ข่าวทั่วไทย » เชียงใหม่ ผู้จัดการมรดกร่วมปางช้างแม่สาทำจดหมายถึง “อัญชลี” ขอเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดการมรดก 6 แสนบาท จากกองมรดกของพ่อเลี้ยงปางช้างแม่สา “ชูชาติ กัลมาพิจิตร”

เชียงใหม่ ผู้จัดการมรดกร่วมปางช้างแม่สาทำจดหมายถึง “อัญชลี” ขอเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดการมรดก 6 แสนบาท จากกองมรดกของพ่อเลี้ยงปางช้างแม่สา “ชูชาติ กัลมาพิจิตร”

2 ตุลาคม 2022
394   0

Spread the love

ผู้จัดการมรดกร่วมปางช้างแม่สาทำจดหมายถึง “อัญชลี” ขอเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดการมรดก 6 แสนบาท จากกองมรดกของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร พ่อเลี้ยงปางช้างแม่สา

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 น. นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ทายาทปางช้างแม่สาได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่นางฐิติรัตน์ กัลมาพิจิตร ผู้จัดการมรดกร่วมได้ทำจดหมายลงวันที่ 30 กันยายน 2565 ขอเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆในการจัดการมรดก จำนวน 600,000 บาท (หกแสนบาท) จากกองมรดกนายชูชาติ กัลมาพิจิตร โดยอ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องเบิกเงินในการดำเนินคดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกและจัดประชุมทายาท ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเชียงใหม่ โดยได้ทดลองจ่ายเงินไปก่อนหน้านี้แล้ว นางฐิติรัตน์ได้ขอนัดหมายนางอัญชลี ผู้จัดการมรดกร่วม ไปร่วมเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าวในวันที่ 18 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 น. ณ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาแม่ริม ซึ่งนางฐิติรัตน์ได้ระบุไว้ว่าจะนำใบเสร็จและหลักฐานค่าใช้จ่ายต่างๆเสนอต่อกองมรดก หากมีเงินเหลือก็จะนำส่งคืนแก่กองมรดกต่อไป

ในเรื่องนี้นางอัญชลีได้ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้านี้นางฐิติรัตน์ ประสงค์จะเบิกเงิน จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย แต่ในวันนี้กลับลดจำนวนลงเป็น 600,000 บาท แต่อย่างไรก็ตาม ตนมีความคิดเห็นว่าเงิน 600,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และหากเป็นค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปแล้ว ก็ต้องทราบจำนวนทั้งหมดที่ได้ใช้จ่ายและควรเสนอรายการต่างๆเพื่อทราบให้เท่ากับจำนวนค่าใช้จ่ายตามจริงเสียก่อน ค่าใช้จ่ายก็ควรอยู่ในประเด็นที่ทายาทจะได้รับประโยชน์ ตนไม่เห็นว่าจะต้องเบิกเงินไปแล้ว และเหลือเท่าใดจะนำมาคืนในภายหลัง ประเด็นที่สำคัญกว่านั้น นางฐิติรัตน์ได้จัดประชุมทายาทที่ห้องในโรงแรมฯ ทั้งๆที่ทายาทมีเพียงไม่กี่คน และไม่มีการตกลงกันก่อนล่วงหน้าว่าจะจัดการกันอย่างไร การประชุมครั้งล่าสุด ตนได้ไปด้วยและเห็นว่ามีการลงทะเบียนแยกเป็นรายชื่อทายาท และรายชื่อสื่อมวลชน ตนยังถามว่าเป็นการแถลงข่าวใช่หรือไม่ หากเป็นการแถลงข่าวตนไม่ขอร่วมด้วย ตนยังเห็นอีกว่ามีการจัดห้องประชุมและจัดเลี้ยงอาหารด้านหลังห้อง ตนเห็นว่าผู้จัดการมรดกไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้น ตนจึงขอปฏิเสธที่จะเบิกเงินจำนวน 1 ล้านบาท หรือ หกแสนบาท ตามที่ได้นัดหมายมา

ส่วนการนัดหมายอื่นๆ เช่นการตรวจสอบทรัพย์สิน และการโอนทรัพย์สินให้ทายาทตามพินัยกรรม ตนจะไปร่วมทำหน้าที่ด้วย” อนึ่งตนได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนนางฐิติรัตน์ออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกร่วมแล้ว โดยศาลได้รับคำร้องและจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป ถึงแม้ว่าขณะนี้ปางช้างแม่สาจะมีโอกาสได้ขายทรัพย์สินบางรายการตามพินัยกรรมและนำเงินเข้าสู่บริษัท แต่ก็ต้องใช้เวลา

“สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด คือการโอนเงินจำนวน 15 ล้านบาทให้แก่ปางช้างแม่สาตามพินัยกรรม กรณีเรื่องเงิน 15 ล้านบาทนี้ นางฐิติรัตน์ยังคงอ้างว่าเงินในบัญชีนี้ของนายชูชาติที่ยกให้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่บริษัทปางช้างแม่สาฯจะต้องแบ่งเป็นสินสมรสให้เขาครึ่งหนึ่ง เขาจึงไม่ให้เบิก ทุกวันนี้เรามีความลำบากมาก ลำบากกันทั้งช้างและพนักงาน ไม่รู้จะพูดบอกเขาอีกอย่างไรดี” นางอัญชลีกล่าวก่อนจบการให้สัมภาษณ์