เชียงใหม่ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรม โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์สานสัมพันธ์ สัญจร องค์กรสมาชิกภาค 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่(คลิป)

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดกิจกรรม โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์สานสัมพันธ์ สัญจร องค์กรสมาชิกภาค 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกิจกรรมโครงการ น้ำพระทัยพระราชทาน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับประสบความเดือดร้อนและคนพิการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

ที่โรงแรมศิรินาถ การ์เด้นท์ จังหวัดเชียงใหม่ ร้อยตำรวจโท มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานพิธี เปิดโครงการ น้ำพระทัยพระราชทาน สานสัมพันธ์ สัญจร องค์กรสมาชิกภาค 9 และการสัมมนา โดยมีผู้ประสานงาน ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วม

มี นางจุไร ชำนาญ เป็นประธานกรรมการ ประสานงานส่วนภูมิภาค ภาค 9 และด็อกเตอร์ พิสมัย ตรีวิชา เป็นรองประธานฯ เข้าร่วมกิจกรรมด้วย เพื่อให้ผู้บริหารสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และผู้แทนองค์กรสมาชิก ได้มีโอกาส มาพบปะแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ในเรื่องการสังคมสงเคราะห์ และปรึกษาหารือ การทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพ ในการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งการจัดกิจกรรม
โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน คนพิการ และผู้แทนองค์กรต่างๆ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ทั้งนี้กิจกรรมของสภาสังคมสงเคราะห์ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พันธกิจ สงเคราะห์และช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนและคนพิการ ส่งเสริมสนับสนุนป้องกัน แก้ไขปัญหา และพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง เด็ก เยาวชน สตรี อาสาสมัคร คนพิการ ผู้ยากไร้และผู้สูงอายุ

เชียงใหม่ ชาวบ้านเจ้าของที่ในอำเภอสันป่าตองเดือดร้อน ถูกฟาร์มไก่ยึดเอาที่ดินไปนับสิบปี(คลิป)

ชาวบ้านเจ้าของที่ในอำเภอสันป่าตองเดือดร้อน ถูกฟาร์มไก่ยึดเอาที่ดินไปนับสิบปี แจ้งความแล้วสุดท้ายยังเข้าที่ดินตนเองไม่ได้ ร้องทุกข์ขอสื่อช่วยเกรงจะไมได้รับความเป็นธรรม

(12 กค.67)ผู้สื่อข่าวรายงานริมถนนหน้าฟาร์มไก่แห่งหนึ่ง ริมคลองชลประทาน ใน ต.ขุนมะขามหวาน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านนำโดย นายสมบุญ กิจเศรณี เจ้าของที่ดิน พร้อมกลุ่มชาวบ้านกว่า 20 คน ได้มาถือป้ายและรวมตัวบริเวณริมถนนหน้าฟาร์มไก่ โดยมีข้อความว่า ” ผู้สื่อมวลชนช่วยด้วย, และป้ายใหญ่ที่ติดรั้ว เขียนว่า “ฮุบ ที่สวนโค่นต้นลำไย โค่นต้นมะม่วง ถมบ่อเลี้ยงปลา“ และ ”ที่ดิน 3 ไร่ 94 ตารางวา แปลงนี้ บุกรุกของผมไป“ ส่วนข้อความที่ชาวบ้านนำยืนประท้วง ”ไม่สงสารชาวบ้านบ้างหรือ, บริษัทใหญ่โต ยังบุกรุกที่ชาวบ้านอีกหรือ, เรียกร้องความยุติธรรม, เรียกร้องสิทธิ์ความเป็นคน, ตัดลำไยมะม่วง ถมบ่อ รื้อรั้วทิ้ง ทำได้ลงคอ, ทำได้อย่างไร ที่มีโฉนด เสียภาษี ผมเกษตรกร คุณฮุบไปหาผลประโยชน์ เศร้าครับ” นอกจากนี้ก็ได้นำป้ายไวนิลไปติดไว้ที่บริเวณริมรั้วของฟาร์มไก่ดังกล่าว

ต่อมาทางพนักงานของไก่ เมื่อทราบว่ามีกลุ่มชาวบ้านมาชุมนุม ถือป้าย ก็ได้ออกมาทำการรื้อป้ายที่ติดไว้ริมรั้วของฟาร์มไก่ออก ก่อนจะกลับเข้าไปในฟาร์ม ขณะเดียวกันได้มีผู้บริหารของฟาร์มไก่รายหนึ่ง ได้ขับรถผ่านมาบริเวณที่กลุ่มชาวบ้านรวมตัวกัน พร้อมกับตะโกนบอกว่า ที่ดินกังกล่าวเป็นที่ดินครอบครองโดยปรปักษ์ นาน 11 ปีแล้ว ก่อนที่จะขับรถผ่านกลุ่มชาวบ้านไป

นายสมบุญ กิจเศรณี เจ้าของที่ดิน กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าว เป็นของตน ซึ่งปลูกลำไย มะม่วง และทำบ่อปลาไว้ ทุกปีก็จะมีรายได้จากการนำผลผลิตดังกล่าวไปจำหน่าย ซึ่งพื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ 94 ตารางวา ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบว่าที่ดินดังกล่าวได้ถูกยึดเอาไป แต่พอมาทราบเรื่อง ตนก็ได้เข้าแจ้งความกับทาง ร.ต.อ.นันทวัฒน์ ปานเปาว์ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับเจ้าของฟาร์มไก่และผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนก็ได้รับเรื่องไว้แล้ว และดำเนินคดีกับผู้บริหารจำนวน 4 ราย และนิติบุคคลคือบริษัทของฟาร์มไก่ดังกล่าว 1 ราย รวมเป็น 5 ราย ภายหลังจากดำเนินการแจ้งความปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ที่ดิน จะเข้าไปทำการรังวัด เพราะที่ของตนมีโฉนดถูกต้อง และมีการเสียภาษีที่ดินทุกปี ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าไปดำเนินการรังวัด ทำให้ตนสูญเสียรายได้ รวมทั้งต้นลำไย ต้นมะม่วง ที่ปลูกไว้ก็ถูกตัดหมด บ่อปลาที่มีอยู่ก็ถูกถม เข้าไปในที่ดินตนเองไม่ได้เพราะฟาร์มไก่ล้อมรั้วไว้หมด ตนและครอบครัวจึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นแค่ชาวบ้าน แต่ทางคู่กรณีเป็นถึงบริษัทใหญ่ จึงได้มาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้สื่อมวลชนช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางด้านนายสมบูญ เจ้าของที่ดินพร้อมกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปที่ สภ.สันป่าตอง เพื่อขอพบกับพนักงานสอบสวน หลังจากทราบว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกคู่กรณีทั้งหมดเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับจะแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากป้ายไวนิลที่ได้นำไปติดไว้ที่รั้วฟาร์มไก่ดังกล่าว ได้ถูกพนักงานฟาร์มไก่รื้อถอนและนำไปโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทางด้านร.ต.อ.นันทวัฒน์ ปานเนาว์ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าว ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของที่ดินมาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกคู่กรณีที่เป็นฟาร์มไก่ เดินทางมาพบเพื่อทำการสอบสวนแล้ว 1 ครั้ง และในวันนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เรียกมาเพื่อให้รับทราบข้อกล่าวหา ในฐานความผิด “บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์” ซึ่งช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ที่ดินจะเข้าไปรังวัดก็ไม่สามารถเข้าไปได้ด้วย และในวันนี้หลังจากที่ทางฟาร์มไก่ เป็นเจ้าของและผู้เกี่ยวข้อง 4 ราย รวมถึงนิติบุคคลที่เป็นบริษัท 1 ราย รวม 5 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ก็ได้ให้กลับไปรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานที่ทางฟาร์มไก่กล่าวอ้างมา หลังจากนั้นก็จะได้เรียกมาทำการสอบสวนอีกครั้ง
-พร้อมกันนี้ทางด้านคดีก็จะมีการตรวจสอบภาพจากดาวเทียม ตั้งแต่ปี 55 เป็นต้นมา ก็พบว่าที่ดินดังกล่าวยังเป็นสวน มีบ่อปลาอยู่ แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลง มีการก่อสร้าง ช่วงแรกไม่ทราบว่าเป็นของเอกชน กระทั่งทางผู้เสียหายมาแจ้งความถึงได้ทราบว่าเป็นที่ของเอกชน มาตั้งบริษัททำฟาร์มไก่ ส่วนอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้่นในวันนี้ที่ทางผู้เสียหายจะแจ้งความเรื่องลักทรัพย์ เนื่องจากป้ายไวนิลที่ติดไว้ถูกรื้อถอนและนำไป ในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมาย และเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และให้ทางคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาอีกครั้ง และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยคำ จัดภูมิทัศน์บริเวณลานจุดชมวิวรองรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน (คลิป)

วัดพระธาตุดอยคำ จัดภูมิทัศน์บริเวณลานจุดชมวิวของวัด รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมาไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ขอพรโดยเฉพาะหลวงพ่อทันใจ หลังหมอกควันไฟป่าหมดไปเข้าสู่ช่วงฤดูฝน

ผู้สื่อข่าวเดินทางขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัดพระธาตุดอยคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่สถานการณ์หมอกควันไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่หมดไปและเข้าสู่ฤดูฝน บรรยากาศที่วัดพระธาตุดอยคำก็ยังคงคึกคัก มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างๆ ต่างเดินทางขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นวัดพระธาตุดอยคำ ที่สร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ส่วนภายในวิหารวัดพระธาตุดอยคำก็ประดิษฐาน พระรอดหลวง อายุกว่า 1,338 ปี เป็นพระรอดหินทรายที่มีอายุเก่าแก่

พ่อหนานอานนท์ มังสาสติ มัคนายกวัดพระธาตุดอยคำ บอกว่า ประชาชนส่วนใจที่เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยคำก็เพื่อมากราบ หลวงพ่อทันใจ ของวัดพระธาตุดอยคำ ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทางมาขอพรบนบานแล้ว เมื่อประสบความสำเร็จ ก็จะนำดอกมะลิมาแก้บน

นอกจากนั้นบริเวณลานจุดชมวิวของทางวัด สามารถมองเห็นด้านหลังของหอคำหลวง ภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์และตัวเมืองเชียงใหม่ มีพระพุทธรูปปางพระทานพร และพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปอยูในพระอริยาบถนอนตะแคงขวา บริเวณลานชมวิวก็ได้ปรับปรุงเพิ่มดอกไม้ และจุดสำหรับถ่ายภาพให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยคำได้บันทึกภาพความประทับใจกลับไป ซึ่งหมอกควันก็ได้หมดไปแล้ว และเริ่มเข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา ศรัทธาญาติโยมผู้ใจบุญทั้งหลายทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาขอพร โดยเฉพาะหวงพ่อพระเจ้าทันใจที่โดงดังไปทั่วโลก ซึ่งวัดพระธาตุดอยคำก็ถือว่าเป็นวัดท่องเที่ยววัดหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ขาดสาย

เชียงใหม่ Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่(คลิป)

Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่

เมื่อบ่ายวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่ห้องประชุม B5 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียีติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการประชุม Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่

โดยนายอาคม สุวรรณกันธา ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดเชียงใหม่ และที่ปรึกษาโครงการ Kick Off ขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็น EV เพื่ออากาศสะอาดของจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ และกล่าวในที่ประชุม ว่า การจัดโครงการดังกล่าว จัดโดยกองทุนพัฒนาสุขภาวะจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมดำเนินโครงการขับเคลื่อนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยพลังงานสะอาดสู่เมืองคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ รวบรวมความต้องการของ ผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ในการปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งรวบรวมแนวทางช่วยความช่วยเหลือแนวทางแก้ไขปัญหา จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบัน การเงิน และสถาบันการศึกษา

ที่ผ่านมาคณะทำงานได้ลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์ผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะ และดำเนินการจัด กิจกรรม Focus Group ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถแดงเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 ณ ห้องประชุมฝ้ายคำ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการหารือถึงปัญหาอุปสรรค แนวทางที่ต้องการรับความช่วยเหลือ รวมทั้งความรู้ ความเข้าใจในการดัดแปลงรถ EV พร้อมวิเคราะห์ถึงความพร้อมของผู้ประกอบการ จากการผลการ จัดกิจกรรมในวันดังกล่าวพบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากยังไม่ทราบถึงข้อดี ข้อเสียของการดัดแปลงรถ EV และ ถึงแม้จะมีผู้ประกอบการมากกว่าร้อยละ 54.8 ต้องการปรับเปลี่ยนรถก็ตาม แต่ยังคงมีความกังวลใจเกี่ยวกับ มาตรฐาน ความปลอดภัย ซึ่งในวันดังกล่าวได้มีผู้ประกอบที่เป็นอู่ดัดแปลงรถได้มายืนยันถึงความปลอดภัยให้กับ ผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะแล้วก็ตาม ซึ่งหากผู้ประกอบการต้องการดัดแปลงรถเป็น EV ผู้ประกอบการ ต้องการเงินลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา สถาบันการเงินถึง 100 % โดยมีค่าเฉลี่ยถึง ร้อยละ 33.3

นอกจากนี้ในวันที่ 23 เมษายน 2567 ณ ห้อง D204 อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการจัด Focus Group หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา รวมทั้งสถาบัน การเงิน เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้ แนวทางที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการรถแดงสาธารณะ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ใน การปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รวมทั้งรวบรวมแนวทางช่วยความช่วยเหลือ แนว ทางแก้ไขปัญหาในอนาคต

ทั้งนี้หากสามารถขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวได้จะสามารถมีส่วนร่วมแก้ปัญหา PM 2.5 ในภาคคาร์บอน ขนส่งรวมทั้งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างเชื่อมโยงเป็นระบบ และ สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้อีกด้วย รวมถึงโครงการรถแดงไฟฟ้า (EV) ที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการผลักดัน รถยนต์ EV ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดไม่มีการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสีย ประกอบกับจังหวัดเชียงใหม่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5

ดังนั้น การเร่งผลักดันให้รถสาธารณะ (รถแดง) ในตัวเมืองเชียงใหม่ปรับเปลี่ยนมาขับเคลื่อนด้วยพลังงาน ไฟฟ้า จะเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้รถสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใน ระยะแรกมีเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนรถแดงมาขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า จำนวน 100 คัน ซึ่งตรงกับเป้าหมาย ในการพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ 20 ปี (พ.ศ. 2566 – 2585) ที่ต้องการให้เป็นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง เมืองแห่งโอกาส เป็นธรรม และเมืองที่เติบโตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนครแห่งชีวิตที่มี ความมั่งคั่ง และยั่งยืน

ในที่ประชุม ผศ.ดร.อนุชา พรมวังขวา ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คระวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวบรรยาย การสร้างความมั่นใจในการปรับเปลี่ยนรถแดงสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาประดิษฐ์รถสี่ล้อแดงแล้วให้เจ้าของรถสี่ล้อแดงขับได้ในระยะทางหลายร้อยกิโลเมตรได้อีกด้วย.

เชียงใหม่ นักเรียนอนุบาลโรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต ร่วมกับผู้ปกครอง และคณะครู หล่อเทียนพรรษา(คลิป)

นักเรียนอนุบาลโรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต เชียงใหม่ ร่วมกับผู้ปกครอง และคณะครู หล่อเทียนพรรษา เพื่อนำไปถวายวัดใกล้โรงเรียนในเทศกาลเข้าพรรษา สืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวพุทธ

โรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิต อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเทศกาลเข้าพรรษา โดยมีนายธวัช บุญประเสริฐ ผู้จัดการโรงเรียนจุดธูปเทียนบูชา พระรัตนตรัย เด็กชาย ภูชิเดช อินปั๋นแก้ว นักเรียนชั้นอนุบาล 3 / 2 ตัวแทนนักเรียน นำไหว้พระสวดมนต์ ตัวแทนนักเรียน ถวายขันขอศีล

นางพรรณี บุญประเสริฐ ผู้รับใบอนุญาต นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา จากนั้นผู้บริหาร นักเรียน และผู้ปกครอง ร่วมกันหล่อต้นเทียนพรรษา จำนวน 3 ต้น ที่มีการสืบทอด เป็นประเพณี ติดต่อกันมาทุกปี เพื่อปลูกฝั่งนักเรียนวิถีพุทธ จากนั้นถวายจตุปัจจัยไทยทาน พระสงฆ์ กล่าวอนุโมธนาและให้พร และนักเรียนร่วมกันนั่งสมาธิ แผ่เมตตา พระสงฆ์ ประพรมน้ำพุทธมนต์ เสริมสิริมงคล ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง จากนั้นนางพรรณี บุญประเสริฐ ให้โอวาทกับเด็กๆ

ทั้งนี้เทียนพรรษาที่หล่อทั้งหมด ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ก็จะมีขบวนแห่จากโรงเรียน นำไปถวายให้กับวัดลอยเคราะห์ อำเภอเมือง เพื่อให้พระสงฆ์ใช้จุดในการทำวัตรเย็น ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ตลอด 3 ดือน

เชียงใหม่ คนร้ายแต่งกายภูมิฐานใส่สูท เข้าไปขโมยเงินตู้บริจาคในพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม(คลิป)

คนร้ายแต่งกายภูมิฐานใส่สูท เข้าไปขโมยเงินตู้บริจาคในพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ไม้แขวนเสื้อ นำมาทำเป็นเส้นยาวประมาณ 1 ฟุต ใช้หมากฝรั่งติดปลาย แหย่ลงไปในช่องตู้บริจาคเงิน ให้หมากฝรั่งติดกับแบ๊งค์แล้วดึงเงินออกมา วงจรปิดชัดเจนสุดท้ายไม่รอด ถูกจับกุมได้คาที่พัก สารภาพทำมาแล้วกว่า 20 วัด และยังมีหมายจับคดี ชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเรา จังหวัดชลบุรี


ภาพจากกล้องวงจรปิด วัดสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ที่บันทึกภาพคนร้าย แต่งกายใส่สูทภูมิฐาน อำพรางทำตัว เป็นนักท่องเที่ยว เข้าไปไหว้พระ แต่เมื่อไม่มีใคร ได้ขโมยเงินในตู้บริจาค ภายในพิพิธภัณฑ์พระธาตุบูรพาจารย์ วัดสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ จำนวน 2 ตู้ ใช้เวลาไม่นาน ได้เงินไปทั้ง 2 ตู้ จำนวน 1,800 บาท โดยพฤติกรรมของคนร้าย ใช้เหล็กไม้แขวนเสื้อ ยาวประมาณ 1 ฟุต ปลายติดหมากฝรั่งทำเป็นกาว หย่อนลงไปในช่องตู้บริจาคเงิน ใช้ส่วนปลายที่ติดหมากฝรั่งแตะที่ธนบัตร ก็จะติดปลายไม้แขวนเสื้อ และดึงขึ้นมา ได้ทั้งแบ็ง 20 บาท และแบ๊ง 100 บาท เมื่อได้เงินจนหมด เหลือแต่เหรียญในตู้บริจาค จึงเดินออกจากวัดหลบหนีไป เหตุเกิดวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ทางนาย บารมี อโศกพิทักษ์รัตนะ คณะกรรมการวัด จึงนำคลิปจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ ให้ติดตามจับกุมคนร้าย จนตำรวจใช้เป็นหลักฐาน ในการแกะรอย จนวันนี้สามารถติดตามจับกุม นาย นริศชาติ อายุ 26 ปี คนร้าย ได้ที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลาง ชุดสูทที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และเงินคืนมาได้บางส่วน

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ หลบหนีคดี มาจากจังหวัดชลบุรี และมาเช่าหอพักอาศัย และได้ก่อเหตุขโมยเงิน ตู้บริจาคตามวัดทั้งตัวเมืองเชียงใหม่ มาแล้วกว่า 20 วัด จำได้เฉพาะ วัดบุปผารามได้เงิน 700 บาท วัดเจ็ดยอดได้เงิน 700 บาท วัดมหาวันได้เงิน 100 บาท วัดชมพูไม่ได้เงิน วัดสันติธรรมได้เงิน 1,800 บาท รวมวัดทั้งหมด ได้เงินไปประมาณร่วม 10,000 บาท นำมาใช้จ่าย และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่ามีหมายจับคดี ชิงทรัพย์และข่มขืนกระทำชำเราโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขื่นได้ และบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยมีอาวุธ จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดี ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ

เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดงานหอการค้าแฟร์ 2567 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Local Food Good Taste(คลิป)

จังหวัดเชียงใหม่ เปิดงานหอการค้าแฟร์ 2567 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Local Food Good Taste

วันนี้( 9 กค.2567 ) นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานหอการค้าแฟร์ 2567 คอนเซ็ปต์ Local Food Good Taste ภายใต้งาน Lanna Expo 2024 ณ โซนหอการค้าแฟร์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางนัยนภัส สังขนุกิจ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ MR. RAMJI RAMASWAMY รองกงสุลอินเดียฝ่ายพาณิชย์ คุณนที ศรีสุทธิ์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตเชียงใหม่ ดร.กอบกิจ อิสรชีววัฒน์ รองประธานกรรมการหอการค้า จังหวัดเชียงใหม่ คุณกฤษฏิภาชย์ ทองคำคูน รองประธานกรรมการหอการค้า จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมตัดลูกโป่ง พร้อมด้วยกรรมการและสมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีเปิดงาน

ภายในโซนหอการค้าแฟร์จะมีไฮไลท์ภายในงานที่ดึงดูด และกระตุ้นการซื้อขายนั่นก็คือการไลฟ์สินค้าภายในงานของผู้ประกอบจาก สำหรับผู้ที่อยู่ต่างที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าภายในงานได้เช่นเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นการนำเอาเทคโนโลยีใกล้ตัว มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างง่ายได้ อีกทั้งกิจกรรมเวิคช็อป DIY สุดสร้างสรรค์อาทิเช่น เวิคช็อปทำน้ำหอมที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ เวิคช็อปร้อยลูกปัด เวิคช็อปทำบาธบอมบ์ เวิคช็อปแต่งหน้าเค้ก จัดดอกไม้ Coding เด็ก กิจกรรม Workshop ที่เป็นงาน Craft ต่าง ๆ การนำเอาวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่อง BCG สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักในการจัดงาน รวมถึงกิจกรรมการแสดงบนเวที ทั้งการแสดงดนตรี Cover Dance และ แฟชั่นโชว์ จากหลากหลายโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับคนรุ่นใหม่

นายจุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะที่ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของสมาชิก สนับสนุนและส่งเสริมการค้า การลงทุน ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดมาอย่างต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรม ในปีนี้ทางหอการค้ามาในคอนเซ็ปต์ Local Food Good Taste เน้นไปที่อาหารพร้อมทาน อาหารปรุงสดใหม่ สะอาด ถูกหลักอนามัย ซึ่งภายในโซนหอการค้าแฟร์จะมีไฮไลท์ภายในงานที่ดึงดูด และกระตุ้นการซื้อขายนั่นก็คือการไลฟ์สินค้าภายในงานของผู้ประกอบจาก สำหรับผู้ที่อยู่ต่างที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าภายในงานได้เช่นเดียวกัน ถือได้ว่าเป็นการนำเอาเทคโนโลยีใกล้ตัว มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างง่ายได้ อีกทั้งกิจกรรมเวิคช็อป DIY สุดสร้างสรรค์อาทิเช่น เวิคช็อปทำน้ำหอมที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ เวิคช็อปร้อยลูกปัด เวิคช็อปทำบาธบอมบ์ เวิคช็อปแต่งหน้าเค้ก จัดดอกไม้ Coding เด็ก กิจกรรม Workshop ที่เป็นงาน Craft ต่าง ๆ การนำเอาวัสดุเหลือใช้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่อง BCG สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักในการจัดงาน รวมถึงกิจกรรมการแสดงบนเวที ทั้งการแสดงดนตรี Cover Dance และ แฟชั่นโชว์ จากหลากหลายโรงเรียนในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับคนรุ่นใหม่

ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า “อย่างที่ทราบกันดีว่าในปีนี้ ธีมหลักของทาง Lanna Expo 2024 คือ ธีม BCG Creative LANNA ดังนั้นทางหอการค้าเองได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและตระหนักถึงเทรนด์ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง และควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นที่มาของความพิเศษภายในโซนของหอการค้าแฟร์ เราจะเน้นการตกแต่งด้วยวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ นำมาตกแต่งเป็นฉากเวที นอกจากนี้ยังเพิ่มจุดแยกขยะที่มีมากถึง 20 กว่าจุด เพื่อรองรับให้เพียงต่อการบริการของผู้ที่มาจับจ่าย ซื้อของภายในงาน และทางหอการค้าเองยังร่วมกับทางบางจาก ตั้งจุดบริการรับซื้อน้ำมันที่ใช้แล้วจากบรรดาพ่อค้า แม่ค้า เพื่อลดการใช้ซ้ำ และยังเป็นการนำน้ำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ โดยในปีนี้ได้เสียงตอบรับของบรรดาผู้ประกอบการจองบูธเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยมีโซนอาหารพร้อม เครื่องดื่ม ของทานเล่น โซนเสื้อผ้า ของใช้ สินค้า บริการ ต่างๆมากมาย”

เชียงใหม่ อำเภอไชยปราการ ทำบุญสวดเจริญพระพุทธมนต์พร้อมสรงน้ำพระธาตุเจดีย์ สืบชะตา และทอดผ้าป่าเพื่อนำไปพัฒนาวัด

อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ทำบุญสวดเจริญพระพุทธมนต์พร้อมสรงน้ำพระธาตุเจดีย์ สืบชะตา และทอดผ้าป่าเพื่อนำไปพัฒนาวัด เป็นการทำบุญเพื่อให้ญาติธรรมประชาชนได้ร่วมทำบุญเป็นการเสริมสร้างกำลังใจในการดำรงค์ชีวิตการทำมาหากินด้วยความสบายใจ

พระครูไพบูลธรรมนิเทศก์ จารุธรรมโม รองเจ้าคณะ อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดสุปัฏนาราม (บ้านท่า) ผู้จัดการโรงเรียนพระปฏิยัติธรรมวัดป่าไม้แดง(พระเจ้าพรหมมหาราช) 46 พรรษา อายุ 66 ปี นักธรรมเอก (น.ธ.เอก) นิมนต์พระสงฆ์ 69 รูป ทำบุญสวดเจริญพระพุทธมนต์พร้อมสรงน้ำพระธาตุเจดีย์ สืบชะตา และทอดผ้าป่าเพื่อนำไปพัฒนาวัด

ทั้งนี้เป็นการทำบุญเพื่อให้ญาติธรรมประชาชนได้ร่วมทำบุญเป็นการเสริมสร้างกำลังใจในการดำรงค์ชีวิตการทำมาหากินด้วยความสบายใจ ใช้ น้ำ เป็นหลัก เป็นนัยของการชำระล้างให้จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใส และเป็นศิริมงคลกับชาวบ้านญาติธรรมเชื่อว่าเมื่อได้ร่วมบุญแล้วจะได้รับพรเป้นศิริมงคลกับผู้ร่วมบุญ การทำงานประกอบอาชีพต่างๆก็จะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ซึ่งเป็นความเชื่อของพี่น้องชาวล้านนามาโดยตลอด

วัดสุปัฏนาราม(บ้านท่า) ได้เริ่มก่อตั้งสร้างโดยประชาชนที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2465 และได้พัฒนาสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา102 ปี โดยมีพระครูไพบูลธรรมนิเทศก์ รองเจ้าคณะ อำเภอไชยปราการ เป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ปัจจุบันได้พัฒนาวัดให้เจริญมาโดยตลอดทั้งทางด้านอาคารสถานที่ พัฒนาทางด้านจิตใจให้กับญาติธรรมคณะศรัทธาพร้อมกันมา ทางวัดมีความพร้อมแทบทุกด้าน ที่สำคัญเจ้าอาวาสท่านจะเข้มงวด พื้นที่วัดจะห้ามนำอบายมุขต่างๆเข้ามา ในบริเวณวัดถือปฏิบัติมาตลอด เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินวัตรไตรโลกนาถ พระพุทธบารมีศรีไชยปราการ(พระพุทธสิงหิ) ที่เป็นที่เคารพศรัทธากับญาติธรรม

วันนี้ได้มี ดาบตำรวจ ณรงค์ ทิพย์ดวง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไชยปราการพร้อมคณะเป็นประธานญาติธรรม และนายสุชาติ บัวคำ อดีต นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลไชยปราการ ตลอดจนนายศุภกิจ สุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่2 บ้านท่า คนใหม่ พร้อมทั้งนายนวล ชัยธง อดีตผู้ใหญ่บ้าน นำญาติธรรมร่วมในพิธีเพื่อเป็นศิริมงคลกับทุกคนในครั้งนี้มีญาติธรรมเข้าร่วมมากกว่า1,000คน มีคนใจบุญมาร่วมโรงทานมากมายนำอาหารคาวหวานมาเลี้ยงผู้มาร่วมทำบุญในวันนี้

เชียงใหม่ กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 เตรียมจัดงานแสดงนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า Lanna Expo 2024 “BCG Creative Lanna” (คลิป)

กลุ่มจังหวัวภาคเหนือตอนบน 1 เตรียมจัดงานแสดงนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า Lanna Expo 2024 “BCG Creative Lanna” ภายใต้โครงการจัดแสดงนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า Lanna Expo 2024 ตามแผนปฏิบัติการโครงการกลุ่มจังหวัดกาคเหนือตอนบน 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567


กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน) โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ร่วมบูรณาการจัดงานแสดงนวัตกรรมและจำหน่ายสินค้า Lanna Expo 2024 ซึ่งได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดความสำเร็จจากทุกปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการในกลุ่มจังหวัดให้เกิดการเติบโตทางการค้าและการลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสในการสร้างงาน และกระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดจนมีการเจรจาธุรกิจเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการในกลุ่มภูมิภาคขยายฐานการตลาดสู่ระดับนานาชาติ โดยรวบรวมสินค้าและสุดยอดผลิตภัณฑ์ของหน่วยงาน องค์กร และชุมชนมาจัดแสดงและจำหน่าย กว่า 800 คูหา เพื่อสร้างโอกาสการเข้าสู่ตลาด และขยายช่องทางการตลาดสินค้าและบริการ ภายในงานแบ่งพื้นที่บริเวณแสดงจำหน่ายสินค้าและบริการ จำนวน 11 โซน โดยแต่ละโซนจะมีกิจกรรมฮไลท์ที่สำคัญ ดังนี้

โซน 1 Northern Thailand Food Valley นำโดย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่
โซน 2 0 TOP ล้านนา สีสันภูมิปัญญาไทย นำโดย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงใหม่
โซน 3 Lanna Expo & Creative Economy นำโดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่
โซน 4 Lanna Wellness Village นำโดย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
โซน 5 Chiang Mai Creative Economy Festival 2024 นำโดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดเชียงใหม่
โซน 6 MHESI Sustainable Innovation for Creative Lanna นำโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โซน 7 สานศิลป์ถิ่นหัตถกรรมบ้านถวาย นำโดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่
โซน 8 ตามรอยประเพณีล้านนา เที่ยวได้ทั้งปีที่เชียงใหม่ นำโดย สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่
โซน 9 – 10 ข่วงจุมฟ้า กาดวัฒนธรรม นำโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่
โซน 11 หอการค้าแฟร์ CCC FAIR 2024 นำโดย หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่สนใจ คือ การนำเสนอผลงานการสืบสานภูมิปัญญาล้านนาที่สะท้อนอัตลักษณ์ฮันโดดเด่นของท้องถิ่นล้านนา พร้อมทั้งมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการในกลุ่มภูมิภาค ขยายฐานการตลาดสู่ระดับนานาชาติพร้อมสนุกสนานไปกับกิจกรรมบันเทิง และร่วมลุ้นรับของรางวัลมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 8 – 14 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา10.00 – 20.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ โดยกำหนด พิธีเปิดงานในวันอังคาร ที่ 9 กรกฎาคม 2567 ณ เวทีกลางงาน Lanna Expo 2024 เวลา 17.00 น.

เชียงใหม่ ป.ป.ส.เตรียมมอบรางวัลให้บุคคล องค์กรแก้ปัญหายาเสพติดยอดเยี่ยมประจำปี “พล.อ.นฤทธิ์” ผบ.นบ.ยส.35 ติดโผด้วย

ป.ป.ส.เตรียมมอบรางวัลให้บุคคล องค์กรแก้ปัญหายาเสพติดยอดเยี่ยมประจำปี “พล.อ.นฤทธิ์” ผบ.นบ.ยส.35 ติดโผด้วย

วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเตรียมมอบรางวัลให้บุคคลและองค์กร ที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด ประจำปี 2567 ทั่วประเทศ จำนวน 115 คน 32 องค์กร โดยเฉพาะ ด้านบริหารจัดการ ด้านการปราบปรามยาเสพติด ด้านการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ด้านการบำบัดรักษา ด้านการป้องกันยาเสพติด และด้านความร่วมมือ ระหว่างประเทศ โดยในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานป้องกันและปราบรามยาเสพติดภาค 5 มีบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดประจำปี 2567 จำนวน 6 ราย (บุคคล 5 ราย องค์กร 1 ราย) ในจำนวนบุคคลและองค์กรดังกล่าว พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 หรือ นบ.ยส.35 ได้รับรางวัลบุคคลที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขยาเสพติด ประจำปี 2567 ที่ตึกสันติไมตรี ในวันที่ 3 กรกฎาคม นี้ด้วย

สำหรับ พลเอกนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบกเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 24 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 35 เหล่าทหารม้า เป็นผู้บังคับหน่วยในเหล่าทหารม้าในทุกตำแหน่งตั้งแต่ผู้บังคับหมวด, ผู้บังคับกองร้อย, ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 18, ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 3, และผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ที่ภาคภูมิใจคือ ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่ง ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 138 (หนึ่ง – สาม – แปด) หน่วยเฉพาะกิจกรมททารม้าที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนของอำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นผู้บังคับกรมทหารม้าเฉพาะกิจ ฝึกและตรวจสอบ กองทัพบก

และในห้วงที่เป็นผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ทำหน้าที่ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง รับผิดชอบพื้นที่ชายแดน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน, อุตรดิตถ์ และจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นเมื่อไปดำรงตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 3 ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 (สาม – ห้า) จากรัฐบาลในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาสามารถขับเคลื่อนงานด้านการสกัดกั้นและตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือได้เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของ พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 ที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาชนแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นปัญหาสำคัญของชาติ สำหรับแนวทางการทำงาน ที่พล.อ.นฤทธิ์ ได้ยึดถือมาตลอดตั้งแต่รับราชการคือการทำงานที่เน้นสร้างบรรยากาศให้น่าทำงาน เพื่อให้ผู้ร่วมงานมีความสุข

ในปัจจุบันหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 รับผิดชอบการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ภายหลังจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในทุกพื้นที่ชายแดนของประเทศ ให้เห็นผล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงเพิ่มพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจาก 11 อำเภอ เป็น 18 อำเภอ โดยเพิ่มอีก 7 อำเภอ เพื่อให้ครอบคลุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ได้แก่ อำเภอปาย และปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน, อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย, อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และ อำเภอแม่สอด, อำเภอพบพระ จังหวัดตาก

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 66 – 30 มิ.ย.67 หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ 35 มีผลการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ 18 อำเภอ ของจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย สามารถตรวจยึด ยาบ้ารวม 182,593,220 เม็ด, จับกุมผู้ต้องหา 1,562 ราย จากสถิติการจับกุมยาเสพติดเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในห้วงเดียวกัน ( ธ.ค. 65 – มิ.ย.66 ยึดยาบ้าได้ 72,395,380 เม็ด) พบว่า ในปีนี้สามารถยึดยาบ้า เพิ่มขึ้น 110,233,840 เม็ด คิดเป็นร้อยละ 152.34