เชียงใหม่ โครงการ “MODESTA” เปิดตัวโครงการบ้าน สไตน์ “Modern Minimal” สันกำแพงสายเก่า ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่(คลิป)

อสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ ยังเติบโตต่อเนื่อง โครงการ “MODESTA” เปิดตัวโครงการบ้าน สไตน์ “Modern Minimal” สันกำแพงสายเก่า ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้านักธุรกิจชาวไทยและชาวต่างชาติมาพำนักอาศัย

นางพณิชน์ศญา ปัญญาเลิศ กรรมการผู้จัดการโครงการ MODESTA เปิดเผยว่า โครงการ”MODESTA” เป็นโครงการบ้านจัดสรรตั้งอยู่ในพื้นที่บ่อสร้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่เป็นบ้าน สไตน์ Modern Minimal มีทั้งหมดอยู่ 85ยูนิต ขณะนี้อยู่ในช่วงการพัฒนาในเฟสที่ 2 โดยโครงการจะทำการก่อสร้างทั้งหมด 4 เฟสด้วยกันขณะนี้ก่อสร้างไปแล้ว 50%คาดว่าประมาณปี 2569 จะเสร็จสิ้นทั้งหมด กลุ่มลูกค้าจะป็นกลุ่มนักธุรกิจและกลุ่มต่างชาติที่มาพักอาศัย จุดเด่นโครงการคือมียูนิตน้อยให้ความเงียบสงบกับลูกบ้านและมีความเป็นส่วนตัวในขณะเดียวกันทำเลก็นับว่าดีเดินทางสะดวกสบาย ราคาเริ่มต้นที่ 3.39 ล้านบาท พื้นที่ 42.3 ตารางวา มูลค่าการลงทุน 480 ล้านบาท

“เรามีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ คือเนื้อที่ 43 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 164 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน ราคา 3.39 ล้านบาท และแบบเนื้อที่ 62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 206 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน โอ่โถงสะดวกสบายสไตน์ Modern


นางพณิชน์ศญา กล่าวต่อว่า แนวโน้มทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ยังมีทิศทางที่ดีไม่ซบเซา แม้ว่าหลังโควิด-19
ยังมีการขับเคลื่อนไปได้อย่างช้า ๆ แต่ยังมองว่าเชียงใหม่ยังสามารถเติบโตไปได้ดีอยู่ เนื่องจากเป้าหมายของคนวัยเกษียณส่วนใหญ่ต้องการมาพักผ่อนในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดสุดท้าย และเชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่น่าอยู่อาศัย

เชียงใหม่ เปิดตัว “กาดดาราเทวี” โฉมใหม่! สัมผัสเสน่ห์แห่งอารยธรรมและสถาปัตยกรรมล้านนา กระตุ้นเศรษฐกิจ(คลิป)

เปิดตัว “กาดดาราเทวี” โฉมใหม่! สัมผัสเสน่ห์แห่งอารยธรรมและสถาปัตยกรรมล้านนา กระตุ้นเศรษฐกิจ

ช่วงเย็นวันที่ 21 กพ.68 ที่ดาราเทวี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานเปิด “กาดดาราเทวี” เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างดาราเทวี เชียงใหม่ และเทศบาลตำบลท่าศาลา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของตำบลท่าศาลา เผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น สินค้าและผลิตภัณฑ์จากชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน

ภายในงาน นักท่องเที่ยวจะได้พบกับประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ยกเอาตลาดท้องถิ่นอันเลื่องชื่อ “กาดดาราเทวี” มาให้สัมผัสอีกครั้ง โดยมีการจัดแสดงผลงานภูมิปัญญาชาวบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ไทย งานประดิษฐ์ หัตถกรรม และภูมิปัญญา สัมผัสความงามของงานฝีมือท้องถิ่น เช่น กลุ่มทำโคมสินค้าหัตถกรรมประจำเทศบาลตำบลท่าศาลา และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน นำเสนอผลิตภัณฑ์จากจิตรกรรมฝาผนัง และการวาดภาพลงกระเป๋า การตอกเล็บโบราณ ศิลปะพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ และยังมีเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ของที่ระลึก อาหารเหนือพื้นเมือง และสินค้าจากศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย.

เชียงใหม่ มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ (One Love) จัดนิทรรศการแสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะ One Love Art Exhibition 2025 ระหว่างวันที่ 12 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ลาน One Square, โครงการ One Nimman (คลิป)

มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ (One Love) จัดนิทรรศการแสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะ One Love Art Exhibition 2025 ระหว่างวันที่ 12 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ลาน One Square, โครงการ One Nimman

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ลาน One Square, โครงการ One Nimman จังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ (One Love) จัดนิทรรศการแสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะ One Love Art Exhibition 2025 ระหว่างวันที่ 12 – 16 กุมภาพันธ์ 2568

คุณอัฐ ทองแตง รองประธานกรรมการมูลนิธิหนึ่งน้ำใจ กล่าวว่า มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ (One Love) จัดนิทรรศการแสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะ One Love Art Exhibition 2025 ระหว่างวันที่ 12 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ลาน One Square, โครงการ One Nimman จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้คอนเสปต์ “Love is…” ชวนทุกท่านเป็นทั้ง “ผู้ให้” และ “ผู้รับ” ในเวลาเดียวกัน

การกลับมาจัดในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 5 ที่มูลนิธิหนึ่งน้ำใจได้จัดแสดงและจำหน่ายภาพผลงานศิลปะ โดยได้รับความอนุเคราะห์จากศิลปินทั่วประเทศไทย ทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินผู้มีชื่อเสียง ดารา นักแสดงมากมาย อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ, ศาสตราจารย์พิเศษอารี สุทธิพันธุ์ ศิลปินแห่งชาติ, คุณลำพู กันเสนาะ, คุณธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง (Pomme Chan), คุณปัณพัท เตชเมธากุล (Yoon), คุณป๊อด ธนชัย อุชชิน (นักร้องนำวงโมเดิร์นด็อค), คุณฮ่องเต้ กนต์ธร เตโชฬาร (Art of Hongtae) ฯลฯ เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายผลงาน ภายในงานนิทรรศการมากกว่า 70 ผลงาน พร้อมกิจกรรมเพ้นท์ล้านนา กิจกรรมวาดภาพเหมือน และกิจกรรมมาร์ชเมลโล่ว์ โดยรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายร่วมบริจาคเข้าสู่มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ เพื่อช่วยเหลือและซ่อมแซมโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ปี 2567 จังหวัดนครศรีธรรมราช

จากวันนั้นจนถึงวันนี้มูลนิธิหนึ่งน้ำใจ ผ่านกิจกรรมระดมทุนทรัพย์ต่าง ๆ มากมาย ที่เกิดจากความตั้งใจและความร่วมมือของพนักงาน คณะผู้บริหาร จากทั้งเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ซึ่งทางมูลนิธิหนึ่งน้ำใจหวังเพียงจะได้เป็นผู้ให้ ผู้ส่งมอบความรัก ความปรารถนาดีที่สำเร็จเป็นรูปธรรมผ่านการร่วมแรงร่วมใจของผู้สนับสนุนทุกคน ที่ผ่านมาได้มอบทุนสนับสนุนด้านการศึกษาไปแล้ว 19 แห่ง ในครั้งนี้คาดว่าจะได้เงินมาร่วมกองทุนกว่า 4 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็มีโรงเรียนแห่งใหม่ขอเข้ามาด้วย

ทางมูลนิธิฯ จะพิจารณาในการสนับสนุน อีกส่วนก็จะกลับไปดูแลโรงเรียนเดิม 19 แห่ง ที่เริ่มทรุดโทรมไปแล้ว เพราะเราเชื่อว่า “ความสุขที่สมบูรณ์แบบ คือการเติมเต็มชีวิตให้มีค่ามากยิ่งขึ้น” มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ของการเป็นผู้ให้ไปพร้อม ๆ กับเรา ในนิทรรศการ One Love Art Exhibition 2025 สามารถร่วมบริจาคทำบุญซื้อผลงานศิลปะได้ที่ www.exhibition.onelove.or.th

ลำพุน เล่าเรื่องเมืองลำพูน วิถีใหม่ ในเมืองเก่า Lamphun Stories : New Vibes in the Old City​ (คลิป)

เล่าเรื่องเมืองลำพูน วิถีใหม่ ในเมืองเก่า Lamphun Stories : New Vibes in the Old City​

“สัมผัสลำพูนในมุมมองใหม่ ผสมผสานเสน่ห์ดั้งเดิมกับวิถีชีวิตใหม่”

เก็บภาพบรรยากาศการท่องเที่ยว Lamphun Stories มาให้ชม ซึ่งปีนี้ก็มีกิจกรรมดีๆที่ จังหวัดลำพูนจัด # Lamphun Story Telling

เชียงใหม่ นักธุรกิจไทยและจีน ร่วมเปิดคลินิกบริการแพทย์แผนไทยและแผนจีน ให้บริการครบวงจร(คลิป)

นักธุรกิจไทยและจีน ร่วมเปิดคลินิกบริการแพทย์แผนไทยและแผนจีน ให้บริการครบวงจร ให้เป็นทางเลือก ของชาวเชียงใหม่และชาวจีน ตั้งเป้าภานใน 5 ปี เพิ่มเป็น 30 สาขาทั่วประเทศ

นักธุรกิจไทย – จีน ร่วมกันเปิดคลินิก แบบครบวงจร ทั้งแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน ชื่อ วีวา คลินิก เมดดิเฮลธ์ สหคลินิก ในโครงการมาลาดา เอ็ม-ทาวน์ ย่านถนนคลองชลประทาน ก่อนถึงประเสริฐแลนด์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้บริการทั้ง ปรับสมดุลร่างกาย เสริมสร้างสมรรถภาพ นอนไม่หลับ นวดไทยเพื่อสุขภาพ ลูกประคบกัญชง ฝังเข็ม ครอบแก้ว ทุยหนา โดยแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน และมีใบประกอบวิชาชีพรักษาโรคแบบจีนดั่งเดิม ส่วนแพทย์แผนไทย ก็มีใบประกอบโรคศิลป์ ทั้งนี้เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ให้กับชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวจีน

ดร.รัฐวิชญ์ สิริอมรสิทธิ์ ผู้บริหารคลินิก บอกว่า เป็นคลินิกแรกๆ ที่นำแพทย์แผนจีนแบบดั่งเดิม และแพทย์แผนไทยกดจุดรักษา ซึ่งมีใบประกอบวิชาชีพ และมีทักษะสูง แพทย์แผนจีนรักษาได้ 7 กลุ่มอาการ ด้วยการฝั่งเข็ม ทุยหนา ครอบแก้ว ทำคัวซา และกลุ่มที่มีอาการ ปวดระบบกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ปวดหลัง ปวดต้นคอ ปวดบ่าไหล่ ออฟฟิคซินโดรม และกลุ่มที่ 2 ที่มีอาการระบบประสาท ชาปลายมือ- ชาปลายเท้า อัมพฤกษ์ อัมพาต อัมพาตใบหน้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง และกลุ่มที่ 3 ระบบทางเดินหายใจ หรือโรคภูมิแพ้ กลุ่มที่ 4 ฮอร์โมนต่อมไร้ท่อ เบาหวาน ความดันสูง ความดันต่ำ โรคกลุ่มที่ 5 กระเพาะลำไส้ กลุ่มที่ 6 ปรับสมดุลนารีเวศน์และวัยทอง ประจำเดือนไม่ปกติ นอนไม่หลับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย และโรคกลุ่มที่ 7 ภาวะเครียด ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ คือการรักษาของแพทย์แผนจีน

ส่วนแพทย์แผนไทย มีประสบการณ์สูงมีการรักษาผสมผสาน ระหว่างการนวดกดจุดคลายเส้น สำหรับคนที่มีอาการหนักก็จะผสมผสาน ด้วยน้ำมันกัญชง คลินิกมีทั้งหมด 10 เตียง มีแพทย์และผู้ช่วย 6 – 7 คน โอกาสเปิดใหม่ มีโปรโมชั่นพิเศษ ลดราคาจาก 8,000 บาท ลดเหลือแค่ 4,950 บาท สามารถเลือกได้ 2 บริการ จาก 5 บริการ มีฝังเข็ม ครอบแก้ว ครัวซา ทุยหนา และการบำบัดของจีน ซึ่งราคานี้ เข้ารับบริการได้ทั้งแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารฯ ยังตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปี จะขยายสาขาให้ได้ 30 แห่งทั่วประเทศ เปิดวันแรกมีลูกค้า ทั้งไทยและจีน มาใช้บริการจำนวนมาก

ลำพูน “มูลนิธิธรรมจักรดอยกานสากล” จัดกิจกรรมการส่งเสริมพระพุทธศาสนาวันมาฆบูชารำลึก ปีที่ 2 (คลิป)

ลำพูน “มูลนิธิธรรมจักรดอยกานสากล” จัดกิจกรรมการส่งเสริมพระพุทธศาสนาวันมาฆบูชารำลึก ปีที่ 2 ณ ปิฎกธรรมสถานสากล อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน

วันนี้(11 กพ.68) เวลา 08.30 น. ที่ปิฎกธรรมสถานสากล บ้านห้วยเย็น อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน พระสุวรรณเมธี (แสวง ปญฺญาปชฺโชโต ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในกิจกรรมการส่งเสริมพระพุทธศาสนา “วันมาฆบูชารำลึก” และได้รับการโปรดจากพระครูสุมณฑ์ธรรมนิวิฐ รองเจ้าคณะอำเภอบ้านโฮ่ง เจ้าอาวาสวัดสันเจดีย์, พระครูสิริสุตาภิรัต เจ้าอาวาสวัดห้วยกาน,พระอนุสรณ์ ธมฺมสโร ผู้ประสานงานฯ วัดสันเจดีย์, อ.บุญเลิศ โคตรพัฒน์ กรรมการมูลนิธิธรรมจักรดอยกานสากล พร้อมด้วยนายทวีชัย อัมพุธ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยกาน, โรงเรียนบ้านห้วยแพ่ง, โรงเรียนบ้านโฮ่งศีลาภรณ์, โรงเรียนบ้านห้วยห้า, โรงเรียน อบจ.ลำพูน ป่าป่วย, โรงเรียนวัดร้องธาร, โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดิบ, โรงเรียนบ้านโฮ่งวิทยา และโรงเรียนธีรกานท์บ้านโฮ่ง พร้อมด้วยคณะครูบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน จำนวน 400 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชาในครั้งนี้

ต่อมาเวลา 09.40 น. ได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2568 ภายหลังจากนั้นคณะครูและนักเรียนได้ไหว้พระทำวัตรเช้าสมาทานเบญจศีลรับศีล โดยได้รับการโปรดเทศนาธรรม พระสุวรรณเมธี (แสวง ปญฺญาปชฺโชโต ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่

ทางด้าน อ.บุญเลิศ โคตรพัฒน์ กรรมการมูลนิธิธรรมจักรดอยกานสากล กล่าวว่าเนื่องด้วย มูลนิธิธรรมจักรดอยกานสากล “ปิฎกธรรรมสถานสากล” ซึ่งได้จัดกิจกรรมการส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา “วันมาฆบูชา” ประจำปี 2568 ณ ปิฎกธรรมสถานสากล เป็นปีที่ 2 ในการจัดกิจกรรมการส่งเสริมพุทธศาสนา เพื่อเป็นการส่งเสริมคุณจริยธรรมอันดีงามให้แก่นักเรียนได้มีความรู้ความเข้าใจในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ส่งเสริมการเรียนรู้ในกระบวนการเรียนการสอน ศีลธรรมและจริยธรรมของนักเรียน ตลอดจนเพื่อให้นักเรียนเกิดความศรัทธา และน้อมเอาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาปฏิบัฏิบัติและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม

ภายหลังจากนั้นพระสุวรรณเมธี (แสวง ปญฺญาปชฺโชโต ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวถึง ความสำคัญของวันมาฆบูชา ให้แก่ คณะครูและนักเรียน ถึงวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ สรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” พร้อมโปรดให้โอวาสแก่คณะครูและเยาวชนนักเรียน เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมทำความดีเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคต.

 

เชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดผาลาด เชียงใหม่ นำประชาชนจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาเส้นทางเดิน เชิงดอยสุเทพ ขึ้นไปยังวัดผาลาดระยะทาง 3 กิโลเมตร(คลิป)

เจ้าอาวาสวัดผาลาด เชียงใหม่ นำประชาชนจิตอาสา ทำความสะอาดและพัฒนาเส้นทางเดิน เชิงดอยสุเทพ ขึ้นไปยังวัดผาลาดระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อนำขบวนช้าง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปดอกไม้ นำไปให้ประชาชนกราบไหว้สักการะสรงน้ำ ย้อนรอยเส้นทางประวัติศาสตร์ ที่พญากือนา เจ้าหลวงเชียงใหม่ นำช้างเดินขึ้นเส้นทางนี้ เพื่อเสี่ยงทาย สถานที่ประดิษฐ์ พระบรมสารีริกธาตุ บนวัดพระธาตุดอยสุเทพ เมื่อปี พ ศ. 1917 หรือ 651 ปี ที่ผ่านมา


พระครู ธีรสุตพจน์ หรือพระมหาสง่า เจ้าอาวาสวัดผาลาด สกิทาคามี นำชาวบ้านจิตอาสา และส่วนราชการ ประมาณ 100 คน นำอุปกรณ์ มีด จอบ คาด ทำความสะอาดหญ้าแห้ง และกวาดทำความสะอาดใบไม้ เส้นทางสายประวัติศาสตร์ จากเชิงดอยสุเทพ เดินเท้าขึ้นไปยัง วัดผาลาด สกิทาคามี ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร คาดว่าใช้เวลาประมาณครึ่งวัน เพื่อจัดงานเทศกาลมาฆบูชา วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568


พระครู ธีรสุตพจน์ บอกว่า เส้นทางสายนี้ ในอดีต พญากือนา กษัตริย์เชียงใหม่ องค์ที่ 6 ราชวงศ์ มังราย ได้ใช้เส้นทางนี้ นำพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นหลังช้าง เพื่อเสี่ยงทาย สถานที่ ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ เมื่อ ปี พ ศ. 1917 หรือเมื่อ 651 ปี ที่ผ่านมา ระหว่างทางช้างที่นำพระบรมสารีริกธาตุขึ้นไป ได้หยุดพันถึง 3 แห่ง และเมื่อถึงวัดดอยสุเทพ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ ในปัจจุบัน ช้างก็ล้มตาย ภายหลังพญากือนา ได้ให้สร้างวัด จุดที่ช้างพักทั้ง 3 แห่ง คือ วัดโสดาปันนาราม หรือวัดผาลาด วัดสกทาคามี (สะ-กะ-ทา-คา-มี ) ปันจุบันอยู่ในเขตวัดผาลาด และวัด อนาคามี (อะ-นา-คา-มี ) ปัจจุบันหายสาบสูญ ไม่พบร่องรอย

ทั้งนี้เพื่อเป็นการย้อนรอยประวัติศาสตร์ และยังเป็นการตามรอยครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่สร้างเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ก็จะเดินย้อนรอยประวัติศาสตร์ ขึ้นไปยังวัดผาลาด มีขบวนช้าง 2 เชือก เพื่อนำพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปดอกไม้ เดินขึ้นไป พร้อมขบวนช่างฟ้อน ขบวนธรรมยาตรา เพื่อให้ประชาชน ได้สักการะและสรงน้ำ และยังเป็นการทบทวนบทบาท ในการให้เยาวชน ช่วยกันร่วมกันอนุรักษ์และช่วยกันรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งรักษาโบราณสถานไปพร้อมกัน พร้อมเชิญชวนประชาชนมาร่วมงาน และเส้นทางนี้ ยังเป็นเส้นทางท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว ใช้เดินออกกำลังกาย

เชียงใหม่ ตำรวจพร้อมกับชาวบ้าน หนองสี่แจ่ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ อุปสมบทหมู่ ในช่วงเทศกาลมาฆบูชา เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา และผู้มีพระคุณ (คลิป)

ตำรวจพร้อมกับชาวบ้าน หนองสี่แจ่ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ อุปสมบทหมู่ ในช่วงเทศกาลมาฆบูชา เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา และผู้มีพระคุณ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคม ที่วัดหนองสี่แจ่ง ชาวบ้านร่วมบุญ รอใส่บาตรพระใหม่ เชื่อว่าได้อานิสงฆ์ที่ยิ่งใหญ่


พันตำรวจเอก บัญชา อินถา ผู้กำกับการ สภ.ดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับชาวบ้าน หนองสี่แจ่ง อีก 3 คน ร่วมอุปสมบทหมู่ ที่วัดหนองสี่แจ่ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีขบวนแห่ แตร-วง เดินจากหมู่บ้านหนองสี่แจ่ง ไปตามถนนในชุมชน ไปยังวัดหนองสี่แจ่ง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนพ่อนาคนั่งบนหลังรถยนต์กระบะ จากนั้นแห่รอบโบสถ เดินวนซ้ายอีก 3 รอบ และโปรยทาน ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน ก่อนขึ้นไปทำพิธีบนพระวิหาร พระสงฆ์จะได้ทำพิธี ให้ศีลบวชกับนาคแสดงอาบัติ และเริ่มพิธีสังฆกรรม บรรพชาเป็นสามเณร

จากนั้นสามเณร ก็จะขึ้นไปบนพระอุโบสถ พระสงฆ์ประกอบพิธีสังฆกรรม ชาวบ้านหรือคณะศรัทธา จะต้องออกจากเขตพัทธสีมา ของพระอุโบสถให้หมด เมื่อพระภิกษุทำสังฆกรรมเสร็จหมดแล้ว จากนั้นก็จะเชิญแขกผู้มีเกียรติ และญาติพี่น้องของพระใหม่ ขึ้นไปบนพระวิหารเพื่อทำพิธีถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ และหยาดน้ำหมายทาน ไปถึงบรรพบุรุษ เจ้ากรรมนายเวร จากนั้นพระใหม่ก็จะเดินลงมารับบิณฑบาต โดยมีบิดามารดา ญาติผู้ใหญ่ ผู้ที่เคารพนับถือ หรือผู้ที่มาร่วมงานบุญ รอใส่บาตรพระใหม่ หน้าพระอุโบสถ เชื่อว่าจะได้อานิสงส์ 5 ประการ ทั้งเป็นที่รักของผู้คนทั้งหลาย คนดีมีปัญญาย่อมมีคนชอบคบค้าสมาคมด้วย มีชื่อเสียงที่ดีงาม เป็นผู้ไม่ห่างไกลธรรม เมื่อตายแล้วย่อมเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์ จากนั้นพระที่บวชใหม่ ก็จะไปจำพรรษา ที่วัด ปัญญาวุธาราม อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างนั้นก็จะถือศีลภาวนา ปฎิบัติธรรม จนถึงวันมาฆบูชา และลาสิกขาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568

เชียงใหม่ “สยามคูโบต้า” ตอกย้ำแบรนด์แทรกเตอร์อันดับหนึ่งของเกษตรกรไทย เปิดสนาม “คูโบต้า คันที่ใช่ พร้อมลุยทั่วไทย” มุ่งสู่สนามแข่งระดับนานาชาติปลายปีนี้(คลิป)

บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ตอกย้ำความเป็นแทรกเตอร์ที่ใช่ของเกษตรกร จัดแคมเปญ “คูโบต้า คันที่ใช่ พร้อมลุยทั่วไทย” ชู Sport Marketing สร้างมิติใหม่ผ่าน”กีฬาของเกษตรกรไทย” เพิ่มประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสสมรรถนะของเครื่องจักรกลการเกษตรแบรนด์คูโบต้าจากการใช้งานจริง ผ่านการแข่งขันแทรกเตอร์ระดับประเทศเพื่อเฟ้นหาตัวแทนผู้เข้าแข่งขันทั่วไทย โดยจะมีผู้ชนะการแข่งขันจากสนามแข่งกัมพูชา และลาว เข้าร่วมแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศระดับนานาชาติ ณ คูโบต้าฟาร์ม จังหวัดชลบุรี ปลายปีนี้

 
นายปุณนะ วงศ์ธนาศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า สยามคูโบต้ามองเห็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการสร้างความเชื่อมั่นก่อนการตัดสินใจซื้อแทรกเตอร์ของเกษตรกร นั่นคือ การได้ทดลองขับแทรกเตอร์ในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น สยามคูโบต้า จึงมุ่งมั่นในการตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมที่สุด รวมทั้งสร้างความน่าสนใจและความแปลกใหม่ให้แก่วงการเครื่องจักรกลการเกษตร ผ่านแคมเปญ “คูโบต้า คันที่ใช่ พร้อมลุยทั่วไทย 2025” เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี  ในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ผ่านการเปิดสนามแข่งขันแทรกเตอร์ประลองทักษะการขับขี่โดยฝ่าด่านสถานีการทดสอบที่จำลองรูปแบบการทำงานจริง เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน และผู้ชมได้เห็นถึงสมรรถนะในการทำงานของเครื่องจักรกลการเกษตรอย่างใกล้ชิดผ่านสถานีต่างๆ ที่ลุยได้ทุกข้อจำกัด รวมถึงช่วยให้ลูกค้าได้เห็นถึงความคล่องตัวและทนทานของเครื่องจักรกลการเกษตรแบรนด์คูโบต้า ที่อยู่คู่เกษตรกรไทยมากว่า 46 ปี นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การทำตลาดแบบ Sport Marketing ที่นำเอาแบรนด์เข้ามาผนวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เพื่อสร้างความผูกพันและการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้มีความแน่นแฟ้น

 
“โดยที่ผ่านมาสยามคูโบต้าได้จัดการแข่งขัน “คูโบต้าพันธุ์แกร่ง 2023 ชิงถ้วยพระราชทานครั้งแรกของไทย” สำหรับในปีนี้ สยามคูโบต้าได้เปิดฉากศึกแห่งศักดิ์ศรีเกษตรกรชิงแชมป์ในระดับนานาชาติ โดยจะมีผู้ชนะจากประเทศกัมพูชา และประเทศลาว เข้าร่วมประลองศึกด้วย ซึ่งการต่อยอดในระดับนานาชาติครั้งนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นการแข่งขันและการเติบโตในตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรแล้ว ยังสร้างโอกาสในการขยายตลาด ความร่วมมือและช่วยเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ทำให้เกษตรกรจากนานาประเทศเชื่อมั่นในแบรนด์คูโบต้า

สำหรับในปี 2025 ประเทศไทยได้เปิดสนามทั้งหมด 6 จุด ได้แก่ ลำดับ ภาค จังหวัด วันที่จัดกิจกรรม สถานที่
1. ภาคใต้ กระบี่ 23 มกราคม 2025 ลานเอนกประสงค์ ข้างโรงแรม C&C 2. ภาคเหนือล่าง พิษณุโลก 30 มกราคม 2025 มหาวิทยาลัยพิษณุโลก 3. ภาคเหนือบน เชียงใหม่ 6 กุมภาพันธ์ 2025 ลานโกดังนิ่มซี่เส็ง สารภี 4. ภาคอีสานบน อุดรธานี 11 กุมภาพันธ์ 2025 นิคมอุตสาหกรรมอุดรธานี 5. ภาคอีสานกลาง มหาสารคาม 20 กุมภาพันธ์ 2025 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 6. ภาคอีสานล่าง ศรีสะเกษ 27 กุมภาพันธ์ 2025 สนามกีฬากลาง

 
สำหรับภายในงาน “คูโบต้า คันที่ใช่ พร้อมลุยทั่วไทย 2025” ได้จัดโซนต่างๆ รวม 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 KUBOTA CHAMPIONSHIP โซนแข่งขันแทรกเตอร์ รุ่น L5018SP โดยมีสถานีการแข่ง 6 สถานี ได้แก่
สถานี 1 ขับเป็นวงกลม เพื่อทดสอบวงเลี้ยวที่แคบ และทักษะในการบังคับรถในพื้นที่แคบ
สถานี 2 ลูกระนาด ทดสอบความแข็งแกร่งช่วงล่างและทักษะการขับขี่ในพื้นที่ทุรกันดาร
สถานี 3 ลุยหล่ม ทดสอบความแรงของเครื่องยนต์ และทักษะในการขับขี่ในพื้นที่หล่ม
สถานี 4 ซิกแซก ทดสอบความเบาแรงของพ่วงมาลัย การทรงตัวที่ดี และทักษะความแม่นยำในการขับขี่
สถานี 5 เดินหน้าถอยหลัง โดยไม่ต้องหยุดรถ ทดสอบทักษะความคล่องตัวในการทำงานของเกียร์และทักษะความรวดเร็วในการใช้เกียร์
สถานี 6 คานทรงตัว ทดสอบการทรงตัวบนคาน

 
โซนที่ 2 PRODUCT SHOWCASE จัดแสดงสินค้าคูโบต้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของเกษตร และครอบคลุมทุกพืช อาทิ แทรกเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง รถขุด รถเกี่ยวนวดข้าว รถดำนา โดรนการเกษตร รวมถึงเครื่องยนต์
โดยมีไฮไลท์คือ Innovation Product และ EV แทรกเตอร์
โซนที่ 3 CAMPAIGN SHOWCASE จัดแสดงสินค้าหรือแคมเปญต่างๆ อาทิ บริการหลังการขาย อะไหล่แท้            คูโบต้า คูโบต้าลีสซิ่ง ลูกค้าสัมพันธ์
โซนที่ 4 TRIAL USE PRODUCT โซนทดลองขับ อาทิ แทรกเตอร์ รถขุด โดรนการเกษตร Robo Tractor เพื่อให้เกษตรกรและผู้สนใจได้สัมผัสสมรรถนะของสินค้าคูโบต้าอย่างใกล้ชิด

 
“การจัดการแข่งขันกีฬาแทรกเตอร์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเกษตรกรในด้านของสินค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างมุมมองเชิงบวกที่มีต่อแบรนด์คูโบต้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน และจากความมุ่งมั่นนี้ทำให้เราได้รับรางวัล สุดยอดแคมเปญการตลาดแห่งปี 2024 จากสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยสยามคูโบต้าจึงพร้อมมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรไทย และรักษาความเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงสร้างความผูกพันภายในชุมชนของเกษตร โดยเฉพาะผู้แทนจำหน่ายสยามคูโบต้ายังได้มีโอกาสต่อยอดการขายอย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ในขณะเดียวกันยังเป็นการขยายเวทีการแข่งขันให้ยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรจากหลายนานาประเทศเข้าร่วมแข่งขันเป็นการส่งเสริมความภาคภูมิใจในอาชีพเกษตรกร และได้ใช้เวลาว่างจากการทำเกษตรมาฝึกฝนทักษะให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งสยามคูโบต้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้สร้างสนามแห่งประสบการณ์ร่วมกับเกษตรกรทุกคน และเราพร้อมยืนเคียงข้างเกษตรกรเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาภาคการเกษตรตลอดไป” นายปุณนะกล่าวปิดท้าย

สำหรับ ผู้ชนะเลิศ ในสนามนี้คือนายอธิคม ตองเต จากจังหวัดตาก ทีมร้าน วี.ที.เอส. แทรกเตอร์ ตาก และเป็นแชมป์ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว

เชียงใหม่ บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด ร่วมกับ โรงเรียนสันกําแพง จัดโครงการ “English We Like”ติวข้อสอบ”A-Level TGA-Eng“ (คลิป)

บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด ร่วมกับ โรงเรียนสันกําแพง จัดโครงการ “English We Like”ติวข้อสอบ”A-Level TGA-Eng“

วันนี้(5 กพ.68) โรงเรียนสันกําแพง จังหวัดเชียงใหม่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการ “English We Like” โดยมีนายคงกระพัน เวฬุสาโรจน์ ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นเกียรติ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้อํานวยการ คณะครู โรงเรียนสันกําแพง วิทยากร และนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ

นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากคํากล่าวรายงานของ ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด ถือว่าการจัดโครงการ ” English We Like” เป็นการติวสอนภาษาอังกฤษผ่านข้อสอบของปี ที่ผ่าน ๆมา เป็นการสื่อสารเทคนิค การพูดภาษาอังกฤษและคําศัพท์ เพิ่มพูนความรู้และเพื่อเป็นแนวทางนําไปใช้ในการทําข้อสอบสําหรับเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งมีทัศนคติที่ดี ต่อการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร รวมถึงเปิดโอกาสให้นักเรียนทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมติวกับโครงการได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เข้าถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทยมาเป็นปี ที่ 17 แล้วนับเป็นการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการติว เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างแท้จริง สิ่งสําคัญที่สุด คือ ทุกคนจะมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมที่มีคุณค่า ภายใต้บรรยากาศ ที่สนุกสนานแนวคิด เทคนิคต่าง ๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน การทดลองทําข้อสอบของปีที่ผ่านมาต่อไป

ต้องขอขอบคุณ บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด ที่ได้ดําเนินการจัดโครงการ “English We Like” ในครั้งนี้ ขอให้นักเรียนทุกคนได้ตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้ และฝึกปฏิบัติให้เต็มศักยภาพของตนเอง และหวังว่าการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จะบรรลุวัตถุประสงค์

นายกฤตภัค สุธนวรกุล ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด กล่าวว่า โครงการ ” English We Likeโดยมี บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด เป็ นผู้ริเริ่มก่อตั้ง และดําเนินโครงการนี้ มาเป็นปี ที่ 17 ในวันนี้ บริษัทไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด ได้เล็งเห็นถึงความสําคัญของการศึกษาและพัฒนาภาษาอังกฤษของเด็กและเยาวชนจึงให้จัดโครงการ “English We Like

โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และฝึกฝนทักษะ นอกเหนือจากในบทเรียน และนอกห้องเรียน เพื่อส่งเสริม ให้เด็กมีเทคนิคในการทําข้อสอบ TGAT เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเพื่อให้เด็กที่เข้าร่วมโครงการ มีเจตคติที่ดีต่อการใช้ทักษะภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และฝึกให้มีความกล้าในด้านการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น เพื่อนําไปต่อยอดในอนาคตต่อไป

โครงการ ” English We Like ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ โดยการนําติวเตอร์มืออาชีพมาแนะนํา เทคนิคการข้อสอบ และแนะนําคําศัพท์ต่างๆ โดยนําข้อสอบปี ที่ผ่านมาเป็ นตัวอย่างสอนเทคนิคการทําข้อสอบ TGAT- Eng เพื่อให้น้องๆนักเรียนได้นําไปใช้ใน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย

การจัดโครงการในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท วินคอลมาเก็ดติ้ง จํากัด บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่(มหาชน)จํากัด บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ (มหาชน)จํากัด บริษัท คาลบี้ธนาวัธน์ จํากัด จํากัด บริษัท เซ็ปเป้ จํากัด (มหาชน) บริษัท นิวเวฟ เอเชีย จํากัด บริษัท ยาดี จํากัด บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศ ไทย) จํากัด บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จํากัด บริษัท ปวีณ์มล จํากัด (KA)


ในโอกาสนี้ กระผม นายกฤตถัค สุธนวรกุล ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ขนุน กรุ๊ป จํากัด จะได้มีการมอบทุนการศึกษาส่วนตัว ให้กับนักรียน ที่เรียนดี ประพฤติตัวดี และยากจน จํานวน 10 ทุน เพื่อเป็นขวัญกําลังใจในการเล่าเรียน