เชียงใหม่ รพ.ราชเวชเชียงใหม่ แจงละเอียดยิบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระยอง

พ.ราชเวชเชียงใหม่ แจงละเอียดยิบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระยองมาก่อน ศบค.ประกาศ จ.ระยองเป็นพื้นที่เสื่ยง มั่นใจการคัดกรองโรคมีคุณภาพมาตรฐาน

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 ธ.ค. 2563 นายหัสดิน โปรเทียรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่ ทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชน เรื่อง ชี้แจงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.ระยอง ยืนยันเมื่อ 27 ธ.ค. 2563 ที่ได้เข้ารับการรักษาโรคความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม รพ.ราชเวช เมื่อ 21 ธันวาคม 2563 จริง

รพ.ราชเวช ได้รับรายงานจากทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เวลา 17.45 น. ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดระยอง และมีประวัติเข้ารับการรักษา โรคความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม รพ.ราชเวช เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ในช่วงเวลา 09.00 – 11.30 น.

รพ.ราชเวช เชียงใหม่ ขอชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ในวันและเวลาดังกล่าวจริง ซึ่งในขณะนั้น จ.ระยองยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง (ศบค.ได้ประกาศให้ จ.ระยอง เป็นพื้นที่เสี่ยง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2563) รพ.ราชเวช เชียงใหม่ มีระบบการคัดกรองที่ได้มาตรฐานและมุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมีคลินิกคัดกรอง โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (ARI Clinic) อยู่ด้านนอกอาคาร และมีนโยบายในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำหนดให้ผู้รับบริการรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตนดังนี้ 1)ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าประตูอาคาร 2)สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล 3)ใช้มาตรการการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด

ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการคัดกรองตามระบบของโรงพยาบาล และจากการซักประวัติไม่พบอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และไม่มีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของ ศบค. ณ ช่วงเวลานั้น จึงสามารถผ่านเข้าไปรับบริการที่คลินิกประกันสังคมได้

หลังจากได้รับข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เวลา 17.45 น. ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1)ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับบริการพบว่าผู้ป่วยรายนี้, ผู้รับบริการราย อื่น ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทั้งหมด ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของโรงพยาบาลทุกประการ และผู้ป่วยรายนี้ได้อยู่บริเวณแผนกผู้ป่วยนอกประกันสังคม ชั้น 2 โดยการขึ้น – ลงทางบันได

2)ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น.ได้ติดตามกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ บุคคลในครอบครัวผู้ป่วย และผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ แพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในขณะนั้น เพื่อเข้ารับการตรวจ RT-PCR for COVID-19 ทันที และทราบผลการตรวจทั้งหมดว่าเป็นลบ (ไม่พบสารพันธุกรรมโคโรน่าไวรัส) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 เวลา 01.00 น. และ 3) เวลา 20.00 น. ปิดให้บริการคลินิกผู้ป่วยประกันสังคมทั้งหมด และทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ในห้องตรวจทุกประเภท

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ จะคงมาตรฐานการคัดกรองผู้รับบริการทุกท่านที่เข้ามารับบริการที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง อนึ่งหากผู้รับบริการที่เข้ามารับบริการในวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ช่วงเวลา 09.00-11.30 น. ณ แผนกผู้ป่วยนอกประกันสังคม ชั้น 2 ถ้าท่านมีอาการผิดปกติสามารถเข้ารับการตรวจ RT-PCR for COVID-19 ที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ได้ทันที นายหัสดิน โปรเทียรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่ ชี้แจงตามเอกสารดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ราชเวชเชียงใหม่ มีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดไข้ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนตั้งแต่ด่านแรก ก่อนเข้าประตูภายในอาคาร หากพบมีไข้ก็จะทำการสอบประวัติว่ามีความเสี่ยงมาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ จากนั้นก็จะคัดแยก ออกมาตรวจนอกอาคาร ตามกระบวนการเข้าห้องกักตัว มีเตียงนอน และตู้ตรวจเสมหะจมูกและคอ และนำตัวเข้าห้องความดันลบ(ฆ่าเชื้อ) เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะทราบผลภายใน 4 ชั่วโมง จากนั้นก็จะแจ้งทางสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ และโรงพยาบลนครพิงค์มารับตัวส่งต่อไปตามขั้นตอนของการกักตัวตามกระบวนการของ ศบค.ต่อไป

วันนี้ทางทีมแพทย์และพยาบาลของ รพ.ราชเวชเชียงใหม่ ก็ยังลงพื้นที่ตรวจคนหากลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อในเชียงใหม่ ตามที่กรมควบคุมแจ้งให้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจพนักงานที่ทำงานในปั๊มน้ำมัน ปตท.แม่ริม ตั้งอยู่แยกไปปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ทั้งหมดมีพนักงานของ ปตท. รวมทั้งเจ้าของร้านค้า และลูกจ้างของร้านค้าต่างๆ จำนวนประมาณ 30 คน เข้ารับการตรวจโรคโควิด-19โดยใช้ตู้ตรวจโรคความดันลบที่มีคุณภาพคือฆ่าเชื้อโรคได้ในตู้ความดันลบดังกล่าว.

เชียงใหม่ พบเลขเด็ด ! ต้นตะเคียน วัดโป่งหลวง อ.ปาย เห็น 2 ตัวชัดมาก

ฮือฮาพบเลขเด็ด ! ต้นตะเคียน วัดโป่งหลวง อ.ปาย เห็น 2 ตัวชัดมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดโป่งหลวง ต.โป่งสา อ.ปาย จ.เชียงใหม่ พบนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตกุศลเดินทางไปเยี่ยมนักเรียนโรงเรียนบ้านโป่งสา อ.ปาย เพื่อมอบอุปกรณ์การเรียนและเครื่องอุปโภคบริโภค ต่อมานายพิพัฒน์ บุญปวน ผู้ใหญ่บ้าน ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แนะนำเข้าวัดไหว้พระที่วัดโป่งหลวง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ท่านั่งสมาธิประดิษฐานอยู่กลางวัดให้ประชาชนกราบไหว้ขอพร และทางวัดยังเป็นศูนย์รวมในการเผยแพร่ประวัติพระพุทธศาสนา โดยหมู่บ้านจะพัฒนาวัดเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนโดยจะพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ของชุมชนรวบรวมประวัติชุมชน และองค์ความรู้ด้านศาสนาพุทธศาสนาเพื่อให้ประชาชนเข้าไปเรียนรู้ที่วิหาร กำลังรวบรวมข้อมูลนำเผยแพร่อยู่

ทางวัดยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีประวัติยาวนานเล่าสืบต่อกันมาว่า มีชาวลั๊ว หรือชาวละว้า เดินทางมาแสวงบุญที่หมู่บ้านโป่งสาแห่งนี้ แล้วมาขุดบ่อน้ำเพื่อสร้างสถานที่อันเป็นกุศล ตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน น้ำในบ่อแห่งนี้น้ำจะออกมาเองตลอดไม่เคยแห้ง จึงเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของหมู่บ้าน ต่อมามีการสร้างวัดโป่งหลวง ทางวัดจึงมีน้ำใช้ตลอดทั้งปีตลอดมา และน้ำในบ่อดังกล่าวยังแบ่งปันให้ชาวบ้านได้นำไปใช้ได้อีกด้วย

ที่สำคัญในช่วงที่วัดโป่งหลวง กำลังสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่จากไม้ตะเคียน องค์ยืนในวันนี้ สร้างขึ้นจากต้นตะเคียนที่ตายเองตามธรรมชาติต้นใหญ่หลายคนโอบ และในป่าบ้านโป่งสา ก็ยังมีต้นไม้ตะเคียน 6 คนโอบให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมได้อีกด้วย ส่วนไม้ตะเคียนต้นที่ตายนำสร้างพระองค์ยืนทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้อนุญาตให้ชาวบ้านและทางวัดเอาต้นไม้ตะเคียนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ ชาวบ้านจึงลงความเห็นให้นำต้นตะเคียนถวายวัดโป่งหลวงเพื่อทำประโยชน์นำมาแกะสลักสร้างพระใหญ่องค์ยืน สูง 9 เมตร แล้วนำประดิษฐานไว้ที่วัดเพื่อเป็นมงคลให้กับหมู่บ้านและเป็นศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ชาวบ้านมาขอพร

ตามความเชื่อส่วนบุคคลที่เชื่อกันว่า ไม้คะเคียนหากมาขอพรโดยเฉพาะเรื่องโชคมักจะได้พรตามหวัง และชาวบ้านและนักท่องเที่ยวก็เดินทางไปดูไม้ตะเคียนดังกล่าว พบชัดๆเลยว่า มีเลข 1 กับ 6 ที่เห็นชัดเจน ยิ่งชาวบ้านจะนำแป้งลงไปลูบเพื่อได้เลข ก็ยิ่งเห็นเลข 1 กับ 6 ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังพบเลขอื่นๆ อีก หลายเลข

เชียงใหม่ เครือข่ายสื่อฯเชียงใหม่ จัดกิจกรรม มอบสิ่งของให้ นักเรียนและชาวบ้านโป่งสา

เครือข่ายสื่อฯเชียงใหม่ จัดกิจกรรม มอบอุปกรณ์การเรียน เสื้อกันหนาวให้กับนักเรียนบ้านโป่งสา ส่วนชาวบ้านได้รับผ้าห่มกันหนาว ซึ่งสภาพอากาสที่บ้านโป่งสา ตำบลโปางสา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนเริ่มมีอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่อง

เมื่อช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค.2563 นายพิพัฒน์ บุญปวน ผู้ใหญ่บ้าน ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อม นายสุชาติ ชายคำ รักษาการ ผอ.รร.บ้านโป่งสา ได้รับมอบสิ่งของอุปกรณ์การศึกษา เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องกันหนาว และของเล่นเด็กชุดทหารเด็ก รวมทั้งจานดาวเทียมและทีวีขนาด 32 นิ้ว จากนายวสันต์ เจริญตระกูล ผู้สื่อข่าวทีวี ช่อง 3 เชียงใหม่  ผู้ประสานงานกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชน จ.เชียงใหม่ และกลุ่มเครือข่าย ที่เดินทางไปมอบสิ่งของให้ที่ รร.บ้านโป่งสา

smart

เนื่องด้วยโครงการ “ธารน้ำใจ เพื่อน้องหายหนาว” จัดกิจกรรมขึ้นมาก้าวสู่ปีที่ 10 ทางกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้สื่อข่าวในจังหวัดและกลุ่มสมาชิกฯ ชมรมต่างๆ เช่น กาแฟผีบ้า, เอ๋เซอร์วิส & หมูป่าเอ็นดูโร่ , กลุ่ม HYENA TEAM , วิทยุนครพิงค์ ดีเจหวานใจ เดินทางบริจาคสิ่งของ ให้กับ รร.โป่งสา ที่มีความต้องการรับบริจาค อุปกรณ์ทางการศึกษา เครื่องอุปโภค-บริโภค รวมทั้งเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมอบให้กับชาวบ้านโป่งสา และเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านโป่งสา

smart

รร.บ้านโป่งสา เป็นโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลชนบท สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยราชการไม่มากนัก ทำให้นักเรียนยังขาดอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การกีฬา และเครื่องอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอุปกรณ์คลายหนาวจำนวนมาก ทาง รร.บ้านโป่งสา จึงได้แจ้งความประสงค์มายังกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชน จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับมอบสิ่งของและงบประมาณเดินทางจัดซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้า ทีวี และจานดาวเทียมส่งมอบให้กับหมู่บ้านโป่งสา เพื่อนำไปติดตั้งยังหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน ส่วนเด็กๆได้ของเล่นและชุดทหารจากวัดสันมะเกี๋ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จากที่ประชาชนถวายชุดทหารเด็กและของเล่นให้ไอ้ไข่วัดสันมะเกี๋ยง ก็มอบชุดทหารมาเป็นต้น

ทางโครงการธารน้ำใจ เพื่อน้องหายหนาวต้องขอขอบคุณผู้ที่มีจิตศรัทธาประกอบด้วย #วัดพระธาตุดอยคำ,วัดป่าไม้แดง,วัดสันมะเกี๋ยง, บริษัท วี.พี.เอ็น.คอลเล็คชั่นส์ จำกัด,ตำรวจภูธรภาค 5 , ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ , โครงการ ดีเค.ปาร์ค ถนนมหิดล , สวนสัตว์เชียงใหม่, ปางช้างแม่สา , และผู้สนับสนุนที่ไม่ขอออกนาม ขอให้ประสบความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ได้รับผลที่ดีกลับมาในด้านธุรกิจและด้านครอบครัวต่อไป

smart

smart

smart

smart

เชียงใหม่ ทอดผ้าป่าส่งเสริมพระศาสนาและสร้างห้องน้ำนักเรียนอมก๋อย

ทอดผ้าป่าส่งเสริมพระศาสนาและสร้างห้องน้ำนักเรียนอมก๋อย

ทางคณะศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้รวมตัวกันร่วมบริจาคเงินเพื่อทอดผ้าป่าส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มีการพัฒนาก่อสร้างอาคารสถานที่ในวัดตามสมควรโดยพันเอก ชัยยันต์ สิรสุนทร และคุณสุรชัย กวินวรพงษ์ร้านอาหารไม้เอกการ์เด้น เชียงใหม่พร้อมคณะเชียงใหม่ ได้ทอดถวายวันที่27ธันวาคม2563 ทอดถวายที่วัดสถิตบุญวาส ตำบล ม่อนจอง อำเภอ อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาวัดให้เจริญต่อไป

นอกจากนั้นยังได้ช่วยสร้างห้องน้ำให้นักเรียน โรงเรียนวัดแม่ตื่นน้อย(โรงเรียนตรีมิตรวิทยา)และได้มอบโรงเย็นสำหรับใส่ศพให้กับวัดเพราะยังขาดแคลนแล้วยังได้มอบผ้าห่มกันหนาว เสื้อผ้ากันหนาวให้กับชาวบ้าน และเด็กนักเรียนเพื่อช่วยคลายความหนาวเย็นของฤดูหนาวนี้เพราะอากาศทางภาคเหนือเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยหมุ่บ้านนี้ห่างไกลจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ห่างไกลความเจริญด้อยโอกาส ทางคณะจึงนัดหมายร่วมสร้างบุญกุศลให้กับตัวเองและคณะเพื่อให้คนอื่นๆทั้งชาวบ้านเด็กนักเรียน คณะครู คณะพระสงฆ์ให้มีความสุขและสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไป

เชียงใหม่ เปิดประชุมวิชาการ เหลียวหลัง-แลหน้า เพื่อการแพทย์แบบครบวงจร

เปิดประชุมวิชาการ เหลียวหลัง-แลหน้า เพื่อการแพทย์แบบครบวงจร ในงานสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มช. เปิดตัวผลงานวิจัยจากฝีมือคนไทย เครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจพร้อมระบบ GPS ใช้ได้จริงและถูกกว่าต่างประเทศถึง 10 เท่า

ที่ห้องเชียงใหม่ ชั้น 2 ศูนย์ประชุมนานาชาติดิเอ็มเพลส โรงแรมดิเอ็มเพลส จังหวัดเชียงใหม่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ “เหลียวหลัง-แลหน้า งานวิจัยมุ่งเป้า การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินและสาธารณสุขอย่างครบวงจรจากล่างสู่บน” โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 100 คน เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมวิชาการในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานระบบบริการสุขภาพ โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นโคครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบเครือข่ายการจัดบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและเกิดความพิการอย่างรุนแรง โดยขอบเขตของการวิจัยจะครอบคลุมทั้งในดานการป้องกันภาวะเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉิน ความรอบรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับการช่วยเหลือเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินสำหรับประชาชน โดยมีโครงการย่อยจำนวน 32 โครงการเข้าร่วม ซึ่งเป็นพื้นที่วิจัยนำร่องในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และน่าน

สำหรับโครงการนี้ถือเป็นการขับเคลื่อนระยะที่ 2 แล้ว ซึ่งระยะแรกที่ดำเนินการนั้น ก็ได้มุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนาระบบให้เชื่อมโยงด้านข้อมูลของผู้ป่วยของโรงพยาบาล ไปจนถึงระดับตำบล เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในด้านการรักษา แต่เนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่ได้เดินทางกลับไปบ้านเพื่อฟื้นฟูร่างกาย กลับเป็นช่วงที่รอยต่อด้านการรักษาขาดหายไป ทำให้ผู้ป่วยบางรายกลายเป็นคนพิการ ซึ่งในระยะที่ 2 และ 3 ในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลในด้านการดูแลผู้ป่วยที่มากขึ้น

ขณะเดียวกันในวันนี้ก็มีผลงานวิจัย ของนายแพทย์ชาญชัย พจมานวิพุธ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ 1 โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยเล็งเห็นว่าโรงพยาบาลนครพิงค์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด มีจำนวนเตียงทั้งหมด 609 เตียง แต่เนื่องจากมีผู้รับบริการจำนวนมาก ห้องฉุกเฉินมีความหนาแน่น ระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้ป่วยหนักอยู่ห้องฉุกเฉินนาน ไม่สามารถรับส่งต่อได้ทันต้องรอบริหารจัดการเตียงภายในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลเครือข่ายทั้งในและนอกจังหวัด ด้วยการสื่อสารทางโทรศัพท์ วิทยุสื่อสารเพื่อส่งต่อข้อมูล การบริหารพบปัญหาทั้งด้านการรับรู้และเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชน คุณภาพการประเมินและการช่วยเหลือผู้ป่วยของศูนย์รับแจ้งเหตุการแพทย์ฉุกเฉินและหน่วยบริการที่ออกปฏิบัติการ ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการพัฒนาระบบบริการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุขแบบไร้รอยต่อ จังหวัดเชียงใหม่ขึ้น เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัย สามารถบันทึกรายงานที่รวดเร็ว และไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งคาดว่าจะทดลองใช้โปรแกรมได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นไป

นอกจากนี้สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ได้คิดค้นเครื่องตรวจวัดชีจรอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของชีจร ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ความดันโลหิต และแสดงคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ลึกถึง 12 ลีด ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวได้เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มสื่อสารข้อมูลระหว่างคนไข้ รถพยาบาล และโรงพยาบาล มีระบบ GPS ระบุตำแหน่งของรถพยาบาลได้ตลอดเวลา สามารถส่งข้อมูลคนไข้และสัญญาณชีพพื้นฐานแบบเรียลไทม์ มาให้ศูนย์ข้อมูลที่ดูแลอยู่ได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้รวดเร็ว แม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้ในห้วงที่ผ่านมาต้องสั่งนำเข้ามาใช้ในราคา 300,000 – 500,000 บาท แต่ปัจจุบันสามารถผลิตขึ้นได้ด้วยฝีมือคนไทย ในราคาเพียง 40,000 บาท ถูกกว่าต่างประเทศถึง 10 เท่า ปัจจุบันได้นำเครื่องดังกล่าวไปทดลองใช้แล้วที่โรงพยาบาลสันทรายกว่า 20 เครื่องในการดูแลผู้ป่วย ถือว่าเป็นความสำเร็จของคนไทย ที่สามารถนำเอาแนวคิด และเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อดูแลผู้ป่วยได้อย่างครบวงจร และน่าภาคภูมิใจเพราะมาจากฝีมือคนไทย ในอนาคตเตรียมต่อยอดไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป

เชียงใหม่ วัดสันมะเกี๋ยงเตรียมจัดงานบวงสรวง”ไอ่ไข่” ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วัดสันมะเกี๋ยง เตรียมจัดงานพิธีบวงสรวง “ไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยง” ในวันที่ 26 ธค. 63 พร้อมทำพิธีปลุกเสก ไม้ขนุนตายพราย “แม่สองนาง” ที่แกะสลักจากต้นขนุนที่แห้งตาย และพิธีสะเดาะเคราะห์ส่งท้ายปี โดยนินมต์พระครูโสภณบุญโญภาส เจ้าคณะตำบลหารแก้ว ณ วัดศรีสว่าว(วัวลาย) ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่มาทำพิธี

พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง เจริญพรว่า ทางวัดสันมะเกี๋ยงเตรียมจัดพิธีบวงสรวง “ไอ่ไข่ วัดสันมะเกี๋ยง “ ในวันที่ 26 ธค. 2563 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป เป็นการบวงสรวงไอ่ไข่ วัดสันมะเกี๋ยง พร้อมพิธีสะเดาะเคราะห์ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยนินมต์พระครูโสภณบุญโญภาส เจ้าคณะตำบลหารแก้ว ณ วัดศรีสว่าว(วัวลาย) ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่มาทำพิธี

นอกจากนั้นทางวัดได้ทำพิธีปลุกเสก“ไม้ขนุนตายพราย แม่สองนาง” ที่แกะสลักมาจากต้นขนุนที่แห้งตายในหมู่บ้าน นำไปแกะสลักเป็นหญิงสาว 2 คน โดยไม้ขนุนตายพราย คือต้นไม้ขนุนที่ยืนต้นตาย เป็นไม้ที่ เทพ เทวดา ที่สถิตย์อยู่ในต้นไม้ขนุน ถ้าต้นใดหมดอายุไขแล้วจะพลีต้นยืนต้นตาย เรียกว่าตายพรายผู้คนต่างหามาไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลหรือนำมาบูชา เมื่อทำพิธีปลุกเสกก็จะนำมาตั้งไว้ให้ประชาชนที่เดินทางมาขอพรไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยงได้กราบไหว้ขอพร


อย่างไรก็ดีฝากเชิญชวนประชาชนเดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวง “ไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยง” จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 26 ธค. เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว นอกจากนั้นยังได้ร่วมพิธีสะเดาะเคราะห์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในปีใหม่ที่จะถึงนี้ พร้อมบูชา”ไอ่ไข่ รุ่นยกฐานะ 64″ ขอไหว้ได้รับ ซึ่งมีผู้นำไปบูชาสัมฤทธิ์ผลก็เดินทางกลับมาแก้บนด้วยการจุดประทัดแก้บนไอ้ไข่กันอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่ สหกรณ์การเกษตรพร้าวขายข้าวให้แอมเวย์เริ่มส่งปีใหม่

เกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิได้เฮ สหกรณ์การเกษตรพร้าวขายข้าวให้แอมเวย์เริ่มส่งปีใหม่

นายนิกร ทะกลกิจ ประธานสหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้ประชุมสรุปเรื่องการส่งข้าวหอมมะลิของสหกรณ์ในเดือนมกราคม พ.ศ.2564 ที่ต้องส่งข้าวหอมมะลิ 100% ให้ลูกค้ารายใหญ่ คือ แอมเวย์ กำหนดการส่งในต้นปีหน้า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเริ่มต้นปีใหม่แล้วมีลูกค้าให้ส่งข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุดในภาคเหนือเพื่อส่งถึงผู้บริโภคทั่วประเทศได้รับประทานข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพและได้มาตราฐานสากล ซึ่งมาตรฐานที่ได้รับ มีมาตราฐานการผลิตในโรงสี GMP Codex, HACCP, ISO 9001-9008, ISO 2200-2005 มกษ. 4403-2553 มาตราฐานผลิตภัณฑ์ มกษ.4000-2546, อย., ฮาลาน, OTOP และ สมส. และยังได้รับมาตรฐานอื่นๆอีกจำนวนมาก

พื้นที่ปลูกข้าวของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพร้าว อ.พร้าว อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ จ.เชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 89 กม. พื้นที่ อ.พร้าว ล้อมรอบด้วยป่าไม้และภูเขา มีพื้นที่ราบลุ่มเป็นบางส่วน มีพื้นที่ 2,021 ตรม.ประชากรส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทำให้เกษตรกรจึงรวมตัวจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรพร้าวขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2520 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ อ.พร้าวเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

อ.พร้าว มีแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำแม่งัดที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง จึงมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สหกรณ์การเกษตรพร้าว ได้ส่งเสริมให้สมาชิกปลูกข้าวคุณภาพแบบครบวงจรเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ รวมทั้งผลผลิตคุณภาพมาตราฐานตามความต้องการของตลาด สร้างมูลค่าภายใต้นโยบาย “มุ่งมั่นในการค้าการผลิตสินค้าคุณภาพและปลอดภัย เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” และสอดคลองกับแผนการเชื่อมโยงงานโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การผลิตข้าวครบวงจร มาตราฐานสินค้าเกษตร

สหกรณ์การเกษตรพร้าว มีโรงสีข้าวสารคุณภาพจากแหล่งต้นนำที่ดี การันตีระดับสากล ธนาคารข้าวสถาบันการเกษตรเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์และการเกษตรทั่วไป เป็นแหล่งสำรองเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิตทางการเกษตรรวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค ยืมไปใช้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตรและการดำรงชีพได้อีกด้วย ยังมีบริการด้านต่างๆ มี ธุรกิจสินเชื้อ ธุรกิจผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจปั๊มน้ำมัน และธุรกิจแปรรูปต่างๆอีกด้วย ผู้สนใจศึกษาดูงานและสั่งสินค้าติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด เลขที่ 256 ม.4 ถนนปิงโค้ง-พร้าว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ www.coopthai.com / proud เวลา 09.00-15.00 น.ทุกวัน(หยุดวันเสาร์-อาทิตย์).

เชียงใหม่ ชาวบ้านในตำบลบ้านธิ คัดค้านบริษัทดูดทราย เกรงทำพื้นที่เสียหายน้ำแล้ง

ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านธิ รวมตัวทำทำหนังสือคัดค้านบริษัทดูดทรายในพื้นที่ ดำเนินการเกรงทำให้พื้นที่ใกล้เคียงเสียหาย หน้าแล้งประปาหมู่บ้านแห้ง และขอตรวจสอบรายชื่อชาวบ้านลงนามประชาคมหมู่บ้าน หวั่นเอกสารไม่ถูกต้อง

ชาวบ้านหมู่ 8 ต.บ้านธิ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน โดยการนำของนายภิญโญ สมบูรณ์ชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บ้านธิ นายทวีทรัพย์ ชัยศรี เจ้าของที่ดิน และชาวบ้านหมู่ 8 อีกจำนวนหนึ่ง นำสื่อมวลชนเข้าดูพื้นที่สวนลำไยในพื้นที่หมู่ที่ 8 ซึ่งมีนายทุนเข้าดำเนินการดูดทรายในพื้นที่ใกล้เคียง และเกรงว่าเมื่อดำเนินกิจการนานๆ ไป พื้นที่สวนลำไยหลาย 10 ไร่ ที่อยู่ข้างเคียงก็จะได้รับความเสียหาย หน้าแล้งน้ำประปาหมู่บ้านแห้ง และขอให้หน่วยงานราชการตรวจสอบเอกสารลงนามประชาคมหมู่บ้านที่ยินยอมให้มีการดำเนินการดูดทราย อาจเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง

ต่อมานายสมชาย วงศ์จริยะเกษม ปลัดอำเภอบ้านธิ พร้อมนายอุ่นเย็น สายก้อน กำนันตำบลบ้านธิ ได้เดินทางมาพบปะชาวบ้าน พร้อมเอกสารชี้แจง เป็นเอกสารที่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน อนุญาติประกอบกิจการโรงงานขุด หรือ ลอก กรวด ทราย หรือดิน เมื่อวันที่ 16 พย. 2563 และได้ปิดประกาศผลการพิจารณาออกใบอณุญาติที่ สำนักงานเทศบาลตำบลบ้านธิ และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดการอนุญาตได้ พร้อมชี้แจงให้กับชาวบ้านที่เดินทางมาคัดค้านการดำเนินกิจการดูดทราย เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน จึงขอให้ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ทำหนังสือคัดค้านไปยัง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วยเทศบาลตำบลบ้านธิ ,อำเภอบ้านธิ และทางจังหวัดลำพูน เพื่อพิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเรียกร้องและข้อสงสัยของชาวบ้านในการอุนญาตให้ผู้ประกอบการเข้ามาดำเนินการดูดทรายในพื้นที่ดังกล่าวได้ โดยเฉพาะเรื่องการลงชื่อประชาคมหมู่บ้าน เกรงว่าจะมีการทุจริตเรื่องเอกสาร ซึ่งชาวบ้านได้รับคำแนะนำก็เตรียมที่จะดำเนินการทำหนังสือยื่นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


อย่างไรก็ดีผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ่อดูดทรายดังกล่าวพบกับเจ้าของบ่อดูดทราย ก็ยืนยันว่าตนเองได้ทำหนังสือถูกต้องยื่นให้กับอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน จนได้รับอุนญาติให้เข้ามาดำเนินการดูดทรายในพื้นดังกล่าว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็มีกลุ่มชาวบ้านบางส่วนที่ไม่พอใจ ออกมาเคลื่อนไหวยื่นหนังสือคัดค้านมาโดยตลอด

เชียงใหม่ ร้านลาบต้นยางจัดทำบุญทอดผ้า พร้อมชมความงดงามของพระสิงห์หนึ่งที่ทำจากไม้ไผ่สาน

ร้านลาบต้นยาง ร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังของเชียงใหม่ นำคณะเดินทางทำบุญทอดผ้าป่า และถวายโลงเย็นให้กับวัดศรีเมืองหมอก ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พร้อมร่วมชมความสวยงามของพระอินทร์สาน พระพุทธรูปสิงห์ 1 เชียงแสน ที่หลวงปู่ในรัฐฉาน เมืองเชียงตุงประเทศพม่า สานขึ้นจากไม้ไผ่มุง แล้วมอบให้กับทางวัดเป็นที่เคารพนับถือของที่ชาวไทยใหญ่

นางศรินทร สุ่นทอง เจ้าของร้านลาบต้นยาง สาขา 2  ร้านอาหารพื้นเมืองชาวเหนือชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับ หจก.ฮุยแลนด์ฟามาซี (สตรีเบนโล) กล่ม ลตย.SEA SON ” S2 และผู้มีจิตศรัทธา ได้เดินทางไปที่วัดศรีเมืองหมอก ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวไทยใหญ่ที่อาศัยอยู่ใกล้กับแนวชายแดน วัดที่นี่ก็จะเป็นวัดในรูปทรงของชาวไทยใหญ่ โดยทางคณะได้เดินทางมาทอดผ้าป่าสามัคคี พร้อมได้นำโลงเย็นมาบริจาคมอบให้กับทางวัด ถึงว่าเป็นการร่วมกันทำบุญ ซึ่งทางพระสงฆ์ของวัด ก็ได้ทำพิธีสวดบังสุกุลก่อนรับมอบโลงเย็น จากนั้นคณะก็ได้ขึ้นไปบนวิหารวัดก็พบกับพระประธานของวัดที่มีความสวยงาม ทำจากไม้ไผ่สานประดิษฐานเด่นเป็นสง่าที่หาดูได้ยาก


สอบถามพระเจตสุวรรณ จนฺทวโส เจ้าอาวาสวัดศรีเมืองหมอก เจริญพรว่า พระประธานที่อยู่ภายในวิหารวัดแห่งนี้ เรียกกันว่า พระเจ้าอินทร์สาน หรือพระพุทธรูปไม้ไผ่ที่มีพระอินทร์มาช่วยสาน เป็นพระพุทธรูปสิงห์ 1 เชียงแสน ที่ทำมาจากไม้ไผ่มุง ซึ่งเป็นไม้ไผ่ที่มีความเหนียวและแข็ง หน้าตักกว้า 6 ฟุต สูง 9 ฟุต โดยผู้สานเป็นพระหลวงปู่ที่จำวัดอยู่ที่วัดในรัฐฉาน เมืองเชียงตุง ประเทศพม่า สร้างเมื่อวันที่ 11 ธค. 2562 และขนย้ายลำเลียงมาที่วัดแห่งนี้เมื่อวันที่ 5 กพ.2563 ส่วนที่อยากได้มาประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้ก็เพราะ หากดูยากเป็นที่เคารพของชาวไทยใหญ่ ซึ่งพระอินทร์สานมีประดิษฐานที่วัดในรัฐฉาน เมืองเชียงตุง ประเทศพม่าเท่านั้น และมีน้ำหนักเบาสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายใช้คน 10 คน ก็เคลื่อนย้ายได้

เชียงใหม่ แฟนหงส์แดงลิเวอร์พูลจัดกิจจกรรมหารายได้ซื้อข้าวสารให้ นร.วัดดอนจั่น

แฟนบอลลิเวอร์พูลรวมตัวกัน เชียร์บอลพร้อมร่วมกิจกรรม หารายได้ซื้อข้าวสารให้กับนักเรียนด้อยโอกาส รร.วัดดอนจั่น

ที่ร้านสปิริตอ๊อฟแอนฟิว เชียงใหม่ ภายในโครงการ เคปาร์ค ถนนมหิดล ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านจำนหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับแฟนรักสโมสรหงส์แดงลิเวอร์พูล แชมป์ฟรีเมียร์ลีกของประเทศอังกฤษปี 2019-20 โดยทางร้านได้จัดกิจกรรมเชียร์ทีมหงส์แดงลิเวอร์พูล และร่วมทำการกุศล ทำบุญนำรายได้ไปซื้อข้างสารให้กับเด็กกับเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดดอนจั่น อำเภอเมือง เชียงใหม่ ซึ่งก็มีแฟนหงส์แดงมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จำนวนมาก

ด้านนายพชร เกียรติโภคะ หรืออั๋น แฟนพันธุ์แท้ทีมสโมสรลิเวอร์พูลในจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของร้านสปิริตอ๊อฟแอนฟิว เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ก็เป็นการรวมตัวของบรรดาแฟนคลับคนรักทีมลิเวอร์พูลในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ต้องการพบปะพูดคุยกัน และรายได้ส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ก็จะนำไปซื้อข้าวสารเพื่อบริจาคให้กับเด็กนักเรียนวัดดอนจั่น ซึ่งหากทีมลิเวอร์พูลได้ทำการแข่งขันในช่วงคู่หัวค่ำ ทางร้านก็จะจัดกิจกรรมลักษณะนี้เรื่อยๆ เป็นการรวมสังคมของแฟนบอลลิเวอร์พูล มาอยู่รวมกันเพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่แฟนบอลลิเวอร์พูลด้วยกัน