อภิสิทธิ์ เบิกฤกษ์ขึ้นเหนือทำบุญทอดกฐินที่วัดชัยชนะ ลำพูน พบกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เชียงใหม่-ลำพูน คาดสัปดาห์แผนงาน นโยบายหลายอย่างคืบหน้า เน้นคนรุ่นใหม่ช่วยทำพรรคให้ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาร่วมพิธีทอดกฐินประทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ ณ วัดชัยชนะ (วัดปวงสนุก) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน และได้ไปกราบสักการะพระธาตุหริภุญชัย รวมทั้งได้ร่วมงานเทศกาลโคมล้านดวง ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย อ.เมือง จ.ลำพูน ด้วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่ากกต.จะยังไม่ได้รับรองกรรมการบริหารชุดใหม่ยังทำงานไม่เป็นทางการ สิ่งที่ได้เริ่มต้น คือการเปิดกว้างเชิญผู้รู้มีประสบการณ์มาให้ข้อคิดและการทำงานกระบวนการนี้ก็ยังจะเดินต่อไปอีกระยะหนึ่ง สัปดาห์หน้าจะมีการจัดเรื่องการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และดิจิตอลแพลตฟอร์ม ซึ่งคิดว่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นปัจจัยการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต สร้างโอกาสให้กับประชาชนอีกจำนวนมาก

เรื่องผู้สมัคร สส. เนื่องจาก ปัจจุบันก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งมี ส.ส.หลายท่านบอกว่าอาจจะไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว เนื่องจากไปเจรจาตกลงอะไรกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ฉะนั้นการเร่งหาผู้สมัครก็เป็นเรื่องสำคัญซึ่งน่ายินดีที่มีคนแสดงความจำนงเข้ามาพอสมควร วันนี้มาภาคเหนือมาพบกับกรรมการบริหารสาขาทุกคนก็กำลังใจดี สัปดาห์หน้าจะมีการพูดเชิญชวนให้คนที่อยากจะมาร่วมงานการเมืองตามอุดมการณ์ของเราแบบเปิดกว้าง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เราจะเปิดกว้างให้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามาร่วม เป็นการวางรากฐานในระยะยาวสำหรับพรรคด้วย เราไม่ได้คิดถึงแค่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งต่อไปเท่านั้น เพราะว่าเราต้องฟื้นฟูพรรคให้กลับมาแข็งแรงในเรื่องของจุดยืนที่ชัดเจนให้ประชาชนเข้าใจ แล้วก็ขณะนี้ก็คือคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามาสานต่อเยอะ เราทำงานไม่ได้ทำแค่เฉพาะหน้า แต่ทำเพื่อให้ให้พรรคได้อยู่คู่กับการเมืองไทยต่อไป

“สำหรับความคาดหวังจำนวนที่นั่ง ส.ส.ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ ไม่ว่าจะภาคไหนเป็นฐานของใคร เรามีความตั้งใจทำงานให้กับคนทั้งประเทศอยู่แล้ว ที่ผ่านมาในอดีตผมอยู่การเมือง มาอยู่กับประชาธิปัตย์ได้ไปทุกจังหวัดก็มีคนที่สนับสนุนเรา มีคนที่มีความคิดความอ่านเหมือนกับพวกเรา เพียงแต่ว่าต้องไปกระตุ้นในบางพื้นที่ แล้วก็ในช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะมีประเด็นที่พรรคการเมืองต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็อาจจะทำให้มีการตัดเสียงออกไปหลายพรรค”นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า

เราต้องการที่จะต่อสู้และส่งผู้สมัครแข่งขันทุกจังหวัด แต่ว่าเรายอมรับความเป็นจริงว่าด้วยสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว มีเวลาที่จำกัดมาก ต้องทำงานกันหนัก แต่ว่าจะเป็นอย่างไร อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน คงต้องรอดูบรรยากาศเมื่อเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งอีกทีต้องสื่อสารให้ประชาชนรู้ว่า ถ้าบ้านเมืองไม่เดินไปบนเส้นทางของการมีหลักการและความสุจริต ไม่มีนโยบายในการบริหารประเทศที่อิงอยู่กับความเป็นมืออาชีพหรือหลักทางวิชาการ ถ้าบ้านเมืองไม่พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก เศรษฐกิจไทย ประเทศไทยก็จะลำบากมาก แต่ถ้าต้องการคนที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของคนที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินทางไปในเส้นทางที่สุจริต เศรษฐกิจเติบโต ต้องการทำงานแบบมืออาชีพเพื่อสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกซึ่งหมายถึงการมีบทบาทในระหว่างประเทศด้วย
นายอภิสิทธิ์ ยังบอกอีกว่า ขณะนี้พรรคเรายังมีอีก 4 จังหวัดที่ยังไม่มีตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งตัวแทนจังหวัด ตอนนี้มีผู้แสดงเจตจำนงจะลงสมัครก็มีทั้งคนเก่าและคนรุ่นใหม่ น่าจะประกาศได้สัปดาห์หน้า เพราะตอนนี้กกต.ยังไม่ได้รับรองกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เราจะพยายามส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้ครบ