ข่าวทั่วไทย » ลำพูน สภ.นิคมลำพนอุตสาหกรรม เสริมเกราะพื้นที่ชุมชนนำร่องขับเคลื่อนโครงการ smart safety Zone 4.0 ระยะที่ 2 (คลิป)

ลำพูน สภ.นิคมลำพนอุตสาหกรรม เสริมเกราะพื้นที่ชุมชนนำร่องขับเคลื่อนโครงการ smart safety Zone 4.0 ระยะที่ 2 (คลิป)

10 พฤษภาคม 2022
320   0

Spread the love

สภ.นิคมลำพนอุตสาหกรรม จว.ลำพูน เสริมเกราะพื้นที่ชุมชนนำร่องขับเคลื่อนโครงการ smart safety Zone 4.0 ระยะที่ 2 สนองนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน โดยได้หลอมรวมการทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่คอมมูนิตี้โปลิศซิง ร่วมกับเทคโนโลยีระบบ AI สมัยใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและปราบปรามหตุอาชญากรรมในพื้นที่อย่างทันท่วงที

สำหรับโครงการ สมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ช่วงระยะแรกใน 15 สถานีนำร่อง ได้ดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการสนับสนุนของทุกภาคส่วนที่ช่วยกันสร้างมิติใหม่แห่งความปลอดภัย “เปลี่ยนที่เปลี่ยวให้เป็นที่ปลอด (อาชญากรรม) ตามแนวทาง Smart City” เพื่อสร้างความเชื่อมั่น อุ่นใจ ปลอดภัย ในชุมชน

ซึ่งในระยะที่สอง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) มีนโยบายให้ขยายโครงการเข้าสู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยคัดเลือก 1 พื้นที่ 1 จังหวัด และมอบหมายให้ 15 สถานีแรกเป็นสถานีต้นแบบ ในการขับเคลื่อนโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพทั่วทุกจังหวัดต่อไป

ในส่วนของพื้นที่จังหวัดลำพูน โดยการนำของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.5 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จว.ลำพูน เป็นผู้คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย และได้คัดเลือก สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน เป็นพื้นที่หลักในการนำร่องดำเนินโครงการ โดยใช้พื้นที่ ม.5 ม.6 ต.ศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน เป็นพื้นที่เป้าหมายภายใต้ใช้ชื่อโครงการ “ บ้านม้า smart safety Zone 4.0 “

พ.ต.อ.วีรชาติ ระตะเจริญ ผกก.สภ.นิคมอุสาหกรรม จว.ลำพูน กล่าวว่า สำหรับโครงการ smart safety Zone 4.0 ระยะที่ 2 ของพื้นที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ที่ผ่านมาได้มีการเริ่มดำเนินโครงการฯ ได้ในระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมาโดยได้ยึดหลักองค์ประกอบที่สำคัญ ดังนี้
1. สำรวจกล้อง CCTV ในพื้นที่ ปรับมุมกล้อง และบูรณาการการใช้งานกล้องร่วมกันพร้อมติดตั้งเพิ่มเติม
2. นำนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันอาชญากรรม เช่น มีการติดตั้งกล้อง AI ตรวจจับใบหน้า และกล้อง AI ตรวจจับป้ายทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น
3. ติดตั้งเสาสัญญาณ SOS เพื่อประชาชนสามารถแจ้งเหตุด่วนได้ทันที
4. จัดทำห้องปฏิบัติการ CCOC โดยเชื่อมสัญญาณจากกล้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานราชการ และเอกชนมายังห้องปฏิบัติการและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เพื่อคอยควบคุมสั่งการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
5. ใช้แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ เพื่อความรวดเร็วในการสื่อสาร เช่น POLICE 4.0, POLICE I LERT U, Line OA แจ้งความออนไลน์ รวมถึงการสร้าง Cyber Village เป็นต้น
6. ร่วมกับหน่วยงานในท้องที่ปรับภูมิทัศน์ของพื้นที่เสี่ยงให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย เช่น ตัดแต่งต้นไม้กิ่งไม้ในพื้นที่รกร้าง ขีดสี ตีเส้น ทำความสะอาดพื้นที่ ติดไฟส่องสว่าง เป็นต้น
7. แสวงหาความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อสร้างกลไกการมีส่วนร่วมจากประชาชนในการช่วยป้องกันอาชญากรรม เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการติดตามประเมินผลทุกระยะอย่างต่อเนื่อง โดยมี พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 เป็นประธานคณะกรรมการในการติดตามประเมินผลของโครงการ เพื่อให้โครงการดำเนินการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้สำหรับ โครงการ Smart Safety Zone 4.0 เป็นโครงการที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้ริเริ่มดําเนินการ โดยมีสาระสําคัญคือการป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง มุ่งหมายสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ เกิดขึ้นในชุมชน โดยการนํานวัตกรรมสมัยใหม่ ตามแนวคิดเรื่องเมืองอัจฉริยะ มาช่วยในการทํางานของตํารวจ เพื่อให้ชุมชนมีความปลอดภัยจากอาชญากรรม มีระดับความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมลดลงและมีความเชื่อมั่นใน ประสิทธิภาพด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของเจ้าหน้าที่ตํารวจเพิ่มมากขึ้น