เชียงใหม่ ทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง ลาดตระเวนพบชาย 2 คน ลักลอบค้าฝิ่น กว่า 10 กิโล

ทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 กองกำลังผาเมือง ลาดตระเวนพบชาย 2 คน ลักลอบค้าฝิ่น กว่า 10 กิโล ในพื้นที่ อ.แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ 16 ต.ค.64 พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ กองบังคับการควบคุมทหารพรานศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงจัดกำลังพล 2 ชุดปฏิบัติการ จากกองร้อยทหารพรานที่ 3201 นำโดย ร.ท. เทพฤทธิ์ สมัครเขตวิทย์ และกองร้อยทหารพรานที่ 3206 นำโดย ร.ท. ชาญชัย สีหะวงศ์ ออกลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บริเวณช่องทางปะสี ( บ่อขยะ) บ.ปะสี หมู่ 1 ต.มะลิกา อ.แม่อาย จว.ช.ม.

เมื่อเวลา 14.00 ของวันนี้(16 ตค.) ได้ตรวจพบชายต้องสงสัย 2 คน แต่งกายคล้ายชาวบ้าน แบกเป้ดัดแปลงแบบสะพายหลัง เดินเท้าเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติ บริเวณช่องทางปะสี เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่แจ้งเตือน จึงได้ทิ้งเป้และอาศัยความชำนาญในภูมิประเทศวิ่งหลบหนีไปยังฝั่งประเทศเมียนมา และหน่วยไม่สามารถติดตามตัวได้

จากนั้นกำลังจากกองร้อยทหารพรานที่ 3201 และกองร้อยทหารพรานที่ 3206 ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่พบเป้ดัดแปลง 1 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่น) จำนวน 6 ก้อน น้ำหนัก 9.6 กิโลกรัม หน่วยจึงนำของกลาง ส่ง พงส.สภ.แม่อาย เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เชียงใหม่ เทศบาลตำบลเชิงดอย สั่งยุติดการขุดดินหลังทำผู้ประกอบการทำผิดสัญญา

เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการบ่อดินในพื้นที่บ้านโพธิ์ทองเจริญ ยุติการดำเนินขุดหรือถมดินหลังพบว่า เข้ามาทำการขุดดินหรือถมดินเกินกว่าระยะเวลาที่ได้เทศบาลรับอนุญาตตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการต่อสัญญา


โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งให้หยุดการขุดดินหรือถมดิน หรือจัดการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หรือจัดการแก้ไขการขุดดินหรือถมดิน ตามมาตรการ 29 วรรคหนึ่ง (กรณีที่มีผู้ร้องขอต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น)

จากเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลเชิงดอย ได้แจ้งมายังผู้ขุดดินด้วยปรากฏว่า มีการกระทำขุดดินหรือถมดินโดยระยะเวลาเกินกำหนดจากที่ได้รับการอนุญาตแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 มีนาคม 2564 และขุดดินหรือถมดินผิดแบบแปลนตามในอนุญาตเลขที่ 11/2563 ออกให้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563บ้านโพธิ์ทองเจริญ หมู่ 2 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และได้มีผู้ได้รับความเสียหาย หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า อาจได้รับความเสียหายจากการขุดดิน-ถมดิน อันไม่ปฏิบัติตามมาตรา 20 มาตรา 24 หรือ มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ร้องขอให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้หยุดการขุดดิน-ถมดินนั้น และเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้สั่งพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่ขุดดิน/ถมดินดังกล่าว และรายงานต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นแล้ว เห็นว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นจากการขุดดินนั้น

อาศัยอำนาจตามมาตราในมาตรา 29 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พศ.2543 ให้ท่านดำเนินการต่อไปนี้
(ก) หยุดการขุดดิน/ถมดิน ตั้งแต่งบัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะได้ปฏิบัติตามมาตรา 20 มาตรา 24 หรือมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติการจุดดินและถมดืน พ.ศ.25432
(ข) จัดการป้องกันความเสียหายอันเกิดที่อาจเกิดขึ้น/จัดแก้ไขการขุดดิน/ถมดิน ให้เสร็จภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการตาม(ก) หรือพ้นกำหนดตาม(ข) แล้วจะดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ลงชื่อว่าที่ร้อยตรีอภิพงศ์ คงสัมพันธ์ รองรายกเทศบาล ปฏิบัติราชการแทน นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย


ประกาศคำสั่งไว้ในที่เปิดเผยและได้เห็นได้ง่าย ณ บริเวณที่มีการขุดดิน/ถมดิน เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564

เชียงใหม่ หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ลงเอ็มโอยูกับคณบดีวิทยาลัยศิลปะสื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ลงเอ็มโอยูกับคณบดีวิทยาลัยศิลปะสื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดหลักสูตรอุตสาหกรรมดิจิทัลพลัส เพื่อตอบโจทย์การศึกษา ในรูปแบบ Education Sandbox ต้นแบบของประเทศ

นาย จุลนิตย์ วังวิวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมลงนามเอ็มโอยู กับผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.วรวิชย์ จันทร์ฉาย คณบดีวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สร้างหลักสูตร บูรณาการอุตสาหกรรมดิจิทัล พลัส เพื่อ สร้างกำลังคน ดิจิทัลป้อนผู้ประกอบการ SME เชียงใหม่ ตามความต้องการของตลาด เพื่อรับนักศึกษาเข้าปฎิบัติงาน ร่วมกับผู้ประกอบการ จำนวน 22 เดือน เพื่อตอบโจทย์การศึกษาในรูปแบบ Education Sandbox ต้นแบบของประเทศ โดยชูจุดเด่น หลักสูตรผู้ประกอบการ ร่วมโครงการจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี 250 เปอร์เซ็นต์ และพัฒนาบุคลากร ของบริษัทเป็นเวลา 3 ปี นักศึกษาจะได้รับค่าตอบแทน 7 หมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ศึกษา รับนักเรียนที่จบมัธยมปลาย

นาย จุลนิตย์ บอกว่า ที่ออกแบบหลักสูตรการเรียนรู้พร้อมกับการทำงาน ให้กับบริษัทเพื่อให้สถานประกอบการได้บุคลากรที่ตรงกับความต้องการของบริษัทเป็นหลักสูตรที่สามารถปรับปรุงแบบฉับไวตามความต้องการของผู้ประกอบการ เพื่อช่วย SME เชียงใหม่ ด้าน E-Commerce Trader และ Digital Business and Marketing ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเปิดรับนักศึกษาผ่านช่องทาง TCAS รอบ 1 จำนวน 60 คน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภราดร สุรีพงษ์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์ปฎิรูปดิจิทัลวิทยาลัยศิลปะสื่อและเทคโนโลยีฯ กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปัจจุบัน ประกอบด้วย 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการระบาดใหญ่ ทำให้เกิดทั้งวิกฤติและโอกาสสำหรับประเทศไทย จำเป็นที่จะต้องเร่งสร้างเครื่องมือใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบเฉพาะทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปฏิรูปธุรกิจ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้ในปัจจุบัน ซึ่งทางวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี และหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่า การปรับตัวทั้งแรงงานและธุรกิจโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ จะสอนให้ผู้เรียนและธุรกิจ “อยู่ให้รอด” ในสถานณการณ์เช่นนี้ “อยู่ให้เป็น” ในสถานการณ์ Post-COVID และ “อยู่ให้ได้” ในเศรษฐกิจแห่งอนาคต

เชียงใหม่ ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองสกัดแรงงานผิดกฎหมาย 25 คนในพื้นที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองสกัดแรงงานผิดกฎหมาย 25 คนในพื้นที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ผู้บัญชาการกองกำลังฯ เข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อวางมาตรการสกัดแรงงานผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน


วันที่ 14 ต.ค.64 เวลา 08.00 น. พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พ.อ.วีระชัย ผองแก้ว ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 ว่า จากการปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ ของกองร้อยทหารม้าที่ 3 กองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ( ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.4 ) เมื่อ 14 ต.ค.64 เวลา 2130 ขณะที่ออกลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บริเวณ บ.หลวง ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ตรวจพบกลุ่มคนเดินลัดเลาะตามป่า เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สัญชาติเมียนมา จำนวน 25 คน เป็นชาย 18 คน และหญิง 7 คน

จากการสอบถามกลุ่มบุคคลดังกล่าว ทราบว่าทั้งหมดได้เดินทางมาจาก ม.กึ๋ง และ บ.ราชิว สมม. โดยจะลักลอบเข้าประเทศไทยเพื่อเดินทางไปหางานทำในพื้นที่ กทม. หน่วยจึงได้ทำการควบคุมตัว พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก รพ.สต.อ่างขาง เพื่อทำการคัดกรอง ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด – 19 บริเวณ หน้าฐานปฏิบัติการบ้านหลวง ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่. เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า ได้นำคณะเสนาธิการของกองกำลังผาเมือง เข้าพบนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหารือการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังผาเมือง และปัจจุบันได้นำกำลังจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 เข้าปฏิบัติงานในการป้องกันประเทศ เพื่อทำหน้าที่ในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ,การสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนงานรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยเฉพาะการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ซึ่งปัจจุบันกองกำลังผาเมืองได้จัด ชุดปฏิบัติการดับไฟป่า จำนวน 57 ชุดปฏิบัติการ เพื่อเตรียมความพร้อมในพื้นที่ ก่อนเปิดการท่องเที่ยววันที่ 1 พ.ย.64

ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้มอบให้กองกำลังผาเมืองบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ชายแดน เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

เชียงใหม่ ร่วมเป็นเจ้าภาพเพื่อระดมทุนทรัพย์สร้าง พระมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราช ทอดถวาย ณ ธรรมสถานม่อนพญานาคราช

ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายนาคบารมีมหากฐินทานสามัคคีล้านกองบุญ กองละ 99 บาท เพื่อระดมทุนทรัพย์สร้าง พระมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราช ทุติยบุญปีที่ 2 ทอดถวาย ณ ธรรมสถานม่อนพญานาคราช บ้านแม่เลน ตำบลออนกลาง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564


ด้วยธรรมสถานม่อนพญานาคราช มีโครงการสร้างมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราช มีความกว้าง 40 เมตร ยาว 60 เมตร สูง 59 เมตร ชั้นล่างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สามารถบรรจุคนได้ประมาณ 1,000 คน ,ชั้น2 เป็นภูเขาสิเนรุ ภายในภูเขาสิเนรุ จะประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธกาญจนวิสิษฐผล (หลวงพ่อทองคำ) และพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ด้านนอกจะเป็นศาลาบาตรซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์พระอรหันตธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของม่อนพญานาคราช ,ชั้นที่ 3-4 เป็นพระมหาเจดีย์ด้านในองค์พระมหาเจดีย์จะบรรจุสมบัติพระศาสนา

ในการทำบุญทั้งนี้ท่านในเป็นเจ้าภาพองค์กฐินตั้งแต่ 160 กองบุญขึ้นไป พระอาจารย์จะจารึกชื่อของท่านเจ้าภาพกฐินลงบนในแผ่นเงินม้วนเป็นตะกรุดและจะนำไปบรรจุในหัวใจพระมหาเจดีย์และเก็บรักษาไว้ภายในบุษบกบนชั้นที่ 7 ของพระมหาเจดีย์ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการบรรจุซื่อท่านเจ้าภ่พในหัวใจพระเจดีย์ ทางล้านนาเรียกว่า “ใจธาตุ” ผู้ใดมีชื่อบรรจุในใจธาตุ(หัวใจพระเจดีย์) เท่ากับอยู่ในหัวใจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สุด

ด้วยอานิสงฆ์นี้ ก็จะทำให้ท่านเจ้าภาพพลิกซะตา พลิกฟ้า พลิกดิน พลิกโชค พลิกลาภ จากร้ายกลายเป็นดี จะไม่ตก ไม่ต่ำ จะมีบุญบารมี อำนาจวาสนาสูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป ทุกวิวาราตรี ร่ำรวยไม่มีวันจบวันสิ้น ธุรกิจงานรุ่งเรือง ไม่มีปัญหา สุขภพสมบูรณ์แข็งแรง อายุมั่นขวัญยืนตลอดไป ทุกภพ ทุกชาติ คราบจนถึงฝั่งพระนิพพาน

กำหนดการวันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เริ่มเวลา 18.00 น.
-พิธีอบรมสมโภชกฐิน
-สวดมนต์ทำวัตรเย็น
-พิธีสะเดาะเคราะห์นพเคราะห์แบบล้านนา
-พิธีสวดมนต์สมโภชองค์กฐินตลอดทั้งคืน

วันอาทิตย์ 7 พฤศจิกายน 2564 เรื่อม 08.39 น.
-พิธีบวงสรวงทวยเทพเทวดา
-พิธีหล่อพระทีปังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า
-พิธีทอดกฐินสามัคคี
-ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
-มัคนายกนำไหว้พระ สมาทานเบญจศิล
-ประธานสงฆ์ให้ศีล
-ประธานในพิธีนำกล่าวคำถวายกฐิน
-พระสงฆ์กรานกฐินให้พรเป็นเสร็จพิธี
-ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์สามเณร และร่วมรับประทานอาหารแบบตลาดบุญ

ร่วมทำบุญผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาบ่อสร้าง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 540-0-33338-9 ชื่อบัญชี กองบุญสร้างมหาเจดีย์ภูริทัตตนาคราช ติดต่อสอบถามและรับเป็นเจ้าภาพได้ที่ สำนักงานม่อนพญานาคราชหมายเลข 064-468-3978 คุณโจ โทร 062-2628261 และคุณแด็ด โทร 061-798-2626

เชียงใหม่ ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองจับกุมแรงงานผิดกฎหมาย 48 คนในพื้นที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่

ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองจับกุมแรงงานผิดกฎหมาย 48 คนในพื้นที่ ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเข้ามาทำงานรับจ้างในพื้นที่

วันที่ 13 ต.ค.64 เวลา 08.00 น. พ.อ.วีระชัย ผองแก้ว ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ ของกองร้อยทหารม้าที่ 3 กองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ( ร้อย.ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 ฉก.ม.4 ) โดยมี ร.อ.ปัญจรงค์ เอมอมร ผู้บังคับกองร้อยทหารม้าที่ 3 เป็น หัวหน้าชุดได้นำกำลัง 6 นาย ออกลาดตระเวน เฝ้าตรวจ บริเวณท้ายหมู่บ้านของบ้านหลวง ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเพื่อสกัดกั้นการกระทำความผิดกฎหมายในพื้นที่ จนกระทั่งเมื่อเวลา 00.30 ของวันนี้ ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเดินมาจากแนวชายแดน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเพื่อขอตรวจค้น พบกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 48 คน เป็นชาย 16 คนและหญิง 20 คน อายุระหว่าง 15 – 79 ปี ซึ่งเป็นวัยทำงาน พร้อมเด็ก 12 คน อายุระหว่าง 1-5 ปี


ร.อ.ปัญจรงค์ เอมอมร ผู้บังคับกองร้อยทหารม้าที่ 3 กล่าวว่า จากการสอบถามเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายทั้งหมดพบว่า กลุ่มแรงงานดังกล่าวเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติมาจาก เมืองกึ่ง และเมืองตองจี ประเทศเมียนมา เพื่อมาหางานทำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หน่วยจึงได้ทำการควบคุมตัว และประสาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก รพ.สต.อ่างขาง เข้าตรวจคัดกรอง ตามมาตรการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่บริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการบ้านหลวง ต.แม่งอน อ.ฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการของกฎหมาย

ทั้งนี้ที่ผ่านมา กองกำลังผาเมืองได้มีมาตรการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย รวมไปถึงการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันจัดชุดปฏิบัติการสกัดกั้น 10 ชุดปฏิบัติการ ในพื้นที่เพิ่งเล็ง 5 อำเภอชายแดนของจังหวัดเชียงใหม่ รวมไปถึงการตั้งจุดตรวจจุดสกัดกับร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ เพื่อให้การสกัดกั้นในพื้นที่เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

เชียงใหม่ กองกำลังผาเมืองตั้งจุดตรวจสกัดยาเสพติด พบนักค้าใช้จักรยานยนต์ลักลอบนำเข้ายาผ่านชายแดน ที่ อ.เวียงแหง

ฉก.ม.4 กองกำลังผาเมืองตั้งจุดตรวจสกัดยาเสพติด พบนักค้าใช้จักรยานยนต์ลักลอบนำเข้ายาผ่านชายแดน ที่ อ.เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ยึดยาบ้า 90,000 เม็ด เตรียมปรับรูปแบบการสกัดให้สอดคล้องสถานการณ์

วันที่ 10 ต.ค.64 เวลา 08.00 น. พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากกองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ภายหลังนำกำลัง 1 ชุดปฏิบัติการออกลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดเพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ ตามนโยบายของกองกำลังป้องกันชายแดนด้านจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณจุดตรวจบ้านหัวปาย ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังตั้งจุดตรวจตลอด 24 ชั่วโมง ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยขับขี่จักรยานยนต์สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้น แต่บุคคลดังกล่าวอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่จากกองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ได้ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบเป้สะพายหลังสีเทา ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 90,000 เม็ด จึงได้นำของกลางส่ง สภ.เวียงแหง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า จากการข่าวในพื้นที่ชายแดนพบว่า กลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่เริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้าพื้นที่ตอนใน โดยใช้จักรยานยนต์ในการขนส่งและการขนส่งยาเสพติดในแต่ละครั้งปริมาณไม่เกินครั้งละ 100,000 เม็ด เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ดั้งนั้นได้แจ้งเตือนหน่วยในพื้นที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายและป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้การสกัดกั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เชียงใหม่ สส.เชียงใหม่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ห่วงใยประชาชนชาวเชียงใหม่ กับสถานการณ์โควิด-19

ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ สส.เชียงใหม่เขต 1 พรรคเพื่อไทย ห่วงใยประชาชนชาวเชียงใหม่ กับสถานการณ์ โควิด- 19

ที่ห้องประชุมโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ สส เชียงใหม่เขต 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมนายธวัชชัย กูลนรา (ผู้ช่วย สส.ทัศนีย์) และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ การกระจายอำนาจ การปกครอง ส่วนท้องถิ่นฯ จัดอบรมสัมมนา ร่วมกับ คณะกรรมาธิการ การกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่น และ การบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร จัดอบรมและอภิปราย เรื่อง การกระจายอำนาจในปัจจุบัน และอนาคต และความคาดหวัง และการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19


นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ สส.เชียงใหม่เขต 1 กล่าวเป็นห่วงสถานการณ์ โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นห่วงเรื่องวัคซีนเข็มแรก ซึ่งมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก ซึ่งรัฐบาลไปโฟกัสที่วัคซีนเข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 แล้ว ซึ่งไปโฟกัสอยู่กับกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคและผู้สูงอายุ ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 59 ปี ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเลย ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด 19 เพราะเป็นกลุ่มที่ออกไปทำงานนอกบ้าน และอาจนำเชื้อ โควิด-19 เข้าสู่คนในบ้าน จึงมีความเป็นห่วง คนกลุ่มนี้ ซึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ของเรา พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตอนนี้จังหวัดเชียงใหม่ – การท่องเที่ยวซบเซา เป็นอย่างมาก เศรษฐกิจเสียหายมากกว่า 90% เงียบสงัด โรงแรมต้องปิดตัวชั่วคราวจำนวนมาก จึงอยากให้รัฐบาล เร่งเปิดประเทศโดยเร็ว แต่เราจะเปิดประเทศไม่ได้ ถ้าประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้รับวัคซีน อย่างทั่วถึง และเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป

นางสาวทัศนีย์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เห็นว่า วัคซีน โควิด-19 ก็ยังขาดแคลนอยู่ คือตอนนี้ วัคซีนต่างประเทศ เขามีการพัฒนา ในระยะที่ 2 แล้ว แต่เรายังอยู่ กับวัคซีนแรกๆอยู่เลย ซึ่งอยากให้รัฐบาลเร่งที่จะประสาน หาวัคซีนที่มีคุณภาพให้กับประชาชน และที่สำคัญที่สุดคือ เปิดโอกาสให้มีวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน ให้เร็วที่สุด เพราะมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่เขา ช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้ารัฐบาล เปิดเสรีให้กับเอกชน นำเข้าวัคซีน โควิด-19 จะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับภาครัฐ และยังช่วยให้ เปิดประเทศได้เร็วอีกด้วย

ฝากถึง กระทรวงสาธารณสุข ช่วยเหลือกำลังหลักในการ ลดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 คือ ประชาชนจริงๆ คือพี่น้อง.อสม. ซึ่งพี่น้อง อสม. จะรู้พื้นที่ของตัวเองใครเข้ามาในหมู่บ้านเขาจะรู้หมด และ เข้าไปแนะนำ การกักตัว และการวัดไข้ต่างๆซึ่งเป็นการที่ทำงานหนักมาก จึงฝากถึงกระทรวงสาธารณสุข ว่า เงินเพิ่มเติม ที่ให้ กับพี่น้อง อสม.ที่ได้รับ ขอให้เพิ่มไปอีกเป็น 1 ปี เพราะโรคโควิด 19 อาจจะอยู่กับเราไปอีก 1 ปี ซึ่ง พี่น้องอสม ต้องทำงานหนัก ช่วยลดการระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในชุมชนของตนเอง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข ช่วยเหลือเงิน เพิ่มเติมให้กับพี่น้อง อสม.ขยายเวลาไปอีก 1 ปี

 

 

เชียงใหม่ วัดสันมะเกี๋ยง แจกต้นกล้าพืชผักสวนครัวฟรี ตามโครงการ โคกหนองนาแห่งศรัทธา

วัดสันมะเกี๋ยง แจกต้นกล้าพืชผักสวนครัวฟรี ตามโครงการ “โคกหนองนาแห่งศรัทธา” ทอดผ้าป่าต้นกล้าพืชผักสวนครัวต้านภัยโควิด-19 ส่องเลขเด็ดไอ้ไข่

ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฎร อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เปิดโครงการ “โคกหนองนาแห่งศรัทธา” ทอดผ้าป่าต้นกล้าพืชผักสวนครัวต้านภัยโควิด-19 ปัจจัยรายได้ทั้งหมดนำมาจัดซื้อต้นกล้าและพืชผักสวนครัวแจกฟรีให้ประชาชนที่มีรายได้น้อย และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ขาดอาหารจะได้นำเมล็ดพันธุ์พืชไปปลูกกินที่บ้านตัวเอง โดยพระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดอยสะเก็ด พระอารามหลวง พระครูปลัดสุรเชษฐ์ เตชรํสี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง ผู้ดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวร่วมกับประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เกษตรอำเภอดอยสะเก็ด พัฒนาการอำเภอดอยสะเก็ด กศน.อ.ดอยสะเก็ด และสถานีวิทยุ สวท.เชียงใหม่ จัดขึ้นเพื่อช่วยชาวบ้าน

นายชัชวาล ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมาประธานในพิธี จัดขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร บัญฑิตจบใหม่ ผู้ว่างงาน กลุ่มแรงงานที่อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถพึ่งพาตัวเองได้, เพื่อให้ประชาชนใช้พื้นที่ว่างเปล่าของวัดให้เกิดประโยชน์ โดย ปลูกผักสวนครัว และทำการเกษตรผสมผสาน, สร้างชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ฝึกเรียนรู้ สืบสาน รักษาและต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เพื่อให้เข้าใจเข้าถึงหลักปรัชญาเศรษกิจพอเพียงในทฤษฎีใหม่ และสามารถนำไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์พัฒนาพื้นที่ของตนเองและใช้ประกอบสัมมาอาชีพต่อไป, เพื่อทำให้เกิดคำว่า บวร และสุดท้ายเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์สามเณรและประชาชนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณ พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทผู้นำศาสนา เป็นบุคคลต้นแบบในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่งคงทางอาหาร รอบ 2 ให้ไว้ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ลงนามโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ที่น่าสนใจมีศิลปินนักร้อง “น้องใหญ่ ข้าวต้มมัด” หรือ นายนนทนันท์ ใจคำ ศิลปินวัยรุ่น ค่ายคนเมืองเร็คคอร์ตเชียงใหม่ ศิลปินเพลงอินดี้-ลูกทุ่ง โด่งดังในเพลง “บิ๊กบ้านเฮาเต๊อะ และเพลง “จ้างมันเต๊อะ” ซึ่งน้องใหม่ถูกเลขท้าย 2 ตัว 10 ใบ คือเลข 90 หลังจากที่ได้มาร่วมงานบวงสรวงไอ้ไข่ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2564 ที่ผ่านมาแล้วได้ซื้อลอตเตอรี่ไว้จำนวน 10 ใบแล้วถูกไปงวดวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็เดินทางมาร่วมงานดังกล่าวด้วย และทั้งหมดร่วมกันประกอบพิธีทอดผ้าป่า พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดอยสะเก็ด พระอารามหลวง ผู้พิจารณาผ้าป่า

สำหรับประชาชนที่มีความประสงค์จะร่วมทำบุญต่อยอดให้วัดสันมะเกี๋ยงแต่ไม่สะดวกมาที่วัด หรือ อยู่บ้านลดเชื้อฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถบริจาคเงินเข้าบัญชีได้ ที่บัญชีเลขที่ 553-0-35610-9 ชื่อบัญชี “พัฒนาวัดสันมะเกี๋ยง” หรือโทรศัพท์ได้ที่เบอร์ 089-5584332 / 092-9195597 Line Id keng4332 ได้

วัดสันมะเกี๋ยง เป็นวัดที่กำลังพัฒนา กำลังสร้างวัดและปรับปรุงวัดเก่าแก่ให้เป็นวัดที่พัฒนาเพื่อพระสงฆ์ได้อยู่จำวัดทำบุญ มีพระภิกษุสงฆ์สามเณร รวมจำนวน 30 รูป กำลังศึกษาเล่าเรียน ทางวัดปลูกพืชผักไว้หลังวัดเพื่อให้พระสงฆ์จำนวนมากได้มีแหล่งอาหารไว้รับประทานที่วัดแล้ว ยังเป็นตัวอย่างให้ชาวบ้านนำเอาไปเป็นแบบอย่างมาต่อเนื่อง ที่สำคัญที่วัดสันมะเกี๋ยง ได้อัญเชิญ “ไอ้ไข่ พ่อท่านเทิ่ม” จากวัดสระสี่มุม จ.นครศรีธรรมราช นำมาให้ศรัทธาประชาชนทางภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ได้เดินทางมากราบไว้ขอพร “ขอได้ไหว้รับ”โดยไม่ต้องเดินทางไกลไปถึง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อชาวบ้านขอพรแล้วสมหวังก็จะเดินทางมาแก้บน โดยนำของเล่นเด็ก ชุดทหาร และจุดประทัดถวายไอ้ไข่ได้ และที่ผ่านมาไอ้ไขก็ให้เลขเด็ดชาวบ้านรวยมาแล้วหลายราย

เชียงใหม่ ชวน หลีกภัย เปิดอาคารสโมสรฅนท้องถิ่น สมาคม ขรก.ส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย

“ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดอาคารสโมสรฅนท้องถิ่น สมาคม ขรก.ส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 ก.ย.2564 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาเป็นประธานเปิดอาคารสโมสรฅนท้องถิ่น ของสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย โดยมีนายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย พร้อมข้าราชการท้องถิ่นทั่วประเทศ และนายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ร่วมให้การต้อนรับนายชวน ที่อาคารสโมสรฅนท้องถิ่น ของสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 173 บ้านหนองแฝก หมู่ที่ 4 ต.หนองแฝก อ.สารภี จ.เชียงใหม่

พิธีการเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น.คณะกรรมการ ที่ปรึกษา และ จนท.สมาคม พร้อมกันบริเวณงานและประกอบพิธีขึ้นท้าวทั้งสี่ พิธีไหว้ศาลพระภูมิ และศาลเจ้าที่ศาลตาและยาย จากนั้นประกอบพิธีสงฆ์ นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ 9 รูป ประกอบพิธีสวดถอน และเจริญพระพุทธมนต์ จากนั้นถวายเครื่องสังฆทานแดพระภิกษุสงฆ์ถวายปินโต พระภิกษุสงฆ์อนุโมทนา พระภิกษุสงฆ์เจิมป้ายอาหารเพื่อเป็นมงคล จากนั้นพระภิกษุสงฆ์เดินทางกลับ

ต่อมานายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาประกอบพิธีเปิด นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย จากนั้นนายชวน ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมคนแรกของอาคารสมาคมฯ จากนั้นนายพิพัฒน์ กล่าวรายงานถึงอาคารสโมสรฅนท้องถิ่นหลังนี้ จากนั้นนายชวน ได้เป็นประธานเปิดผ้าคลุมป้ายอาคาร ได้กล่าวให้โอวาท

นายชวน ได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า โครงสร้างที่ดีมันจะสดุดด้วย “คน” เพราะคนที่เราพูดถึงนี้ หากไม่ได้มาด้วยความชอบธรรม ยากครับที่จะบริหารงานไปได้ด้วยดี พูดง่ายๆ มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น มองเห็นชัดเจนในปลายรัฐกาลที่ 9 ท่านให้ความสำคัญเรื่องคนมาก ถึงให้องค์มนตรีนำไปปฏิบัติ ให้ท่านเกษม รัตนชัย ท่านองค์ในตรีองค์ปัจจุบัน ท่านเป็นคนเล่าให้ผมฟัง พระองค์ท่านในหลวงรัฐการที่ 9 ให้ทางองค์มนตรีร่วมกับทางโรงเรียนทำให้คนเป็นคนดี เพราะพระองค์ท่านเห็นนายกรัฐมนตรีมาหลายคน และเห็นบุคคลสำคัญหลายๆชุดทำงาน ในที่สุดลงท้ายบ้านเมืองมีทั้งคนดีและไม่ดี ไม่สามารถทำให้คนเป็นคนดีได้ทั้งหมด วิกฤตหลายครั้งเป็นเพราะคน เพราะฉะนั้นการสร้างคนดีเป็นเรื่องสำคัญ ตนของยำให้พยายามสร้างรูปแบบที่ดี และขณะเดียวกันขอให้นำคนดีมามีส่วนร่วม และการกระจายอำนาจนั้นเป็นการกระจ่ายโอกาสกระจายรายให้ท้องถิ่น การกระจายอำนาจเพื่อให้ท้องถิ่นพัฒนาในตัวของเขาเอง

เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่มีเพียงที่ กทม.ต่อไปจังหวัดไหนพร้อมก็ไปก่อน อาจจะมีเลือกอะไรก็แล้วแต่ในจังหวัดนั้นๆได้โดยตรง หากจังหวัดนั้นมีความพร้อม การที่จะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ตนทำงานการเมืองมานาน 52 ปี เดิมก็ไม่ยอมรับ กว่าจะผ่านมันไปได้ และเมื่อผ่านไปแล้วก็ต้องยอมรับและรับได้ ดังนั้นการที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้ไปได้ ก็อยู่ที่คุณภาพของคนในปัจจุบัน และท้องถิ่นนั้นๆยอมรับการทำงานที่ดีได้ และมีคนดีไม่โคดโกงและไม่ทุจริตมาทำงาน การยอมรับในเรื่องโครงสร้างบ้านเมืองก็จะดีขึ้นครับ” นายกชวน ประธานรัฐสภา กล่าว จากนั้น นายชวน เดินชมนิทรรศการ และชมอาคารทั้งหมด และได้ปลูกต้นรวงผึ้ง และต้นสาภี จากนั้นทั้งหมดถ่ายภาพร่วมกัน เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับอาคารสโมสรฅนท้องถิ่น ออกแบบโดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยลักษณะของตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมโมเดิร์นลอฟท์ หรือแบบปูนเปลือย โดยใช้แนวคิดผสมผสานบ้านทรงไทยโบราณสี่ภาค กับ สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 10 มกราคม2562 โดยมีนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ และมีพระพรหมมงคล หรือหลวงปู่ทอง สิริมังคโล อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร ให้ความเมตตาเจิมแผ่นศิลาฤกษ์ แล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2564 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 19,053,056.89 บาท (สิบเก้าล้านห้าหมื่นสามพันห้าสิบหกบาทแปดสิบเก้าสตางค์) จากเงินรายได้การจัดโครงการฝึกอบรม ประชุมสัมมนาทางวิชาการ ซึ่งสะสมรวม 10 ปี รวมทั้งการจัดทอดผ้าป่าสามัคคีจำนวน 2 ครั้ง และเงินบริจาคบางส่วนจากผู้มีจิตศรัทธา ลักษณะตัวอาคารขนาด 2 ชั้น ประกอบด้วย

ชั้นบน สำหรับใช้เป็นห้องประชุมสัมมนาขนาดบรรจุ 150 คน เพื่อรองรับคนท้องถิ่นทั่วประเทศ ได้มาพบปะสังสรรค์ ศึกษาดูงาน หรือเพื่อให้องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ระหว่างกัน

ชั้นล่าง ส่วนที่หนึ่ง สำหรับใช้เป็นห้องสมุดฅนท้องถิ่น เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นในรูปแบบของหนังสือ เอกสาร วารสาร สิ่งตีพิมพ์ และสื่อดิจิทัล สำหรับให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ศึกษาเรียนรู้ ค้นคว้าข้อมูลเพื่อประโยชน์ในทางวิชาการ การเรียนการสอน ส่วนที่สอง สำหรับใช้เป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ

ทั้งนี้ สมาคมฯมีความมุ่งหวังในการใช้อาคารหลังนี้เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสมาคม ดังนี้ 1. เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ของข้าราชการส่วนท้องถิ่นทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำทั่วประเทศ 2. เป็นองค์กรกลางในการประสานความเข้าใจ ความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อันประกอบด้วย รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ องค์กรอิสระ อาทิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. รวมทั้งองค์กรภาคประชาชน และองค์กรระหว่างประเทศ

3. เป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารการเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ศึกษาเรียนรู้การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ และมุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นของกลุ่มประเทศอาเซียนอีกด้วย

4. เป็นศูนย์ประสานให้ความช่วยเหลือแก่ข้าราชการส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้าง ที่ประสบปัญหาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือประสบสาธารณภัยต่างๆ 5. เป็นศูนย์กลางในการพบปะสังสรรค์ของข้าราชการส่วนท้องถิ่น ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ ขณะรับราชการ และเกษียณอายุราชการแล้ว

สำหรับการจัดงานพิธีเปิดในครั้งนี้ ได้เลื่อนมาจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้จำกัดจำนวนคนเข้าร่วม และมีมาตรการตามที่ ศบค.กำหนดโดยเคร่งครัด ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะต้องผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม และต้องผ่านจุดคัดกรองของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลหนองแฝก แล้วเท่านั้นจึงจะเข้าร่วมงานดังกล่าวได้