เชียงใหม่ “เลขา ป.ป.ส.” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หลังเกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่องกว่า 13 ครั้ง กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 21 ศพ ยึดยาบ้ารวมกว่า 23 ล้านเม็ด(คลิป)

“เลขา ป.ป.ส. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หลังเกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่องกว่า 13 ครั้ง กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 21 ศพ ยึดยาบ้ารวมกว่า 23 ล้านเม็ด ย้ำขวัญกำลังใจเป็นกำลังรบที่ไม่ที่ตัวตนแต่ทรงอนุภาพ”

(19 สค.68) กองบังคับการควบคุมผาดำฯ ฐานปฏิบัติการบ้านร้องธาร ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยพลโทกิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พลโทกาจน์ กอรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 พันเอก มีชัย นิลศาสตร์ รองผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นางสาวสุกันยา ใหญ่วงศ์ รักษาการในตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หลังเกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดตั้งแต่ห้วงเดือนพฤษภาคม 2568 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จำนวน 13 ครั้ง เป็นเหตุการณ์สำคัญ 10 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตรวม 21 ศพ ยึดยาบ้ารวม 23,544,000 เม็ดไอซ์ 58 กิโลกรัม ฝิ่นดิบ 20.8 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่นอีกจำนวนหนึ่ง


เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจำแนกตามหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ ดังนี้
หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จำนวน 5 ครั้ง
1) วันที่ 5 มิถุนายน 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ บริเวณช่องทางผาบ่อง บ้านป่ากล้วย ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 200,000 เม็ด ฝิ่นดิบ 20.8 กิโลกรัม และอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย

2) วันที่ 13 มิถุนายน 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และ ได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 6 – 8 คน บริเวณช่องทางเขาหัวนก บ้านขอบด้ง หมู่ที่ 14 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 4 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 400,000 เม็ด เฮโรอีน 360 กรัม ยาอี 27 เม็ด และฝิ่นดิบ 12 กรัม นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอาวุธปืนพก 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย

3) วันที่ 20 มิถุนายน 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 6 – 8 คน บริเวณบ้านหนองเต่า ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 2 ศพ และยึดยาบ้าได้ 400,000 เม็ด และอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย

4) วันที่ 2 สิงหาคม 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 6 – 8 คน บริเวณเส้นทางแยกบ้านหลวง หมู่ที่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 1,354,000 เม็ดอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย

5) วันที่ 15 สิงหาคม 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับกองร้อยทหารพรานที่ 3207 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 30 – 40 คน บริเวณเส้นทางสันผักหวาน บ้านหนองเต่า ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตจำนวน 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 4,200,000 เม็ด อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จำนวน 3 ครั้ง
1) วันที่ 6 มิถุนายน 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 15 – 20 คน บริเวณบ้านปางหนุนพัฒนา ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 4,200,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง ดำเนินการตามกฎหมาย

2) วันที่ 20 มิถุนายน 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 504 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 15 – 20 คน บริเวณช่องทางบ้านม้งเก้าหลัง 5 บ้านปางมะหัน หมู่ที่ 8 ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 2 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 4,000,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

3) วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 504 และชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 25 – 30 คน บริเวณบ้านป่าซางนาเงิน ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 7,790,000 เม็ด ไอซ์จำนวน 58 กิโลกรัม ลูกระเบิดขว้างจำนวน 1 ลูก ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง วิทยุสื่อสาร (ICOM) จำนวน 3 เครื่อง และรถกระบะจำนวน 1 คัน นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง ดำเนินการตามกฎหมาย

กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 2 ครั้ง
1) วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 กองร้อยทหารพรานที่ 3207 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้เกิดการปะทะกับกลุ่มขบวนการฯประมาณ 5 – 8 คน บริเวณบ้านดอยแหลม หมู่ที่ 13 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ หลังเหตุการณ์สงบ ตรวจพบกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 2 ศพ และกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 5 ใบ ภายในบรรจุยาบ้ารวมจำนวน 500,000 เม็ด พร้อมด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่อาย ดำเนินการตามกฎหมาย

2) วันที่ 28 มิถุนายน 2568 กองร้อยทหารพรานที่ 3209 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 503 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 4 – 6 คน บริเวณบ้านนามะอื้น หมู่ที่ 14 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 500,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่อาย ดำเนินการตามกฎหมาย

จากเหตุปะทะข้างต้นไม่มีรายงานเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพล รับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์ปะทะ และสถานการณ์ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. ยังคงเน้นย้ำว่า ขวัญกำลังใจเป็นกำลังรบที่ไม่ที่ตัวตนแต่ทรงอนุภาพ จึงได้เดินทางมาให้กำลังใจและมอบของบำรุงขวัญด้วยตนเอง และยังย้ำว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จึงได้สนับสนุนเครื่องมือพิเศษ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการสกัดกั้นยาเสพติดให้ดียิ่งขึ้น

เชียงใหม่ ผู้บริหารเทศบาลตำบลเชิงดอย จับมือ ส.ส.ณัฐพล ร่วมหาทางแก้ไขปัญหาถนนและน้ำประปา (คลิป)

ปัญหาชาวบ้านต้องมาก่อน ผู้บริหารเทศบาลตำบลเชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จับมือ ส.ส.ณัฐพล ร่วมหาทางแก้ไขปัญหาถนนและน้ำประปา

บ่ายวันนี้ (18 สิงหาคม 2568) ที่เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล ชัยวุฒิ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย มอบหมายให้นายอภิพงษ์ คงสัมพันธิ์ รองนายกเทศมนตรี พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาลเขต 2 และผู้อำนวยการกองช่าง เข้าร่วมหารือกับนายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 (อำเภอดอยสะเก็ด แม่ออน และสันกำแพง) เพื่อร่วมกันพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่

โดยเฉพาะปัญหาของชาวบ้านหมู่ 2 บ้านดงป่าก่อ ซึ่งกำลังประสบความเดือดร้อนจากถนนชำรุดเสียหาย ใช้งานไม่ได้สะดวก และปัญหาน้ำประปาหมู่บ้านที่ไม่สามารถใช้งานได้ แม้ก่อนหน้านี้ชาวบ้านจะเคยร้องเรียนไปยังการประปาส่วนภูมิภาคแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข มีเพียงหนังสือให้คำแนะนำกลับมาเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านเกิดความน้อยใจ เนื่องจากเป็นพื้นที่ต้นน้ำที่คอยดูแลรักษาแหล่งน้ำให้คนเชียงใหม่ใช้บริโภคและอุปโภค แต่ตนเองกลับประสบปัญหาขาดแคลนน้ำสะอาด

ในการหารือครั้งนี้ ผู้บริหารเทศบาลตำบลเชิงดอย และ ส.ส.ณัฐพล ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนแนวทางเพื่อหาทางออก ทั้งในเรื่องการซ่อมแซมถนนที่ชำรุด และการเร่งแก้ไขปัญหาน้ำประปาเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้น้ำได้อย่างเพียงพอและยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวยังมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ป่าไม้ที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นและผู้แทนราษฎรต่างยืนยันว่า จะเร่งผลักดันเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านตำบลเชิงดอยต่อไป

เชียงใหม่ เทศบาลตำบลแม่คือ จัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม ถวายพระพรชัยมงคล พร้อมตรวจวัดสายตาและมอบแว่นแก่คุณแม่ผู้สูงอายุกว่า 200 คน(คลิป)

เทศบาลตำบลแม่คือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 ถวายพระพรชัยมงคล พร้อมตรวจวัดสายตาและมอบแว่นแก่คุณแม่ผู้สูงอายุกว่า 200 คน

วันนี้ (12 สิงหาคม 2568) ณ เทศบาลตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายวิศิษฐ์ ตุ่นศิริ นายกเทศมนตรีตำบลแม่คือ เป็นประธานในพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่แห่งชาติ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ภายในงาน มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแม่คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่ม อสม. เด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ตำบลแม่คือ และใกล้เคียง เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าด้วยพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

นอกจากนี้ เทศบาลตำบลแม่คือ ยังได้จัดบริการตรวจวัดสายตา และมอบแว่นสายตาให้กับคุณแม่ผู้สูงอายุในพื้นที่ กว่า 200 คน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีและดูแลสุขภาพสายตาของผู้สูงวัย


และในงานยังมี การแสดง ของ เด็กเยาวชน และผู้สูงอายุ สลับสับเปลี่ยน ขึ้นแสดง บนเวที อย่างสวยงามสร้างสีสันภายในงาน และในงานยังมีการมอบรางวัล แม่ดีเด่น แม่ต้นแบบ ตำบลแม่คือ โดยได้รับเกียรติจาก นางณัฐกฤตา แสงสุวรรณ นายกกิ่งกาชาดอำเภอดอยสะเก็ด มามอบรางวัลในครั้งนี้อีกด้วย

บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม สะท้อนถึงความรัก ความกตัญญู และความสามัคคีของคนในชุมชน

เชียงใหม่ เปิดตัวสมาคม “ภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ “ อย่างเป็นทางการ พร้อมเตรียมจัด งานยิ่งใหญ่แห่งปี ครั้งแรกของเชียงใหม่(คลิป)

เปิดตัวสมาคม “ภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ “ อย่างเป็นทางการ พร้อมเตรียมจัด งานยิ่งใหญ่แห่งปี ครั้งแรกของเชียงใหม่กับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 Chiang Mai International Film Festival 2025 พร้อมขับเคลื่อนเชียงใหม่เป็น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก

วันนี้(11 สค.68) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่(เซ็นเฟส) สมาคมภาพยนตร์และสื่อดิจิกัลภาคเหนือ NORTHERM FILM& DIGITAL MECIAASSOCIATION แถลงข่าวเปิดตัวสมาคมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ Northern Thailand Film & Digital Media Association 2025 (NTFD) และการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568CHIANG MAI INTERNATIONAL FILM FESTIVAL 2025

ดร.อดิศร สุดดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มจีวาย เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวว่าได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ Northern Film & Digital Media Association (NTFD) จากจุดเล็ก ๆ ที่แตกต่าง สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ กับการรวมตัวของเครือข่ายนักเล่า เรื่อง ผู้สร้างสรรค์ และผู้ผลักดันอุตสาหกรรมสื่อให้เติบโตไปด้วยกัน จากผู้ประกอบการผู้ผลิต รวมถึงศิลปิน นักแสดง ผู้กำกับ นักเขียน ทั้งบุคลากรทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ได้รวมพลังกันในนามองค์กรภายใต้ สมาคมฯ เพื่อเชื่อมโยงศักยภาพในภูมิภาค สานต่อพันธกิจขับเคลื่อนอุตสาหกรรมบันเทิงในหลากหลายมิติเปิดประตูสู่ “โอกาส” ก้าวสู่ในระดับประเทศ และนานาชาติ

ด้วยจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและแสดงสินค้า ระดับนานาชาติ (Mice city) และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก (tourism hub) อีกทั้งมีความพร้อมทางด้าน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และโลจิสติกส์ รวมทั้งมีโรงแรมและศูนย์ประชุมที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย และ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน โบราณสถานที่ทรงคุณค่า ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม โดยได้ถูกถ่ายทอด เรื่องราวในหลากหลายมิติผ่านภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศมาแล้วมากมาย ทางสมาคมภาพยนตร์และสื่อ ดิจิทัลภาคเหนือ จึงได้มีแนวคิดจัด “เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 Chiang Mai Internation film Festival 2025 ” ขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคโดยได้บูรณาการความร่วมมือ องค์กรภาครัฐและ เอกชน เพื่อเป็นการพัฒนาวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม ผลักดัน Soft Power ไทยในหลากหลายมิติ และนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวในระยะยาว ส่งผลต่อการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เมือง และประเทศ สู่สายตานานาชาติได้อย่าง ภาคภูมิ

โดยได้รับเกียรติร่วมการแถลงข่าวการจัดงานในครั้งนี้ ประกอบด้วย นายแพทย์ธีรพัฒน์ ตันพิริยะกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง การขับเคลื่อนเมืองแห่งนวัตกรรมสร้างสรรค์ สู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก ,นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมและผลักดันเมืองเชียงใหม่สู่ Film Friendly City ,นางกรวรรณ สุ่มมาตย์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่กล่าวถึง การส่งเสริมและสนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์ ร่วมผลักดัน Soft power ผ่านสื่อ ภาพยนตร์สู่นานาชาติ, ดร.อดิศร สุดดี นายกสมาคมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือกล่าวถึง ภาพรวมการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568 ,ผศ.นันทสิทธิ์ กิตติวรากูล หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมการสื่อสาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึง การมีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดเทศกาลและภาพยนตร์ระดับนานาชาติ ,นายพรเทพ อรรถกิจไพศาล ผู้อำนวยการกลุ่มงานปฏิบัติสาขาเขตภาคเหนือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ผู้สนับสนุนสถานที่การจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ และนางสาวกาญจนา จันต๊ะเจริญ Area Manager บริษัท เมเจอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึง ผู้สนับสนุนการฉายภาพยนตร์การจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่

ทั้งนี้ ได้กำหนดการจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 28 – 30 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต,โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์กรุ๊ป และพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยภายในงานได้จัดการประกวด หนังสั้น CIFF Short Film Contest 2025 ชิงเงินสนับสนุนและรางวัลกว่า 600,000 บาท,การฉายภาพยนตร์ที่ผ่าน เข้ารอบสุดท้าย และภาพยนตร์นานาชาติ กว่า 10 ประเทศ, การเสวนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ CIFF Talk, เดิน พรมแดงแฟชั่นโชว์ Red Carpet & Fashion Show จากศิลปิน นักแสดง ผู้จัด, การแลกเปลี่ยนความรู้และสร้าง เครือข่าย CIFF Exhibition & Show Case, เปิดโอกาสการเจรจาธุกิจ CIFF Business Networking, การมอบ รางวัล CIFF Awards & CFF Star Awards ให้กับผลงานด้านภาพยนตร์สั้น และนักแสดงที่มีผลงานโดดเด่นทั้งใน ประเทศและต่างประเทศ สำหรับการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ซึ่งถือเป็นการจัดงานเต็มรูปแบบที่เกิดขึ้นครั้ง แรกในจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย

เชียงใหม่ ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมสถานม่อนพญานาคราช จัดงานวันแม่พร้อมมอบไม้เท้า ช่วยพยุงให้คุณแม่ 35 อัน(คลิป)

ศูนย์ปฏิบัติธรรม ธรรมสถานม่อนพญานาคราช อ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันแม่พาคุณแม่มาร่วมปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมมอบไม้เท้า ช่วยพยุง ให้คุณแม่ ที่มาปฏิบัติธรรมจำนวน 35 อัน พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับผู้ที่มาร่วมงานต่างอิ่มอกอิ่มใจในรสแห่งธรรมและยังได้ไม้เท้าช่วยพยุงนำไปใช้ที่บ้านอีกด้วย

เช้าวันนี้ (10 สิงหาคม 2568) ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมธรรมสถานม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ครูบาชัยประสิทธิ์ ภิกขุ เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชนและประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และฟังพระธรรมเทศนาแบบพื้นเมือง เนื่องในวันแม่แห่งชาติ และเฉลิมพระชนมพรรษาพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

การแสดงธรรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากพระมหากังขา สิริวฑุฒโน แสดงธรรมบรรยายในหัวข้อธรรมะวันแม่ เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและกตัญญูกตเวทีต่อมารดา กิจกรรมครั้งนี้ยัง มีการแจกไม้เท้าช่วยพยุงให้กับคุณแม่ ที่มาปฏิบัติธรรม จำนวน 35 อัน ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่มาปัญหาข้อขาเสื่อมเดินไม่สะดวกก็จะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ และถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันแม่แห่งชาติอีกด้วย

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้”โครงการปฏิบัติธรรมไตรมาส 3 เดือน”เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กิจกรรมครั้งนี้ มีประชาชนเข้าร่วม กิจกรรมจำนวนมาก ซึ่งทางศูนย์ปฏิบัติธรรม ธรรมสถานม่อนพญานาคจะจัดกิจกรรมทุกปีตลอดระยะเวลา วันเข้าพรรษา เป็นระยะเวลา 3 เดือน

หลังจัดกิจกรรมวันแม่ในช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางศูนย์ปฏิบัติธรรมม่อนพญานาคราช ก็ได้เลี้ยงอาหารเที่ยงให้กับคุณแม่และผู้ที่มาร่วมงานต่างอิ่มอกอิ่มใจในรสแห่งธรรมและยังได้ไม้เท้าช่วยพยุงกลับไปใช้ที่บ้านอีกด้วย

เชียงใหม่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ จัดมหกรรมท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่ประตูท่าแพ ตั้งแต่ 8-12 สิงหาคม นี้ (คลิป)

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา 6 จังหวัดภาคเหนือ จัดงานมหกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ยกของดีในชุมชนจาก 6 จังหวัดภาคเหนือ มาจำหน่ายสินค้าและเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 8-12 สิงหาคม 2568 ที่บริเวณประตูท่าแพ

วันนี้ (9ส.ค. 68) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนของเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา ที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม 2568 ที่บริเวณประตูท่าแพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ภายในงานมีการจัดบูธแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการของชุมชนท่องเที่ยวทั้ง 6 จังหวัด ที่มีความหลากหลายทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิต รวมถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่น นิทรรศการแบบมีชีวิต โดยการจำลองวิถี การปั่นฝ้ายและทอผ้า พร้อมสาธิตการทำตาแหล๋วจากชุมชนไทยลื้อบ้านธิ จังหวัดลำพูน การสาธิตและให้นักท่องเที่ยวได้ workshop ทำผลิตภัณฑ์ของชุมชน อาทิการทำกระดาษสา จากชุมชนท่องเที่ยวต้นเปา จังหวัดเชียงใหม่ การสาธิตชงชาและการทำพวงกุญแจลาหู่ จากชุมชนบ้านจะบูสี จังหวัดเชียงราย การแสดงแฟชั่นโชว์จากเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน CBT Lanna Pass รวมถึงการแสดงแสง สี เสียง การจำหน่ายอาหาร และสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน อีกมากมาย

ทั้งนี้ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลได้ส่งเสริมซอฟพาวเวอร์ สินค้าโอท๊อป ที่จะพัฒนาและยกระดับขึ้นมาให้เป็นสินค้าของชุมชนที่เข้าสู่ระบบตลาด ทำให้เพิ่มการมองเห็นมากยิ่งขึ้น รวมถึงเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ไปแต่ละจุดทั่วทุกมุมของประเทศ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจและขยายตลาดให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสมาพบปะพูดคุย หารือแนวทางถึงการขยายตลาดให้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับฐานราก โดยในระยะต่อไปมีการเตรียมที่จะพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่ม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ เพื่อทำให้จังหวัดเชียงใหม่กลับมาเป็น World Class Destination ของนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

เชียงใหม่ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ส่งเสริม ชุมชนบ้านห้วยเป้า อ.เชียงดาว เปลี่ยนทางรอดสู่ทางเลือกบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน(คลิป)

สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ส่งเสริม ชุมชนบ้านห้วยเป้า อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เปลี่ยนทางรอดสู่ทางเลือกบนพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวพาไปดูตัวอย่างความสำเร็จของชุมชนบ้านห้วยเป้า ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถ “เปลี่ยนทางรอด” ให้กลายเป็น “ทางเลือก” ได้อย่างน่าทึ่ง จากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวที่พึ่งพาสารเคมี มาเป็นการทำเกษตรปลอดภัยที่หลากหลายและยั่งยืน


ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. ซึ่งเข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ภายใต้แนวทางโครงการหลวง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของคนบนพื้นที่สูงอย่างต่อเนื่อง และวันนี้ความสำเร็จของบ้านห้วยเป้ากำลังสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่น ๆ


นายภาณุพงศ์ คำลือ นักส่งเสริมและพัฒนาปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่สูงห้วยเป้า เปิดเผยว่าในอดีต ชาวบ้านห้วยเป้าส่วนใหญ่ทำไร่ข้าวโพดเชิงเดี่ยว ซึ่งต้องใช้สารเคมีจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และรายได้ที่ไม่แน่นอน แต่เมื่อ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เข้ามาส่งเสริมความรู้ตามแนวทางโครงการหลวง ชาวบ้านก็ได้เรียนรู้การทำเกษตรแบบปราณีต ที่เน้นคุณภาพ ความปลอดภัย และเป็นมิตรกับธรรมชาติ

และที่บ้านห้วยเป้า หมู่ 1 ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เป็นชุมชนที่ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ดอนซึ่งขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ต้องพึ่งพาน้ำฝนเพียงอย่างเดียว และทำให้ชาวบ้านต้องปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นหลัก ส่งผลให้ดินเสื่อมโทรม ผลผลิตไม่มีคุณภาพ และมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

แต่ด้วยความร่วมมือกับ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงห้วยเป้า จาก สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) และการตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำของคนในชุมชน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กและติดตั้งระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวอยู่ภายใต้หลักการทำงานที่ยึดชุมชนเป็นศูนย์กลาง โดยแก้ไขปัญหาจากฐานข้อมูล ผสมผสานองค์ความรู้ เทคโนโลยี และภูมิปัญญาท้องถิ่นตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเน้นการปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวแบบดั้งเดิมไปเป็นการทำเกษตรแบบประณีตที่ใช้น้ำน้อย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ต้นทุนต่ำ

นายภาณุพงศ์ คำลือ กล่าวต่อไปว่า ผลจากความพยายามนี้ทำให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกตลอดทั้งปี ส่งผลให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย และชุมชนยังเกิดความหวงแหนและหันมาดูแลทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน โดยจัดกิจกรรมอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเป็นประจำทุกปี เช่น การทำฝาย ปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศต้นน้ำ และการทำแนวกันไฟ เพื่อให้ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน
-ความสำเร็จของบ้านห้วยเป้าจึงเป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า การแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ พร้อมกับการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง


ปัจจุบัน บ้านห้วยเป้าได้กลายเป็น ชุมชนต้นแบบของการทำเกษตรอินทรีย์บนพื้นที่สูง โดยมีการปลูกพืชหลากหลายชนิดในโรงเรือน เช่น ผักสลัด เมล่อน แตงญี่ปุ่น สมุนไพรพื้นบ้าน และไม้ผลเมืองหนาว ด้วยเทคนิคการควบคุมสภาพแวดล้อม ทำให้ลดการใช้สารเคมีลงได้มาก หรือบางครั้งก็ไม่ใช้เลย ซึ่งช่วยให้ผลผลิตปลอดภัยและได้ราคาดีขึ้น

นี่ไม่ได้เป็นเพียงต้นแบบด้านการผลิตเท่านั้น แต่ยังเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกของคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้าน หรือเยาวชนต้นกล้าเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างทั่วถึงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ถูกนำมาปรับใช้จริง จากระบบเกษตรที่เคยพึ่งพาสารเคมี สู่เกษตรปลอดภัยที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ จากรายได้ที่ไม่มั่นคง สู่ความพอเพียงที่ยั่งยืน และจากปัญหาเชิงโครงสร้าง สู่ความคิดใหม่ที่ตั้งอยู่บนความเข้าใจ


บ้านห้วยเป้าจึงไม่ได้เป็นเพียงหมู่บ้านต้นแบบ แต่คือหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า “การพัฒนาพื้นที่สูงตามแนวทางโครงการหลวง” สามารถสร้างความยั่งยืนได้จริงในทุกมิติ ทั้งชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ถ้าเราทุกคนร่วมกันคิด ร่วมกันทำ และเดินไปด้วยกันอย่างเป็นระบบ นายภาณุพงศ์ คำลือกล่าว

เชียงใหม่ โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต เชียงใหม่ ร่วมกับผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 (คลิป)

รงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต เชียงใหม่ ร่วมกับผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า



บริเวณลานกิจกรรม โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต จังหวัดเชียงใหม่ นางพรรณี บุญประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณนิมิต พร้อมผู้บริหาร นักเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ได้วางพานพุ่ม เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดี


โอกาสนี้ นางพรรณี บุญประเสริฐ ผู้อำนวยการ โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต ได้เปิดกรวยดอกไม้ ถวายพระพร พร้อมกล่าวคำอาเศียรวาท และนำทุกคนร่วมร้องเพลง สรรเสริญพระบารมี อย่างพร้อมเพียงกัน รวมถึงการแสดงของเด็กนักเรียน ได้รำถวายพระพร และการแสดงชุด สายใยของแผ่นดิน และยังร่วมกัน ขับร้องเพลงประสานเสียง ในบทเพลงค่าน้ำนม


โดยกิจกรรมจัดขึ้นเพื่อ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ปกเกล้าปกกระหม่อม ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย มาโดยตลอด ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้อุทิศพระวรกาย พระปัญญา และพระราชทรัพย์ ปฏิบัติบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจ นานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์ แก่อาณาประชาราษฏร์ โดยได้พระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรผู้ยากไร้ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงยั่งยืน


ขณะเดียวกัน โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรม ให้เด็กๆ และผู้ปกครอง ได้ร่วมทำกิจกรรมด้วยกันถึงการเรียนรู้ โดยคุณแม่พาหนูๆเรียนรู้ เรื่องอาหารที่ดีมีประโยชน์ ที่กาดหมั้วดรุณนิมิต สื่อถึงความรักที่ลูกมีต่อแม่อีกด้วย

เชียงใหม่ บ้านปางแดงใน อ.เชียงดาว จังหวีดเชียงใหม่ จากเกษตรบนพื้นที่สูงติดลบหนี้สิน สู่หัตถกรรมโกอินเตอร์ ควบคู่ไปกับวิถีเกษตรปลอดสารพิษ (คลิป)

บ้านปางแดงใน อ.เชียงดาว จากเกษตรบนพื้นที่สูงติดลบหนี้สิน สู่หัตถกรรมโกอินเตอร์ ควบคู่ไปกับวิถีเกษตรปลอดสารพิษ

ชุมชนบ้านปางแดงใน หมู่ที่ 9 ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งในพื้นที่ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางแดงได้เข้ามาพลิกชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งเป็นเผ่าดาราอั้ง จำนวน 350 กว่าครัวเรือน จากการทำเกษตรเชิงเดียว สู่เกษตรผสมผสาน ปลอดสารพิษ มาสู่ภูมิปัญญาท้องถิ่น รังสรรค์งานหัตถกรรมที่ไม่เพียงแต่สะท้อนอัตลักษณ์ของชนเผ่า แต่ยังเป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ให้กับชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและผู้สูงอายุ ผ่านการสนับสนุนของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง หรือ สวพส. งานฝีมือดั้งเดิม สู่สินค้าที่ผสมผสานทั้งดีไซน์และความหมาย ภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทำให้ชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ ยังคงสืบสานภูมิปัญญาการทอผ้า และการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิมของชนเผ่า ด้วยความตั้งใจที่จะไม่ให้มรดกทางวัฒนธรรมสูญหาย

นางสาวลักขณา เหียง นักส่งเสริมและพัฒนา โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงปางแดงใน เป็นเยาวชนตัวอย่างของชุมชน เผยว่า“เมื่อก่อนเราทอใช้กันเอง ไม่ได้คิดว่าจะขายได้ แต่พอทาง สวพส. เข้ามาช่วยอบรมเรื่องการย้อม การออกแบบ แล้วก็การขายออนไลน์ ตอนนี้เราก็มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ลูกหลานที่เรียนจบก็กลับมาช่วยงานที่บ้านค่ะ มันเป็นความภูมิใจ”

 

หลังจากการสนับสนุนของ สวพส. ทำให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ร่วมกับภูมิปัญญาเก่า เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ตรงตามความต้องการของตลาด ทั้งเสื้อผ้า ผ้าพันคอ กระเป๋า ไปจนถึงของใช้ในบ้าน และยังเชื่อมโยงกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สีที่เราใช้มาจากเปลือกไม้ ใบไม้ที่อยู่รอบบ้านอาทิต้นแห้ว เพกา ประดู่ หมามุ่ย ต้นกล้วยและต้นฮ่อม เป็นต้น มี 20 แม่สี จำนวน 36 เชดสี ชาาวบ้านได้ช่วยกันปลูกและดูแลป่าไปโดยรอบ เพราะวัตถุดิบช่วยกันรักษา ร่วมกันไว้จากการเกษตรเชิงเดียว มีการเผ่าพื้นที่ ขายพื้นที่ป่า แต่ตอนนี้เราได้ร่วมกันดูแลอนุรักษ์ปกป้องพื้นที่ป่าให้กลับมา

จากรายได้ที่ติดลบค่อยทำให้เรา พอมีพอกินพอใช้ สู่รายได้เสริมเป็นได้หลักของชุมชนบ้านปางแดง จากพึ่งพาการเกษตรแต่เพียงอย่างเดียว เพราะสินค้าเราอินเตอร์ไปสู่หลายประเทศ จากรายได้เสริมงานหัตถกรรมในปีที่ผ่านมา มีมูลค่ากว่า 19 ล้านบาท ขยายโอกาสให้ผู้หญิง ผู้สูงอายุ และเยาวชนได้มีบทบาททางเศรษฐกิจโดยไม่ต้องละทิ้งถิ่นฐานของตน งานหัตถกรรมชนเผ่าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังจากวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานที่เชื่อมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของชุมชนบนพื้นที่สูง ให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

เชียงใหม่ เชิญชวน….อยากจะบอกคนทั้งโลกว่า“ เชียงใหม่ ”พร้อมเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และคอนเทนต์ระดับโลก “

อยากจะบอกคนทั้งโลก ว่า “ เชียงใหม่ ” พร้อมเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และคอนเทนต์ระดับโลก “

ด้วยจังหวัดเชียงใหม่มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการจัดประชุมและแสดงสินค้าระดับนานาชาติ (Mice city) และเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก (tourism hub) อีกทั้งมีความพร้อมทางด้าน โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม และโลจิสติกส์ รวมทั้งมีโรงแรมและศูนย์ประชุมที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย และประวัติศาสตร์อันยาวนาน โบราณสถานที่ทรงคุณค่า ศิลปวัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม โดยได้ถูกถ่ายทอดเรื่องราวในหลากหลายมิติผ่านภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศมาแล้วมากมาย


ทางสมาคมภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ จึงได้มีแนวคิดจัด “ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเชียงใหม่ ประจำปี 2568 Chiang Mai Internation film Festival 2025 ” ขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคโดยได้บูรณาการความร่วมมือ องค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นการพัฒนาวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม ผลักดัน Soft Power ไทยในหลากหลายมิติ และนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวในระยะยาว ส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมือง และประเทศไทยสู่สายตานานาชาติได้อย่างภาคภูมิ

ดร.อดิศร สุดดี
ประธานบริหาร บริษัท เอ็มจีวายเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
นายกสมาคมภาพยนตร์ และสื่อดิจิทัลภาคเหนือ (NTFD)