เชียงใหม่ อบจ.เชียงใหม่ เตรียมจัดงาน “มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม” (CHARMING Chiang Mai Flower Festival) ประจำปี 2568-2569 ภายใต้แนวคิดยิ่งใหญ่ “THE WORLD HERITAGE OF LANNA” หรือ “มนต์เสน่ห์ล้านนา เมืองมรดกโลก”(คลิป)

อบจ.เชียงใหม่ เตรียมจัดงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ภายใต้แนวคิด “มนต์เสน่ห์ล้านนา เมืองมรดกโลก” นำดอกไม้เมืองหนาวนับล้านดอก พร้อมกล้วยไม้หายาก บอลลูนหงส์สุดน่ารักสูงกว่า 10 เมตร 2 ตัว มาจัดภายในงาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.00 น. ณ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ (สวน อบจ.เชียงใหม่) นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าวงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม ในหัวข้อ “เชียงใหม่เมืองดอกไม้งาม” ตอกย้ำภาพลักษณ์ World Festival City Destination นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวในหัวข้อ “กิจกรรมการจัดงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม” และ พล.ต.ต.ยุทธนา แก่นจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวในหัวข้อ “เที่ยวเชียงใหม่ ปลอดภัย มีเสน่ห์” เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ปลอดภัย มีเสน่ห์ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และขับเคลื่อนจังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเมืองแห่งเทศกาลงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม (CHARMING Chiang Mai Flower Festival)

ในปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “THE WORLD HERITAGE OF LANNA” หรือ “มนต์เสน่ห์ล้านนา เมืองมรดกโลก” กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ถึง วันที่ 4 มกราคม 2569 ณ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ (สวน อบจ.เชียงใหม่) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และบริเวณทิศตะวันออกของหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08.30 – 23.00 น. และไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด ดังนี้

1.นิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับ The Wonder Flower Land : เชียงใหม่ดินแดนแห่งดอกไม้ที่มีทั้งพันธุ์ไม้เขตหนาว พันธุ์ไม้เขตร้อน อาทิ ดอกทิวลิป, ลิลลี่, คาลล่าลิลลี่, บลูซันเวีย, มากาเร็ต ดอกไฮเดรนเยียร์, อาซาเลีย เวอร์บีน่า แกลดิโอรัส และบีโกเนียร์หลากสีสัน เป็นต้น และดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ หลากหลายสีสัน นับล้านดอก 2.นิทรรศการกล้วยไม้ Orchid Land : การจัดแสดงกล้วยไม้ไทยที่หาชมได้ยาก อาทิ กล้วยไม้สกุลฟาแลน, กล้วยไม้สกุลแวนด้า, แอสโค, ออนซิเดี่ยม, ซิมบิเดี้ยม เป็นต้น ผสมผสานด้วยไม้คลุมดิน ตระกูลเฟิร์น และมอส ตกแต่งประดับประดา ด้วยไม้สกุลคาคบ เช่น เคราฤาษี, สับปะรดสี เป็นต้น 3.สีสันแห่งน้ำพุดนตรี Wonder Foutain Music Laser Show ประกอบมัลติมีเดียสุดยิ่งใหญ่ จุดเด่นการแสดงน้ำพุดนตรีประกอบแสง สี เสียง และพลุเอฟเฟคสุดตระการตา ที่สวยที่สุดในประเทศ จัดแสดงวันละ 4 รอบ ช่วงเวลา 19.00 น., 20.00 น., 21.00 น. และ 22.00 น. และ 4.ทุ่งไฟประดับที่ใหญ่และสวยที่สุดยามค่ำคืน สวนแสงอัจฉริยะ THE WORLD HERITAGE OF LANNA หรือ “มนต์เสน่ห์ล้านนา เมืองมรดกโลก” ตั้งแต่เวลา 17.00 – 23.00 น.

สำหรับ Zone A : THE WORLD HERITAGE “เมืองมรดกโลก” สะท้อนความรุ่งเรืองและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเน้นการดึงเอาองค์ประกอบสําคัญที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมล้านนา มาประยุกต์ในการออกแบบ ใช้สีหลักคือ สีทอง ที่สื่อถึงความรุ่งเรื่องและพุทธศิลป์ รวมถึง ความบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา และความเรืองรองของแสง ยังสื่อถึงแสงแห่งแรงศรัทธา ในการประดับไฟ เพื่อเนรมิตให้งานยามค่ำคืนเป็นเสมือนนครหลวงโบราณที่เปล่งประกาย โดยภาพรวมงานออกแบบจึงสื่อถึงสถาปัตยกรรมแห่งศรัทธาสไตล์ล้านนา นํามาเป็น 2 สื่อหลักในการตกแต่ง เพี่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ในฐานะ เมืองที่มีชีวิต (Living Heritage) ที่เต็มไปด้วยความงามของศิลปะและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าในระดับโลก

Zone B : THE LIGHT OF LIFT “ต้นไม้แห่งศรัทธา” เป็นการผสมผสานระหว่างสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาและศิลปะล้านนา เพื่อสื่อถึงความเชื่อและชีวิตจิตใจของชาวเชียงใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจจากองค์ประกอบหลักสองส่วนคือ “พระธาตุและปราสาท” ถ่ายทอดสู่โครงสร้างสีทอง และ “ดอกไม้” ถ่ายทอดผ่านลวดลายประดับ ซึ่งรวมกันเป็นสัญลักษณ์ของการกําเนิดชีวิต หรือ ต้นโพธิ์แห่งความศรัทธาในบริบทของล้านนา , Zone C : LAND OF CELEBRATION : “สวัสดีปีใหม่ 2026” ได้รับแรงบันดาลใจจากการเฉลิมฉลองแบบสากลเข้ากับศิลปะล้านนา เพื่อสร้างจุดดึงดูดที่ยิ่งใหญ่และเป็นมงคลในการต้อนรับปีใหม่ การออกแบบนี้เป็นการตีความระหว่างต้นคริสต์มาส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองปีใหม่ในแบบสากล รวมกับรูปแบบของยอดเจดีย์ ยอดปราสาทล้านนา มีกลิ่นอายเชียงใหม่และความเป็นมรดกล้านนาแบบประยุกต์ ถือเป็นแลนมาร์กที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และสิริมงคล ด้วยสีทองอร่าม เพื่อสื่อถึงความรุ่งเรื่อง และความพร้อมก้าวสู่ปี 2026 อย่างสง่างาม

Zone D : SIAM GOLDEN “ดินแดนอันล้ำค่า” เป็นโซนที่นำเสนอศิลปะที่ประณีตของเมืองสยาม โดยนำเสนอผ่าน “แสง” ที่ลอดออกมาจากร่องฉลุแผ่น “ทองคำ” นับเป็นชิ้นงานประติมากรรมแสงสีทองแห่งดินแดนสยาม โดยโซนนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความรู้สึกสง่างาม และเป็นมงคล โดยให้สีทองเป็นสีหลัก สื่อถึงความมั่งคั่งทางศิลปะและวัฒนธรรมของอาณาจักรในอดีต ผสานกับรูปทรงที่สื่อถึงความสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ และ Zone E : BELLERINA TREE “ต้นไม้เต้นระบำ” โซนนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างพื้นที่มหัศจรรย์ที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ และจินตนาการจากศิลปะการเต้นบัลเลต์ ระบําปลายเท้า สื่อให้เห็นการออกแบบในมิติใหม่ ๆ ของงานประดับไฟ ที่เน้นความทันสมัยและมีความเคลื่อนไหว ดุจการระบำของพฤกษาในป่าแห่งแสง โดยใช้เทคโนโลยีแสงสี เพื่อเนรมิตให้กลุ่มใบไม้ขนาดใหญ่ เหล่านี้ ดูมีชีวิตชีวาและเคลื่อนไหวได้ในจินตนาการ จึงเป็นการผสมผสานระหว่างความอ่อนช้อยของธรรมชาติ และความงดงามของศิลปะการเคลื่อนไหวเข้าด้วยกัน

รวมทั้งยังมีบอลลูนหงส์สุดน่ารัก สัญลักษณ์ประจำหนองเขียว ณ สวน อบจ.เชียงใหม่ ความสูงกว่า 10 เมตร จำนวน 2 ตัว มีการแสดง Light of Glory โชว์ศิลปะ วัฒนธรรมผสมสาน ประกอบแสง สี เสียง เป็นประจำทุกคืน วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เริ่มวันวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2568 ไปจนถึง 4 มกราคม 2569 โดยแต่ละค่ำคืน จัดให้มีการแสดงโขน จัดแสดงวันละ 2 รอบ ในเวลา 19.30 น. และ 21.30 น. พิเศษโดยในปีนี้ การแสดง Light of Glory จะจัดแสดงบนเวทีกลางน้ำ บริเวณจุดแสดงน้ำพุดนตรี และนอกจากนี้ ในวันที่ 5, 25 และ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568 และในปีนี้ อบจ.เชียงใหม่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระปัญญาเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอด ทั้งในด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ส่งเสริมอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงร่วมบูรณาการกับวิทยาลัยนาฏศิลปเชียงใหม่ ด้วยการนำโขนมาแสดง และร่วมกับมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ ออกแบบเมนูอาหารว่างและเครื่องดื่มภายในงาน เพื่อส่งเสริมและสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ในสาขาวิชาชีพ ทั้งนี้ยังได้ร่วมกับโรงเรียนเทพบดินทร์วิทยาเชียงใหม่ นำนักเรียนมาแสดงดนตรีซิมโฟนี่ ออเครสตร้า ซึ่งสร้างชื่อเสียงและได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่านมาสัมผัสความงดงามในงานมนต์เสน่ห์เชียงใหม่เมืองดอกไม้งาม (ฟรี!!) และขอเชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ทุกท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลการจัดงานฯ ได้ที่ ฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว สำนักปลัดฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 053-998333 ต่อ 213 – 214 หรือ Facebook Page CHARMING Chiang Mai Flower Festival หรือ Facebook Page ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่.

เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จัดงาน Learning City Winter Camp 2025 ขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนระดับนานาชาติ (คลิป)

วันนี้(21 พย.68) เวลา 08.30 น. ที่ โรงแรม ยู นิมมาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จัดงาน Learning City Winter Camp 2025 ขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนระดับนานาชาติ โดยมี นายปรมินทร์ จินณะแก้ว ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ นายบุญเยี่ยม เหลาสะอาด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญ หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ (บพท.) ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพรพันธ์ ธนเลิศโศภิต หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวรายงาน 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (มทร.ล้านนา) โดยโครงการวิจัย “กลไกการขับเคลื่อน Learning City Platform: พื้นที่แลกเปลี่ยนรวบรวมองค์ความรู้เพื่อยกระดับเมืองแห่งการเรียนรู้” ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) จัดกิจกรรม Learning City Winter Camp 2025: Learning Cities in Action – Co-Creating Sustainable Futures ระหว่างวันที่ 19–23 พฤศจิกายน 2568 โรงแรม ยู นิมมาน เชียงใหม่ และพื้นที่กิจกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาแนวคิด กระบวนการ และเครือข่ายสำหรับการขับเคลื่อน “เมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City)” ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืนในระดับประเทศและระดับอาเซียน

การเปิดงานและเวทีบรรยายระดับนานาชาติ ได้รับเกียรติจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) โดย Ms. Rika Yorozu หัวหน้าสำนักงานบริหารและผู้ประสานงานโครงการระดับภูมิภาค สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ ร่วมปาฐกถาพิเศษ และ คุณโสวิรินทร์ ชวนประพันธ์ ส่วนโครงการการศึกษา สำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ บรรยายเชิงลึกเกี่ยวกับแนวคิด Global Network of Learning Cities (GNLC) วิสัยทัศน์เมืองแห่งการเรียนรู้ของโลก และตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ที่สามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาเมืองในบริบทของประเทศไทย

Workshop การออกแบบระบบนิเวศการเรียนรู้ของเมือง (City Learning Ecosystem Design)หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของงาน คือการจัด Workshop เพื่อร่วมกันออกแบบ ระบบนิเวศการเรียนรู้ของเมือง (Learning City Ecosystem) โดยมีผู้แทนและผู้เชี่ยวชาญจากหลายเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าร่วม เพื่อพัฒนาแนวทางการขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ที่โดดเด่นคือการมีส่วนร่วมจาก เครือข่ายเมืองนานาชาติ ได้แก่
• เมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน
• เมืองโฮจิมินห์ซิตี้ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
• เมืองหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
• เมืองเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ความร่วมมือจากประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้ ช่วยเปิดมุมมองด้านกลไกนโยบาย การออกแบบพื้นที่การเรียนรู้ การมีส่วนร่วมของชุมชน รวมถึงนวัตกรรมด้านสังคมที่ส่งเสริมการพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

City Trail & City Scan: การเรียนรู้ผ่านพื้นที่จริงในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงภาคสนาม ผู้เข้าร่วมได้ทำกิจกรรม City Trail และ City Scan ซึ่งเป็นกระบวนการสำรวจ เรียนรู้ และวิเคราะห์พื้นที่จริง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาชุมชนและเมืองในมิติการเรียนรู้อย่างยั่งยืน

สัมภาษณ์ ดร.บุญเยี่ยม เหลาสะอาด ผอ.ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่ การจายสู่ความเจริญ

กิจกรรมประกอบด้วย
• การสำรวจพื้นที่ชุมชนคลองแม่ข่า เพื่อศึกษาการสร้าง Landmark แห่งการเรียนรู้และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
• การสร้างข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพื้นที่เมืองโดยใช้ยานพาหนะสามล้อปั่นในการสำรวจ
• การสรุปบทเรียนร่วมกันเพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางปฏิบัติ
กิจกรรมนี้ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจจริงเกี่ยวกับสภาพพื้นที่เมืองเชียงใหม่ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม สังคม และการมีส่วนร่วมของชุมชน สร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับอาเซียนผ่านกิจกรรมวัฒนธรรม

สัมภาษณ์ ผช.ศ.ดร.ไพรพันธ์ ธรเลิศโศภิต โครงการกลไกการขับเคลื่อน Learning City Platform

ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรม Asian Cultural Sharing Night: Learning in Diversity ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมม่อนฝ้าย เพื่อเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและประสบการณ์จากเมืองต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือของเครือข่าย Learning City ในระดับภูมิภาคอาเซียน

สัมภาษณ์ รศ.ดร.ฟู่ จิ้ง ผช.คณบดี ม.เฉิงตู และ ศ.ฟู่ ไคดิ อดีตอธิการบดี ม.เฉศวน สาธารณประชาชนจีน

 เป้าหมายสำคัญของ Learning City Winter Camp 2025 กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการ
• เสริมสร้างความร่วมมือของเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ทั้งในและต่างประเทศ
• ยกระดับองค์ความรู้ด้านการพัฒนาเมือง การศึกษา และสังคม
• สนับสนุนการประยุกต์ใช้แนวคิด Learning City ในพื้นที่นำร่องทั่วประเทศ
• สร้างกลไกและนวัตกรรมทางสังคมที่นำไปสู่การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในระยะยาว

สัมภาษณ์ คณะอาจารย์จากหลวงพระบาง ประเทศลาว

งาน Learning City Winter Camp 2025 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ มทร.ล้านนา ในการผลักดันบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่ ที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายทั้งภายในประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์อนาคตของคนทุกช่วงวัยและสังคมไทยในภาพรวม

เชียงใหม่ เตรียมจัดงาน “One art, One music – Unity for all Ethnicities พบกันวันที่ 17-18 ธค.68 นี้ ที่สวนสาธารณะโพธิ์ร่มรื่น อ.ปาย (คลิป)

ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน แถลงข่าวเตรียมจัดงาน “One art, One music – Unity for all Ethnicities กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง) ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสประสบการณ์ทางศิลปวัฒนธรรม หนึ่งศิลปะ หนึ่งดนตรี เพื่อทุกคน เพื่อทุกชาติพันธุ์” เทศกาลที่รวบรวมเสน่ห์ของศิลปะล้านนา ดนตรีพื้นเมือง และอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เพื่อนำเสนอพลังของ Soft Power ที่สะท้อนเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างงดงามและร่วมสมัย พบกันวันที่ 17-18 ธันวาคม 2568 นี้ ที่สวนสาธารณะโพธิ์ร่มรื่น อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

วันที่ (20 ธค.68) ที่ห้องประชุมเล็ก หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นางกรวรรณ สุ่มมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์ภานุทัต อภิชนาธง (ครูแอ๊ด เดอะสะล้อ) ศิลปินจังหวัดลำพูน และนายอนุวัตร์ แสงเจริญกูล ศิลปินจังหวัดลำปาง ร่วมแถลงข่าวเตรียมการจัดงาน “One art, One music – Unity for all Ethnicities หนึ่งศิลปะ หนึ่งดนตรี เพื่อทุกคน เพื่อทุกชาติพันธุ์” จัดโดยสำนักงานวัฒธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง) งานที่รวบรวมงานศิลปะและดนตรี ผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมของภูมิภาคล้านนาตะวันตก และสะท้อนความงดงามของการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างของชาติพันธุ์ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เพื่อส่งเสริมการใช้ทุนทางวัฒนธรรมเป็นรากฐานการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 สร้างการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสร้างสรรค์สู่ท้องถิ่น ทั้งยังส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าการตลาด มีเวทีสร้างองค์ความรู้และสร้างสรรค์ผลงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับการสร้างมูลค่าแก่สินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์

ภายในงานพบกับ กิจกรรมการสาธิตอัตลักษณ์เครื่องดนตรีและศิลปะจากกลุ่มศิลปินจาก 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 กิจกรรมจำหน่ายของดีของชุมชนที่มีความเป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของจังหวัด ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมไทย/สินค้าชุมชน (CPOT/OTOP) โดยภูมิปัญญาจากชุมชน กว่า 50 ร้านค้า ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแสดงพื้นบ้าน ชมแฟชั่นโชว์เครื่องดนตรีและอาภรณ์อัตลักษณ์จังหวัด “เสน่ห์ศิลป์ ดนตรีล้านนา” มีเวทีเสวนาวิชาการ Lanna Soft Power Music & Art สนุกกับกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ Work Shop & DIY เสน่ห์ศิลป์ ภาพระบายสีไม้ ศิลปะบนผืนผ้า ศิลปะสถาปัตยกรรม ศิลปะร่วมสมัย กิจกรรมการออกร้านกาแฟ สาธิต แสดงและจำหน่าย Lanna Coffee Art & Music ซึ่งนำเสนอ ศิลปะการทำกาแฟ และกิจกรรมการสาธิต นำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ ดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด สุนทรีย์ทางสุขภาพ หัวข้อ Lanna music & Art to Wellness & Heathy เพื่อสุขภาพ ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการแสดงคอนเสิร์ต “เสน่ห์ศิลป์ ดนตรีล้านนา” พบกับศิลปิน “ครูแอ๊ด แอนด์ เดอะสะล้อ” และ “ไม้เมือง” พบกันวันที่ 17-18 ธันวาคม 2568 นี้ ที่สวนสาธารณะโพธิ์ร่มรื่น องค์การบริหารส่วนตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Fanpage : One Art One Music – Unity for all ethnicities 
https://www.facebook.com/oneartonemusic.pai

เชียงใหม่ แอร์เอเชีย ชวนจาวเชียงใหม่บินม่วนใจ๋ปลายปี บินคุ้มเริ่มต้น 999 บาทต่อเที่ยวบิน “เชียงใหม่-อุดรธานี” พร้อมแล้ว บิน 1 ธันวาคมนี้ (คลิป)

แอร์เอเชีย ชวนจาวเชียงใหม่บินม่วนใจ๋ปลายปี บินคุ้มเริ่มต้น 999 บาทต่อเที่ยวบิน “เชียงใหม่-อุดรธานี” พร้อมแล้ว บิน 1 ธันวาคมนี้

( 15 พย.68) แอร์เอเชียชวนจาวเชียงใหม่ บินม่วนใจ๋กับแอร์เอเชีย ส่งท้ายปี กับ 13 เส้นทางบินทั้งในและต่างประเทศมากที่สุด พร้อมราคาโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 999 บาทต่อเที่ยวบิน ม่วนบินตรงข้ามภาค “เชียงใหม่-อุดรธานี” 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์และอาทิตย์ เริ่มบิน 1 ธันวาคม 2568 เริ่มจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 พฤศจิการยน 2568 เพื่อใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 – วันที่ 28 มีนาคม 2569 พร้อมให้บริการบินมั่นใจด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ320 จำนวน 180 ที่นั่ง โดยเชื่อมั่นแอร์เอเชียพร้อมดึงนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้าเชียงใหม่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ด้วยความคุ้มค่าและคุณภาพบริการมาตรฐานโลก และเที่ยวบินตรงต่อเวลาสูงสุดในไทย

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า แอร์เอเชียให้บริการชาวเชียงใหม่ก้าวสู่ปีที่ 22 ที่ฐานปฏิบัติการการบินเชียงใหม่มีเครื่องบินประจำการ 5 ลำ พร้อมพนักงานในแผนกต่างๆ ประจำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเชียงใหม่ ถือเป็นครอบครัวที่ส่งเสริมและสนับสนุนกันมาตลอด โดยเฉพาะด้านการเดินทางท่องเที่ยว เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมต่อเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่ผู้คนน่ารักอย่างเชียงใหม่ กับภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งบินตรงเส้นทางต่างประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลากหลาย


“เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะในช่วงปลายปี เราจึงเพิ่มความถี่บินและเส้นทางบินที่ฐานปฏิบัติการการบินเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเที่ยวบินตรงไปยังกรุงเทพ ที่มีทั้งบินจากสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงเส้นทางแบบต่อเที่ยวบิน Fifth freedom เส้นทางเชียงใหม่ แวะรับส่งที่ไทเป บินต่อถึงซัปโปโร ประเทศญี่ปุ่น เป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวเชียงใหม่ในการท่องเที่ยวที่สะดวกขึ้น ในขณะที่สามารถรับนักท่องเที่ยวจากตลาดใหม่ๆ ได้เช่นกัน” นายสันติสุขกล่าว

ด้านนายสุรพันธ์ หอมขจร ผู้จัดการแอร์เอเชีย ประจำท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า แอร์เอเชียเป็นสายการบินที่มีส่วนเเบ่งการตลาดในเส้นทางเข้าออกเชียงใหม่ สูงสุดประมาณร้อยละ 36% จากทั้งหมด และมีเส้นทางบินมากที่สุดทั้งเส้นทางในประเทศเเละระหว่างประเทศ รวม 13 เส้นทาง โดยเป็นเส้นทางภายในประเทศ รวม 9 เส้นทางในทุกภูมิภาค คือ เชียงใหม่สู่ กรุงเทพฯ ทั้งดอนเมือง และสุวรรณภูมิ กระบี่ ภูเก็ต หัวหิน หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานีขอนแก่น และเส้นทางล่าสุดที่จะเริ่มบิน 1 ธันวาคมนี้คือ เชียงใหม่-อุดรธานี 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ขณะที่เส้นทางบินต่างประเทศ 4 เส้นทาง เชียงใหม่สู่ ฮานอย ไทเป ซัปโปโร (Fifth Freedom) และ มาเลเซีย (รหัสเที่ยวบิน AK) รวมให้บริการบินตรงจากเชียงใหม่มากถึง 38 เที่ยวบินต่อวัน

เชียงใหม่ รองผู้ว่าฯ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันตอบคำถามจากหนังสือสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนฯ ครั้งที่ 29 พื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน (คลิป)

รองผู้ว่าฯ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันตอบคำถามจากหนังสือสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนฯ ครั้งที่ 29 พื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน

วันนี้(15 พย.68) ที่ศูนย์วิทยาบริการดารารัศมี ภายในโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันตอบคำถามจากหนังสือสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนฯ ครั้งที่ 29 พื้นที่จังหวัด เชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ไลออน พรหมภัสรณ์ นิมมากุลวิรัตน์ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันตอบคำถามจากหนังสือสารานุกรรมไทย สำหรับเยาวชนฯ ครั้งที่ 29 ครั้งนี้ ดำเนินการโดยสโมสร ไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิโครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยจัดให้มีการแข่งขัน 3 ระดับคือระดับจังหวัด แข่งขันวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ระดับภาค แข่งขันวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม 2568 ระดับประเทศ แข่งขันวันเสาร์ที่ 31 มกราคม 2569

สำหรับรอบแรก ระดับจังหวัด จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ด้วยวัตถุประสงค์ที่จะตอบสนองพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อที่จะส่งเสริมเพิ่มแหล่งเรืยนรู้ให้มากขึ้นในเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป

การแข่งขันระดับจังหวัด ได้กำหนดให้โรงเรียนส่งนักเรียนเข้าร่วมแข่งขันได้โรงเรียนละ 1 ทีม (จำนวน 3 คน) ต่อหนึ่งระดับ โดยสามารถส่งได้ทั้ง 2 ระดับชั้น คือ ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-ป.6) ใช้เนื้อหาในหนังสือ
สารานุกรมไทยฯ เล่มที่ 19, 34 และ ฉบับเสริมการเรียนรู้ เล่ม 2, 10, 12 รวมชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น(ม.1-ม.3) ใช้เนื้อหาในหนังสือสารานุกรมไทยฯ 27, 28, 42 และฉบับเสริมการเรียนรู้เล่มที่ 4, 22, 23 รวม 6 เล่ม เป็นการแข่งขัน เป็นตอบคำถามแบบปรนัย ระดับประถมศึกษาตอนปลายจำนวน 80 ข้อ และสำหรับมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 100 ข้อ โรงเรียนที่ได้คะแนนสูงสุด 5 โรงเรียน ของแต่ละระดับ มีคะแนนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของ คะแนนเต็ม จึงจะได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อไปแข่งขันในระดับภาคต่อไป

นักเรียนที่เข้าแข่งขัน และครูผู้ควบคุมทีม จะได้รับเกียรติบัตรจากสโมสรไลออนส์สากลภาค 310 เอ1 ทุกท่าน
ซึ่งปีนี้มีโรงเรียนเข้าร่วมการแข่งขันดังนี้ ระดับประถมศึกษาตอนปลาย จำนวน 40 โรงเรียน ,ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 โรงเรียน

เชียงใหม่ สมาชิก พท. เชียงใหม่เขต 2 รวมตัวแสดงเชิงสัญลักษณ์หน้ากกต. จี้พรรคทบทวนส่งผู้สมัคร ส.ส. ชี้ ‘’ถูกหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า’ ขู่ลาออกยกเขต!(คลิป)

สมาชิก พท. เชียงใหม่เขต 2 รวมตัวแสดงเชิงสัญลักษณ์หน้ากกต. จี้พรรคทบทวนส่งผู้สมัคร ส.ส. ชี้ ‘’ถูกหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า’ ขู่ลาออกยกเขต!

วันนี้( 11 พย.68) ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในจังหวัดเชียงใหม่ส่อเค้าวุ่นวาย หลังการเปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 2 เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทย (พท.) โดยกลุ่มชาวบ้านเสื้อแดงและสมาชิกพรรคเพื่อไทยในเขตพื้นที่ดังกล่าว กว่า 200 คน ได้รวมตัวกันที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ (กกต.) เพื่อแสดงสัญลักษณ์และอ่านแถลงการณ์ ยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและกรรมการบริหารพรรค เพื่อขอให้ทบทวนมติการส่งผู้สมัคร ส.ส. เขต 2

ในแถลงการณ์ระบุถึงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อมติพรรคครั้งนี้ โดยมีเนื้อหาที่รุนแรงและแสดงออกถึงความรู้สึกถูกทำร้ายจิตใจอย่างลึกซึ้ง ใจความสำคัญของข้อเรียกร้องมาจาก “ความเจ็บปวด” ที่พี่น้องพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงได้รับจากทีมงานของว่าที่ผู้สมัครคนดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ และยังคงเป็นบาดแผลที่แสนเจ็บปวด

“รู้สึกเหมือนพรรคและประชาชนถูกหักหลังหลอกลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่า มิใช่เรื่องราวที่เกิดขึ้นมานานแล้วที่พอจะให้ระยะเวลาทำให้พี่น้องเพื่อไทยจำนวนมากในจังหวัดเชียงใหม่ทำใจรับที่จะช่วยลงคะแนนและเป็นฐานเสียงให้กับบุคคลคนนี้ได้”

ตัวแทนกลุ่มชูเหตุผล 3 ข้อหลักที่ขอให้ทบทวนมติพรรคฯ โดยระบุพฤติการณ์ของว่าที่ผู้สมัครและทีมงานในอดีต ซึ่งเป็นเหตุผลที่สมาชิกพรรคและคนเสื้อแดงในพื้นที่ไม่อาจยอมรับได้

1.การเลือกตั้ง อบจ. เชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัครคนดังกล่าวได้แสดงตัวใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย แต่ในขณะเดียวกัน ทีมงานใกล้ชิดกลับส่งผู้สมัคร สจ. แข่งกับพรรคเพื่อไทยในช่วงโค้งสุดท้าย ทีมงานได้ ไล่ไปบอกชาวบ้านให้เลือกนายก อบจ. มาจาก “พรรคประชาชน” และยังพูดป้ายสีดูแคลนพรรคเพื่อไทยสารพัด ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในพื้นที่

2. ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัครคนดังกล่าวลงสมัครในนามอิสระ มีการปราศรัยที่ ดูเหมือนจะกระทบกระทั่งโจมตีพรรคเพื่อไทยในทางอ้อม ทีมงานใกล้ชิดลงพื้นที่ใช้คำพูด โจมตีพรรคเพื่อไทยอย่างหนัก ทำให้แกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่รักและศรัทธาพรรครู้สึกรับไม่ได้ คะแนนที่ว่าที่ผู้สมัครคนดังกล่าวได้รับ ส่วนมากเป็นคะแนนตรงข้ามพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น จึงเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะนำคะแนนส่วนนี้มาเป็นฐานเสียงให้พรรคได้

3.ความปั่นป่วนในสาขาพรรค ทีมงานใกล้ชิดของผู้สมัครคนดังกล่าวได้ ไล่ไปบอกให้ชาวบ้านลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงกรรมการสาขาพรรคบางคน ทำให้สาขาพรรคเกิดความปั่นป่วนและต้องจัดการประชุมเพื่อเลือกกรรมการสาขาพรรคใหม่ทั้งหมด

กลุ่มผู้ประท้วงได้แจ้งต่อพรรคว่า การกระทำทั้งหมดนี้มาจากทีมงานใกล้ชิด ซึ่งชาวบ้านไม่สามารถเชื่อได้ว่าว่าที่ผู้สมัครจะไม่มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน/ผู้ใช้

“ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยไม่มีการทบทวนตามที่เรียกร้อง ทางกลุ่มได้เตรียม ลงรายชื่อสมาชิกพรรคเขต 2 ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยทั้งหมด และพร้อมส่งรายชื่อให้ กกต. ทันที”

กลุ่มฯ ได้เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ทำการ Primary Vote (หยั่งเสียง) ในพื้นที่เขต 2 เชียงใหม่อย่างเป็นธรรมและเปิดเผย เพื่อเป็นแบบอย่างของพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และหวังว่าพรรคจะฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

ทางด้านนายชูเดช เกตุชูรัตน์ หัวหน้าสาขาพรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับหนังสือจากตัวแทนกลุ่ม พร้อมกล่าวว่าจะนำหนังสือดังกล่าวนำส่งด้วยตนเองถึงพรรคเพื่อไทยที่กรุงเทพฯ ส่วนการคัดเลือกผู้ประสงค์ลงสมัครครั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ผ่านการคัดกรองจากสาขาพรรคแต่อย่างใด ขณะนี้กลุ่มผู้ประท้วงได้แยกย้ายกันไปเพื่อรอคำตอบจากทางพรรคเพื่อไทยว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป.

เชียงใหม ม่อนพญานาคราชจัดพิธียี่เป็ง จุดผางประทีปบูชาพญานาค ท่ามกลางซูเปอร์ฟูลมูนดวงใหญ่สุดในรอบปี(คลิป)

ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จัดพิธียี่เป็ง จุดผางประทีปบูชาพญานาค ท่ามกลางซูเปอร์ฟูลมูนดวงใหญ่สุดในรอบปี


ค่ำวันที่( 5 พย.68) ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดพิธีสวดมนต์และเทศนาธรรม เนื่องในเทศกาลยี่เป็งหรือวันลอยกระทง โดยมีครูบาชัยประสิทธิ์ ภิกขุ ประธานมูลนิธิราวดีวัฒกานนท์ เป็นประธานในพิธี

ภายในงานมีการจุดผางประทีปเพื่อเป็นพุทธบูชา แสดงออกถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งประกอบพิธีบูชาพญานาคราช ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าพระวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงานและครอบครัวในค่ำคืนแห่งความศรัทธา

ท่ามกลางบรรยากาศขั้นพิธีทางธรรม ได้เกิดปรากฏการณ์สุดงดงาม คือ “พระจันทร์เต็มดวงดวงใหญ่ที่สุดในรอบปี” หรือที่เรียกว่า “ซูเปอร์ฟูลมูน” ปรากฏพอดีกับวันยี่เป็ง ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างสวยงามเป็นพิเศษ หลายคนต่างบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกและกล่าวว่าเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความสงบ ความเป็นสิริมงคล และเป็นภาพที่หาได้ยากในรอบปี

งานครั้งนี้สร้างความประทับใจแก่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวและเด็กๆ ที่เดินทางมาร่วมพิธี นับเป็นคืนยี่เป็งที่งดงามทั้งแสงประทีปโคมไฟและแสงจันทร์อย่างแท้จริง

เชียงใหม่ วัดพระบาทปางแฟน อ.ดอยสะเก็ด จัดพิธีเบิกเนตร พระแม่ธรณีบีบมวยผม ศรัทธาประชาชนร่วมงานคับคั่ง(คลิป)

จัดพิธีเบิกเนตร “พระแม่ธรณีบีบมวยผม” หน้าวัดพระบาทปางแฟน ศรัทธาชนร่วมงานคับคั่ง ชูความงามของดวงตาเฉียบคมดั่งเหยี่ยว

วัดพระบาทปางแฟน ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีบวงสรวงและเบิกเนตรพระแม่ธรณีบีบมวยผม อย่างยิ่งใหญ่ มีเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมประกอบพิธีจำนวนมาก ท่ามกลางประชาชนและผู้เลื่อมใสศรัทธาที่เดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งพระแม่ธรณีบีบมวยผมประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าวัด ลักษณะโดดเด่นด้วยงานศิลป์อันประณีตงดงาม โดยรูปปั้นองค์นี้สร้างขึ้นโดยนิสิตมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยเชียงใหม่ สาขาพุทธศิลป์ ออกแบบโดย ผส.ปฏิเวธ เสาว์คง อาจารย์ประจำหลักสูตรพุทธศิลป์ มจร.เชียงใหม่

สำหรับความพิเศษขององค์พระแม่ธรณี คือการออกแบบใบหน้าและดวงตาที่สะดุดตาเป็นเอกลักษณ์ แววตาคมชัดเหมือนเหยี่ยว แต่ยังคงความอ่อนโยนเมตตา เปล่งประกายแวววาวดั่งเพชร งดงามจนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระแม่ธรณีที่มีแววตาสวยที่สุดองค์หนึ่งในภาคเหนือ

อย่างไรก็ดีบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความศรัทธา ชาวบ้านและผู้ศรัทธาต่างร่วมกราบไหว้ขอพร เชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต รวมถึงให้ความคุ้มครองแก่ชุมชนและผู้มากราบสักการะ ซึ่งพิธีบวงสรวงครั้งนี้นับเป็นงานบุญใหญ่ของพื้นที่ และสร้างความปลื้มปิติแก่ผู้ร่วมงานจำนวนมาก โดยทางวัดเตรียมเปิดให้ประชาชนเดินทางมากราบสักการะได้ทุกวันหลังพิธีเบิกเนตรแล้วเป็นต้นไป

สำหรับวัดพระบาทปางแฟน เริ่มแรกเดิมที่ได้ก่อตั้งขึ้นให้เป็นที่พักสงฆ์พร้อมๆ กับการกำเนิดของหมู่บ้านปางแฟนเมื่อปี พ.ศ. 2442 บริเวณพื้นที่แห่งนี้แต่เดิมเข้าใจว่าเป็นเมืองโบราณ เนื่องจากได้มีการค้นพบซากอิฐเจดีย์และของใช้โบราณต่างๆ เป็นจำนวนมาก รวมถึงมีการกล่าวขานเรื่องราวในอดีตเมื่อกว่า 700 ปีก่อนว่า เมื่อครั้งพญามังรายมหาราชได้เสด็จมาเพื่อรวบรวมแว่นแคว้นน้อยใหญ่ให้เป็นปึกแผ่น ขณะพระองค์เสด็จมาถึงสถานที่แห่งนี้ได้หยุดพักตั้งค่ายหลวงพระองค์ได้ทอดพระเนตรพบกับรอยพระพุทธบาท เข้าใจว่าเป็นรอยพระบาทพระพุทธเจ้า

เชียงใหม่ อภิสิทธิ์ เบิกฤกษ์ขึ้นเหนือทำบุญทอดกฐินที่วัดชัยชนะ ลำพูน พบกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เชียงใหม่-ลำพูน(คลิป)

อภิสิทธิ์ เบิกฤกษ์ขึ้นเหนือทำบุญทอดกฐินที่วัดชัยชนะ ลำพูน พบกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ เชียงใหม่-ลำพูน คาดสัปดาห์แผนงาน นโยบายหลายอย่างคืบหน้า เน้นคนรุ่นใหม่ช่วยทำพรรคให้ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มาร่วมพิธีทอดกฐินประทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ ณ วัดชัยชนะ (วัดปวงสนุก) ต.ประตูป่า อ.เมือง จ.ลำพูน และได้ไปกราบสักการะพระธาตุหริภุญชัย รวมทั้งได้ร่วมงานเทศกาลโคมล้านดวง ณ วัดพระธาตุหริภุญชัย อ.เมือง จ.ลำพูน ด้วย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่ากกต.จะยังไม่ได้รับรองกรรมการบริหารชุดใหม่ยังทำงานไม่เป็นทางการ สิ่งที่ได้เริ่มต้น คือการเปิดกว้างเชิญผู้รู้มีประสบการณ์มาให้ข้อคิดและการทำงานกระบวนการนี้ก็ยังจะเดินต่อไปอีกระยะหนึ่ง สัปดาห์หน้าจะมีการจัดเรื่องการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และดิจิตอลแพลตฟอร์ม ซึ่งคิดว่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่จะเป็นปัจจัยการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโต สร้างโอกาสให้กับประชาชนอีกจำนวนมาก

เรื่องผู้สมัคร สส. เนื่องจาก ปัจจุบันก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งมี ส.ส.หลายท่านบอกว่าอาจจะไม่ได้อยู่พรรคประชาธิปัตย์แล้ว เนื่องจากไปเจรจาตกลงอะไรกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ฉะนั้นการเร่งหาผู้สมัครก็เป็นเรื่องสำคัญซึ่งน่ายินดีที่มีคนแสดงความจำนงเข้ามาพอสมควร วันนี้มาภาคเหนือมาพบกับกรรมการบริหารสาขาทุกคนก็กำลังใจดี สัปดาห์หน้าจะมีการพูดเชิญชวนให้คนที่อยากจะมาร่วมงานการเมืองตามอุดมการณ์ของเราแบบเปิดกว้าง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เราจะเปิดกว้างให้คนที่มีอุดมการณ์เดียวกันเข้ามาร่วม เป็นการวางรากฐานในระยะยาวสำหรับพรรคด้วย เราไม่ได้คิดถึงแค่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งต่อไปเท่านั้น เพราะว่าเราต้องฟื้นฟูพรรคให้กลับมาแข็งแรงในเรื่องของจุดยืนที่ชัดเจนให้ประชาชนเข้าใจ แล้วก็ขณะนี้ก็คือคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามาสานต่อเยอะ เราทำงานไม่ได้ทำแค่เฉพาะหน้า แต่ทำเพื่อให้ให้พรรคได้อยู่คู่กับการเมืองไทยต่อไป

“สำหรับความคาดหวังจำนวนที่นั่ง ส.ส.ยังเร็วเกินไปที่จะตอบ ไม่ว่าจะภาคไหนเป็นฐานของใคร เรามีความตั้งใจทำงานให้กับคนทั้งประเทศอยู่แล้ว ที่ผ่านมาในอดีตผมอยู่การเมือง มาอยู่กับประชาธิปัตย์ได้ไปทุกจังหวัดก็มีคนที่สนับสนุนเรา มีคนที่มีความคิดความอ่านเหมือนกับพวกเรา เพียงแต่ว่าต้องไปกระตุ้นในบางพื้นที่ แล้วก็ในช่วงที่ผ่านมาก็อาจจะมีประเด็นที่พรรคการเมืองต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมาก็อาจจะทำให้มีการตัดเสียงออกไปหลายพรรค”นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า

เราต้องการที่จะต่อสู้และส่งผู้สมัครแข่งขันทุกจังหวัด แต่ว่าเรายอมรับความเป็นจริงว่าด้วยสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว มีเวลาที่จำกัดมาก ต้องทำงานกันหนัก แต่ว่าจะเป็นอย่างไร อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะประเมิน คงต้องรอดูบรรยากาศเมื่อเข้าสู่กระบวนการการเลือกตั้งอีกทีต้องสื่อสารให้ประชาชนรู้ว่า ถ้าบ้านเมืองไม่เดินไปบนเส้นทางของการมีหลักการและความสุจริต ไม่มีนโยบายในการบริหารประเทศที่อิงอยู่กับความเป็นมืออาชีพหรือหลักทางวิชาการ ถ้าบ้านเมืองไม่พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก เศรษฐกิจไทย ประเทศไทยก็จะลำบากมาก แต่ถ้าต้องการคนที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของคนที่อยากเห็นบ้านเมืองเดินทางไปในเส้นทางที่สุจริต เศรษฐกิจเติบโต ต้องการทำงานแบบมืออาชีพเพื่อสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกซึ่งหมายถึงการมีบทบาทในระหว่างประเทศด้วย

นายอภิสิทธิ์ ยังบอกอีกว่า ขณะนี้พรรคเรายังมีอีก 4 จังหวัดที่ยังไม่มีตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์ สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งตัวแทนจังหวัด ตอนนี้มีผู้แสดงเจตจำนงจะลงสมัครก็มีทั้งคนเก่าและคนรุ่นใหม่ น่าจะประกาศได้สัปดาห์หน้า เพราะตอนนี้กกต.ยังไม่ได้รับรองกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เราจะพยายามส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งให้ครบ

เชียงใหม่ เริ่มแล้ว! งานมหกรรมสัตว์เลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี 2568 ที่จัดขึ้นโดยพวกเราชาวสีชมพู กับงานเพ็ทมาร์ทแฟร์ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 30 ตค.-2 พย.68 ที่ลานฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แอร์พอร์ต เชียงใหม่(คลิป)

เริ่มแล้ว! งานมหกรรมสัตว์เลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี 2568 ที่จัดขึ้นโดยพวกเราชาวสีชมพู กับงานเพ็ทมาร์ทแฟร์ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 30 ตค.-2 พย.68 พร้อมเลือกซื้อสินค้าหลากหลายแบรนด์ เดินขบวนมาให้ช็อปถึงที่ลดหนัก โปรแรง ของแถมเพียบ พิเศษสุดๆเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ! ที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต

ที่ลานฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แอร์พอร์ต อำเภอเมือง เชียงใหม่ บริษัท เพ็ทมาร์ท เชียงใหม่ เอ๊กซ์ตร้าพลัส จำกัด โดยคุณพิมพ์ลดา ยิ่งเจริญธีรโชติ กรรมการบริษัท เพ็ทมาร์ท เชียงใหม่ เอ๊กซ์ตร้าพลัส จำกัด จัดงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่ประจำปี โดยพวกเราชาวสีชมพู กับงานเพ็ทมาร์ทแฟร์ครั้งที่ 7 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 ตค.-2 พย.68 พร้อมเลือกซื้อสินค้าหลากหลายแบรนด์ เดินขบวนมาให้ช็อปถึงที่ ลดหนัก โปรแรง ของแถมเพียบบบบบ พิเศษสุดๆเฉพาะในงานนี้เท่านั้น ! ที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ต

ภายในงาน เตรียมชุดลายดอกทานตะวันให้พร้อม เพราะงานนี้ถ้าใครแต่งตัวเข้า Theme งาน แอบกระซิบว่าพวกเรามีของแจกให้จุกๆ แถมมีลุ้นรางวัลใหญ่ด้วย นอกจากนั้นยังมีบริการ ตรวจสุขภาพ หู ตา และ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า น้องๆ ฟรี และในวันที่ 30 ตุลา พบ ดัง ณัฐฐชัย ,1 พ.ย พบ หยิ่น และ วอร์ ,2 พ.ย พบ เพิรธิ์ และ แซนต้า

#Petmartfair2025 #เพ็ทมาร์ทแฟร์2025 #เพ็ทมาร์ทเชียงใหม่ #Petmartfair #งานสัตว์เลี้ยง #สัตว์น่ารัก #เซ็นทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ต #CentralChiangmaiAirport #2025trends #FAIR2025 #nekko #VIFCat #jerhigh #อาหารสัตว์