เชียงใหม่ การเมืองเริ่มขยับ สส.ท๊อป-จักรพล ตั้งสุทธิธรรม พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จัดกิจกรรม รับสมัครสมาชิก ครอบครัวเพื่อไทย

การเมืองเริ่มขยับ สส.ท๊อป-จักรพล ตั้งสุทธิธรรม พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จัดกิจกรรม รับสมัครสมาชิก ครอบครัวเพื่อไทย ถนนคนเดินสันกำแพง

วันนี้(12 มี.ค.) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม(ท๊อป) สส.เพื่อไทยเชียงใหม่เขต 3 ลงพื้นที่จัดกิจกรรม รับสมัครสมาชิกเพื่อไทย มาเป็นครอบครัวเดียวกัน มีประชาชนในพื้นที่ อำเภอดอยสะเก็ด ,อำเภอแม่ออน ,อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ แห่มาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก

สส.ท๊อป เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทย พร้อมเลือกตั้งทุกเวลา เพราะเชื่อมั่นตลอดระยะเวลา 3 ปี ทำงานหนักลงพื้นที่รับปัญหาของชาวบ้านตลอดเวลา รู้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบเขต 3 อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอแม่ออน และอำเภอสันกำแพง และพร้อมที่ จะนำปัญหาต่างๆ ไปขับเคลื่อน เป็นนโยบายพรรคในการแก้ปัญหา ต่างๆของพี่น้องประชาชนต่อไป

 

เชียงใหม่ พระมหาอาวรณ์ ภูริปัญโญแห่งม่อนพญานาคราช เข้าปฏิบัติอัปปนาสมาธิ เป็นเวลา 3 วันในโลงแก้ว( โลงศพ)

พระมหาอาวรณ์ เจ้าสำนักธรรมสถาน ม่อนพญานาคราช อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ พระสงฆ์รูปเดียวในล้านนา เข้าสมาธิ อัปปนาสมาธิ ท่านอน สีหไสยาสน์ ตะแครงขวา ในโลงแก้ว ในหอพระกรรมฐานกลางน้ำ แยกกาย แยกจิต ไร้ รูป รส กลิ่น เสียง โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นาน 35 ชั่วโมง

พระมหาอาวรณ์ ภูริปัญโญ เจ้าสำนักธรรมสถานม่อนพญานาคราช บ้านแม่เลน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมสวดมนต์ทำวัตรเย็น และให้ศีลให้พร กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ที่มาร่วมปฎิบัติธรรม หน้าลานกุฎิพระกรรมฐาน ก่อนจะเข้าไปนอน ในโลงแก้ว กุฎิกลางน้ำ ปฎิบัติกรรมฐาน อัปปนาสมาธิในท่า – นอน สีหไสยาสน์ คะแครงขวา จากนั้นปิดประตูล็อคกุญแจ ห้ามออกห้ามเข้า ถอนสะพานที่ข้ามน้ำออก เป็นเวลา 3 วันหรือ 35 ชั่วโมง

อัปปนาสมาธิ เป็นการเข้าสมาธิจากฌานจิต แยกกายแยกจิต จนพ้นจาก รูป รส กลิ่น เสียง โดยการเข้าสมาธิ จะไม่มีการฉันท์อาหารไม่ดื่มน้ำแม้แต่หยดเดียว ไม่เข้าห้องน้ำไม่ขับถ่าย หรือไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อยู่ในสมาธิท่าเดิม ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 11 มีนาคม 2565 จนถึงเช้าของวันที่ 13 มีนาคม 2565 เวลา 6.39 น. เมื่อครบกำหนด ออกจากฌานสมาธิ ลูกศิษย์ไปเปิดประตูกุฎิที่ล็อคกุญแจประตูไว้ ให้ออกมารับผ้าไตรจีวร เครื่องอัฐบริขาร จากลูกศิษย์ เพื่อสรงน้ำ และฉัทน์อาหารมื้อแรก และออกบิณบาตรกับศรัทธาญาติโยม ที่มารอใส่บาตร ซึ่งจะมีพิธีปีละครั้งทำมาเป็นปีที่ 6

ทั้งนี้พระมหาอาวรณ์ ได้กล่าวกับลูกศิษย์ลูกหา ก่อนเข้าอัปปนาสมาธิว่า เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและอุทิศบุญกุศลให้กับพญานาค ที่เฝ้าในสถานที่ตั้งของธรรมสถานม่อนพญานาคแห่งนี้ และขอบุญกุศลที่ทำสมาธิ ให้กับบรรดาลูกศิษย์ทุกคนด้วย และหากในอนาคต ท่านละสังขาร ได้สั่งเสียให้กับลูกศิษย์ ไม่ให้เผา ขอให้นำสังขารใส่ในโลงแก้วนี้ เพื่อขอเฝ้าสถานปฎิบัติธรรมแห่งนี้ ซึ่งการเข้าพระกรรมฐาน อัปปนาสมาธิ ที่ได้ร่ำเรียนมาจากพระอาจารย์ จะอยู่ได้นานแค่ 35 ชั่วโมงหรือไม่เกิน 36 ชั่วโมง หากเกินกว่านั้นร่างกายจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต หรือโลหิตไหลเวียนผิดปกติ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ ประชาชนที่มาร่วมพิธีกรรม เป็นไปตามาตรการทางสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

เชียงใหม่ ตำรวจ-ทหารสกัดจับ 2 สาวค้ายาบ้าคาด่านผาหงส์ อ.ไชยปราการ

ตำรวจ-ทหารสกัดจับ 2 สาวค้ายาบ้าคาด่านผาหงส์ อ.ไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้(11 มี.ค.) พันตำรวจเอก ปริญญา เพชรมี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ทำตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค5 และนโยบายตำรวจแห่งชาติ โดยให้ตำรวจด่านผาหงส์ปฏิบัติการของด่านตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ร่วมกับหน่วยทหารกองกำลังผาเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน334 ชุดสุนัขทหารตรวจค้นยาเสพติด กองพันสุนัขทหาร กองกำลังผาเมือง ที่ทำงานตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือแรงงานต่างด้าวและตรวจยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากชายแดนแล้วขนส่งนายทุนในเมืองใจกลางของไทย ในวันนี้ทาง พตท. สรัญรัฐ ชยนนท์ รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม และ รตอ.เอกชัย ทาชมพู สาววัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ และ ดต.เฉลา เนตรสกุล ดต เชวง เมืองมูล สตอ. ปณัศการ พรมมาลา สตอ. ภาณุพงศ์ แตงลี่ ดต. ไกรศร อุ่นเรือน สตต. ธนโชติ รัมจันทร์ชุดปฏิบัติการด่านผาหงส์ สถานีตำรวจภูธรไชยปราการ พร้อมกับทหารกองบังคับการควบคุมที่2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน334 และทหารสุนัขดมกลิ่น ได้ทำการตรวจรถที่ผ่านเข้าออกตรงด่านตรวจบ้านผาหงส์ ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่

จากการตรวจค้นรถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น JUKE สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน จก 9225 เชียงใหม่ วิ่งมาตามถนนโชตนา ทิศทางจาก อ.ไชยปราการ มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงดาว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เรียกรถยนต์คันดังกล่าวตรวจค้น พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนั้นมี น.ส.ปัทมาพร พานทอง อายุ 30 ปี ที่อยู่ 116/64 ม.4 ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว โดยมี น.ส.เพียงหนึ่งน์ โรจนกุลพิพิธ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 596 ม.1 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นั่งโดยสารบนเบาะนั่งด้านหน้าคู่กับคนขับ โดยทั้งสองคนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงลักษณะอาการมีพิรุธ หน้าซีด ตัวสั่น คล้ายคนมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ในครอบครอง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้กลิ่นคล้ายกลิ่นของยาบ้าอยู่ภายในรถคันดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้ น.ส.ปัทมาพรฯ ขับรถเข้าไปบริเวณจุดตรวจค้นรถของด่านตรวจผาหงษ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เชิญ น.ส.ปัทมาพรฯ และ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ลงมาจากรถและได้ขออนุญาตทำการตรวจค้นภายในตัวรถ ก่อนทำการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ น.ส.ปัทมาพรฯ และ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว และทั้งสองได้ยินยอมให้ทำการตรวจค้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวอยู่นั้น ได้สังเกตเห็นว่า น.ส.ปัทมาพรฯ และ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ มีอาการรุกรี้รุกรนคล้ายคนมีสิ่งของผิดกฎหมายอยู่ที่ตัว

จากนั้น น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ได้ขอเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเพื่อขอเข้าห้องน้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังไม่ได้อนุญาตแต่อย่างใด น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ได้รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำสำหรับบริการประชาชนของด่านตรวจผาหงษ์ฯ โดยมี ด.ต.เฉลา เนตรสกุล และ ส.ต.ท.ยิ่งพันธุ์ อาจวัน วิ่งติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดย ด.ต.เฉลาฯ ได้วิ่งไปบริเวณด้านหลังห้องน้ำจุดที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ วิ่งเข้าไป ส่วน ส.ต.ท.ยิ่งพันธ์ฯ ได้วิ่งไปบริเวณด้านหน้าห้องน้ำจุดที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ วิ่งเข้าไป จากนั้น ส.ต.ท.ยิ่งพันธ์ฯ ได้พยายามเรียกให้ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ เปิดประตูห้องน้ำออกมา ขณะที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ อยู่ในห้องน้ำนั้น ด.ต.เฉลาฯ ซึ่งขณะนั้นอยู่บริเวณด้านหลังห้องน้ำดังกล่าวก็พบว่ามีวัตถุบางอย่างถูกขว้างออกมาจากห้องน้ำห้องที่ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ อยู่ด้านใน โดยวัตถุดังกล่าวได้ตกอยู่บนพื้นหลังห้องน้ำดังกล่าว โดย ด.ต.เฉลาฯ ได้เฝ้าดูวัตถุดังกล่าวนั้นตลอดเวลา

กระทั้งเมื่อ น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ ได้ออกมาจากห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ได้นำตัว น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ และ น.ส.ปัทมาพรฯ เข้าไปตรวจสอบวัตถุดังกล่าว พบว่าเป็น 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม ประทับตัวอักษร WY ไว้ด้านหนึ่ง จำนวน 190 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีใสชนิดรูดปิดเปิด จำนวน 1 ถุง 2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม ประทับตัวอักษร WY ไว้ด้านหนึ่ง จำนวน 200 เม็ด และ ชนิดเม็ดกลมแบนสีเขียว ประทับตัวอักษร WY ไว้ด้านหนึ่ง จำนวน 2 เม็ด ทั้งหมดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินชนิดรูดปิดเปิด จำนวน 1 ถุง โดยยาเสพติดของกลางลำดับที่ 1 และ ลำดับที่ 2 นั้น ถูกมัดเข้าด้วยกันด้วยหนังยางพลาสติกสีขาว

โดย น.ส.เพียงหนึ่งน์ฯ และ น.ส.ปัทมาพรฯ รับว่ายาเสพติดของกลางดังกล่าวนั้นเป็นของพวกตนทั้งสองจริง อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งสองยังได้รับว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งสองได้เสพยาบ้ามาจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่ รพ.ไชยปราการ จว.เชียงใหม่ ผลการตรวจพบสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีนในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งสอง (ปรากฏตามใบรับรองแพทย์ที่แนบมาพร้อมบันทึกการจับกุมนี้) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำบันทึกการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยปราการ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

เชียงใหม่ เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ เป็นประธานวางศิลาฤกษ์วิหารวัดเมืองก๊ะ

พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวิหารวัดเมืองก๊ะ ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

วันนี้(11 มี.ค.) พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวิหารวัดเมืองก๊ะ ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับพระครูโสภณกิตติวัฒน์ วัดเกาะกลาง จังหวัดเชียงใหม่ พระโกมุทสิทธิการ เจ้าอาวาสวัดโกมุทพุทธิรังษี กรุงเทพ โดยมีญาติธรรมผูเลื่อมใสพระพุทธศาสนา สนใจจะส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้เจริญต่อไปในอนาคต โดยมีคุณสุรีรัช เจริญวัฒนชัย เป็นประธานฝ่ายดำเนินการสร้างพร้อมญาติธรรมและประชาชนชาวบ้านร่วมในการก่อสร้าง มีอาจารย์รุ่งเรือง เสือโต เป็นเจ้าพิธีกรรมล้านนาลำดับพิธีตามขนบธรรมเนียมประเพณีทางล้านนา ได้ร่วมทั้งพระสงฆ์และญาติธรรมได้ทำพิธีในการวางศิลาฤกษ์ เพื่อให้ได้ฤกษ์ได้ยามตามประเพณีทางล้านนานิยม ใว้ก่อนจะทำการก่อสร้างเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีดีตามมา

สำหรับวัดเมืองก๊ะเคยมีวิหารแต่เก่าทรุดโทรมจึงได้ทำการลื้อออกเพื่อจะสร้างใหม่ให้มีความคงทรถาวรต่อไปและจะได้ใช้ให้เกิดประโยชน์กับทางวัดในการที่จะส่งเสริมพระพุทธศาสนาต่อไปโดยมีพระธรรมชัย ไทยใหม่ เป็นเจ้าอาวาสที่จะสานต่อวัดเมืองก๊ะให้เจริญก้าวหน้าส่งเสริมพระพุทธศาสนาต่อไป

เชียงใหม่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2565

เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เตรียมจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ในปี 2565 ภายใต้โครงการ “กิจกรรมสร้างกระแสการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี”

วันนี้(11 มี.ค.) สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้การต้อนรับ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในการเป็นประธานเปิดการแถลงข่าว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เตรียมเปิดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ “กิจกรรมสร้างกระแสการท่องเที่ยวไนท์ซาฟารี” โดยมี นายสายสิทธิ์ เจตสิกทัต ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เป็นผู้ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ และนางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อํานวยการ สํานักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเห็นควรให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดทำโครงการ “กิจกรรมสร้างกระแสการท่องเที่ยวในซาฟารี” ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวและนโยบายประจำปี โดยได้มีการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่และเพิ่มกิจกรรมการให้บริการ ในปี 2565 หลากหลายกิจกรรม อาทิ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสระน้ำ Swan Lake โดยจะมีการจัดทำระบบน้ำพุดนตรีใหม่, โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโลกเสมือนจริง และการประชาสัมพันธ์ “เสือโคร่งสีทอง” หนึ่งในสัตว์หายาก เป็นต้น ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสร้างกระแสการท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้มีความน่าสนใจ และเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว ในการเลือกใช้บริการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต่อไป

เชียงใหม่ ม.แม่โจ้ จัดพิธีลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัย และนำเสนอผลงานวิจัยเด่น

ม.แม่โจ้ จัดพิธีลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิผลงานวิจัย และนำเสนอผลงานวิจัยเด่น ต่อยอดงานวิจัยเชิงพาณิชย์สู่กระบวนการธุรกิจอย่างมีศักยภาพ“Maejo Licensing and Pitching Day 2021”

วันนี้(10 มี.ค.) ที่ อาคารพัฒนาวิสัยทัศน์ ชั้น 2 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร (MAP) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดให้มีพิธีลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยและนำเสนองานวิจัยเด่น “MJU Licensing and Pitching Day 2021” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ อาคารพัฒนาวิสัยทัศน์ ชั้น 2 มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี กล่าวว่า “ งานนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology Transfer) ระหว่างมหาวิทยาลัยและภาคธุรกิจ โดยความรู้และงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้เศรษฐกิจเจริญเติบโต อย่างมีเสถียรภาพ ยั่งยืน มีการกระจายรายได้ไปสู่สังคม และมีภูมิคุ้มกันจากกระแสโลกาภิวัฒน์ การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างและต่อยอดองค์ความรู้ให้มีความเท่าทันต่อโลกสมัยใหม่จึงเป็นสิ่งที่ประเทศและสถาบันการศึกษาควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นงานสำคัญงานหนึ่งของมหาวิทยาลัย ตอบโจทย์การเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม 2 คือ พัฒนาเทคโนโลยีและการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม (Technology Development and Innovation) และในปีหน้า เราจะปรับรูปแบบงานให้ใหญ่ขึ้น ให้อยู่ในรูปแบบ Innovation Day เพื่อให้บริษัททั้งใน และต่างประเทศได้มาเชื่อมโยงกัน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จะเป็น Host ในการประชุมนานาชาติอีกหลายเวที ซึ่งเราจะผลักดันในมีการลงนามให้เป็นภาพรวมของมหาวิทยาลัยต่อไป”

ดร.กัลย์ กัลยาณมิตร ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวเพิ่มเติมว่า “งานในครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้เกิดการตื่นตัวและกระตุ้นแนวคิดเรื่องการนำนวัตกรรมไปใช้ในการเชื่อมโยงองค์ความรู้และภูมิปัญญาจากผลงานวิจัย ให้สามารถนำไปต่อยอดและขยายผลให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยผ่านช่องทางการอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัย และเป็นการประกาศเกียรติคุณสำหรับนักวิจัยและผู้ประกอบการทุกท่านที่มีส่วนส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำผลงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมของมหาวิทยาลัย ไปสู่กระบวนการธุรกิจเชิงพาณิชย์อย่างมีศักยภาพ ”

สำหรับผลงานวิจัยที่จะเข้าร่วมลงนามอนุญาตใช้สิทธิในผลงานครั้งนี้มี จำนวน 5 ผลงาน ได้แก่ ผลงานกระบวนการสกัดเย็นกาแฟด้วยเทคนิคอณูศิลปะวิทยาการทางอาหาร ,ผลงานระบบโรงงานพืชเพื่อการปลูกสตรอว์เบอร์รี่ ,ผลงานกรรมวิธีการเตรียมน้ำตาลสกัดจากพืชกลุ่มหัวหอม ,ผลงาน กรรมวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์สบู่สมุนไพร ,ผลงาน 1) กระบวนการผลิตเครื่องดื่มไมซีเลียมเห็ดหลินจือที่หมักในน้ำลำไยผสมเมล็ดลำไยคั่ว 2) กระบวนการผลิตเครื่องดื่มไมซีเลียมถั่งเช่าสีทองที่หมักในน้ำผลไม้และธัญพืช 3) กระบวนการผลิตเครื่องดื่มไมซีเลียมถั่งเช่าสีทองที่หมักในน้ำตาลตาลทรายและหางนมผสมน้ำผลไม้

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่น มีศักยภาพและความพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่การสร้างธุรกิจนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม อีกจำนวน 6 ผลงาน ได้แก่ การผลิตแอนติบอดีสำหรับชุดตรวจการตั้งท้องของโค , เภสัชภัณฑ์ยาสอดเต้าจากสมุนไพรฝางและว่านหางจระเข้เพื่อรักษาโรคเต้านมอักเสบในโคนม ,ซุปปลาสกัดผสมสารสกัดกัญชา , ปุ๋ยชีวภาพและกรรมวิธีการผลิต (ชีวนวัตกรรมปุ๋ยจุลินทรีย์อัดแท่ง) , การพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยเพื่อยับยั้งไรศัตรูผึ้งโดยใช้เทคโนโลยีพลาสมาระดับความดันบรรยากาศ ,กระบวนการผลิตสิ่งทอต้านเชื้อแบคทีเรียและแมลงด้วยไมโครแคปซูล ภายในบริเวณงานยังมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยที่ร่วมลงนามอนุญาตให้ใช้สิทธิ และผลงานวิจัยเด่นอีกหลายผลงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงาน ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง

 

เชียงใหม่ พระสงฆ์และชาวบ้านยื่นหนังสือถึงนายอำเภอและที่ดินอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ขอออกโฉนดที่ดินวัดร้าง

พ่อเลี้ยงโปงลาง คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รับเรื่องประสานงาน เรื่องร้องเรียน ขอออโฉนดที่ดินวัดร้าง(จำปา) เป็นโบราณสถาน ต่อนายอำเภอดอยสะเก็ด

นายวีระ วุฒิเทพเรือง หรือพ่อเลี้ยงโปงลาง คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายนิพนธ์ บุญญามณี) พร้อมกับ พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินทวัณโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง พร้อมนายวิริยะ ช่วยบำรุง อดีตป่าไม้เขตจังหวัดเชียงใหม่ และชาวบ้าน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ นายธนกฤต ฉันทะเลจำรัสศิลป์ นายอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการผลักดัน พื้นที่วัดจำปา ซึ่งเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่บ้านหมู่ 6 หมู่บ้าน สันมะเกี๋ยง ตำบลสำราษฎร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในการออกโฉนดให้เป็นโบราณสถาน ซึ่งปัจจุบันยังพบซากโบราณสถานทั้ง บ่อน้ำโบราณ ฐานเจดีย์ สระน้ำ ลานประทักษิณ และบริเวณโดยรอบมีการออกโฉนด ไปแล้วตั้งแต่ปี 2480 และมีเอกชนเป็นเจ้าของจึงขอให้ทางราชการดำเนินการผลักดัน ช่วยเหลือให้โบราณสถานแห่งนี้ เป็นโบราณสถานที่มีโฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งวัดจำปาร้าง ในส่วนที่พบซากโบราณสถานเป็นสันดอนอยู่กลางทุ่งนา ทางพระสงฆ์และชาวบ้าน ได้เข้าไปทำความสะอาดปรับภูมิทัศน์

นอกนั้นยังจะไปยื่นหนังสือ ให้กับอีกหลายหน่วยงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ออกโฉนดที่ดิน เป็นโบราณสถาน เพื่ออนุรักษ์สถานที่แห่งนี้ไว้   

smart

smart

smart

smart

smart

smart

เชียงใหม่ แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นประธานส่งมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว

แม่ทัพน้อยที่ 3 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฎิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เป็นประธานส่งมอบบ้านให้กับผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภอเชียงดาว หลังซ่อมแซมปรับปรุงบ้านผู้ยากไร้ ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งทหารเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในทุกโอกาส

พลโท.บุญยืน อินกว่าง แม่ทัพน้อยที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฎิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เป็นประธานในพิธีส่งมอบบ้านให้กับ นายกอ ลุงรน ราษฏร บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่.ซึ่งมีฐานะยากจน แต่เป็นผู้มีความประพฤติดี มีจิตสาธารณะ โดยมี นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาว,นายพูลเพิ่ม ปุกคำ ผู้แทนเทศบาลเมืองนะและผู้นำชุมชนร่วมพิธี ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาหน่วยได้จัดกำลังพลจิตอาสาร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ และประชาชนจิตอาสาในชุมชน ช่วยกันซ่อมแซมบ้านให้กับ นายกอ ลุงรน ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ไม่ปลอดภัยในการพักอาศัย นอกจากนี้ยังได้มอบเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องอุปโภค บริโภค ของใช้จำเป็นและหน้ากากอนามัยพร้อมเจลแอลกอฮอล์เพื่อบรรเทาทุกข์ในสถานการณ์โรคโควิด – 19

เชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มอบเงินจำนวนกว่า 13 ล้านบาท ให้กับหมู่บ้านที่ติดแนวป่า 644 หมู่บ้าน

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ มอบเงินจำนวนกว่า 13 ล้านบาท ให้กับหมู่บ้านที่ติดแนวป่า 644 หมู่บ้าน และอีก 24 อำเภอ ในการบริหารจัดการดับไฟป่า เพื่อลดหมอกควัน วันนี้เชียงใหม่ยังพบไฟป่ามากถึง 129 จุด เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดับไฟ

นาย พิชัย เลิศพงศ์อดิสร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมลงนามกับนายประจญ ปรัชญสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาไฟป่า พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือให้กับหมู่บ้านที่ติดกับป่าจำนวน 644 หมู่บ้าน จำนวนเงินหมู่บ้านละ 2 หมื่นบาท และมอบเงินให้กับทางนายอำเภออีก 24 อำเภอ จำนวนเงินอำเภอละ 3 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 13 ล้าน 670,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้บริหารจัดการ ในการเฝ้าระวังไฟป่า ในพื้นที่ของหมู่บ้านตนเอง เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบไฟไหม้ป่าเฝ้าระวัง หากพบกลุ่มควัน ในพื้นที่ให้เข้าไปดับไฟ ลดปริมาณหมอกควันในช่วงฤดูแล้ง ที่ประสบปัญหาหมอกควันจากไฟป่า เป็นประจำทุกปี จนกระทบต่อสุขภาพ ประชาชน ซึ่งปัจจุบันยังพบไฟป่าอย่างต่อเนื่อง วันนี้ เชียงใหม่ ยังพบไฟป่าจำนวน 129 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในป่าสวงนแห่งชาติจำนวน 50 จัดพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 67 จุด พื้นที่ชุมชน 9 จุดและพื้นที่ สปก.จำนวน 3 จุด เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดับไฟ

เชียงใหม่ แม่ทัพภาคที่ 3 ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด แรงงานผิดกฎหมายฯในพื้นที่ภาคเหนือ

แม่ทัพภาคที่ 3 ติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด แรงงานผิดกฎหมายฯในพื้นที่ภาคเหนือ ภายหลังกองกำลังผาเมืองมีผลการสกัดกั้นยาเสพติด ยึดยาบ้า 35 ล้านเม็ด มากกว่าปี64 จำนวน 22 ล้านเม็ด

วันที่ 8 มี.ค.65 พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ภาคเหนือ ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง โดยมี พล.ต. นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ,พ.อ. วีระชัย ผองแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 ให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานการณ์ ปัญหาข้อขัดข้องและแนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่รับผิดชอบ

พล.ต. นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบจากประเทศเมียนมา ยังคงเป็นปัจจัยที่เกื้อหนุนต่อการผลิต การลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ โดยเฉพาะการนำเข้าสารเคมีมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดตามแนวชายแดนมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มขบวนการผลิตยาเสพติด ที่เป็นกลุ่มผู้ผลิตหลักในพื้นที่ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบดังกล่าว

ปัจจุบันกองกำลังผาเมืองได้กำหนดพื้นที่เพ่งเล็งที่ปรากฏ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการ ในพื้นที่ชายแดน ด้านจังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเชียงราย และ จังหวัดพะเยา และได้รับกำลังป้องกันชายแดนเพิ่มเติม ในส่วนของแผนงาน ยาเสพติดจำนวน 225 นาย เพื่อทำหน้าที่ในการสกัดกั้นยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ

ทั้งนี้ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม 65 ถึงปัจจุบัน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 166 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 195 คน กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 8 ศพ ยึดยาบ้า จำนวน 35 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 11 กิโลกรัม และไอซ์ จำนวน 102 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบสถิติการจับกุมในห้วงเวลาเดียวกันกับปีงบประมาณ 64 พบว่ามีผลการจับกุมยาบ้า เพิ่มขึ้นกว่า 22 ล้านเม็ด

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวต่อว่า ในส่วนของการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่ผ่านมา พบว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา รวมถึงความต้องการแรงงานภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ทั้งในภาคเกษตรกรรมตามแนวชายแดน และผู้ประกอบการในพื้นที่ตอนในของไทย ส่งผลให้มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา พยายามลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอแม่สาย, อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยตั้งแต่เดือน ตุลาคม 64 ถึงปัจจุบัน มีผลการปฏิบัติ จำนวน 131 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ จำนวน 1,489 คน และ ผู้นำพา จำนวน 64 คน เมื่อเปรียบเทียบสถิติการจับกุมในห้วงเวลาเดียวกันกับ ปีงบประมาณ ๒64 สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้เพิ่มมากขึ้น เกือบ 1,300 คน ติดตามคดีที่มีผู้นำพา จำนวน 56 คดี โดยคดีถึงที่สุดแล้ว จำนวน 22 คดี และอยู่ระหว่างการดำเนินคดี 34 คดี ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาหน่วยได้รับการสนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับกำลังพล ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดน และการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ