ข่าวทั่วไทย » เชียงใหม่ ศึกมรดกพันล้านปางช้างแม่สา “อัญชลี”โวยช้างกำลังจะอดตาย ยังกลั่นแกล้งให้หาเงินล้านไปโอนที่ดินอีก บาปกรรมที่ทำกับช้างมันมีจริง

เชียงใหม่ ศึกมรดกพันล้านปางช้างแม่สา “อัญชลี”โวยช้างกำลังจะอดตาย ยังกลั่นแกล้งให้หาเงินล้านไปโอนที่ดินอีก บาปกรรมที่ทำกับช้างมันมีจริง

20 กันยายน 2022
193   0

Spread the love

ศึกมรดกพันล้านพ่อเลี้ยงปางช้างแม่สา ที่ไม่สามารถจัดการแบ่งมรดกให้กับทายาทได้ แม้จะมีผู้จัดการมรดร่วมดำเนินอยู่ แต่เกิดปัญหาสารพันไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินทั้งเงินสดทองคำและงาช้างหายไร้ร่องรอย และผู้จัดการมรดกร่วมมุ่งจะเอาชนะกันในทุกๆด้านชิงความได้เปรียบเสียเปรียบกันโดยฝ่ายหนึ่งต้องแบกภาระเลี้ยงดูช้าง 68 เชือก อีกฝ่ายหนึ่งอ้างต้องแบ่งสินสมรส 300 ล้านบาทออกมาก่อนจึงจะจัดการแบ่งมรดกที่เหลือให้กับทายาททุกคน จึงไม่สามารถตกลงเจรจากันได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการเลี้ยงช้างและพนักงานในปางช้างเพราะช่วง 3 ปี ต้องผจญเรื่องโควิด ไร้นักท่องเที่ยว หนี้สินปางช้างแบกไว้ร่วม80 ล้านบาทตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 ก.ย.นี้ ที่ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา และเป็นผู้จัดการมรดกร่วม ได้เดินทางมาทำความเข้าใจกับทางควาญช้างและพนักงานปางช้างแม่สา ที่เฝ้าติดตามข่าวในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินตามพินัยกรรม และมีข่าวปางช้างแม่สา อาจจะถึงทางตันไร้เงินมาบริหารแล้ว ซึ่งนางอัญชลี ได้สร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานอดทนต่อสู้ต่อไป เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในปางช้างรวมทั้งวิญญาณของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร บิดาผู้ก่อตั้งปางช้างแม่สา จะต้องปกป้องคุ้มครองปางช้างแม่สาให้อยู่รอดต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้ถามนางอัญชลี ว่าต่อไปจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นางอัญชลี ตอบว่าตนทำหน้าที่ประธานกรรมการบริหารปางช้างแม่สา โดยมีนางฐิติรัตน์ กัลมาพิจิตร เป็นกรรมการคนหนึ่งในการบริหารเช่นกัน แต่ในหนังสือที่ส่งมาถึงตนก็ระบุว่าตนเป็นผู้บริหารที่มีอำนาจเต็มแต่เพียงผู้เดียว จึงต้องรับหน้าที่หาเงินมาดูแลช้าง รวมทั้งเรื่องนัดตนไปโอนที่ดินให้กับบริษัทปางช้างแม่สา โดยมีหนังสือมาถึงตนถึง 3 ฉบับโดยเน้นให้ตนเป็นผู้หาเงินเองไปโอนที่ดิน ทั้งๆที่ในพินัยกรรมก็ระบุชัดเจนว่าจะต้องใช้เงินที่อยู่ในกองมรดกเท่านั้น เพื่อการโอนทรัพย์สินให้ทายาท แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายทำเป็นไม่เข้าใจเมื่อตนขอถอนเงินเป็นค่าธรรมเนียมในการจำนวน 1 ล้านบาท เขาก็จะขอถอนด้วยเช่นกันในจำนวนเงิน 1 ล้านบาทซึ่งตนยืนยันแล้วเป็นไปไม่ได้ ไม่ถูกต้อง

ดังนั้นในวันที่ 15 ก.ย.ที่นัดโอนจึงล้มไม่สามารถโอนได้และในวันที่ 29 ก.ย.ก็มีหนังสือนัดตนไปโอนที่ดินอีก และให้หาเงินเป็นค่าธรรมเนียมเอง รวมทั้งหนังสือฉบับที่ 3 นัดตนไปโอนที่ดินอีก ในวันที่ 19 ต.ค.และให้หาค่าโอนเอง ตนเห็นว่ามันเป็นการกลั่นแกล้งและยื้อเวลา โดยอ้างเช่นเดิมตนเป็นผู้บริหารปางช้างแม่สา มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตามตนก็จะไปทั้งๆที่ไม่มีเงินจะโอนก็คงล้มเหมือนเดิม

นางอัญชลี ได้เผยอีกว่าในเช้าวันที่ 19 ต.ค.ในช่วงเช้าที่มีการนัดตนไปตรวจทรัพย์สินที่บ้านล้านช้าง ตนเองกังวลใจและเริ่มกลัวขึ้นมา เพราะเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ตนได้เข้าไปตรวจสอบ จนพบทรัพย์สินหายไปทั้งเงินทองงาช้าง และที่สำคัญปืนพกของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร บิดาตนหายไปทั้งหมด 5 กระบอกมีพบแต่เพียงลูกกระสุนปืนจำนวนมาก ทำให้ตนเกิดความกลัวขึ้นมาว่าปืนที่หายไปอยู่ที่ใคร และการที่จะตนเข้าไปที่บ้านล้านช้างโดยอ้างว่าตรวจสอบทรัพย์สินร่วมกันในหมู่ทายาท จึงเป็นเรื่องที่ตนต้องคิดไปถึงความปลอดภัยของตัวเอง แต่ตนก็ต้องไป โดยก็คงจะขอให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าไปร่วมด้วยเพื่อความปลอดภัย เพราะทุกๆเรื่องใกล้จะถึงเวลาที่ความจริงจะต้องถูกเปิดเผยออกมา