ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม, เที่ยวสะพานปาย ,หมู่บ้านสันติชล, ชมมัสยิดอัล-อิสรออฺ สวยงาม


เมื่อวันที่ 25 ต.ค.68 นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะสื่อมวลชนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนา Soft Power เพื่อเป็นต้นทุนพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ระหว่างวันที่ 24-25 ต.ค.68 วันแรกท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่สองท่องเที่ยวนอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ช่วงเช้าพาเที่ยวอำเภอปาย ชมสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย (Ta Pai Memorial Bridge) สะพานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่ปาย เป็นสะพานที่มีโครงเหล็กสีเขียวเข้มปูพื้นด้วยไม้ทอดข้ามแม่น้ำปาย มีอายุราวหนึ่งร้อยปี สร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเดินเล่นและชมวิวแม่น้ำปาย อีกทั้งยังเป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยมอีกด้วย ปัจจุบันสะพานประวัติศาสตร์ท่าปายเป็นแลนด์มาร์กของอำเภอปาย และจังหวัดแม่ฮ่องสอน จนกล่าวกันว่าหากไม่ได้มาเที่ยวสะพานแห่งนี้ก็เหมือนมาไม่ถึงปาย




เดินทางสู่หมู่บ้านสันติชล หมู่บ้านวัฒนธรรมจีนยูนนานตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา ไฮไลท์ของหมู่บ้านคือจุดชมวิวหยุนไหลซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอปาย จุดชมวิวนี้มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบได้เกือบ 360 องศาโดยไม่มีอะไรมาบดบัง และเป็นจุดที่เหมาะสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก สามารถไปถึงจุดชมวิวได้โดยเดินตามป้าย “จุดชมวิว” สีแดงไปประมาณ 5 กม. ค่าเข้าชม 20 บาท


ที่สำคัญที่อำเภอปายแห่งนี้ มีมัสยิดอัล-อัลอิสรออฺ ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย มัสยิดแห่งนี้มีความสวยงามมากพร้อมต้อยรับนักท่องเที่ยวชาวอิสลามมาใช้สถานที่ได้มากว่า 200-300 คน ในการประกอบพิธีต่างๆ เช่น ปฏิญาณตน (ชะฮาดะฮ์), การละหมาด (ปฏิบัติ 5 เวลาต่อวัน), การจ่ายซะกาต (การบริจาคทาน), การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน และ การประกอบพิธีฮัจญ์ นอกจากนี้ยังมีพิธีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น พิธีสุหนัต และพิธีทางศาสนาในวันสำคัญต่างๆ


จากนั้นพาไปชิมอาหารอร่อย ร้านข้าวซอยเมืองปาย นอกจากข้าวซอย ยังมีมีเมนูหลากหลาย ทั้งขนมจีนอีกด้วย




กิจกรรมดังกล่าว โดย กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสมดุลและยั่งยืนเพื่อตอบวิสัยทัศน์ “พัฒนาพื้นที่บนพื้นฐานวัฒนธรรมสร้างสรรค์สู่เศรษฐกิจมูลค่าสูงอย่างทั่วถึง” จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยววัฒนธรรมล้านนาและวิถีชาติพันธุ์ รวมถึง สินค้า และบริการด้านการท่องเที่ยวที่โดดเด่นของพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 1 นักท่องเที่ยวและนักเดินทางมุสลิมเป็นตลาดที่มีเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นตลาดใหม่ได้รับความสนใจอย่างมาก ในขณะที่ประชากรมุสลิมทั่วโลกเติบโตขึ้น ศักยภาพบริการที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิม (Muslim.Friendly.Hospitality.Services) จะกลายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่เช่นกัน เนื่องจากชาวมุสลิมที่เดินทางมักจะเลือกจุดหมายปลายทางโดยพิจารณาจากความพร้อมของอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับข้อบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม การจัดบริการที่เป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวมุสลิม (Muslim Friendly Hospitality Services) ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เกี่ยวข้องกับบริหารจัดการการท่องเที่ยวให้ตอบสนองความต้องการของชาวมุสลิม การให้บริการจากสถานที่ต้นทางไปจนถึงจุดหมายปลายทาง เช่น การโรงแรม การขนส่ง ร้านอาหาร การพักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งการให้ความบันเทิงต่างๆ ที่จะต้องไม่ขัดกับหลักการศาสนา อีกทั้ง ควรอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติศาสนกิจประจำวันของชาวมุสลิม เช่น การจัดเตรียมสถานที่ละหมาด อาหารฮาลาลที่จะต้องมีกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามข้อบัญญัติแห่งศาสนาอิสลามและมีคุณค่าทางโภชนา


การสร้างบุคลากรในพื้นที่ให้มีความเข้าใจในกระบวนการทำงานแบบมีส่วนร่วมความรู้ด้านการท่องเที่ยว การสร้างเสริมประสบการณ์เพื่อให้เป็นผู้ให้บริการที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างระบบตลาดและการประชาสัมพันธ์ไปยังนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ จึงมีความจำเป็นเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิมได้ หากสามารถรองรับตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิมได้มากกว่าก็จะสร้างรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิมเพิ่มขึ้น