เชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ส่งเทียบเชิญ “ทรงวิทย์-ณรงค์”เป็นที่ปรึกษาสภาฯชุดใหม่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชียงใหม่และผลักดันให้เชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก(คลิป)

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ส่งเทียบเชิญ “ทรงวิทย์-ณรงค์”เป็นที่ปรึกษาสภาฯชุดใหม่ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชียงใหม่และผลักดันให้เชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก

วันนี้( 6 พค.68) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานสแตนดาร์ดทัวร์ นางวาสนา ทองสุข(ชัยเลิศ) ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่พร้อมด้วยนายอุดม ชิดนายี,นายวสันต์ เดชะกัน รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ชุดใหม่ ได้เข้าพบนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สแตนดาร์ดทัวร์ เพื่อเชิญเป็นที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการเลือกตั้งประธานสภาฯเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาและได้มีการแต่งตั้่งคณะกรรมการบริหาร โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งเทียบเชิญนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล เป็นที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีนายณรงค์ ตนานุวัฒน์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ปรึกษาสภาฯอีกท่านหนึ่งด้วย

นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนกุล ที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สภาอุตสหากรรมฯ เป็นหัวหอกในด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง สำหรับประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่คนใหม่ที่ได้รับเลือกเข้ามา เป็นคนมี ความรู้ความสามารถ วันนี้ที่ผมได้รับเลือกให้เป็นที่ปรึกษา ก็จะร่วมผลักดันในเรื่องสำคัญ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังผลักดันเป็นเมืองมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก และจะทำอย่างไรให้แม่น้ำปิง มีสภาพที่สวยงามกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ในอนาคต สนามบินนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ จะทำอย่างไรให้ขยายใหญ่กว่านี้ได้ รองรับสายการบินที่บินตรงมายังจังหวัดเชียงใหม่ได้มากขึ้น การส่งเสริมวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ของล้านนา เป็นสิ่งสำคัญที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่มากยิ่งขึ้น

นางวาสนา ทองสุข(ชัยเลิศ) ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ต้องขอบคุณท่านนายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนกุล ที่ได้มาเป็นที่ปรึกษาให้กับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ และสิ่งที่ท่านได้ให้คำปรึกษามา ก็จะนำไปปฏิบัติเพื่อผลักดันให้การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้ ตอบโจทย์ให้กับนักท่องเที่ยวได้และไม่เหนื่อยสำหรับบริษัททัวร์ หรือพี่น้องการท่องเที่ยวที่จะทำภาคการตลาด โดยจะร่วมกันผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองมรดกโลก ภายในปี 2570 ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ผลักดันไประยะหนึ่งแล้ว และขอความร่วมมือกับพี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกท่านมาสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับพี่น้องชาวเชียงใหม่และทั่วประเทศว่า เชียงใหม่พร้อมแล้วที่จะเป็นเมืองมรดกโลก และส่งเสียงให้รัฐบาลในการผลักดันในกระบวนการของมติ ครม.

ทั้งนี้สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ จะร่วมกับทางจังหวัดและ อบจ.เชียงใหม่ ขับเคลื่อนไปพร้อมกัน และการทำแม่น้ำปิงให้กว้างขึ้นก็เป็นสิ่งที่ดีมาก และทราบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีโครงการขุดลอกและขยายแม่น้ำปิงในเร็วๆ นี้ มีการเวนคืนที่ดินที่รุกล้ำแม่น้ำปิง เช่น ตำรวจภูธรภาค 5 ก็ยินยอมคืนที่ดินบางส่วนให้แล้ว เพื่อจะได้ลดปัญหาน้ำท่วมของเมืองเชียงใหม่ เพราะเป็นปัญหาใหญ่มากในทุกๆ ปี เรื่องการน้ำท่วมและมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ จะเข้าไปช่วยผลักดันและเป็นตัวแทนภาคการท่องเที่ยวในการขับเคลื่อนได้

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงโลซีซั่น ก็ต้องอาศัยพี่น้องภาคธุรกิจท่องเที่ยวขับเคลื่อน และดึงพันธมิตรจากหลายภาคส่วนมาเป็นคณะกรรมการและขับเคลื่อนร่วมกัน โดยเฉพาะบริษัททัวร์ใหญ่ๆ อย่างสแตนดาร์ดทัวร์ ที่ท่มีประสบการณ์ก็เข้ามาช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษา โดยเร็วๆ นี้จะมีการจัดโรดโชว์เรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งจะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้น.

ลำพูน Smart Farmer พลิกโฉม “ไข่ผำ” พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก (คลิป

“Smart Farmer พลิกโฉม ไข่ผำ พืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ด ด้วยนวัตกรรมฟาร์มอัจฉริยะ ผลักดันเกษตรไทยสู่ตลาดสุขภาพโลก” โดย ไข่ผำ เป็นพืชน้ำจิ๋วพื้นถิ่นของไทย กำลังถูกยกระดับสู่ซูเปอร์ฟู้ดแห่งอนาคต ด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่สูง โดยเฉพาะโปรตีนจากพืชที่ย่อยง่าย เติบโตเร็ว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่ผงโปรตีน ผงชงดื่ม อาหารเสริม จนถึงขนมคุกกี้ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในตลาดสุขภาพปัจจุบัน

ที่คาระวีรีสอร์ท อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน นายอนุวัฒน์ กำแพงแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มงานวิจัยพืชอนาคต (กพอ.) เดินทางมาให้ความรู้แก่เกษตรกรที่สนใจ และเปิดอบรมการผลิตผำเชิงพานิช ให้มีมาตรฐาน GP โดยกรมวิชาการเกษตรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงผำ จะเพาะเลี้ยงอย่างไรให้ได้มาตรฐานสำหรับการแปรรูป หรือการส่งออกไปต่างประเทศ โดยปัจจุบันผู้ที่สนใจมีการตอบรับที่ดีในกลุ่มเพาะเลี้ยงและกลุ่มผู้ที่รักสุขภาพเป็นทางเลือกนึงสำหรับอาหารที่มีโปรตีนสูง ส่วนผู้ที่สนใจสามารถมาสอบถามข้อมูลทุกขั้นตอนได้ไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ของผำ การปลูก หรือมาตรฐานก็สามารถสอบถามหน่วยงานภูมิภาคของกรมวิชาการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรที่มี 8 เขตททั่วประเทศ รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่อยุ่ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งภาคเหนือก็ที่ผู้ที่สนใจติดต่อมาทางกรมฯ มากพอสมควร

หนึ่งในกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ “Smart Farmer” ที่เดินหน้ายกระดับไข่ผำอย่างจริงจังคือ “เกตนภาฟาร์ม” ซึ่งได้พัฒนาระบบ “Wolffia Plus” ฟาร์มอัจฉริยะแนวตั้ง ที่นำเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT เข้ามาควบคุมทุกขั้นตอนการเพาะเลี้ยงอย่างแม่นยำ ตั้งแต่แสง อุณหภูมิ และความชื้น ภายใต้แนวคิด Zero-Touch ใช้แขนกลและระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ผสมผสานพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ 100% เพื่อผลิตไข่ผำคุณภาพสูงระดับเมดิคอลเกรด สำหรับตลาดสุขภาพและอุตสาหกรรมอาหารในอนาคต

ด้านนายสายัณห์ นันตา ผู้ร่วมพัฒนาระบบ Wolffia Plus เผยว่า จุดเริ่มต้นของฟาร์มแห่งนี้มาจากความสนใจในเทคโนโลยีและการเกษตร ประกอบกับการมองเห็นศักยภาพของไข่ผำในฐานะแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืน จึงได้พัฒนาเกตนภาฟาร์มให้เป็นต้นแบบฟาร์มอัจฉริยะ เพื่อลดการใช้แรงงานคน เพิ่มความแม่นยำในการผลิต และสามารถทำงานได้ตลอดปีแบบยั่งยืน

นอกจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ฟาร์มเกตนภายังเปิดพื้นที่ให้ความรู้แก่ประชาชนที่สนใจเรียนรู้การเลี้ยงไข่ผำตามธรรมชาติ โดยเน้นการควบคุมความสะอาดเพื่อให้ได้ไข่ผำคุณภาพสูง ช่วยผลักดันให้ไข่ผำเติบโตในท้องตลาด และสร้างมูลค่าให้แก่เกษตรกรไทย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

สำหรับผู้ที่สนใจนำเทคโนโลยีของเกตนภาฟาร์มไปปรับใช้ ก็สามารถเข้ามาเรียนรู้ในโรงเรือนต้นแบบขนาด 9 คูณ 12 เมตร ซึ่งมีชั้นเลี้ยงไข่ผำถึง 100 ชั้น การออกแบบนี้ทำให้สามารถเก็บผลผลิตสลับกันได้ทุก 3 วัน จึงมีผลผลิตหมุนเวียนขายได้ตลอดทั้งเดือน เฉลี่ยเดือนละ 400 ถึง 500 กิโลกรัม

ปัจจุบันไข่ผำที่ผลิตได้จำหน่ายในรูปแบบ food grade ในราคา 400 กรัมอยู่ที่ 289 บาท ซึ่งเป็นไข่ผำสดคุณภาพสูง พร้อมนำไปประกอบอาหารได้ทันที รวมถึงมีผลิตภัณฑ์แปรรูปหลายรูปแบบ ทั้งไข่ผำอบแห้งสำหรับบดชงดื่ม ผำอัดเม็ดเป็นแคปซูลอาหารเสริม และการนำไปทำเป็นขนมอย่างคุกกี้ ช่วยต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับไข่ผำในหลายอุตสาหกรรม

จากพืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ดระดับโลก “ไข่ผำ” กำลังพิสูจน์ว่า เกษตรกรรมยุคใหม่ไม่ใช่แค่การปลูกและขาย แต่คือการออกแบบคุณค่า เพื่อสร้างสุขภาพ และสร้างโลกที่ดีขึ้นไปพร้อมกัน

เชียงใหม่ กำนันผู้ใหญ่บ้านทั้งตำบลสันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประกาศถอนตัวร่วมเป็น กก.หน่วยเลือกตั้ง(คลิป)

กำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จ,เชียงใหม่ ประกาศถอนตัวร่วมเป็น กก.หน่วยเลือกตั้ง ขอปกป้องศักดิ์ศรีหลังถูกผู้สมัครฯ กล่าวหาไม่เป็นกลาง


วันนี้(25 เม.ย.68) นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 9 หมู่บ้าน กว่า 30 คน เดินทางไปสำนักงานเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ เข้ายื่นหนังสือกับปลัดเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบล ขอถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการการประจำหน่วยเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลสันผีเสื้อที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ โดยให้เหตุผลว่าถูกผู้สมัครรายหนึ่งดูหมิ่นศักดิ์ศรีกล่าวหาว่าฝ่ายปกครองในท้องที่วางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้งครั้งนี้

กำนันตำบลสันผีเสื้อ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกรณีกระทบกระทั่งกันระหว่างนายนิเรศ เข็มขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 กับทีมงานหาเสียงของผู้สมัครนายกฯ รายหนึ่ง ทำให้ กกต.เชียงใหม่ เรียกทุกฝ่ายไปประชุมทำความเข้าใจเพื่อลดความขัดแย้งและสร้างบรรยากาศที่ดีในการเลือกตั้ง

ในที่ประชุมดังกล่าว นายภาวิต บุญชละ ผู้สมัครนายกฯ ซึ่งเป็นคู่กรณีได้ร้องขอให้ทาง กกต. ถอดผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ออกจากการเป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และ กกต.เห็นชอบเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย แต่ปรากฏว่านายภาวิตกลับขอให้ถอดฝ่ายปกครองในตำบลออกจากการเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด โดยให้เหตุผลเรื่องความไม่เป็นกลาง

กำนันตำบลสันผีเสื้อ บอกว่า ที่ผ่านมาฝ่ายปกครองในพื้นที่ ทำหน้าที่ภายใต้ข้อบังคับของกฏหมายและได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกครั้งมาโดยตลอด แม้ครั้งล่าสุดจะมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งเกิดขึ้น แต่การร้องเรียนว่าไม่เป็นกลาง เป็นการกล่าวหาที่ทำให้ฝ่ายปกครองทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี ขณะที่ทางเทศบาลตำบลสันผีเสื้อก็ไม่ได้ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของฝ่ายปกครองในท้องที่ของตัวเอง ทุกคนจนเห็นตรงกันในการขอถอนตัวเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะเป็นครั้งแรกที่มีฝ่ายปกครองทั้งตำบลพร้อมใจกันขอถอนตัวจากการเลือกตั้งท้องถิ่น

ด้าน นางจันทนา ทิพย์กาญจนกุล ปลัดตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางเทศบาลได้มีประกาศแต่งตั้งกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งไปแล้ว แต่เมื่อกำนันใหญ่บ้านไม่สบายในการที่มีผู้สมัครร้องเรียนว่าวางตัวไม่เป็นกลางและขอถอนตัว หลังจากได้รับหนังสือในวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งในระดับตำบลและแจ้งไปยัง กกต.เชียงใหม่ ให้ทราบ ส่วนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ขาดไปจากการถอนตัว จะมีการประชุมเพื่อแต่งตั้งเพิ่มเติมอีกครั้งโดยตามกฏหมายระบุไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายปกครอง

เชียงใหม่ “แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล”เปิดบ้านสวนริมลำพูน ให้กัลยาณมิตรทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมเข้าสระเกล้าดำหัว ขอพรเนื่องในประเพณีสงกรานต์ 2568 (คลิป)

“แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล”เปิดบ้านสวนริมลำพูน ให้กัลยาณมิตรทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมเข้าสระเกล้าดำหัว ขอพรเนื่องในประเพณีสงกรานต์ 2568 เพื่อสืบสาน อนุรักษ์ประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ

เมื่อค่ำวันที่ 23 เม.ย.68 ณ บ้านสวนริมลำพูน แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีพีเอ็น คอลเล็คชั่นส์ จำกัด เปิดบ้านสวนริมลำพูน ให้กัลยาณมิตรสระเกล้าดำหัว ขอพรสืบสานประเพณีสงกรานต์ สืบทอดกันมาแต่โบราณ สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามไทยแต่โบราณซึ่งทำมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 42 โดยมีข้าราชการฝ่ายปกครอง อาทิ นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา,นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน,พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.๕ ,นายพิชัย เลิศพงค์อดิศร นายก อบจ. เชียงใหม่,นายธานินทร์ สุภาแสน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง,นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่,นายสิทธิชัย จินดาหลวงอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

นอกจากนี้ยังมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่,รองผู้ว่าฯลำพูนและเชียงราย ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ตลอดจนนายอำเภอในพื้นที่เชียงใหม่และลำพูน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจและพี่น้องประชาชนลำพูน เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย พะเยา เข้าร่วมงานอย่างเนืองแน่น ด้วยรักและผูกพัน

“แม่เลี้ยงวรรณี ลิทองกุล” กรรมการผู้จัดการบริษัท วีพีเอ็น คอลเล็คชั่นส์ จำกัด มีประสบการณ์ในงานด้านมวลชน และสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการบริหารจัดการขยะมูลฝอย แบบครบวงจร มานานกว่า 20 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจในด้านการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน โดยการนำมาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า นอกจากการทำธุรกิจแล้ว แม่เลี้ยงวรรณียังได้ช่วยเหลือสังคมและสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ส่วนรวมและประเทศชาติอีกหลายโครงการด้วย.

เชียงใหม่ ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันต่อเนื่อง(คลิป)

ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันต่อเนื่อง หลังพบจังหวัดแม่ฮ่องสอนเริ่มมีจุดความร้อนเพิ่มขึ้น

วันนี้( 22 เม.ย.68 )เวลา 09.00 น. ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์ควบคุมอากาศยานและดับไฟป่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าได้ติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่า สถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีจุดความร้อนสูงขึ้นจนเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเช้าวันนี้ในพื้นที่ 17 จุดความร้อน ตรวจพบจุดความร้อน จำนวน 101 จุด สูงสุดที่ จังหสัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 61 จุด รองลงมาจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 19 จุด และ จังหวัดตาก จำนวน 5 จุด ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ จำนวน 45 จุด รองลงมาคือ ป่าอนุรักษ์ จำนวน 44 จุด และ พื้นที่เกษตร 8 จุด

นอกจากนี้ยังเกิดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก – เกินเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 3 จังหวัด สูงสุดที่ ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 64.30 มคก./ลบ.ม. รองลงมา เป็น ต.ธานี อ.เมือง จังหวัดสุโขทัย 43.30 มคก./ลบ.ม. และ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 41.70 มคก./ลบ.ม.

อย่างไรก็ดียังพบว่าตลอดทั้งสัปดาห์ ภาคเหนือเกิดจุดความร้อนสะสม 504 จุด เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่าน ยังคงลดลง 2,486 จุด คิดเป็นร้อยละ 83.14 โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอน 141 จุด , จังหวัดพิจิตร 81 จุด และ จังหวัดนครสวรรค์ 76 จุดคุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5 และ AQI อยู่ในระดับ สีเขียว ถึง ฟ้า ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน

ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ยังคงจัดกำลังออกลาดตระเวนป้องกันไฟป่าในพื้นที่เฝ้าระวัง เนื่องจากสภาพอากาศร้อนอาจเกิดไฟป่าในพื้นที่ได้ ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนลดการเผาตลอดเดือนเมษายนเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าที่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

เชียงใหม่ พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1/2568 (คลิป)

พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1/2568 พร้อม ส่งนายการณ์วิชญ์ หริอ“อาจารย์ด้วง” วงษ์ทอง เบอร์ 4 สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนามของพรรคก้าวอิสระ

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 20 เม.ย.2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมดิเอ็มเพชร ถนนช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พรรคก้าวอิสระ จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 1/2568 ผศ.ดร.บุญส่ง ชเลธร รองหัวหน้าพรรคก้าวอิสระ เป็นประธานเปิดการประชุมเลือกตั้งกรรมการบริหาร และกรรมการสาขาพรรคก้าวอิสระ จังหวัดเชียงใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง มีสมาชิกพรรคมาลงทะเบียนร่วมประชุมจำนวนมาก

โดยที่ประชุมเสนอแต่งตั้ง มาดามหยก นางสาวกชพร เวโรจน์ ให้ดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวอิสระต่อไป ส่วนทางด้านพรรคก้าวอิสระ ส่งตัวแทนพรรค คือ เบอร์ 4 นายการณ์วิชญ์ “อาจารย์ด้วง” วงษ์ทอง สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ในนามของพรรคก้าวอิสระ

สำหรับผู้สมัครชิงนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ มี 5 คน คือ เบอร์ 1 นางสาวปนันรัตน์ หรือ “หยก” วิริยะกุลศานต์ พรรคเพื่อเชียงใหม่ ส่วนเบอร์ 2 นายธีรวุฒิ “เหมา” แก้วฟอง พรรคประชาชน และเบอร์ 3 นายอัศนี “หน่อย” บูรณุปกรณ์ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 4 นายการณ์วิชญ์ “อาจารย์ด้วง” วงษ์ทอง พรรคก้าวอิสระ สุดท้าย เบอร์ 5 ว่าที่ ร.อ.จอร์นนพดล วศินสุทร ผู้สมัครอิสระ.

เชียงใหม่ บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด ผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถในตลาดภาคเหนือ ฉลองปีที่ 40 กับแคมเปญ “จ่ายดีมีโชค มอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ”ซีซั่น 2 (คลิป)

บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด ผู้นำธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถในตลาดภาคเหนือ ฉลองปีที่ 40 กับแคมเปญ “จ่ายดีมีโชค มอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ”ซีซั่น 2 มอบของรางวัลมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท แจก, รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวป 110I 14 คัน , สร้อยคอทองคำ1 สลึง 20 เส้น, โทรศัพท์มือถือ , บัตรของขวัญเทสโก้โลตัส รวมมูลค่ากว่า 1,000,000 บาท


วันนี้(19 เม.ย.68) เวลา 13.00 น. คุณชวลิต สุวิทย์ศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย ดร.ปราณี สุวิทย์ศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทนิ่มซิตี้เดลี่ ,คุณไพบูลย์ จันทร์ทบ ,คุณเมธา ฬ่อสุวรรณ ,คุณกานต์ ฐิติจำเริญพร ,รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทนิ่มลีสซิ่ง จำกัด คณะกรรมการและสักขีพยานในการจับรางวัลในครั้งนี้ ที่ห้อง NimCity Convention Hall โครงการนิ่มซิตี้เดลี่

ถือเป็นการแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนนิ่มลีสซิ่งมาโดยตลอด เพื่อเป็นการสร้างวินัยในการชำระเงินให้แก่ลูกค้า ที่สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย สำหรับลูกค้า และสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ลูกค้า โดยลูกค้าสามารถร่วมสนุกได้ตลอดปี 2567 และไตรมาสแรกของปี 2568 เพียงจ่ายชำระค่างวด และสมัครสมาชิก Line OA ตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2567 – 31 มีนาคม 2568 จ่ายมากยิ่งมีสิทธิ์ลุ้นมาก โดยมีเงื่อนไขรายละเอียดดังนี้

รายละเอียดวิธีการเล่น และกติกาการเล่นกิจกรรม
1. ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมจะต้องเป็นลูกค้าที่ชำระค่างวดเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2568
2. ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมจะต้องลูกค้าที่ไม่ติดค้างค่างวด ชำระค่างวดปกติ
3. ลูกค้ามีสิทธิลุ้นรับของรางวัลประจำไตรมาส และมีสิทธิลุ้นรางวัลใหญ่ประจำปี
4. ผู้มีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง Add Line Official @ Line OA เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม
5. ขอสงวนสิทธิมอบของรางวัลแก่ผู้ร่วมกิจกรรมที่ปฏิบัติตามกฎกติกาและเงื่อนไขการร่วมกิจกรรม ภายใต้ระยะเวลาที่กิจกรรมนั้นกำหนดไว้
6. โดยจัดให้มีการชิงโชคจำนวน 4 ครั้ง ดังนี้
• ครั้งที่ 1 : เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 หมดเขตวันที่ 30 มิถุนายน 2567
จัดให้มีการจับรางวัล วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 สถานที่โครงการนิ่มซิตี้เดลี่
• ครั้งที่ 2 : เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567 หมดเขต 30 กันยายน 2567
จัดให้มีการจับรางวัล วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 สถานที่โครงการนิ่มซิตี้เดลี่
• ครั้งที่ 3 : เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 หมดเขต 31 ธันวาคม 2567
จัดให้มีการจับรางวัล วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 สถานที่โครงการนิ่มซิตี้เดลี่
• ครั้งที่ 4 : เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 หมดเขต 31 มีนาคม 2568
จัดให้มีการจับรางวัล วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 สถานที่โครงการนิ่มซิตี้เดลี่
รางวัลใหญ่ : เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2567 หมดเขต 31 มีนาคม 2568
จัดให้มีการจับรางวัล วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568 สถานที่โครงการนิ่มซิตี้เดลี่

เกณฑ์การตัดสิน
1. ให้สิทธิลูกค้าที่ชำระค่างวด เพื่อจับรางวัลประจำไตรมาส โดยนำคูปองแต่ละไตรมาส นำมาลุ้นจับรับรางวัลใหญ่ ทั้งนี้ลูกค้าที่มีสิทธิลุ้นรับรางวัลใหญ่ประจำปีนั้นจะต้องเป็นลูกค้าปัจจุบันและไม่ติดค้างค่างวดเป็นลูกค้าปกติ
2. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลมูลค่า จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่ารางวัลตามคำสั่งกรมสรรพกร
3. ผู้ที่โชคดีได้รับของรางวัลจะประกาศผลภายใน 2-5 วัน ทำการหลังวันสิ้นสุดกิจกรรมทางช่องทางดังนี้
• Facebook : https://web.facebook.com/nimleasing
• LINE @ Nimleasing
• www.nimleasing.com
4. ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องเข้ามารับรางวัลด้วยตัวเองที่บริษัท ภายใน 30 วัน หากไม่มารับรางวัลภายในเวลาที่กำหนด ถือว่าสละสิทธิ์
5. ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องแสดงหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน(พร้อมรับรองสำเนา) จำนวน 1 ฉบับ ในการรับรางวัล
6. บริษัทขอสงวนสิทธิผู้ที่ได้รับรางวัลสูงสุด เพียง 1 รางวัลเท่านั้น ต่อรอบการจับรางวัลในแต่ละครั้ง
7. ของรางวัลไม่สามารถโอนสิทธิ์ แลก หรือเปลี่ยนรางวัลอื่นหรือเงินสดได้
8. พนักงานบริษัทฯ ไม่สามารถร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้
9. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนดและหากมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

การแจกจ่ายสิ่งของรางวัล
โชคชั้นที่ 1 ครั้งที่ 4 จับรางวัล วันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2568
รางวัลที่ 1 จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ รถจักรยานยนต์ HONDA เวป 110I จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 52,500 บาท
รางวัลที่ 2 จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ สร้อยคอทองคำหนัก1 สลึง มูลค่ารางวัลละ 12,800 บาท รางวัลละ 1 เส้นรวมมูลค่าเป็นเงิน 64,000 บาท
รางวัลที่ 3 จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ โทรศัพท์ OPPO A3 PRO 5G 6/128GB จำนวน 4 รางวัล มูลค่ารางวัล@ 7,200 บาท รางวัลละ 1 เครื่อง รวมมูลค่าเป็นเงิน 28,800 บาท
รางวัลที่ 4 จำนวน 10 รางวัล ได้แก่ บัตรของขวัญโลตัส มูลค่ารางวัลละ 1,000 บาท รางวัลละ 1 บัตร รวมมูลค่าเป็นเงิน 10,000 บาท(บัตรดังกล่าวสามารถชำระค่าสินค้าได้ทุกสาขายกเว้นสินค้าประเภทสุรา บุหรี่ และยาสูบ)
รวมของรางวัลครั้งที่ 1 มีจำนวน 20 รางวัล มูลค่าเป็นเงิน 155,300 บาท
(หนึ่งแสนห้าหมื่นห้าพันสามร้อยบาทถ้วน)

และรางวัลใหญ่จากการสะสมคูปองของลูกค้าที่สมัครสมาชิก LINE OA และชำระค่างวดตรงตามกำหนดแบบต่อเนื่องไม่ผิดนัดชำระ และยังเป็นลูกค้าปัจจุบันของทางบริษัท มีสิทธิ์กับรางวัลใหญ่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 I จำนวน 10 รางวัล รางวัลละ 1 คัน@ 52,500 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 525,000 บาท (ห้าแสนสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน)

ในโอกาสที่นิ่มลีสซิ่ง เข้าสู่ปีที่ 40 เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าและส่งเสริมวินัยในการชำระเงินให้แก่ลูกค้าจึงได้จัดแคมเปญ”จ่ายดีมีโชคมอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ “ซีซั่น 3 ซึ่งถือว่าเป็นการส่งเสริมอาชีพให้แก่ลูกค้าด้วย ของรางวัลจัดหนักจัดเต็มกว่าเดิม ของรางวัลคูณสองเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110I จำนวน 18 คัน สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 20 รางวัล เครื่องตัดหญ้า เครื่องสูบน้ำ อย่างละ 8 รางวัล และบัตรของขวัญเทสโก้โลตัส 80 รางวัล รวมมูลค่ากว่าสองล้านบาท


สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกสาขาและติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ทาง
• Facebook : https://web.facebook.com/nimleasing
• LINE @ Nimleasing
• www.nimleasing.com
• หมายเลข Call center 0973458888

นิ่มลีสซิ่ง จับจริง แจกจริง มอบโชคจริงกับแคมเปญ “จ่ายดีมีโชคมอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ”

เชียงใหม่ ล้มแล้วช้างจ่าฝูง”พลายคำหมื่น งาอ้อมจักรวาล”วัย 90 ปีของปางช้างแม่สา ล้มลงอย่างสงบในท่าที่องอาจยิ่ง(คลิป)

ล้มแล้วช้างจ่าฝูง”พลายคำหมื่น งาอ้อมจักรวาล”วัย 90 ปีของปางช้างแม่สา ล้มลงอย่างสงบในท่าที่องอาจยิ่ง

ล้มแล้วช้างพลายจ่าฝูง”พลายคำหมื่น งาอ้อมจักรวาล”วัย 90 ปีของปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ในเช้าวันที่ 19 เมษายน 2568พลายคำหมื่นล้มหรือเสียชีวิตแล้ว อายุประมาณ 90ปี ช้างที่มีอายุมากที่สุดของปางช้างแม่สา และมีงาอ้อมจักรวาล ได้ล้มลงอย่างสงบในท่านั่งคุกเข่าที่บริเวณภายในบ้านพักช้างสูงวัยของศูนย์อนุรักษ์ปางช้างแม่สา โดยทางนางรัตนา ศรีหมอก ผู้จัดการปางช้างแม่สา ได้เข้าไปดูเบื้องต้นพร้อมทั้งแจ้งไปยังนางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สาให้รับทราบ โดยเฉพาะช้างพลายคำหมื่น ถือเป็นช้างที่อายุมากที่สุดในปางช้างแม่สา ที่อยู่คู่ปางช้างมาร่วม 50 ปีและเป็นช้างระดับจ่าฝูงด้วย

การสูญเสียช้างสำคัญของปางช้างแม่สาเชือกนี้ นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา ได้เล่าประวัติของพลายคำหมื่น งาอ้อมจักรวาล ว่าช้างเชือกนี้นายชูชาติ กัลมาพิจิตร บิดาของตนได้ซื้อมาหลังจากเปิดปางช้างแม่สาในปี พ.ศ. 2519 โดยในครั้งแรกที่ซื้อมาทางพลายคำหมื่น ยังไม่มีงาอ้อมจักรวาลแบบนี้ เป็นเพียงงาที่ยื่นตรงออกไปแบบงาช้างธรรมดา โดยมาอยู่ช่วงแรกได้เป็นช้างที่โชว์การแสดงแบบทั่วไป โดยเป็นช้างงัดไม้และท่อนซุง ลากไม้โชว์แสดงการทำไม้ในป่าเหมือนเช่นในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้ชมตามอย่างการทำอุตสาหกรรมการทำไม้ในยุคนั้น ซึ่งพลายคำหมื่นจะเป็นช้างที่โชว์การใช้งางัดท่อนซุง ซึ่งที่เห็นพลายคำหมื่น เริ่มมีงาลักษณะอ้อมจักรวาลหลังจากอยู่นานวันเข้า งาข้างหนึ่งยื่นตรงไปด้านหน้า ส่วนอีกข้างอ้อมมาสอดรับกัน เรียกว่าเป็นงาอ้อมจักรวาล และจากการล้มของช้างที่มีอายุมากๆในช่วงนั้นหลายเชือก จึงเหลือเพียงพลายคำหมื่นที่กลายเป็นช้างที่ได้ครองตำแหน่งช้างที่มีอายุมากที่สุดของปางช้างแม่สา จนถึงวัย90 ปี ถือเป็นช้างที่มีอายุยืนยาวของปางช้างแม่สาที่ชาวปางช้างภูมิใจที่ได้ดูแลพลายคำหมื่นจนถึงวาระสุดท้าย

“โดยพลายคำหมื่นได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงที่ตนได้เข้ามาดูแลปางช้างแม่สา หลังจากที่นายชูชาติ กัลมาพิจิตร บิดาของตนได้เสียชีวิตแล้วในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งในช่วงที่ตนได้เข้ามาดูแลก็ลุ้นสุขภาพพลายคำหมื่น ให้มีสุขภาพดีมาโดยตลอด โดยให้มีชีวิตอยู่ตามธรรมชาติประสาช้างสูงวัย ให้นอนตามดอยบ้าง แต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ฝนเกิดตกหนัก ลมแรงมีพายุพัดกระหน่ำก็เลยรีบย้ายช้างเข้ามานอนในโรงเรือนช้างชรา เพราะเกรงจะไม่สบาย แต่ก็มาเสียชีวิต หรือล้มอย่างสงบโดยท่าล้มของพลายคำหมื่นค่อนข้างพิศดาร เป็นการนั่งลงค่อยๆหมดลมหายใจ มีงาพาดอยู่บนไม้ด้านข้าง ไม่เหมือนช้างล้มทั่วไป โดยปกติช้างล้มจะต้องนอนตะแคงไปข้างใดข้างหนึ่งเพราะช้างจะมีน้ำหนักหลายตัน อย่างพลายคำหมื่นน้ำหนักก็ประมาณ 2 ตันรวมทั้งงาที่หนักใหญ่และเป็นงาอ้อมจักรวาล ถือเป็นช้างที่มีรูปร่างลักษณะดีทุกอย่าง และนิสัยคือจะหวงงา งาของพลายคำหมื่นจะห้ามจับหรือเข้าใกล้ยังไม่ได้ พลายคำหมื่นจะรักและหวงแหนงาของตนมาก ถือว่าเป็นช้างที่รู้ตัวเองว่ามีของดีและเป็นช้างพลายที่เป็นจ่าฝูง พลายคำหมื่นจะไว้ตัวมาก ซึ่งพลายคำหมื่นไม่ปรากฎว่ามีลูก มีการผสมพันธุ์กับช้างเพศเมียที่ปางช้างแม่สาเลย

นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ได้กล่าวต่อไปว่า เมื่อตนทราบข่าวการล้มของพลายคำหมื่น ก็มีความเสียใจมาก แต่ก็มีความภูมิใจที่พลายคำหมื่นล้มอยู่ในท่าที่งดงาม เหมือนท่าหมอบกราบ เหมือนว่าก่อนล้มจะมีสติ เป็นการนั่งลงและหมดลมไปในช่วงพลายคำหมื่นล้มเป็นช่วงเช้ามืด ไม่มีควาญอยู่ด้วย จึงเป็นการจากไปอย่างสงบตามที่เห็นตามภาพ

สำหรับขั้นตอนในการทำพิธีตรวจซากของพลายคำหมื่นจะแจ้งให้ทางสัตวแพทย์ เข้ามาตรวจเช็คครั้งหนึ่งและแจ้งไปยังปศุสัตว์อำเภอแม่ริมเพื่อที่จะเข้ามาชันสูตรว่าเสียชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติหรือผิดธรรมชาติ แต่ก็ได้มีการพูดคุยว่าจะไม่มีการผ่าซากชันสูตรเนื่องจากด้วยอายุขัยพลายคำหมื่นถึง90 ปีแล้วและจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางเราก็ไม่ได้ติดใจว่ามีการทำร้ายช้างหรือว่าช้างจากไปอย่างไม่สงบ เพราะจากไปอย่างสงบไม่มีรอยมีแผลใดๆทั้งนั้น

ส่วนในเรื่องของพิธีทางสงฆ์ก็จะมีการทำพิธีสวดบังสกุลโดยนิมนต์พระสงฆ์ 4 รูปสี่ทิศมาทำพิธีสวดอภิธรรมให้เพราะพลายคำหมื่นอายุ90 ปีน่าจะเกิดเป็นคนแล้วในภพภูมิต่อไปและให้ควาญช้างที่อาวุโสของปางทำพิธีไล่ปัดรังควานสิ่งที่ไม่ดีออกไป ซึ่งจะเป็นการจัดทำพิธีให้อย่างดีที่สุดในวันนี้ ซึ่งในการทำพิธีทุกขั้นตอนทางปางช้างแม่สาจะทำการไลฟ์สดให้แฟนคลับของช้างปางช้างแม่สาได้ชมกันเป็นการร่วมอาลัยในการสูญเสียช้างสำคัญพลายคำหมื่น งาอ้อมจักรวาล”วัย 90 ปี ได้เห็นพิธีกรรมพิธีการที่ทำให้กับช้างเมื่อล้มไปแล้วเพื่อส่งวิญญาณไปยังภพภูมิที่ดี เป็นการร่วมแสดงความเสียใจและอาลัยในการจากไปของคุณปู่พลายคำหมื่น งาอ้อมจักรวาล”วัย 90 ปี เป็นการสิ้นลมและจากไปอย่างสงบด้วยท่าทางที่องอาจยิ่ง

“ขอให้ดวงวิญญาณของคุณปู่พลายคำหมื่นได้คุ้มครองช้างและคนของปางช้างแม่สาทั้งหมด สำหรับช้างที่อาวุโสรองลงมาก็มีพลายบุญเป็งและพลายขื่อ โดยเฉพาะพลายขื่อมีงาอ้อมจักรวาล เหมือนกับพลายคำหมื่นที่ล่วงลับไปแล้วและจะเป็นช้างจ่าฝูงของปางช้างแม่สาต่อไป ซึ่งปางช้างแม่สาเองก็จะครบ 50 ปีใน 2 ปีข้างหน้านี้แล้วก็อยากให้ปางช้างแม่สาอยู่คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินไทยตลอดไป

เชียงใหม่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยังคงจัดกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่

ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยังคงจัดกำลังลาดตระเวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่

วันนี้ (18 เม.ย.68) เวลา 09.00 น.ที่ ศอ.ปกป.ภาค 3 สน. อ.แม่ริม พลตรีชายแดน กฤษณสุวรรณ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้า ( ศอ.ปกป.ภาค 3 สน.)นำกำลังชุดปฏิบัติการลาดตระวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก จากกองพันพัฒนา ที่ 3 จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการร่วมกับเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ , สถานีควบคุมไฟป่าดอยอินทนนท์ , ส่วนราชการ ,ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอจอมทอง ลงพื้นที่รณรงค์และลาดตระเวนแนวป้องกันไฟป่าเพื่อแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ บ้านแม่ปอน หมู่ 15 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่เพื่อปฏิบัติงานด้านการลาดตระเวน เฝ้าระวังและรณรงค์ประชาสัมพันธ์งดการเผา เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ ถึงแม้นว่าสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จะคลี่คลายจนปริมาณฝุ่นละอองไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน

ทั้งนี้ที่ผ่านมาศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาค 3 ส่วนหน้าได้กำหนดให้มีการจัดชุดปฏิบัติการลาดตระวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กจากหน่วยทหารของกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 13 หน่วย 208 ชุด ปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.- 31 พ.ค.2568 ตามพื้นที่ควบคุมไฟป่า 14 กลุ่มป่าซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 44,708,436 ไร่ เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตามการจัดชุดปฏิบัติการลาดตระวนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กยังสามารถสามารถปรับกำลังการปฏิบัติงานตามสถานการณ์ไฟป่าในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายควบคุมพิเศษ พื้นที่รอยต่อลุ่มน้ำ รอยต่อระหว่างจังหวัด

ขณะที่ช่วงบ่ายของเมื่อวาน เฮลิคอปเตอร์ MI-17 (กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3) บินลาดตระเวนและดับไฟป่าบริเวณ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยปฏิบัติการดับไฟ จำนวน 6 เที่ยวบิน, ปริมาณน้ำ จำนวน 21,000 ลิตร

เชียงใหม่ นายอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ร่วมกับอดีตนางสาวถิ่นไทยงาม ที่ปรึกษาอาวุโส ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เดอะมอลล์กรุ๊ป รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ 4 หมู่บ้าน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เกือบ 200 คนในงานประเพณีปี๋ใหม่เมือง(คลิป)

นายอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน ร่วมกับอดีตนางสาวถิ่นไทยงาม ที่ปรึกษาอาวุโส ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เดอะมอลล์กรุ๊ป รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ 4 หมู่บ้าน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เกือบ 200 คนในงานประเพณีปี๋ใหม่เมือง อายุมากที่สุดแม่อุ้ย สม ชื่นเดช อายุ 105 ปี เคล็ดลับกินข้าวกับน้ำพริกผักลวก และยังแข่งขันการทำอาหารพื้นเมือง แกงแคไก่กับแกงโฮะ สืบสานวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น


คุณแม่ นงนุช นามวงค์ อายุ 79 ปี อดีตนางสาวถิ่นไทยงามจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปรึกษาอาวุโสงานประชาสัมพันธ์ เดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดบ้านสวน ในหมู่บ้านหนองสี่แจ่ง ตำบลหนองแฝก อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ รดน้ำดำหัว ผู้สูงอายุ 4 หมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านหนองแฝก หมู่บ้านกู่แดง หมู่บ้านสันป่าสัก และหมู่บ้านหนองสี่แจง เกือบ 200 คน โดยมีนาย วรุตม์ วิศิษฎ์ศิลป์ นาย อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ มาเป็นประธาน อายุมากที่สุด แม่อุ้ย สม ชื่นเดช อายุ 105 ปี ชาวบ้านหนองแฝก พร้อมบอกเคล็ดลับอายุยืน กินแต่น้ำพริกผักลวก และน้องสาว แม่อุ้ย อิ่นแก้ว ประดับ อายุ 95 ปี ชาวบ้านหนองแฝก ยังมีสุขภาพแข็งแรง และสายตาดี ซึ่งผู้สูงอายุ ที่มาในวันนี้ อายุรวมกันกว่าหมื่นปี ส่วนใหญ่อายุ 70 ปีขึ้นไป และยังได้นิมนต์ ท่านเจ้าคุณ พระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาส วัดพระธาตุหริภุญชัย ตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดลำพูน มาแสดงพระธรรมเทศนา เป็นหลัก ในการดำเนินชีวิต ในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือประเวณีปี๋ใหม่เมือง ประจำ ปี 2568 พร้อมทั้งยังจัดเลี้ยงอาหาร และมอบเงินขวัญถุง ให้กับผู้สูงอายุ ที่มาร่วมงานทุกคน

โอกาสเดียวกัน ยังได้จัดให้มีกิจกรรม การแข่งขัน ปรุงอาหารพื้นเมือง มีทั้งแกงโฮ๊ะ กับแกงแคไก่ สืบสานวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น และสร้าง ความสามัคคี ในชุมชน ผลการแข่งขัน หมู่บ้านหนองสี่แจ่ง ปรุงแกงเคไก่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รับเงิน 3,000 บาท ส่วนหมู่บ้านสันป่าสัก ได้รางวัลรองชนะเลิศรับเงินรางวัล 2,000 บาท ส่วนแกงโฮะ หมู่บ้านกู่แดง ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท และหมู่บ้านหนองแฝก ได้รองชนะเลิศ รับเงินรางวัล 2,000 บาท

นอกจากนั้น ยังมีการแข่งขันร้องเพลง พร้อมหางเครื่อง สร้างสีสันสร้างความสุข ให้กับผู้สูงวัย ที่ได้มาพบปะกัน