ข่าวทั่วไทย » เชียงใหม่ ปางช้างแม่สาเข้าสู่สภาวะวิกฤตอีกครั้ง “อัญชลี “วอนขอเงินบริษัทคืน เพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินของช้าง

เชียงใหม่ ปางช้างแม่สาเข้าสู่สภาวะวิกฤตอีกครั้ง “อัญชลี “วอนขอเงินบริษัทคืน เพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินของช้าง

18 ธันวาคม 2022
270   0

Spread the love

ปางช้างแม่สาเข้าสู่สภาวะวิกฤตอีกครั้ง “อัญชลี” วอนขอเงินบริษัทคืน เพราะเงินที่เอาไปเป็นเงินของช้าง

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ทายาทนายชูชาติ กัลมาพิจิตรและผู้บริหารปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีปางช้างแม่สาได้ประสบอุทกภัยทางธรรมชาติเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้สะพานขาดจนต้องปิดกิจการไปถึงสองเดือนเต็ม บริษัทจึงขาดรายได้ บวกกับบริษัทมีงบการเงินที่ขาดทุนสะสมมานานตั้งแต่ปี 2563 จากสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯไม่มีเงินพอในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ จนเข้าขั้นวิกฤตมาแล้วหลายครั้ง และเกิดขึ้นอีกแล้วในครั้งนี้

ตนจึงต้องออกมาวอนขอให้ผู้ที่นำเงินบริษัทฯไปจำนวนกว่า 100 ล้านบาทได้เห็นแก่ช้างและพนักงาน ขอให้นำเงินมาคืนโดยด่วน เรื่องนี้ตนได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.แม่ริม โดยทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ตั้งทีมสอบสวนสืบสวนแล้ว แต่ตนคิดว่าก็ยังไม่ทันการณ์ต่อสภาวะวิกฤตของบริษัทฯ ซึ่งในแต่ละเดือนตนต้องใช้เงินเลี้ยงช้าง เลี้ยงพนักงานเดือนละประมาณสามล้านบาท หรือวันละประมาณหนึ่งแสนบาท ด้วยจำนวนช้างเลี้ยงของปางช้างแม่สาที่มีมากถึง 68 เชือก และพนักงานอีกกว่า 100 คน การที่ตนจะสามารถบริหารปางช้างแม่สาต่อไปได้นั้น จะต้องจัดการทรัพย์มรดกของบิดา คือนายชูชาติ กัลมาพิจิตร ที่เสียชีวิตลงเมื่อเดือนมกราคม ปี 2562 ให้สำเร็จโดยเร็ววัน

สำหรับเรื่องนี้ตนก็มีคดีความกันกับอดีตภรรยาของบิดา รวมถึงน้องชายของตน โดยได้ฟ้องร้องกันมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากหุ้นตนหาย จนตนได้หุ้นกลับคืนมา นอกจากนี้ศาลยังมีคำสั่งให้ตนเข้าบริหารบริษัทปางช้างแม่สา และอีกสองบริษัทของบิดา รวมถึงได้เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับอดีตภรรยาของนายชูชาติ ซึ่งตามกฏหมายแล้ว เราจะต้องจัดการทรัพย์สินตามพินัยกรรมให้กับทายาทของนายชูชาติตามระยะเวลาภายในหนึ่งปี ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่บิดาตนให้โอนเข้าสู่บริษัทปางช้างแม่สา จำกัด

แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถจัดการทรัพย์สิน ถูกยื้อเวลามาโดยตลอด วันก่อนตนได้รับโฉนดมาจำนวนสามแปลง ซึ่งเป็นชื่อผู้จัดการมรดกร่วมสองคน ตนจะจำหน่ายออกเพื่อนำเงินมาใช้ในบริษัท ก็ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากอดีตภรรยาของบิดาขอต่อรองเรื่องทรัพย์สิน เรียกร้องสินสมรสจำนวนมากมาย พอไม่ให้ เขาก็ไม่จัดการอะไร ส่วนตนไม่สามารถทำตามที่เขาเรียกร้องมาได้อย่างแน่นอน

ในข้อเท็จจริงตนยังพบว่าเงินของบริษัทปางช้างแม่สาได้หายไปจากบัญชีธนาคารจำนวน 4 บัญชี รวมเป็นเงินกว่า 100 ล้านบาท ตนได้เห็นแล้วว่าใครเป็นคนเขียนเบิกและใครเป็นคนลงลายมือชื่อถอนเงิน ในเรื่องนี้มีคนร่วมกันปิดบังตน พวกเขาเบิกเงินกันจนถึงปี 2564 จนเงินแทบจะหมดเกลี้ยงทุกบัญชี ตนเองนั้นถูกหลอกมาตั้งแต่ต้นว่าเงินบริษัทมีเพียง 9 ล้านบาท เหลือส่งมอบมาให้ตนรวมแล้วสิบกว่าล้าน ในเดือนตุลาคม ปี 2562

ต่อมาเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 บริษัทฯไม่มีรายได้ ขาดนักท่องเที่ยวมาเที่ยว จึงทำให้เกิดหนี้สิน ประกอบกับการฟ้องร้องเรื่องผู้จัดการมรดกยืดเยื้อมาจนถึงปี 2565 ทำให้ตนไม่สามารถเข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านของบิดาได้ พอตนเข้าตรวจสอบ ทรัพย์สินก็หายไปแล้วเป็นจำนวนมาก เรื่องนี้ตนก็ได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.แม่ริม เป็นคดีลักทรัพย์ ส่วนเงินของบริษัทฯตนได้ฟ้องธนาคารเป็นคดีแพ่งไว้ที่ศาลกรุงเทพใต้ และยังแจ้งความเป็นคดีอาญาสำหรับผู้ที่กระทำความผิดอีกด้วย

ตนนั้นถูกปิดบังในหลายเรื่อง ทั้งถูกปิดบังความจริง ถูกโกงเงิน ถูกลักทรัพย์มรดก จากคนในครอบครัวเดียวกันและมีคนอีกหลายคนร่วมทำความผิดด้วย ตนมีหลักฐานอย่างชัดเจน เพราะติดตามเรื่องต่างๆมาสี่ปีแล้ว

วันนี้จึงอยากส่งสัญญาณให้คนที่โกงเอาเงินบริษัทไปได้สำนึกในความผิดนั้นและนำเงินมาคืน ไม่ใช่ปล่อยให้ตนต้องลำบากเพียงลำพัง และต้องทำทุกอย่าง รับผิดชอบอยู่คนเดียวอย่างทุกวันนี้ ส่วนคดีความตนก็จะรอต่อไป ขอขอบคุณทางตำรวจที่ยังคงทำคดีให้อย่างต่อเนื่อง ตนอยากให้มีการจับกุมตัวผู้กระทำความผิด เพราะเวลาผ่านมาตั้งสี่ปีแล้ว พวกเขาใจร้ายมาก แม้แต่เงินของช้างที่ต้องนำมาเลี้ยงสัตว์ใหญ่ก็ยังไม่เว้น เรื่องนี้ตนยอมไม่ได้ เพราะเป็นเงินของบริษัทฯ ตนเป็นถึงผู้บริหารต้องเอาเงินกลับคืนมาเลี้ยงช้าง พัฒนาปางช้างแม่สา ตนไม่สามารถละเว้นผู้กระทำความผิดได้