เชียงใหม่ Kick off เทศกาล Lanna Breeze ล้านนาฟ้าใส ลมหายใจเดียวกัน

จังหวัดเชียงใหม่ระดมพลังทุกภาคส่วนสู้ฝุ่นควัน Kick off เทศกาล “Lanna Breeze ล้านนาฟ้าใส ลมหายใจเดียวกัน” เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน 2564 รวมระยะเวลานานกว่า 5 เดือน

-วันนี้ (2 พ.ย. 63) ที่พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา เชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานคณะกรรมการอำนวยการสภาลมหายใจเชียงใหม่ และภาคีเครือข่าย ร่วมแถลงเปิด เทศกาล “Lanna Breeze ล้านนาฟ้าใส ลมหายใจเดียวกัน” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน 2564 รวมระยะเวลานานกว่า 5 เดือน โดยเป็นการรวมพลังสังคมทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชน เพื่อป้องกันบรรเทาและร่วมกันต่อสู้กับวิกฤตมลพิษฝุ่นควันไฟ PM 2.5 ซึ่งเกิดเป็นประจำทุกปี


ทั้งนี้ เทศกาล “Lanna Breeze ล้านนาฟ้าใส ลมหายใจเดียวกัน” จะมีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งการรณรงค์ การให้ความรู้ การแลกเปลี่ยนและนำเสนอเชิงวิชาการ อาทิ การส่งเสริมเกษตรกรลดการเผาพื้นที่เกษตร การปั่นจักรยานลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง การส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวเพื่อการบริโภคในครัวเรือน การจัดแสดงงานศิลปะจัดวางและศิลปะการแสดง การจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้า เพื่อนำเสนอนวัตกรรมป้องกันฝุ่น ฯลฯ ซึ่งจะทำอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ต่าง ๆ


นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ กิจกรรม “Chiang Mai Go Green Festival ปั่นเพื่อเปลี่ยน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลฯ โดยเทศบาลนครเชียงใหม่ สภาลมหายใจเชียงใหม่ และภาคีที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันคิดและมุ่งหวังให้เป็นกลไกในการสร้างกระแสการเดินทางคาร์บอนต่ำครั้งใหญ่ รวมถึงเปิดพื้นที่เมืองเก่าให้ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสเมืองเก่าในบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง ด้วยการใช้จักรยานทุกเช้าวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ถึง วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564 รวม 13 สัปดาห์ อีกด้วย

เชียงใหม่ “ส.ว.ก๊อง” ประกาศลั่นสู้เต็ม 100 ในนามพรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่ง นายกอบจ.

“ส.ว.ก๊อง” ประกาศลั่นสู้เต็ม 100 ในนามพรรคเพื่อไทย ชิงตำแหน่งนายกอบจ.และส.อบจ.เชียงใหม่ 2 พ.ย.ยกทีมไปสมัครก่อนพร้อมเปิดตัวยิ่งใหญ่ ที่ยิมเนเซี่ยม 2 สนามฯ 700 ปี

ที่ภัตราคารเจี่ยท้งเฮง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีตสมาชิกวุฒิสภาหรือ “ส.ว.ก๊อง” ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ “พรรคเพื่อไทย” แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.และสมาชิกส.อบจ.เชียงใหม่ ทั้ง 42 เขตเลือกตั้ง 25 อำเภอ ของพรรคเพื่อไทย ในการลงชิงชัยเลือกตั้งนายกอบจ.- ส.อบจ. เชียงใหม่ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้

“ส.ว.ก๊อง” ว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในขณะนี้ กกต.ได้มีประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้วในวันที่ 20 ธันวาคม 2563 นี้ โดย กกต.เชียงใหม่กำหนดวันรับสมัครในระหว่างวันที่ 2-6 พ.ย.63 ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศที่จะสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นและส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกอบจ.เชียงใหม่และส.อบจ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

นายพิชัย กล่าวอีกว่า “สำหรับตนเอง ได้เตรียมตัวที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2557 นับตั้งแต่ที่ทำงานในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เชียงใหม่ได้ 6 ปี ซึ่งขณะนั้นตามรัฐธรรมนูญปี 2550 กำหนดคุณสมบัติว่าผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นได้จะต้องลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองไม่น้อยกว่า 2 ปี ซึ่งตนก็ลาออกและเตรียมตัวมาตั้งแต่นั้นด้วยความมุ่งมั่นที่อยากทำงานเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ของจ.เชียงใหม่ ให้เจริญก้าวหน้า” และเมื่อปี 62 ที่มีการเลือกตั้งส.ส.พรรคเพื่อไทยได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถบริหารประเทศได้ด้วยข้อจำกัดจากรัฐธรรมนูญ ดังนั้นพรรคเพื่อไทย จึงมีนโยบายที่จะมาช่วยคิดและทำเพื่อให้เข้าถึงประชาชนในระดับพื้นที่ จึงได้ติดต่อตนเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนายกอบจ. เชียงใหม่ ในนามของพรรค ซึ่งตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถจึงตัดสินใจที่จะลงในนามของพรรคเพื่อไทยและได้เปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว


“ตนเตรียมตัวมานาน รอจนกระทั่งกกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันว่าที่ผู้สมัครส.อบจ. เชียงใหม่ ในทีมพรรคเพื่อไทยทั้ง 42 เขต 25 อำเภอนี้ผมเป็นผู้คัดเลือกและให้นโนบายไปนานและได้ย้ำเสมอว่าคนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในทีมพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นคนที่มีใจ อาสาเสียสละ มีความพร้อมของครอบครัว ทุกคนล้วนมีความรู้ ความสามารถ ดังนั้นจะต้องเข้าถึง เข้าใจและรับฟังปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่ของตนเอง ทุกคนต้องลงพื้นที่ ไม่ให้มีการซื้อเสียงหรือใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นหากใครฝ่าฝืนผมจะไม่เอาไว้ในทีม” นายพิชัยกล่าว


สำหรับผู้สมัคร ส.อบจ. เชียงใหม่ 42 เขต 25 อำเภอมี นายสมบูรณ์ บุญเรือง อ.เมือง เขต 1, นางสาวธิดารัตน์ ศิริวิทยากร อ.เมือง เขต 2, นางจิรันภรณ์ เตโชฬาร อ.เมือง เขต 3, นายโกวิทย์ พิริยะอานันต์ อ.เมือง เขต 4, นายพิรุณ พรฤิทธิ์ อ.เมือง เขต 5, จ.ส.ต.วัฒนะ ณ เชียงใหม่ อ.ฝาง เขต 1,นางอารีย์ สุริยะ อ.ฝาง เขต 2, นายสายันต์ ปัญโญ อ.ฝาง เขต 3, นายสังคม แสนบุดดี อ.สันทราย เขต 1, นายศรันญ์ ใจคำ อ.สันทราย เขต 2, นางมยุรา ตุ่นแก้ว อ.สันทราย เขต 3, นายเสฎฐวัจน์ เสทธะยะ อ.ดอยสะเก็ด เขต 1, นายฉลอง เครื่องนันตา อ.ดอยสะเก็ด เขต 2, นางวิทยาลักษณ์ สามใจ อ.หางดง เขต 1, นายกมลศิษฐ์ โรจน์ธนวิภัช อ.หางดง เขต 2, น.ส.อนรรฆวี จำรัสวุฒิกุล อ.สันกำแพง เขต 1, น.ส.ณัฐกฤตา พ่วงตรง อ.สันกำแพงเขต 2, นายสุริยนต์ ปันทะนะ อ.สันป่าตอง เขต 1, นายนพดล ทรายมูล อ.สันป่าตอง เขต 2, นายศักดิ์ดาว ห่านตระกูล อ.เชียงดาว เขต 1, นายสัญญา ไวยเนตร อ.เชียงดาว เขต 2, ร.ต.ต.วรพงษ์ วรคันธา อ.แม่อาย เขต 1, นายวิชัย ใจพิแสง อ.แม่อาย เขต 2, นางศุภกานต์ สุประการ อ.สารภี เขต 1, นายชูเดช เกตุชูรัตน์ อ.สารภี เขต 2, นายชาติชาย พานิช อ.แม่แตง เขต 1, นายทิง วรวงษ์ อ.แม่อตง เขต 2, นายปริญญา ยาสมุทร์ อ.แม่ริม เขต 1, นายมนตรี ลิ้มคำ อ.แม่ริม เขต 2, นายปกรณ์ กันทะจันทร์ อ.จอมทอง เขต 1, นายไชยวัฒน์ ใหญ่พงศ์ อ.ไชยปราการ เขต 1, ร.ต.อ.สมชาญ อมรบุตร อ.ดอยเต่า เขต 1, นายธาดา พรหมเสนใจ อ.ดอยหล่อ เขต 1, นางพรพิมล สิริเจริญพร อ.พร้าว เขต 1, นายบวร สุริยะขัยพันธ์ อ.แม่แจ่ม เขต 1, นายสิงห์คำ ภูวินศักดิ์สกุล อ.แม่วาง เขต 1, นายผจญ สุขติ๊บ อ.แม่ออน เขต 1, นายเวโรจน์ โกฎฉกรรจ์ อ.สะเมิง เขต 1, นายนิรันดร์ จิ่งตามน อ.เวียงแหง เขต 1, นายณัฐวุฒิ มารุ่งเรือง อ.อมก๋อย เขต 1, นายประเสริฐ ทาหล้า อ.ฮอด เขต 1 และนายมณฑล บรรณพร อ.กัลยาณิวัฒนา เขต 1

เชียงใหม่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดขายสลากออมทรัพย์ชุดเกล็ดดาว

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดขายสลากออมทรัพย์ชุดเกล็ดดาว ประชาชนแห่ซื้อสาขาเชียงใหม่คึกคัก หน่วยละ 5 พันบาท ลุ้นเงินรางวัล 1 ล้านบาททุกเดือน และยังได้ลุ้นรางวัล 3 ตัว 2 ตัว นานถึง 2 ปี และเป็นครั้งแรก ที่ธนาคารไทย มีการออกรางวัล เลขท้าย 2 ตัวและเลขท้าย 3 ตัวแบบสลับหรือเลขโต๊ด

ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาเชียงใหม่ มีประชาชนพากันไปรอซื้อสลากชุด เกล็ดดาว ราคาหน่วยละ 5 พันบาท อายุ 2 ปี แต่ได้ลุ้นเงินรางวัลที่ 1 จำนวน 1 ล้านบาท รางวัลที่ 2 จำนวน 5 หมื่นบาทมี 4 รางวัล รางวัลที่ 3 จำวน 5 พันบาท มี 20 รางวัล รางวัลที่ 4 รางวัลละ 500 บาท มี 20 รางวัล รางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 1 ครั้ง รางวัล100 บาท และรางวัล 2 ตัว รางวัล 50 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่ ที่เดินทางมาเองที่ธนาคาร จะเป็นกลุ่มผุ้สูงอายุหรือข้าราชการเกษียนเนื่องจากไม่มีความถนัดเรื่องการใช้แอพพิเคชั่นจึงมาเปิดบัญชีเอง แต่ส่วนใหญ่หากเป็นวัยทำงาน ก็จะซื้อผ่านแอพพิเคชั่น


นาง กรรณิกา ไกยสิทธิ์ ผู้จัดการเขตเชียงใหม่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า ได้รับการตอบรับ จากลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากสลากออมทรัพย์เกล็ดดาว ราคาหน่วยละ 5 พันบาท และยังได้ดอกเบี้ย เมื่อครบอายุ 2 ปี แถมยังได้ลุ้นรางวัลเงินล้านทุกวันที่ 16 ของทุกเดือนเป็นเวลา 24 งวด ที่สำคัญ เป็นครั้งแรก ของวงการธนาคารไทย ที่ออกสลากออมทรัพย์ ที่มีรางวัลเลขท้าย 3 ตัว และเลขท้าย 2 ตัว สลับหรือเลขโต๊ด ทั้งนี้ช้าอาจหมด อดได้ลุ้นเงินล้าน งวดแรกออกวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 มีทั้งหมด 3 ล้านหน่วย

นาย อดุล ตุ้มกุล อายุ 63 ปี ข้าราชการเกษียน บอกว่าเป็นการออมเงินที่น่าสนใจ เงินยังอยู่เหมือนเดิม และยังได้ลุ้นรางวัล หากซื้อล็อตเตอรี่ถ้าไม่ถูกรางวัล เงินก็จะหมดไป แต่นำเงินมาซื้อสลากออมทรัพย์ หากไม่ถูกรางวัลเงิน ยังอยู่เหมือนเดิม แถมยังได้ดอกเบี้ย จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

เชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเกษตรไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล นาน 9 ปีกรณีที่ดินสาธารณะบ้านสันพระนอน

กรมส่งเสริมการเกษตรไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล นาน 9 ปี เทศบาลตำบลแม่เหียะ เตรียมเปิดประชุมสภาสรุปปัญหาที่ดินสาธารณะบ้านสันพระนอน

ผู้สื่อข่าวรายงานที่สำนักงานเทศบาลเมืองแม่เหียะ (ทม.แม่เหียะ) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ นายเศวต เวียนทอง เลขานุการ นายกฯ นายทวีชัย สิงห์โทราช เลขานุการ นายกฯ นายประหยัด ศรีวิชัย รอง นายกฯ นายจินตนา โนวิรัตน์ ประธานสภา ทม.แม่เหียะ นางอัจฉราวรรณ จันทร์เจนจบ สท.ทม.แม่เหียะ นางกัลยา เบี้ยวบรรจง เลขานุการสภา ทม.แม่เหียะ น.ส.อังคณา ปริยสิริ รองปลัดเทศบาล และนายกษิดิศ คณาญาติ นิติกร ทม.แม่เหียะ ทั้งหมดได้รับหนังสือและเอกคำสั่งศาลและเอกสารสำคัญต่างๆจากนายดี จันทคลักษณ์ ในฐานตัวแทนชาวบ้านที่เป็นผู้ฟ้องในคดีกรณีปัญหาที่ดินสาธารณะที่เลี้ยงสัตว์บ้านสันพระนอน เลขที่ 118/2 หมู่ 5 ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ด้วยกันมาก่อน

ต่อมาหลายสิบปีก่อนทาง สนง.ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ (เกษตรที่สูง) สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขต 6 จังหวัดเชียงใหม่ กรมส่งเสริมการเกษร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าไปใช้ประโยชน์โดยผิดกฏหมาย ได้สร้างอาคารที่พักและอาคารตึกปูน และนำเครื่องจักรขนาดใหญ่มาไว้ในตึกด้วย พร้อมสิ่งปลูกสร้างอื่นๆอีกจำนวนมากโดยผิดกฏหมายดังกล่าว นายดี และตัวแทนชาวบ้านหลายคนฟ้องขับไล่และศาลปกครองตัดสินให้กรมส่งเสริมการเกษตร ต้องออกจากพื้นที่มานานครบ 9 ปีแล้ว แต่กรมส่งเสริมการเกษตร ก็ยังไม่ย้ายออกแต่อย่างใด

ที่ดินสาธารณะที่เลี้ยงสัตว์บ้านสันพระนอน มีเนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 71 ตารางวา ผู้ฟ้องคือชาวบ้านหลายคนร่วมกับทางศูนย์พิทักษ์สิทธิชุมชนตำบลแม่เหียะได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเชียงใหม่ โดยมอบหมายให้ทนาย คือ นายเศวต เวียนทอง เป็นผู้ยื่นฟ้อง วันนี้นายเศวต ได้ทำหน้าที่ เลขานุการนายก ทม.แม่เหียะ ได้ยื่นฟ้องตั้งแต่ พ.ศ.2552 ในคดีหมายเลขแดงที่ 286/2554 ฟ้องเพื่อให้กรมส่งเสริมการเกษรออกจากพื้นที่

ศาลปกครองเชียงใหม่ตัดสิน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2554 ให้กรมส่งเสริมการเกษร ต้องคืนพื้นที่สาธารณะประโยชน์ประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน ให้คืนที่ดินดังกล่าวให้ประชาชน และให้กรมส่งเสริมการเกษตรออกจากพื้นที่ดินสาธารณะที่เลี้ยงสัตว์บ้านสันพระนอน และให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างออกจากพื้นที่สาธารณะประโยชน์ดังกล่าว ภายใน 360 วัน นับตั้งแต่ศาลตัดสิน

นายเศวต เวียนทอง เลขานุการ นายก ทม.แม่เหียะ และในฐานะทนายของชาวบ้านผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า หลังจากศึกษาตามเอกสารที่ได้รับมาจากนายดี ทางกรมสงเสริมการเกษตร ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นานถึง 9 ปีเต็มในเดือนตุลาคมปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางปกครอง โดยนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ก็เคยทำหนังสือแจ้งเตือนย้ำให้กรมสงเสริมการเกษตร ดำเนินการตามคำสั่งศาลไปแล้ว ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆอีก

ล่าสุดทางจังหวัดเชียงใหม่ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานดูแลเรื่องนี้ และได้ข้อสรุปเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 โดยนายสุพัฒน์ ปักษาจันทร์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ทำหนังสือแจ้งให้ทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้อง ซึ่งสรุปตามเอกสาร ที่ ชม.0020.4/456 ใจความสำคัญคือ ไม่เห็นชอบให้กรมส่งเสริมการเกษตรใช้และถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์แปลงดังกล่าว และสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ จะดำเนินการตามระเบียบและกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ก็เท่ากับว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ต้องรับฟังและปฏิบัติตามนั้น

นายดี จันทคลักษณ์ ในฐานตัวแทนชาวบ้านที่เป็นผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า เมื่อครบ 9 ปี ตัวแทนชาวบ้านและตัวแทนศูนย์พิทักษ์สิทธิชุมชนตำบลแม่เหียะ เห็นว่า เวลาผ่านมานานมากเกินไป ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง จึงนำเอกสารสำคัญและเอกสารคำสั่งศาลเข้าปรึกษา นายก ทม.แม่เหียะ และ นิติกร ทม.แม่เหียะ และทนายความ เรื่องการที่กรมส่งเสริมการเกษตรยังไม่ออกไปนั้นชาวบ้านจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป เพราะต้องการให้ ทม.แม่เหียะ ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เมืองแม่เหียะ

นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายก ทม.แม่เหียะ บอกว่า ทม.เมืองแม่เหียะ จะเปิดประชุมสภาในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้ คาดว่าไม่น่าเกินในวันที่ 9 พฤศจิกายน เมื่อนำเรื่องที่ดินสาธารณะที่เลี้ยงสัตว์บ้านสันพระนอนเข้าประชุมในสภา จะเชิญตัวแทนชาวบ้านผู้ฟ้องทั้งหมด และกำนันผู้ใหญ่บ้านในเมืองแม่เหียะทั้งหมดเข้าร่วมประชุมในสภา เพื่อสรุปปัญหาให้ได้ข้อสรุปในการใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าว

เชียงใหม่ กองทุนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์สังคม สัญจรภูมิภาค ครั้งแรกที่เชียงใหม่

“TMF Power Fusion” กองทุนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์สังคม สัญจร 5 ภูมิภาค ครั้งแรกที่เชียงใหม่ มีผู้ที่สนใจทั้งหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นักเรียน – นักศึกษา และประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก

ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค เพื่อขยายเครือข่ายการทำงานด้านสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และด้านการรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศและดิจิทัล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในเผยแพร่ความรู้และแนวคิดด้านสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างโอกาสในการทำงานสร้างสรรค์ร่วมกับกองทุนฯ โดยภาคแรกครั้งที่ 1 เพื่อเผยแพร่ความรู้และแนวคิดด้านสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์และด้านการรู้เท่าทัน สื่อสารสนเทศและดิจิทัลไปยังภาคีเครือข่าย โดยมี ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เป็นประธานในพิธีเปิด และกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ TMF Talk ในหัวข้อ “การบูรณาการแผนพัฒนาด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2564)

นอกจากนี้ยังมีเสาวนาวิชาการการสร้างสรรค์สื่ออย่างสร้างสรรค์ด้านพลังการมีส่วนรวมในหัวข้อ TMF Power Fusion กองทุนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์ มีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ ผู้แทนคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ ประชาชน รศ.ดร. พนา ทองมีอาคม ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน , ผู้แทนคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้าระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัย และไม่สร้างสรรค์ นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย ประธานอนุกรรมการเกี่ยวกับการเฝ้า ระวังสื่อที่ไม่ปลอดภัยและไม่สร้างสรรค์, ผู้แทนคณะอนุกรรมการส่งเสริมสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ผศ.ดร. วรัชญ์ ครุจิต ประธานอนุกรรมการส่งเสริมสนับสนุนการ สร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค, นายธวัชชัย ไทยเขียว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเด็กและ เยาวชน โดยมี นางวรินรำไพ ปุณย์ธนารีย์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ รับหน้าที่ดำเนินรายการ

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กล่าวว่าสังคมไทยกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของสื่อ ที่เกิดจากการพัฒนาเทคโนโลยีทางการสื่อสาร ทำให้เกิดทั้งสิ่งที่เป็นประโยชน์เกิดความก้าวหน้าทั้งเศรษฐกิจและสังคม แต่ขณะเดียวกันเราก็กำลังเผชิญกับปัญหาในการใช้งานสื่อในมิติต่างๆ สังคมจึงจำเป็นต้องใช้องค์ความรู้และทักษะในการรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและดิจิทัล จึงได้จัดเวทีส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน 5 ภูมิภาค เพื่อเผยแพร่ความรู้และแนวคิดด้านสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์และด้านการรู้เท่าทัน สื่อสารสนเทศและดิจิทัลไปยังภาคีเครือข่าย

อย่างไรก็ดี ดร.ธนกร ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนั้นการจัดเวที TMF Power Fusion กองทุนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์สังคม จะทำให้ภาคีเครือข่ายได้เข้าใจถึงภารกิจของกองทุน อีกทั้งยังเป็นการขยายเครือข่ายการทำงานด้านสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในระดับประเทศ

“ทั้งนี้เวทีฯได้กำหนดกรอบเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์เปิดพื้นที่สร้างการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็น รวบรวมแนวคิดเพื่อกลั่นกรองเป็นข้อเสนอต่อคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมการมีส่วนของประชาชน เพื่อสร้างกระบวนการทำงานและผลักดันให้เกิดการพัฒนานิเวศสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์”


เวที TMF Power Fusion กองทุนสร้างสรรค์สื่อ สื่อสร้างสรรค์สังคมจะสัญจรไปยัง 5 ภูมิภาคของประเทศ
ครั้งที่ 1 วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่, ครั้งที่ 2 วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ณ โรงแรมเดอะทวิน โลตัส จ.นครศรีธรรมราช, ครั้งที่ 3 วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ จ.อุบลราชธานี, ครั้งที่ 4 วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ณ โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ จ.ชลบุรีและครั้งที่ 5 วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ

ลำพูน จังหวัดลำพูนเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว เชิญยลแสงสี รัตติกาล

จังหวัดลำพูนเปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว เชิญยลแสงสี รัตติกาล พร้อมชวนประกวดภาพถ่ายชิงเงินรางวัลกว่า 30,000 บาท หวังเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตเมืองเก่าลำพู

ที่ บริเวณประตูท่านาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานในพิธีเปิดงานแสง สี รัตติกาล เสน่ห์สีสันแห่งลำพูน อย่างเป็นทางการ โดยมีประชาชนชาวจังหวัดลำพูน และนักท่องเที่ยวร่วมงานและชมความงดงามแสง สี กิจกรรมย้อมไฟเมืองเก่าลำพูน เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว และเพื่อส่งเสริมสนับสนุน ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวรู้จัก รับรู้ถึงกิจกรรม สถานที่ ภูมิปัญญาและประวัติศาสตร์ที่สำคัญของจังหวัดลำพูน และวางแผนมาเที่ยวจังหวัดลำพูนในโอกาสต่อๆ ไป


กิจกรรมแสง สี รัตติกาล เสน่ห์สีสันแห่งลำพูน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม 2563 ไปจนถึง 6 มกราคม 2564 ตลอด 3 เดือน นักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศวิถีชีวิตสีสันยามค่ำคืน เสน่ห์เมืองเก่าลำพูน การประดับไฟย้อมเมืองเส้นทางถนนอินทยงยศ และเส้นทางถนนคูเมือง อาทิ ปั้มน้ำมัน 3 ทหาร กำแพงคุ้มเจ้าจักรคำ กำแพงวัดพระธาตุหริภุญชัย อาคารศาลากลางจังหวัดลำพูน กำแพงเมืองประตูช้างสี กำแพงเมืองประตูมหาวัน ลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี กำแพงเมืองประตูลี้ กำแพงเมืองประตูท่านาง รวมถึงนักท่องเที่ยวสามารถที่จะได้ชมความงดงามประติมากรรมโคมไฟต้นสลากย้อม บริเวณศาลากลางจังหวัดลำพูน -ประติมากรรมทุ่งดอกไม้บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และการประดับไฟหยดน้ำ ไฟดาวตกที่สวยสดงดงาม เส้นทางท่องเที่ยวเขตเมืองเก่าจังหวัดลำพูน พร้อมชมการแสดงแสง สี Projection Mapping เรื่อง “ย้อนรอยพระแม่นั่งเมือง นครรุ่งเรืองเมืองหริภุญชัย บริเวณอาคารเพชรา ถนนรอบเมืองในใกล้วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ทุกวันเสาร์ และ อาทิตย์ เวลาแสดง 20.00 น. อีกด้วย

อย่างไรก็กีขอเชิญชวนผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ ส่งภาพถ่ายยามค่ำคืนเข้าร่วมประกวดในการประกวด “มหัศจรรย์สีสันแห่งแสงไฟ รัตติกาลเสน่ห์สีสันแห่งลำพูน Night Light in The City Photo Contest ชิงเงินรางวัลและถ้วยรางวัลกว่า 30,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน ถนนสนามกีฬา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน โทรศัพท์ : 053-561430

เชียงใหม่ เทศบาลตำบลลวงเหนือนำกระสอบป่านมาคลุมไฟกิ่งเพื่อให้ข้าวออกรวง

แปลก เทศบาลลวงเหนือนำกระสอบป่านมาคลุมไฟกิ่งริมถนน นายกฯเผย เพื่อช่วยเกษตรกรชาวนาที่ประสบปัญหาแสงไฟไปกระทบนาข้าวทำให้ข้าวไม่ออกรวง

DCIM/100MEDIA/DJI_0024.JPG

ผู้สื่อข่าวพามาที่ถนนเส้นทางจากสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ไปยังบ้านลวงเหนือ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะสังเกตเห็นว่า ไฟกิ่งริมถนนเส้นทางดังกล่าวบางต้นมีการนำกระสอบป่านมาคลุมรอบดวงไฟเอาไว้ เป็นความแปลกสำหรับผู้ที่พบเห็น ซึ่งไฟกิ่งที่ถูกคลุมด้วยการสอบป่านนั้นส่วนใหญ่ จะอยู่ใกล้กับนาข้าวของชาวบ้าน ที่กำลังเติบโตพร้อมจะออกรวงข้าว

นายดวงแก้ว สะอาดล้วน นายกเทศมนตรีตำบลลวงเหนือเปิดเผยว่า จากการที่เส้นทางสัญจรไปมาระหว่างตำบลลวงเหนือจะเห็นมีกระสอบป่านคลุมไฟโคม ก็สืบเนื่องมาจากพื้นที่ตำบลลวงเหนือ มีพี่น้องชาวบ้านทำการปลูกข้าว ปรากฏว่าแสงไฟจากโคมไฟกิ่งมีผลต่อการออกรวงของข้าว หากไม่นำกระสอบมาคลุมในจุดที่แสงไฟไปถึงข้าวจะไม่ออกรวง ดังนั้นเพื่อเป็นการชาวเหลือชาวนาและเป็นการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ทางเทศบาลจึงได้ให้เจ้าหน้าที่นำกระสอบป่านไปคลุมไว้ จะทำให้ข้าวออกรวงตามฤดูกาล ซึ่งทางเทศบาลได้ทดลองนำกระสอบป่านมาคลุมดวงไฟกิ่งมาแล้ว 4-5 ปีที่ผ่านมา สามารถช่วยให้ข้าวได้ออกรวงตามฤดูได้จริง ไม่ทำให้เส้นทางดังกล่าวที่ใช้สัญจรนั้นมึดลง ยังมีแสงไฟส่องลงตรงถนนอยู่ เพียงแต่ว่าจะไม่สว่างรอบทิศทางเท่านั้นเอง แต่เมื่อหมดฤดูการปลูกข้าวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะนำกระสอบป่านออกไป

DCIM/100MEDIA/DJI_0020.JPG

เชียงใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร สจ. นายฉลอง เครื่องนันตา ลงพื้นที่หาเสียง

ว่าที่ผู้สมัคร สจ. นายฉลอง เครื่องนันตา ลงพื้นที่หาเสียงร้านลาบพร้าว สาขา 2 สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

นายอุดม อิ่นคำ อดีตนายก ทต.แม่คือ พร้อมนายนพพร พยัคฆา เลขา นายก ทต.แม่คือ และว่าที่ สจ.คนใหม่ “ฉลอง เครื่องนันตา” อดีตรองนายก ทต.แม่คือ ได้ลงพื้นที่แนะนำตัวในการจะรับใช้ประชาชนเพื่อลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (สจ.) เขต อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ที่ร้านลาบเมืองป้าว(ในสวน) สาขา 2 ย้านมาอยู่ใหม่ใน ต.สันปูเลย ซ.7 อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

นายฉลอง ว่าที่ผู้สมัคร สจ.ได้เยี่ยมเยือนชาวบ้านในพื้นที่ และเยี่ยมชาวบ้านในร้านลาบพร้าวดังกล่าว โดยมีนายชูชาติ เสร็จกิจ สมาชิกสภาเทศบาล ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด เจ้าของพื้นที่และเจ้าของร้านลาบเมืองป้าวให้การต้อนรับ และแนะนำร้านที่เปิดบริการแบบเศรษฐกิจพอเพียง เปิดร้านในบ้านตัวเอง และปลูกผักสวนครัวเป็นผัดสดที่ปลอดภัยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปลูกไว้บริการลูกค้าให้เก็บรับประทานสดๆได้อีกด้วย ส่วนว่าที่ สจ.ฉลอง เครื่องนันตา ได้ลงพื้นที่ในเขต อ.ดอยสะเก็ด เขต 2 อย่างต่อเนื่อง ก็พบปัญหาของชาวบ้านหลายเรื่อง จึงเสนอตัวรับใช้ชาวบ้านเพราะพร้อมทุกด้านในการอาสาช่วยแก้ไขปัญหาด้านต่างๆให้ชาวบ้าน จึงฝากชาวบ้านให้โอกาสได้เข้าไปรับใช้ด้วย หากได้เป็น สจ.ในสมัยหน้านี้ก็จะลงพื้นที่ทำงานช่วยประชาชนทันที.

เชียงใหม่ ศรัทธาสาธุชนทั่วสารทิศร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี วัดพระธาตุดอยคำ

ศรัทธาสาธุชนทั่วสารทิศร่วมพิธีทอดกฐินสามัคคี วัดพระธาตุดอยคำ ได้ปัจจัยรวม 3,262,264 บาท 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563 ที่วัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ เดินทางมาร่วมงานทอดกฐินสามัคคีมหากุศล จนแน่นวัด นำโดยคุณพนิดา ปทุมรักษ์ ,พล.อ.ไชยเดช บุญรอด พร้อมคณะ คุณศิวณัฐ รัชตดำรงค์รัตน์ และคณะศรัทธาจากจังหวัดนครสวรรค์ สำหรับยอดเงินที่สาธุชนร่วมถวาย เป็นจำนวน 3,262,264 บาท ซึ่งคอหวยไม่พลาดนำไปเป็นเลขโชคลาภ

ท่านพระครูสุนทร เจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ เจริญพรว่า ศาสนสถาน ศาสนวัตถุต่างๆ ในวัดพระธาตุดอยคำก็ได้รับปัจจัยบริจาคมาจากญาติโยมทั้งหลายทั่วประเทศทำให้การก่อสร้างศาสนสถานต่างๆ สร้างสำเร็จลุล่วงไปหลายๆ สิ่ง ไว้เป็นเพื่อประกอบกิจกรรมทางศาสนาและให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้ปลื้มใจว่าปัจจัยที่ท่านบริจาคมาทางวัดได้นำมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาทั้งสร้างพระพุทธรูป สร้างศาสนสถาน ห้องน้ำ ลานจอดรถ และอื่นๆอีกมากมาย ขอผลบุญที่ท่านทำบุญให้พบความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัย นึกคิดปราถนาสิ่งใดขอให้สำเร็จสมหวังทุกประการ

เชียงใหม่ เทศบาลตำบลเชิงดอยพร้อมจัดงานเทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางผะตี้บ

เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดงาน “เทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางผะตี้บ” เชิญชวนประชาชนชาวดอยสะเก็ด และนักท่องเที่ยวร่วมงาน ซึ่งจัดยิ่งใหญ่เหมือนทุกปี จัดมาตรการตรวจเข้มป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19

นายชุติพนธ์ สารแปง หรือนายกฯเหลิม นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำหรับการจัดงานเทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางผะตี้บของเทศบาลตำบลเชิงดอย จัดจัดขึ่นในระหว่างวันที่ 30 ตค.- 1 พย. 63 บริเวณหนองบัวพระเจ้าหลวง ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลฯ ขณะนี้ดำเนิการจัดสถานที่จัดงานไปแล้วประมาณ 60 % อยู่ในช่วงติดตั้งโคมไฟตามจุดต่างๆ ทำความสะอาดพื้นที่ อุปกรณ์ทุกอย่างก็พร้อมที่จะติดตั้งถึงเวลาจัดงานก็คงจะสมบูรณ์แบบเหมือนปีที่แล้ว ซึ่งปีนี้ก็จัดไม่น้อยหน้ากว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้มีระยะเวลาเตรียมตัวน้อย โดยปีนี้อาจไม่มีการจัดงานเนื่องจากเติมในเรื่องสถานการณ์โควิด 19 แต่โชคดีที่โควิด 19 ไม่มีการระบาด แต่การจัดงานก็จะจัดงานแบบ new normal จะมีจุดเช็คอินท์ จุดตรวจ มีแอลกอฮอล์ มีเจลล้านมือ ให้กับผู้ที่มาร่วมงาน


ไฮไลน์ของงาน จะเปิดตั้งแต่เย็นวันที่ 30 ตค. ถือเป็นการลองไฟแต่ยังไม่ได้ปล่อยโคม มีการประกวดธิดาสาวประเภท 2 หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ธิดาดวงดี เทพีจับฉลาก” ส่วนวันที่ 31 ตค.คือไฮไลน์ เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป มีท่านนายอำเภอดอยสะเก็ด เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน มีการปล่อยโคมไฟขึ้นบนท้องฟ้า 2,000 ลูก มีการจุดประทีบ 5,000 ดวง มีการจุดพลุ 100 ลูก มีการแสดง แสง สี เสียง ต่างๆ ให้ได้รับชม ซึ่งทางเทศบาลฯ ก็ได้เตรียมความพร้อมหมดแล้ว มีดารแสดงของกลุ่มชาติพันธ์ การแสดงวงดนตรีของวงประเสริฐ คาร์เนชั่น


ในส่วนวันที่ 1 พย. เป็นวันลอยกระทงใหญ่ ก็จะมีการประกวดร้องเพลง พร้อมหางเครื่องของกลุ่มแม่บ้านต่างๆ ในเขตเทศบาลตำบลเชิงดอย แล้วการแสดงของ ณัฐ กิตติสาร และมีการปล่อยโคมพร้อมการแสดงแสง สี เสียง เหมือนวันที่ 31 ตค. เพราะพื้นที่ของเทศบาลเชิงดอยนั้น เป็นพื้นที่นอกเขตควบคุมการปล่อยโคม แล้วทางเทศบาลก็ได้ขออนุญาตทางอำเภอไว้เรียบร้อยแล้ว โดยได้ใช้โคมที่มีมาจรฐานและก็ได้เน้นกับเจ้าหน้าที่ว่า ในช่วงเช้าก็ให้เจ้าหน้าที่นำรถออกตระเวนเก็บโคม เพื่อเป็นการรักษาความสะอาด ไม่ให้รบกวนชาวบ้าน

นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชิงดอยเปิดเผยอีกว่า การจัดงานในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวงาน เทศกาลโคมล้านนาปู่จาผางผะตี้บ มากกว่าปีที่ผ่านมา เพราะว่าไม่มีที่ไหนจัดงาน ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ดก็จัดงานไม่กีที่ ในส่วนเทศบาลนครเชียงใหม่ก็จัดไม่ยิ่งใหญ่เหมือนทุกปี เพราะไม่มีขบวนกระทง จึงเชื่อว่าประชาชน นักท่องเที่ยวก็น่าจะมาเที่ยวที่หนองบัวพระเจ้าหลวงกันมากขึ้น และทางเทศบาลก็ได้จัดเตรียมที่จัดรถไว้ 4 แห่ง พร้อมมีรถรางรับส่งผู้โดยสารเข้ามาบริวณจัดงาน ซึ่งพื้นที่จอดรถก็ไม่ไกลจากพื้นที่จัดงาน หากต้องการเดินชมบรรยากาศก็สามารถเดินเท้าเข้ามาในงานได้ แต่ผู้เฒ่าผู้แก่ก็มีรถรางรับ-ส่งให้ จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ดและนักท่องเที่ยว มาเที่ยวงานดังกล่าวได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

DCIM/100MEDIA/DJI_0012.JPG