ข่าวทั่วไทย » ลำพูน Smart Farmer พลิกโฉม “ไข่ผำ” พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก (คลิป

ลำพูน Smart Farmer พลิกโฉม “ไข่ผำ” พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก (คลิป

2 พฤษภาคม 2025
88   0

Spread the love

“Smart Farmer พลิกโฉม ไข่ผำ พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก” โดย ไข่ผำ เป็นพืชน้ำจิ๋วพื้นถิ่นของไทย กำลังถูกยกระดับสู่ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง โดยเฉพาะโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่าย เติบโตเร็ว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่ผงโปรตีน ผงชงดื่ม อาหารเสริม จนถึงขนมคุกกี้ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดสุขภาพปัจจุบัน

ที่คาระวีรีสอร์ท อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน นายอนุวัฒน์ กำแพงแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิจัยพืชอนาคต (กพอ.) เดินทางมาให้ความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจ และเปิดอบรมการผลิตผำเชิงพานิช ให้มีมาตรฐาน GP โดยกรมวิชาการเกษตรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงผำ จะเพาะเลี้ยงอย่างไรให้ได้มาตรฐานสำหรับการแปรรูป หรือการส่งออกไปต่างประเทศ โดยปัจจุบันผู้ที่สนใจมีการตอบรับที่ดีในกลุ่มเพาะเลี้ยงและกลุ่มผู้ที่รักสุขภาพเป็นทางเลือกนึงสำหรับอาหารที่มีโปรตีนสูง ส่วนผู้ที่สนใจสามารถมาสอบถามข้อมูลทุกขั้นตอนได้ไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ของผำ การปลูก หรือมาตรฐานก็สามารถสอบถามหน่วยงานภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่มี 8 เขตททั่วประเทศ รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่อยุ่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งภาคเหนือก็ที่ผู้ที่สนใจติดต่อมาทางกรมฯ มากพอสมควร

หนึ่งในกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ “Smart Farmer” ที่เดินหน้ายกระดับไข่ผำอย่างจริงจังคือ “เกตนภาฟาร์ม” ซึ่งได้พัฒนาระบบ “Wolffia Plus” ฟาร์มอัจฉริยะแนวตั้ง ที่นำเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT เข้ามาควบคุมทุกขั้นตอนการเพาะเลี้ยงอย่างแม่นยำ ตั้งแต่แสง อุณหภูมิ และความชื้น ภายใต้แนวคิด Zero-Touch ใช้แขนกลและระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ผสมผสานพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ 100% เพื่อผลิตไข่ผำคุณภาพสูงระดับเมดิคอลเกรด สำหรับตลาดสุขภาพและอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต

ด้านนายสายัณห์ นันตา ผู้ร่วมพัฒนาระบบ Wolffia Plus เผยว่า จุดเริ่มต้นของฟาร์มแห่งนี้มาจากความสนใจในเทคโนโลยีและการเกษตร ประกอบกับการมองเห็นศักยภาพของไข่ผำในฐานะแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืน จึงได้พัฒนาเกตนภาฟาร์มให้เป็นต้นแบบฟาร์มอัจฉริยะ เพื่อลดการใช้แรงงานคน เพิ่มความแม่นยำในการผลิต และสามารถทำงานได้ตลอดปีแบบยั่งยืน

นอกจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ฟาร์มเกตนภายังเปิดพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนที่สนใจเรียนรู้การเลี้ยงไข่ผำตามธรรมชาติ โดยเน้นการควบคุมความสะอาดเพื่อให้ได้ไข่ผำคุณภาพสูง ช่วยผลักดันให้ไข่ผำเติบโตในท้องตลาด และสร้างมูลค่าให้แก่เกษตรกรไทย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับผู้ที่สนใจนำเทคโนโลยีของเกตนภาฟาร์มไปปรับใช้ ก็สามารถเข้ามาเรียนรู้ในโรงเรือนต้นแบบขนาด 9 คูณ 12 เมตร ซึ่งมีชั้นเลี้ยงไข่ผำถึง 100 ชั้น การออกแบบนี้ทำให้สามารถเก็บผลผลิตสลับกันได้ทุก 3 วัน จึงมีผลผลิตหมุนเวียนขายได้ตลอดทั้งเดือน เฉลี่ยเดือนละ 400 ถึง 500 กิโลกรัม

ปัจจุบันไข่ผำที่ผลิตได้จำหน่ายในรูปแบบ food grade ในราคา 400 กรัมอยู่ที่ 289 บาท ซึ่งเป็นไข่ผำสดคุณภาพสูง พร้อมนำไปประกอบอาหารได้ทันที รวมถึงมีผลิตภัณฑ์แปรรูปหลายรูปแบบ ทั้งไข่ผำอบแห้งสำหรับบดชงดื่ม ผำอัดเม็ดเป็นแคปซูลอาหารเสริม และการนำไปทำเป็นขนมอย่างคุกกี้ ช่วยต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับไข่ผำในหลายอุตสาหกรรม

จากพืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ดระดับโลก “ไข่ผำ” กำลังพิสูจน์ว่า เกษตรกรรมยุคใหม่ไม่ใช่แค่การปลูกและขาย แต่คือการออกแบบคุณค่า เพื่อสร้างสุขภาพ และสร้างโลกที่ดีขึ้นไปพร้อมกัน