เชียงใหม่ แข่งขันภาษาและวัฒนธรรมจีนแห่งประเทศไทย

การแข่งขันภาษาและวัฒนธรรมจีนแห่งประเทศไทยชิงถ้วยรางวัล “สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่”

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2564 เวลา 08.30-15.00 น.ได้มีการจัดงานการแข่งขันภาษาและวัฒนธรรมจีนแห่งประเทศไทยชิงถ้วยรางวัล“สถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่” ผ่านทางออนไลน์ (Zoom) ซึ่งเป็นการแข่งขันภาษาจีนที่ริเริ่มขึ้นโดยสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเรียนภาษาและวัฒนธรรมจีนของผู้เรียนชาวไทย ส่งเสริมพัฒนาการศึกษาภาษาจีนในประเทศไทย การแข่งขันในครั้งที่ 2 นี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่างโรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงวาณิชบำรุง สถาบันขงจื่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บริษัท เสฉวน ซินหัวเล่อจือ เทคโนโลยี จำกัด และบริษัท สิโนไทย เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด

การแข่งขันในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย การแข่งขันร้องเพลงจีน การกล่าวสุนทรพจน์จีน การบรรเลงเพลงจีน การเขียนพู่กันจีน การคัดลายมือจีน และการทำรายการอาหารจีน ซึ่งครอบคลุมการแข่งขันทั้งในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมทั้งหมด 12 รายการแบ่งตามระดับชั้น

การแข่งขันในปีนี้ ได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฯ จำนวนทั้งหมด 1,232 คน ผู้ที่สมัครและส่งผลงานสำเร็จ จำนวน 942 คน มาจาก 500 กว่าสถานศึกษา การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศได้เรียนเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงจากหลายสถาบันมาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการแข่งขันในครั้งนี้ อาทิ ผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาวิชาภาษาจีน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันขงจื่อ มช. มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฯลฯ

ในระหว่างการจัดงาน ได้รับเกียรติจากท่าน อู๋ จื้อ อู่ กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน คุณเหรียน เฉิน ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นางสาวรัตนาพร เมธาธนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท สิโนไทย เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด และคณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน เข้าร่วมและกล่าวในพิธีเปิด

หลังพิธีเปิดและการแข่งขันในช่วงเช้า ได้มีการประกาศผลการแข่งขันและมอบรางวัล แก่ผู้เข้าแข่งขันฯ โดยแบ่งรางวัลตามประเภท ดังนี้ รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลและถ้วยรางวัล จำนวน 12 รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 12 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 12 รางวัล, รางวัลชมเชย เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 80 รางวัล, รางวัลครูผู้ฝึกสอนชนะเลิศ เงินรางวัลพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 12 รางวัล

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในระดับมัธยมปลาย ได้แก่ การแข่งขันร้องเพลงจีน นางสาวอนันตา คำรอด จากโรงเรียนราชโบริกานุเคราะห์ การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์จีน นางสาวศศิวิมล เตชะพนาลัย จากโรงเรียนสะเมิงพิทยาคม, การแข่งขันบรรเลงเครื่องดนตรีจีน นายธรรมรงค์ ทับพวาธินท์ จากโรงเรียนโยธินบำรุง จ.นครศรีธรรมราช

การแข่งขันคัดพู่กันจีน นางสาวอริสา แซ่ลี จากโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย จ.เชียงราย, การแข่งขันคัดลายมือ นางสาวมณีวรรณ แซ่ลี จากโรงเรียนจงฝามูลนิธิ จ.ยะลา, การแข่งขันรายการทำอาหาร นางสาวพิมพ์ชนก ตวงวิทยากุล จากโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย จ.เชียงราย บริษัท สิโนไทย เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด ในฐานะผู้สนับสนุนและผู้ดำเนินการแข่งขัน ได้มีส่วนสนับสนุนในการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ด้านเทคนิคการถ่ายทอดสด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายดำเนินการ ขอถือโอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะผู้บริหาร คณะทำงาน ที่ได้มอบโอกาสทางความร่วมมือให้เราได้มีส่วนสนับสนุนเยาวชนไทยได้เรียนรู้ภาษาจีน และส่งเสริมการพัฒนาภาษาและวัฒนธรรมจีนในประเทศไทย.

เชียงใหม่ ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองสกัดแรงงานฯชายแดน อ.ฝาง จังหวัดเขียงใหม่ 18 คน ก่อนเข้ามาทำงานในพื้นที่

ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองสกัดแรงงานฯชานแดน อ.ฝาง จังหวัดเขียงใหม่ 18 คน ก่อนเข้ามาทำงานในพื้นที่
เมื่อ 26 ธ.ค. 64 เวลา 05.00 กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 จัดกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการร่วมกับ หมวดทหารม้าสกัดกั้นที่ 1 กองกำลังผาเมือง ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณช่องทางกังตี๋ ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเขียงใหม่ ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จึงได้แสดงตัว เพื่อขอทำการตรวจค้น

ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 18 คน เป็นชาย 8 คน, หญิง 7 คน พร้อม เด็ก 3 คน หน่วยจึงได้นำผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายทั้งหมดตรวจคัดกรอง ตามมาตรการสาธารณสุขพร้อมซักถามข้อมูลเบื้องต้น ที่ ฐานปฏิบัติการ บ.หลวง ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ เปิดอย่างเป็นทางการ งานเกษตรแม่โจ้ (ออนไลน์)

เปิดงานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564 Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-29 ธันวาคม 2564

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564 Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-29 ธันวาคม 2564 โดยมี นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวรายงาน โอกาสนี้ คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมให้การต้อนรับและเที่ยวชมงาน ณ แปลงสาธิตพืชผัก มหาวิทยาลัยแม่โจ้

รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อฉลองการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ครบรอบ 87 ปี และการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบอุดมศึกษาภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ การพลิกโฉมมหาวิทยาลัยเป็นไปตามเป้าหมายและเป็นไปตามยุทธศาสตร์ การพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ปีที่ 100 (2477-2577) การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิต สร้างสังคมแห่งการ “กินดี” “อยู่ดี” และ “มีสุข” เผยแพร่องค์ความรู้ทางการเกษตรสู่สาธารณชน อันเป็นการเผยแพร่ภาพลักษณ์และสร้างชื่อเสียงให้แก่มหาวิทยาลัยด้านการบริการวิชาการและงานวิจัยต่างๆให้ได้รับการต่อยอด รวมถึงเป็นกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมเครือข่ายของมหาวิทยาลัยทุกภาคส่วนให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถที่เกิดประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจและชุมชนในทุกมิติ โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความรู้และการปฏิบัติงาน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมงานเกษตรแม่โจ้ในครั้งนี้”

ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว.ประธานในพิธี กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มุ่งเน้นด้านการเกษตร ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการปฏิรูประบบอุดมศึกษาภายใต้กรอบนโยบายของกระทรวงในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย (Reinventing University) มีการให้บริการวิชาการแก่ท้องถิ่น ชุมชน และการเผยแพร่ผลงานวิชาการ เทคโนโลยี นวัตกรรม ถ่ายทอดเทคโนโลยี องค์ความรู้ต่างๆ ที่เหมาะสมแก่ประชาชน เกษตรกร องค์กร ต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านการจัดงานเกษตรแม่โจ้ (ออนไลน์) 2564 ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยในภาพรวมอย่างยั่งยืน”

ด้าน นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือนเชียงใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ และมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราว วิวัฒนาการ องค์ความรู้ต่างๆ สู่สาธารณชน ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้แก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้ประชาชนพึ่งพาตนเองได้เป็นอยางดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาตนเองแบบยั่งยืน ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ภูมิปัญญาของท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อมของประเทศโดยรวมให้ดียิ่งขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้มหาวิทยาลัยแม่โจ้พัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน เป็นแหล่งองค์ความรู้และเป็นเสาหลักสำคัญด้านการทำงานร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป”

งานเกษตรแม่โจ้ออนไลน์ 2564 Kaset Fair @Maejo 2021 >>Next normal “นวัตกรรมเกษตรอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืน” (วิถีใหม่) Smart Agricultural Innovation for Sustainability จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 – 29 ธันวาคม 2564 ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ มีการประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติผ่านระบบออนไลน์ การจัดแสดงแปลงสาธิตพืช สัตว์ ประมง พร้อมเที่ยวชมผ่าน Virtual Reality https://kasetmaejo2021.mju.ac.th การแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรด้านพืช สัตว์ ประมง การฝึกอบรมสัมมนาวิชาชีพและหลักสูตรอบรมระยะสั้น งาน 45 ปีคณะผลิตกรรมการเกษตร “นวัตกรรมเกษตรยุคใหม่ อาหารปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ” และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ พร้อมจัดส่งถึงบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง FB Page : งานเกษตรแม่โจ้ (ออนไลน์) 2564 https://www.facebook.com/kasedmaejo โทรศัพท์ 0 5387 3017

เชียงใหม่ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่งชุดซานตาคลอส เดินแจกของเล่นและขนมให้กับเด็กๆ

ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่งชุดซานตาคลอส เดินแจกของเล่นและขนมให้กับเด็กๆ ที่มาเที่ยวสวนสัตว์ ในวันคริสต์มาส สร้างความสุขและรอยยิ้ม ให้กับเด็กๆ และยังกันเข้าชมความน่ารัก ของแพนด้าหลินฮุ่ย ที่มีการตกแต่งส่วนจัดแสดงให้เข้ากับบรรยากาศ ด้วย


นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่งกายในชุดซานต้าครอส ติดหนวดเคราสีขาว แบกถุงของขวัญสีแดง พร้อมขบวนซานตีซานต้า นั่งขบวนรถตกแต่งสวยงาม ไปยังจุดแสดงหมีแพนด้า และแจกของเล่นและขนมให้กับเด็กๆที่ผู้ปกครอง พาเข้าชมแพนด้าหลินฮุ่ยในส่วนจัดแสดง ทำให้เด็กๆต่างพากันดีใจและตื่นเต้น ที่มีลุงซานต้านำของเล่นและขนมมาแจก สร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ

นอกจากนั้นยังเดินแจก ให้กับเด็กๆตามส่วนจัดแสดงสัตว์ต่างๆ ขณะแจกขนมให้เด็กๆ หนวดลุงซานต้า เกิดหลุดหล่นลงพื้น ทำให้เด็กๆพากันชอบใจ และแซวลุงซานต้าหนวดหลุด สร้างเสียงหัวเราะ

ทั้งนี้การจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างความสุขให้กับเด็กๆ ซึ่งช่วงวันหยุด ก็มีผู้ปกครองพาบุตรหลาน มาชมความน่ารักของสัตว์จำนวนมาก แต่ก็ยังเข้มในเรื่องมาตรการ ทางสาธารณสุขด้วย และขอทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาส

เชียงใหม่ ปางช้างแม่สาจัดพิธีกรรมทางศาสนาก่อนฝังช้างพังแม่น้อยสู่สุคติ

ปางช้างแม่สาจัดพิธีกรรมทางศาสนาส่งวิญญาช้างพังแม่น้อย วัย 64 ปี ก่อนฝังสู่สุคติ

วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่บริเวณสุสานช้าง ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีพิธีกรรมทางศาสนา โดยนางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้าง ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 4 รูปจากวัดน้ำตกแม่สา มาทำพิธีสูตรถอด ตามความเชื่อของคนเลี้ยงช้าง และสวดมนต์อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลเป็นการส่งวิญญาณช้างพังแม่น้อย วัย 63 ปีที่เพิ่งล้มตายลงเมื่อวานนี้ไปสู่สุขคติ โดยมีปศุสัตว์อำเภอแม่ริม และสัตวแพทย์ทำการชันสูตรซาก เพื่อให้ถูกต้องตามกฏหมายก่อนทำการฝังกลบซากของช้างในหลุมที่มีความลึก


ตามกฏหมายเมื่อมีช้างเกิดหรือช้างล้มตาย เจ้าของช้างจะต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องคือกรมปศุสัตว์ และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานข้อมูลทะเบียนช้าง และหมายเลขไมโครชิพในรูปแบบเล่มตั๋วรูปพรรณให้ช้างเลี้ยงแต่ละเชือกไว้แสดงเป็นหลักฐานของช้าง, เจ้าของช้าง ตั๋วรูปพรรณช้างจึงมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อมีการซื้อขายช้างให้ถูกต้องต้องตามกฏหมาย

เชียงใหม่ ฟื้นตำนาน ร่มบ่อสร้าง เปิดหมู่บ้านทำมาค้าขาย แห่งใหม่

กรมการค้าภายในเดินหน้า มุ่งพัฒนาท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็ง ให้เศรษฐกิจฐานราก เปิดหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ “วิสาหกิจชุมชนศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง” จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย

วันนี้ (24 ธันวาคม 2564) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดตัวโครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ ประจำปีงบประมาณ 2564 “วิสาหกิจชุมชน ศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง” ที่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอสันกำแพง กล่าวต้อนรับ พร้อมนำตัวแทนหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วม มีประชาชน นักท่องเที่ยวเข้าชมงานจำนวนมาก


กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้เข้ามาช่วยส่งเสริมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งเปิดช่องทางการขายเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้กับชุมชนตามนโยบายของรัฐที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้วยงานออกแบบที่ร่วมสมัย เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกช่วงวัย เพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ เป็นการสร้างโอกาส เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับวิสาหกิจชุมชน ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานคอลเลคชั่นใหม่ ชุด “งามดอกไม้เมือง” ที่กรมการค้าภายใน เข้ามาช่วยส่งเสริมพัฒนา และนิทรรศการแนะนำกลุ่ม กิจกรรมสาธิตการเพ้นท์ร่มด้วยเทคนิคดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของร่มบ่อสร้าง การปัก ถัก และเพ้นท์ลวดลายบนร่มและพัด รูปแบบใหม่ ร่วมสมัย

อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศโดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง ด้วยการสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชน โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย โดยกรมการค้าภายใน ได้เล็งเห็นศักยภาพและความเข้มแข็งของ “วิสาหกิจชุมชนศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง” ที่มีหลักการทำงานภายใต้แนวคิดการกระจายรายได้ ร่มบ่อสร้าง 1 คัน สร้างรายได้ทางตรงจากการทำร่ม ให้กับชาวบ้านถึง 2 อำเภอคือ อำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบและแหล่งช่างฝีมือในการทำร่ม ตามภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 200 ปี จากอดีตจนปัจจุบัน ได้แก่ กระดาษสา ทำที่บ้านต้นเปา อำเภอสันกำแพง ด้ามร่ม ทำที่บ้านเหล่า, บ้านออน อำเภอสันกำแพง และบ้านแม่ฮ้อยเงิน อำเภอดอยสะเก็ด ซี่ร่มและโครงร่ม ทำที่บ้านสันต้นแหน อำเภอดอยสะเก็ด และนำมาประกอบกัน ปิดกระดาษร่ม (หุ้มร่ม) ลงสี ที่บ้านบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง

กรมการค้าภายใน จึงได้เข้ามาช่วยส่งเสริมและพัฒนาให้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ โดยการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ด้วยการพัฒนาคอลเลคชั่นสินค้าใหม่ให้โดดเด่นจากงานร่มและพัดบ่อสร้าง ในแบบดั้งเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ มาตรฐาน เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของร่มบ่อสร้าง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ถือเป็นเครื่องหมายการันตีภูมิปัญญาของชาวอำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้นำลักษณะเฉพาะที่มีอยู่ในแหล่งภูมิศาสตร์มาใช้ประโยชน์ในการผลิตสินค้าท้องถิ่น โดยเชิญ คุณบุษกร ชยาทิตย์ ดีไซน์เนอร์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ “มองดอกไม้บายบุษกร” มาออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ ประเภทร่มและพัด เป็นซีรี่ย์ ชุด “งามดอกไม้เมือง” คือการเชื่อมโยงอดีตสู่ปัจจุบัน ลงบน “ร่มบ่อสร้าง” หนึ่งในงานหัตถศิลป์ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานของชาวล้านนา…สู่มุมมองใหม่ที่ร่วมสมัย ด้วยการนำดอกไม้ 3 ชนิด ที่เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อและความศรัทธาในพุทธศาสนาของคนล้านนา มาแต่งแต้มบนผลิตภัณฑ์ ผ่านเทคนิคการปัก ถัก และการเพ้นท์ ได้แก่ ดอกซอมพอ หรือ ดอกหางนกยูงไทย ที่มีรูปโฉมคล้ายผีเสื้อหลายๆ ตัวเกาะไล่เรียงเป็นช่อ มีความหมายเกี่ยวกับวิถีของการทำบุญและการปฏิบัติตนในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ดอกเก็ตถะหวา หรือดอกพุดซ้อน ที่ชาวล้านนาถือว่าเป็นหนึ่งในพญาดอกไม้ และ ดอกตะล่อม หรือ ดอกบานไม่รู้โรย ที่ชาวล้านนาเชื่อว่า เป็นดอกไม้มงคล ที่หมายถึงการประคับประคองให้ชีวิตราบรื่น ร่มเย็น มีความสุข รวมทั้งออกแบบบรรจุภัณฑ์ กล่องใส่ร่มและถุงใส่พัดที่สามารถนำมาดัดแปลงเป็นผ้าคลุมผมในคอนเซ็ปต์เดียวกับผลิตภัณฑ์ ติดอาวุธความคิดทางธุรกิจด้วยการอบรมการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ การเจรจาการค้า การศึกษาดูงาน เชื่อมโยงช่องทางการตลาดกับตัวแทนจำหน่ายและหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงแรม ที่มีการสั่งซื้อสินค้าของวิสาหกิจศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง ไปตกแต่งสถานที่

อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุด้วยว่า โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีสมาชิกเป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร กลุ่มแม่บ้าน เพื่อให้การประกอบธุรกิจมีประสิทธิภาพ สามารถดำรงธุรกิจของชุมชนได้อย่างมั่นคง ชุมชนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง อยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเอง และลดการย้ายถิ่นฐานจากชุมชนเข้าสู่เมือง โดยมีวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 25 แห่ง

สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมการค้าภายใน ได้ส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนเป็น “หมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่” จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ผ้าทำมือบ้านจงเจริญ จังหวัดเชียงราย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านนาป่าหนาด จังหวัดเลย วิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านบ่อหลวง จังหวัดน่าน วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมล้านนาสันปูเลย จังหวัดพะเยา วิสาหกิจชุมชนศูนย์ทำร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่ และวิสาหกิจชุมชนบ้านสหกรณ์ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร โดยทุกที่มีความพร้อมที่ก้าวไปสู่เป้าหมายของ “หมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่” ที่ประสบผลสำเร็จและเป็นแรงสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน

น่าน กองกำลังผาเมืองชวนเที่ยวฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ เรียนรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และการสู้รบในอดีต

กองกำลังผาเมืองชวนเที่ยวฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ เรียนรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และการสู้รบในอดีต
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่านเป็นอำเภอหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเมื่อ 50 ปีก่อนเคยเป็นฐานปฏิบัติการของ กองพันทหารราบที่ 3 สมรภูมิการสู้รบในอดีต ระหว่างทหารไทยกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2514 สนามเพลาะและ แนวกับระเบิด เป็น สิ่งที่หลงเหลือจากการต่อสู้ จนทำให้เกิดความสูญเสียทหารไทยผู้กล้า จำนวน 17 นาย (นายทหารสัญญาบัตร 2 นาย, นายทหารประทวน 4 นาย, ทหารกองประจำการ 11 นาย) และมีทหารบาดเจ็ดอีก 31 นาย ส่วนผู้ก่อการร้าย เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 30 คน และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก การต่อสู้ในครั้งนั้น ฝ่ายทหารไทยสามารถรักษาฐานปฏิบัติการแห่งนี้ไว้ได้
ในปี 2538 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีในขณะนั้น ทรงเล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสู้รบในยุทธภูมิห้วยโก๋น ได้เสด็จฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นเก่า พร้อมทรงนำคณะอาจารย์และนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 4 ของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเยี่ยมชมและศึกษาบทเรียนจากการรบ ซึ่งต่อมากองพลทหารม้าที่ 1 กองกำลังผาเมือง และหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดน่านได้ปรับปรุงฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์ทหารกลางแจ้ง กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทหาร เพื่อเป็นกรณีศึกษาบทเรียนจากการรบในอดีต และได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2542 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้บัญชาการทหารบกเป็นประธานในพิธีเปิด

ในปีนี้กองกำลังผาเมืองได้มีการปรับปรุงฐานปฏิบัติการบ้านห้วยโก๋นเก่า เป็นพิพิธภัณฑ์ทหารกลางแจ้งที่มีชีวิตอีกครั้ง โดยได้นำกำลังทหารจาก กองพันทหารม้าที่ 10 กองพันทหารม้าที่ 15 กรมทหารม้าที่ 2 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 32 ปรับปรุงอนุสรณ์สถาน 17 ทหารกล้า (ฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น)จังหวัดน่าน เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์และการสู้รบในอดีต

กว่า 50 ปีที่ พิพิธภัณฑ์ทหารกลางแจ้ง อนุสรณ์สถาน 17 ทหารกล้า เป็นความภูมิใจของชาวจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ บ้านห้วยโก๋น ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากจังหวัดน่านระยะทาง 138 กิโลเมตร หากเดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางทุกท่านจะได้ชมวิถึชีวิตของชาวบ้าน รับประทานอาหารพื้นเมือง ราคากันเอง พร้อมบรรยากาศสบายๆริมทาง ที่สำคัญได้มาศึกษาเรียนรู้ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของทหารกล้า ในฐานปฏิบัติการตามพื้นที่แนวชายแดน จังหวัดน่าน แบบวิถีใหม่ New Normal

เชียงใหม่ “ส.ว.ก๊อง” เฮ กกต.ยกคำร้อง “ทักษิณ” หนุนเป็นนายก อบจ. พร้อม ส.อบจ.กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ 21 ราย ลากยาวอยู่ครบวาร

“ส.ว.ก๊อง” เฮ กกต.ยกคำร้อง “ทักษิณ” หนุนเป็นนายก อบจ. พร้อม ส.อบจ.กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ 21 ราย ลากยาวอยู่ครบวาระ อนุกรรมการฝ่ายสืบสวนมีมติเสียงส่วนใหญ่ชี้ข้อกฎหมายไม่ห้ามคนอื่นหสเสียงให้ จึงไม่เข้าข่ายชี้นำ-แทรกแซง การที่ปชช.เลือกเป็นสิทธิส่วนบุคคล ขณะที่ผอ.กกต.เผยยังไม่มีหนังสือแจ้งเป็นทางการ รอยืนยันก่อนเผยแพร่เป็นทางการ

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 แหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายสืบสวน สอบสวน การเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ กรณีที่มีผู้ร้องไปยัง กกต.ว่านายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ที่ชนะเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. วันที่ 20 ธันวาคม 2563 หรือ 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนจดหมาย และทำคลิปวิดีโอลงเฟชบุ๊กส่วนตัว เพื่อสนับสนุนนายพิชัย จนได้รับเลือกตั้งดังกล่าวว่า เรื่องดังกล่าว มีผู้ร้องนายพิชัย และ ส.อบจ. 21 คน กลุ่มเพื่อไทยเชียงใหม่ ที่ได้รับคะแนนสูงสุด รวม 24 คำร้อง

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า คณะอนุกรรมการชุดดังกล่าวได้มีการถกเถียงและเหตุผลว่าเนื่องจากไม่มีระเบียบ หรือข้อห้ามไม่ให้บุคคลอื่นหาเสียงให้กับผู้สมัคร ซึ่งผู้สมัครไม่ได้ร้องขอ จึงถือว่าคำร้องคัดค้านดังกล่าวตกไป และได้ส่งมติดังกล่าวให้กับว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งได้มีการประชุมและได้มีมติด้วยเสียงข้างมากยกคำร้องเรื่องดังกล่าวทั้งหมดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 หรือ 2 วันที่ผ่านมา เนื่องจากนายทักษิณ ได้สนับสนุนเป็นการส่วนตัว หรือสิทธิส่วนบุคคล ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นอย่างใด ซึ่งนายพิชัย สามารถ บริหารงาน อบจ.ได้อีก 3 ปี จนครบวาระ

ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีผู้ร้องได้ระบุว่า นายทักษิณ และนายพิชัยได้หาเสียงด้วยวิธีการหลอกลวง และจูงใจผู้ลงคะแนนให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมนั้น ไม่เข้าข่ายการชี้นำ แทรกแซง หรือบังคับให้ผู้มีสิทธิไปลงคะแนนดังกล่าว แต่ผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนดังกล่าว ด้วยความสมัครใจ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งการยกคำร้องดังกล่าว ทาง กกต. กลาง ไม่แถลงเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการอย่างใด

นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และยังไม่มีหนังสือแจ้งให้ทราบอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจะสอบถามไปยัง กกต.กลาง ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างไร เพื่อความถูกต้องและชัดเจน ก่อนเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบอย่างเป็นทางการต่อไป

เชียงใหม่ ปธ.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ชี้การจัดกิจกรรม ต่อเนื่อง ช่วงสิ้นปีถึงปีใหม่ ส่งผลดีกับการท่องเที่ยว

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ชี้การจัดกิจกรรม ต่อเนื่อง ช่วงสิ้นปีถึงปีใหม่ ส่งผลดีกับการท่องเที่ยว คาดตลอดเดือนธันวาคมของปีนี้ เงินสะพัดถึง 3 พันล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวประคองธุรกิจออกไปได้อีก
นายรัฐพล นราดิสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดการประชุมใหญ่ สามัญประจำปี 2564 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ที่โรงแรมเลอเมอรีเดียน จังหวัด เชียงใหม่ ซึ่งมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านรถเช่า ธุรกิจทัวร์ มาร่วมงานมากกว่า 100 ราย โดยมีพลตำรวจตรี ปชา รัตนพันธ์ เป็นนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประจำ 2563 – 2565

นายรัฐพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะมีความเข้มงวดกับสถานประการในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการ ของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สำหรับการยกเลิกการเข้าประเทศแบบ Test&Go ยังไม่ส่งผลกระทบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย และต้องเข้มงวด ยังขออย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นอีก หากการ์ดตก ก็จะกระทบผู้ประกอบการขึ้นมาอีก

ขณะที่พลตำรวจตรีปชา รัตนพันธ์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า จากกรณีที่ทาง ศบค. สั่งยกเลิกการเข้าประเทศแบบ Test&Go เชื่อว่าไม่มีผลกระทบ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเชียงใหม่ เป็นคนท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก แต่อย่าการ์ดตก


นาย พัลภล แซ่จิว นายกสมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ชี้ว่าเชียงใหม่มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ในช่วงสิ้นปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เตรียมจัดงานเคาท์ดาวน์ ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด จะมีการจัดสวนดอกไม้เมืองหนาว แสงสีเสียง ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษาหลังศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนเทศบาลนครเชียงใหม่ มีการจัดงานที่บริเวณลานอเนกประสงค์ประตูท่าแพและการจัดงานต้องคำนึ่งถึงมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดอย่าการ์ด การเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ขณะนี้มีการเดินทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ประมาณ 14,000 คนต่อวัน หรือมีเที่ยวบินเข้า มากถึง 75 ไฟล์ต่อวัน และออกอีก 75 ไฟล์ต่อวัน หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องไปได้อีก 2 เดือน ธุรกิจการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น และผู้ประกอบการประคองธุรกิจไปได้ คาดว่าในเดือนธันวาคม 2564 จะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยว ในพื้นที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท

เชียงใหม่ เทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา ลงนามบันทึกข้อตกลง กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเกษตรกรที่ปลูกพืชปลอดภัย เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตรให้ปลอดภัย และเพิ่มช่องทางการตลาดและเตรียมจัดงานหนาวนี้ที่เมืองแกน ครั้งที่ 12

เทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ลงนามบันทึกข้อตกลง กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และเกษตรกรที่ปลูกพืชปลอดภัย เพื่อพัฒนาสินค้าเกษตรให้ปลอดภัย และเพิ่มช่องทางการตลาดและเตรียมจัดงานหนาวนี้ที่เมืองแกน ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ถึง 3 มกราคม 2565


ที่สวนดอกไม้ สตาร์ไลด์การ์เด้น เทศบาลเมือง เมืองแกนพัฒนา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นาย ประพันธ์ ชัยอินตา นายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา รองศาตราจารย์ วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นางศรีนวล ทองเหลือง ประธานกลุ่มเกษตรกรพืชปลอดภัย และพยานอีก 3 คน ร่วมลงนามบันทึกและเปิดตัวโครงการ เมืองแกนแบรนด์ Project project เป้าหมายหลัก คือ การพัฒนาพืชผลทางการเกษตร ให้เป็นสินค้าที่ปลอดภัย ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายๆ โดยการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น และ Line Shop เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและยกระดับการผลิตสินค้า การเกษตรพืชปลอดภัย เกษตรปลอดสารพิษ ส่งเสริมและเพิ่มช่องทางการตลาดให้หลากหลาย เพื่อส่งเสริมและการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ ให้สินค้าทางการเกษตร และเพื่อสร้างแบรนด์ให้กับสินค้าทางการเกษตรที่ปลอดภัย โดยมีเกษตรกรพื้นเป้าหมาย เข้าร่วมโครงการ เมืองแกรนด์แบนรด์ ในตำบลอินทขิล เขต 1 และเขต 2 จำนวน 10 หมู่บ้าน 20 ชุมชน และตำบลช่อแล 6 หมู่บ้าน 7 ชุมชน

โอกาสเดียวกัน ทางนายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา ได้มอบรางวัลให้กับ ผู้ที่ชนะการประกวด ตราสัญลักษณ์เมืองแกนแบรนด์ เป็นรางวัลชมเชย 3 รางวัล และรางวัลชนะเลิศ 1 รางวัล เป็นรูปพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าสามฝั่งแกน สัญลักษณ์ของเทศบาลเมืองเมืองแกนพัฒนา กาแล หมายถึงสัญลักษณ์แสดงความเป็นท้องถิ่น ต้นข้าวอินทรีย์ ใบตองใบชา สื่อถึงผลผลิตทางการเกษตร พระอาทิตย์และแสงประกาย หมายถึงแทนการดูแลเอาใจใส่ความปลอดภัยของสินค้าเกษตร และยังเตรียมจัดงานหนาวนี้ที่เมืองแกน ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2565 และการประกวดนางสาวแม่แตง ครั้งแรก