กระจายสู่ปางช้างแม่สา และปางช้างแม่แตง จ.เชียงใหม่ ตลอดจน สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ หรือโรงพยาบาลช้างลำปาง

นายฤทธิชัย ภูมิอมร ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจอาหารสัตว์บก ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟร่วมร้อยเรียงความดีเดินหน้าโครงการ “ต่อชีวิตช้างไทย” มอบอาหารคุณภาพให้ช้างอิ่มท้อง สร้างสุขภาพดี นับตั้งแต่วิกฤติช้างไทยในสถานการณ์โควิด-19 ที่บริษัทได้ส่งต่ออาหารช้างให้กับหลายหน่วยงานที่ช่วยเหลือช้าง จนถึงอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของช้างโดยตรง ซีพีเอฟในฐานะผู้ผลิตอาหารช้างที่มุ่งสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันร่วมกัน จึงจับมือพันธมิตรและคู่ค้าอาหารสัตว์บกทั่วประเทศ ขยายผลสร้างเครือข่ายช่วยเหลือช้าง แบ่งเบาภาระผู้เลี้ยงช้างกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบ ด้วยการส่งต่ออาหารที่เพียงพอ มีคุณค่าทางโกชนาการ ช่วยแก้ไขปัญหาภาวะทำโภชนาการให้กับช้างไทย

“โครงการ “ต่อชีวิตช้างไทย” เป็นนวัตกรรมทางสังคมในการสร้างการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งเกษตรกรที่เป็นลูกค้าอาหารสัตว์บกซีพีเอฟ คู่ค้า และทุกภาคส่วนมาร่วมกันอนุรักษ์ช้าง ด้วยการนำแต้ม CPF Feed Point จากช่องทางออนไลน์ และแอปพลิเคชัน CP SmartMORE มาแลกเป็นอาหารช้าง ขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันบริจาคแต้มเปลี่ยนให้เป็นอาหารช้าง ส่งต่อไปยังช้างกลุ่มเป้าหมาย ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และขอบคุณเชียงใหม่ธนากุล ร้านตัวแทนจำหน่ายอันดับหนึ่งของอาหารสัตว์บก ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการขนส่งอาหารในครั้งนี้ ”

นายฤทธิชัย กล่าวอีกว่า ซีพีเอฟ นำศักยภาพของบริษัทด้านการเป็นผู้นำการผลิตอาหารสัตว์คุณภาพ มาต่อยอดสู่การช่วยเหลือช้าง ผ่านโครงการ“ต่อชีวิตช้างไทย” ปีที่ 3 ด้วยการมอบอาหารช้างเอราวัณ ผลิตจากโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกหนองแค จ.สระบุรี เพื่อร่วมบรรเทาปัญหาของปางช้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย นอกจากการท่องเที่ยวที่หยุดชะงักนั้น หลังภาวะน้ำหลากทำให้พื้นที่แหล่งอาหารธรรมชาติ ถูกทำลายลงไปเช่นกัน ส่งผลให้ช้างเลี้ยงในแต่ละปางช้างทางภาคเหนือ ขาดแคลนอาหาร สุขภาพร่างกายอ่อนแอลง อาหารช้างเอราวัณ E3 มีส่วนสำคัญที่ทำให้ช้างมีอาหารเสริมที่มีคุณภาพ มีคุณค่าโภชนาการอาหารสัตว์ ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ใช้ส่วนผสมวัตถุดิบจากพืช มีเยื่อใยสูงเหมาะสำหรับช้างทุกระยะ 4

 

ทั้งนี้การซื้อขายอาหารสัตว์บกซีพีเอฟผ่านร้านตัวแทนจ าหน่ายในระบบออนไลน์ จะได้รับแต้ม CPF Feed Point ในทุกการใช้จ่าย 100 บาท มีค่าเท่ากับ 1 แต้ม รวมถึงเกษตรกรโคนมที่ใช้แอปพลิเคชัน CP SmartMORE ในทุก 29 แต้ม ซีพีเอฟจะสบทบทุนเพิ่มเป็น 100 บาท เปลี่ยนเป็นอาหารช้างส่งต่อสู่กลุ่มช้างเปราะบางทั่วประเทศ สามารถร่วมบริจาคแต้มสมทบทุนเป็นอาหารช้างได้ เพื่อกระจายความช่วยเหลือสู่ช้างทั่วประเทศ ส าหรับผู้สนใจสามารถบริจาคสมทบทุนซื้ออาหารช้างได้ที่ https://liff.line.me/1654713008-raEmYnyj หรือแอดไลน์ @cpffeedonline ในอนาคตโครงการฯ จะต่อยอด การนำแต้มมาบริจาคให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น จาก “ต่อชีวิตช้างไทย” สู่การต่อชีวิตเด็กไทย และการต่อชีวิตสิ่งแวดล้อมไทยสิ่งแวดล้อมโลก.

เชียงใหม่ ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อ.แม่ออน มอบเกียรติบัตรโครงการปฏิบัติธรรม “เข้าพรรษา เข้าถึงธรรม” ถวายเป็นพระราชกุศลฯ(คลิป)

ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ มอบเกียรติบัตรโครงการปฏิบัติธรรม “เข้าพรรษา เข้าถึงธรรม” ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ฯ

(13 ตค.67) พระเดชพระคุณพระสุวรรณเมธี ดร.เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานมอบเกียรติบัตรผู้เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ 

โดยมีพระครูบาชัยประสิทธิ์ภิกขุเจ้า สำนักศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช เป็นผู้กล่าวรายงานพร้อมประกาศรายชื่อผู้ได้รับใบประกาศเกียรติบัตรตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมทุกวันอาทิตย์ ตลอดระยะเวลาเข้าพรรษา 3 เดือนนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการต่างสับเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมปฏิบัติธรรมที่สถานที่แห่งนี้กว่า 1000 คน ซึ่งถือเป็นวันนี้เป็นวันปิดโครงการช่วงเข้าพรรษาประจำ ปี 2567 จึงมีพิธีมอบเกียรติบัตรผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทุกคนที่มาร่วม

ด้านคุณแม่อรวรรณ วรรณธุ กล่าวว่าตลอดระยะเวลาร่วมกิจกรรมโครงการปฏิบัติธรรม ช่วงเข้าพรรษา ซึ่งคุณแม่มาปฏิบัติธรรมทุกครั้งตลอดระยะเวลา 3 เดือนกล่าวรู้สึกใจหายว่าวันนี้จะเป็นวันสิ้นสุดโครงการ เพราะว่ามาปฏิบัติธรรมที่นี่ทำให้ใจสงบมีสมาธิและก็มีเพื่อนฝูงพบปะกันทุกวันซึ่งความคิดอยากให้มีอย่างนี้ตลอดไป

เชียงใหม่ ผบช.ภ.5 ลงพื้นที่ทำครัวสนามและแจกจ่ายประชาชนตามโครงการ” ครัวปันรัก เพื่อผู้ประสบภัย “(คลิป)

ผบช.ภ.5 ลงพื้นที่ทำครัวสนามและแจกจ่ายประชาชนตามโครงการ” ครัวปันรัก เพื่อผู้ประสบภัย ” ณ ลานจอดรถ 89 พลาซ่า ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 5 – 7 ตุลาคม 2567

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 5 ประสานบูรณาการกับหน่วยงานที่มีความรับผิดชอบโดยตรง ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และฟื้นฟูหลังน้ำลด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในทุกมิตินั้น พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ได้จัดตั้งครัวสนามตามโครงการ” ครัวปันรัก เพื่อผู้ประสบภัย” จัดทำอาหารกล่องพร้อมทาน แจกจ่าย ประชาชนวันละ 3 มื้อ ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ 89 พลาซ่า ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยในแต่ละวันจะมีประชาชนมาเข้าแถวขอรับอาหารกล่องเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้การจัดตั้งครัวสนามดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตลอดจน ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้การสนับสนุนการจัดทำอาหารกล่องแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังมีร้านค้า และประชาชนผู้มีจิตอาสาได้ร่วมมอบวัตถุดิบในการประกอบอาหารและส่งมอบอาหารกล่องพร้อมทานและน้ำดื่มเป็นจำนวนมาก

ในการนี้ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย รอง ผบช.ภ.5 , ผบก.สส.ภ.5 , ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และข้าราชการตำรวจในสังกัดและครอบครัว ได้ร่วมกันประกอบอาหาร บรรจุกล่อง และแจกจ่ายประชาชนผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และจัดข้าราชการตำรวจนำอาหารไปแจกจ่ายยังบ้านเรือนประชาชนที่ประสบภัยด้วย

เชียงใหม่ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานในพิธีมอบประกาศรางวัลเยาวชนดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ,รางวัลคนดีศรีแผ่นดินสยาม ,รางวัลเยาวชนจิตอาสาสาดีเด่น,และรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 (คลิป)

รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานในพิธีมอบประกาศรางวัลเยาวชนดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ,รางวัลคนดีศรีแผ่นดินสยาม ,รางวัลเยาวชนจิตอาสาสาดีเด่น,และรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567

วันนี้(29 กย.67) ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายอนันต์ คนตรี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประธานในพิธีมอบประกาศรางวัลเยาวชนดีเด่นจังหวัดเชียงใหม่ ,รางวัลคนดีศรีแผ่นดินสยาม ,รางวัลเยาวชนจิตอาสาสาดีเด่น,และรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2567 จัดโดย สภาองค์กรเยาวขุนสร้างสรรค์พัฒนาสังคม (องค์กรเอกชนด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนและองค์กรสาธารณประโยชน์)

สำหรับสภาองค์กรเยาวชนสร้างสรรค์พัฒนาสังคม/เป็นองค์กรเอกชนต้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนที่ได้จดทะเบียนตาม/พรบ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2560 และเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ.2546 ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแองกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สภาองค์กรเยาวชนสร้างสรรค์พัฒนาสังคมได้กำหนดแผนการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติได้ดำเนินโครงกาศเชิดชูเกียรติเด็กและเยาวชน ภายใต้แนวคิด “คนดี คนเก่ง มีคุณธรรม สร้างสรรค์ปัญญา พัฒนาสังคม”(พื่อพิจารณาและสรรหาเด็กและเยาวชน และบุคคลที่มีความประพฤติดี ประพฤติชอบ ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนา มีความรู้ความสามารถ มีความจงรักภักดีต่อชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึงบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นสังคมและประเทศชาติ ร่วมถึงปฏิบัติตปตามคุณลักษณะค่านิยมไทย ๑๒ ประการ เพื่อเข้ารับรางวัลเชิดชูเกียรติ รางวัล เยาวชนดีเด่นแห่งชาติและบุคคลผู้ส่งเสริมและสะสบสนกิจกรรมเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2567 ตลอดจนจัดกิจกรรมโครงการเชิดชูเกียรติ “คนดีศรีล้านนา” และ “คนดีศรีแผ่นดินสยาม”ได้ดำเนินการสรรหา พิจารณา คัดเลือก เด็ก เยาวชนและบุคคลปฏิบัติตามคุณลักษณะค่านิยมไทยเพื่อส่งเสริมการให้กำลังใจ และให้ทุกท่านปฏิบัติตนตามแบบอย่างที่ดี

เชียงใหม่ ม.แม่โจ้ ร่วมกับ การท่าเรือแห่งประเทศไทยและวิทยุการบินแห่งประเทศไทยเตรียมส่ง “เมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบชีวีหลังน้ำลด” ช่วยผู้ประสบอุทกภัย

ม.แม่โจ้ ร่วมกับ การท่าเรือแห่งประเทศไทยและวิทยุการบินแห่งประเทศไทย เตรียมส่ง “เมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบชีวีหลังน้ำลด” ช่วยผู้ประสบอุทกภัย

วันที่ 26 กย. 67 รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รับมอบเงินสนับสนุนโครงการเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบชีวีหลังน้ำลด จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวน 1,000,000 บาท โดยมี นายดรุฒ คำวิชิตธนาภา กรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ศิษย์เก่าแม่โจ้ รุ่น 63) เป็นผู้แทนมอบ และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด โดยมี นายวิทย์วศิน เรียนวัฒนา ผู้อำนวยการใหญ่(บริการเดินอากาศส่วนภูมิภาค) เป็นผู้แทนมอบ ณ ห้องประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัย ชั้น 5 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “จากเหตุการณ์เกิดอุทกภัยในภาคเหนือตั้งแต่จังหวัดเชียงรายลงมา รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยเป็นจำนวนมาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบของเหตุการณ์นี้ จึงควรมีกระบวนการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในทุก ๆ พื้นที่อย่างเข้าถึงและเข้าใจ อันจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลงได้

จึงได้จัดทำโครงการเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ชุบชีวีหลังน้ำลด เป็นการดำเนินงานร่วมกัน ของ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มูลนิธิพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ โดยได้รับความร่วมมือ จากการท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการแห่งประเทศไทย จำกัด ทางมหาวิทยาลัยจะจัดหาเมล็ดพันธุ์ผักสวนครัว ที่ปลูกง่าย ใช้ช่วงเวลาสั้น

ซึ่งมีทั้งเมล็ดพันธุ์ผักมาจากผลผลิตทางการเกษตรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตลอดจนความเชี่ยวชาญในวิชาชีพของศิษย์เก่า และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เตรียมแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ เมล็ดพันธุ์ผักเหล่านี้จะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางอาหารในชีวิตประจำวัน รวมถึงการก่อให้เกิดรายได้อย่างรวดเร็ว ขอบคุณผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นอย่างสูง”

สำหรับการเตรียมแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ไปยังพื้นที่ประสบภัยหลังน้ำลด จะเริ่มแจกจ่ายในเฟสแรกประมาณเดือนตุลาคม 2567 โดยเริ่มจากพื้นที่ผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ มีทีมงานของสมาคมศิษย์เก่าแม่โจ้ ร่วมกับ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ สำรวจผู้ได้รับผลกระทบและส่งมอบเมล็ดพันธุ์ให้อย่างทั่วถึง เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้เพาะปลูก เก็บเกี่ยวผลผลิต มีอาหาร มีรายได้ เพื่อดำรงชีวิตต่อไป

เชียงใหม่ วิทยาลัยโปลิฯ เชียงใหม่ เปิดโรงครัว นำคณาจารย์และนักศึกปรุงอาหารออกแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วม(คลิป)

วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา อำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดโรงครัว นำคณาจารย์และนักศึกปรุงอาหารออกแจกผู้ประสบภัยน้ำท่วม

วันนี้(26 กย.67)อาจารย์ประสิทธิ์ ชูดวง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษา ของวิทยาลัยฯ ได้เปิดโรงอาหารของวิทยาลัยเป็นโรงครัวชั่วคราว ช่วยกันปรุงอาหารสุก หลากหลายเมนู ช่วยกันหุงข้าว หันผัก สับหมู ปรุงอาหาร เพื่อนำแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมช่วงเช้าจำนวน 800 กล่อง ออกตระเวนแจกจุดที่น้ำถังสูงโดยใช้รถหกล้อ สามารถวิ่งฝ่าน้ำท่วมสูงระดับ 1 เมตร เพื่อนำข้าวกล่องให้กับผู้ประสบภัยย่านหนองหอย ย่านช้างคลาน ย่านป่าพร้าวนอก ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำขังสูง รถขนาดเล็ก ไม่สามารถเข้าถึงต้องใช้เรือ หรือรถยกสูงขนาดใหญ่จะเข้าถึงได้ ทำให้ชาวบ้านที่ยังตดตามบ้านเรือนได้มีรอยยิ้มความยินดี ได้มีอาหารรับประทานเช้าวันนี้

อาจารย์ประสิทธิ์ ชูดวง รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษา เผยว่าทางวิทยาลัยฯ ได้ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลายพื้นที่ ก่อนหน้านี้อำเภอแม่ริม ไปอำเภอฝาง แม่อายและ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มาตอนนี้กลับมาช่วยในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่สถานการณ์น้ำท่วมหนักท่วมขังสูง ส่วนการทำข้าวกล่องจะประเมินในแต่ละวัน เพราะปัจจัยอยู่ที่วัตถุดิบ การช่วยเหลือก็ทำไปวันต่อวันจนกระทั่งสถานการณ์ดีขึ้น

เชียงใหม่ นบ.ยส.35 ขับเคลื่อนงานช่วงสับเปลี่ยนกำลัง ถึงแม้ว่าหลายพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วม ล่าสุดตลอดปี 67 มีผลการสกัดกั้นยาบ้ากว่า 256 ล้านเม็ด

นบ.ยส.35 ขับเคลื่อนงานช่วงสับเปลี่ยนกำลัง ถึงแม้ว่าหลายพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วม ล่าสุดตลอดปี 67 มีผลการสกัดกั้นยาบ้ากว่า 256 ล้านเม็ด สูงกว่าปี 66 จำนวน 170 ล้านเม็ด

วันที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 10.30 น.พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) เปิดเผยว่า จากการข่าวด้านความมั่นคงพบว่าการผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดนยังคงมีปริมาณมากถึงแม้นว่าหลายพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวมีเสรีในการผลิต และการผลิตยาไม่ยุ่งยาก สามารถใช้สารสังเคราะห์หรือสารตั้งต้นที่หาได้จากหลายๆประเทศโดยเฉพาะจากประเทศจีน อินเดีย และเวียดนาม เนื่องจากประเทศเหล่านี้ไม่มีกฎหมายควบคุมจึงทำให้การผลิตยาเสพติดง่ายและสามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก ประกอบกับประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีการสู้รบ จึงต้องการทุนมาใช้ในการพัฒนากำลังทหารและอาวุธ ส่วนที่ไม่มีการสู้รับมักนำทุนในการค้ายาเสพติดมาใช้ในการพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจของตนเอง ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยมีความต้องการในการใช้ยาบ้าประมาณ 70-80 % ส่วนไอซ์และเฮโรอีน มีความต้องการใช้ภายใน ประมาณ 20-30 % ที่เหลือส่งขายนอกประเทศ คาดว่าขณะนี้มีปริมาณยาที่รอการนำเข้าชายแดนเกือบ 50 ล้านเม็ด เนื่องจากเกิดความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม

พล.อ.นฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของแนวชายแดนที่เป็นความรับผิดชอบของ นบ.ยส.35 เราดำเนินการเต็มที่ในการสกัดกั้นตามแนวชายแดนโดยมีการบูรณาการกำลังจากฝ่ายทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน ฝ่ายปกครอง นรข.ตลอดจนอำเภอที่อยู่ตามแนวชายแดน เพื่อไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาพื้นที่ตอนใน ทั้งนี้อาจมียาบางส่วนที่เล็ดลอดออกไปแต่เราก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ตามบทบาทของตนเอง ประกอบกับรัฐบาลได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และลดความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ถือว่าปีนี้เราประสบความสำเร็จในการสกัดกั้น ส่วนด้านการป้องกันค่อนข้างทำได้อยาก โดยเฉพาะการลดความต้องการภายในประเทศ ซึ่งต้องฝากประชาชน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ปกครองต้องช่วยกันดูแลคนในชุมชนของตนเองและความเอาจริง เอาจังของภาครัฐ เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด หากไม่มีความต้องการ การผลิตก็จะลดน้อยลง

ทั้งนี้จาการบูรณาการหน่วยงานพลเรือน ทหาร ตำรวจ ในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในพื้นที่ 6 จังหวัด 18 อำเภอ ชายแดนภาคเหนือ พบว่า ตลอดปีงบประมาณ 2567 นบ.ยส.35 มีผลการดำเนินงานในพื้นที่ปฏิบัติการ สามารถตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 256 ล้านเม็ดเศษ , ไอซ์ 3,432 กิโลกรัม, เฮโรอีน 357 กก. ฝิ่นดิบ 206 กก., คีตามีน 561 กก., จับกุมผู้ต้องหา 1,609 ราย, กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 31 ศพ จากเหตุการณ์ปะทะ 44 ครั้ง ในพื้นที่ชายแดน ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายทั้งสิ้น 124 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 30 ราย ยึดทรัพย์สินได้มูลค่าประมาณ 12.5 ล้านเศษ สืบสวนขยายผลเครือข่ายนักค้ารายสำคัญ 39 เครือข่าย จับกุมผู้ต้องหาได้ 65 ราย และขยายผลจนนำไปสู่การออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายเพิ่มอีก 14 ราย ยึดทรัพย์ได้อีก 122 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในห้วงเวลาเดียวกัน พบว่า สามารถตรวจยึดยาบ้าเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาจำนวน 170 ล้ายเม็ด

อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ยาเสพติดที่มีการตรวจยึดจับกุมอย่างต่อเนื่อง หน่วยยังคงดำเนินการด้วยความเข้มข้นเพื่อมิให้เกิดช่องว่างอันเกิดจากความไม่ต่อเนื่องในการสับเปลี่ยนกำลังระหว่างปีงบประมาณ เพื่อให้หน่วยสามารถจัดกำลังขึ้นปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

เชียงใหม่ รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการจัดงาน CURU Diner Talk #2 (คลิป)

รองศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี มณีโกศล รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการจัดงาน CURU Diner Talk #2

วันนี้(25 กย.67) รองศาสตราจารย์ ดร.ชาตรี มณีโกศล รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวการจัดงาน CURU Diner Talk #2 โดยนายสุกฤษ กระแสสุข ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงประโยชน์ที่นักศึกษาจะได้รับจากการจัดงาน และผลกระทบเชิงบวกต่อมหาวิทยาลัยฯ,

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน,นางอัญชลี ลิ้มเล็งเลิศ ประธานการจัดงาน CURU Diner Talk #2 ผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ กล่าวถึงวิทยากร ไฮไลท์ของงาน และสถานที่จัดงาน

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุรศักดิ์ นุ่มมีศรี รองอธิการบดี กล่าวถึงกิจกรรมและผลงานของนักศึกษาที่จะนำไปจัดแสดงในงาน CMRU Dinner Talk: Opportunities and Challenges in BANI World ณ ห้องศูนย์การเรียนรู้เพื่อความเป็นเลิศ อาคารราชภัฏ 90 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่

เชียงใหม่ สภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มอบเกียรติบัตรและโล่รางวัลให้กับเด็กและเยาวชนฯ (คลิป)

สภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มอบเกียรติบัตรและโล่รางวัล ให้กับเด็กและเยาวชน โครงการรู้คิด จิตอาสาพัฒนาชาติ เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่เด็กและเยาวชน ที่ได้อุทิศตน เสียสละเป็นจิตอาสา


ที่อาคารพุทธสถาน จังหวัดเชียงใหม่ นาง จินดา กำลังประสิทธิ์ รองศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี โครงการเด็กและเยาวชนรู้คิด จิตอาสาพัฒนาชาติ ซึ่งจัดขึ้นโดยประธาน สภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติ ที่มองเห็นในการทำความดี ของเด็กและเยาวชน ที่เป็นจิตอาสา ทั้งนี้เพื่อเป็นการ ประกาศเกียรติคุณ และเชิดชูเกียรติ ส่งเสริมให้เยาวชน ทำความดี ประพฤติตน เป็นประโยชน์ต่อชุมชน และประเทศชาติ

นายมานิตย์ ขันธสีมา ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่าปีนี้ มีเยาวชนที่ได้รับรางวัล เป็นเยาวชนแกนนำจิตอาสาดีเด่น จำนวน 60 คน ที่ช่วยเหลือสังคม ในรูปแบบต่างๆ เยาวชนการแข่งขันพูด ในที่สาธารณะนานาชาติ ครั้งที่ 1 จำนวน 25 คน เยาวชนแข่งขันโครงการวาดภาพในหัวข้อ อนุรักษ์ธรรม อนุรักษ์ไทย เทิดไท้องค์ราชัน จำนวน 15 คน เยาวชนแข่งขันโครงการ English Public Speaking จำนวน 30 คน และเยาวชนการแข่งขัน โครงการวาดภาพ ในหัวข้อ Modern Thai Environment in my dreams จำนวน 5 คน รวมมีเด็กและเยาวชน เข้ารับรางวัลทั้งหมด 135 คน


ทั้งนี้เพื่อให้เด็กและเยาวชน ให้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาตนเอง พัฒนาชุมชนและพัฒนาชาติ เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงาน เห็นความสำคัญ ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีจิตอาสา และเสียสละให้เป็นทรัพยากรบุคคล ที่มีความสำคัญ ต่อประเทศชาติ ทั้งด้านคุณภาพ และคุณธรรม และยังเป็นการประกาศเกียรติคุณ แก่เด็กและเยาวชน ที่ได้อุทิศตน และเป็นจิตอาสา มีคุณภาพ สร้างความปราบปลื้มใจ ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก

เชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่ จัดคาราวาน นำโดยร้านลาบต้นยาง พร้อมเครือข่ายนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของทำความสะอาดบ้าน นำไปมอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย(คลิป)

ชาวเชียงใหม่ จัดคาราวาน นำโดยร้านลาบต้นยาง พร้อมเครือข่ายนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของทำความสะอาดบ้าน นำไปมอบให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย

วันนี้(22 กย.67) อ้ายจรัล ชัยวงค์ เจ้าของร้านลาบต้นยางพร้อม “พี่เล็ก” นางศรินทร สุ่นทอง เจ้าของร้านลาบต้นยาง และเครือข่ายลูกค้าร้านลาบต้นยาง มี เจ๊แอร์, หมอเล็ก, พี่ต้อม, เจ๊ไก่ และร้านจอยเครื่องนอน ของพี่จอย และร้านนวดเลอเบส นวดแผนไทย พี่หนิง, “ครูต่อ” บ้านฟ้อนเมืองเชียงใหม่, น้องต๋อม และร้านสักขีแม่ปิง(ลาบต้นยาง), ดีเจอัม ดีเจเจ้าป้า และ นางสาวกุลญาอร เรือนเงิน หรือเจ๊แว่นแก้ว แม่ค้าส้มตำแซบเวอร์ ภายในร้านลาบต้นยาง ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร้านนิวสลัดฝายหิน มช. และ ชมรมผู้สื่อข่าวจ้งหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมดร่วมเดินทางนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเครื่องมือทำความสะอาดบ้าน และเครื่องใช้ส่วนตัว เสื้อผ้า รองเท้าบูท นำมอบให้ชาวเชียงใหม่

จุดแรกมอบสิ่งของให้นายประภาส ใจสุข ประธานชุมชนเขต 2 บ้านกกโท้งใต้ ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อม นางศรัณยา อยู่อินทร์ รองประธานฯ และประธานแม่บ้าน รับเงินสนับสนุนจำนวน 5,000 บาท

จุดที่ 2 มอบสิ่งของให้หน่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยเทศบาลนครเชียงราย บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ที่อยู่ริมน้ำกก ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจำนวนมากอีกแห่งหนึ่ง