กลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ออกโรงโต้สยามเอสเตท ดาราเทวี หลังได้รับผลกระทบจากเรื่องทรัพย์สิน พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบอาคารที่ถูกต่อเติม ดัดแปลง โดยไม่ได้ขออนุญาต ขณะที่เหตุเพลิงไหม้ได้พบคลิปจากสื่อออนไลน์ว่ามีการติดตั้งหลอดไฟหลายจุด
วันนี้(12 พค.68) ที่ห้องคอนเวนชั่น 1 – 2 โรงแรมวินทรี ซิตี้้รีสอร์ท เชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่ – ลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้น IFEC พร้อมด้วยทนายความ 3 นาย คือ นายประสิทธิ์ วงศาสวัสดิ์ , นายเรวัตร์ วงศ์สวัสดิ์ และนายพลรัตน์ พรหมคุ้ม ได้ร่วมกันแถลงข่าว กลุ่มผู้ถือหุ้นบริษัท IFEC ที่มีความเกี่ยวข้องกับดาราเทวี และการสูญเสียของผู้ถือหุ้น
นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้น IFEC กล่าวว่า โรงแรมดาราเทวีหลังจากประสบปัญหาและต้องขายทอดตลาดไป ทางกรมบังคับคดี ก็ได้ดำเนินการประมูลขาย ซึ่งครั้งแรกนั้นทางบริษัท IThermal ประมูลไปได้ 2,100 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ได้ยุติไป ไม่ได้ชำระเงินทั้งหมด กระทั่งต่อมาทางกรมบังคับคดีก็ได้นำมาประมูลอีก ซึ่งในการประมูลดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 66 มีการยกป้ายประมูลถึง 69 ครั้ง สุดท้ายทาง IThermal ก็ได้ไปอีกครั้ง ในราคา 3,590 ล้านบาท โดยมีบริษัท สยามเอสเตท ดาราเทวี เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมลงทุน การประมูลครั้งนั้น ประมูลได้ไปเป็นที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ 18 แปลง จำนวน 80 ไร่ มี 60 อาคาร แต่ยังถือว่าเป็นของ IFEC อยู่ เนื่องจาก IThermal เป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ IFEC และโรงแรมดาราเทวี ก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ IFEC เช่นกัน ดังนั้น ยังถือว่าผู้ถือหุ้นของ IFEC ก็ยังมีสิทธิอยู่ หลังจากที่ประมูลไปได้ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร กระทั่งในเดือน พ.ค. 67 เริ่มกลับมาเปิดให้บริการ ต่อมาก็นำมาเปิดเป็นกาดดาราเทวี
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นที่ออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้ คือ สยามเอสเตท ดาราเทวี แม้ว่าจะได้ที่ดินกับอาคารไปแล้ว แต่หลังจากที่ บริษัท IThermal ประมูลไปได้ ก็มีเจ้าหนี้ของ IThermal ไปแจ้งต่อกรมบังคับคดี เพื่อขอยึดทรัพย์ ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ที่กรมบังคับคดี รวมถึงเครื่องตกแต่งที่อยู่ภายในตัวอาคารที่มีกว่า 20,000 รายการด้วย โดยรายการเครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว อุปกรณ์ต่างๆ นอกเหนือจากตัวอาคารนั้น ได้มีการทำบัญชีไว้หมด ต่อมาทางกรมบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาสำรวจทรัพย์สินจากการยึดทรัพย์ พร้อมกับติดป้ายของกรมบังคับคดีว่าห้ามใช้ จำหน่าย จ่ายแจก เคลื่อนย้ายใดๆ แต่ต่อมา ทางสยามเอสเตท ดาราเทวี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของดาราเทวี ก็ได้นำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และของต่างๆ ไปให้กับผู้เช่าที่มาเช่าพื้นที่ของดาราเทวี นำไปใช้ ทั้งที่ทรัพย์สินดังกล่าว ถูกกรมบังคับคดีทำการยึดไว้แล้ว และทรัพย์สินก็ไม่ได้เป็นของสยามเอสเตท ดาราเทวี มีเพียงที่ดินกับอาคารเท่านั้นที่ใช่
ต่อมาก็ได้ถูกกล่าวหาว่า ทางกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC กลั่นแกล้งกลุ่มที่ไปเช่าพื้นที่ จึงขอชี้แจงว่า ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่การนำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ ถือว่าผิด อีกทั้งกรมบังคับคดีก็จะต้องนำขายทอดตลาดก่อน เพื่อนำเงินมาใช้ให้กับเจ้าหนี้ รวมถึงผู้ถือหุ้น IFEC ที่เป็นเจ้าของด้วย จึงอยากให้ร้านค้าต่างๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว ของต่างๆ ที่เป็นของตกแต่งซึ่งอยู่ภายในตัวอาคารของโรงแรม และห้องประชุมของโรงแรมดาราเทวี ไปใช้ ให้คิดถึงเรื่องนี้ประกอบกับการนำของที่เป็นของกลุ่มเจ้าหน้าที่ และผู้ถือหุ้น IFEC ไปให้ผู้ที่ผู้เช่าพื้นที่ใช้ นอกจากจะผิดกฎหมายของกรมบังคับคดีแล้ว ยังผิดต่อผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ของ บริษัท IThermal ที่ได้แจ้งยึดไว้ด้วย เพราะเงินจากการเช่าและทรัพย์สินที่ถูกนำออกไป ไม่ได้ถูกนำมาใช้หนี้ หรือถูกจัดการมายังฝั่งของกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ที่เป็นผู้ร่วมลงทุนเลย
การที่ผู้ถือหุ้น IFEC ออกมาเรียกร้องและชี้แจงในครั้งนี้ เพราะทุกคนก็นำเงินมาร่วมลงทุน แต่การนำโรงแรมระดับ 5 – 6 ดาว มาใช้ลักษณะนี้ รวมถึงการเปิดจากโรงแรมระดับนานาชาติ ร้านอาหารต่างประเทศ แต่เหลือเพียงแค่กาดดาราเทวี แล้วกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ลงทุนไปจะได้เงินกลับคืนเมื่อไหร่จากการบริษัทแบบนี้
ขณะเดียวกันยังพบว่า อาคารต่างๆ หลายหลัง ได้ถูกดัดแปลงสภาพไป ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า เป็นเรื่องที่ผิด เพราะการก่อสร้าง ต่อเติม ปรับปรุงโครงสร้าง ตามกฎหมายจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยพบว่า ยังไม่ได้มีการขออนุญาตในเรื่องดังกล่าว ก็อยากให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอ หรือทางเทศบาล เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย หากยังทำปล่อยปละละเลยหน้าที่ ก็จะร้องถึง ปปช. ในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และยังอีกว่าพื้นที่หลายแห่งถูกปล่อยให้เสื่อมโทรม ระบบสาธารณูปโภค ไม่ได้มาตรฐาน
สุดท้าย กรณีเรื่องไฟไหม้ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 02.00 น. ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้กันจำนวนมากว่าสาเหตุมาจากอะไร ตอนแรกบอกว่าอาคารหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้นานแล้ว คือไฟฟ้าเป็นศูนย์ ต่อมาก็ออกข่าวอีกว่าได้ตรวจสอบแล้ว มีไฟแค่ดวงเดียวเพื่อส่องสว่าง เป็นไฟแบบปิงปอง ไม่ได้ทำการต่อสายไฟ แล้วก็มีให้ข่าวอีกครั้งว่าเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติ ทั้งที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ระบุออกมาเลยว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร มีการให้ข้อมูลเปลี่ยนแปลงไปตลอด กระทั่งทางกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ซึ่งได้พบคลิปจากสื่อออนไลน์ว่า อาคารสปาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวนั้น คล้ายกับมีการติดตั้งไฟส่องสว่างไว้ที่ด้านบนอาคาร ด้านใต้อาคาร และใต้หลังคา มีสายไฟโยงให้เห็นชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้ตรวจสอบด้วย