การแข่งขันภาษาและวัฒนธรรมจีนแห่งประเทศไทยชิงถ้วยรางวัล “สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่”

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2564 เวลา 08.30-15.00 น.ได้มีการจัดงานการแข่งขันภาษาและวัฒนธรรมจีนแห่งประเทศไทยชิงถ้วยรางวัล“สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่” ผ่านทางออนไลน์ (Zoom) ซึ่งเป็นการแข่งขันภาษาจีนที่ริเริ่มขึ้นโดยสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนของผู้เรียนชาวไทย ส่งเสริมพัฒนาการศึกษาภาษาจีนในประเทศไทย การแข่งขันในครั้งที่ 2 นี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่างโรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงวาณิชบำรุง สถาบันขงจื่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บริษัท เสฉวน ซินหัวเล่อจือ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท สิโนไทย เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด

การแข่งขันในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย การแข่งขันร้องเพลงจีน การกล่าวสุนทรพจน์จีน การบรรเลงเพลงจีน การเขียนพู่กันจีน การคัดลายมือจีน และการทำรายการอาหารจีน ซึ่งครอบคลุมการแข่งขันทั้งในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมทั้งหมด 12 รายการแบ่งตามระดับชั้น

การแข่งขันในปีนี้ ได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฯ จำนวนทั้งหมด 1,232 คน ผู้ที่สมัครและส่งผลงานสำเร็จ จำนวน 942 คน มาจาก 500 กว่าสถานศึกษา การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศได้เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงจากหลายสถาบันมาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันในครั้งนี้ อาทิ ผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาวิชาภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันขงจื่อ มช. มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฯลฯ

ในระหว่างการจัดงาน ได้รับเกียรติจากท่าน อู๋ จื้อ อู่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน คุณเหรียน เฉิน ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นางสาวรัตนาพร เมธาธนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท สิโนไทย เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด และคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน เข้าร่วมและกล่าวในพิธีเปิด

หลังพิธีเปิดและการแข่งขันในช่วงเช้า ได้มีการประกาศผลการแข่งขันและมอบรางวัล แก่ผู้เข้าแข่งขันฯ โดยแบ่งรางวัลตามประเภท ดังนี้ รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลและถ้วยรางวัล จำนวน 12 รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 12 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 12 รางวัล, รางวัลชมเชย เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 80 รางวัล, รางวัลครูผู้ฝึกสอนชนะเลิศ เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 12 รางวัล

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในระดับมัธยมปลาย ได้แก่ การแข่งขันร้องเพลงจีน นางสาวอนันตา คำรอด จากโรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์จีน นางสาวศศิวิมล เตชะพนาลัย จากโรงเรียนสะเมิงพิทยาคม, การแข่งขันบรรเลงเครื่องดนตรีจีน นายธรรมรงค์ ทับพวาธินท์ จากโรงเรียนโยธินบำรุง จ.นครศรีธรรมราช

การแข่งขันคัดพู่กันจีน นางสาวอริสา แซ่ลี จากโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย จ.เชียงราย, การแข่งขันคัดลายมือ นางสาวมณีวรรณ แซ่ลี จากโรงเรียนจงฝามูลนิธิ จ.ยะลา, การแข่งขันรายการทำอาหาร นางสาวพิมพ์ชนก ตวงวิทยากุล จากโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย จ.เชียงราย บริษัท สิโนไทย เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนและผู้ดำเนินการแข่งขัน ได้มีส่วนสนับสนุนในการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ด้านเทคนิคการถ่ายทอดสด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายดำเนินการ ขอถือโอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะผู้บริหาร คณะทำงาน ที่ได้มอบโอกาสทางความร่วมมือให้เราได้มีส่วนสนับสนุนเยาวชนไทยได้เรียนรู้ภาษาจีน และส่งเสริมการพัฒนาภาษาและวัฒนธรรมจีนในประเทศไทย.

เมื่อ 26 ธ.ค. 64 เวลา 05.00 กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการร่วมกับ หมวดทหารม้าสกัดกั้นที่ 1 กองกำลังผาเมือง ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณช่องทางกังตี๋ ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเขียงใหม่ ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จึงได้แสดงตัว เพื่อขอทำการตรวจค้น


ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564 Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-29 ธันวาคม 2564 โดยมี นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวรายงาน โอกาสนี้ คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมให้การต้อนรับและเที่ยวชมงาน ณ แปลงสาธิตพืชผัก มหาวิทยาลัยแม่โจ้
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อฉลองการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ครบรอบ 87 ปี และการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบอุดมศึกษาภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ การพลิกโฉมมหาวิทยาลัยเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ การพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ปีที่ 100 (2477-2577) การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต สร้างสังคมแห่งการ “กินดี” “อยู่ดี” และ “มีสุข” เผยแพร่องค์ความรู้ทางการเกษตรสู่สาธารณชน อันเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์และสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยด้านการบริการวิชาการและงานวิจัยต่างๆให้ได้รับการต่อยอด รวมถึงเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมเครือข่ายของมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วนให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจและชุมชนในทุกมิติ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และการปฏิบัติงาน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมงานเกษตรแม่โจ้ในครั้งนี้”
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว.ประธานในพิธี กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มุ่งเน้นด้านการเกษตร ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบอุดมศึกษาภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) มีการให้บริการวิชาการแก่ท้องถิ่น ชุมชน และการเผยแพร่ผลงานวิชาการ เทคโนโลยี นวัตกรรม ถ่ายทอดเทคโนโลยี องค์ความรู้ต่างๆ ที่เหมาะสมแก่ประชาชน เกษตรกร องค์กร ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านการจัดงานเกษตรแม่โจ้ (ออนไลน์) 2564 ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในภาพรวมอย่างยั่งยืน”
ด้าน นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราว วิวัฒนาการ องค์ความรู้ต่างๆ สู่สาธารณชน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้แก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้เป็นอยางดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาตนเองแบบยั่งยืน ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ภูมิปัญญาของท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมของประเทศโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้พัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เป็นแหล่งองค์ความรู้และเป็นเสาหลักสำคัญด้านการทำงานร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป”
งานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564 Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 – 29 ธันวาคม 2564 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ มีการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติผ่านระบบออนไลน์ การจัดแสดงแปลงสาธิตพืช สัตว์ ประมง พร้อมเที่ยวชมผ่าน Virtual Reality https://kasetmaejo2021.mju.ac.th การแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรด้านพืช สัตว์ ประมง การฝึกอบรมสัมมนาวิชาชีพและหลักสูตรอบรมระยะสั้น งาน 45 ปีคณะผลิตกรรมการเกษตร “นวัตกรรมเกษตรยุคใหม่ อาหารปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ” และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ พร้อมจัดส่งถึงบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง FB Page : งานเกษตรแม่โจ้ (ออนไลน์) 2564 https://www.facebook.com/kasedmaejo โทรศัพท์ 0 5387 3017












กรมการค้าภายใน จึงได้เข้ามาช่วยส่งเสริมและพัฒนาให้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ โดยการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ด้วยการพัฒนาคอลเลคชั่นสินค้าใหม่ให้โดดเด่นจากงานร่มและพัดบ่อสร้าง ในแบบดั้งเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ มาตรฐาน เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของร่มบ่อสร้าง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ถือเป็นเครื่องหมายการันตีภูมิปัญญาของชาวอำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้นำลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์มาใช้ประโยชน์ในการผลิตสินค้าท้องถิ่น โดยเชิญ คุณบุษกร ชยาทิตย์ ดีไซน์เนอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ “มองดอกไม้บายบุษกร” มาออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ ประเภทร่มและพัด เป็นซีรี่ย์ ชุด “งามดอกไม้เมือง” คือการเชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน ลงบน “ร่มบ่อสร้าง” หนึ่งในงานหัตถศิลป์ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานของชาวล้านนา…สู่มุมมองใหม่ที่ร่วมสมัย ด้วยการนำดอกไม้ 3 ชนิด ที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อและความศรัทธาในพุทธศาสนาของคนล้านนา มาแต่งแต้มบนผลิตภัณฑ์ ผ่านเทคนิคการปัก ถัก และการเพ้นท์ ได้แก่ ดอกซอมพอ หรือ ดอกหางนกยูงไทย ที่มีรูปโฉมคล้ายผีเสื้อหลายๆ ตัวเกาะไล่เรียงเป็นช่อ มีความหมายเกี่ยวกับวิถีของการทำบุญและการปฏิบัติตนในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ดอกเก็ตถะหวา หรือดอกพุดซ้อน ที่ชาวล้านนาถือว่าเป็นหนึ่งในพญาดอกไม้ และ ดอกตะล่อม หรือ ดอกบานไม่รู้โรย ที่ชาวล้านนาเชื่อว่า เป็นดอกไม้มงคล ที่หมายถึงการประคับประคองให้ชีวิตราบรื่น ร่มเย็น มีความสุข รวมทั้งออกแบบบรรจุภัณฑ์ กล่องใส่ร่มและถุงใส่พัดที่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นผ้าคลุมผมในคอนเซ็ปต์เดียวกับผลิตภัณฑ์ ติดอาวุธความคิดทางธุรกิจด้วยการอบรมการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ การเจรจาการค้า การศึกษาดูงาน เชื่อมโยงช่องทางการตลาดกับตัวแทนจำหน่ายและหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงแรม ที่มีการสั่งซื้อสินค้าของวิสาหกิจศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง ไปตกแต่งสถานที่
อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุด้วยว่า โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีสมาชิกเป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร กลุ่มแม่บ้าน เพื่อให้การประกอบธุรกิจมีประสิทธิภาพ สามารถดำรงธุรกิจของชุมชนได้อย่างมั่นคง ชุมชนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง อยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเอง และลดการย้ายถิ่นฐานจากชุมชนเข้าสู่เมือง โดยมีวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 25 แห่ง
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมการค้าภายใน ได้ส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเป็น “หมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่” จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ผ้าทำมือบ้านจงเจริญ จังหวัดเชียงราย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาป่าหนาด จังหวัดเลย วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านบ่อหลวง จังหวัดน่าน วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมล้านนาสันปูเลย จังหวัดพะเยา วิสาหกิจชุมชนศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ และวิสาหกิจชุมชนบ้านสหกรณ์ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร โดยทุกที่มีความพร้อมที่ก้าวไปสู่เป้าหมายของ “หมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่” ที่ประสบผลสำเร็จและเป็นแรงสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน






อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านเป็นอำเภอหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเมื่อ 50 ปีก่อนเคยเป็นฐานปฏิบัติการของ กองพันทหารราบที่ 3 สมรภูมิการสู้รบในอดีต ระหว่างทหารไทยกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2514 สนามเพลาะและ แนวกับระเบิด เป็น สิ่งที่หลงเหลือจากการต่อสู้ จนทำให้เกิดความสูญเสียทหารไทยผู้กล้า จำนวน 17 นาย (นายทหารสัญญาบัตร 2 นาย, นายทหารประทวน 4 นาย, ทหารกองประจำการ 11 นาย) และมีทหารบาดเจ็ดอีก 31 นาย ส่วนผู้ก่อการร้าย เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 30 คน และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก การต่อสู้ในครั้งนั้น ฝ่ายทหารไทยสามารถรักษาฐานปฏิบัติการแห่งนี้ไว้ได้
ในปี 2538 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในขณะนั้น ทรงเล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสู้รบในยุทธภูมิห้วยโก๋น ได้เสด็จฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นเก่า พร้อมทรงนำคณะอาจารย์และนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 4 ของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเยี่ยมชมและศึกษาบทเรียนจากการรบ ซึ่งต่อมากองพลทหารม้าที่ 1 กองกำลังผาเมือง และหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดน่านได้ปรับปรุงฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์ทหารกลางแจ้ง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทหาร เพื่อเป็นกรณีศึกษาบทเรียนจากการรบในอดีต และได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2542 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานในพิธีเปิด






นายรัฐพล นราดิสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดการประชุมใหญ่ สามัญประจำปี 2564 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ที่โรงแรมเลอเมอรีเดียน จังหวัด เชียงใหม่ ซึ่งมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านรถเช่า ธุรกิจทัวร์ มาร่วมงานมากกว่า 100 ราย โดยมีพลตำรวจตรี ปชา รัตนพันธ์ เป็นนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประจำ 2563 – 2565






โอกาสเดียวกัน ทางนายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้มอบรางวัลให้กับ ผู้ที่ชนะการประกวด ตราสัญลักษณ์เมืองแกนแบรนด์ เป็นรางวัลชมเชย 3 รางวัล และรางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล เป็นรูปพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าสามฝั่งแกน สัญลักษณ์ของเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา กาแล หมายถึงสัญลักษณ์แสดงความเป็นท้องถิ่น ต้นข้าวอินทรีย์ ใบตองใบชา สื่อถึงผลผลิตทางการเกษตร พระอาทิตย์และแสงประกาย หมายถึงแทนการดูแลเอาใจใส่ความปลอดภัยของสินค้าเกษตร และยังเตรียมจัดงานหนาวนี้ที่เมืองแกน ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2565 และการประกวดนางสาวแม่แตง ครั้งแรก


