(คลิป)เชียงใหม่ ท้ากินบะหมี่ชามยักษ์ชิงเงินหมื่น พร้อมชมพิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว

ร้านบะหมี่ล้มยักษ์เปิดแล้วสาขาเชียงใหม่ใกล้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมเปิดท้านักกินจุ มาร่วมประลองกับเมนูพิเศษบะหมี่ล้มยักษ์ในราคา 499 บาท ในชามมีบะหมี่จำนวน 56 ก้อน หมูครึ่งกิโลกรัม เกี้ยว 40 ชิ้น แข่งขันแบบทีมละ 3 คน จำนวน 2 ทีม ภายใน 20 นาที หลังจากนั้นจะเก็บสถิติใน 1 เดือน ทีมไหนทำเวลาได้ดีที่สุด จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท ส่วนบะหมี่จานละ 189 บาท ถ้ากินหมดคนเดียวจะได้กินฟรี รวมทั้งคนท้องก็กินบะหมี่หมูแดงชามปกติได้ฟรีทุกวัน


ร้านบะหมี่ล้มยักษ์ เปิดอย่างเป็นทางการริมถนนตรงข้ามคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ (ถนนสันทรายเก่า) อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมเปิดพิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว ที่คุณปิยะนุช ศกุนตนาค พิธีกรและดารานักแสดงชื่อดัง ผู้ได้รับกล่าวขานให้เป็นบุคคลสัญญาณลักษณ์ของจิ๋ว ได้ฤกษ์เปิด พิพิธภัณฑ์ มหัศจรรย์เมืองจิ๋ว อย่างเป็นทางการด้วยเช่นกัน เป็นการยกพิพิธภัณฑ์ของจิ๋วจากกรุงเทพมหานครมาไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ชาวเหนือและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความมหัศจรรย์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด

ส่วนร้านบะหมี่ล้มยักษ์ ซึ่งจัดบะหมี่ชามใหญ่ คุณนายศีตจิต  ศกุนตนาค บุตรชายเป็นผู้ดูแล พร้อมเผยถึงขั้นตอนการทำบะหมี่ และเปิดท้าประลองการกินบะหมี่ล้มยักษ์ว่า นี่คือร้านบะหมี่ล้มยักษ์สาขาที่ 11 สาขาเชียงใหม่ โดยสาขาหลักอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เมนูของบะหมี่ล้มยักษ์จะมีเมนูที่เหมือนกันในทุกสาขา แต่จะมีเมนูพิเศษอยู่ในบางสาขา ซึ่งสาขาเชียงใหม่นี้เป็นสาขาพิเศษ เมนูของทางร้านที่เป็นเมนูพิเศษก็จะไม่เหมือนใคร ซึ่งเมนูบะหมี่ยักษ์มหึมา ราคา 299 บาท กินได้ 8 คนใช้บะหมี่ 28 ก้อน หมู 3 ขีด เกี๋ยว 16 ชิ้น เป็นเมนูที่แพงที่สุดของทางร้าน

สำหรับโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ที่ทางร้านได้เปิดให้ทุกคนมาพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นนักกินจุหรือไม่ โดยท้าให้กินบะหมี่จานละ 189 บาท ถ้ากินหมดคนเดียวจะได้กินฟรี และทุกวันศุกร์จะมีการแข่งขันการกิน บะหมี่จานมหึมาราคา 499 บาท ในชามยักษ์ มีบะหมี่จำนวน 56 ก้อน หมูครึ่งกิโลกรัม เกี้ยว 40 ชิ้น แบบทีมละ 3 คน จำนวน 2 ทีม ภายใน 20 นาที หลังจากนั้นจะเก็บสถิติใน 1 เดือน ทีมไหนทำเวลาได้ดีที่สุด จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท แต่ถ้าทีมไหนกินไม่หมดต้องจ่ายค่าบะหมี่ 499 บาท ส่วน คนท้องทุกคนสามารถรับประทาน บะหมี่หมูแดง จานปกติฟรีทุกวัน และถ้ารับประทานครบทุก 100 บาท จะได้รับบัตรเข้าชม มหัศจรรย์เมืองจิ๋ว ราคา 99 บาท 1 ใบ โดยร้านเปิดเวลา 10.00-20.00 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์) สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลข 089-7333666 (มหัศจรรย์เมืองจิ๋ว) และ 081-4511508 บะหมี่ล้มยักษ์ ซึ่งสถานศึกษา โรงเรียน สนใจนำเด็กนักเรียนมาเข้าชมก็สามารถติดต่อมายังพิพิธภัณฑ์เพื่อเข้าชมฟรีได้และผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปก็สามารถเข้าชมฟรีเช่นกัน

(คลิป)เชียงใหม่ ชิมบะหมี่ชามยักษ์และชมพิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว

ยกพิพิธภัณฑ์ของจิ๋วจากเมืองกรุงมาไว้ที่เชียงใหม่ พร้อมเปิดให้ชาวเหนือได้เข้าชมสิ่งมหัศจรรย์ของจิ๋วที่หาดูยาก จากนั้นชิมบะหมี่ล้มยักษ์จานใหญ่สั่งจากเดียวกินกันได้ 7-8 คน

พากันมาที่ริมถนนสันทรายสายเก่า ตรงข้ามคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคุณปิยะนุช ศกุนตนาถ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว ได้นำของจิ๋ว ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงเทพมหานคร ย้ายมาเปิดพิพิธภัณฑ์ของจิ๋วที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้ชื่อว่า มหัศจรรย์เมืองจิ๋ว นำของจิ๋วที่ได้รวบรวมผลงานของอาจารย์ดรุณีนาถ นาคคง บุคคลดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม และเจ้าของรางวัล เพชรสยาม ในฐานะครูดีเด่นอันดับ 1 ของประเทสไทย ปี พศ. 2539 ซึ่งเป็นผู้กำเนินของจิ๋วในประเทศไทยมานานกว่า 50 ปี และผลงานการประดิษฐ์จากฝีมือแชมป์ของจิ๋วทั่วประเทศไทยอีก 8 ท่าน รวมทั้งสื้นกว่า 30,000 ชิ้น มาจัดแสดงในบรรยากาศของบ้านทรงไทย เพื่อเผยแพร่ความรู้ในการประดิษฐ์ของจิ๋วให้กับนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในพื้นที่ภาคเหนือ


คุณปิยะนุช กล่าวต่อไปว่า มหัศจรรย์เมืองจิ๋ว ในอนาคตจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ และยังเป็นแหล่งให้ความรู้ ที่สามารถต่อยอดเรื่องรายได้สำหรับผู้สนใจเรียนรู้ เพราะของจิ๋วที่แสนน่ารัก มีคุณค่าและมีราคาสูง เนื่องจากของจิ๋วใช้วิธีประดิษฐ์ด้วยการย่อส่วนสิ่งของต่างๆ ให้เล็ดลงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยใช้วัสดุเหมือนจริง เช้า ไม้จิ๋ว งานทองเหลืองจิ๋ว งานเป่าแก้วจิ๋ว บางส่วนก็ใช้วัสดุแทนเช่น อาหารจิ๋ว ขนมจิ๋ว ต้นไม้และดอกไม้จิ๋ว ซึ่งต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ความมีสมาธิ และความพิถีพิถัน ในการประดิษฐ์อย่างมาก จึงจะทำให้ของจิ๋วดูเหมือนจริงที่สุด


ในส่วนด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ มหศจรรย์ของจิ๋วนั้น ก็มีร้านบะหมี่ล้มยักษ์ ที่จะทำให้ทุกคนตลึงไปกับบะหมี่จานใหญ่ยักษ์ ที่ต้องรับประทานกันถึง 7-8 คน โดยนายศีตจิต ศกุนตนาถ ลูกชายของ คุณปิยะนุช บอกว่า นี่คือร้านบะหมี่ล้มยักษ์สาขาที่ 11 สาขาเชียงใหม่ โดยสาขาหลักอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี เมนูของบะหมี่ล้มยักษ์จะมีเมนูที่เหมือนกันในทุกสาขา แต่จะมีเมนูพิเศษอยู่ในบางสาขา ซึ่งสาขาเชียงใหม่นี้เป็นสาขาพิเศษ เมนูของทางร้านที่เป็นเมนูพิเศษก็จะไม่เหมือนใคร ซึ่งเมนูบะหมี่ยักษ์มหึมา ราคา 299 บาท กินได้ 8 คนใส่บะหมี่ 28 ก้อน หมู 3 ขีด เกี๋ยว 16 ชิ้น เป็นเมนูที่แพงที่สุดของทางร้าน แต่เมนูพิเศษจะใส่บะหมี่ 56 ก้อน หมูครึ่งกิโลกรัม เกี้ยว 40 ชิ้น เป็นเมนูพิเศษมีแค่สาขาเชียงใหม่แห่งนี้ จะเป็นเมนูที่ขอท้าชิง ผู้ที่กล้า ผู้ที่แน่จริง ทีม 3 คน ให้เวลากิน 20 นาที คุณจะได้กินฟรีในราคาจานละ 499 บาท และในเดือนนั้นสามารถทำเวลาได้ดีที่สุด ตนจะมอบเงินสดให้ 1 หมื่นบาทเป็นของรางวัล

สำหรับลูกค้าที่รับประทานอาหารครบ 100 บาท จะได้รับบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ มหัศจรรย์ของจิ๋วราคา 99 บาทฟรี 1 ใบ เปิดบริการ 10.00 น.ถึง 20.00 น. หยุดวันอาทิตย์ ผู้สนใจสามารถสอบถามร้านบะหมี่ล้มยักษ์ได้ที่หมายเลข 081-4511508 และสอบถามการเขาชมพิพิธภัณฑ์ มหัศจรรย์ของจิ๋วได้ที่หมายเลข 089-7333666 ส่วนสถานศึกษา โรงเรียน สนใจนำเด็กนักเรียนมาเข้าชมก็สามารถติดต่อมายังพิพิธภัณฑ์เพื่อเข้าชมฟรีและผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปก็สามารถเข้าชมฟรีเช่นกัน

 

 

(คลิป)เชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ใช้น้ำเกือบเต็มโควต้าลุ้นต่อสงกรานต์น้ำคูเมือง

เทศบาลนครเชียงใหม่ใช้น้ำเกือบเต็มโควต้าลุ้นต่อสงกรานต์น้ำคูเมือง 3 แสนลบ.ม. ต้องเปลี่ยนถ่ายเข้ามา ชลประทานได้ส่งน้ำตามคำขอเทศบาลนครเชียงใหม่ปรับเปลี่ยนคูเมือง และคลองแม่ข่าไหลน้ำเสียมาตอเนื่อง แต่ปัญหาภัยแล้งจอเข้าวิกฤต น้ำคูเมืองปีใหม่เมืองวางแผนหาแหล่งน้ำมาเสริม

เจ้าหน้าที่คลองชลประทานแม่แตง สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ แจงถึงปริมาณน้ำของชลประทานแม่แตง ที่ลดลงเหลือน้อยไหลผ่าคลอง 1.8 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งมีปริมาณน้ำมาก กำลังจะส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในห้วงจากนี้ไปจนถึงช่วงฤดูฝน อีกหนึ่งปัญหาของการขอใช้น้ำจากเทศบาลนครเชียงใหม่ เป็น 2 ส่วนตามโควต้า 1 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำลงคลองแม่ข่าเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย และน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ แต่เนื่องจากมีการซ่อมแซมประตูระบายรอบคูเมือง มีการเปลี่ยนถ่ายมาต่อเนื่องจนทำให้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเข้ามาแล้วตอนนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึง 24 กุมภาพันธ์ 2563 973,426 ลูกบาศก์เมตร เรียกเต็มโควต้าแล้ว แต่ตอนนี้การซ่อมประตูระบายน้ำยังไม่แล้วเสร็จ และต้องการน้ำเข้ามาเปลี่ยนถ่ายรอบคูเมืองอีก 3 แสนลูกบาศก์เมตรซึ่งน้ำตามโควต้าใช้ไปจนหมด แหล่งน้ำที่มีก็ต้องสำรองเพื่อน้กกินน้ำใช้ของประชาชน โดยเฉพาะการผลิตน้ำประปาเป็นหลัก


อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวน้ำอีก 3 แสน ลบ.ม ที่จะต้องจัดหาเข้ามาในตอนนี้ เพื่อปลี่ยนถ่ายน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ มาเติมน้ำที่ได้ระบายออกไปช่วงซ่อมประตูระบายน้ำ จะต้องหาแหล่งน้ำเข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อน้ำในคูเมือง ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่เมือง ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีการจัดกิจกรรมหรือไม่จากปัญหาโรคโควิด -1

 

 

(คลิป)เชียงใหม่ แจงเหตุไฟป่าดอยอินทนนท์คนละจุดเกิดเป็นหย่อมไม่รุนแรง

แจงเหตุไฟป่าดอยอินทนนท์คนละจุดเกิดเป็นหย่อมไม่รุนแรง อยู่ในพื้นที่ดอยห้างผี ซึ่งห่างจากดอยหัวเสือหลายกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่เคยมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เกิดการเผาไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่ง ลักษณะไฟเกิดเป็นหย่อมๆ ไม่ลุกลามต่อเนื่อง สามารถดับได้เอง  ส่วนเช้านี้เกิดจุด Hotspot  100 กว่าจุดเจ้าหน้าทีเข้าดำเนินการตรวจสอบดับไฟป่า ส่วนมือเผาจับแล้ว 199 ราย

หลังจากมีโพสต์ภาพและข้อความแจ้งว่าเกิดไฟป่าลุกไหม้ในพื้นที่บริเวณเทือกเขาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ รอยต่อใกล้ยอดดอยหัวเสือ  ด้านศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อำเภอจอมทอง ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและพิกัด ซึ่งกรณีดังกล่าวขอรายงานสถานการณ์ที่เป็นข่าวกรณีเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์บริเวณเทือกเขาดอยอินทนนท์รอยต่อใกล้ๆ ยอดดอยหัวเสือ ซึ่งถูกบันทึกภาพในเวลา 20:00 น. ที่ผ่านมา


จากกรณีดังกล่าว ขอชี้แจงว่าไม่ใช่บริเวณดอยหัวเสือแต่เป็นพื้นที่ดอยห้างผี ซึ่งห่างจากดอยหัวเสือหลายกิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่เคยมีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เกิดการเผาไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เชื้อเพลิงจึงมีปริมาณน้อยทำให้ไฟครั้งนี้ไม่รุนแรงอย่างที่เห็นในภาพ และไฟเกิดเป็นหย่อมๆ ไม่ลุกลามต่อเนื่อง สามารถดับได้เอง เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าดอยอินทนนท์ได้เข้าควบคุมไฟตั้งแต่ช่วงกลางวัน และสามารถควบคุมไฟได้แล้ว คาดว่าไฟจะดับสนิทในช่วงเช้า   ขณะนี้ได้สับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ของสถานีควบคุมไฟป่าฯและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เฝ้าระวังไฟในพื้นที่อย่างใกล้ชิด


ล่าสุด ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุด Hotspot วันที่ 6 มี.ค. 63 (รอบเช้า) จำนวน 118 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 33 จุด ป่าอนุรักษ์ 84 จุด พื้นที่เกษตร 1 จุด  ขณะที่การจรวจวัดคุณภาพอากาศจากกรมควบคุมมลพิษจำนวน 4 จุดของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5  ตั้งแต่  22-42    ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์คุณภาพดีและปานกลาง
-ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์. รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่.  สรุปผลดำเนินการ 199 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 17 ราย ป่าไม้ 125 ราย จราจร 57 ราย เปรียบเทียบปรับ  67 ราย เป็นเงิน 29,200 บาท แยกเป็นสาธารณสุข 12,600 บาท จราจร 16,600 บาท แจ้งความดำเนินคดี 132 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 7 ราย ป่าไม้ 125 ราย ไม่มีตัว 125 ราย แยกเป็นสาธารณสุข 2 ราย ป่าไม้ 123 ราย

(คลิป)เชียงใหม่ จิตอาสาและชาวตำบลสุเทพ ฝึกทักษะการป้องกันและดับไฟป่า

จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนชาวตำบลสุเทพ ฝึกทักษะการป้องกันและดับไฟป่า เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้จริงเมื่อเกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่

วันนี้ (5 มี.ค. 63) เทศบาลตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ จิตอาสาพระราชทาน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่กว่า 1,000 คน เข้ารับการฝึกอบรมและฝึกทักษะในการป้องกันไฟป่า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เทศบาลตำบลสุเทพได้บูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดขึ้น ภายใต้โครงการอบรมอาสาสมัครไฟป่า ประจำปี 2563 และกิจกรรมจิตอาสา “รวมพลังจิตอาสา แก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน” โดยมี พลตำรวจตรี ประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานเปิดงานครั้งนี้ เพื่อสร้างเครือข่ายแนวร่วมภาครัฐและภาคเอกชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยการฝึกทักษะเพื่อให้ประชาชนได้มีประสบการณ์ในการดับไฟป่า ทั้งการได้รู้จักกับอุปกรณ์ที่ใช้ดับไฟป่า การใช้อุปกรณ์ดับไฟป่า และวิธีการดับไฟป่าอย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ที่ผ่านการฝึกทักษะสามารถรับมือและแก้ไขปัญหาไฟป่าได้เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง

โดยในวันนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ จิตอาสาพระราชทาน และประชาชน ที่เข้าร่วมโครงการ ฝึกทักษะในการป้องกันไฟป่า ด้วยการทำแนวกันไฟ เพื่อแยกเชื้อเพลิงออกจากจุดที่เกิดไฟป่าไม่ให้เกิดการลุกลาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถทำได้ โดยใช้อุปกรณ์ใกล้ตัวที่มีอยู่ตามบ้านเรือน เช่น ไม้กวาด คราด จอบ มีด และที่ฉีดพ่นน้ำ

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันสร้างฝายชะลอน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำสำหรับสร้างความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า ทำให้ผืนป่าในพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ก่อให้เกิดไฟป่าได้ง่าย และยังสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับใช้ในการดับไฟป่าได้อีกด้วย และจากนี้ไป เทศบาลตำบลสุเทพจะถือให้เป็นกิจกรรมและเป็นวัฒนธรรมของชาวตำบลสุเทพ ที่จะช่วยกันปกป้องบ้านเมือง และทำให้ป่าไม้ใกล้เมือง ดอยสุเทพ-ปุย มีระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ เพื่อลมหายใจที่ดีของชาวเชียงใหม่ และเพื่อให้จิตอาสาพระราชทานจากทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ รวมถึงสร้างความรักความสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่า เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความมั่นคงและยั่งยืน

ขอบคุณภาพ- ข่าว จากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

(คลิป)เชียงใหม่ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำให้ใช้มาตรการควบคุมการเผาอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำให้ใช้มาตรการควบคุมการเผาอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง แม้จุด Hotspot จะลดลง หลังจากการระดมกำลังเข้าดับไฟและออกตรวจการกระทำผิดในพื้นที่เสี่ยง

วันนี้ 5 มีนาคม 2563 ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานจุด Hotspot ระบบ VIIRS ตามข้อมูล GISD วันที่ 5 มี.ค.63 (รอบเช้า เวลา 01.03 น. และ 02.44 น) จำนวน 55 จุด ในพื้นที่ 7 อำเภอ 16 ตำบล ศูนย์ฯ ได้ตรวจสอบแล้ว เป็นพื้นที่เกษตรในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 1 จุด และลุกลามจากจุดเดิมรอบบ่ายวานนี้ 1 จุด โดยพบว่ามีจุดความร้อนลดลงจากเมื่อวาน (4 มี.ค. 63) โดยเฉพาะ 3 อำเภอ ในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ อำเภอเชียงดาว จาก 30 จุด ลงลงเหลือ 21 จุด , อำเภอแม่แตง จาก 5 จุด ลดลงเหลือ 2 จุด และอำเภอแม่แจ่ม ไม่มีจุดความร้อนเลย


สำหรับ ค่าคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (ที่มาจากเว็ปไซด์ Air4Thai) พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง 60 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร , ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง 54 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนในตำบลสุเทพ อำเภอเมือง มีค่าอยู่ที่ 27 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่ดี โดยเป็นผลมาจากกำลังลมที่พัดเข้ามาบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ทำให้ลมพัดเอากลุ่มควันทางภาคเหนือออกไปได้บางส่วน


ทั้งนี้ เป็นผลมาจากที่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งกำลังทหาร ชุดเหยี่ยวไฟ ชุดเสือไฟ อส. และชุดเผชิญเหตุฯของ อบจ. เข้าไปร่วมกับชุดปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ตั้งแต่เมื่อวาน รวมทั้งขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เข้าควบคุมไฟในตำบลปิงโค้งและตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว ซึ่งเป็นหน้าผาสูงชัน กำลังภาคพื้นดินไม่สามารถเข้าไปได้ ควบคู่กับการส่งกำลังได้ทำการลาดตระเวน ออกตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ป่าอนุรักษ์ และป่าสงวนฯ รวมทั้งเข้าไปพบปะและประชาสัมพันธ์มาตรการห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างการการรับรู้ให้กับราษฎรในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนแต่ละพื้นที่ที่ในการมีส่วนร่วมสอดส่องดูแล และเฝ้าระวังการลักลอบเผาป่าเป็นอย่างดี

เชียงใหม่ ย้ำเตือนชาวนาปลูกนาปรังไม่ขึ้นทะเบียนเสียหายรัฐไม่ช่วยเหลือ

ผอ.ชลประทานเชียงใหม่ เผยมีพื้นที่เปาหมายให้ทำนามีน้ำรองรังไว้แล้วของเขื่อนแม่งัดและคลองชลประทานแม่แตง แต่ขอความร่วมมืองดทำนาปรังนอกพื้นที่เป้าหมาย

นายจรินทร์ คงศรีเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่าในส่วนการทำนาปรังปีนี้ของจังหวัดเชียงใหม่ ทางชลประทานเชียงใหม่ได้ประสานแจ้งไปยังชาวนาของดทำนาปรัง หลังจากสภาพความแห้งแรงปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่มีพื้นที่เป้าทางราชการกำหนดสามารถดำเนินการปลูกได้ของโครงการส่งน้ำแม่งัดแม่แฝก ซึ่งใช้น้ำจากเขื่อนแม่งัด จำนวน 10 ล้าน ลบ.ม. ที่จัดเตรียมไว้ อีกส่วนในพื้นที่คลองส่งน้ำแม่แตง จำนวน 12,000 กว่าไร่ จาก 4 หมื่นกว่าไร่ แต่ก็พบว่าบางพื้นที่นอกเขตเป้าหมายชาวนามีการทำนาปรังเกิดขึ้นมา ใช้แหล่งน้ำตนเองและน้ำใต้ดินมามาทำนา แต่ส่วนนี้หากเกิดความเสียหายขาดแคลนน้ำต้นข้าวตายการช่วยเหลือจะไม่ได้รับชดเชยจากภาครัฐ กรณีไม่ได้ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวนาปรัง


อย่างไรก็ตามชลประทานเชียงใหม่ก็ไม่น่งนอนใจพร้อมเข้าไปช่วยเหลือกรณีเกิดสถานการณ์ภัยแล้งจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำไว้ เพื่อดำเนินการเข้าช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำ แต่เน้นย้ำขอความร่วมมืองดการทำนาปรังออกไปเพราะปริมาณน้ำที่มีภาครัฐได้จัดสรรน้ำเน้นไปที่น้ำอุปโภคบริโภคของประชาชนเป็นหลัก

เชียงใหม่ ทหารส่งเข้าเสริม จนท.ดับไฟป่าเชียงดาวหลังลุกลามต่อเนื่อง

ทหารส่งเข้าเสริม จนท.ดับไฟป่าเชียงดาวหลังลุกลามต่อเนื่อง ผู้ว่าฯ สั่งกำลัง กำลังทหาร ชุดเหยี่ยวไฟ ชุดเสือไฟ อส. และชุดเผชิญเหตุฯของ อบจ. รวมกว่า 100 นาย เข้าไปร่วมกับชุดปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ทั้ง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แจ่ม และอำเภอแม่แตง ฝนตกลงมาช่วยดับไฟป่าและสลายหมอกควันPM2.5

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้บูรณาการกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งกำลังทหาร ชุดเหยี่ยวไฟ ชุดเสือไฟ อส. และชุดเผชิญเหตุฯของ อบจ. รวมกว่า 100 นาย เข้าไปร่วมกับชุดปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ทั้ง 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แจ่ม และอำเภอแม่แตง โดยทีม warroom ของศูนย์ฯ จังหวัด ได้ประเมินสถานการณ์จุดความร้อนในช่วงเช้าที่ยังคงเกิดขึ้นหลายจุด พบว่าในช่วงบ่ายมีจุดความร้อนลดลง ซึ่งที่อำเภอเชียงดาวลดลงจาก 30 จุด เหลือ 1 จุด , อำเภอแม่แตง จาก 5 จุด เหลือ 2 จุด และ อ.แม่แจ่ม จาก 3 จุด ลดลงจนไม่มีจุดความร้อน ซึ่งสอดคล้องกับการตรวจสอบคุณภาพในพื้นที่ทุกจุดแล้ว พบว่าค่าคุณภาพอากาศไม่เกินค่ามาตรฐาน ส่วนหนึ่งมาจากเกิดฝนตกลงมาทั้งจังหวัดเชียงใหม่ ช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นไฟป่าลดลงและหมอกควันไฟปาลดลงตาม

อย่างไรก็ดี ทหารจาก ร.7 พัน.2 อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ได้สนับสนุนกำลังพลจำนวน 30 นายพร้อมอุปกรณ์ เข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ทำการลาดตระเวนด้วยยานยนต์ พร้อมกับพบปะและประชาสัมพันธ์มาตรการควบคุมการเผาทุกชนิดของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างการการรับรู้ให้กับราษฎร ในพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า และจุดความร้อน (HOTSPOT) ของอำเภอเชียงดาว ออกลาดตระเวนป้องปรามการเกิดไฟป่า ที่ 1ทางหมายเลข 107 บ.ปิงโค้ง – บ.ห้วยลึก – บ.ห้วยจะค่าน – บ.หัวโท ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว – เขตติดต่อ อ.ไชยปราการเส้นทางหมายเลข 1150 จาก บ.ปิงโค้ง – บ.ห้วยต้นโชค – บ.ก็อตป่าบง ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว – เขตติดต่อ อ.พร้าวและออก.ลาดตระเวนป้องปรามการเกิดไฟป่า เส้นทางเชียงดาว – เมืองคอง จาก บ.ถ้ำ – บ.นาเลาใหม่ ต.เชียงดาว อ.เชียงดาวฯ – บ.หนองขะแตะ ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว ไม่พบการกระทำผิด ราษฎรในพื้นที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

(คลิป)เชียงใหม่ สืบภาค 5 บุกรวบแก๊งค้ายามอมจิตประสาท ได้ของกลางกว่า 6.3 ล้านเม็ด

ชุดสืบภาค 5 บุกรวบแก๊งค้ายามอมจิตประสาท ได้ของกลางกว่า 6.3 ล้านเม็ด

พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 ได้รับรายงานการจับกุมเครือข่ายผู้ลักลอบจำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยผิดกฎหมาย โดย พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ได้ทำการจับกุมตัวนายชัยณฐศิวคุณ ทวีเรืองวงศ์ อายุ 31 ปีที่อยู่ เลขที่ 105 ซ.นาคนิวาส 27 แขวงลาดพร้าว กทม. นายปิยะกูล เหขุนทด อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ซอนนุช 76/1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. นายอธิมาตร จิตผ่อง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 ซ.อ่อนนุช 17 แยก 7 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.


ของกลาง ยาทรามาดอล (Tramadol) จำนวน 6,326,750 เม็ด (หกล้านสามแสนสองหมื่นหกพันเจ็ดร้อยห้าสิบเม็ด) ยาชนิดอื่นๆอีก 11,672 ขวด รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นเวลไฟร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กญ 4915 กทม. จำนวน 1 คัน นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 4 โคลนาซีแพม (Clonazepam) ไว้ ในครอบครองเพื่อขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับยา ร่วมกันขายยาปลอม ร่วมกันจําหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ร่วมกันมีหรือติดฉลากผลิตภัณฑแสดงเลขสารบบอาหารปลอมที่มีกี่แสดงฉลากเพื่อลวง หรือพยายามลวงให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าได้รับอนุญาตสารบบอาหารแล้ว ”

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ได้รับร้องเรียนจากผู้ปกครองเยาวชนว่าบุตรหลานของตนมีพฤติการณ์ สั่งชื้อ ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาแคปซูลสีเขียวเหลือง เป็นยาแผนปัจจุบันมีสรรพคุณใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด รวมทั้งมีฤทธิ์กดการทำงานของระบบประสาท และมีผลทำให้เกิดภาวะเคลิ้มสุข (Euphoria) ซึ่งการออกฤทธิ์นี้จะเหมือนกับการออกฤทธิ์ของยามอร์ฟีน แต่ยาทรามาดอลจะมีความแรงน้อยกว่า จึงทำให้ยานี้ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษเหมือนกับมอร์ฟีน เยาวชนมักจะนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยนำผสมกับยาแก้ไอ และน้ำอัดลม แล้วดื่มกินมีอาการเหมือนเมาสุรา หากดื่มมากจะมีอาการเมาไม่ได้สติ และหากไม่ได้ดื่มจะมีอาการหงุดหงิด ก้าวร้าวใช้ความรุนแรง และอาจถึงแก่ชีวิต ซึ่งยาชนิดดังกล่าวจะต้องซื้อได้จากโรงพยาบาลในการดูแลใกล้ชิ้ดของแพทย์ และยาชนิดนี้กำลังระบาดหนักแทนยาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ทางเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนก็พบว่าในกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ภาค 5 มีการสั่งซื้อยาชนิดนี้ในโปรแกรมSocial Media Facebook ชื่อ “ริด คำคุ้น Line ชื่อ “พ่อค้า interpharmacy08” และ “ลูกค้า PPTINDOL Shop” Twitter ชื่อ peoplepins Instagram ชื่อ rib_man250 ทางเจ้าหน้าที่จึงปลอมตัวสั่งซื้อมา และติดตามไปที่แหล่งผลิตและเก็บรักษาที่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ซ.อนามัย แขวง/เขตสวนหลวง กทม. ก่อนจะตรวจค้นก็พบยาของกลางจำนวนมาก และพบกลุ่มผู้ต้องหาจึงจับกุมตัวไว้


จากการตรวจสอบก็พบยาต้องห้ามจำนวนมากเพราะยาทรามาดอลจัดเป็นยาอันตรายตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่ามีนายทุน อีก 1 คนที่ชิงหลบหนีไปก่อนเป็นคนทำโปรโมชั่นการขาย และรับยาเหล่านี้มาจากแหล่งผลิต ก่อนมาทำโปรโมทกระจายขายทั่วประเทศซึ่งวันหนึ่งสามารถขายได้ไม่ต่ำกว่า 40-50 รายที่สั่งซื้อ โดยซื้อมาราคาถูกและแบ่งจำหน่ายเม็ดละ 3 บาทหากซื้อเยอะก็ราคาลดลงอีก ซึ่งหลังการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลจับกุมนายุทนและแหล่งผลิตยาต้องห้ามนี้เพื่อกวาดล้างต่อไป

หมายเหตุภาพจากชุดสืบสวนภาค 5

เชียงใหม่ ห้วยตึงเฒ่านำชาวบ้านร้านค้ากว่า 500 คนจุดธูปสาบานไม่เผา

อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่านำชาวบ้านร้านค้ากว่า 500 คนจุดธูปสาบานไม่เผา เฝ้าพื้นที่ดูแลปกป้องพื้นที่กว่า 2.4พันไร่ ไม่ให้เกิดไฟป่าเกิดขึ้น หลังจากทำมาเป็นปีที่ 3 ประสบความสำเร็จพร้อมปิดป้ายเข้าเข้าป่า ใช้คำสาบานเป็นภาษาไทยและไทยใหญ่แก่ลูกจ้าง

พันเอก สุปกรณ์ เรือนสติ ผู้จัดการสำนักงานโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าตามพระ
ราชดำริ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม ได้นำราษฏรหมู่บ้านตัวอย่างห้วยตึงเฒ่าอันเนื่องพระราชดำริ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง และผู้ประกอบารร้านค้าสวัสดิการรอบอ่างเก็บน้ำนำลูกจ้างคนงาน บริกร แม่ครัว เจ้าของร้าน จำนวนกว่า 500 คน เข้าทำพิธีสาบานจุดธูปต่อหน้าองค์พระพุทธรูป ทำพิธีปฏิญานตนเพื่อแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ต่อมาตรการป้องกันไฟป่าและหมอกควัน ณ ศาสนสถานห้วยตึงเฒ่า (ฐานพระ)

อย่างไรก็ตามเป็นมาตรการเชิงรุก กุศโลบาย ให้ทุกคนในพื้นที่ กว่า 2,400 ไร่ ช่ยกันดูแลปกป้อง หลังจากที่ ผ่านมาเคยประสบปัญหาเกิดไฟป่ามาตลอดจนภายหลัง 2 ปีที่ผ่านมาได้กระทำจุดธูปสาบาน ก็ไม่ไม่เกิดไฟป่าเกิดขึ้น จึงได้ทำมาเป็นปีที่ 3 ซึ่งทุกคนจะต้องเฝ้า ดูแล ป้องกัน แจ้งข่าว ช่วยกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่ นอกจากนี้ได้ปิดทางเข้าทุกเส้นทางเพื่อป้องกันการเข้าไปลักลอบเผาป่า ซึ่งได้วางมาตรการต่อทุกคนภายในอ่างเก้บน้ำห้วยตึงเฒ่าตามพระราชดำริ ต้องมาลงชื่อ ใครไม่มาถือว่าไม่ให้ความร่วมมือและจะถูกเพ่งเล็ง ให้เจ้าของร้านเป็นผู้นำทีมของตนเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือทุกคนได้เดินทางมารวมในพิธีอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันพร้อมมีรางวัลให้กับผู้ชี้เบาะแสลักลอบมาเผาจำนวน 1 หมื่นบาท

dav