เชียงใหม่ วัดห้วยบง อำเภอกัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ จัดต้อนรับคณะกรรมการโครงการ “วัดประชารัฐ 5 ส.”

วัดห้วยบง อำเภอกัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ จัดต้อนรับคณะกรรมการโครงการ “วัดประชารัฐ 5 ส.”

(29 ก.ค. 68) ที่ผ่านมา ณ วัดห้วยบง ตำบลแม่เจะคี อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ คณะสงฆ์และหน่วยงานราชการในพื้นที่ร่วมกันถวายการต้อนรับคณะกรรมการโครงการ “วัดประชารัฐ 5 ส.” อย่างอบอุ่น

ในการนี้ พระประชานาถมุนี เจ้าคณะอำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วมให้การต้อนรับ ขณะที่พระครูพิศิษฏ์พัฒนสาร เจ้าอาวาสวัดห้วยบง ได้กล่าวรายงานถึงการดำเนินกิจกรรมและความก้าวหน้าของวัดในการพัฒนาตามแนวทาง 5 ส. เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาด เป็นระเบียบ และเอื้อต่อการเรียนรู้ด้านพระพุทธศาสนา

โครงการ “วัดประชารัฐ 5 ส.” มีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับวัดให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของชุมชน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาวัดและสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการปฏิบัติธรรมและการทำกิจกรรมทางศาสนาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ คณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอนุโมทนาและแสดงความยินดีกับวัดห้วยบงที่ได้ดำเนินการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นแบบอย่างของวัดเพื่อสังคมตามแนวทางประชารัฐอย่างแท้จริง

เชียงใหม่ “นิ่มลีสซิ่ง” ทุ่ม 2 ล้านบาท! ขอบคุณลูกค้า จ่ายดีมีโชค ซีซั่น 3 มอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ (คลิป)

ครบรอบ 4 ทศวรรษ! นิ่มลีสซิ่งมอบโชคอย่างต่อเนื่อง ชูวินัยการเงินคู่สิ่งแวดล้อมและสังคม กับแคมเปญ “จ่ายดีมีโชคมอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ ซีซั่น 3” ทุ่ม 2 ล้านบาท! ขอบคุณลูกค้า พร้อมหนุน “เกษตรกรยิ้มได้” และขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน


วันเสาร์ที่ 26 กรกฏาคม 2568 บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด ได้ทำการจับรางวัล แคมเปญ “จ่ายดีมีโชค มอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ”ซีซั่น 3 ครั้งที่ 1 ให้แก่ลูกค้าที่เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยมีคุณชวลิต สุวิทย์ศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นประธานในการจับรางวัล ที่โครงการนิ่มซิตี้เดลี่ ห้อง Convention Hall

นิ่มลีสซิ่ง จำกัด บริษัทชั้นนำด้านการเงิน เดินหน้ามอบความสุขและขอบคุณลูกค้าผู้มีอุปการะคุณอย่างต่อเนื่องกับแคมเปญ “จ่ายดีมีโชค มอบโชคใหญ่แทนคำขอบคุณ ซีซั่น 3” ทุ่มงบประมาณกว่า 2 ล้านบาท เพื่อแจกโชคใหญ่แก่ผู้โชคดี แคมเปญนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณจากใจจริงแก่ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนนิ่มลีสซิ่งมาตลอด 40 ปี พร้อมทั้งส่งเสริมวินัยในการชำระเงินให้แก่ลูกค้าให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญ นิ่มลีสซิ่งยังมุ่งมั่นที่จะ ส่งเสริมอาชีพให้แก่ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้ “เกษตรกรยิ้มได้” และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงการเติบโตของผลกำไรควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตโดยไม่มุ่งหวังแค่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว

รางวัลที่ 1​จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ รถจักรยานยนต์ HONDA WAVE 110 มูลค่ารางวัลละ 52,500 บาท รางวัลละ 1 คัน รวมมูลค่าเป็นเงิน 157,500 บาท
รางวัลที่ 2 ​จำนวน 5 รางวัล ได้แก่ สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง มูลค่ารางวัลละ 13,600 บาท รางวัลละ 1 เส้น รวมมูลค่าเป็นเงิน 68,000 บาท
รางวัลที่ 3​จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ เครื่องสูบน้ำ HONDA มูลค่ารางวัลละ 9,500 บาท รางวัลละ 1 เครื่อง รวมมูลค่าเป็นเงิน 19,000 บาท
รางวัลที่ 4 ​จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ เครื่องตัดหญ้า HONDA มูลค่ารางวัลละ 9,300 บาท รางวัลละ 1 เครื่อง รวมมูลค่าเป็นเงิน 18,600 บาท
รางวัลที่ 5 ​จำนวน 20 รางวัล ได้แก่ บัตรของขวัญโลตัส มูลค่ารางวัลละ 1,000 บาท มูลค่ารางวัลละ 1 บัตร รวมมูลค่าเป็นเงิน 20,000 บาท (บัตรดังกล่าวสามารถชำระค่าสินค้าได้ทุกสาขายกเว้นสินค้าประเภทสุรา บุหรี่ และยาสูบ)
รวมของรางวัลครั้งที่ 1 มีจำนวน 32 รางวัล มูลค่าเป็นเงิน 283,100 บาท
(สองแสนแปดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาทถ้วน)

เกณฑ์การตัดสิน
1. ให้สิทธิลูกค้าที่ชำระค่างวด เพื่อจับรางวัลประจำไตรมาส โดยนำคูปองแต่ละไตรมาส นำมาลุ้นจับรับ​รางวัลใหญ่ ทั้งนี้ลูกค้าที่มีสิทธิลุ้นรับรางวัลใหญ่ประจำปีนั้นจะต้องเป็นลูกค้าปัจจุบันและไม่ติดค้างค่า​งวดเป็นลูกค้าปกติ
2. ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลมูลค่า จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% ของมูลค่ารางวัลตามคำสั่งกรมสรรพกร
3. ผู้ที่โชคดีได้รับของรางวัลจะประกาศผลภายใน 2-5 วัน ทำการหลังวันสิ้นสุดกิจกรรมทางช่องทางดังนี้
• Facebook : https://web.facebook.com/nimleasing
• LINE@Nimleasing
• www.nimleasing.com
4. ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องเข้ามารับรางวัลด้วยตัวเองที่บริษัท ภายใน 30 วัน หากไม่มารับรางวัลภายในเวลาที่​กำหนด ถือว่าสละสิทธิ์
5. ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องแสดงหลักฐานสำเนาบัตรประชาชน(พร้อมรับรองสำเนา) จำนวน 1 ฉบับ ในการรับ​รางวัล
6. บริษัทขอสงวนสิทธิผู้ที่ได้รับรางวัลสูงสุด เพียง 1 รางวัลเท่านั้น ต่อรอบการจับรางวัลในแต่ละครั้ง
7. ของรางวัลไม่สามารถโอนสิทธิ์ แลก หรือเปลี่ยนรางวัลอื่นหรือเงินสดได้
8. พนักงานบริษัทฯ ไม่สามารถร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้
9. เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนดและหากมีการเปลี่ยนแปลงทางบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ​ล่วงหน้า


ลูกค้าสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2568 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2569
สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทุกสาขาและติดตามข่าวสารกิจกรรมพร้อมทั้งรายชื่อผู้โชคดีได้ทาง
• Facebook : https://web.facebook.com/nimleasing
• LINE @ Nimleasing
• www.nimleasing.com
• หมายเลข Call center 0973458888

เชียงใหม่ โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวางพานพุ่ม ถวายพระพร เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา (คลิป)

โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต เชียงใหม่ จัดกิจกรรมวางพานพุ่ม ถวายพระพร เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฏาคม 2568


บริเวณลานกิจกรรม โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต จังหวัดเชียงใหม่ นายธวัช บุญประเสริฐ ผู้จัดการโรงเรียน พร้อมด้วยนางพรรณี บุญประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณนิมิต นำนักเรียน คณะครู ผู้ปกครอง วางพานพุ่ม เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา 28 กรกฏาคม 2568

โอกาสนี้ นายธวัช บุญประเสริฐ ผู้จัดการโรงเรียนดรุรนิมิต ได้กล่าวอาเศียรวาท และนำทุกคน ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างพร้อมเพียงกัน รวมถึงเด็กนักเรียน รำถวายพระพร ในชุด สดุดีองค์ราชันต์ ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระองค์ท่าน ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์ ของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ให้มีความร่มเย็นเป็นสุขมาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน โรงเรียนยังได้ให้เด็กๆ ได้ร่วมกิจกรรมการออกกำลังกาย ขยับวันละนิด ชีวิตสุขภาพ ด้วยการรำคีตมวยไทย ด้วยท่าทางออกกำลังแขน กำลังขา กำลังเข่า เต้นไปตามจังหวะเสียงเพลง สร้างความสนุกสนานให้เด็กๆ ด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข และยังมีพี่ๆ ตำรวจกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ ยังมาให้ความรู้น้องๆ หนูๆ ในการใช้ถนนที่ปลอดภัย ในพื้นฐานเบื้องต้น เพื่อให้เด็กๆ ใช้ถนนอย่างระมัดระวัง สร้างความปลอดภัยให้กับตนเอง รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ มาให้ความรู้ในการป้องกัน เกี่ยวกับโรคติดต่อ

เชียงราย ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ บุกจับกุม 2 ชาวเมียนมา เช่าบ้านหลังเล็ก ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นฐานเว๊ปการพนันออนไลน์ หลอกคนไทยเข้าไปเล่น(คลิป)

ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ บุกจับกุม 2 ชาวเมียนมา เช่าบ้านหลังเล็ก ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นฐานเว๊ปการพนันออนไลน์ หลอกคนไทยเข้าไปเล่น แต่ละวันมีเงินหมุนเวียนวันละนับ 100,000 บาท


ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และ พล.ต.ต.เอกภพ อินทวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.2 บก.ทท.2 เร่งกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษกิจและความมั่นคงของชาติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.2 บก.ทท.2 นำโดย พ.ต.ท.อวิรุทธ์ สุขแย้ม สว.กก.2 บก.ทท.2 , ร.ต.ท.สายันต์ ชัยแก้ว รอง สว.ฯ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงราย เข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หลังได้รับแจ้งเบาะแส จากสายลับว่ามีการลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์จากสถานที่ดังกล่าว จากการตรวจค้น พบ นายเอ อายุ 32 ปี สัญชาติไทย (ผู้ต้องหาที่ 1) และ นายบี อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา (ผู้ต้องหาที่ 2) ทำหน้าที่เป็นแอดมิน ของเว็บไซต์พนันออนไลน์ คอยตอบลูกค้าชาวไทย และแก้ปัญหา รวมถึงแนะนำโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กับลูกค้า โดยมีเงินหมุนเวียน เฉลี่ยหลักแสนบาทต่อวัน โดยได้รับค่าจ้างเดือนละประมาณ 17,000 บาท ได้ทำการตรวจยึด คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ , โทรศัพท์มือถือ , เลาเตอร์อินเตอร์เน็ต และสมุดบัญชีธนาคาร

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มผู้กระทำผิดมักใช้วิธีกระจายกัน เช่าบ้านพักขนาดเล็กในชุมชน เพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจจากชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ โดยจะไม่ออกไปไหน และทำงานอยู่ภายในบ้านตลอดทั้งวัน พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนที่พักทุก 2-3 เดือน เพื่อป้องกันการถูกติดตามและตรวจสอบ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางของ นายบี แอดมินชาวเมียนมา พบว่ามีการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (overstay) เป็นเวลากว่า 202 วัน

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาทั้งสอง “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนัน ช่วยประกาศ โฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่น หรือด้วยวิธีประการใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าถึงการเล่นพนันผ่านทาง สื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาต“ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายบี “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay)” เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดย เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่น ๆ ที่คาดว่าอาจมีฐานปฏิบัติการแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ เพื่อดำเนินการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่ รมว.กระทรวงพาณิชย์ เปิดงาน Lanna Expo 2025 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่(คลิป)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดงาน Lanna Expo 2025 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ขยายตลาดสู่สากล มุ่งเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

วันนี้ (23 ก.ค. 68) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน Lanna Expo 2025 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ตลอดจนหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยให้ขยายตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเชื่อมโยงการค้าระหว่างประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่มีศักยภาพสูง โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่มาเที่ยวชมงานเข้าร่วมพิธีเปิด

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งการสร้างโอกาสและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม (SMEs) ในท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดคุ้ม พร้อมเลือกซื้อสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการไทยหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าแปลกใหม่ นวัตกรรมท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

ภายในงาน มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการที่มีศักยภาพจากทั่วประเทศกว่า 150 คูหา นำเสนอสินค้าคุณภาพครอบคลุมทุกหมวด ไม่ว่าจะเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ของใช้ ของตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย เสื้อผ้า รวมถึงเครื่องประดับ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อได้สัมผัสสินค้าจริงพร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะภายในงาน

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ ไทยกับผู้ประกอบการประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศอื่น ๆ ทั้งภายในงานและออนไลน์ (Online) เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยกับพันธมิตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมให้ธุรกิจขยายสู่ตลาดใหม่ พร้อมกิจกรรมเสริมความรู้และทักษะในยุคดิจิทัลกับการสัมมนา “ต่อยอด ผู้ประกอบการไทยสู่เวที การค้าระหว่างประเทศ” ในระหว่างวันที่ 25 – 26 กรกฎาคม 2568 ณ ห้อง ลีลาวดี 2 เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการรับมือกับเทรนด์การค้าในโลกยุคใหม่ที่ต้องเร็วและแม่นยำ ในหัวข้อ “จากมือใหม่สู่ผู้ส่งออกเริ่มยังไงให้มั่นใจ” “การพัฒนาผู้ประกอบการส่งออกระหว่างประเทศใช้ AI ในการวิเคราะห์ตลาด และพัฒนาธุรกิจ” “สินค้าท้องถิ่นไทยในระบบเศรษฐกิจใหม่” และ “การสนับสนุน SME ไทยสู่ตลาดชายแดน” โดยคาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานตลอดการจัดงานมากถึง 130,000 คน สร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 120 ล้านบาท

เชียงใหม่ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ จัดโปรแกรมการท่องเที่ยวเส้นทางที่ 2 เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอน ส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนา (คลิป)

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ จัดโปรแกรมการท่องเที่ยวเส้นทางที่ 2 เชียงใหม่ – แม่ฮ่องสอนตามโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนา นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ร่วมโปรแกรมการท่องเที่ยวเพื่อให้ทุกท่านได้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง และสามารถนำประสบการณ์ในครั้งนี้ออกแบบการท่องเที่ยวเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมากยิ่งขึ้น

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ นายอิทธิรัฐ สินารักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวนชน ร่วมกิจกรรมการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนวิถีชาติพันธุ์ “ ชาติพันธุ์สีสันแห่งล้านนา ” โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชาติพันธุ์ สีสันแห่งล้านนาอย่างยั่งยืน (Ethnic Lanna Tourism) ประจำปี 2568

จุดแรก เดินทางไปเยี่ยมชมชุมชนบ้านไตลื้อลวงเหนือ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ศูนย์การเรียนรู้บ้านภูมิปัญญาไตลื้อลวงเหนือ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ บ้านเรือนจำลอง และวิถีชีวิตเอกลักษณ์ของชาวไตลื้อ พร้อมแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ ในด้านการบริหารชุมชน โดยชุมชนไทลื้อนั้น เจ้าของฐานการเรียนรู้ศูนย์การเรียนรู้ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาไทยไตลื้อบ้านใบบุญ คือ นางพรรษา บัวมะลิ เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่สื่อให้ถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไตลื้อสมัยก่อน

จากนั้นเดินทางจังหวัดเชียงใหม่สู่เส้นทาง อำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกท่านจะได้ชมธรรมชาติผ่านพาโนรามา มุมสูงของภูเขาเขียวขจีในฤดูฝนและบ้านกลางหุบเขา ที่มีแปลงนาขั้นบันไดของจุดชมวิวบ้านลุกข้าวหลามในพื้นที่ชุมชนชาติพันธุ์ไทใหญ่ – ไทลื้อ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมที่เคยทำข้าวหลามจากเตาไม้ไผ่เพื่อต้อนรับแขกที่จะมาเยือนหรือตามเทศกาลต่างๆ ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายภาพชุดพื้นเมือง เดินป่าระยะสั้นๆเพื่อชมธรรมชาติรอบุดชมวิวได้อีกด้วย

อีกสถานที่แห่งหนึ่งที่ได้รับความของจังหวัดแม่ฮ่องสอนคือสะพานซูตองเป้ ที่แปลว่าอธิษฐานสำเร็จ สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นมาจากความร่วมมือจากชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์จากวัดพระธาตุจองทอง เพื่อเป็นทางเดินของพระภิกษุสงฆ์ในการบิณฑบาตและเพื่อให้ชาวบ้านสามารถเดินทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้านและวัดได้ง่ายขึ้น สะพานไม้ไผ่เป็นสะพานที่ยาวและสวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งก็ว่าได้ เนื่องจากทอดยาวกลางทุ่งนาและล้อมรอบด้วยภูเขาภาพที่ถ่ายจึงเป็นภาพที่สวยท่ามกลางความเขียวของนาข้าวที่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านบริเวณนั้น

ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่หลายคนอยากเดินทางมาชมความสวยงามของวิถีชีวิตชาวจีนยูนานที่อพยพภัยสงครามจากจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มาตั้งรกรากถาวรอยู่บริเวณชายแดนไทย–พม่า ซึ่งได้รับอนุญาตให้อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลไทย นั่นคือบ้านรักไทย หรือชื่อเดิมว่าหมู่บ้านแม่ออ ที่เป็นหมู่บ้านริมทะเลสาบกลางหุบเขาอากาศเย็นสบายตลอดปีและยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์ วิถีชีวิตของชาวจีนยูนานทั้งการสร้างบ้านดิน อาหารจีน การชงชาอู่หลง และการล่องเรือไม้ชมความงามรอบทะเลสาบ

นอกจากนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนยังมีหมู่บ้านแพมบกของชาวเผ่าลาหู่ที่อยู่อย่างสงบท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยเขาสูงเป็นเส้นทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางสายแบ็คแพ็คนิยมแวะพักก่อนเข้าเมืองปาย ปัจจุบันชาวบ้านได้เปิดเป็นโฮมสเตย์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในการเรียนรู้วิถีชีวิตแบบบ้านๆเหมาะสำหรับการพักแบบ Slow Life
ภายในหมู่บ้านแพมบกจะมีสะพานไม้ไผ่โขกู้โส่ เป็นคำในภาษาไทใหญ่ที่แปลว่าสะพานแห่งศรัทธา ซึ่งสะพานแห่งนี้เป็นสะพานไม้ไผ่ยาวกว่า 500 เมตร ทอดยาวผ่านทุ่งนาและภูเขาถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ในการเดินทางไปวัดภูสมะซึ่งเป็นวัดป่าที่เงียบสงบใช้เดินทางระหว่างศาสนากับชุมชนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ศรัทธาและความกลมกลืนกับธรรมชาติ

บรรยากาศบ้านรักไทย

 

 

เชียงใหม่ ปปส.ภาค 5 จัดประชุม ขับเคลื่อนงานพัฒนา และฟื้นฟูหมู่บ้านเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน(คลิป)

ปปส.ภาค 5 จัดประชุม ขับเคลื่อนงานพัฒนา และฟื้นฟูหมู่บ้านเงินกองทุนแม่ของแผ่นดิน 8 จังหวัด ภาคเหนือตอนบน


วันนี้ 21 ก.ค.68 ที่ โรงแรมคุ้มภูคำเชียงใหม่ ปปส. ภ.5 จัดประชุมขับเคลื่อนงานพัฒนา และฟื้นฟูหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินฯโดยมี นางสาวสุกัญญา ใหญ่วงศ์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปปส ภาค 5 เป็นประธาน เปิดโครงการฯ พร้อมด้วยนายสว่าง ธาตุอินทร์จันทร์ ประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดเชียงใหม่ และประธานเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน 8 จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารกองทุนแม่ฯ และเจ้าหน้าที่พช.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภ.5 เข้าร่วม


การประชุมเชิงปฏิบัติการ ขับเคลื่อนงานพัฒนาและฟื้นฟูหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดินเร่งด่วน และเตรียมหมู่บ้าน ต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน เข้าร่วมมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2568 โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 22 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมคุ้มภูคำเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โครงการดังกล่าว จัดขึ้นโดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 ร่วมกับคณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีวัตถุประสงค์ เพื่อเตรียมความพร้อมเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัด ในการเข้าร่วมมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับประเทศ ประจำปี 2568

การประชุมจะแบ่งออกเป็น 2 วันหลัก โดยในวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 มีการกล่าวเปิดโครงการและนำเสนอภาพรวมของกองทุนแม่ของแผ่นดิน รวมถึงแนวทางการดำเนินงานพัฒนาและฟื้นฟูหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินที่ประสบปัญหาเสพติดเร่งด่วน และวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 จะมีการบรรยายเกี่ยวกับการเข้าร่วมมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน การจัดสรรเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดิน และการแบ่งกลุ่มจัดทำแผนการจัดซื้อเงินพระราชทานขวัญถุง โดยมีผู้แทนจากกรมการปกครอง และกองทุนแม่ของแผ่นดินจังหวัดร่วมให้ความรู้และแนวปฏิบัติ

นอกจากนี้ยังจะมีการบรรยายเรื่องบทบาท ภารกิจ ของเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน และเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินในการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ ซึ่งโครงการนี้มุ่งหวังให้เกิดการขับเคลื่อนงานของกองทุนแม่ของแผ่นดินในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้หมู่บ้าน/ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืนต่อไป.

เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวชื่นชมความสวยงาม มหาวิหาร วัดศรีดอนมูล อ.สารภี เชียงใหม่ (คลิป)

นักท่องเที่ยวชื่นชมความสวยงาม มหาวิหาร วัดศรีดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่ มีขนาดใหญ่ที่สุด ในล้านนา กว้าง 39 เมตร ยาว 108 เมตร ภายในพะวิหาร ตกแต่งวิจิตรงดงาม ดั่งสรวงสวรรค์ ประชาชนและนักท่องเที่ยวไปกราบไหว้ องค์หลวงพ่อเพชร อุดมทรัพย์สมปรารถนา องค์พระประธาน สีทองอร่าม


ประชาชนและนักท่องเที่ยว พากันไปชมความสวยงาม และกราบไหว้ขอพร องค์หลวงพ่อเพชร อุดมทรัพย์สมปรารถนา พระประธาน ความสูง 12.59 เมตร หน้าตัก 9 เมตร ภายในมหาวิหาร วัดศรีดอนมูล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นมหาวิหาร ที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดในล้านนา มีความกว้าง 39 เมตร ยาว 108 เมตร ภายในตกแต่ง วิจิตรงดงาม ดั่งสรวงสวรรค์ ด้านหลังพระวิหาร เป็นเมืองในหมอก จำลองพระพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากสวรรค์ มายังโลกมนุษย์ จำลองนครสังกัสสะ หลังโปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ ลงมายังเทวโลก ทั้งภายในและภายนอก มหาวิหาร เป็นงานจิตรกรรมปูนปั้น งานเพ้นท์ งานสลักดุนโลหะ นิเกิล เงิน อลูมิเนียม นูนสูงนูนต่ำ เล่าเรื่องราวทศชาติ มหาชาติ พุทธประวัติ พระพุทธเจ้า เสามหาวิหาร เป็นภาพลวดลาย พระพรหม พื้นมหาวิหารเป็นหินอ่อน ผนังมีพรหมสี่หน้าองค์ลอย

ด้านหลัง องค์พระประธานหลวงพ่อเพชร มีปูนปั้นพญามาร ขี่ช้างคีรีเมฆ จนนักท่องเที่ยวที่เข้าไป ชมความสวยงาม ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน สวยงามมาก ๆ หน้ามหาวิหาร มีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เป็นเทวดาที่รักษาทิศทั้ง 4 ในสวรรค์ ชั้นจตุมหาราชิกา มี ท้าว ธตรฐ ( ท้าว – ทะ – ตะ- รด )ประจำทิศตะวันออก ปกครองคนธรรพ์ ท้าว วิรุฟหก ประจำทิศใต้ ปกครองกุมภัณฑ์ ท้าววิรูปักษ์ ประจำทิศตะวันตก ปกครองนาค ท้าวเวสสุวรรณ ประจำทิศเหนือ ปกครองยักษ์ บริเวณรอบพระวิหารด้านนอก ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และไม้ประดับ เป็นสวนพุทธธรรม มีเก้าอี้ให้นั่ง เหมาะสำหรับการมานั่งพักผ่อน

 

เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวทึ่งภาพประติมากรรม บนเพดาน มหาเจดีย์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด (คลิป)

นักท่องเที่ยวทึ่งภาพประติมากรรม บนเพดาน มหาเจดีย์ เหนือรอยพระพุทธบาทคู่เมืองโยนก วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หากยืนมองแบบ 90 องศา จะเห็นเป็นภาพลวงตาคล้ายหลังเป็ด แต่หากไปยืนอยู่ทางประตูเข้าทิศใต้ จะมองเห็นภาพเดียวกัน

ประชาชนและนักท่องเที่ยว ยังคงเดินทางไปกราบไหว้ รอยพระพุทธบาทคู่ เบื้องซ้ายและเบื้องขวา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีความยาว 31 เซนติเมตร อายุกว่า 2,500 ปี บริเวณภายในพระมหาเจดีย์ ซึ่งมีมณฑปครอบไว้ เชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาทเมืองโยนก ซึ่งเจ้าอาวาสพบเมื่อ ปี 2553 จึงสร้างมณฑป และมีองค์พระมหาเจดีย์ใหญ่ ที่วิจิตรงดงาม ครอบไว้อีกชั้น บนเพดานของพระมหาเจดีย์ฯ ก็จะมีภาพพุทธประวัติ และเหล่าเทวดาบนสวรรค์ ที่ศีลปินวาดไว้อย่างวิจิตรงดงาม

และอีกจุด นักท่องเที่ยว จะเดินขึ้น บันไดบรมสุข จำนวน 227 ขั้นจากบริเวณวัดพระธาตุดอยสะเก็ด ขึ้นไปกราบไหว้สัการะ พระพุทธมหาจักรพรรดิ หรือหลวงพ่อพระเจ้าเศรษฐีเก้าล้านโกฎิ องค์ใหญ่ มีที่พุทธลักษณะที่งดงาม เพื่อขอพร และบริเวณลานหน้า พระพุทธมหาจักรพรรดิ ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ ระยะไกล หากท้องฟ้าปลอดโปร่ง เห็นไปจนถึงสันเขื่อนแม่ กวงอุดมธารา และยังมองเห็นทิวทัศน์ และทุ่งนา ได้ไกลถึงอำเภอสันทราย ทำให้เป็นอีกหนึ่ง จุดแลนด์มาร์ค ที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาถ่ายภาพ

นอกจากนั้น ยังมีสกายวอล์ค ด้านทิศตะวันออกของมหาเจดีย์ พื้นเป็นกระจกใส ความหนากระจกเกือบ 4 นิ้ว มั่นคงแข็งแรงปลอดภัย อยู่บนความสูงเกือบ 30 เมตร และมีทางเดินยื่นออกไปอีก 30 เมตร ทำให้มองเห็นทิวทัศน์ ไกลสุดสายตา ซึ่งเป็นสกายวอค์ลแห่งแรก ของจังหวัดเชียงใหม่ บางคนกลัวความสูง ก็จะเดินตามโครงเหล็ก ไม่กล้าเหยียบ บนกระจกใส ที่มองเห็นทะลุด้านล่าง เป็นอีก 1 จุดแลนด์มาร์ค ที่นักท่องเที่ยวมายืนถ่ายภาพทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อน

เชียงใหม่ จะกินต้องเข้าแถว สามชั้นหมูแดงไข่เค็ม อบโอ่ง เจ้าของคิดสูตรเอง ทำจนไม่ทัน (คลิป)

จะกินต้องเข้าแถว สามชั้นหมูแดงไข่เค็ม อบโอ่ง เจ้าของคิดสูตรเอง ทำจนไม่ทัน หมดก่อนทุกเมนู รดชาด หวานหน่อยๆ มันส์ๆเค็มๆ ความรู้สึก คล้ายกินซาลาเปา ไส้ไข่เค็ม นอกจากนั้น ยังมีเมนู ข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ไก่อบโอ่ง รวมเมนูทุกอย่าง ขายวันละประมาณ 200- 300 กิโลกรัม แรกๆ มีแค่โอ่ง 2 ใบ ปัจจุบันเพิ่มเป็น 8 โอ่ง รายได้วันละ3 – 4 หมื่นบาท


ร้านหวาน บริเวณหน้าตลาดแม่กวง ถนนสายเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ด ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ขายข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ไก่อบโอ่ง ซี่โครงอบโอ่ง และเมนูที่ขายดี เป็นสามชั้นหมูแดงไข่เค็ม ขายหมด ก่อนทุกเมนู มีลูกค้ามายืนต่อคิว ซื้อตลอด คนขายมือแทบไม่ว่าง

นาย สมศักดิ์ สุขเสริม อายุ 38 ปี เจ้าของร้านบอกว่า เดิมมีอาชีพ เปิดร้านคาร์แคร์ แต่ช่วงโควิด ไปต่อไม่ได้ พอมาอยู่บ้าน ก็ลองคิด สูตรหมูแดง หมูกรอบ อบโอ่ง และนำมาให้คนรู้จัก ทดลองชิมว่าอร่อย จึงมาเปิดร้านขาย แรกๆก็ยังขายไม่ดี ใช้โอ่งแค่ 2 ใบ ในการอบ และปรับสูตรจนลงตัว และให้ลูกค้าชิมและติดใจ จากนั้นเริ่มขายดี จากขายวัน ละไม่กี่กิโลกรัม และเริ่มเพิ่มเมนูขึ้น มาหลายอย่าง ปัจจุบัน มีทั้ง ไก่อบโอ่ง ซี่โครงอบโอ่ง ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ หางหมูกรอบ และที่เป็นที่นิยม เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นสามชั้นหมูแดงใส่ไข่เค็ม จะขายดีมาก หมดก่อนเมนูอื่นๆทุกวัน เนื่องจากทำยาก ทำวันละแค่ 30 กิโลกรัม วันนี้เพิ่มเป็น 80 กิโลกรัม ต้องใช้เวลานานในการทำและลูกค้าติดใจ รดชาดจะออก หวานหน่อยๆ ๆ มันส์ๆ เค็มๆ

การทำเมนูสามชั้นหมูแดงไข่เค็ม ขั้นตอนใช้เวลานานกว่าเมนูอื่น ต้องกรีดหมูสามชั้น และยัดไข่เค็มเข้าไปเอาเฉพาะไก่แดง นำไปหมักตามสูตร 1 คืน เช้ามานำมาอบโอ่ง ใช้เวลาอบนาน ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ใช้ความร้อน 160 องศาเซลเซียส จึงจะได้เมนูยอดนิยม และนำมาหั่นเป็นชิ้น ๆข้างในก็จะมีไข่เค็ม ด้านนอกก็จะเป็นหมูแดงสามชั้น ขายกิโลกรัม 700 บาท ซี่โครงกิโลกรัม 500 บาท หมูกรอบกิโลกรัมละ 600 บาท ไก่อบโอ่งตัวละ 160 บาท ส่วนข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ขายกล่องละ 50 บาท สะโพกไก่ ราคากล่องละ 45 – 50 บาท หางหมูกรอบ ขาย 45 – 70 บาท แล้วแต่ขนาด ทุกเมนูขายหมดทุกวัน ลูกค้าต้องยืนต่อคิว และบางคนยอมรอ เพื่อซื้อสามชั้นหมูแดงไข่เค็ม ที่อบโอ่งไม่ทัน และทางร้านใช้ข้าวหอมมะลิ ตราบัวแก้ว วันละ 1 กระสอบ 45 กิโลกรัม

โดยจะเริ่มเปิดร้าน และอบโอ่ง ตั้งแต่ตี 4 เริ่มขายได้ 7 โมงเช้า จะเป็นเมนู ไก่อบโอ่ง หมูแดงอบโอ่ง และหลัง 8 โมงเช้า ก็จะเริ่มขาย หมูกรอบอบโอ่ง ซี่โครงหมูอบโอ่ง และสามชั้นหมูแดงไข่เค็ม แต่ละวันเมนู รวมทั้งหมดใช้วัตถุดิบ 200 กิโลกรัม ลูกค้าที่มาซื้อวันนี้ วันพรุ่งนี้ก็จะมาซื้ออีก เริ่มจากแค่มีโอ่งอบ 2 ใบ ปัจจุบันเพิ่มเป็น 8 โอ่ง อบต่อเนื่อง แต่ละรอบ อบได้ประมาณ รอบละ 20 เส้นต่อ 1 โอ่ง และจะเพิ่มวัตถุดิบจาก 200 กิโลกรัม เป็น 300 กิโลกรัมและในอนาคตต้องเพิ่มโอ่งเป็น 14 ใบ ซึ่งต้องใช้พื้นที่ของร้านเพิ่มขึ้น ทุกขั้นตอนทำเองหมด แต่จะมีลูกน้อง มาช่วยเติมถ่าน หรือนำวัตถุดิบมาอบในโอ่ง และมีลูกน้องและภรรยา เป็นคนสับขาย ยอดขายวันละ 30,000 – 40,000 บาทต่อวัน ยังไม่หักค่าวัตถุดิบ ซึ่งต้องจ่ายค่าวัตถุดิบ เดือนละหลายแสนบาท ในการซื้อวัตถุดิบ ที่มีคุณภาพ จากซีพี

อย่างไรก็ตาม เจ้าของร้านปลื้มใจ เมื่อ 5 วันก่อน มีลูกค้าจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นั่งเครื่องบินมาลงเชียงใหม่ 6 คน มากินข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และสามชั้นหมูแดงไข่เค็ม และนั่งเครื่องบินกลับ และยังซื้อกลับบ้านไปด้วย