เชียงใหม่ ครูบาน้อย พระเกจิดังเมืองล้านนา เข้ารับการถวายวัคซีนโมเดอร์น่า เข็ม 2 ป้องกันโควิด-19

ครูบาน้อย พระเกจิดังเมืองล้านนา เข้ารับการถวายวัคซีนโมเดอร์น่า เข็ม 2 ป้องกันโควิด-19 ที่โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ พร้อมให้ธรรมโอวาท คนไทยใช้สติ ในการป้องกันโรค ห้ามลืม สติ สำคัญทุกเรื่อง

พยาบาลวิชาชีพ .จิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้า.แผนกสื่อสารการตลาด โรงพยาบาลลานนา จังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าวันนี้ โรงพยาบาลลานนา 3 คณะแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลลานนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย นพ.สรไน อ่อนหวาน แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป โรงพยาบาลลานนา เป็นตัวแทนผู้บริหาร เข้ากราบนมัสการ พระครูสิริศีลสังวร (ครูบาน้อย เตชปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เกจิดังเมืองล้านนา ที่เข้ารับการถวายวัคซีนโมเดอร์นา เป็นเข็มที่ 2 แล้ว ที่โรงพยาบาลลานนา 3

ซึ่งในการฉีดเข็มที่ 1 ที่ผ่านมาปกติดี ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และครั้งนี้ครูบาน้อย ได้กล่าวให้ธรรมโอวาทแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลานนา ถึงการป้องกันโรคโควิด-19 และข้อคิดกับประชาชน ว่าต้องมี “สติ” ไม่ประมาท .ไม่ว่าจะทำอะไร การออกนอกบ้าน หรือพบปะผู้คนต้องใส่หน้ากากอนามัยเสมอ ห้ามลืม ซึ่ง”สติ”นี้ เป็นสิ่งสำคัญในทุกๆเรื่อง

เชียงใหม่ ยกทะเลภาคใต้ สู่ล้านนาส่งเสริมอาหารชั้นยอด

ยกทะเลภาคใต้ สู่ล้านนาส่งเสริมอาหารชั้นยอด ในงานมหกรรมซีฟู้ดภาคใต้สู่ล้านนา 2021 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต

หลากหลายเมนูทั้งสด และ ของแห้ง เมื่อวันที่ 13 ม.ค.65 เวลา 16.00 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต ได้มีการเปิดงานมหกรรมซีฟู้ดภาคใต้สู่ล้านนา 2021 โดย นางขนิษฐา มุณีแนม พาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประธานเปิดงานพร้อมด้วยผู้แทนพาณิชย์จังหวัดพังงา , เชียงใหม่เข้าร่วม

การจัดงานครั้งนี้เพื่อส่งเสริม และ เผยแพร่ความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ มีความหลากหลายทางด้านอาหาร โดยภาคใต้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่ดี และ มีคุณภาพสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศอาชีพประมง จึงมีความสำคัญที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคใต้ได้เป็นอย่างดี จากความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดงานนี้ขึ้นมาโดยรวบรวมอาหารทั้งสด และ แห้งการแปรรูปตลอดจนสินค้าเด่นทั้ง 11 จังหวัดภาคใต้ มารวมไว้ในที่เดียวกันให้นักท่องเที่ยว และ พี่น้องทางภาคเหนือได้ลองมาชิมกันถึงที่ ในราคาประหยัดโดยงานมีขึ้นที่ชั้นจี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต

เชียงใหม่ ประธานชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่ 4×4 มอบน้ำดื่มให้ผู้ถูกกักตัว ที่บ้านห้วยส้มสุข อำเภอแม่ริม

ผู้ถูกกักตัว 31 ราย ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 อีก 4 ราย ที่บ้านห้วยส้มสุก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับมอบน้ำดื่มจาก ผญบ.บ้านหนองก๋าย ชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่ 4×4 เพื่อแบ่งเบาลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพในครัวเรือนของผู้ป่วยและผู้ถูกกักตัว

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน นางจงรัก วงค์ชมภู ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยส้มสุก หมู่ 7 ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้รับมอบน้ำดื่มจากนายบุญฤทธิ์ รังษี ประธานชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่ 4×4 พร้อมนายธงชัย เป็งมล ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองก๋าย ต.สันป่ายาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสมาชิกชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่4×4 อีกด้วยนั้น หลังจากที่ได้รับมอบน้ำดื่มจากภาคเอกชน จากนายสมเกียรติ ใจปา(อ้ายเดี่ยว) เจ้าของร้านฉันทนาการค้าจำหน่ายน้ำดื่ม เป็นผู้สนับสนุนน้ำดื่มเพื่อส่งมอบให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 31 ราย และผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 อีกจำนวน 4 ราย ในหมู่บ้านห้วยส้มสุก

นางจงรัก วงค์ชมภู ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านห้วยส้มสุก ได้ทำหนังสือขอบคุณชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่4×4 ร่วมกับภาคเอกชน?เจ้าของร้านฉันทนาการค้า ที่ได้ส่งมอบน้ำดื่มให้แก่ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดโควิด-19 ทั้งหมดถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ในหมู่บ้านห้วยส้มสุก เพื่อช่วยเหลือและลดภาระในการดำรงชีพแก่ผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว ทางคณะกรรมการหมู่บ้านห้วยส้มสุกได้รับน้ำดื่มดังกล่าวไว้แล้วเมื่อค่ำวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วจะนำไปจัดแจกให้ผู้ได้รับการกักตัวให้ครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ของทางผู้มอบน้ำดื่มให้กับผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 และผู้มีความเสี่ยงสูงในพื้นที่ต่อไป

เชียงใหม่ เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก อาจารย์ประกฤต คำดวงดาว ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ (ศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ได้ขึ้นป้ายเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ย อ.ดอยสะเก็ดแล้ว และในวันที่ 13 ม.ค.2565 เป็นต้นไป เริ่มขับเคลื่อนการทำงานโดยเริ่มจากให้สมาชิกศูนย์ไกล่เกลี่ย อ.ดอยสะเก็ดทุกคน ขอให้นำภาพถ่ายหน้าตรงครึ่งตัว ส่งมาที่ศูนย์ฯเพื่อนำรูปถ่ายสมาชิกติดบอร์ดที่ศูนย์ฯ

ศูนย์ไกล่เกลี่ย อ.ดอยสะเก็ด ตั้งอยู่เลขที่ 9 ถนนดอยสะเก็ด-เชียงใหม่ หมู่ที่ 3 ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ การเปิดศูนย์ไกล่เกลี่ย เพื่อบริการและอุทิศเวลาส่วนตัวเพื่อช่วยสังคม จะรับเรื่องพิจารณาให้คำปรึกษาในวันจันทร์ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ เพียง 3 วัน เริ่มตั้งแต่ เวลา 10.30 -15.00 น. อย่างไรก็ตามหากมีเรื่องที่จะขอรับการปรึกษาไกล่เกลี่ย ติดต่อได้ที่เบอร์ 089-9501212 เบอร์โทรของอาจารย์ประกฤต คำดวงดาว ประธานศูนย์ไกล่เกลี่ย กรมคุ้มครองสิทธิ อ.ดอยสะเก็ด ตามวันเวลาที่กำหนดให้บริการรับปรึกษาดังกล่าว

การจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชน ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้จัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นจุดเชื่อมให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวกรวดเร็ว เป็นธรรม เพื่อช่วยลดคดี ลดความขัดแย้ง ให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทมีผลบังคับตามกฎหมาย ประชาชนสามารถติดต่อใช้บริการได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน และสามารถยื่นคำร้องผ่านระบบ www.emediation.rlpd.go.th ได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ได้.

เชียงใหม่ ชมรมคน​รักษ์​ป่า​เชียงใหม่ มอบน้ำดื่มให้ผู้ใหญ่บ้าน ส่งต่อให้ชาวบ้านสู้โควิด-19 สู้ชีวิตยุคราคาสินค้าแพง

ชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่ มอบน้ำดื่มให้ผู้ใหญ่บ้าน ส่งต่อให้ชาวบ้านสู้โควิด-19 สู้ชีวิตยุคราคาสินค้าแพง

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบุญฤทธิ์ รังษี ประธานชมรมคนรักษ์ป่า จ.เชียงใหม่ ได้นำน้ำดื่มมอบให้ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองก๋าย ต.สันป่ายาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในช่วงที่สินค้าอาหารแพง เช่น เนื้อหมู และไข่ และราคาน้ำมันราคาแพงในยุคสมัยนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระให้ครอบครัวชาวบ้านได้มีน้ำดื่มกิน และเพื่อสู้โรคภัยร้ายจากโรคระบาด ไข้หวัดสายพันธุ์โควิด-19 และโรคโควิดทุกสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในขณะนี้

การมอบน้ำดื่มครั้งนี้ รวมจำนวน 100 แพ็ค ได้นำมาแจกชาวบ้านในพื้นที่บ้านสันป่าตึงก่อน เพราะชาวบ้านได้มารวมกันรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก อ้ายเดี่ยว ผจก.ร้าน ฉันทนาการค้า ที่ให้การอนุเคราะห์น้ำดื่มอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการส่งมอบน้ำดื่มครั้งนี้ ของชมรมคนรักษ์ป่า จ.เชียงใหม่ เป็นการทำบุญในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2565 และขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกคนรักษ์ป่าเชียงใหม่ทั้งสองที่ได้มาร่วมกิจกรรมและเป็นตัวแทนเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่ส่งมอบน้ำดื่ม และต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่บ้านใจดีปีใหม่นี้ได้ได้เลี้ยงลาบเมืองที่อร่อยๆกับสมาขิกชมรมคนรักษืป่า และได้ร่วมทำบุญด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ทางชมรมคนรักษ์ป่า จ.เชียงใหม่ ยังมีหมู่บ้านอื่นๆในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้แจ้งความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ น้ำดื่ม และอาหารแห้ง อาหารกระป๋อง และมาม่า ซึ่งกำลังมีการรวบรวมอยู่ ผู้สนใจมอบสิ่งของและจะร่วมเดินทางมอบ น้ำดื่ม อาหารแห้ง ติดต่อได้ที่เบอร์ 081-2873421 นายบุญฤทธิ์ รังษี ประธานชมรมคนรักษ์ป่า จ.เชียงใหม่ ได้ทุกวัน

เชียงใหม่ วัดสันมะเกี๋ยง ขอเชิญร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของล้านนา พิธีเทวาภิเษก “ท้าวรณกาจพนาสูรย์”

วัดสันมะเกี๋ยง ขอเชิญร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของล้านนา พิธีเทวาภิเษก “ท้าวรณกาจพนาสูรย์” ผู้พิทักษ์ปกป้องแว่นแคว้นแดนล้านนา มายาวนาน

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก วันสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฎร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ใน วันเสาร์ ที่ 15 มกราคม 2565 เวลา 13.00 น.โดยมีพระภาวนาจารย์ ร่วมอธิฐานจิต 1.พระครูบาดวงจันทร์ เขมรโต วัดมะกับตอง, 2.พระครูบาคำฝั้น อินฺทวณฺโณ วัดกอโชค, 3.พระครูบาประหยัด อคฺคเตโช วัดแม่พริกบน ลำปาง, 4.พระครูบาบุญต่อ อุปลวณฺโณ วัดศรีสว่าง, 5.พระครูบากฤษดา สุเมโธ วัดสันพระเจ้าแดง

ท่านใดสนใจบูชา รูปหล่อท้าวรณกาจพนาสูรย์ หรือ ร่วมบุญได้ที่ 092-9195597, 080-1301283 รายได้เพื่อสมทบทุนพัฒนาวัดจำปา (ร้าง) ในความดูแลของวัดสันมะเกี๋ยงต่อไป

พิษณุโลก แพทย์ทหารแนะนำ “6 ขั้นตอนการช่วยคนหมดสติให้ฟื้นคืนชีพ

แพทย์ทหารแนะนำ “6 ขั้นตอนการช่วยคนหมดสติให้ฟื้นคืนชีพ (CPR : Cardiopulmonary Resuscitation)”

จะทำอย่างไรเมื่อเจอคนหมดสติ จะโทรศัพท์เรียกเบอร์ไหนเพื่อขอความช่วยเหลือ? หากจำเป็นต้องช่วยทำ CPR จะทำได้ไหม? คำถามเหล่านี้คงผุดขึ้นมากมาย หากเจออุบัติเหตุหรือคนหมดสติอยู่ข้างหน้าคุณ จะดีกว่าไหมถ้าเรามีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง ถูกวิธี ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยรอดชีวิต ลดการบาดเจ็บได้ ดังนั้นตั้งสติให้พร้อมแล้วมาเรียนรู้วิธีช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ AED ไปพร้อมๆ กันได้เลย

1. ปลุก : เมื่อพบผู้ป่วยหมดสติ อย่าเพิ่งตกใจ ให้ประเมินความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุก่อนเป็นอันดับแรก โดยตรวจดูบริเวณรอบๆ ก่อนเข้าไปช่วยเหลือ เช่น สายไฟฟ้าที่ช็อตอยู่จุดใด บริเวณนั้นใกล้แหล่งน้ำหรือไม่ มีรถสัญจรหรือเปล่า จะได้ไม่เกิดอันตรายซ้ำ หลังจากนั้นให้ปลุกเรียกผู้ป่วยด้วยการตบไหล่ทั้งสองข้างและเรียกเสียงดังๆ ว่า “คุณค่ะๆ” หรือ “คุณครับๆ” หากไม่รู้สึกตัวและไม่หายใจ ให้รีบทำตามขั้นตอนต่อไปโดยทันที ส่วนกรณีที่ผู้ป่วยรู้สึกตัวและหายใจเองได้ ให้จับตัวผู้ป่วยให้อยู่ในท่านอนตะแคง และทำการปฐมพยาบาลตามอาการที่เจอซึ่งจะกล่าวในภายหลัง
2. โทร : รีบโทรขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 โดยแจ้งอาการผู้ป่วย สถานที่เกิดเหตุ ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้แจ้ง เพื่อให้เจ้าเหน้าที่ติดต่อกลับหากที่หาที่เกิดเหตุไม่เจอ รวมถึงแจ้งรายละเอียดของผู้ป่วย เช่น อาการ สถานที่ที่พบ เส้นทางที่เดินทางมาได้สะดวก หากอยู่เพียงลำพัง อย่าทิ้งผู้ป่วยไปไหน ให้เปิดลำโพงโทรศัพท์ เพื่อสื่อสารและรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพ หากอยู่หลายคนให้ผู้อื่นเป็นคนโทร.แจ้ง หากแถวนั้นไม่มีเครื่อง AED ให้แจ้งเจ้าหน้าที่นำเครื่อง AED มาด้วย
ตัวอย่างการแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ : พบผู้ป่วยหมดสติไม่หายใจ เป็นผู้ชายอายุประมาณ 50 ปี ที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียนเอบีซี ผมผู้พบเหตุ ชื่อนายสมชาย เบอร์ติดต่อ 081-XXX-XXXX และให้ นำเครื่อง AED มาด้วย

3. ปั๊ม : การกดหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น ขณะที่รอหน่วยปฏิบัติการกู้ชีพ โดยให้คุกเข่าบริเวณข้างลำตัวผู้ป่วยในระดับไหล่ จัดท่าผู้ป่วยนอนหงาย เพื่อเปิดทางเดินหายใจโดยการ ดันหน้าผาก – ดึงคางขึ้น และตรวจสอบการหายใจโดยการเอียงหูฟังแนบที่จมูกผู้ป่วย จากนั้นให้เริ่มช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ด้วยการกดหน้าอก โดยวางสันมือข้างที่ถนัดตรงครึ่งล่างกระดูกหน้าอก และวางมืออีกข้างทับประสานกันไว้ เริ่มการกดหน้าอกด้วยความลึกอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ในอัตราเร็ว 100 – 120 ครั้งต่อนาที ข้อแนะนำ : หากมีโอกาสได้เรียนให้พยายามซ้อมทำบ่อยๆ เวลาทำจริงเราจะทำได้ด้วยความแรงและน้ำหนักที่ถูกต้อง
4. แปะ : ขณะที่ทำ CPR (กดหน้าอก) เมื่อเครื่อง AED มาถึง ให้ผู้ช่วยเหลืออีกคนหนึ่งเตรียมเครื่อง AED โดยการถอดเสื้อผู้ป่วยออก และติดแผ่นนำไฟฟ้าทั้ง 2 แผ่นบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวาและชายโครงด้านซ้าย โดยให้ทำความสะอาดจุดที่แปะแผ่น เช่น หากผู้ป่วยตัวเปียกจะต้องเช็ดให้แห้งก่อนหรือหากมีขนเยอะก็ให้โกนขนออกก่อน

5. ช็อก : เปิดเครื่อง AED และปฏิบัติตามคำแนะนำจากเครื่อง จนเมื่อเครื่องสั่งให้ทำการช็อก ให้พูดเสียงดังๆ ว่า “ฉันถอย คุณถอย ทุกคนถอย” เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนกดปุ่มช็อกไฟฟ้า แต่หากเครื่องไม่สั่งช็อก ให้ทำการกดหน้าอกต่อไปจนกว่าทีมกู้ชีพจะมาถึง คำเตือน : ก่อนกดปุ่มช็อกต้องมั่นใจว่าไม่มีใครสัมผัสตัวผู้ป่วยรวมถึงมีสื่อไฟฟ้าต่างๆ
6. ส่ง : ระหว่างที่รอรถพยาบาลมารับ หากผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัวให้ทำการปั๊มหัวใจและปฏิบัติตามคำแนะนำของเครื่อง AED ไปจนกว่าผู้ป่วยจะหายใจหรือรถพยาบาลจะมา หลังจากรถพยาบาลมาก็ส่งต่อผู้ป่วยให้กับทีมกู้ชีพเพื่อนำส่งโรงพยาบาล เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอดและปลอดภัย

ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 และแพทย์ทหาร จึงมีความห่วงใยต่อข้าราชการทหาร ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 และพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ต่อภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงมีข้อแนะนำดังกล่าว ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินแล้วทำได้ตามขั้นตอนทั้ง 6 ข้อนี้ โดยไม่ตื่นเต้นตกใจ เพื่อที่จะสามารถช่วยผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น

พิษณุโลก กองทัพบกปรับปรุงและดัดแปลงเฮลิคอปเตอร์ สำหรับภารกิจทางการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อประชาชน

กองทัพบกการปรับปรุงและดัดแปลงเฮลิคอปเตอร์ สำหรับภารกิจทางการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อประชาชน

ตามที่ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มีนโยบายในการใช้อากาศยานของกองทัพบกในการสนับสนุนภารกิจส่งกลับสายแพทย์ทางอากาศ ทั้งในยามปกติและในสนาม โดยมุ่งหมายให้สามารถเคลื่อนย้ายและลำเลียงผู้ป่วยเจ็บให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว ลดอัตราการเสียชีวิต รวมทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถด้านบริการทางการแพทย์ของกองทัพบกในการช่วยชีวิตได้มากขึ้น นั้น

กองทัพบก ได้ดำเนินการปรับปรุงและดัดแปลง อากาศยานเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปขนาดเบา H145 หรือ ฮ.ท.145 จำนวน 4 เครื่อง ที่เดิมใช้สำหรับการปฏิบัติทางธุรการทั่วไป สำหรับ ฮ.ท.145 เป็นอากาศยานมาตรฐานที่มีความเหมาะสมในการนำมาดัดแปลงเป็น เฮลิคอปเตอร์สำหรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน การค้นหาและกู้ภัย เนื่องจากมีขนาดเล็ก คล่องตัว และสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมทางการแพทย์ เช่น เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า, เครื่องช่วยหายใจ, กระเป๋าพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตฉุกเฉิน, เครื่องควบคุมการให้ยา และสารละลายทางหลอดเลือดดำ และเปลสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 – 24 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา กรมแพทย์ทหารบก จัดฝึกอบรม “การลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศยาน” โดยมีโรงพยาบาลกองทัพบก จำนวน 13 แห่ง จาก 4 กองทัพภาค ส่งทีมปฏิบัติการ 18 ทีม ซึ่งประกอบไปด้วย นายแพทย์ พยาบาล และนายสิบพยาบาลเข้าอบรม โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ความรู้เรื่องพื้นฐานสรีรวิทยาการบิน พื้นฐานการลำเลียงทางอากาศการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ในอากาศยาน การลำเลียงผู้ป่วย การวางแผนการส่งกลับ และการประสานงาน ซึ่งทีมปฏิบัติการที่เข้าร่วมอบรมจะได้รับทราบแนวทางการปฏิบัติการลำเลียงผู้ป่วยเจ็บส่งกลับทางอากาศทั้งก่อน-ระหว่าง-หลัง-กรณีเหตุฉุกเฉิน รวมถึงสามารถดำเนินการส่งกลับและประสานหน่วยเกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนการลำเลียงทางอากาศได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อกำลังพล การนำยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกมาพัฒนา เพื่อไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการช่วยเหลือประชาชน ให้เข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างรวดเร็ว สำหรับ ฮ.ท.145 ทั้ง 4 ลำ ได้เตรียมบรรจุเข้าประจำการพร้อมรับภารกิจในพื้นที่ต่างๆ แล้ว ดังนี้

1. ฮ.ท.145/128 ประจำการ ณ หน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 1 จังหวัดลพบุรี
2. ฮ.ท.145/129 ประจำการ ณ หน่วยบินทหารบกยุทธวิธีที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา
3. ฮ.ท.145/069 ประจำการ ณ กองกำลังผาเมือง จังหวัดเชียงใหม่
4. ฮ.ท.145/080 ประจำการ ณ หน่วยบินทหารบกอโณทัย จังหวัดปัตตานี


ทั้งนี้ จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 3 มีความพร้อมที่จะสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ทางทหารในการช่วยเหลือประชาชนยามวิกฤตทุกโอกาส

 

พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 สกั้ดการปราบปรามการลักลอบปลูกฝิ่น

กองทัพภาคที่ 3 สกั้ดการปราบปรามการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ

ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการงานด้านการข่าวเพื่อความมั่นคงของพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดน จนถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ นั้น มีการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญ ดังนี้


เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารราบที่ 723 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังลาดตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายอยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลโป่งสา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พบการลักลอบปลูกต้นฝิ่นปะปนอยู่ในแปลงผักกาด จำนวน 1 แปลง มีพื้นที่ประมาณ 25 ตารางเมตร ต้นฝิ่นมีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่จึงตัดและทำลายต้นฝิ่นดังกล่าวทั้งหมด

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารราบที่ 723 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังลาดตระเวนตรวจพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายอยู่ในเขตพื้นที่ ตำบลโป่งสา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้พบการลักลอบปลูกต้นฝิ่นปะปนอยู่ในแปลงผักกาด จำนวน 1 แปลง มีพื้นที่ความกว้าง 30 เมตร และความยาว 50 เมตร ต้นฝิ่นมีความสูงประมาณ 55 – 70 เซนติเมตร ความหนาแน่นร้อยละ 80 เจ้าหน้าที่จึงตัดและทำลายต้นฝิ่นดังกล่าวทั้งหมด

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป

พิษณุโลก แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการปราบปรามการนำเข้าเมล็ดข้าวโพดผิดกฎหมาย ในพื้นที่กองกำลังนเรศวร จังหวัดตาก

แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการปราบปรามการนำเข้าเมล็ดข้าวโพดผิดกฎหมาย ในพื้นที่กองกำลังนเรศวร จังหวัดตาก

ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการการลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตรผิดกฎหมายอย่างจริงจัง นั้น มีผลสรุปการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตรผิดกฎหมาย เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ ในพื้นที่กองกำลังนเรศวร จังหวัดตาก โดยมีเหตุการณ์การจับกุมและปราบปรามที่สำคัญในห้วงที่ผ่านมา ดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 06.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารราบที่ 1431 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังลาดตระเวนตรวจ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะมาตามถนนใกล้ถึงช่องทางธรรมชาติ/ท่าข้ามแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านยะพอ ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก นั้น ได้พบรถใช้งานทางเกษตรกรรม จำนวน 5 คัน ขับตามกันมาจากทางท่าข้าม ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดรถและทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่า รถทั้ง 5 คัน บรรทุกเมล็ดข้าวโพดมาเต็มคัน มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 40 ตัน โดยผู้ขับรถทุกคันไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงแหล่งที่มาของสินค้าที่บรรทุกมา เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เมล็ดข้าวโพดดังกล่าวถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่ผ่านขั้นตอนทางศุลกากร จึงทำการตรวจยึดเมล็ดข้าวโพด พร้อมนำตัวคนขับรถส่งด่านศุลกากรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารราบที่ 1431 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังลาดตระเวนตรวจ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะมาตามถนนใกล้ถึงช่องทางธรรมชาติ/ท่าข้ามแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านทหารผ่านศึก ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก นั้น ได้พบรถยนต์บรรทุก จำนวน 2 คัน ขับตามกันมาจากทางท่าข้าม ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดรถและทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบว่า รถทั้ง 2 คัน บรรทุกเมล็ดข้าวโพดมาเต็มคัน มีน้ำหนักรวมกันประมาณ 31 ตัน โดยผู้ขับรถทั้งสองคันไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงแหล่งที่มาของสินค้าที่บรรทุกมา เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เมล็ดข้าวโพดดังกล่าวถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ผ่านขั้นตอนทางศุลกากร จึงทำการตรวจยึดเมล็ดข้าวโพด พร้อมนำตัวคนขับรถยนต์บรรทุกส่งด่านศุลกากรดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ในการสกัดกั้นและปราบปราม การลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตรผิดกฎหมายไม่ผ่านการเสียภาษี ทำให้ประเทศชาติเสียผลประโยชน์ ไม่มีการตรวจสอบและกักกันโรค รวมทั้งไม่มีการรับรองคุณภาพตามมาตรฐานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชนผู้บริโภคได้ อีกทั้ง หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตรผิดกฎหมาย ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย และหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป