เชียงใหม่ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีเปิดอาคารที่ทำการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (คลิป)

รอง ผบ.ตร.เป็นประธานพิธีเปิดอาคารที่ทำการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่


วันนี้(15 พค.68) ที่การกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พลตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 โดยมี พลตำรวจตรี กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 กล่าวรายงานพิธีเปิดอาคารที่ทำการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ในวันนี้ โดยได้รับการโปรดเมตตาจากพระครูปราโมทย์ประชานุกูล (พระประชานาถมุนี) เจ้าอาวาสวัดดอนจั่น ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการตำรวจภูธรภาค 5 และหน่วยงานสังกัดตำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมในพิธีเปิดอาคารในครั้งนี้

พลตำรวจตรี กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหน่วยงานในสังกัด กองบัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดตั้งตามพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฉบับที่ 5 พุทธศักราช 2563 และกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือ ส่วนราชการอื่นๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฉบับที่ 17 พุทธศักราช 2563 เมื่อวันที่ 9 กันยายน พุทธศักราช 2563 มีการกิจสำคัญ ในการโจงกับปราบปราม สืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ แรกเริ่มก่อตั้งหน่วย ใช้อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เมืองทองธานี ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นที่ทำการแห่งแรก ต่อมาในปี พุทธศักราช 2564 ได้มีการย้ายที่ทำการมายัง อาคารรัฐประศาสนภักดี

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2566 สำนักงานตำรวรรจแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมานจำนวน 1,331,900 บาท (หนึ่งร้อยสามสิบล้านสามแสนหนึ่งหมื่นเก้าพันบาท) ภายใต้โครงการบังคับใช้ใช้กฎหมายอำนวยความยุติธรรม และบริการประชาชน เป็นงบผูกพัน 3 ปี ระหว่างปีพุทธศักราช 2566 – 2568 เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการ และ อาคารที่พักอาศัย ของกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี 4 / ณ อาคารเลขที่ 370 หมู่ที่ 3 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 อาคารที่ทำการของกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 แห่งนี้ เป็นอาคารที่มีความทันสมัย/ แข็งแรง มีพื้นที่ใช้สอยรองรับการปฏิบัฏิบัติภารกิจ ด้านการสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภารกิจราชการ ในการอำนวยความยุติธธรรมแก่ประชาชน ในพื้นที่รับผิดชอบ เป็นอย่างดีเพื่อให้ทุกท่านได้เห็นถึงบทบาท ภารกิจ และความสำคัญของการจัดตั้งอาคารที่ทำการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 แห่งนี้

พลตำรวจเอก กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานในพิธี เผยว่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในการจัดตั้งกองบัญชากกรตำราจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งเมื่อกระผมดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการ หน่วยงานนี้คนแรก ได้กำหนดทิศทิศทางในการทำงาน ของหน่วยงานนี้ ที่จะให้มีหน่วยงานแยกออกไป ตามภูมิภาค เพื่อรองรับการบริการประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจาก ภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล การวางแนวทางดังกล่าว จนมาถึงนี้เป็นหนึ่งในความภูมิใจ ที่หัวหน้าหน่วยงานได้ร่วมขับคลื่อน จนเป็นผลสำเร็จ ขอแสดงความยินดี กับข้าราชการตำรวจในสังกัด กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ที่มีอาคารอันสง่างามหลังใหม่ มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น มีความสะดวกทันสมัย และมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้าราชการตำรวจ ที่ได้รับมอบหมาย ให้ทำหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบนี้ จะสามารถทำการสืบสวนสอบสวน หาตัวผู้กระทำความผิด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เพื่อสร้างความสุข ความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป

ภายหลังจากนั้นได้นิมนต์ พระครูปราโมทย์ประชานุกูล (พระประชานาถมุนี) เจ้าอาวาสวัดดอนจั่น เจิมป้ายเพื่อความเป็นสิริมงคล และได้มีพิธีปลูกต้นรวงผึ้งจำนวน 4 ต้น อาคารที่ทำการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4

 

เชียงใหม่ กลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ออกโรงโต้สยามเอสเตท ดาราเทวี หลังได้รับผลกระทบจากเรื่องทรัพย์สิน(คลิป)

กลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ออกโรงโต้สยามเอสเตท ดาราเทวี หลังได้รับผลกระทบจากเรื่องทรัพย์สิน พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบอาคารที่ถูกต่อเติม ดัดแปลง โดยไม่ได้ขออนุญาต ขณะที่เหตุเพลิงไหม้ได้พบคลิปจากสื่อออนไลน์ว่ามีการติดตั้งหลอดไฟหลายจุด

วันนี้(12 พค.68) ที่ห้องคอนเวนชั่น 1 – 2 โรงแรมวินทรี ซิตี้้รีสอร์ท เชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่ – ลำปาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้น IFEC พร้อมด้วยทนายความ 3 นาย คือ นายประสิทธิ์ วงศาสวัสดิ์ , นายเรวัตร์ วงศ์สวัสดิ์ และนายพลรัตน์ พรหมคุ้ม ได้ร่วมกันแถลงข่าว กลุ่มผู้ถือหุ้นบริษัท IFEC ที่มีความเกี่ยวข้องกับดาราเทวี และการสูญเสียของผู้ถือหุ้น

นางสาวเยาวลักษณ์ ฤทธิ์สมจิตต์ ตัวแทนผู้ถือหุ้น IFEC กล่าวว่า โรงแรมดาราเทวีหลังจากประสบปัญหาและต้องขายทอดตลาดไป ทางกรมบังคับคดี ก็ได้ดำเนินการประมูลขาย ซึ่งครั้งแรกนั้นทางบริษัท IThermal ประมูลไปได้ 2,100 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ได้ยุติไป ไม่ได้ชำระเงินทั้งหมด กระทั่งต่อมาทางกรมบังคับคดีก็ได้นำมาประมูลอีก ซึ่งในการประมูลดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 66 มีการยกป้ายประมูลถึง 69 ครั้ง สุดท้ายทาง IThermal ก็ได้ไปอีกครั้ง ในราคา 3,590 ล้านบาท โดยมีบริษัท สยามเอสเตท ดาราเทวี เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมลงทุน การประมูลครั้งนั้น ประมูลได้ไปเป็นที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ 18 แปลง จำนวน 80 ไร่ มี 60 อาคาร แต่ยังถือว่าเป็นของ IFEC อยู่ เนื่องจาก IThermal เป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ IFEC และโรงแรมดาราเทวี ก็ถือเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของ IFEC เช่นกัน ดังนั้น ยังถือว่าผู้ถือหุ้นของ IFEC ก็ยังมีสิทธิอยู่ หลังจากที่ประมูลไปได้ ก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร กระทั่งในเดือน พ.ค. 67 เริ่มกลับมาเปิดให้บริการ ต่อมาก็นำมาเปิดเป็นกาดดาราเทวี

สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ถือหุ้นที่ออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้ คือ สยามเอสเตท ดาราเทวี แม้ว่าจะได้ที่ดินกับอาคารไปแล้ว แต่หลังจากที่ บริษัท IThermal ประมูลไปได้ ก็มีเจ้าหนี้ของ IThermal ไปแจ้งต่อกรมบังคับคดี เพื่อขอยึดทรัพย์ ทำให้ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ที่กรมบังคับคดี รวมถึงเครื่องตกแต่งที่อยู่ภายในตัวอาคารที่มีกว่า 20,000 รายการด้วย โดยรายการเครื่องตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว อุปกรณ์ต่างๆ นอกเหนือจากตัวอาคารนั้น ได้มีการทำบัญชีไว้หมด ต่อมาทางกรมบังคับคดีจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาสำรวจทรัพย์สินจากการยึดทรัพย์ พร้อมกับติดป้ายของกรมบังคับคดีว่าห้ามใช้ จำหน่าย จ่ายแจก เคลื่อนย้ายใดๆ แต่ต่อมา ทางสยามเอสเตท ดาราเทวี ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของดาราเทวี ก็ได้นำเครื่องเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และของต่างๆ ไปให้กับผู้เช่าที่มาเช่าพื้นที่ของดาราเทวี นำไปใช้ ทั้งที่ทรัพย์สินดังกล่าว ถูกกรมบังคับคดีทำการยึดไว้แล้ว และทรัพย์สินก็ไม่ได้เป็นของสยามเอสเตท ดาราเทวี มีเพียงที่ดินกับอาคารเท่านั้นที่ใช่

ต่อมาก็ได้ถูกกล่าวหาว่า ทางกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC กลั่นแกล้งกลุ่มที่ไปเช่าพื้นที่ จึงขอชี้แจงว่า ไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่การนำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ ถือว่าผิด อีกทั้งกรมบังคับคดีก็จะต้องนำขายทอดตลาดก่อน เพื่อนำเงินมาใช้ให้กับเจ้าหนี้ รวมถึงผู้ถือหุ้น IFEC ที่เป็นเจ้าของด้วย จึงอยากให้ร้านค้าต่างๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว ของต่างๆ ที่เป็นของตกแต่งซึ่งอยู่ภายในตัวอาคารของโรงแรม และห้องประชุมของโรงแรมดาราเทวี ไปใช้ ให้คิดถึงเรื่องนี้ประกอบกับการนำของที่เป็นของกลุ่มเจ้าหน้าที่ และผู้ถือหุ้น IFEC ไปให้ผู้ที่ผู้เช่าพื้นที่ใช้ นอกจากจะผิดกฎหมายของกรมบังคับคดีแล้ว ยังผิดต่อผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ของ บริษัท IThermal ที่ได้แจ้งยึดไว้ด้วย เพราะเงินจากการเช่าและทรัพย์สินที่ถูกนำออกไป ไม่ได้ถูกนำมาใช้หนี้ หรือถูกจัดการมายังฝั่งของกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ที่เป็นผู้ร่วมลงทุนเลย

การที่ผู้ถือหุ้น IFEC ออกมาเรียกร้องและชี้แจงในครั้งนี้ เพราะทุกคนก็นำเงินมาร่วมลงทุน แต่การนำโรงแรมระดับ 5 – 6 ดาว มาใช้ลักษณะนี้ รวมถึงการเปิดจากโรงแรมระดับนานาชาติ ร้านอาหารต่างประเทศ แต่เหลือเพียงแค่กาดดาราเทวี แล้วกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ลงทุนไปจะได้เงินกลับคืนเมื่อไหร่จากการบริษัทแบบนี้

ขณะเดียวกันยังพบว่า อาคารต่างๆ หลายหลัง ได้ถูกดัดแปลงสภาพไป ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า เป็นเรื่องที่ผิด เพราะการก่อสร้าง ต่อเติม ปรับปรุงโครงสร้าง ตามกฎหมายจะต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง โดยพบว่า ยังไม่ได้มีการขออนุญาตในเรื่องดังกล่าว ก็อยากให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ นายอำเภอ หรือทางเทศบาล เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย หากยังทำปล่อยปละละเลยหน้าที่ ก็จะร้องถึง ปปช. ในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และยังอีกว่าพื้นที่หลายแห่งถูกปล่อยให้เสื่อมโทรม ระบบสาธารณูปโภค ไม่ได้มาตรฐาน

สุดท้าย กรณีเรื่องไฟไหม้ ที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 02.00 น. ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้กันจำนวนมากว่าสาเหตุมาจากอะไร ตอนแรกบอกว่าอาคารหลังนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้นานแล้ว คือไฟฟ้าเป็นศูนย์ ต่อมาก็ออกข่าวอีกว่าได้ตรวจสอบแล้ว มีไฟแค่ดวงเดียวเพื่อส่องสว่าง เป็นไฟแบบปิงปอง ไม่ได้ทำการต่อสายไฟ แล้วก็มีให้ข่าวอีกครั้งว่าเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติ ทั้งที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังไม่ได้ระบุออกมาเลยว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร มีการให้ข้อมูลเปลี่ยนแปลงไปตลอด กระทั่งทางกลุ่มผู้ถือหุ้น IFEC ซึ่งได้พบคลิปจากสื่อออนไลน์ว่า อาคารสปาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวนั้น คล้ายกับมีการติดตั้งไฟส่องสว่างไว้ที่ด้านบนอาคาร ด้านใต้อาคาร และใต้หลังคา มีสายไฟโยงให้เห็นชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้ตรวจสอบด้วย

เชียงใหม่ ผู้ประกอบการชุมชนภาคเหนือ แถลงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนวิถีชาติพันธุ์ “ชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนา”(คลิป)

จังหวัดเชียงใหม่ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยยึดโยงกับอัตลักษณ์ชาติพันธุ์ ผ่านกิจกรรม “ชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้าน นา” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ สีสัน แห่งล้านนาอย่างยั่งยืน (Ethnic Lanna Tourism) ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมมุ่งเน้นการเผยแพร่อ ตลักษณ์ชาติพันธุ์ล้านนาในมิติการ ท่องเที่ยว เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการส่งเสริมชุมชนให้เป็นเจ้า บ้านที่เข้มแข็ง สอดคล้องกับนโยบายการยกระดับ Soft Power ไทยสู่เวทีโลก

วันนี้( 8 พค.68) เวลา 17.00 น. ที่โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท เชียงใหม่ อำเภอเมือง เชียงใหม่ นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายเศรษฐศักด์ พรหมมา อุปนายกสมาคมการท่องเที่ยวโดยชุมชนภาคเหนือ นายอภิรัตน์ มาศรัตน์ ประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชียงใหม่ นางสาวปาณิสรา นฤประชา Influencer และเพจแอ่วดี รีวิว เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนวิถีชาติพันธุ์ “ชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนา”

โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานภาคีเครือข่ายจะได้พากลุ่มผู้ประกอบการชุมชนกว่า 50 ชุมชน ไปออกบูธจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในชุมชน ระหว่าง 16 – 18 พฤษภาคม 2568 ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ที่จังหวัดนนทบุรี ภายได้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนาอย่างยั่งยืน Ethnic Lanna Tourism ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการท่องเที่ยวที่ โดยดึงเอาเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ที่น่าสนใจของกลุ่มชาติพันธุ์ มานำเสนอเป็นกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ที่สร้างสรรค์เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว และให้เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชนและท้องถิ่น

สำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนวิถีชาติพันธุ์ “ชาติพันธุ์สีสันแห่งล้านนา” ระหว่าง 16 – 18 พฤษภาคม 2568 ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี จะมีการจัดแสดงการจำลอง วิถีชีวิต วัฒนธรรม และจำหน่ายสินค้าและหัตถกรรม เชิงอาหาร รวมถึงการแสดงศิลปะ วัฒนธรรมและดนตรี พร้อมกับมีการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างมูลค่า กระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนอีกด้วย

เชียงใหม่ TikTok จับมือ ม. แม่โจ้ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเครือข่ายเหนือจรดใต้พัฒนาวิชา “พลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล”สร้าง Smart People พลิกโฉมประเทศ(คลิป)

TikTok จับมือ ม. แม่โจ้ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเครือข่ายเหนือจรดใต้พัฒนาวิชา “พลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล”สร้าง Smart People พลิกโฉมประเทศ

วันนี้( 6 พค.68) เวลา 14.00 น. ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยคณะสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะผู้ประสานงานหลัก จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง TikTok Technologies Ltd. กับ 6 สถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ,มหาวิทยาลัยพะเยา ,มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, มหาวิทยาลัยบูรพา ,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการร่วมมือพัฒนาวิชา “พลเมืองดิจิทัลและการรู้เท่าทันสื่อดิจิหัล” ภายใต้แนวคิด “Smart Citzenship & Digital Resilience” เพื่อติตอาวุธทางปัญญาให้เยาวชนไทยมีภูมิคุ้มกันทางดิจิทัล และสามารถอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีได้อย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า “ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้กับ TikTok ในประเด็นการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 5 โดยได้ร่วมผลิตเนื้อหาเชิงรณรงค์ผ่านแฮชแท็ก เช่น #พื้นที่ปลอดภัยในการไถฟิด #พื้นที่ปลออดภัยเพื่อทุกการสร้างสรรค์ และล่าสุด #คนไทยรู้ทัน ที่มีผู้เข้าชมกว่า 3.4 พันล้านวิว โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการรู้เท่าทันข่าวลวงและภัยออนไลน์ในสังคมไทยอย่างยังยืน และในปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญใบการขยายผลความร่วมมือเข้าสู่การเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา สำหรับมหาวิทยาลัยแม่ไม่ไจ้ มีวิชาพลเมืองดิจิทัล ซึ่งในบางหลักสูตรกำหนดเป็นวิชาศึกษาทั่วไปและยังเป็นวิชาเลือกเสรีให้นักศึกษาที่สนใจลงเรียนได้ ดังนั้นจึงมีนักศึกษาทั้งจากด้านเกษตร บริหารธุรกิจเศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สังคมศาสตร์ รวมถึงด้านการสื่อสาร ลงทะเบียนเรียนในรายวิชากว่าปีละ 1,500 คน

และในปีนี้เราได้ชวนเพื่อนจากอีก 5 มหาวิทยาลัยมาร่วมมือกัน ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบในเชิงวิชาการ แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่บูรณาการระหว่างมหาวิทยาลัยทั้งสามกลุ่ม ได้แก่ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยกลุ่มราชมงคล ร่วมกับ ภาครัฐ และ ภาคเอกชน โดยเฉพาะ TkTok ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในยุคนี้ “

เชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ส่งเทียบเชิญ “ทรงวิทย์-ณรงค์”เป็นที่ปรึกษาสภาฯชุดใหม่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชียงใหม่และผลักดันให้เชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก(คลิป)

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ส่งเทียบเชิญ “ทรงวิทย์-ณรงค์”เป็นที่ปรึกษาสภาฯชุดใหม่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชียงใหม่และผลักดันให้เชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก

วันนี้( 6 พค.68) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานสแตนดาร์ดทัวร์ นางวาสนา ทองสุข(ชัยเลิศ) ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยนายอุดม ชิดนายี,นายวสันต์ เดชะกัน รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ชุดใหม่ ได้เข้าพบนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สแตนดาร์ดทัวร์ เพื่อเชิญเป็นที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเลือกตั้งประธานสภาฯเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาและได้มีการแต่งตั้่งคณะกรรมการบริหาร โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งเทียบเชิญนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล เป็นที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีนายณรงค์ ตนานุวัฒน์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ปรึกษาสภาฯอีกท่านหนึ่งด้วย

นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนกุล ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สภาอุตสหากรรมฯ เป็นหัวหอกในด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง สำหรับประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่คนใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามา เป็นคนมี ความรู้ความสามารถ วันนี้ที่ผมได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษา ก็จะร่วมผลักดันในเรื่องสำคัญ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังผลักดันเป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก และจะทำอย่างไรให้แม่น้ำปิง มีสภาพที่สวยงามกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ในอนาคต สนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ จะทำอย่างไรให้ขยายใหญ่กว่านี้ได้ รองรับสายการบินที่บินตรงมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้มากขึ้น การส่งเสริมวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ของล้านนา เป็นสิ่งสำคัญที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่มากยิ่งขึ้น

นางวาสนา ทองสุข(ชัยเลิศ) ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ต้องขอบคุณท่านนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนกุล ที่ได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และสิ่งที่ท่านได้ให้คำปรึกษามา ก็จะนำไปปฏิบัติเพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ ตอบโจทย์ให้กับนักท่องเที่ยวได้และไม่เหนื่อยสำหรับบริษัททัวร์ หรือพี่น้องการท่องเที่ยวที่จะทำภาคการตลาด โดยจะร่วมกันผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก ภายในปี 2570 ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ผลักดันไประยะหนึ่งแล้ว และขอความร่วมมือกับพี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกท่านมาสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่และทั่วประเทศว่า เชียงใหม่พร้อมแล้วที่จะเป็นเมืองมรดกโลก และส่งเสียงให้รัฐบาลในการผลักดันในกระบวนการของมติ ครม.

ทั้งนี้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ จะร่วมกับทางจังหวัดและ อบจ.เชียงใหม่ ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน และการทำแม่น้ำปิงให้กว้างขึ้นก็เป็นสิ่งที่ดีมาก และทราบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีโครงการขุดลอกและขยายแม่น้ำปิงในเร็วๆ นี้ มีการเวนคืนที่ดินที่รุกล้ำแม่น้ำปิง เช่น ตำรวจภูธรภาค 5 ก็ยินยอมคืนที่ดินบางส่วนให้แล้ว เพื่อจะได้ลดปัญหาน้ำท่วมของเมืองเชียงใหม่ เพราะเป็นปัญหาใหญ่มากในทุกๆ ปี เรื่องการน้ำท่วมและมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ จะเข้าไปช่วยผลักดันและเป็นตัวแทนภาคการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนได้

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงโลซีซั่น ก็ต้องอาศัยพี่น้องภาคธุรกิจท่องเที่ยวขับเคลื่อน และดึงพันธมิตรจากหลายภาคส่วนมาเป็นคณะกรรมการและขับเคลื่อนร่วมกัน โดยเฉพาะบริษัททัวร์ใหญ่ๆ อย่างสแตนดาร์ดทัวร์ ที่ท่มีประสบการณ์ก็เข้ามาช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษา โดยเร็วๆ นี้จะมีการจัดโรดโชว์เรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งจะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้น.

ลำพูน Smart Farmer พลิกโฉม “ไข่ผำ” พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก (คลิป

“Smart Farmer พลิกโฉม ไข่ผำ พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก” โดย ไข่ผำ เป็นพืชน้ำจิ๋วพื้นถิ่นของไทย กำลังถูกยกระดับสู่ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง โดยเฉพาะโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่าย เติบโตเร็ว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่ผงโปรตีน ผงชงดื่ม อาหารเสริม จนถึงขนมคุกกี้ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดสุขภาพปัจจุบัน

ที่คาระวีรีสอร์ท อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน นายอนุวัฒน์ กำแพงแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิจัยพืชอนาคต (กพอ.) เดินทางมาให้ความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจ และเปิดอบรมการผลิตผำเชิงพานิช ให้มีมาตรฐาน GP โดยกรมวิชาการเกษตรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงผำ จะเพาะเลี้ยงอย่างไรให้ได้มาตรฐานสำหรับการแปรรูป หรือการส่งออกไปต่างประเทศ โดยปัจจุบันผู้ที่สนใจมีการตอบรับที่ดีในกลุ่มเพาะเลี้ยงและกลุ่มผู้ที่รักสุขภาพเป็นทางเลือกนึงสำหรับอาหารที่มีโปรตีนสูง ส่วนผู้ที่สนใจสามารถมาสอบถามข้อมูลทุกขั้นตอนได้ไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ของผำ การปลูก หรือมาตรฐานก็สามารถสอบถามหน่วยงานภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่มี 8 เขตททั่วประเทศ รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่อยุ่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งภาคเหนือก็ที่ผู้ที่สนใจติดต่อมาทางกรมฯ มากพอสมควร

หนึ่งในกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ “Smart Farmer” ที่เดินหน้ายกระดับไข่ผำอย่างจริงจังคือ “เกตนภาฟาร์ม” ซึ่งได้พัฒนาระบบ “Wolffia Plus” ฟาร์มอัจฉริยะแนวตั้ง ที่นำเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT เข้ามาควบคุมทุกขั้นตอนการเพาะเลี้ยงอย่างแม่นยำ ตั้งแต่แสง อุณหภูมิ และความชื้น ภายใต้แนวคิด Zero-Touch ใช้แขนกลและระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ผสมผสานพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ 100% เพื่อผลิตไข่ผำคุณภาพสูงระดับเมดิคอลเกรด สำหรับตลาดสุขภาพและอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต

ด้านนายสายัณห์ นันตา ผู้ร่วมพัฒนาระบบ Wolffia Plus เผยว่า จุดเริ่มต้นของฟาร์มแห่งนี้มาจากความสนใจในเทคโนโลยีและการเกษตร ประกอบกับการมองเห็นศักยภาพของไข่ผำในฐานะแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืน จึงได้พัฒนาเกตนภาฟาร์มให้เป็นต้นแบบฟาร์มอัจฉริยะ เพื่อลดการใช้แรงงานคน เพิ่มความแม่นยำในการผลิต และสามารถทำงานได้ตลอดปีแบบยั่งยืน

นอกจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ฟาร์มเกตนภายังเปิดพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนที่สนใจเรียนรู้การเลี้ยงไข่ผำตามธรรมชาติ โดยเน้นการควบคุมความสะอาดเพื่อให้ได้ไข่ผำคุณภาพสูง ช่วยผลักดันให้ไข่ผำเติบโตในท้องตลาด และสร้างมูลค่าให้แก่เกษตรกรไทย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับผู้ที่สนใจนำเทคโนโลยีของเกตนภาฟาร์มไปปรับใช้ ก็สามารถเข้ามาเรียนรู้ในโรงเรือนต้นแบบขนาด 9 คูณ 12 เมตร ซึ่งมีชั้นเลี้ยงไข่ผำถึง 100 ชั้น การออกแบบนี้ทำให้สามารถเก็บผลผลิตสลับกันได้ทุก 3 วัน จึงมีผลผลิตหมุนเวียนขายได้ตลอดทั้งเดือน เฉลี่ยเดือนละ 400 ถึง 500 กิโลกรัม

ปัจจุบันไข่ผำที่ผลิตได้จำหน่ายในรูปแบบ food grade ในราคา 400 กรัมอยู่ที่ 289 บาท ซึ่งเป็นไข่ผำสดคุณภาพสูง พร้อมนำไปประกอบอาหารได้ทันที รวมถึงมีผลิตภัณฑ์แปรรูปหลายรูปแบบ ทั้งไข่ผำอบแห้งสำหรับบดชงดื่ม ผำอัดเม็ดเป็นแคปซูลอาหารเสริม และการนำไปทำเป็นขนมอย่างคุกกี้ ช่วยต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับไข่ผำในหลายอุตสาหกรรม

จากพืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ดระดับโลก “ไข่ผำ” กำลังพิสูจน์ว่า เกษตรกรรมยุคใหม่ไม่ใช่แค่การปลูกและขาย แต่คือการออกแบบคุณค่า เพื่อสร้างสุขภาพ และสร้างโลกที่ดีขึ้นไปพร้อมกัน

เชียงใหม่ กำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประกาศถอนตัวร่วมเป็น กก.หน่วยเลือกตั้ง(คลิป)

กำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จ,เชียงใหม่ ประกาศถอนตัวร่วมเป็น กก.หน่วยเลือกตั้ง ขอปกป้องศักดิ์ศรีหลังถูกผู้สมัครฯ กล่าวหาไม่เป็นกลาง


วันนี้(25 เม.ย.68) นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 9 หมู่บ้าน กว่า 30 คน เดินทางไปสำนักงานเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ เข้ายื่นหนังสือกับปลัดเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบล ขอถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการการประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสันผีเสื้อที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยให้เหตุผลว่าถูกผู้สมัครรายหนึ่งดูหมิ่นศักดิ์ศรีกล่าวหาว่าฝ่ายปกครองในท้องที่วางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งครั้งนี้

กำนันตำบลสันผีเสื้อ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกรณีกระทบกระทั่งกันระหว่างนายนิเรศ เข็มขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 กับทีมงานหาเสียงของผู้สมัครนายกฯ รายหนึ่ง ทำให้ กกต.เชียงใหม่ เรียกทุกฝ่ายไปประชุมทำความเข้าใจเพื่อลดความขัดแย้งและสร้างบรรยากาศที่ดีในการเลือกตั้ง

ในที่ประชุมดังกล่าว นายภาวิต บุญชละ ผู้สมัครนายกฯ ซึ่งเป็นคู่กรณีได้ร้องขอให้ทาง กกต. ถอดผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ออกจากการเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และ กกต.เห็นชอบเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ปรากฏว่านายภาวิตกลับขอให้ถอดฝ่ายปกครองในตำบลออกจากการเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด โดยให้เหตุผลเรื่องความไม่เป็นกลาง

กำนันตำบลสันผีเสื้อ บอกว่า ที่ผ่านมาฝ่ายปกครองในพื้นที่ ทำหน้าที่ภายใต้ข้อบังคับของกฏหมายและได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกครั้งมาโดยตลอด แม้ครั้งล่าสุดจะมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งเกิดขึ้น แต่การร้องเรียนว่าไม่เป็นกลาง เป็นการกล่าวหาที่ทำให้ฝ่ายปกครองทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี ขณะที่ทางเทศบาลตำบลสันผีเสื้อก็ไม่ได้ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของฝ่ายปกครองในท้องที่ของตัวเอง ทุกคนจนเห็นตรงกันในการขอถอนตัวเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะเป็นครั้งแรกที่มีฝ่ายปกครองทั้งตำบลพร้อมใจกันขอถอนตัวจากการเลือกตั้งท้องถิ่น

ด้าน นางจันทนา ทิพย์กาญจนกุล ปลัดตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลได้มีประกาศแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไปแล้ว แต่เมื่อกำนันใหญ่บ้านไม่สบายในการที่มีผู้สมัครร้องเรียนว่าวางตัวไม่เป็นกลางและขอถอนตัว หลังจากได้รับหนังสือในวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งในระดับตำบลและแจ้งไปยัง กกต.เชียงใหม่ ให้ทราบ ส่วนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ขาดไปจากการถอนตัว จะมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งเพิ่มเติมอีกครั้งโดยตามกฏหมายระบุไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายปกครอง

เชียงใหม่ “แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล”เปิดบ้านสวนริมลำพูน ให้กัลยาณมิตรทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมเข้าสระเกล้าดำหัว ขอพรเนื่องในประเพณีสงกรานต์ 2568 (คลิป)

“แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล”เปิดบ้านสวนริมลำพูน ให้กัลยาณมิตรทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมเข้าสระเกล้าดำหัว ขอพรเนื่องในประเพณีสงกรานต์ 2568 เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ

เมื่อค่ำวันที่ 23 เม.ย.68 ณ บ้านสวนริมลำพูน แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีพีเอ็น คอลเล็คชั่นส์ จำกัด เปิดบ้านสวนริมลำพูน ให้กัลยาณมิตรสระเกล้าดำหัว ขอพรสืบสานประเพณีสงกรานต์ สืบทอดกันมาแต่โบราณ สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามไทยแต่โบราณซึ่งทำมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 42 โดยมีข้าราชการฝ่ายปกครอง อาทิ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา,นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน,พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.๕ ,นายพิชัย เลิศพงค์อดิศร นายก อบจ. เชียงใหม่,นายธานินทร์ สุภาแสน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง,นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่,นายสิทธิชัย จินดาหลวงอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

นอกจากนี้ยังมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่,รองผู้ว่าฯลำพูนและเชียงราย ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ตลอดจนนายอำเภอในพื้นที่เชียงใหม่และลำพูน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจและพี่น้องประชาชนลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย พะเยา เข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น ด้วยรักและผูกพัน

“แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล” กรรมการผู้จัดการบริษัท วีพีเอ็น คอลเล็คชั่นส์ จำกัด มีประสบการณ์ในงานด้านมวลชน และสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการบริหารจัดการขยะมูลฝอย แบบครบวงจร มานานกว่า 20 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจในด้านการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน โดยการนำมาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า นอกจากการทำธุรกิจแล้ว แม่เลี้ยงวรรณียังได้ช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ส่วนรวมและประเทศชาติอีกหลายโครงการด้วย.

เชียงใหม่ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันต่อเนื่อง(คลิป)

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันต่อเนื่อง หลังพบจังหวัดแม่ฮ่องสอนเริ่มมีจุดความร้อนเพิ่มขึ้น

วันนี้( 22 เม.ย.68 )เวลา 09.00 น. ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่า สถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีจุดความร้อนสูงขึ้นจนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเช้าวันนี้ในพื้นที่ 17 จุดความร้อน ตรวจพบจุดความร้อน จำนวน 101 จุด สูงสุดที่ จังหสัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 61 จุด รองลงมาจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 19 จุด และ จังหวัดตาก จำนวน 5 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 45 จุด รองลงมาคือ ป่าอนุรักษ์ จำนวน 44 จุด และ พื้นที่เกษตร 8 จุด

นอกจากนี้ยังเกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก – เกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 3 จังหวัด สูงสุดที่ ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 64.30 มคก./ลบ.ม. รองลงมา เป็น ต.ธานี อ.เมือง จังหวัดสุโขทัย 43.30 มคก./ลบ.ม. และ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 41.70 มคก./ลบ.ม.

อย่างไรก็ดียังพบว่าตลอดทั้งสัปดาห์ ภาคเหนือเกิดจุดความร้อนสะสม 504 จุด เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่าน ยังคงลดลง 2,486 จุด คิดเป็นร้อยละ 83.14 โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน 141 จุด , จังหวัดพิจิตร 81 จุด และ จังหวัดนครสวรรค์ 76 จุดคุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5 และ AQI อยู่ในระดับ สีเขียว ถึง ฟ้า ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน

ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ยังคงจัดกำลังออกลาดตระเวนป้องกันไฟป่าในพื้นที่เฝ้าระวัง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนอาจเกิดไฟป่าในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนลดการเผาตลอดเดือนเมษายนเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

เชียงใหม่ พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1/2568 (คลิป)

พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1/2568 พร้อม ส่งนายการณ์วิชญ์ หริอ“อาจารย์ด้วง” วงษ์ทอง เบอร์ 4 สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนามของพรรคก้าวอิสระ

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 เม.ย.2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมดิเอ็มเพชร ถนนช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1/2568 ผศ.ดร.บุญส่ง ชเลธร รองหัวหน้าพรรคก้าวอิสระ เป็นประธานเปิดการประชุมเลือกตั้งกรรมการบริหาร และกรรมการสาขาพรรคก้าวอิสระ จังหวัดเชียงใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง มีสมาชิกพรรคมาลงทะเบียนร่วมประชุมจำนวนมาก

โดยที่ประชุมเสนอแต่งตั้ง มาดามหยก นางสาวกชพร เวโรจน์ ให้ดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวอิสระต่อไป ส่วนทางด้านพรรคก้าวอิสระ ส่งตัวแทนพรรค คือ เบอร์ 4 นายการณ์วิชญ์ “อาจารย์ด้วง” วงษ์ทอง สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนามของพรรคก้าวอิสระ

สำหรับผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มี 5 คน คือ เบอร์ 1 นางสาวปนันรัตน์ หรือ “หยก” วิริยะกุลศานต์ พรรคเพื่อเชียงใหม่ ส่วนเบอร์ 2 นายธีรวุฒิ “เหมา” แก้วฟอง พรรคประชาชน และเบอร์ 3 นายอัศนี “หน่อย” บูรณุปกรณ์ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 นายการณ์วิชญ์ “อาจารย์ด้วง” วงษ์ทอง พรรคก้าวอิสระ สุดท้าย เบอร์ 5 ว่าที่ ร.อ.จอร์นนพดล วศินสุทร ผู้สมัครอิสระ.