ข่าวทั่วไทย » เชียงใหม่ “ช้างน้ำเพชร” อาการหนัก ยื่นหนังสือ​ถึง​มูลนิธิ​ช้างและสิ่งแวดล้อมฯ เตรียมฟ้องเจ้าของสุนัขนำช้างเข้ามาในปาง(คลิป)

เชียงใหม่ “ช้างน้ำเพชร” อาการหนัก ยื่นหนังสือ​ถึง​มูลนิธิ​ช้างและสิ่งแวดล้อมฯ เตรียมฟ้องเจ้าของสุนัขนำช้างเข้ามาในปาง(คลิป)

11 ตุลาคม 2023
447   0

Spread the love

“ปางช้างแม่สา” ยื่นหนังสือ​ถึง​มูลนิธิ​ช้างและสิ่งแวดล้อมฯ กรณี​ น้องน้ำเพชรตกเขาอาการหนักที่ขาหลังทั้งสองข้างกระดูกแตก และเตรียมฟ้องเจ้าของหมา เรียกค่าเสียหาย ที่นำหมาเข้าไปในปางช้าง แล้วเห่าช้างจนตกเขา

เมื่อ​วันที่​ 11 ต.ค. 66 นาง​อัญชลี​ กัลมา​พิจิตร​ผู้บริหาร​ปาง​ช้าง​แม่สา​ เปิดเผยกับทางผู้​สื่อข่าว ถึง​เรื่อง​กรณี​ ของน้องน้ำเพชร ที่ได้รับอุบัติเหตุวิ่งหนีหมาเห่า จนตกเขาแล้วตกไปในแอ่งน้ำ ทำให้น้องน้ำเพชรได้รับบาดเจ็บขาข้างซ้ายและข้างขวาหลังทั้งสองข้าง

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ในช่วงบ่าย มีนักท่องเที่ยว​ชาวไทยที่มาเป็นคณะฯ มาพร้อมกับสุนัขพันธุ์​ผสมตัวใหญ่ โดยเรียกร้องที่จะนำสุนัขเข้าไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของปางช้างที่อยู่ด้านหน้า ในวันนั้นก็มีจำนวนน้อยเนื่องจากว่าในปางช้างได้มีการทำโปรแกรม โดยมีคุณลุงเฝ้าหน้าปางอยู่ โดยมีการโต้แย้งกันว่าไม่ให้นำสุนัข​เข้าไปเพราะว่ามันเป็นกฏระเบียบของปางช้างแม่สา แต่นักท่องเที่ยว​ผู้​หญิงที่นำสุนัขมาก็ยืนยันว่าได้โทรคุยกับทางสำนักงานปางช้างแม่สา แล้วว่าได้มีการขออนุญาต​นำสุนัขเข้ามา และโดยความที่คุณลุงอายุมากแล้ว ก็​เลยอนุญาติ​ให้เข้าไปในปางช้างแม่สา โดยผู้​หญิงที่นำสุนัขเข้าไป รับร้องว่าสุนัขของเขาไม่เห่า ถ้าเห่าเค้าจะรับผิดชอบถ้าเกิดมีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น จนก็เกิดเหตุ​การณ์​ไม่คาดคิดสุนัขได้เห่าทำให้น้องสร้อยเพชร ตกใจเตลิดหนี ออกจากคอกกั้น ไปท้ายปาง แล้วลื่นไถลตกเขาแล้วตกไปในแอ่งน้ำ สูง 8 เมตร ทำให้ช้างบาดเจ็บขาข้างซ้าย ล่าสุดตรวจพบขาข้างขวาก็เจ็บด้วย ยังดีที่ช่วงนั้นมีฝนตกทำให้บริเวณ​นั้นเป็นแอ่งน้ำ ช่วยพยุง​รับร่างน้องน้ำเพชรไม่ให้ได้รับบาดเจ็บอันตรายไปมากกว่านี้

“โดยทางเราได้รับการอนุเคราะห์จาก มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อมฯ ที่ได้นำทีมสัตวแพทย์ พร้อมด้วยเครื่องเอกซเรย์เข้ามาร่วมมือกับทีมงานสัตวแพทย์ของปางช้างแม่สา ในการที่จะทำการเอกซเรย์ขาด้านหลังของน้องน้ำเพชร ที่มีปัญหาเรื่องของกระดูกหรือว่าข้อเท้า ผลของการเอกซเรย์ในเบื้องต้น เท่าที่ดูจากฟิล์มเอกซเรย์ จะพบรอยร้าวที่กระดูกขาหลังทั้งสอง ของน้องน้ำเพชร โดยจะพบรอยร้าวมากหน่อยที่บริเวณขาด้านซ้าย ซึ่งทีมงานสัตวแพทย์ ได้แจ้งถึงการรักษาเบื้องต้นก็คือ ต้องกักบริเวณน้องน้ำเพชร ให้อยู่ในวงจำกัด เพื่อไม่ให้เดิน ไปในพื้นที่บริเวณวงกว้าง เพื่อไม่ให้ใช้ขา ที่มีปัญหาเยอะ โดยให้น้องน้ำเพชรอยู่ในพื้นที่ที่มีบริเวณไม่กว้างมาก ซึ่งในตอนนี้น้องน้ำเพชรอยู่กับแม่ทองศรี โดยน้องน้ำเพชรก็ยังออกมาในส่วนแสดงของปางช้างแม่สาเพื่อพบกับนักท่องเที่ยวบ้าง ส่วนการให้ยารักษานั้น ในส่วนของคุณหมอทีมงานสัตวแพทย์ปางช้างแม่สา ได้ให้ยาแก้ปวด เพื่อลดอาการ แต่ก็ไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะมากนัก เพราะว่าน้องน้ำเพชรยังเป็นช้างเด็ก อายุก็ประมาณ 7 ขวบ คือ ต้องรักษาแบบปลอดภัยที่สุด โดยทีมงานสัตวแพทย์กำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการรักษา และดูแลติดตามอาการอย่างใกล้ชิด”

นาง​อัญชลี​ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของเรื่อง คดีความหรือความรับผิดชอบนั้นเหตุการณ์​นี้เราไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะถ้าเราห้ามแล้วคุณไม่เอาสุนัขเข้าไป เพราะว่าเราเปิดปางช้างมา 50 กว่าปีแล้ว ทุกคนก็ทำตามกฎโดยตลอด สัตว์เลี้ยงก็จะอยู่ด้านนอกไม่ได้เอาเข้าไป พอนำเข้าไปแล้วก็เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น และเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้ให้นางรัตนาฯ ผู้จัดการปางช้างแม่สา ได้ติดต่อประสานไปยังผู้ที่นำสุนัขเข้ามายังปางช้างแม่สา แต่โดนปฏิเสธความรับผิดชอบ ตอนนี้คนนำสุนัขเข้าปางช้างแม่สา บอกว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของสุนัข เจ้าของสุนัขอยู่ต่างประเทศ แล้วบอกว่าจะติดตามให้ ซึ่งทางเราไม่โอเคร เพราะว่าช้างของเราไม่ควรจะต้องมาเจ็บฟรี หรือว่าเราต้องมารับผิดชอบช้างเราเอง หรือว่าช้างของเราพิการจะทำยังไง เพราะว่าน้องน้ำเพชร ของเรามีคนรักมาก ในทุกวันก็มีคนคอยเข้ามาส่งกำลังใจและคอยติดตามอาการของ น้องน้ำเพชร ในตอนนี้เราได้ปรึกษากับทางทีมทนาย และได้ทำหนังสือ​ส่งเอกสารไปหา ประธานมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อมฯ เพื่อขอความอนุเคราะห์ ช่วยเหลือทางด้านคดีความ แล้วก็เรื่องของค่าเสียหาย แล้วทางเราก็จะให้ทางทีมทนายความของทางปางช้างแม่สา ยื่นฟ้องเองทั้ง ทางแพ่งและทางอาญา โดยเราจะต้องดูในเรื่องของข้อกฎหมายอีกทีหนึ่งก่อน

นาง​อัญชลี​ กัลมา​พิจิตร​ผู้บริหาร​ปาง​ช้าง​แม่สา​ เปิดเผยกับทางผู้​สื่อข่าวอีกว่า ขอแจ้งข่าวดีไปถึง FC ปางช้างแม่สา ถึงเรื่องช้างที่จะเกิดใหม่ของปางช้างแม่สา คือแม่ของขุนศึก “แม่วันเพ็ญ” โดยทีมงานสัตวแพทย์ของปางช้างแม่สา ได้ตรวจดูแล้วพบว่ามีน้ำนมไหลออกมาจากนมของแม่วันเพ็ญ​ ซึ่งทางทีมสัตวแพทย์ก็คาดว่า ในช่วงของเดือนตุลาคมต่อเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็จะมีลูกช้างเกิดใหม่ที่ปางช้างแม่สา จากแม่วันเพ็ญ​และจะตกลูกตามธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีมาก ซึ่งในตอนนี้เราก็ได้เตรียมสถานที่เพื่อที่จะต้อนรับขวัญลูกช้างที่จะเกิดใหม่ พร้อมกันนี้ได้เลือกช้างที่จะเป็น “แม่รับ” ให้กับลูกช้างที่จะเกิดใหม่ คือ “แม่หนุงหนิง” เพราะว่าแม่หนุงหนิงเป็นช้างที่สนิทกับแม่วันเพ็ญได้ดี แต่เราก็ยังคงต้องสำรอง “แม่รับ” เอาไว้อีกหนึ่งเชือก ถือว่าเป็นข่าวดีเป็นเรื่องดีที่จะเกิดขึ้นที่ปางช้างแม่สา

จึงอยากประชาสัมพันธ์​เชิญชวนทุกท่านที่ “รักช้าง” เดินทางมาเที่ยวชมพร้อมให้กำลังใจ “ช้าง” หรือมาให้อาหารช้าง ที่ปางช้างแม่สา มาช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลช้าง ซึ่งทางปางช้างแม่สา มีกิจกรรม “Elephant care โปรแกรม” ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาอยู่กับช้างได้ 2 ชั่วโมง / ครึ่งวันหรือเต็มวัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางรัตนา ศรีหมอก ผู้จัดการปางช้างแม่สา เบอร์โทร 081-882-3738, 089-838-4242, 053-206-247, 053-206-248 หรือติดต่อผ่านช่องทางเพจ facebook ได้ที่https://www.facebook.com/Maesaelephantcamp?mibextid=ZbWKwL นางอัญชลีฯ กล่าว.