เชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่นำของดำ 8 อย่าง ไปเซ่นไหว้พระราหูที่ย้ายราศี

ชาวเชียงใหม่นำของดำ 8 อย่าง ไปเซ่นไหว้พระราหูที่ย้ายราศี บริเวณวัดเสาหินเชียงใหม่ คึกคักตลอดทั้งวัน เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่วัดเสาหิน อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีประชาชนพากันไปขอพรรูปปั้นองค์ท้าวอสุรินทราหู องค์ขนาดใหญ่ กลางลานวัด คึกคักตลอดทั้งวัน ที่องค์พระราหูเคลื่อนย้าย จากราศีเมถุน ไปยังราศรีพิจิก มีทั้งมาส่งและมารับ โดยประชาชนจะเช่าบูชา ของดำ 8 อย่าง ที่ทางวัดจัดไว้ ถาดเล็กราคา 100 บาท ถาดใหญ่ราคา 200 บาท นำไปถวายเป็นของเซ่นไหว้ และสวดบทพระถาคาขอพร ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีความเจริญก้าวหน้า มีความโชคดี และความเป็นสิริมงคล

พระสงฆ์ พระลูกวัดเสาหินบอกว่า พระราหูเคลื่อนย้ายราศีออกจากราศีเมถุนและราศีธนู เมื่อเวลา 2 นาฬิกาของวันนี้(10 กย.) สามารถ ไหว้พระราหู ได้ทั้งวันที่ 9 และวันที่ 10 กันยายนนี้ เฉพาะเมื่อคืนวันที่ 9 กันยายน มีประชาชน มาร่วมไหว้พระราหู มากกว่า 1 พันคน จนของดำที่ให้เช่าบูชาไม่พอ แต่ทางวัดก็มีมาตรการ ในการคัดกรองโควิคด้วย และยังมีคืนนี้อีก 1 คืน ที่จะเปิดให้ประชาชน มาร่วมบูชาพระราหู หลังเวลา 20 นาฬิกา เริ่มพิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ของแต่ละบุคคล ซึ่งในยุคโควิค นี้ทำให้คนหาที่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อ

เชียงใหม่ ฮือฮาคหบดีเชียงใหม่ ทำบุญวันเกิดอายุ 88 ปี แจกเครื่องรางและเงินสด

ฮือฮาคหบดีเชียงใหม่ ทำบุญวันเกิดอายุ 88 ปี แจกเครื่องรางและเงินสด ให้กับผู้มาร่วมงาน เป็นเงินขวัญถุง


พ่อครู สมบูรณ์ กันทะปา คหบดีเชียงใหม่ ทำบุญวันเกิดอายุ 88 ปี นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป มาสวดเจริญพุทธมนต์ ที่บ้านพัก ย่านตำบล ป่าตัน ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมมอบเงิน ให้กับ เจ้าอาวาสวัดเมืองลัง ตำบลป่าตัน ที่อาพาธดวงตา นำเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล และยังได้มอบเครื่องราง วัตถุมงคล ให้กับผู้มาร่วมงาน และที่ฮือฮายังได้มอบเงิน ธนบัตร ฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ ให้กับแขก ที่มาร่วมอวยพร วันเกิดทุกคน เพื่อเป็นขวัญถุง ทำให้ทุกคนต่างดีใจ และพากันร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ และร้องเพลงเป็นภาษาไทยด้วย ทำให้พ่อครูสมบูรณ์ดีใจ และมีความสุขเป็นอย่างมาก ในวันเกิดปีนี้ และยังจัดเลี้ยงอาหาร โต๊ะจีน สำหรับผู้มาร่วมงาน ด้วย

สำหรับพ่อครูสมบูรณ์ เป็นผู้บุกเบิก ก่อตั้งโรงเรียน อนุบาลดรุณนิมิต ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาลชื่อดัง ของเชียงใหม่ สอนแนวทางวิธีพุทธ มานานเกือบ 40 ปี ปัจจุบันมี 2 สาขา มีบุตรสาวคนโต และคนเล็ก เป็นผู้สืบทอดกิจการ สร้างและปลุกฝังค่านิยมให้ เด็กๆ ตามแนวทางวิถีพุทธ จนจบการศึกษา ชั้นอนุบาล 3 และ 100 เปอร์เซ็นต์ เข้าเรียนต่อ ในโรงเรียนประถม ของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง และเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมปลาย เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา จบปริญญา สอบบรรจุเป็นข้าราชการ เป็นครู เป็นแพทย์ และอีกหลากหลายอาชีพรับใช้สังคม จนเป็นที่พรากภูมิใจ ในวิชาชีพครูของสถาบันแห่งนี้

เชียงใหม่ เปิดตัวธุรกิจธรรมดีภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่

กลุ่มธุรกิจธรรมดี เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมพบปะกับกลุ่มสมาชิกกลุ่มธุรกิจธรรมดี และเปิดตัวสุดยอดเครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจน ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ในเครื่องเดียว

ที่ภัตตาคารตูลู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มธุรกิจธรรมดี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยทำการตลาดผ่านระบบตัวแทนจำหน่าย ได้เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมพบปะกับกลุ่มสมาชิกกลุ่มธุรกิจธรรมดี และเปิดตัวสุดยอดเครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจน ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ในเครื่องเดียว ซึ่งมีตัวแทนในพื้นที่ภาคเหนือรวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ เดินทางมาร่วมการเปิดตัวเครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจนจำนวนมาก

นายธีรวัฒน์ สุธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจธรรมดี เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปเปิดตัวเครื่องทำน้ำดื่มไฮโดรเจนแล้วในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ได้ สำหรับตลาดด้านสุขภาพ และในกลุ่มธุรกิจธรรมดีก็ยังมีสินค้าอุปโภค-บริโภค มีทั้งหมด 5 กลุ่มประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สกินแคร์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกกลึ่มหนึ่งที่ทางธรรมดีเชี่ยวชาญก็คือผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร ซึ่งพัฒนานำเข้าเทคโนโลยีจากประเทศอิสราเอลและประเทสแคนนาดา เข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100 % โดยเฉพาะปุ๋ยได้รับความนิยมจากเกษตรกรมากก็เป็นเพราะ ก็เนื่องจากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ตอบโจทย์กับเกษตรกร ใช้ในปริมาณที่น้อยประหยัดต้นทุน ได้ผลผลิตจำนวนมาก

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ ธรรมดี สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์จำหน่ายเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 081-7603033 ,061-5545391 ,061-6151519

 

เชียงใหม่ ชาวบ้านสันมะเกี๋ยงจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก พัฒนาหมู่บ้าน

ชาวบ้านสันมะเกี๋ยง ตำบลสำราญราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก และพัฒนาหมู่บ้านโดยมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาล พระ-เณร ให้ความร่วมมือตามหลักพลังบวร บ้าน-วัด-ข้าราชการ ซึ่งบ้านสันมะเกี๋ยงได้รับเป็นหมู่บ้านคณุธรรมต้นแบบของกระทรวงวัฒนธรรม ในระดับหมู่บ้านอีกด้วย

ที่วัดสันมะเกี๋ยง ชาวบ้านสันมะเกี๋ยง หมู่ 6 ตำบลสำราญราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก และพัฒนาหมู่บ้าน นำโดยนายณรงค์ แสงเปียง ผู้ใหญ่บ้านสันมะเกี๋ยง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสำราญราษฏร์ โรงพยาบาลประจำตำบลสำราญราษฏร์ กลุ่ม อสม. ชาวบ้าน พระ-เณร วันสันมะเกี๋ยง ร่วมในกิจกรรมกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งพื้นที่หมู่บ้านข้างเคียงบ้านสัมมะเกี๋ยงเริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ชาวบ้านจึงได้ออกมาร่วมกิจกรรมรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย และพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อให้ปลอดภัยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก


ดร.เกษม ปารมีศิลป์ขจร นายกเทศมนตรีตำบลสำราญราษฏร์ กล่าวว่า ตนเน้นหลักคำว่า บวร ซึ่ง บวรก็หมายถึง บ้าน วัด ราชการ เพราะว่าบ้านสันมะเกี๋ยงนั้นไม่มีโรงเรียน จึงต้องเน้นไปที่ราชการ ซึ่งราชการก็ได้รับการอนุเคราะห์และดูแลจากจังหวัดและอำเภอ และในฐานะที่ตนเป็นนายกฯ ก็ได้ให้ความสำคัญหมู่บ้านสันมะเกี๋ยง ชาวบ้านมาความรักสามัคคีกัน ให้ความร่วมมือกับทางราชการและวัด โดยท่านพระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง และในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง และพระครูสุรเชษฐ เตชะรังษี เจ้าอาวาสวัดและพระภิกษุ-สามเณร เพราะวัดแห่งนี้มีพระภิกษุสามเณรมากที่สุดในตำบล ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งและได้ผู้นำคือนายณรงค์ แสงเปียง ผู้ใหญ่บ้านสันมะเกี๋ยง เป็นหนุ่มไฟแรงที่มุ่งจะคืนสิ่งต่างๆ ให้กับสังคม จึงเป็นกำลังให้ตนและหน่วยราชการที่มีอุปกรณ์เครื่องมือ เข้าไปหนุนในกิจกรรมของหมู่บ้านและวัดที่ได้จัดขึ้น ซึ่งวัดแห่งนี้ดำรงในเรื่องสถาบัน โดยเฉพาะสถาบันสูงสุดคือสถาบันพระมหากษัตริย์ มีกิจกรรมกระฐินพระราชทาน และกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาที่วัดแห่งนี้ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาให้พื่น้องชาวตำบลสำราญราษฏร์

ด้านท่านพระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง และในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง เจริญพรว่า บ้านสันมะเกี๋ยงได้รับเป็นหมู่บ้านคณุธรรมต้นแบบของกระทรวงวัฒนธรรม ในระดับหมู่บ้าน ความร่วมมือของวัดสันมะเกี๋ยงกับชุมชนหมู่บ้านที่เรียกว่า พลังบวร ซึ่ง บวร หมายถึง บ้าน-วัด-ราชการ-โรงเรียน ช่วยกันขับเคลื่อนชุมชนไปสู่จุดมุ่งหมายคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทางวัดสันมะเกี๋ยงเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนบ้านสันมะเกี๋ยง มีผู้นำคือพ่อหลวงณรรงค์ แสงเปียง ผู้ใหญ่บ้านสันมะเกี๋ยง และ ดร.เกษม ปารมีศิลป์ขจร นายกทศมนตรีตำบลสำราญราษฏร์ ให้การสนับสนุนร่วมมือกันพัฒนาทุกด้าน เพื่อให้ชุมชนบ้านสันมะเกี๋ยง อยู่ดี กินดี น้ำไหล ไฟสว่าง โจรขโมยไม่มี เกิดมีหลักคุณธรรม โดยมีวัดเป็นจุดศูนย์กลาง จุดศูนย์กลางการพัฒนาต่างๆ จุดศูนย์กลางของการเชื่อมทุกฝ่ายสามัคคีกัน จึงเกิดหลักพลังบวรขึ้นมา

เชียงใหม่ เจ้าของปางช้างแม่สาและชาวเขาร่วมทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศล

ผู้บริหารปางช้างแม่สาและชาวเขาเผ่าดาราอั้ง ร่วมทำบุญตักบาตรกลางนาข้าว ซึ่งพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ก็เป็นพนักงานและควาญช้างของปางช้างแม่สา ที่ร่วมกันบวชเพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563 

ชาวเขาเผ่าดาราอั้ง หรือ เผ่าปะหล่อง ที่อาศัยอยู่ที่บ้านโต้งหลวง ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูปกลางทุ่งนา ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 9 รูป เป็นพนักงานและควาญช้างของปางช้างแม่สา ที่บวชเพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563 เมื่อ 20 วันก่อน พร้อมโปรดสัตย์ช้างที่เลี้ยงไว้ในปางช้างแม่สา เป็นช้างพังแม่อ้วน อายุ 71 ปี


นางอัญชลี กัลมาพิจิตร กรรมการผู้จักการใหญ่ปางช้างแม่สา เปิดเผยว่า ปางช้างแม่สามีช้างอยู่ทั้งหมด 76 แยกเป็นช้างชรา 15 เชือก และเช้าวันนี้ปางช้างแม่สา ก็ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่บวชเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ซึ่งบวชที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อ 20 วันก่อน และเดินทางกลับมายังปางช้างแม่สา จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ทั้ง 9 รูป ตักบาตรกับชาวเขาเผ่าดาราอั้ง ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เลี้ยงช้าง พระสงฆ์ที่บวชก็เป็นพนักงานของปางช้างส่วนหนึ่งและควาญช้าง

สำหรับสถานที่จัดงานได้จัดขึ้นที่หมู่บ้าน“เดอะช้าง วิลเลจ” ของปางช้างแม่สา เป็นสถานแห่งใหม่ที่คืนพื้นที่ให้กับช้าง ก่อนหน้านี้ได้ทำเป็นหมู่บ้านชนเผ่า แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพราระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก จึงได้ปรับเปลี่ยนเป็นนิวนอร์มอล ทำเป็นหมู่บ้านของช้าง นำช้างเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่ มีบ้านของช้างชรา ที่เรียกว่าเป็นบ้านหลังสุดท้ายของช้าง และหมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังแบ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมมีนาข้าวปลูกข้าวเหนียวออแกนิกเลี้ยงช้าง เป็นอินทรีย์ทั้งหมด และแบ่งเป็นพื้นที่ทำเกษตรเพื่อที่จะเลี้ยงพนักงานปางช้าง แบ่งเป็นแปลงปลูกหญ้าเลี้ยงช้าง ซึ่งปางช้างแม่สายังปรับเปลี่ยนเป็นนิวนอร์มอล โดยปางช้างแม่สาได้เปิดให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่กันมากๆ และขอให้มาดูช้างที่ปางช้างแม่สา มาร่วมกันเลี้ยงช้าง ป้อนอาหารช้าง พร้อมมีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังปางช้างแม่สาแห่งนี้

เชียงใหม่ พุทธศาสนิกชนร่วมพิธียกฉัตรทองคำรวมอัญมณีหนักกว่า 6 กก.ขึ้นยอดมหาเจดีย์วัดโลกโมฬี

พระมหาเถระ และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงใหม่ ประกอบพิธีอัญเชิญ “ฉัตรทองคำ” น้ำหนักรวมอัญมณีกว่า 6 กก.ขึ้นสู่ยอดมหาเจดีย์วัดโลกโมฬี อายุ 600 ปี ร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหามหาราชินี นำบุญโดย “พระครูปลัดธีร์นวัช” นักเทศน์ธรรมาสน์ทอง และคณะสยามบวร ช่างฟ้อน 156 คนฟ้อนพื้นเมืองถวาย

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ที่วัดโลกโมฬี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีอัญเชิญฉัตรทองคำจากประตูช้างเผือก เข้าสู่วัดโลกโมฬี แล้วประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ อันเชิญฉัตร และยอดฉัตรทองคำขึ้นประดิษฐานเหนือมหาเจติยะธาตุเจ้าโลกโมฬี โดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ มีพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ พระภาวนาธรรมวิรัช วิ. รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และพระศรีศิลปาจารย์ วัดพระธาตุศรีจอมทองฯ เป็นต้นเจริญพระพุทธมนต์ นอกจากนั้นยังมีพระเถระนั่งปรกแผ่เมตตาจิตอีก 2 รูป

โครงการบูรณะฉัตร และยอดฉัตรองค์เจดีย์วัดโลกโมฬี อายุ 600 กว่าปี หลังจากพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี ได้ฟื้นฟูบูรณะจากวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์จำพรรษา ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ก็ได้บูรณะครั้งหนึ่ง มาถึงครั้งนี้ พระครูไพบูลเจติยุนรักษ์ ดร.ประธานสงฆ์วัดโลกโมฬี ได้เสนอให้พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทธิวาที (พระเทศน์ธรรมาสน์ทอง)สัทธิวิหาริกในพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี รับเป็นเจ้าภาพ พร้อมด้วยคณะสยามบวร ศิษยานุศิษย์ และศรัทธาประชาชน โดยสร้างยอดฉัตรใหม่ห่อหุ้มด้วยทองคำ และอัญมณี น้ำหนักกว่า 6 กก. รวมมูลค่าหลายล้านบาท เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2563 และเป็นเนื้อนาบุญแก่ทุกคนไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ หลังการสร้างฉัตร และยอดฉัตรทองคำแล้ว พระครูปลัดธีร์วัช ได้เชิญไปให้พระมหาเถระแผ่เมตตา และเจิมเพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อมาค่ำวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกสมโภช “ยอดพระมหารัตนโมฬีโลกนาถ นพบุรีสัตมาศ บรมฉัตร กำลังแผ่นดิน” โดยพระมหาเถระจุดเทียนชัย / พระสงฆ์สวดมนต์ตั๋นแบบล้านนา และพิธีสวดเบิกโดยคณะวัดศรีโสดา พระอารามหลวง ต่อมาเช้าวันที่ 14 สิงหาคม 2563 มีพิธีบวงสรวง พิทธาจารย์ นำพิธีบอกกล่าวเทพยดา อดีตบูรพกษัตริย์ ผู้สถาปนาวัดโลกโมฬี

จากนั้น จึงเข้าสู่พิธีอัญเชิญยอดพระมหารัตนโมฬีโลกนาถนพบุรีสัตมาศ บรมฉัตร กำลังแผ่นดิน ไปตั้งที่ประตูชัยช้างเผือกเพื่อแห่อัญเชิญไปสู่เขตพุทธสถานวิหารวัดโลกโมฬีโดยคณะขบวนแห่จากวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ (ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผอ.)เมื่อเข้าสู่วัด คณะฟ้อนเล็บจากชมรมลูกเสือชาวบ้านจังหวัดเชียงใหม่ 139 คน(โดยนายสมศักดิ์ อ่อนอ้น ประธานชมรมฯ) ฟ้อนเล็บเพลง “ดารารัศมี” ต้อนรับขบวนแห่ยอดฉัตรทองคำ ส่วนภายในวิหารมีคณะศรัทธาเจ้าภาพทั้งจากส่วนกลาง และเชียงใหม่ รวมถึงพี่น้องชนเผ่าชาวปาปะกาญอจากวัดวังหลวง อ.ดอยเต่า ก็มาร่วมบุญด้วย

พิธีจุดเทียนชัย เจริญพระพุทธมนต์ และพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี เป็นประธานพิธียกยอดฉัตรพระมหารัตนโมฬีโลกนาถ นพบุรีสัตมาศ บรมฉัตร กำลังแผ่นดิน ขึ้นประดิษฐานเนือมหาเจติยะธาตุเจ้าโลกโมฬีเสร็จแล้วถวายภัตตาหารเพล และเปิดโรงทานเลี้ยงประชาชนที่ร่วมงาน โดยการพิธีทั้งปวงสำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อยด้วยดี ทั้งที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหนา ทำท่าจะมีฝนตก ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการยกฉัตร และยอดฉัตรทองคำขึ้นโดยรถเครนยกคันใหญ่ของบริษัทนิ่มซี่เส็ง จก. แต่ฝนก็หยุดจนพิธีแล้วเสร็จบริบูรณ์ พระธาตุเจดีย์วัดโลกโมฬี มีสีทองอร่ามสวยงามตระการตา ฝนจึงเริ่มโปรยปรายลงมา สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้ร่วมพิธีจำนวนมาก.

เชียงใหม่ วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้วจัดพิธีสืบชะตาแบบล้านนา ถวายเป็นพระราชกุศล

วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ร่วมกับ ศรัทธาประชาชนชาวตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมแม่ของแผ่นดิน ถวายพระพรชัยมลคลเฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563

ที่วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายจิรชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำข้าราชการ ประชาชนชาวตำบลสันปูเลย ร่วมกิจกรรมแม่ของแผ่นดิน ถวายพระพรชัยมลคลเฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563 ซึ่งคณะสงฆ์ตำบลสันปูเลยร่วมกับวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว โดยครูบาน้อย เขมปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ นวัคคหายุสมธัมม์มงคลถวายเป็นพระราชกุศล บนวิหารหลวง บูชาพระรัตนตรัยและอาราธนาศิล รับศิล พระสงฆ์ทำพิธีสืบชะตาแบบล้านนา และบายศรีสู่ขวัญถวายเป็นพระราชกุศล


หลังเสร็จสิ้นพิธี นายจิรชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด ได้มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นของตำบลสันปูเลย จำนวน 15 คน 15 หมู่บ้าน ซึ่งคุณแม่อุ้ยสุข คำยอดใจ อายุ 102 ปี เป็นคุณแม่ดีเด่นอายุมากที่สุดที่ได้รับเกียรติบัตรแม่ดีเด่น จากนั้นนายอำเภอดอยสะเก็ด พร้อมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้ร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา โดยครูบาน้อย เขมปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ได้ถวายผ้าป่า โดยมอบเงินขวัญถุงกองทุน “แม่ของแผ่นดิน” ตำบลสันปูเลย จำนวน 1 แสนบาท พร้อมได้จัดจุดพลุดอกไม้ไฟถวายพระพรจำนวน 108 ดวงอีกด้วย

 

เชียงใหม่ น้ำพุร้อนสันกำแพงเชิญชวนครอบครัวเที่ยววันแม่ 12 สิงหาคุณแม่เข้าฟรี

น้ำพุร้อนสันกำแพงเชิญชวนนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนเพื่อสุขภาพ ต้มไข่ไก่ในน้ำแร่รับประทาน อาบน้ำแร่-แช่เท้าในน้ำแร่ โดยในวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ คุณแม่เข้าฟรีโดยไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู

นางสารภี ศิลา ผู้จัดการกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาพักผ่อนเพื่อสุขภาพที่น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยเฉพาะในวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติที่จะถึงนี้ เปิดให้คุณแม่เข้าเที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพงฟรีซึ่งก็จัดเป็นประจำทุกปี โดยน้ำพุร้อนสันกำแพงก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เปิดให้บริการไปในช่วงวิฤกตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา


สำหรับน้ำพุร้อนสันกำแพงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยใช้น้ำแร่ร้อนในเรื่องของการรักษาสุขภาพและเปิดบริการทุกโซน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสามารถใช้บริการได้เลยคือลำธารแช่เท้า หรือนักท่องเที่ยวซื้อไข่ไก่ไปต้มน้ำแร่ แล้วนำไปรับประทานขณะแช่เท้าได้ประโยชน์ทางโภชนาการและสุขภาพอีกด้วย ซึ่งได้สนับสนุนซื้อไข่ไก่จากฟาร์มของสหกรณ์การเกษตรในตำบลบ้านสหกรณ์ ที่เป็นผู้ร่วมทุนในการลงทุนของน้ำพุร้อนสันกำแพง ของสหกรณ์การเกษตรจากตำบลบ้านสหกรณ์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ตามมติของอนุกรรมการบริหารจัดการกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง

นอกจากลำธารแช่เท้าแล้ว น้ำพุร้อนสันกำแพงยังมีห้องแช่น้ำแร่อีก 53 ห้อง เป็นห้องแช่น้ำแร่ที่แยกเป็นโซนหญิง-ชาย สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นอ่างแบบไหน เป็นอ่างแบบยุโรป อ่างแบบญี่ปุ่นหรือเป็นห้องแช่รวม ที่แช่ได้ 10-15 คน มีบริการครบวงจร และยังมีการนวดซึ่งน่าจะทำควบคู่กัน เพราะการนวดจะทำให้คลายกล้ามเนื้อ ร่างกายมีความยึดหยุ่นพร้อมจะรับประโยชน์จากน้ำแร่ได้เป็นอย่างดี เมื่อมาน้ำพุร้อนสันกำแพงแล้วทุกท่านก็จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ส่วนห้องพักก็มีอยู่ 18 ห้องและทุกห้องก็จะมีห้องแช่น้ำแร่บริการอีกด้วย

ส่วนในเรื่องมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ทางน้ำพุร้อนสันกำแพงก็มีมาตรการคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการโดยจัดให้จอดรถที่ลานจอดรถด้านนอก และให้เดินเข้ามาโดยผ่านขบวนการคัดกรองตามมาตรฐาน มีการเช็คอุณหภูมิร่างกาย สวมใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งมีการให้เข้าไปในแอปพลิเคชั่น“ไทยชนะ” เพื่อที่จะได้รวบรวมข้อมูลไว้ในเรื่องของการเดินทาง เพื่อประโยชน์ในการติดตาม ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ ส่วนผู้ที่มีปัญหาการเดินเท้าเข้ามาระยะทางประมาณ 500 เมตร ทางเราก็มีบริการรถวิวแชร์ สำหรับผู้ที่มาปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว จะได้เดินทางมาเข้าได้สะดวก มีการจัดระยะที่นั่ง เพื่อไม่ให้มีปัญหาในเรื่องการแพร่กระจายของเชื่อไวรัสโคโรน่า ส่วนบัตรผ่านประตูคนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท เปิดให้บริการทุกวัน

 

เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่ดีเซลที่ชื่นชอบรถแต่งรวมตัวถวายเทียนพรรษา

กลุ่มเชียงใหม่ดีเซล ซึ่งเป็นกลุ่มแต่งรถสวยที่ชื่นชอบเครื่องยนต์ดีเซล จัดขบวนรถกว่า 150 คัน ถวายเทียนพรรษาที่วัดต้นผึ้ง อำเภอดอยสะเก็ด เป็นการรวมตัวเพื่อสร้างกิจกรรมดีๆ ให้กับสังคม พร้อมไม่สนับสนุนให้แต่งรถผิดกฏหมาย

ที่วัดต้นผึ้ง บ้านต้นผึ้ง หมู่ 7 ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่ดีเซล ซึ่งเป็นกลุ่มหลากหลายอาชีพที่ชื่นชอบการแต่งรถยนต์กระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจำนวนกว่า 150 คัน เดินทางมาที่วัดแห่งนี้เพื่อถวายเทียนพรรษา เนื่องในวันเข้าพรรษา พร้อมถวายสังฆทานให้กับทางวัด เพื่อเป็นพุทธบูชา

นายเกรียงไกร สุนันต๊ะ ประธานกลุ่มเชียงใหม่ดีเซล และนายประพต รัชวัตร์ ประชาสัมพันธ์กลุ่มฯ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นกิจกรรมถวายเทียนพรรษาครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วจัดขึ้นที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จริงๆแล้วการถวายเทียนพรรษาต้องถวายก่อนเข้าพรรษา แต่ก็ติดเรื่องของ พรก.ฉุกเฉิน ห้ามรวมตัวกันแต่ขณะนี้รัฐบาลได้ปลดล็อก จึงได้มาจัดกิจกรรมถวายเทียนพรรษาที่วัดต้นผึ้งแห่งนี้ ซึ่งกลุ่มเชียงใหม่ดีเซลเป็นการรวมกลุ่มของคนรักเครื่องยนต์ดีเซลในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง รวมตัวกันเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องยนต์ ออกทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความดีช่วยเหลือสังคม เป็นงานจิตสาธารณะ ทำเผื่อการกุศลเป็นหลักโดยมีสมาชิกกว่า 6 พันคน


สำหรับการควบคุมกลุ่มสมาชิกเชียงใหม่ดีเซล ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถที่ปรับแต่งเครื่องยนต์นั้น ทางกลุ่มจะเน้นเป็นรถที่แต่งแล้วถูกกฏหมาย สีรถและการโหลดเตี้ยก็ต้องแจ้งกับทางขนส่ง ท่อไอเสียไม่ควรจะดัง ควันรถไม่ดำทำตามที่กฏหมายกำหนด ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถสวยงาม โดยที่ทางกลุ่มไม่สนับสนุนให้สมาชิกไปสร้างความเดือดร้อนกับสังคมแต่กรณีที่สมาชิกไปสร้างความเดือดร้อนมีปัญหาเกิกขึ้นก็เป็นไปเฉพาะตัวบุคคล ทางกลุ่มก็จะทำการว่ากล่าวตักเตือนไปเป็นกรณีไป

 

เชียงใหม่ วัดสันมะเกี๋ยงบริจาคโลงศพให้ผู้ยากไร้

วัดสันมะเกี๋ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ บริจาคโลงศพให้กับผู้ยากไร้ที่สูญเสียญาติมิตรบุพการี และหน่วยงาน องค์กรสาธารณะกุศล หน่วยกู้ชีพ,กู้ภัย สามารถมาติดต่อโดยตรงได้ที่วัด ส่วนผู้ที่มีจิตศรัทธาต้องการบริจาคโลงศพเพื่อทำบุญ สามารถทำได้หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลข 089-5584332 ทุกวัน หรือจะมาบริจาคด้วยตัวเองทางวัดก็รับบริจาคโลงละ 2,000 บาท

พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เจริญพรว่า ทางวัดสันมะเกี๋ยง ตำบลสำราษราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีโครงการบริจาคโลงศพให้กับผู้ยากไร้มานานกว่า 4 ปีแล้ว ได้บริจาคโลงศพให้กับผู้ยากไร้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 โลง เมื่อญาติพี่น้องหรือบุพการีได้เสียชีวิตไป ฐานะทางบ้านยากจน ขัดสนไม่มีเงินที่จะบำเพ็ญกุศลศพทางวัดสันมะเกี๋ยงก็มีโครงการบริจาคโลงศพเพื่อผู้ยากไร้ขึ้นมาสงเคราะห์กับครอบครัวสูญเสียผู้อันเป็นที่รักในครอบครัวไป ซึ่งฐานะทางครอบครัวนั้นยากจน โดยผู้ที่มาขอรับโลงศพ ไม่ต้องนำหลักฐานใดๆ มาประกอบ ไม่ว่าจะเป็นใบมรณะบัตร บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต ทางวัดไม่ได้เก็บหลักฐานเหล่านั้น ซึ่งวัดจึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่ออนุเคราะห์ให้กับครอบครัวเหล่านั้น ได้นำโลงศพที่มีผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคมาให้กับทางวัดนำไปใช้บรรจุร่างผู้ที่เสียชีวิตบำเพ็ญกุศลศพต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจจะบริจาคโลงศพให้กับทางวัดสันมะเกี๋ยงก็สามารถติดต่อได้ที่วัดสันมะเกี๋ยง ซึ่งทางวัดจะได้นำเงินที่ได้รับบริจาคทุกบาททุกสตางค์ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้ผู้บริจาคได้บุญกุศล สามารถสอบถามได้ที่หมายเลข 089-5584332 ทุกวัน หรือจะมาบริจาคด้วยตัวเองทางวัดก็รับบริจาคโลงละ 2,000 บาท เพื่อจะมอบให้กับหน่วยงาน องค์กรสาธารณะกุศล หน่วยกู้ชีพ,กู้ภัย ที่มาขอรับบริจาคจากทางวัดก็จะจัดสรรให้กับองค์กรเหล่านั้น ตามสมควรที่จะมอบให้สืบต่อไป


พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ เจริญพรอีกว่า อนิสงฆ์ของการบริจาคโลงศพ ซึ่งโลงศพนั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังสุดท้ายของคน การบริจาคโลงศพก็จะได้บุญกุศล และเป็นการอุทิศบุญกุศลเหล่านั้น ซึ่งบางคนก็ถือเป็นความเชื่อที่ว่า เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับบรรพบุรุษทั้งหลายที่เสียชีวิตไป บุญกุศลก็จะย้อนกลับมาถึงผู้บริจาคให้ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นการแก้ดวงแก้ปีชงต่างๆ เป็นการทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ เปลี่ยนเคราะห์กรรมให้เป็นโชคลาภ ความอยู่ดีมีสุขนี้คืออนิสงฆ์ของการบริจาคโลงศพ