ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตัดทำลายไล่ฝิ่นในพื้นที่รอยต่อตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง และตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พบกลุ่มนายทุนลักลอบปลูกฝิ่น โดยจะใช้วิธีปลูกตามหย่อมบ้านใช้พื้นที่ไม่กี่ตารางวา แต่ปลูกหลายแปลง เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ แต่ขณะเข้าพื้นที่คนร้ายได้ทิ้งกระท่อมมุงใบดองหลบหนี
พลตำรวจตรีประกอบ พลเตชา ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 พร้อมด้วยพันตำรวจเอกรังสิมันต์ สงเคราะห์ธรรม รองผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 กว่า 30 นาย ปิดล้อมเข้าตัดทำลายไร่ฝิ่นในเขตพื้นที่รอยต่อตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง กับตำบลแม่นะอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ทุระกันดารต้องใช้รถยนต์แบบขับเคลื่อน4 ล้อเข้าไป และเดินทางลักเลาะป่าสนลงไปในหุบเขา โดยพบว่ามีกลุ่มนายทุนได้ว่าจ้างคนพื้นที่แอบลักลอบปลูกฝิ่น เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบว่า บริเวณทางเขาไร่ฝิ่น มีกระท่อนมุงด้วยใบตอง แต่คนเฝ้าไร่ฝิ่นได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ตัดทำลายพบว่ามีพื้นที่จุดนี้มีพื้นที่ประมาณ 50 ตารางวา มีฝิ่นดิบบางส่วนถูกกรีดนำยางฝิ่นไปแล้ว โดยในจุดดังกล่าวนี้ยังมีการปลูกฝิ่นอีกประมาณ 20 แปลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำลายไปแล้ว 18 แปลง
ด้านพลตำรวจตรีประกอบ พลเตชา ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 เปิดเผยว่า พื้นที่ปลูกฝิ่นในปีนี้ลงลดและดอกฝิ่นเล็กลงเนื่องจากปีที่ผ่านมา ในพื้นที่เกิดฝนตกลงมาต่อเนื่องทำให้การต้นฝิ่นไม่เจริญเติบโตเหมือนปีที่ผ่านมา ประกอบกับเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เคยทำการปลูกฝิ่นพบว่า กลุ่มนายทุนได้ทำการหลบเลี่ยงด้วยการปลูกฝิ่นตามหย่อมบ้าน ใช้พื้นที่ 30-50 ตารางเมตร ทำให้ยากแก่การเข้าตรวจสอบ
อย่างไรก็ดี หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการตัดทำลายไร่ฝิ่นแล้ว ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ก็ได้มอบโดรนบังคับวิทยุให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงาน เพื่อทำไปบินถ่ายภาพทางอากาศ วิเคราะห์และตรวจจับกลุ่มผู้ลักลอบปลูกไร่ฝิ่น ในบางจุดที่เจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปได้ยากลำบาก