เชียงใหม่ แม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำ คุมเข้มชายแดน ป้องกันโควิด-19

แม่ทัพภาคที่ 3 เน้นย้ำ คุมเข้มชายแดน ป้องกันโควิด-19


พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 3 ได้กำชับให้ทุกหน่วยที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ได้เฝ้าระวังการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายของกลุ่มแรงงานต่างด้าว รวมไปถึงคนไทยที่ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านและลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทย เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างจริงจัง โดยได้สั่งการให้กองกำลังนเรศวร และกองกำลังผาเมือง ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จังหวัดตาก, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่ และเชียงราย ได้เพิ่มมาตรการอย่างเข้มงวดในการสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ดังนี้.


1. เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เหมือนที่ปฏิบัติในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในทุกๆ พื้นที่

2. บูรณาการกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประสานไปยังประเทศเมียนมา ผ่านคณะกรรมชายแดนส่วนท้องถิ่น (TBC) ในการให้ความร่วมมือในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว รวมไปถึงคนไทยที่ไปทำงานในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านและลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทย

3. เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามช่องทาง/ท่าข้ามที่ล่อแหลม และการตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดตามเส้นทางตามแนวชายแดน ไทย – เมียนมา รวมทั้งความเข้มงวดในการตรวจบุคคลและยานพาหนะ บริเวณจุดตรวจ/ด่านตรวจและจุดสกัดกั้น และเส้นทางอ้อมผ่านจุดตรวจ/ด่านตรวจฯ เพื่อสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าว หลังพบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในรัฐต่างๆ ของเมียนมา

4. จัดชุดปฏิบัติการ รวมทั้งชุดแพทย์ทหาร ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ไปตามหมู่บ้านและชุมชน ให้คอยเฝ้าระวังสอดส่องหากพบบุคคลต้องสงสัยให้รีบแจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือแจ้งศูนย์ดํารงธรรมจังหวัด ทางสายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป


5. การติดตั้งไฟส่องสว่างในช่องทางที่ล่อแหลม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
6. การทำเครื่องกีดขวางและปรับปรุงลวดหนาม บริเวณช่องทาง/ท่าข้ามตามธรรมชาติ
7. ประสานความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง, หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และผู้นำชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วม ในการเพิ่มมาตรการในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว, ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ทั้งการแจ้งเบาะแส, การกระจายข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวมถึงการสร้างการรับรู้ เข้าใจ และรับทราบข้อมูลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ในการนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาสำคัญของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการหลบหนีเข้ามาภายในราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว ทั้งนี้หากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสการลักลอบกระทำผิดกฎหมาย สามารถแจ้งข้อมูลได้ตามช่องทาง Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติ สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป

เชียงใหม่ กลุ่มทางเลือกใหม่ เปิดตัว ภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ หรือ อ.อ๋อง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

กลุ่มทางเลือกใหม่ เปิดตัว ภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ หรือ อ.อ๋อง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่พร้อมทีมว่าที่ สท.ครบ 4 แขวง

ที่ห้องประชุมภัตตาคารอาหารจีนเจี่ยท้งเฮง สาขาฟ้าฮ่าม ถนนสานเชียงใหม่-ลำปาง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางกลุ่มทางเลือกใหม่ เปิดแถลงข่าว พร้อมเปิดตัว นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ หรือ อ.อ๋อง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมทีมผู้บริหาร และว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ สท.ทั้งหมด 4 แขวง

ในช่วงแถลงข่าวได้ถ่ายทอดสด FB Live กดไลค์เพจ กลุ่มทางเลือกใหม่ New Choice ทางเลือกใหม่ ซึ่งผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ 115 ถ.เทพารักษ์ ต.ช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 ชุด ตามวันที่ปรากฏ

เริ่มต้นโดยให้ตัวแทนในแต่ละแขวงออกมาแนะนำตัว และแสดงวิสัยทัศน์ จากนั้น นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ หรือ อ.อ๋อง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้กล่าวกับสมชิกกลุ่มในที่ประชุม บอกชัดว่า การหาเสียงจะดำเนินการตามแนวนโยบายของกลุ่ม จะไม่กล่าวโจมตีคู่แข่ง เพราะถือว่าเป็นพี่ๆน้องๆในวงการนักการเมืองด้วยกัน ซึ่งตนทำงานการเมืองมานานกว่า 20 ปี ทุกคนรู้จักกันหมด จะลงพื้นที่เคาะประตูบ้านและหาเสียงโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์และโซเซียลมีเดียทุกรูปแบบ เพราะทีมทำงานเป็นวัยรุ่นและอาจารย์นักวิชาการและนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นคนในพื้นที่ของแต่ละแขวงทั้งหมดรู้ปัญหาดี

“การที่นักการเมืองกลุ่มอื่น ใช้โลโก้ของการเมืองระดับชาติมาช่วยในการหาเสียง ก็ทำได้ แต่การเมืองระดับประเทศเขาจะไม่รู้ปัญหาจริงในท้องถิ่นเท่ากับกลุ่มทางเลือกใหม่ ที่มีว่าที่ผู้สมัคร สท.เป็นคนพื้นที่ทั้งหมด คนพื้นที่ย่องรู้ปัญหาดีกว่า และแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านได้เร็วกว่า ตามนโยบายที่บอกชัดว่า หากผมได้เป็นนายกฯก็จะทำงานทันที และการทำงานจะทำด้วยความจริงใจและตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถ กลุ่มทางเลือกใหม่ มอกว่า ปัญหาที่มีอยู่ในเทศบาลนครเชียงใหม่ ต้องมีทีมบริหารจัดการแก้ไขปัญหาที่ดีและมีคุณภาพจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้อยู่แล้ว หากทีมบริหาร และว่าที่ผู้สมัคร สท.ทุกคนทำงานด้วยความตั้งใจและจริงใจต่อหน้าที่รับผิดชอบเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามแนวทางของกลุ่มที่ทำงานด้วยความจริงใจกับชาวบ้านทุกคน ก็จะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ได้เร็ว ขอให้ไว้วางใจกลุ่มทางเลือกใหม่ที่หาคนทำงานหน้าใหม่ที่มากด้วยความสามารถ ได้เข้าไปทำงานในเทศบาลนครเชียงใหม่อย่างเต็มกำลังความสามารถ จะสามารถสู้คู่แข่งได้ด้วยความคิด สู้ด้วยใจ สู้ด้วยความจริงใจดังกล่าวไปแล้ว เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ หากไม่จริงใจต่อกันไม่ว่าใครที่ไหนก็จะไม่ประสบความสำเร็จได้เลย”

นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ หรือ อ.อ๋อง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ณ วันนี้มั่นใจ 50% แต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ต้องดูความตั้งใจของทีมบริหารและทีมว่าที่ผู้สมัคร สท.ทุกคนก่อนที่จะมีการเลือกตั้งไปจนถึงวันที่ 28 มี.ค.ที่จะถึง ตอนนั้นความมั่นใจจะมากขนาดไหนก็ต้องค่อยดูกันต่อไปว่า คนรุ่นใหม่ตั้งใจทำงานกันมากขนาดไหน ซึ่งทางกลุ่มทางเหลือกใหม่ หวังคะแนนของชาวบ้านที่มีทั้งหมดประมาณ 200,000 คะแนน ขอคะแนนชาวบ้านเลือกตนเพียง 15,000 คะแนน ตนก็พอใจ และถือว่าชนะการเลือกตั้งแล้ว เพราะครั้งนี้มีผู้ลงสมัครจำนวนมากถึง 5 กลุ่ม อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าประชาชนชาวเชียงใหม่ทั้ง 4 แขวง จะไว้ใจให้กลุ่มทางเลือกใหม่ให้ได้เข้าไปทำงานพัฒนาบ้านเมืองอย่างแน่นอน อ.อ๋อง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าว จากนั้นได้ถ่ายภาพหมู่ของแต่ละแขวงครบ 4 แขวง ซึ่งใช้เวลาแถลงข่าวประมาณ 2 ชั่วโมง.

เชียงใหม่ หน่วยงานแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ ขึ้นบินลาดตระเวนฯ พื้นที่ รอยต่อ 3 จังหวัด

หน่วยงานแก้ไขปัญหาไฟป่าฯ ขึ้นบินลาดตระเวนฯ พื้นที่ รอยต่อ 3 จังหวัด หวังปรับแผนแก้ไขปัญหาในพื้นที่
ช่วงบ่ายวันนี้ (4 กพ.) พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า มอบหมายให้ พ.อ.พงษ์ยุทธ งามเกษม รองหัวหน้าส่วนปฏิบัติการ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ร่วมคณะ นายสมคิด ปัญญาดี ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่, นายสุเจตน์ มงคลไชยสิทธิ์ ผอ.ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 และ น.อ.ฤทธิชัย อิ่มใจ หน.ฝ่ายนโยบายและแผน กอ.รมน.จังหวัด ช.ม. บินลาดตระเวนฯ พื้นที่ รอยต่อ 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่-ตาก-ลำพูน บริเวณ รอยต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย – บ้านนา สามเงา – อ.ลี้ – อ.บ้านโฮ่ง โดยใช้ เฮลิคอปเตอร์ AS-350 B2 ของ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาปรับแผนรองรับการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวมักเกิดปัญหาไฟป่าอย่างต่อเนื่องปีนี้ทุกหน่วยงานได้ให้ความสำคัญในการร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยจะมีการบูรณาการกำลังพลเพื่อร่วมลาดตระเวนในพื้นที่เพื่อป้องปรามการลักลอบเผาป่า


อย่างไรก็ตามในปีนี้ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดหลายจุด โดยที่ผ่านมามีการพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดและแนวชายแดน ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์และ กองกำลังชายแดน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกัน จำนวน 19 จุด โดยอยู่ในภาคเหนือตอนบน จำนวน 14 จุด และตอนล่างจำนวน 5 จุด

เชียงใหม่ ดร.หมอแก้มหอม เปิด อโรคยา เดอสารภี ทำบุญบรวงสรวงศาลา พระมหามัยมุนีจำลอง

ดร.หมอแก้มหอม เปิด “อโรคยา เดอสารภี” ทำบุญบรวงสรวงศาลา “พระมหามัยมุนีจำลอง” สืบชะตาอายุวันคล้ายวันเกิด เปิดโครงการ “ธนาคารบุญอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อผู้ป่วยยากไร้”

วันนี้(3 กพ.) เวลา 09.09 น. ที่อโรคยา เดอสารภี จ.เชียงใหม่ ได้มีพิธีบรวงสรวงใหญ่ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของ “แม่มดกัญชา” ดร.แก้มหอม ณ ล้านช้าง สวนแก้ว พร้อมพิธีเปิดหอประดิษฐาน “พระมหามัยมุนีจำลอง” และพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิร่วมไปถึงพิธีเจริญอายุวัฒนมงคล “สืบชะตา” ให้แก่ ดร.หมอแก้มหอมฯโดยมีคุณแม่พะนาย เวชชศาสตร์ พร้อมด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีในครั้งนี้ พร้อมนำกระเช้าผลไม้และช่อดอกไม้ เข้าร่วมอวยพรในวันคล้ายวันเกิดอีกด้วย

นายนรชาติ ป.สรานนท์ เปิดเผยว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลที่ทาง อโรคยา เดอสารภี ได้จัดพิธีใหญ่ พร้อมเปิดโครงการ “ธนาคารบุญอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อผู้ป่วยยากไร้” โดยกล่าวว่า หากท่านใดว่างแวะมาเยี่ยมเยือนพร้อมเดินทางมาเข้ากราบสักการะขอพร “พระมหามัยมุนีจำลอง” ได้เพราะถือเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ต้องไปไกลถึงประเทศพม่า ขอพรต่อลมหายใจเพื่อให้คนป่วย หรือขอพรให้ผู้ที่หมดกำลังใจในการที่จะมีชีวิตอยู่ ในการที่จะต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ หากไม่มีกำลังใจ ก็สามารถเดินทางมาขอพรจากองค์ท่าน เพื่อให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยึดเหนี่ยวประจำใจครับ และ ทางอโรคยา เดอสารภี ได้จัดสร้าง “ถ้ำรอดพระทันใจ” ซึ่งสร้างมาได้ 5 ปีแล้วเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่ผู้ป่วยได้มาขอพรและสร้างกำลังใจ และในส่วน องค์ “พระมหามัยมุนีจำลอง” เป็นพระองค์เดียว ที่ได้รับพรลมหายใจ จากพระพุทธเจ้า ซึ่งองค์ของ “พระมหามัยมุนี” องค์ของท่านจะอยู่ที่ประเทศพม่า

ทางด้านหมอแก้มหอมฯ กล่าวว่า ทางอโรคยา เดอสารภี ได้จัดสร้าง “องค์พระมหามัยมุนีจำลอง” ขึ้น หรือที่เรารู้จักกันว่า ‘พระพุทธรูปที่มีชีวิต’ เพราะว่ามีตำนานกล่าวว่าพระพุทธเจ้าได้ประทานลมหายใจไว้ให้ พระพุทธรูปที่มีชีวิตองค์นี้ ซึ่ง องค์พระมหามัยมุนี มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสวมมงกุฎยอดแหลม มีสังวาลย์รูปกากบาทประดับทับทรวงตรงกลาง และพระพุทธรูปองค์นี้ จะต้องมีพิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี โดยจัดขึ้นในทุกๆ เช้า เสมือนว่าพระพุทธรูปองค์นี้ตื่นจากบรรทม

โดยพิธีนี้จะเริ่มในราวตี 4 ของทุกวัน แต่เนื่องจากสถานะการณ์ในตอนนี้ เกี่ยวกับการระบาดของโควิด -19 ทำให้เราๆ ท่านๆ ไม่สามารถเดินทางไปสักการะได้ ทางอโรคยา เดอสารภี จึงได้บรวงสรวงและจัดทำองค์ “พระมหามัยมุนีจำลอง” นี้ขึ้นเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจของผู้ป่วยและพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ที่สามารถเดินทางมากราบไหว้ขอพรเพื่อต่อลมหายใจและอีกอย่างนึงทางเราได้ทำทางเดินสำหรับรถเข็นของคนพิการหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินได้ ซึ่งถือว่าเป็นที่เดียวในโลกนะคะ ที่มีรถเข็นสามารถเข้าไปปิดทองได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยรอบๆ หอพระมหามัยมุนีจำลอง” จะมีสวนดอกไม้พร้อมทางเดินไว้ให้ได้เป็นที่พักผ่อนจิตใจและออกกำลังกายอีกด้วย

ขณะเดียวกันในวันนี้เราเริ่มโครงการ “ธนาคารบุญอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อผู้ป่วยยากไร้” ก็คือคนที่เจ็บป่วยหรือไม่สบายที่ต้องใช้เครื่องช่วยอะไรต่างๆ อาทิเช่น เครื่องช่วยหายใจเครื่องดูดเสมหะ รถเข็นหรือว่าเตียง หรือผู้ป่วยติดเตียง ที่เข้าห้องน้ำไม่ได้ สามารถมายืมที่นี่ได้โดยทางเราจะได้จัดหาเพื่อไปใช้เพื่อผู้ป่วย ก็จะสามารถใช้จนกระทั่งไม่อยู่ (เสียชีวิต) หรือว่าใช้จนรักษาหาย แล้วก็นำมาส่งคืน เพื่อให้ผู้ป่วยรายอื่นที่ต้องการสามารถมายืมไปใช้ต่อไป สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงาน อโรคยา เดอสารภี ที่โทร.063 7895 888 ดร.หมอแก้มหอมกล่าว

เชียงใหม่ กองกำลังผาเมือง ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองข้ามแดน

กองกำลังผาเมือง ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองข้ามแดนผ่านคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย – เมียนมา ภายหลังเกิดค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานหลายจังหวัด

พลตรี นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองเปิดเผยว่า กองกำลังผาเมือง โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ขับเคลื่อนงานการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าโดยใช้การประชุมของคณะกรรมการชายแดนท้องถิ่นไทย – เมียนมา เพื่อขอความร่วมมือประเทศเมียนมาในการควบคุมการบริหารจัดการพื้นที่การเผา เนื่องจากหมอกควันข้ามแดนส่วนมากมีสาเหตุจากการเผาพื้นที่การเกษตรของฝั่งประเทศเมียนมา ส่งผลให้เกิดจุดความร้อนสะสมจนเป็นสาเหตุของปัญหา PM 2.5 ในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่

ทางด้าน พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ได้มีหนังสือถึง พ.อ.ต่อสิ่นอู ผบ.บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อขอความร่วมมือทางฝั่งประเทศเมียนมาในการบริหารจัดการพื้นที่ทางการเกษตร และควบคุมการเผา ลดปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ และไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวตลอดจนสุขภาพของประชาชนตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 และกองทัพบก

เชียงใหม่ ชาวบ้านเดือดร้อน ล่ารายชื่อยื่นนายกฯ มีนานทุนบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ

ราษฎรอาศัยอยู่กินกับป่า อ.กัลยาณิวัฒนา เชียงใหม่ ล่ารายชื่อ ทำหนังสือ ร้องนายกรัฐมนตรี ให้จัดการกับกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าต้นน้ำ ( ป่าสงวนแห่งชาติ ) ทำไร่สตอเบอรี่ กะหล่ำปลี ใช้สารเคมี กระทบต่อสิ่งมีชีวิตสัตว์คน เคยร้องศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่หลายรอบ แต่ไร้ผล ขอพึ่งสื่อฯ เพื่อให้นายกสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ด่วน

ราษฎรบ้านนะโน หมู่ที่ 2 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันล่ารายชื่อ เพื่อทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สั่งการเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนได้มาบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำของบ้านนะโน ซึ่งเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีการบุกรุกพื้นที่ป่า จำนวนหลายจุด ร่วมกว่า 1,000 ไร่ เพื่อทำไร่ สตอเบอรี่ และไร่กะหล่ำปลี ได้โค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ และใช้รถแบคโฮ ไถทำถนนเพื่อเข้าไปในสวนเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก นอกจากนั้นมีการใช้สารเคมียาฆ่าแมลงต่าง ๆ ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตและสัตว์และมนุษย์ เนื่องจากราษฎรมีอีกหลายหมู่บ้านต้องใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคน้ำที่ไหลจากจุดนี้ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอนุรักษ์หลายชนิด แต่เดิมพื้นที่ป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์มาก ชาวบ้านบ้านนะโนได้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นป่าต้นต้นน้ำ โดยยึดหลักคนอยู่กับป่า ป่าอยู่กับน้ำและสัตว์ เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของป่าจากรุ่นสู่รุ่นหลายชั่วอายุคนมาแล้ว และบรรพบุรุษตั้งแต่ในอดีตต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานไปสืบต่อไป

นายจะริ สภาวนากุล เปิดเผยว่า สำหรับ บ้านนะโน หมู่ 2 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เดิมหมู่บ้านนี้อยู่ในพื้นที่เขตอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ต่อมา กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศ จัดตั้ง อ.กัลยาณิวัฒนา ขึ้นเป็นอำเภอที่ 25 ของ จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นอีกไม่นาน ประมาณปี 2553 จังหวัดเชียงใหม่ ให้บ้านนะโน ไปมาขึ้นอยู่ในเขตพื้นที่ของ อ.กัลยาณิวัฒนา


สำหรับบ้านนะโน มีเขตติดต่อกับเขตหมู่บ้านแม่แจ๊ะ ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทิศใต้มีเขตติดต่อกับ ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เมื่อหมู่บ้านขึ้นอยู่กับ อ.กัลยาฯ ไม่นานได้มีกลุ่มนายทุน เข้ามาการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำของบ้านนะโน เพื่อถางพื้นที่ป่าสงวน ทำไร่ สตอเบอรี่และ สวนกะหล่ำปลี โดยใช้สารเคมีนานาชนิด ส่วนฤดูร้อนกลุ่มนายทุนเหล่านี้ ได้ต่อท่อประปาดูดน้ำเข้าสวนไปหมด ทำให้ประชาชนที่อยู่ปลายน้ำไม่มีน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งได้สร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านนะโนมานานกว่า 10 ปี รวมถึงสัตว์ป่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการดำเนินชีวิตของชาวบ้านนะโน จากการใช้สารเคมีของกลุ่มนายทุนดังกล่าว ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สัตว์ สิ่งมีชีวิต ทั้งคนแต่อย่างใด ทำให้สารเคมีตกค้างในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ แล้วไหลลงสู่พื้นที่กลางน้ำที่ชาวบ้านบ้านนะโนได้อาศัยอยู่ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายชีวิตและทรัพย์ของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

DCIM100MEDIADJI_0752.JPG

นายพะยะเง สมรโสภิตวงษ์ หนึ่งในคณะกรรมการหมู่บ้าน กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร ใช้ระบบอินทรีย์มาโดยตลอด ต่อมามีได้บาดแผลที่ขารักษาอย่างไรก็ไม่หาย จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมอบอกว่า เป็นการติดเชื้อแบบรื้อรัง สาเหตุมาจากการได้รับผลจากสารเคมีไม่ทราบชนิด ทั้งที่ไม่เคยใช้สารเคมีแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจากเกิดจากสารเคมีที่กลุ่มนายทุนใช้ในป่าต้นน้ำและไหลลงสู่ตอนล่างและตนได้ไปสัมผัสมาอย่างแน่นอน

DCIM100MEDIADJI_0759.JPG

ปัญหาดังกล่าวนี้ คณะกรรมการบ้านนะโน ทั้งทำหนังสือร้องเรียนไปยัง หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่า ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์ดำรงธรรม ระดับอำเภอกัลยาฯและจังหวัดเชียงใหม่ มาแล้วหลายรอบก็ไม่เป็นผล สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ขณะนี้ชาวบ้านไม่รู้จะพึ่งใคร จึงต้องอาศัยสื่อมวลชนเพื่อเสนอข่าวให้สังคมรับทราบถึงปัญหาของชาวบ้าน บ้านนะโนอย่างแท้จริง และในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย นาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนถึงหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อีกด้วย เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการถอนกลุ่มนายทุนออกจากพื้นที่และจัดการเขตพื้นที่แต่ละหมู่บ้านอย่างชัดเจนต่อไป


สำหรับการบริหารจัดการป่าชุมชนของราษฎรบ้านนะโน ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา โดยบริหารในรูปแบบคณะกรรมการหมู่บ้านจำนวน 13 คน โดยแต่ละคนมีบาทบาทหน้าที่ตามที่ตกลงกันไว้ พื้นที่ป่าชุมชนประมาณ 8000 กว่าไร่ โดยแบ่งเป็นป่าอนุรักษ์ ทั้งป่า และพันธุ์สัตว์ป่า สำหรับป่าใช้สอย ลำห้วย แม่น้ำ ลำธาร สวน ไร่-นา ไร่หมุนเวียน ถนน และหมู่บ้าน เป็นต้นแบบที่ทำกันมากว่า 20 ปีแล้ว

เชียงใหม่ มทบ.33 เปิดป้ายศูนย์ประสานงาน อาสาสมัครกิจการพลเรือน อำเภอดอยสะเก็ด

มณฑลทหารบกที่ 33 เปิดป้ายศูนย์ประสานงาน อาสาสมัครกิจการพลเรือน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

พันตรีศรศักดิ์ ศศิพงษ์พนา นายทหารประชาสัมพันธ์มณฑลทหารบกที่ 33 และหัวหน้าชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 33 เป็นประธานเปิดป้าย ศูนย์ประสานงาน อาสากิจการ พลเรือน มณฑลทหารบกที่ 33(อส.กร.มทบ.33) ณบ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 3 ตำบลแม่โป่งอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มี จ่าสิบเอกชยุต เกษมกิจ ผู้ช่วยสัสดี อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และ อาสากิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 33(อส.กร.มทบ.33) อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธี เปิดป้าย ศูนย์ประสานงาน อาสากิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 33 อย่างพร้อมเพียงกัน

เชียงใหม่ จนท.สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำเขตติดต่อ 2 อำเภอ พบมีนายทุนเข้าบุกรุกหลายจุด

จนท.สนธิกำลังเข้าตรวจพื้นที่ป่าต้นน้ำในพื้นที่เขตติดต่อ อ.แม่แจ่ม และอ.กัลยาณิวัฒนาจ.เชียงใหม่ พบมีพื้นที่บางส่วนถูกกลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกแผ่วถางป่าปลูกพืชผักหลายร้อยไร่ จนท.ได้ทำการบันทึกตรวจยึดไว้ พร้อมจะได้ขยายผล โดยตรวจสอบพบว่า พื้นที่ป่าบริเวณนี้ มีการบุกรุกอยู่อีกหลายจุด 

จนท.หน่วยฯชม.34(แม่ตะละ)สรป.สบอ.16 เชียงใหม่ ได้ร่วมกับ จนท.หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่แจ่ม จนท.หน่วยจัดการต้นน้ำบ่อแก้ว จนท.หน่วยฯชม.12(วัดจันทร์) ,จนท.หน่วยฯชม.17(สบวาก),จนท.สายตรวจส่วนกลาง สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 กรมป่าไม้ ,จนท.ตำรวจ สภ.กัลยาณิวัฒนา,ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่แจ๊ะ ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม ,ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่ตะละเหนือและชาวบ้านบ้านนะโน บ้านแม่แจ๊ะ ร่วมกันออกตรวจป้องกันและปราบปราบการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และสัตว์ป่า ประชาสัมพันธ์การป้องกันหมอกควัน ไฟป่าและร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ตามหนังสือร้องเรียน ของชาวบ้านนะโน ต.แม่แดด ซึ่งร้องเรียน
ไปยังศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเชียงใหม่

เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว พบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่แจ่ม ท้องที่ระหว่าง บ้านแม่แจ๊ะ ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม และ บ้านนะโน ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ โดยหน่วยฯชม.17(สบวาก) กรมป่าไม้ ได้ทำบันทึกตรวจสอบและตรวจยืดไว้แล้วบางส่วน ส่วนพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง จนท.จะได้ร่วมกันดำเนินการในวันต่อไป ในเวลากลางวัน(รายละเอียดจะได้นำเรียนในโอกาสต่อไป )

DCIM100MEDIADJI_0752.JPG

เชียงใหม่ ทหารร่วมกับ ปปส.ภาค 5 ตรวจสอบการขนส่งโลจิสติกส์ทางด้านรถไฟ

ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ ร่วมกับ ปปส.ภาค 5 ตรวจสอบการขนส่งโลจิสติกส์ทางด้านรถไฟ เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดรวมถึงสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ

พล.ต. สุรจิตร สุขีเมฆ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หรือ ศป.บส.ชน. นำเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 5 พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสุนัขทหาร- ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการขนส่งโลจิสติกส์ทางรถไฟขบวนรถไฟหมายเลข 14 เชียงใหม่ – กรุงเทพ เพื่อตรวจสอบสิ่งเสพติดผิดกฏหมาย ยาเสพติด ที่อาจซุกซ่อนกับสัมภาระ เพื่อเป็นการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดในระบบโลจิสติกส์ ตามนโยบายของทางรัฐบาล ซึ่งเป็นการยกระดับและสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด

ทั้งนี้หนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือการเพิ่มความเข้มงวดสถานประกอบการโลจิสติกส์ ป้องกันมิให้มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านระบบขนส่งโลจิสติกส์ เนื่องจากพบว่าเครือข่ายค้ายาเสพติดนั้นมีความพยายามที่จะเปลี่ยนรูปแบบการลำเลียง เพื่อหลบเลี่ยงการจับกุมจากเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบเบื้องต้นที่ลงพื้นที่ไปไม่พบสิ่งที่ผิดกฎหมาย สำหรับปฏิบัติการตรวจสถานประกอบการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ตั้งแต่เดือน ต.ค. 63 ถึง ม.ค. 64 ปีนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ , เชียงราย และ พะเยา ทั้งหมดจำนวน 30 แห่ง ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างไร

เชียงใหม่ มอบเสื้อกันหนาวผ้าห่มให้นักเรียนยากจนชายแดน

พระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ มอบเสื้อกันหนาว ผ้าห่มให้นักเรียนยากจนชายแดน

ด้วยอากาศทางภาคเหนือตอนบนยังมีความหนาวเย็น 10-17 องศาเซียนเซียส ในช่วงเช้า ตอนเย็นและกลางคืน ซึ่งมีเด็กยากจนอยู่จำนวนไม่น้อยที่ยังขาดแคลนเสื้อกันหนาว และผ้าห่มกันหนาว และในพื้นที่ที่ติดชายแดนนั้นยิ่งมีความต้องการเครื่องกันหนาวเพราะอากาศจะหนาวเย็นกว่าพื้นราบ

ทางคณะญาติธรรมวัดป่าไม้แดง โดยการนำของพระครูสถิตธรรมาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่จึงได้จัดหามาให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านปง ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 19 กิโลเมตร โดยจัดเสื้อกันหนาวไหมพรม ให้กับเด็กนักเรียนจำนวน 180 ตัว ให้นักเรียน และผ้าห่มจำนวน 30 ผืน ให้กับโรงเรียนซึ่งจะใช้กับนักเรียนระดับอนุบาลห่มในช่วงนอนพักกลางวันที่โรงเรียน โรงเรียนบ้านปงมีนักเรียนจำนวน 180 คน มีการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับชั้นประถมปีที่ 6

การนำผ้าห่มและเสื้อกันหนาวไปแจกให้แต่ละพื้นที่ที่ทั้งเด็กนักเรียน คนชรา ชาวบ้านต่างๆนั้นตามแต่ละที่ตามความต้องการของชาวบ้านที่ขาดแคลน และมาร้องขอทางคณะญาติธรรมและคนใจดีจึงจะจัดให้มาทางวัดเพื่อจ่ายแจกไปตามพื้นที่ที่ขาดแคลนเท่านั้น