เชียงใหม่ กองกำลังผาเมืองบูรณาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมผู้ค้ายา 1 ราย พร้อมยึดยาบ้า 498,000 เม็ด อ.ฝาง

กองกำลังผาเมืองบูรณาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมผู้ค้ายา 1 ราย พร้อมยึดยาบ้า 498,000 เม็ด บริเวณจุดตรวจ บริเวณบ้านหัวนา ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่


วันที่ 28 ส.ค. 64 เวลา 08.30 น. พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ( ร้อย.ม.4 ฉก.ม.5) จัดกำลัง 3 ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ( กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. )บูรณาการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดกั้น บริเวณบ้านหัวนา ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 2 คัน จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่รถยนต์ทั้ง 2 คัน ได้หลบหนีการตรวจค้น โดยคันที่ 1 ใช้เส้นทางชนบท 3059 บ.ม่วงชุม – บ.หัวนา เมื่อถึงบริเวณป้อมตำรวจ บ.หัวนา ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยสามารถสกัดจับและได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 1 คน ส่วนคันที่ 2 หลบหนีโดยใช้เส้นทาง บ.ม่วงชุม – บ.หนองเต่า เมื่อมาถึงบริเวณ บ้านม่วงชุม ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง ได้ทำการทิ้งสัมภาระ และอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ หน่วยจึงจัดกำลังร่วมเพื่อเข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ

ผลการตรวจพบกระเป๋าเป้สีเขียว จำนวน 2 ใบ และถุงกระสอบ จำนวน 3 ใบ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 498,000 เม็ด จึงได้นำตัวผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลาง นำส่งที่ กองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ 3 กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด เพื่อขยายผลในพื้นที่


ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า กองกำลังผาเมืองได้จัดกำลังเพิ่มความเข้มในการตรวจติดตามกลุ่มขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด และการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนของจังหวัดเชียงใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ อำเภอฝาง, อำเภอแม่อาย ที่ปรากฏข่าวสารว่าจะมีการลักลอบค้ายาในพื้นที่ จึงได้วางกำลังบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสกัดกั้น อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และความไม่สงบในประเทศเมียนมา ไม่ได้ส่งผล ต่อการผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดน ซึ่ง แหล่งผลิตยังคงทำการผลิตตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า ที่สำคัญชนกลุ่มน้อย ยังคงมีเสรีในการผลิต และค้ายาเสพติดมากขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าทางชายแดนภาคเหนือ

เชียงใหม่ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 จัดพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ

ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 จัดพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดี จำนวน 210 ทุนๆ ละ 3,000 บาท จำนวน 630,000 บาท

วันนี้( 27 สค.) เวลา 09.30 น. ด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้สมาคมแม่บ้านตำรวจ โดย คุณรัตนาภรณ์ สีวลีพันธ์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ดูแลช่วยเหลือครอบครัวทายาทของข้าราชการตำรวจ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19 จึงจัดทำโครงการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจผู้ที่มีความประพฤติดี

ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5พร้อมด้วย ผศ.พรพิมล วงศ์สุข ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 และชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 จัดพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดี จำนวน 210 ทุนๆ ละ 3,000 บาท จำนวน 630,000 บาท แบ่งเป็น ทุนของสมาคมแม่บ้านตำรวจ จำนวน 182 ทุน และทุนของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 5 และ ผบช.ภ.5 จำนวน 28 ทุน

โดยมี พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.เฉลิมพล จินตรัตน์ รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5, พล.ต.ต.สุเทพ ฐาปนวรกุล ผบก.กค.ภ.5, ประธานชมรมแม่บ้าน ภ.จว.ในสังกัด และ ผู้แทนของผู้ได้รับทุนการศึกษา เข้าร่วมพิธี โดยผู้เข้าร่วมพิธีฯ ทุกท่าน ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ณ อาคารสโมสรคุ้มแก้วขวัญดาว ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เชียงใหม่ “โรฒ-2020” ถุงเพาะชำกล้าไม้ ย่อยสลายได้ ผลงานนักวิจัย ม.แม่โจ้

“โรฒ-2020” ถุงเพาะชำกล้าไม้ ย่อยสลายได้ ผลงานนักวิจัย ม.แม่โจ้ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ทำเองได้ ลดขยะ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีการใช้ถุงเพาะปลูกพืชจำนวนมาก ใช้ถุงเพาะชำปีละประมาณ 100 ล้านใบ ทำให้ประสบปัญหาปริมาณขยะพลาสติกจากภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถุงเพาะชำที่มีจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดเป็นถุงพลาสติกที่ใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 600 ปี ขึ้นไป ทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นขยะที่มีมลพิษทั้งบนพื้นดิน และบางครั้งไหลลงสู่ทะเลเป็นมลพิษต่อสัตว์น้ำ เกิดเป็นไมโครพลาสติกที่กลับมาเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดังนั้น การใช้ถุงเพาะชำที่ผลิตจากพลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของการแก้ปัญหานี้

“โรฒ-2020” (ROT -2020) วัสดุทดแทนถุงเพาะชำกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลงานวิจัยของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ศิวโรฒ บุญราศรี อาจารย์ประจำสาขาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงเป็นอีกทางเลือกในภาคการเกษตร ที่เกษตรกรทำเองได้ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ช่วยลดขยะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวโรฒ บุญราศรี กล่าวว่า “ถุงโรฒ-2020” เป็นถุงเพาะชำที่ผลิตจากการนำกระดาษ ซึ่งจะเป็นประดาษอะไรก็ได้ เช่น กระดาษคราฟท์น้ำตาล กระดาษชานอ้อย กระดาษใบสัปปะรด กระดาษใบกล้วย จากแหล่งชุมชน กระดาษเหลือใช้จากสำนักงาน มาเคลือบด้วยส่วนผสมของแป้งและน้ำยางพารา สูตรที่คิดค้นขึ้นในปริมาณที่พอเหมาะ เมื่อแห้งแล้วจึงนำมาขึ้นรูปเป็นถุงเพาะชำ โดยคุณสมบัติของยางพาราทำหน้าที่ป้องกันการซึมผ่านของน้ำ แป้งข้าวเหนียวทำให้ย่อยสลายได้ง่าย กระดาษช่วยยึดโครงสร้างถุงให้แข็งแรง ดังนั้น ในการทำถุงเพาะชำดังกล่าววัสดุแต่ละชนิดช่วยเสริมคุณสมบัติซึ่งกันและกันทำให้ได้ถุงเพาะชำกล้าไม้ที่สามารถใช้งานได้ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ในระยะเวลาเพียง 7 เดือน – 1 ปี เท่านั้น”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิวโรฒ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า “ถุงโรฒ-2020 นอกจากจะมีประโยชน์ทางตรงในการเพาะชำกล้าไม้แล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายด้าน เช่น ด้านวิชาการ ถุงโรฒ2020 (rot2020) เป็นวัสดุย่อยสลายทางชีวภาพชนิดใหม่ ที่สามารถผลิตได้ง่าย ด้านสังคม ด้านชุมชนและพื้นที่ ด้านสิ่งแวดล้อม ถุงโรฒ2020 (rot2020) เป็นถุงเพาะชำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมชนิดใหม่ที่คนในชุมชน เกษตรกร สามารถผลิตใช้ได้เอง อีกทั้ง ช่วยสนับสนุนนโยบายของรัฐในการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตร ยางพารา และมันสำปะหลัง วัสดุชีวภาพ วัสดุสีเขียว และเศษฐกิจหมุนเวียน รวมถึง ด้านเศรษฐกิจ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ยางพารา มันสำปะหลัง ได้ถุงเพาะชำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เกิดการไหลวนของระบบเศษฐกิจ ในประเทศไทยการเพาะชำกล้าไม้มีการใช้ถุงเพาะชำประมาณ 100 ล้านใบต่อปี นอกจากนี้ยังมีความต้องการของภาคเอกชนอื่น ๆ ที่ต้องการปลูกผักอินทรีย์ ปลูกผักปลอดภัยอีกจำนวนมาก แม้ในขณะนี้ต้นทุนการผลิตจะอยู่ที่ประมาณใบละ 80 สตางค์ แต่ในอนาคตซึ่งกำลังอยู่ในการขอจดสิทธิบัตรเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ จะทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลง จะเป็นอีกทางเลือกให้กับเกษตรกรได้ทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

“โรฒ-2020” (ROT- 2020) วัสดุทดแทนถุงเพาะชำกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับรางวัลชมเชยประเภทประชาชนทั่วไปจากการประกวดใน “โครงการประกวดบรรจุภัณฑ์วัสดุทดแทนถุงเพาะชำกล้าไม้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” จัดขึ้นโดยกรมป่าไม้ ซึ่งเข้ารับมอบเกียรติบัตร เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 โดยมี นายกมล นวลใย ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) เป็นผู้แทนมอบ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.ดร.ศิวโรฒ บุญราศรี สาขาเทคโนโลยียางและพอลิเมอร์ คณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 090 519 4926 E-mail: siwarote.b@mju.ac.th

ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ // รายงาน…

เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จัดสิ่งของ ปันน้ำใจ บรรเทาภัยโควิด-19 ให้กับชาวบ้าน

วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ จัดสิ่งของ ปันน้ำใจ บรรเทาภัยโควิดให้กับชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลดอยสะเก็ด ในกิจกรรม พลังบวร ปันรัก ปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน สู้ภัยโควิด-19

ที่อาคารเอนกประสงค์ วัดพระธาตุดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พระราชโพธิวรคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ร่วมกับคณะสงฆ์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ,สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลดอยสะเก็ด นำชาวบ้าน ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลดอยสะเก็ดจำนวน 100 คน รับมอบสิ่งของอาหารแห้งและน้ำดื่ม เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นสู้ภัยโควิด-19 ให้กับชาวบ้านในพื้นที่


สำหรับกิจกรรม พลังบวร ปันรัก ปันน้ำใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน สู้ภัยโควิด-19 ภายในโครงการพลังบวร ชุมชนคุณธรรม ลานธรรม ลานวิถีไทย พุทธศักราช 2564 นั้น จัดโดยคณะสงฆ์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ จะได้ดำเนิการมอบส่งของอาหารและน้ำดื่มให้ชาวบ้านเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่อื่นๆ กันต่อไป

 

เชียงใหม่ คนใจบุญกลุ่มคนฮาเล่เดวิทสันเชียงใหม่ นำข้าวกล่อง 400 ชุด น้ำดื่ม 400 ขวด และหน้ากากอนามัย 400 ชิ้น

คนใจบุญกลุ่มคนฮาเล่เดวิทสันเชียงใหม่ นำข้าวกล่อง 400 ชุด น้ำดื่ม 400 ขวด และหน้ากากอนามัย 400 ชิ้น นำไปมอบให้กับนายกเทศมนตรีหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำไปมอบให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จากโควิคขณะที่วันนี้เชียงใหม่ มีผู้ป่วยเสียชีวิต 2 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตเป้น 33 ราย และพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 62 ราย

ที่เทศบาลตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่นาย ผดุง นาฎงามขำ ประธานชมรมรถฮาเล่เดวิทสัน กลุ่มฮอบ เชียงใหม่ พร้อมเพื่อนสมาชิก ขี่รถฮาเล่เดวิทสัน จำนวนกว่า 20 คัน นำอาหารสำเร็จรูป ทั้งผัดไทย ข้าวไก่ทอด ข้าวกระเพรา น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย จำนวน 400 ชุด นำไปมอบให้กับนาย ณรงค์ ธิลา นายกเทศมนตรีตำบลหนองควาย เพื่อนำไปมอบให้กับชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบโควิค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งในพื้นที่ตำบลหนองควาย ยังมีโรงงานคัดแยกไข่ไก่ บ้านสันผักหวาน หมู่ที่ 11 ตำบลหนองควาย ที่ยังพบพนักงานติดเชื้อโควิคอีกจำนวนมาก และมีการรักษาแบบระบบบั้บเบิ้ลแอนด์ซีล เพื่อไม่ให้เชื้อหลุดออกมาภายนอก และยังคงพบผู้ป่วยรายใหม่ต่อเนื่อง


นายผดุง บอกว่ากิจกรรมทำความดีตลอดเดือนสิงหาคม 2564 จะทำกิจกรรมทุกสัปดาห์ โดยจัดทำอาหารข้าวกล้อง น้ำดื่มหน้ากากอนามัย มอบผ่านหน่วยงานท้องถิ่น และให้นำไปมอบ ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิค ทั้งผู้ป่วย ผู้ถูกกักตัวในบ้าน เพื่อความปลอดภัยในการเว้นระยะห่าง และลดความเสี่ยง


ขณะที่วันนี้เชียงใหม่ พบผู้ป่วยโควิคเสียชีวิต 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมรวม 33 ราย และวันนี้ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 62 ราย เป็นผู้ป่วยภายในพื้นที่จำนวน 37 ราย มาจากนอกพื้นที่จำนวน 25 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 6,247 ราย รักษาหายจำนวน 5,398 ราย ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลจำนวน 784 ราย

เชียงใหม่ นำต้นขนุนอายุกว่า 100 ปี มาแกะสลักลักษณะพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร นำไว้ภายในวัดพระธาตุดอยคำ

นำต้นขนุนอายุกว่า 100 ปี มาแกะสลักลักษณะพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร มีความสูง 170 เซนติเมตร ไว้ภายในวัดพระธาตุดอยคำ ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ นอกเหนือจากหลวงพ่อเจ้าทันใจ ของวัดพระธาตุดอยคำที่มีศรัทธาประชาชนนำดอกมะลิมาถวายเพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่โด่งดัง หลังแกะสลักเสร็จนำมาประดิษฐาน บางคนมาขอพรอธิษฐาน ขอเลขเด็ดก็ได้ไปหลายงวด เชื่อต้นขนุนที่มีอายุกว่า 100 ปีต้นนี้ จะมีความศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบกับพระครูสุนทร เจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ พร้อมกับได้พาผู้สื่อข่าวและบรรดาลูกศิษย์ไปดูความสวยงามของพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ที่ได้ทำการปิดทองพระทั่วทั้งองค์พระพุทธรูปแล้ว ตั้งอยู่บริเวณลานด้านหน้าจุดชมวิวของวัดพระธาตุดอยคำที่มีความสวยงาม


พระครูสุนทร เจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ เจริญพรว่า ต้นขนุนอายุกว่า 100 ปีต้นนี้ มีชาวบ้านได้นำมาถวายให้กับทางวัดเชื่อกันว่าจะช่วยหนุนดวง จึงได้นำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งหลังแกะสลักมาและนำมาตั้งไว้ภายในวัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้ ก็มีคนที่มาขอพรและถูกหวยไปแล้วหลายคน ซึ่งคนโบราณนิยมแกะสลักต้นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล เป็นชื่อที่หนุนนำ หนุนโชคหนุนลาภ คนโบราณจึงนิยมนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคล เพื่อให้คนนำไปบูชาแล้วเกิดโชคลาภอธิษฐานสิ่งใดได้ดังใจปรารถนา ซึ่งนิยมนำมาสร้างเป็นพระพุทธรูป


เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำเจริญพรอีกว่า ในการขอพรก็และแต่เราจะตั้งจิตอธิษฐานให้ช่วยขอเรื่องอะไรก็ขอท่านเพื่อให้สมปรารถนา สำหรับองค์นี้อายุประมาณ 100 กว่าปี แกะด้วยต้นขนุน เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งขณะนี้ได้นำมาตั้งไว้ที่บริเวณลานจุดชมวิววัดพระธาตุดอยคำเบื้องต้นไปก่อน เพื่อหาสถานที่เหมาะสมกันต่อไป


อย่างไรก็ดีสำหรับบรรยากาศที่วัดพระธาตุดอยคำก็ยังมีศรัทธาประชาชน ต่างทะยอยกันเดินทางขึ้นไปสักการะและขอพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดไม่ขาดสาย โดยเฉพาะขอพรดอกมะลิจากหลวงพ่อพระเจ้าทันใจ ซึ่งเมื่อขอพรสมปรารถนาแล้วก็จะนำดอกมะลิมาแก้บน ขณะที่บริเวณต้นไม้ขนุนอายุกว่า 100 ปี ที่ทางวัดได้นำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ที่พึ่งแกะสลักได้เพียง 4-5 เดือน ก็มีผู้ที่มาขออธิษฐานสิ่งต่างๆ ขอพรขอเลขเด็ด ซึ่งก็มีผู้ที่มาขอเลขเด็ดแล้วได้สมฤทธิ์ผลไปหลายราย โดยเชื่อกันว่าการนำพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรที่แกะสลักจากต้นขนุนมานั้น จะช่วยให้ชีวิตและสิ่งต่างๆ ได้ขึ้น

เชียงใหม่ นายกเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ เชียงใหม่ลูกชาวนา นำผู้บริหาร พนักงาน ลงแขกปลูกข้าวแบบนิวนอมอล

นายกเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ เชียงใหม่ลูกชาวนา นำผู้บริหาร พนักงาน ลงแขกปลูกข้าวแบบนิวนอมอล ในพื้นที่ 4 ไร่ เพื่อนำผลผลิตไปมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง คนชราและนักเรียน ที่ยากจนในพื้นที่ หรือ ปลูกวันแม่เกี่ยววันพ่อ

นายลักษ บุญชละ นายกเทศบาลตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นำคณะผู้บริหาร พนักงานกองคลัง พนักงานกองเกษตร พนักงานกองการศึกษา เจ้าหน้าที่กองช่าง เจ้าหน้าที่สำนักปลัด พนักงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงแขก ถอนต้นกล้าข้าว และปลูกข้าว แบบโบราณ ในพื้นที่ 4 ไร่ โดยมีการแบ่งกลุ่มไม่เกิน 10 คน ลงปลูกข้าวในแปลงนาและมีการเว้นระยะห่าง แบบนิวนอ มอล ตามาตรการทางสาธารณสุข บริเวณแปลงนาบ้านชาวนาน้อย บ้านท่าร้องขี้ควาย ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตามโครงการปลูกวันแม่เกี่ยววันพ่อ เพื่อที่จะนำผลผลิตข้าวเปลือก ที่จะเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกาน 2564 คาดว่าจะได้ข้าวเปลือกประมาณ 3,000 กิโลกรัม และนำไปสีเป็นข้าวสาร ก็จะเหลือข้าวสารประมาณ 1,500 กิโลกรัม


ทั้งนี้เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง คนชรา และเด็กนักเรียนที่ยากจน ในที่ตำบลสันผีเสื้อ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และยังเป็นการส่งเสริมฟื้นฟูอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น การปลูกข้าวดำนา ซึ่งนับวันจะเหลือน้อย ในเขตพื้นที่อำเภอเมือง ที่นาข้าวในเขตพื้นที่อำเภอเมือง กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรเกือบหมด เหลือเพียง ตำบลสันผีเสื้อ ที่ยังมีการทำนาแบบดั่งเดิม แต่เหลือน้อยเต็มที และค่อยหมดไปจากความเจริญของเมือง

เชียงใหม่ กองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มขบวนการลักลอบค้ายา ยึดยาบ้า 600,000 เม็ดพร้อมฝิ่น ชายแดน

กองกำลังผาเมืองปะทะกลุ่มขบวนการลักลอบค้ายา ยึดยาบ้า 600,000 เม็ดพร้อมฝิ่น ชายแดน บ้านห้วยปู อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 7 ส.ค. 64 เวลา 08.30.พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า เมื่อ เวลา 04.00 ที่ผ่านมา กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง ( บก.ควบคุม ทพ.ศปก.ทภ.3 ) จัดกำลังลาดตระเวนเฝ้าตรวจพื้นที่ล่อแหลมตามแนวชายแดน บริเวณ บ.ห้วยปู ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตรวจการณ์พบกลุ่มบุคคล ประมาณ 7 – 8 คน แบกสัมภาระ เดินเข้ามาตามเส้นทางในภูมิประเทศ หน่วยทหารจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว เมื่อพบเจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ ประมาณ 5 นาที ก่อนยิงสกัดเพื่อเปิดทางหนี

ผลการปะทะฝ่ายเราปลอดภัย ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 ได้จัดกำลังเพิ่มเติมเพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ และตรวจสอบพบ เป้ดัดแปลงจำนวน 6 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดประเภทที่ 1(ยาบ้า) จำนวนประมาณ 600,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่น) จำนวน 5 ก้อน น้ำหนัก 8 กิโลกรัม ปัจจุบันหน่วยได้นำของกลางนำส่ง เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจแม่อาย เพื่อติดตามขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า ผลจาการลาดตระเวนเฝ้าตรวจของกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน ทั้งเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและเพื่อการสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ ทำให้หน่วยสามารถสกัดกั้นการลักลอบค้ายาได้เพิ่มขึ้น จะเห็นได้ว่า จากสถานการณ์โควิด 19 และความไม่สงบในประเทศเมียนมา สถานการณ์ดังกล่าว ไม่ได้ส่งผล ต่อการผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดน แหล่งผลิตยังคงสามารถทำการผลิตได้ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า และชนกลุ่มน้อยยังคงมีเสรีในการผลิตและค้ายาเสพติดมากขึ้น

ทั้งนี้จากการที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีการล็อกดาวน์ และมีมาตรการเข้มงวดในการเดินทางเข้าประเทศรวมถึงการเดินทางข้ามแขวง เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดถูกจำกัดพื้นที่ในการลำเลียง กลุ่มขบวนการค้ายาจะยังคงมีความพยายามลักลอบนำเข้าทางภาคเหนือเพิ่มขึ้น ดังนั้นหน่วยทหารในพื้นที่ยังคงเพิ่มความเข้มในการวางกำลังสกัดกั้นลาดตระเวน สกัดกั้นตามแนวชายแดนด้านจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเข้าพื้นที่ตอนใน

เชียงใหม่ กลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮาเล่ย์เดวิทส์ ร่วมกันมอบข้าวกล่อง หน้ากากอนามัยและน้ำดื่ม

กลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮาเล่ย์เดวิทสัน HOG Chiangmai ร่วมกันมอบข้าวกล่อง หน้ากากอนามัยและน้ำดื่ม นำไปมอบให้กับประชาชนที่ถูกกักตัว ในหอพักของชุมชน และให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่เทศบาลตำบลสันผีเสื้อ จังหวัดเชียงใหม่

นายผดุง นาฎงามขำ ประธานกลุ่มฮาเล่ย์เดวิดสัน HOG Chiangmai พร้อมกับสมาชิกเดินทางไปมอบข้าวกล่องหน้ากากอนามัย และน้ำดื่มจำนวน 400 ชุด ให้กับนายลักษ์ บุญชละ นายกเทศมนตรีตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบ จากนั้นได้ร่วมกันนำข้าวกล่อง หน้ากากอนามัย และน้ำดื่มไปมอบให้กับชาวบ้าน ที่ถูกกักตัวในหอพัก บ้านสันผีเสื้อสามัคคี หมู่ที่ 9 ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จำนวน 7 คน ที่มีคนในหอพักแห่งนี้ ติดเชื้อโควิค จำนวน 7 คน จากคัสเตอร์คนขับรถขนส่งสินค้า และมีผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 1 ราย ในวันนี้ โดยทางโรงพยาบาล ออกใบรับรองแพทย์ ให้กับผู้ป่วย มายืนยันด้วย แต่ทางชุมชนยังจะให้มีการกักตัวต่ออีก 14 วัน เพื่อไม่ให้มาอยู่ร่วม กับผู้ที่กักตัวในหอพัก


นาย ผดุง ประธานกลุ่ม ฮาเล่ย์เดวิทสัน ฮอบ เชียงใหม่ ยังบอกอีกว่า ทางกลุ่มฯ จะมอบข้าวกล่อง หน้ากากอนามัย และน้ำดื่มจำนวน 400 ชุด ทุกสัปดาห์ ตลอดเดือนสิงหาคม 2564 เพื่อช่วยเหลือกันในยามวิกฤตโควิค คนเชียงใหม่ไม่ทิ้งกัน

เชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดร่วมกับเทศบาลสันปูเลย แจกอาหารให้ชาวบ้านและคนงานตกงานกระทบโควิด-19

เจ้าอาวาสวัดกู่ม่านมงคลชัย พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจัดอาหารแจกจ่ายให้กับชาวบ้านหลังได้รับผลกระทบจากชาวบ้านและคนงานก่อสร้างในพื้นที่ไม่มีงานทำงาน จึงต้องช่วยกันจัดหาอาหารสดและอาหารแห้ง แจกจ่ายจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบายไวรัสโควิด-19 จะเบาบางลงไป

ที่วัดกู่ม่านมงคลชัย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พระครูปลัดวีระ อคฺคจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดกู่ม่านมงคลชัย พร้อมด้วย นายสาธิต คำหน่อแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในนามเครือข่ายโครงการปันสุข อันประกอบด้วยเครือข่ายเชียงใหม่ฟู้ดแบ้งค์ กลุ่มครัทธาวัดกู่ม่านมงคลชัย และกลุ่มคนงานหญิงเพื่อความยุติธรรม จัดกิจกรรมร่วมกันรับของบริจาค จากผู้คนและร้านค้าห้างหุ้นส่วน เครือข่ายภาคประชาสังคมต่างๆ ทั้งของสดและของแห้ง ที่มีความจำเป็น ต่อการดำรงชีวิต ของคนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด- 19 เช่น ตกงาน ถูกลดเวลาทำงาน และถูกปิดกิจการ โดยเปิดรับของ บริจาค และจัดสรรของสดบางส่วนที่แบ่งจากที่นำไปแจกในชุมชนคนงาน ที่ได้รับผลกระทบ มาจัดทำเป็นข้าวกล่อง ตั้งแจกให้กับบุคคลที่เดือดร้อนทั่วไป ที่หน้าวัดกู่ม่านมงคลชัยช่วงเที่ยง


นายสาธิต คำหน่อแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลสันปูเลย กล่าวว่า เป็นโครงการส่งต่ออาหารปลอดภัยสู่พี่น้องชาวตำบลสันปูเลย ซึ่งสถานการณ์ในช่วงนี้อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุกพื้นที่ได้รับผลกระทบกันทั้งหมด โดยเฉพาะคนถูกหยุดพักงาน จึงขาดรายได้ เพราะฉะนั้นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มาช่วยกันก็คือ เรื่องอาหาร เราจึงมองเห็นว่าการจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ เพื่อใช้ในการป้องกันการอดยาก และป้องกันการแพร่ระบาดระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางเทศบาลจึงได้ร่วมกับวัดกู่ม่านมงคลชัย ผู้มีจิตศรัทธา ประสานกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานส่งต่อการอาหารที่ปลอดภัยให้กับพี่น้องชาวตำบลสันปูเลย มีทั้งอาหารสดและอาหารแห้ง ซึ่งจะมีการจัดอาหารให้ทุกมื้อเที่ยงทุกวันจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดของชาวตำบลสัยปูเลยจะเบาบางลงไป