ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ สส.เชียงใหม่เขต 1 พรรคเพื่อไทย ห่วงใยประชาชนชาวเชียงใหม่ กับสถานการณ์ โควิด- 19
ที่ห้องประชุมโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ สส เชียงใหม่เขต 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมนายธวัชชัย กูลนรา (ผู้ช่วย สส.ทัศนีย์) และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ การกระจายอำนาจ การปกครอง ส่วนท้องถิ่นฯ จัดอบรมสัมมนา ร่วมกับ คณะกรรมาธิการ การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และ การบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร จัดอบรมและอภิปราย เรื่อง การกระจายอำนาจในปัจจุบัน และอนาคต และความคาดหวัง และการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19
นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ สส.เชียงใหม่เขต 1 กล่าวเป็นห่วงสถานการณ์ โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นห่วงเรื่องวัคซีนเข็มแรก ซึ่งมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ซึ่งรัฐบาลไปโฟกัสที่วัคซีนเข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 แล้ว ซึ่งไปโฟกัสอยู่กับกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคและผู้สูงอายุ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 59 ปี ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเลย ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด 19 เพราะเป็นกลุ่มที่ออกไปทำงานนอกบ้าน และอาจนำเชื้อ โควิด-19 เข้าสู่คนในบ้าน จึงมีความเป็นห่วง คนกลุ่มนี้ ซึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ของเรา พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตอนนี้จังหวัดเชียงใหม่ – การท่องเที่ยวซบเซา เป็นอย่างมาก เศรษฐกิจเสียหายมากกว่า 90% เงียบสงัด โรงแรมต้องปิดตัวชั่วคราวจำนวนมาก จึงอยากให้รัฐบาล เร่งเปิดประเทศโดยเร็ว แต่เราจะเปิดประเทศไม่ได้ ถ้าประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้รับวัคซีน อย่างทั่วถึง และเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
นางสาวทัศนีย์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เห็นว่า วัคซีน โควิด-19 ก็ยังขาดแคลนอยู่ คือตอนนี้ วัคซีนต่างประเทศ เขามีการพัฒนา ในระยะที่ 2 แล้ว แต่เรายังอยู่ กับวัคซีนแรกๆอยู่เลย ซึ่งอยากให้รัฐบาลเร่งที่จะประสาน หาวัคซีนที่มีคุณภาพให้กับประชาชน และที่สำคัญที่สุดคือ เปิดโอกาสให้มีวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน ให้เร็วที่สุด เพราะมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เขา ช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้ารัฐบาล เปิดเสรีให้กับเอกชน นำเข้าวัคซีน โควิด-19 จะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับภาครัฐ และยังช่วยให้ เปิดประเทศได้เร็วอีกด้วย
ฝากถึง กระทรวงสาธารณสุข ช่วยเหลือกำลังหลักในการ ลดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 คือ ประชาชนจริงๆ คือพี่น้อง.อสม. ซึ่งพี่น้อง อสม. จะรู้พื้นที่ของตัวเองใครเข้ามาในหมู่บ้านเขาจะรู้หมด และ เข้าไปแนะนำ การกักตัว และการวัดไข้ต่างๆซึ่งเป็นการที่ทำงานหนักมาก จึงฝากถึงกระทรวงสาธารณสุข ว่า เงินเพิ่มเติม ที่ให้ กับพี่น้อง อสม.ที่ได้รับ ขอให้เพิ่มไปอีกเป็น 1 ปี เพราะโรคโควิด 19 อาจจะอยู่กับเราไปอีก 1 ปี ซึ่ง พี่น้องอสม ต้องทำงานหนัก ช่วยลดการระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในชุมชนของตนเอง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข ช่วยเหลือเงิน เพิ่มเติมให้กับพี่น้อง อสม.ขยายเวลาไปอีก 1 ปี