เชียงใหม่ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ เชียงใหม่ จัดงาน “Thailand Local BCG Plus Expo @ Chiang Mai” (คลิป)

กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ภาคเหนือ “Thailand Local BCG Plus Expo @ Chiang Mai” ที่ จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมขีดความสามารถทางการค้าของผู้ประกอบการไทยในกลุ่มสินค้าที่มีความนิยมสูงในตลาดโลก

วันนี้ (9 ก.พ.67) ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต นางวรรณภรณ์ เกตุทัต รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการค้าภายในประเทศ และ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันเปิดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจ ภาคเหนือ “Thailand Local BCG Plus Expo @ Chiang Mai” ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้ร่วมกันจัดขึ้นระกว่างวันที่ 8 – 12 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถทางการค้าของผู้ประกอบการไทย

โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินกิจกรรมในหลักหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มขีดจำกัดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำสู่ผู้บริโภค Local BCG Plus ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ส่งเสริมผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าที่มีความนิยมสูงในตลาดโลก และในครั้งนี้เป็นการจัดงานในส่วนของภาคเหนือ โดยได้เลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางในการจัดงาน ภายใต้ชื่องาน “Thailand Local BCG Expo @ Chiang Mai”

ภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ Local BCG Plus จาก 17 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมจำนวนกว่า 100 ราย 100 คูหา ซึ่งล้วนคัดสรรมาเป็นอย่างดี อาทิ กลุ่มสินค้า BCG เช่น สินค้าปลอดภัย สินค้าอินทรีย์ สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, กลุ่มสินค้าอัตลักษณ์ อาทิ สินค้า GI สินค้าตามโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และ กลุ่มสินค้านวัตกรรม

นอกจากนี้ภายในงานยังได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business matching) ให้กับผู้ประกอบการภายในงาน เพื่อสร้างเครือข่ายและโอกาสทางการค้า โดยมีมูลค่าทางการค้ากว่า 250 ล้านบาท รวมทั้งยังมีกิจกรรมการสาธิต workshop กิจกรรมการจำหน่ายสินค้านาทีทองการประมูลสินค้าราคาเริ่มต้น 1 บาท การแจกคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาท เพื่อแลกซื้อสินค้าภายในงาน และมีกิจกรรมบันเทิงอีกมากมาย ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมภายในงาน

เชียงใหม่ ชาวบ้านและประธานชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยว และยื่นหนังสือ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสื่อมวลชนให้เข้ามาตรวจสอบ การเลือกตั้ง กรรมการชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่(คลิป)

ชาวบ้านและประธานชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยว และยื่นหนังสือ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และสื่อมวลชน ให้เข้ามาตรวจสอบ การเลือกตั้ง กรรมการชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีการแบ่งเขตไม่เป็นธรรม จนเกิดความแตกแยกในชุมชน และว่าที่ผู้สมัครถูกถอนชื่อออกโดยไม่แจ้งให้ทราบ และมีนักการเมืองท้องถิ่นบางคนเข้ามากดดันในชุมชน


ประธานชุมชนและชาวบ้าน หลายชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เกือบ 100 คน ออกมาเคลื่อนไหว และยื่นหนังสือถึงสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้ามาจับตาการเลือกตั้งกรรมการชุมชน ที่จะมีการเลือกตั้ง ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่จะถึงนี้ ซึ่งชาวบ้านมีข้อสังเกต หลายชุมชน มีการแบ่งเขต ของชุมชน โดยที่ชาวบ้านในชุมชน ไม่ทราบมาก่อน ทำให้ประชาชน ที่มีส่วนได้ส่วนเสียไม่สามารถไปลงคะแนน ให้กับบุคคลที่จะเลือกได้ รวมทั้งว่าที่ผู้สมัครบางคนถูกถอนชื่อออกโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ขาดโอกาส

และในวันที่สมัคร เลือกตั้งกรรมการชุมชน มีนักการเมืองท้องถิ่น มาแทรกแซง ชี้นำ ในการรับสมัคร ในสถานที่ของเทศบาลนครเชียงใหม่ จนเกิดความกดดันและวุ่นวาย ทำให้ผู้ลงสมัครเลือกตั้ง เป็นกรรมการชุมชน การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เกรงว่าจะไม่ถูกระเบียบ และไม่มีความเป็นธรรม ต่อผู้สมัครและประชาชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชุมชนบางแห่ง มีการแบ่งเขตใหม่ ให้มีชุมชนใหม่เกิดขึ้น แยกจากเขตเดิม จนเกิดความแตกแยกในชุมชน จึงรวมตัวกันเรียกร้อง และยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาตรวจสอบการเลือกตั้ง และควบคุมการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมและโปร่งใส

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล “ล่นเป๋นยา” ครั้งที่ 2 เพื่อสุขภาพที่ดี ในโอกาสครบรอบ 60 ปี (คลิป)

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล ล่นเป๋นยาครั้งที่ 2 เพื่อสุขภาพที่ดี ในโอกาสครบรอบ 60 ปี มีประชาชนและศิษย์เก่าและนักศึกษา ร่วมวิ่งจำนวนมาก พร้อมสีสันนักวิ่ง แต่งแฟนซีเป็นแม่เต่า และบางรายนำลูกเล็ก นั่งรถเข็นวิ่งไปด้วย ในรุ่นแฟมิลี่รัน


ศาตราจารย์ ด็อกเตอร์ นายแพทย์ พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดกิจกรรมวิ่งการกุศล ล่นเป๋นยาครั้งที่ 2 แบ่งเป็น 3 ระยะ ทั้ง วิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และวิ่งฟันรัน 5 กิโลเมตรและแฟมิลี่รัน 5 กิโลเมตร และยังมีการประกวดแต่งแฟนซี่ ของคณะเภสัชศาสตร์ ในโอกาสครบรอบ 60 ปี โดยปล่อยตัวออกจากจุดสตาร์ท บริเวณศาลาอ่างแก้ว วิ่งไปตามเส้นทาง ภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดยมีนักวิ่ง มากถึง 850 คน บางรายนำครอบครัว และลูกนั่ง ในรถเข็นวิ่งไปด้วย หรือบางคนก็จะแต่งแฟนซีเป็นแม่เต่า ซึ่งคนที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก รุ่นมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 37 นาที ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชน หันมาออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี หากมีสุขภาพที่ดี ก็จะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ จึงใช้ชื่อว่า ล่นเป๋นยา หรือวิ่งเป็นยา ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่ละปีคณะเภสัชศาสตร์ ผลิตนักศึกษา เป็นเภสัชกร ออกมารับใช้สังคม มานานถึง 60 ปี โดยมีศิษย์เก่า มาร่วมกิจกรรม และร่วมสนับสนุน ให้กับคณะเภสัชศาสตร์ ทั้งบริษัทสมูทอี และร้านขายยาดาราเภสัช

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดการเรียนการสอน ระดับปริญญาตรี มีนักศึกษา จำนวน 900 คน และมีปริญญาโทและปริญญาเอก อีกประมาณ 100 คน แต่ละปีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สามารถผลิตเภสัชกร ได้ประมาณ 160 คน ซึ่งทั่วประเทศ มีสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 19 แห่ง ผลิตเภสัชกร ได้ประมาณ 3,000 คน ต่อปี ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอเนื่องจากมีการขยายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ขยายโรงพยาบาลและรวมไปถึงจำนวนร้านขายยาที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

เชียงใหม่ อำเภอไชบปราการ จัดเดินวิ่งชมซากุระแก้ปัญหาไฟป่า เส้นทางยุทธศาสตร์บ้านสินชัยจนถึงบ้านอรุโณทัย (คลิป)

นายอำเภอไชบปราการ เปิดงานเดินวิ่งชมซากุระแก้ปัญหาไฟป่า ระยะทาง 6.5 กิโลเมตร เพื่อให้เดินและวิ่งเพื่อชมดอกซากุระตลอดเส้นทางยุทธศาสตร์บ้านสินชัยจนถึงบ้านอรุโณทัย

อำเภอไชยปราการจังหวัดเชียงใหม่เป็นอำเภอที่มีพื้นที่เป็นภูเขารอบล้อมและมีปัญหาไฟป่าในช่วงหน้าแล้ง แต่เนื่องด้วยอำเภอไชยปราการมีความสวยงามตามธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นภูเขาดอกไม้ตามธรรมชาติดอกซากุระป่าซึ่งจะมีความสวยงามตามเส้นทางยุทธศาสตร์ยาว 10 กว่ากิโลเมตร ตั้งแต่บ้านอรุโณทัยอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยาวจนถึงดอยอ่างขางอำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่ และเส้นทางบ้านใหม่หนอง บัวอำเภอไชยปราการยาวถึงดอยอ่างขางอำเภอฝางจังหวัดเชียงใหม่

ทางสวนราชการโดยนายปฏิกร เอี่ยมสะอาด นายอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ได้จัดเดินวิ่งการกุศลเพื่อหาทุนช่วยเหลือแก้ปัญหาไฟป่าในช่วงหน้าแล้ง เพื่อให้ธรรมชาติต้นไม้ยังคงอยู่ให้ความสวยงามในพื้นที่เงินทุนต่างๆ และจัดซื้ออุปกรณ์ในการดับไฟป่าและเป็นเสบียงอาหารสมทบกับกลุ่มจิตอาสาไฟป่าในอำเภอไชยปราการจะเกิดขึ้นมากในช่วงหน้าแล้งแต่ตั้งแต่ ปี 66 มาก็มีความหนาแน่นเบาบางลงเพราะว่าประชาชนให้ความร่วมมือในการช่วยกันดูแลรักษาในปี 2567 ก็คาดว่าจะมีไฟป่าเบาบางมากกว่าทุกปีเพราะว่าประชาชนทุกคนได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือในการร่วมกันอนุรักษ์รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้มีความสวยงามคงทนถาวรและเกิดความสวยงามกับบ้านเมืองในพื้นที่อำเภอไชยปราการจังหวัดเชียงใหม่

( 4 กพ.67) ตั้งแต่เวลา 05:00 น. จนถึง 10:00 น. ทางอำเภอได้จัดวิ่งระยะทาง 6.5 กิโลเมตรเพื่อให้เดินและวิ่งเพื่อชมดอกซากุระตลอดเส้นทางยุทธศาสตร์บ้านสินชัยจนถึงบ้านอรุโณทัยมีประชาชนเยาวชนกำนันผู้ใหญ่บ้านเทศบาลและองค์การบริหาร ส่วนตำบลที่ให้ความร่วมมือช่วยกันสนับสนุนตลอดจนนักวิ่งจากต่างต่างจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงและเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือแก้ปัญหาไฟป่าใน

วันนี้ในการจัดงานเดินวิ่งชมดอกซากุระนี้ทางชาวบ้านหรือหมู่บ้านสินชัยตลอดจนผู้ใหญ่บ้านบ้านสินชัยได้ให้ความร่วมมือจัดสถานที่ทั้งตลอดเส้นทางในการเดินวิ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเจ้าหน้าที่ทหารตลอดจนจิตอาสาชรบ โรงพยาบาลไชยปราการ คณะครูนักเรียนในพื้นที่ช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับนักวิ่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด สำหรับนักท่องเที่ยวก็มาชมและสัมผัสได้ในช่วงนี้เพราะดอกซากุระป่าหรือนางพญาเสือโครงกำลังทะยอยบานสองข้างทางถนน

เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยคำ เตรียมจัดสร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณขนาดใหญ่สูง 19 เมตร งบประมาณการสร้าง 17 ล้านบาท(คลิป)

วัดพระธาตุดอยคำ อำเภอแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมจัดสร้างองค์ท้าวเวสสุวรรณมีความสูง 19 เมตร ใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 17 ล้านบาท ถือเป็นองค์ท้าวเวสสุวรรณที่สูงที่สุดในเชียงใหม่

พระครูสุนทร เจติยารักษ์ (ครูบาพิณ) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ เจริญพรว่า สำหรับท้าวเวสสุวรรณคนพื้นบ้านเรียกว่ายักษ์ แต่ความจริงก็คือท้าวเวสสุวรรณ ผู้มีฤทธิ์มากเปลี่ยนเหมือนยักษ์เลย จึงเรียกว่าท้าวเวสสุวรรณ โดยเดิมวัดพระธาตุดอยคำ เป็นที่อยู่ของยักษ์ 3 พ่อแม่ลูก เรียกว่า ยักษ์ปู่แสะ ยักษ์แม่ย่าแสะและยักษ์พ่อปู่วาสุเทพฤาษี ทางวัดพระธาตุดอยคำจึงได้นำเอาท้าวเวสสุวรรณมาจัดสร้าง และประดิษฐานไว้ที่วัดพระธาตุดอยคำ เพราะท้าวเวสสุวรรณก็คือยักษ์ เป็นบิดาของยักษ์ทั้งหลาย โดยวันที่ 6 เมษายน 2567 จะมีเททองหล่อองค์ท้าวเวสสุวรรณขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 19 เมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 17 ล้านบาท นำมาประดิษฐานบริเวณลานด้านหน้าของวัดพระธาตุดอยคำ เพื่อให้คณะศรัทธาประชาชนที่เดินทางขึ้นมาบนวัดพระธาตุดอยคำ ได้ร่วมสักการะขอพระเพื่อเป็นสิริมงคล

สำหรับบรรยากาศบนวัดพระธาตุดอยคำ ประชาชนผู้ที่เดินทางขึ้นมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนวัดระธาตุดอยคำ ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุดอยคำ สร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ,หลวงพ่อทันใจ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา

ปัจจุบันหลวงพ่อทันใจ วัดพระธาตุดอยคำ มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทางมาขอพรบนบานแล้ว เมื่อประสบความสำเร็จ ก็จะนำดอกมะลิมาแก้บน ส่วนภายในวิหารวัดพระธาตดอยคำก็ประดิษฐาน พระรอดหลวง อายุกว่า 1,300 ปี เป็นพระรอดหินทรายที่มีอายุเก่าแก่

นอกจากนั้นทางระเบียงวัดก็มีลานจุดชมวิว สามารถมองเห็นด้านหลังของหอคำหลวง ภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์และตัวเมืองเชียงใหม่ทางทิศใต้ได้บางส่วน เหมาะที่จะเป็นจุดถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้

 

เชียงใหม่ นบ.ยส.35 สรุปภาพรวมการดำเนินงานรอบ 1 เดือนในพื้นที่ 2 จังหวัด ยึดยาบ้า 24 ล้านเม็ดจับกุมผู้ต้องหา 36 ราย คนร้ายเสียชีวิต 2 ศพ(คลิป)

นบ.ยส.35 สรุปภาพรวมการดำเนินงานรอบ 1 เดือนในพื้นที่ 2 จังหวัด ยึดยาบ้า 24 ล้านเม็ดจับกุมผู้ต้องหา 36 ราย คนร้ายเสียชีวิต 2 ศพ ตั้งเป้าทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติดและวงจรทางการเงิน ของนักค้ายาตามแนวชายแดน


วันที่ 2 ก.พ.67 เวลา 09.00 น. ที่ นบ.ยส.35 จังหวัดเชียงใหม่ พลโทนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 เปิดเผยจากนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ให้มีการสกัดกั้นยับยั้งยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ อย่างเป็นรูปธรรมจึงได้กำหนดพื้นที่เร่งด่วนใน 5 อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ และ 6 อำเภอชายแดนจังหวัดเชียงราย ได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกำลังทหาร, ตำรวจ, ป.ป.ส. และ ฝ่ายปกครอง ห้วงปฏิบัติงาน 10 เดือน(1 ธ.ค.66 – 30 ก.ย.67)

โดยในห้วงที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานได้มีการเพิ่มศักยภาพในการสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดน ไม่ให้มีการลักลอบลำเลียงขนส่งเข้ามายังพื้นที่ตอนใน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2567 หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 มีผลการดำเนินงานด้านการสกัดกั้นและจับกุมจากเหตุการณ์สำคัญในการปฏิบัติงาน 13 เหตุการณ์ โดยผลจากการการลาดตระเวน การตั้งจุดตรวจจุดสกัดการปิดล้อมตรวจค้นและการปะทะในพื้นที่ จำนวน 261 ครั้ง ได้ผู้ต้องหาจำนวน 36 คน กลุ่มผู้ลำเลียงเสียชีวิตจำนวน 2 ศพ และยึดของกลาง ยาบ้า จำนวน 24 ล้านเม็ดเศษ ไอซ์ จำนวน 352 กก.

อย่างไรก็ตาม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ หรือ นบ.ยส.35 มีเป้าหมายในการทำลายโครงสร้างเครือข่ายการค้ายาเสพติดและวงจรทางการเงิน ของกลุ่มนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดน โดยเน้นปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ตามแนวชายแดน เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวชายแดน เพื่อต่อต้านยาเสพติด เฝ้าระวัง ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการแจ้งข่าว ในพื้นที่รับผิดชอบ ตลอดจนให้ความสำคัญในการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยดำเนินการปราบปราม จับกุมผู้ค้ายาเสพติด และผู้ที่หลบหนีหมายจับเข้าไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ยาเสพติดถูกลักลอบลำเลียงเข้ามาในประเทศได้”พลโทนฤทธิ์ กล่าว

เชียงใหม่ วัดพระบาทปางแฟน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานทำบุญอายุวัฒนมงคล พระครูพิพัฒน์สุตสุนทร (พระครูปลัดกฤต ฐิตวิริโย) หรือ ครูบาโต พร้อมจัดพิธีบวงสรวงถวายเสนาสนะ สิ่งปลูกสร้าง เนื่องในวาระครบรอบ 125 ปี วัดพระบาทปางแฟน (คลิป)

(29 มค.67) วัดพระบาทปางแฟน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานทำบุญอายุวัฒนมงคล 48 ปี 28 พรรษา พระครูพิพัฒน์สุตสุนทร (พระปลัดกฤต ฐิตวิริโย) หรือครูบาโต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง เจ้าอาวาสวัดพระบาทปางแฟน พร้อมพิธีบวงสรวงถวายเสนาสนะ สิ่งปลูกสร้าง เนื่องในวาระครบรอบ 125 ปี วัดพระบาทปางแฟน 

เชียงใหม่ จัดแข่งขันกีฬาอนุบาลเอกชนครั้งที่ 11 มีขบวนพาเหรด และการแข่งขัน กีฬาประเภทลู่และประเภทลานมากถึง 120 ประเภท (คลิป)

จังหวัดเชียงใหม่จัดแข่งขันกีฬาอนุบาลเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ครั้งที่ 11 มีขบวนพาเหรดอย่างยิ่งใหญ่ และการแข่งขัน กีฬาประเภทลู่และประเภทลานมากถึง 120 ประเภท มีนักกีฬาและผู้ปกครอง เข้าร่วมงานมากถึง 10,000 คน เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัย ปลูกฝังการมีน้ำใจนักกีฬา และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครอบครัว


นายพิชัย เลิศพงศ์อดิสร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬานักเรียนอนุบาลโรงเรียนเอกชน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนักเรียนมากถึง 90 สถาบัน เข้าร่วมแข่งขัน แบ่งออกเป็น 4 สี ทั้งสีแดง สีเขียว สีชมพู และสีฟ้า โดยมีขบวนพาเหรด นักกีฬาเดินเข้าสู่สนามอย่างยิ่งใหญ่ ขบวนสีแดง มีแนวคิด ประวัติศาสตร์ นครพิงค์ทรงคุณค่า สีเขียว คนล้านนาสืบสานงานศิลป์ สีชมพู หัตกรรมท้องถิ่น และสีฟ้า งานเลิศล้ำเมืองประเพณี รวมทั้งยังมีการแข่งเชียร์บนอัศจรรย์

นางสาว มนทิรา รัตนรินทร์ ประธานฝ่ายปฐมวัย สมาคมสถานศึกษาเอกชนจังหวัดเชียงใหม่ ในนามคณะกรรมการจัดการแข่งขันกล่าวรายงาน เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัย ปลูกฝังการมีน้ำใจนักกีฬา และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างครอบครัว จากนั้นเชิญธงกีฬาขึ้นสู่ยอดเสา และการแสดงของน้องๆอนุบาล ฟ้อนเพลงเจ้าดารารัศมี จำนวน 80 คน อย่างสวยงาม และร้องเพลงเชียร์ ทั้ง 4 สี รวมนักกีฬามากถึง 1,130 คน โดยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิสร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 300,000 บาท ในการจัดงาน จากนั้นนักกีฬาจำนวน 800 คน ได้เริ่มการแข่งขัน ซึ่งมีทั้งหมด 120 ประเภท เป็นประเภทลู่จำนวน 88 รายการ และประเภทลานจำนวน 32 รายการ เช่น การแข่งขันวิ่งระยะทาง 40 เมตร การแข่งขันวิ่งผลัดลูกแม่ การแข่งขันชักเย่อ การแข่งขันขี่ม้าก้านกล้วย การเดินกะลา การวิ่งวิบาก บรรยากาศสนุกสนาน ตะมุตะมิ

เชียงใหม่ ผู้บริหารปางช้างแม่สา พร้อมทายาท ทำบุญระลึกถึงคุณพ่อชูชาติ กัลมาพิจิตร ที่ล่วงลับ ครบรอบ 5 ปี (คลิป)

ผู้บริหารปางช้างแม่สา พร้อมทายาท ทำบุญระลึกถึงคุณพ่อชูชาติ กัลมาพิจิตร ครบรอบ 5 ปี ที่ล่วงลับ

(27 มค.67) นางอัญชลี​ กัลมา​พิจิตร ​ผู้บริหารปางช้างแม่สา พร้อมด้วยนายพลช กัลมา​พิจิตร ​และนางสาวพัทธ์ธีรา กัลมา​พิจิตร​ ร่วมประกอบพิธี​ทำบุญระลึกถึงคุณพ่อชูชาติ กัลมาพิจิตร ครบรอบ 5 ปี ที่ล่วงลับโดยได้นิมนต์​จำนวน 5 รูปทำพิธีเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ “พ่อเลี้ยงชูชาติ กัลมาพิจิตร”

นาง​อัญชลี ​กัลมา​พิจิตร​ ผู้​บริหารปางช้างแม่สา เผยว่าวันนี้เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตครบ 5 ปี ของคุณพ่อชูชาติ กัลมา​พิจิตร​ ในฐานะที่เป็นบุตรสาวคนโต และผู้จัดการมรดกร่วม จึงได้ทำบุญ​เพื่ออุทิศ​ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่คุณพ่อชูชาติ และยังถือว่าเพื่อเป็นความเป็นสิริมงคลให้แก่ปางช้างแมาสาอีกด้วย

นางอัญชลี​ฯ กล่าวต่ออีกว่าในส่วนของการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการมรดกนั้นได้ดำเนินการโอนทรัพย์สิน​เข้าสู่ ปางช้าแม่สาเกือบเสร็จ​เรียบร้อย​แล้วและจะได้ดำเนินการจัดการทรัพย์สิน​ให้แก่ทายาทตามที่พินัยกรรม โดยในส่วนของร่างของคุณ​พ่อชูชาติ กัลมาพิจิตร​ ที่ได้เก็บร่างของคุณพ่อเอาไว้ 5 ปี ตามพินัยกรรมกำหนดแล้วนั้น ซึ่งในตามพินัยกรรมได้กำหนดให้ทำการฌาปนกิจศพ ภาย​หลังจากที่เก็บร่างคุณพ่อครบ 5 ปี ตนเองจะได้ดำเนินการขอพระราชทานเพลิง​ศพภายในปี 2567 นี้ ซึ่งงานพระราชทานเพลิงศพนั้น จะจัดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ โดยคุณพ่อได้สั่งเสียเอาไว้ในพินัยกรรมว่าเมื่อครบ 5 ปี แล้วให้ลูกหลานดำเนินการฌาปนกิจ​ร่างของท่าน ในส่วนเรื่องของการจัดการทรัพย์สินเราก็ได้ทำตามคำสั่งศาล ที่มีข้อยุติแล้ว และเราพร้อมที่จะดำเนินการจัดการทรัพย์สินตามคำสั่งศาลที่ได้ข้อยุติในชั้นศาลแล้ว โดยผู้จัดการมรดกทั้ง 2 คน ที่จะร่วมกันจัดการทรัพย์สินตามคำสั่งของศาล และตามพินัยกรรมของคุณพ่อ โดยเริ่มจากการโอนทรัพย์สิน​ของคุณพ่อให้ บริษัท ปางช้างแม่สา จำกัด และสู่ทายาทตามคำสั่ง บางส่วนคุณพ่อก็ให้จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำมาบริหารจัดการปางช้าง ​และในส่วนของช้างก็จะได้ถูกโอนเข้า บริษัท​ ปางช้างแม่สาฯเช่นกัน

ในเรื่องของการจัดการทรัพย์สินที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วน คือทางเราจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ในการจัดการหนี้สินในส่วนต่างๆ รวมแล้วก็ประมานร้อยกว่าล้านบาท และส่วนหนึ่งเราต้องใช้ทรัพย์​สินของคุณ​พ่อชูชาติ ที่ท่านได้มอบเอาไว้ให้ไปจำหน่ายเป็นเงินเพื่อที่จะได้ใช้หนี้ ให้กับทางคู่ความให้เสร็จ​เรียบร้อย รวมไปถึงจะได้แบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เพื่อดำเนินการใช้ชำระหนี้ธนาคาร นำเงินมาปรับปรุงปางช้างแม่สา และนำเงินส่วนหนึ่งมาดูแลช้าง ควาญช้าง และพนักงานของปางช้าง เพื่อให้ปางช้างแม่สาได้พัฒนา ต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เราไม่มีเงินที่ จะมาซ่อมแซมและบำรุงปางช้าง ก็ทำให้ปางช้างทรุดโทรม โดยเราจะต้องใช้เงินจำนวนมากในการปรับปรุงปางช้าง ให้ดี ยิ่งขึ้นไป นางอัญชลีฯ กล่าว

เชียงใหม่ ปางช้างแม่แตงเชียงใหม่ เชิญครูบา หรือคนคล้องช้างจากจังหวัดชัยภูมิ 5 คน รุ่นสุดท้ายของหมู่บ้าน มาทำพิธี เลี้ยงศาลปะกำ หรือศาลที่คนเลี้ยงช้าง (คลิป)

ปางช้างแม่แตงเชียงใหม่ ทำพิธี เลี้ยงศาลปะกำ หรือศาลที่คนเลี้ยงช้างต้องมี เพื่อความเป็นสิริมงคล และยังเป็นการรักษา ประเพณีคนเลี้ยงช้างไทย และมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ


นาง วาสนา ทองสุขชัยเลิศ ผู้บริหารปางช้างแม่แตง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เชิญคนคล้องช้าง หรือชาวบ้านเรียกว่า ครูบา จากตำบลบ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมี ครูบา ประกอบ บุญมั่น อายุ 74 ปี เป็นหัวหน้าทีม พร้อมกับคนคล้องช้างอีก 4 คน นำเครื่องเซ่นไหว้ หัวหมู ไก่ต้ม เหล้าขาว อาหารคาวหวาน ผลไม้หมากพลู รวมทั้งเชือกปะกำ คือเชือกที่ใช้คล้องช้างป่า ทำจากหนังควาย ให้เป็นเส้นยาว แล้วนำไปตากให้แห้ง ซึ่งจะมีความทนทาน และเหนียวเป็นพิเศษ นำมาเป็นเชือก ใช้ในการคล้องจับช้างป่า ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ และอุปกรณ์สำคัญของคนเลี้ยงช้าง ซึ่งหาได้ยากแล้วในทุกวันนี้ เพราะการคล้อง หรือจับช้างป่า มาเพื่อใช้งาน ได้ถูกยกเลิกไปนานแล้ว

โดยทางปางช้างแม่แตง ได้เชิญครูบา คล้องช้างทั้ง 5 คน มาทำพิธีเลี้ยงศาลปะกำ และครูบาทั้ง 5 คน ได้มุดเข้าไปอยู่ในศาลปะกำ ลักษณะเป็นกระท่อมเล็กๆ พร้อมทั้งมีเชือกปะกำ มีดหมอ เข้าไปเสี่ยงทาย ในศาลปะกำ โดยครูบา 2 คน ใช้นิ้วชี้ วางบนด้ามมีด ให้ปลายมืดหมอชี้ลงพื้น แต่อัศจรรย์ได้หมุนเอง เป็นวงกลม ซึ่งหมายถึง กิจการจะรุ่งเรือง และไม่มีเหตุร้ายใดๆเกี่ยวกับช้าง โดยมีคุณตาแก้ว บุตรชาติ ควาญช้างหลวงผู้ดูแลช้างเผือก คุณพระเศวตอดุลยเดชพระราชพาหนะ มาเป็นประธานในพิธี