รองแม่ทัพภาคที่ 3 แนะชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึกและประชาชนจิตอาสาภัยพิบัติ ลงพื้นที่สร้างการรับรู้แก้ปัญหาหมอกควัน เข้มข้นช่วงเดือน เม.ย. เนื่องจากสภาพอากาศร้อนส่งผลต่อการเกิดไฟป่า
พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ใกล้เข้าสู่เดือนเมษายน ซึ่งจะมีอากาศที่ร้อนทำให้พื้นที่เกิดความแห้งแล้ง ส่งผลกระทบกับการเกิดปัญหาไฟป่า ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพอากาศของวันนี้พบว่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือเริ่มมีค่าฝุ่นละอองที่มีผลกระทบกับประชาชนในหลายจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ และจังหวัดพะเยา โดยมีค่า PM 2.5 ระหว่าง 37 – 140 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 62 – 157 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร และค่า AQI ระหว่าง 50 – 250 ไมโครกรัม / ลูกบาศก์เมตร โดยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ในพื้นที่ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน 17 จังหวัดภาคเหนือ พบว่า จำนวน Hotspot (ดาวเทียมระบบ VIIRS) ในช่วงเช้านี้จำนวน 320 จุด เกิดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 174 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 112 จุด ,พื้นที่เกษตร จำนวน 14 จุด ,เขต สปก. จำนวน 10 จุดโดยจังหวัดที่มีจุดความร้อนมากที่สุด คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 135 จุด
ปัจจุบันกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้ายังคงส่งชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก ชุดดับไฟของหน่วยทหารในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงประชาชนจิตอาสาภัยพิบัติ ลงพื้นที่จุดเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า เพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนลดการเผาแก้ปัญหาหมอกควัน