ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ เผยกระทรวงแรงงานพร้อมเยียวยาให้กับผู้ใช้แรงงานและสถานประกอบการ โดยประกันสังคมจะลดเงินสมทบจาก 5 % เป็น 4 % ลดลง 1 % ถือว่าเป็นการลดเงินสมทบทั้งนายจ้างและลูกจ้าง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2563 ระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งคาดว่า วิกฤตไวรัสโควิดน่าจะผ่านพ้นไปในระยะเวลา 6 เดือน และพร้อมช่วยเหลือผู้ประกันตนที่สุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากมีการติดเชื้อ ประกันสังคมจะเป็นออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ทั้งหมด
นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ของการเกิดโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ขึ้นในประเทศไทย ทางกระทรวงแรงงานก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่กระทบแต่ผู้ประกันตน หรือลูกจ้างกระทบทั้งนายจ้างด้วย ประชาชนในประเทศไทยถูกกระทบด้วยไวรัสโควิดทั้งหมด ทางกระทรวงแรงงานนำโดย หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้ทุกกรม ในกระทรวงแรงงานไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ไปเยียวยาให้กับผู้ใช้แรงงานและสถานประกอบการว่า จะมีวิธีทางไหนช่วยได้บ้าง
ทางประกันสังคมโดยนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) มีนโยบายเสนอบอร์ดเพื่อที่จะนำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการการทรวงรงงาน ดำเนินการให้การช่วยเหลือนายจ้าง ผู้ประกันตน ลูกจ้างอย่างไร ในประเด็นของเงินสนทบได้มีการประชาสัมพันธ์ออกมาแล้ว ว่า ทางประกันสังคมจะลดเงินสมทบจาก 5 % เป็น 4 % ลดลง 1 % ก็คือ ปกตินายจ้างจ่าย 5 % ลูกจ้างจ่าย 5 % นำส่งประกันสังคมทุกเดือน แต่ปัจจุบันทางประกันสังคมจะลดให้ 1 % ก็คือนายจ้างจ่าย 4 % ลูกจ้างจ่าย 4 % ถือว่าเป็นการลดเงินสมทบ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ถึงเดือนสิงหาคม 2563 ระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งคาดว่าวิกฤตไวรัสโควิดน่าจะผ่านพ้นไปในระยะเวลา 6 เดือนจึงมีนโยบายออกมา
ประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่กล่าวอีกว่า อีกนโยบายหนึ่งที่ลูกจ้างผู้ประกันตนเรียกร้องมามากก็คือ เรื่องการตรวจเชื่อโควิดว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งทางประกันสังคมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทางประกันสังคมก็ได้ประสานกับทางโรงพยาบาลเครือข่ายของประกันสังคม และมีมาตรการออกมาว่า ผู้ประกันตนที่มีความสงสัยว่า ตนเองจะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งก็ต้องมีอาการไข้ 37.5 องศา ไอ หายใจไม่สะดวก ให้ไปโรงพยาบาลตามบัตรก่อน ซึ่งโรงพยาบาลตามบัตรจะตรวจเบื้องต้นให้ โดยโรงพยาบาลตามบัตรบางแห่งก็ไม่ใช่เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล เป็นโรงพยาบาลของเอกชน ซึ่งโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่มีเครือข่ายประกันสังคมถึง 7 แห่ง ทั้งรัฐบาลและเอกชน ถ้าไปตรวจแล้วมีข้อบ่งชี้ว่า สัมผัสผู้ติดเชื้อ หรือมีอาการหายใจไม่สะดวก ไอมาก มีอาการไข้ขึ้นสูงมาก ทางโรงพยาบาลตามบัตรก็จะส่งไปยังโรงพยาบาลของรัฐก็คือโรงพยาบาลนครพิงค์และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งทั้ง 2 โรงพยาบาลนี้ก็จะคัดกรองผู้ป่วยอีกครั้งและตรวจดูว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่
ทั้งนี้โรงพยาบาลตามบัตรจะตรวจสอบแค่เบื้องต้น เมื่อเห็นว่าเข้าข่ายอาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็จะส่งต่อไปโรงพยาบาลของรัฐ เมื่อโรงพยาบาลของรัฐคัดกรองมาแล้วว่าติดเชื้อโควิด -19 หรือมีความสุ่มเสี่ยงว่าจะติดเชื้อแน่นอนก็จะกักตัวไว้เลยเป็นเวลา 14 วัน ส่วนค่ารักษาพยาบาลเมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดทางประกันสังคมก็จะเป็นผู้จัดการให้ โดยผู้ประกันตนไม่ต้องเสียเงินแต่อย่างใด แต่ขอความร่วมมือ ถ้าเพียงแต่ไอธรรมดาหรือไม่มีไข้เลย แค่สงสัยว่าตัวเองเป็น ก็ไม่ต้องร้องขอตรวจโควิด-19 ขอให้ไปโรงพยาบาลตามบัตรให้หมอตรวจ ซึ่งอาจป่วยเป็นแค่ไข้หวัด ไอ ธรรมดา เนื่องจากฝุ่นควันไฟในจังหวัดเชียงใหม่เยอะ อาจไม่ได้ติดเชื้อโควิด-19 โดยผู้ที่สงสัยตัวเองจะติดเชื้อโควิดก็ต้องไปโรงพยาบาลตามบัตรก่อน อย่างร้องขอให้ตรวจโควิด-19 เลย ซึ่งการขอตรวจโควิด-19 เองทางประกันสังคมจะไม่เข้าไปดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะคุณไม่ได้ทำตามขั้นตอนที่ทางประกันสังคมได้กำหนดเอาไว้