เชียงใหม่ เตรียมฟื้นฟูทางเดินธรรมชาติ 1.5 กม.สู่บันไดนาควัดพระธาตุดอยคำ

เตรียมฟื้นฟูเส้นทางเดินเท้าเดินขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำ ระยะทาง 1.5 กม. โดยทางวัดได้ทำบันไดนาคไว้แล้วส่วนหนึ่งก่อนถึงวัด ส่วนเส้นทางจากตีนเขาบริเวณลานจอดรถด้านล่าง เป็นเส้นทางเดินธรรมชาติ ซึ่งสมัยก่อนชาวบ้านจะใช้เส้นทางนี้เดินขึ้นมานมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัด และร่วมประเพณีเดินขึ้นดอยคำ แห่น้ำสรงองค์พระธาตุฯ ปัจจุบันใช้เส้นทางถนนแทน ส่วนในปีนี้จะจัดงานประเพณีเดินขึ้นดอยคำหรือไม่นั้น ก็ต้องรอฟังผลการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิส-19 จากทางราชการก่อนว่าจะให้จัดงานหรือไม่ ซึ่งปีที่ผ่านมาทางวัดได้งดจัดงาน

พระครูสุนทร เจติยารัก์ษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เจริญพรว่า ในอดีตกาลผู้ที่จะเดินขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำ ต้องเดินขึ้นมาทางบันไดนาคเส้นทางเดียว ปัจจุบันมีทางรถยนต์ขึ้นมา ศรัทธาประชาชนจึงใช้เส้นทางรถยนต์เดินทางขึ้นมา ส่วนมากผู้ที่จะเดินต้องเป็นคนที่มีอายุไม่มาก เป็นคนแก่ก็ไม่ไหว ยิ่งเข้าสู่หน้าร้อนการเดินขึ้นมายังวัดอาจจะเหนื่อยมาก บางคนเดินขึ้นมาเป็นลมก็หลายคนแล้ว คือหมดแรงแล้วก็เป็นลม ปัจจุบันนี้จึงใช้เส้นทางรถยนต์ แต่ในอดีตคนที่จะมานมัสการวัดพระธาตุดอยคำนั้น ต้องเดินขึ้นบันไดนาคเพียงอย่างเดียว ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ช่วงฤดูร้อน คนเดินขึ้นมาไม่ค่อยไหว ต้องหยุดพักตามจุดต่างๆ ก่อนจะถึงวัดพระธาตุดอยคำได้ ใช้เวลาเป็นชั่วโมง


สำหรับเส้นทางเดินเท้าระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ลานจอดรถด้านล่างขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำ ทางวัดได้ทำบันไดนาคช่วงกลางขึ้นมาถึงบนวัดมีบันได 182 ขั้น แต่ตั้งแต่ตีนเขาขึ้นมาเรายังไม่ได้ทำเป็นมาตรฐาน ในอนาคตก็มีโครงการที่จะทำอยู่แต่ต้องอาศัยงบฯ จากศรัทธาญาติโยม เพื่อให้เดินขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำได้อย่างสะดวก ปัจจุบันเส้นทางบางส่วนเป็นเส้นทางธรรมชาติ เป็นดินลูกรัง ผู้สูงอายุก็จะเหนื่อยหน่อย

ในส่วนประเพณีเดินขึ้นดอยคำ แห่น้ำสรงองค์พระธาตุ สมัยโบราณจะใช้การเดินเท้าขึ้นมาสรงน้ำพระธาตุดอยคำ ชาวบ้านก็จะเดินขึ้นมาทางบันไดนาค แต่ปัจจุบันปรับเปลี่ยนการเดินขึ้นมาทางถนน ซึ่งในปีนี้ทางวัดพระธาตุดอยคำยังบอกไม่ได้ว่าจะจัดงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุดอยคำหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์จากส่วนราชการก่อนว่า จะกำหนดอย่างไร ต้องรอดูใช้ช่วงประเพณีสงกรานต์นี้ก่อน หากมีข้อกำหนดออกมาให้จัดงานประเพณีสรงการนต์ มีการสรงน้ำพระ ทางวัดก็จะได้จัดงานประเพณีเดินขึ้นดอย สรงน้ำน้ำพระธาตุดอยคำ ซึ่งในปีที่ผ่านมาทางวัดได้งดจัดงานนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 โดยงานประเพณีเดินขึ้นดอยคำ ได้ยึดถือเอาวันแรม 8 ค่ำ หลังวิสาขบูชา 7 วัน ปีนี้ก็จะตรงในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

DCIM100MEDIADJI_0848.JPG

อย่างไรก็ดี บรรยากาศบนวัดพระธาตุดอยคำ ก็ยังคงจัดให้มีจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ และเจลน้ำยาฆ่าเชื้อวางไว้ตามจุดต่างๆ ให้บริการสำหรับประชาชนผู้ที่เดินทางขึ้นมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนวัดระธาตุดอยคำ ซึ่งมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุดอยคำ สร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ,หลวงพ่อทันใจ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทางมาขอพร บนบาน แล้ว ประสบความสำเร็จ ก็จะนำดอกมะลิมาแก้บน ,ภายในวิหารวัดพระธาตดอยคำก็ประดิษฐาน พระรอดหลวง อายุกว่า 1,300 ปี  เป็นพระรอดหินทรายที่มีอายุเก่าแก่ นอกจากนั้นทางระเบียงวัดก็มีลานจุดชมวิว สามารถมองเห็นด้านหลังของหอคำหลวง ภายในอุทยานหลวงราชพฤกษ์และตัวเมืองเชียงใหม่ทางทิศใต้ได้บางส่วน เหมาะที่จะเป็นจุดถ่ายรูปสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำแห่งนี้

เชียงใหม่ การเมืองท้องถิ่นยังร้อนระอุ มือกฎหมายเทศบาลนครเชียงใหม่ ยังคงถูกนักเลงคีบอร์ดกล่าวโจมตีการทำงาน

ารเมืองท้องถิ่นยังร้อนระอุ มือกฎหมายเทศบาลนครเชียงใหม่ ยังคงถูกนักเลงคีบอร์ดกล่าวโจมตีการทำงาน ในหน้าที่ ทำให้เกิดการเข้าใจผิดและเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่ความเป็นจริง ทำตามอำนาจหน้าที่ หากไม่ดำเนินการ ก็จะถูกละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ยันยืนจะดำเนินคดีกับบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเซียสจนถึงที่สุด

ความคืบหน้ากรณีนางละเอียด ศรีล้อม อายุ 55 ปี นิติกรชำนาญการพิเศษ เทศบาลนครเชียงใหม่ ร้องทุกข์กล่าวโทษนักเลงคีย์บอร์ด ฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญาต่อสถานีตำรวจช้างเผือกเ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม2564. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวจากนางละเอียด ศรีล้อม โดยนางละเอียดฯแจ้งว่า พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวน ได้เรียกนางละเอียด ไปสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 และพนักงานสอบสวนทราบตัวผู้กระทำผิดแล้ว และจะได้ดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้นางละเอียด ฯยังได้ชี้แจงให้ผู้สื่อข่าวว่า ยังมีกลุ่มบุคคลหลายกลุ่ม ได้กล่าวหาว่าตนเอง เป็นผู้ดำเนินการสั่งรื้อถอนอาคาร ที่บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ บริเวณร่องขะแจะ, หลังวัดโลกโมฬี ร้องเรือคำ และที่สาธารณะบริเวณอื่นทั่วเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ทั้งๆที่ตนเองทำงานตามตำแหน่งหน้าที่ การออกคำสั่ง ให้รื้อถอนอาคาร เป็นอำนาจหน้าที่ ของส่วนควบคุมอาคาร สำนักการช่าง หลังจากเจ้าของอาคารไม่ดำเนินการตามคำสั่ง ให้รื้อถอนอาคาร สำนักการช่างจะรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้กลุ่มงานนิติการดำเนินคดีกับเจ้าของอาคาร โดยที่ตนเองดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ กับผู้ก่อสร้างอาคารและผู้บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้บริหารงานของเทศบาลนครเชียงใหม่ และดำเนินการในฐานะตนเองเป็นคณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย ของโครงการพัฒนาคลองแม่ข่า หากตนเองไม่ดำเนินการ ตนเองก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157.

นางละเอียดฯกล่าวว่าขณะนี้ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทุกช่องทาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้ให้ถึงที่สุด

เชียงใหม่ ชมรมคนรักษ์ป่า ลุยดอยนำสิ่งของอาหาร น้ำดื่ม อุปกรณ์ดับไฟป่ามอบ จนท.ดับไฟป่าและพระสงฆ์ในป่าลึก

ชมรมคนรักษ์ป่า เชียงใหม่ ลุยดอยนำสิ่งของอาหาร น้ำดื่ม อุปกรณ์ดับไฟป่า มอบให้กับเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า อ.ดอยสะเก็ด และนำข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค ไปมอบให้กับพระสงฆ์ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่สำนักสงฆ์ขุนออน ซึ่งตั้งอยู่ในป่าลึก ห่างจากตัวอำเภอสันกำแพงกว่า 50 กิโลเมตร

เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2564 นายบุญฤทธิ์ รังษี ประธานชมรมคนรักษ์ป่า จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ได้ปิดทริปส่งของเพิ่มเติมที่ด่านป่าไม้พร้อมถวายอุปกรณ์ทำความสะอาดพร้อมปัจจัยและข้าวสารอาหารแห้งและยารักษาโรค ณ.สำนักสงฆ์ขุนออน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีพระประจำอยู่หนึ่งรูป การเดินทางเข้าออกก็ลำบาก ห่างไกลจากตัวอำเภอสันกำแพงโดยประมาณ 50 กม. อยู่ในป่าลึก (อยู่ในพื้นที่ ต.ป่าเมี้ยง) จ.เชียงใหม่ จึงอยากะเรียนเชิญเพื่อนสมาชิกผู้ใจบุญทั้งหลายร่วมทำบุญในครั้งต่อไปด้วยครับ สาธุครับ ประธานชมรมคนรักษ์ป่า จ.เชียงใหม่ กล่าว

“ส่วนที่ด่านป่าไม้ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ซึ่งยังมีอีกหลายพื้นที่หลายด่านที่ยังขาดแคลนส่วนใหญ่จะเน้นเป็นน้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลังมากที่สุด เพราะว่าทุกวันนี้ยังมีไฟป่า ลุกลามขึ้นอยู่ทุกวัน ซึ่งจะก่อให้เกิดหมอกควันมากขึ้นทุกวัน แต่เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าตรวจทุกๆวัน ท่านเพื่อนสมาชิกท่านใดหรือว่าท่านที่มีจิตศรัทธาบริจาคสามารถติดต่อได้ที่ โทร 081-2873421, 082-9382893 ได้ ผมขอบพระคุณทุกท่านมาก” นายบุญฤทธิ์ รังษี ประธานชมรมคนรักษ์ป่ากล่าว.

เชียงใหม่ หลบร้อน ชวนมาผ่อนคลาย ที่ จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่ สาขากึ๊ดช้าง แม่แตง เชียงใหม่

หลบร้อน ชวนมาผ่อนคลาย ที่ “จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่” สาขากึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่

ช่วงนี้บ้านเราเริ่มเข้าสู่หน้าร้อนกันแล้ว ป๋าเลยอยากชวนแฟนๆ หนีร้อนไปหาที่เย็นๆ นั่งชิลกันที่ “จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่” สาขากึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังคงเอกลักษณ์ความชิลในสไตล์จังเกิล เดอ คาเฟ่ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งที่นอนตาข่าย เบาะนุ่มๆ หลากสีสันไว้เอนกายนอนชมวิวงามๆ หรือจะลงไปแหวกว่ายในสายน้ำแม่แตงเย็นๆ คลายร้อนก็ทำได้ รวมถึงมุมสวยๆ สำหรับสายเซลฟี่ไว้ถ่ายภาพอวดโลกโซเชียลกันอีกมากมายหลายมุมเลยทีเดียว

dav

dav

สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ก็มีให้บริการอย่างหลากหลายเช่นเดียวกับสาขาแรก รวมถึงยังคงคอนเซ็ปต์ตามสโลแกนที่ว่า “กาแฟหลักสิบ รสชาติหลักร้อย วิวหลักล้าน” เช่นเคย ฟินและชิลแน่นอนจ๊ะ

dav

dav

dav

อีกเส้นทางหนึ่ง เมื่อถึงทางแยกไปปาย ให้เลี้ยวตามทางไปปาย เมื่อถึงทางแยกเข้าบ้านปางไม้แดง ก็ให้เลี้ยวเข้าไปตามทาง ไปเรื่อยๆ ประมาณสิบกิโลนิดๆ ก็ถึงเช่นกัน มีป้ายบอกทางตลอดเหมือนกันจ๊ะ หรือใครกลัวไปไม่ถูก ป๋าลงพิกัด GPS ไว้ท้ายรีวิวเช่นเคย กดแล้วขับตามไปเลยก็ได้ง่ายดี

dav

จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่ (Jungle de Cafe) สาขากึ๊ดช้าง แม่แตง
เปิด – ปิด 08.00 – 20.00 น.
โทร : 0816032180 , 0892623939 , 0649945996 , 0811695599 , 0819500745
เพจ : Jungle De Cafe Kuet Chang จังเกิ้ล เดอ คาเฟ่ สาขา กึ๊ดช้าง
พิกัด GPS : https://goo.gl/fUUt2h

dav

เชียงใหม่ วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ ให้ดอกเบี้ยสมาชิกสูงกว่าธนาคาร ร้อยละ 12 บาท ช่วยเกษตรกรสู้ภัยโควิด

วิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ ให้ดอกเบี้ยสมาชิกสูงกว่าธนาคาร ..!..ร้อยละ 12 บาท ช่วยเกษตรกรสู้ภัยโควิด หนุนปลูกกัญชาสร้างรายได้เพิ่ม

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่ดินสาธารณประโยชน์(ที่เลี้ยงสัตว์บ้านสันพระนอน) ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตอาหารสัตว์(ส่งให้สวนสัตว์กลางคืน เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี) พันเอกเวหน โกมลธิติ ผู้เชียวชาญพิเศษเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ปีที่ 15 ของวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ “ก้าวอย่างมุ่งมั่น เข้มแข็ง ยืนหยัด เพื่อความยั่งยืน..สู่ปีที่ 16 ที่จะมีขึ้น” ซึ่งถือว่าเป็นวิสาหกิจชุมชนที่เข็มแข็งที่สุดในภาคเหนือตอนบน ที่มีเครือข่ายใน 4 ตำบลติดกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มี ต.แม่เหียะ อ.เมือง และ ต.สุเทพ อ.หางดง และ ต.หนองควาย ต.บ้านปง อ.หางดง ทั้งหมดอยู่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอนด้วย

ในงานมีการจัดเสวนาถึงการทำงานของวิสาหกิจฯที่เป็นไปตามข้อบังคับของวิสาหกิจฯ ปีนี้ผลประกอบการพอไปได้ เงินคงเหลือหลังการจัดสรรเป็นทุนสำรองแล้ว มีเงินคงเหลืออยู่ที่ 748,314.09 บาท มติกรรมการในปีนี้ยังคงอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้สมาชิกวิสาหกิจฯในอัตรา 12 บาทต่อหุ้น หรือร้อยละ 12 บาทต่อปี มากกว่าดอกเบี้ยธนาคารเป็น 10 เท่า

นายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ นายอินถา หลวงใจ อดีตกำนันหนองควาย รองประธานวิสาหกิจฯ และนายสุรศักดิ์ เวียนทอง ที่ปรึกษาวิสาหกิจฯ นางอำพร ธนากูล กำนันตำบลแม่เหียะ อาจารย์คำปัน อุทรา เพชรราชภัฏ สาขาศิลปะไม้ไผ่ และเป็นกรรมการวิสาหกิจฯ นายประทุม เกิดนพคุณ ศิลปินดีเด่นภาคเหนือ สาขาปั้นพระ สมาชิกวิสาหกิจฯ นายกำจร สายวงศ์อินทร์ ประธานร้านค้ากลุ่มชุมชนดอยแก้ว ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ สมาชิกวิสาหกิจฯ นายสุรชัย ปันป่วง ผญบ.หมู่ 4 กรรมการวิสาหกิจฯ พร้อมนายพิน ไชยกันทา ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกหญ้าแพงโกล่าบ้านโฮ่ง จ.ลำพูน เดินทางมาร่วมประชุมพร้อมสมาชิกฯ นายประหยัด จตุพรพิทักษ์ ประธานศูนย์พิทักษ์สิทธิชุมชนตำบลแม่เหียะ และเป็นสมาชิกวิสาหกิจฯ ร่วมเสวนาถึงผลการปฏิบัติในงานในรอบปีให้สมาชิกที่เดินทางมางานจำนวนมากกว่า 200 คน

ปีนี้น่าสนใจในการประชุมประจำปีปีนี้ ทางวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ ได้มอบค่าเดินทางของสมาชิกต่อหัว 200 บาทที่เดินทางมาร่วมประชุม จำนวนมากกว่า 200 คน และยังมอบรางวัลให้สมาชิกโดยจับฉลากรางวัล มีตู้เย็น ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการสู้ภัยโรคร้ายโควิด-19

ที่สำคัญในที่ประชุมแจ้งให้ทราบถึงปัญหาที่ดำเนินงานมา และยังบอกถึงแนวโน้มการดำเนินงานปีต่อไปด้วยว่า วิสาหกิจฯจะดำเนินการปลูกกัญชาเพื่อสร้างรายได้เสริมขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งการร่วมประชุมครั้งนี้สมาชิกทุกคนสวมหน้ากาก และปฏิบัติตามขอบังคับของศูนย์ควบคุมโรคในรูปแบบนิวนอร์มอล (New Normal).

 

เชียงใหม่ บ.ไทยเฮมพ์ฯ แถลงข่าวลงนาม MOU ผลักดันกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจ ลดปัญหาไฟป่าหมอกควัน

บริษัทไทยเฮมพ์ฯ แถลงข่าวลงนาม MOU ผลักดันกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจ ลดปัญหาไฟป่าหมอกควันฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม


วันที่ 7 มีนาคม 2564 เวลา ที่ ซอมพอ บูติก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บริษัท ไทยเฮมพ์ ซีบีดี 2021 จำกัด ได้มีจัดการแถลงข่าว แผนการช่วยลดปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วยพืชเศรษฐกิจโดยส่งเสริมการปลูกกัญชงสายพันธุ์ของมูลนิธิวนเกษตรอินทรีย์ โดยผ่านการวิจัยและรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาแล้ว ซึ่งเป็นสายพันธุ์กัญชงให้ผลผลิตสูง มีความต้านทานโรคและแมลง เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสกัดสาร ซีบีดี ตามมาตรฐานสากล อย่างถูกต้องตามกฎหมายและนโยบายของรัฐบาล พร้อมลงนามความร่วมมือกัน (MOU) โดยมี อ.วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน หลังจากนั้น นายแพทย์เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ประธานกรรมการ บริษัทไทย เฮมพ์ เวลล์เนส จำกัด พร้อมด้วย นายพีระพล มาวาตาริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เฮมพ์ ชีบีดี 2021 จำกัด ได้ร่วมลงนาม MOU ระหว่าง Mango Coln กับ บริษัท ไทย เฮมพ์ ซีบีดี 2021 จำกัด ตามบันทึกข้อตกลง “Cannabis business devetopmeat” โดยทางบริษัท ไทย เฮมพ์ เวลล์เนส จำกัด ได้แต่งตั้งให้บริษัท ไทย เฮมพ์ ชีบีดี 2021 จำกัด เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาธุรกิจและการตลาด เฮมพ์ อย่างครบวงจร แต่เพียงผู้เดียว และ บริษัท ไทย เฮมพ์ ซีบีดี 2021 จำกัด โดยทั้งสองฝ่ายได้ตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญของการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยมี พลเอกสุทัศน์ จารุมณี พร้อมด้วย ดร.เสฐียรพงษ์ แก้วสด ceo บริษัทไทยเฮมพ์เวลเน็ต เป็นสักขีพยานในการทำ MOU ในครั้งนี้

เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่จะช่วยลดปัญหาไฟป่าและหมอกควัน และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วยพืชเศรษฐกิจ คือกัญชง โดยส่งเสริม การปลูกที่ใช้สายพันธ์ของทางมูลนิธิเกษตรอินทรีย์ซึ่งได้ผ่านการวิจัยมาอย่างยาวนานกว่า 16 ปี และได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร เป็นสายพันธุ์กัญชงให้ผลผลิตสูงมีความต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดีเหมาะสม กับสภาพภูมิอากาศทางภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมสกัดสาร cbd และสารแคนนาบินอยด์ชนิดอื่นๆ ที่ได้มาตรฐานสากลถูกต้องตามกฎหมายและสนองนโยบายของทางรัฐบาลด้านการพัฒนาเศรษฐกิจฐานชีวภาพ (bioeconomy)ด้วยภัยคุกคามต่อสุขภาพของมนุษย์ที่เกิดเป็นโรคเรื้อรังเช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจและความดัน รวมถึงโรคอุบัติใหม่คือการระบาดของไวรัส -19 ซึ่งล้วนมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับสภาพสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม ซึ่งการสกัดเอาสาร cbd และสารแคนนาบินอยด์อื่นๆในกัญชง มาใช้ประโยชน์ในการในผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลรักษาสุขภาพทั้งยาอาหารเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอาง จึงเป็นทางเลือกใหม่

ทั้งนี้จะเปิดโรงงานทำการสกัดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 นี้ด้วยบริษัทไทยแฮมเวลเนสจำกัด ด้วยกำลังผลิตในการสกัด 10 ตันต่อวัน และได้สาร cbd บริสุทธิ์ประมาณปีละ 80,000 ลิตร ซึ่งจากการที่ได้ส่งเสริมการปลูกกัญชง เป็นพื้นที่ 6, 000 ไร่ ในจังหวัดเชียงราย และมีแผนที่จะขยายการผลิตระยะที่สอง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งมีสภาพภูมิอากาศเกื้อกูลเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกกัญชง 1 ไร่ เพื่อเป็นวัตถุดิบให้แก่โรงงานจะมีกำไรสุทธิ เท่ากับการปลูกข้าวโพดถึง 80 ไร่จึงถือว่าเป็นพืชที่จะช่วยฟื้นคืนผืนที่ป่าได้มากขึ้น โดยไม่มีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต รวมไม่ก่อเกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกทั้งยังช่วยลดปัญหาไฟป่าหมอกควัน ช่วยสร้างงานสร้างรายได้และสร้างเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

สำหรับผู้ที่สนใจนักธุรกิจและนักลงทุนทั้งในประเทศและทั่วโลกมีโอกาสเข้าร่วมการเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อมและสุขภาพขององค์การสหประชาชาติภายในปีค.ศ 2030 และโดยในขณะนี้บริษัทไทยแฮม cbd 20-21 จำกัด ได้พัฒนาเหรียญดิจิตอลสำหรับแลกเปลี่ยนในตลาดโลกผ่าน waves exchang ที่ชื่อว่า mang coin ซึ่งได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) การร่วมลงทุนผ่านการซื้อเหรียญดิจิตอล คือโอกาสที่ดีในการร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจสำคัญแห่งยุคสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) สร้างความโปร่งใสมีความถูกต้องของข้อมูลสามารถติดต่อธุรกรรมในห่วงโซ่การผลิต (supply chain)ใช้ circuit นำการ R โดยมีธุรกิจจากอุตสาหกรรมกัญชงเป็นเรือธง (flagship) ที่จะแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

ทางด้าน ดร.เสฐียรพงษ์ แก้วสด ซีอีโอ บริษัทไทยเฮมพ์เวลเน็ต เปิดเผยว่า กิจกรรมวันนี้เราระดมทุนเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ เรื่องของกัญชง ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ เรียกว่า “ทองคำเขียวของไทย” ทุกวันนี้มีปัญหาเศรษฐกิจสังคมสิ่งแวดล้อมอย่างมาก พืชเศรษฐกิจตัวใหม่กัญชงสามารถแก้ปัญหาตัวนี้ได้ เพราะมูลค่าของกัญชงมีมูลค่า หกแสนล้านบาท ภายในปี 2565 นี้ ถามว่ากัญชงเอาไปทำอะไร สามารถเอาไปผลิตยาสมุนไพรอาหารเครื่องดื่มและเครื่องสำอางค์ เป็นต้น ซึ่งตอนนี้เราได้สร้างโรงงานที่จังหวัดเชียงรายแล้ว ซึ่งมีกำลังผลิตวันละ 10 ตัน ซึ่งผลิตสารซีบีดีบริสุทธิ์ได้ 99.9 เปอร์เซ็นต์ ได้ประมาณวันละ 1 พันลิตร ซึ่งตอนนี้เรามีความพร้อม เริ่มปลูกที่จังหวัดเชียงรายก่อน 6 พันไร่ ขยายไปเฟสสองที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ด้อยโอกาสและมีปัญหาเรื่องหมอกควันไฟป่า วันนี้เราต้องไปช่วยคนแม่ฮ่องสอนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่นั้น และแม่ฮ่องสอนมีจุดแข็งคืออยู่อย่างนึงคืออยู่บนพื้นที่สูงมีความหนาวเย็นเหมาะแก่การปลูกกัญชง ที่นั้นเราปลูกระบบออแกนิคได้มาตรฐานระดับ USDA มาตรฐานระดับสากล ต่อไปประเทศไทยจะส่งสารซีบีดีไปสกัดได้ทั่วโลก ประเทศไทยเองสามารถผลิตได้ทั้งปี แต่ต่างประเทศสามารถผลิตได้ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ตอนนี้กัญชง รัฐบาลถือว่าเป็นพืชปลดล๊อค แต่ยังเป็นพืชควบคุมอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องสงเสริมวิสาหกิจชุมชน เกษตรกรทั่วไป เป็นผู้ผลิตให้ทางเรา โดยมีการรวมกลุ่มกันกลุ่มนึงไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ เกษตรกรคนนึงสามารถดูแลกัญชงได้ 2 ไร่ต่อคน มีรายได้ต่อครัวเรือนประมาณปีละ 1 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้

ประเทศไทยเองมีศักยภาพค่อนข้างสูงมาก เพราะประเทศไทยเองสามารถนำสารตัวนี้ไปผสมอาหาร เครื่องดื่ม และสามารถส่งออกได้แล้ว ในปี 2564 นี้เราจะผลิตสารซีบีดีได้ในเดือนสิงหาคมนี้ และจะส่งออกได้ช่วงปลายปี สำหรับกำลังการผลิตเราจะผลิตได้วันละ 10 ตันของกัญชงแห้ง หรือซีบีดี ประมาณ 1 ตัน ปีนี้คาดว่าจะได้เม็ดเงินประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และตั้งเป้าไว้ได้อันดับ 1 ของโลก โดยตั้งเป้าไว้ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี ดร.เสฐียรพงษ์ กล่าวในที่สุด.

 

เชียงใหม่ การเมืองท้องถิ่นเริ่มร้อน นิติกรชำนาญการพิเศษ เทศบาลนครเชียงใหม่ เข้าแจ้งความตำรวจ

นิติกรชำนาญการพิเศษ เทศบาลนครเชียงใหม่ แจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีนักเลงคีย์บอร์ด ที่โพต์สข้อความไม่เป็นความจริง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และจะดำเนินคดีจนถึงที่สุดทั้งที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามผู้สมัคร นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งตนเองได้ลาออกไปก่อนแล้ว ซึ่งการเขียนข้อความลักษณะนี้ อาจทำให้ทุกคนเข้าใจผิด

นางละเอียด ศรีล้อม อายุ 55 ปี ตำแหน่ง นิติกรชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานนิติการ กองวิชาการและแผนงาน เทศบาลนครเชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ พร้อมนำหลักฐานเป็นเอกสาร ข้อความที่ถูกนักเลงคีย์บอร์ดให้ร้าย และไม่เป็นความจริง ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และถูกคนอื่นเกลียดชังนำมาให้ตำรวจด้วย โดยมีการเขียนข้อความ ลงในแอฟพิเคชั่นไลน์กลุ่ม โดยมีใจความว่า ที่มาของข้อความ ที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เบอร์ 1 และเบอร์ 2 กกต.ของเทศบาลแขวนเหรอคะ และมีรายชื่อของตนเองอยู่ด้านบนข้อความ ทำให้บุคคลอื่นที่อยู่ในกลุ่มอาจเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าตนเองอาจมีส่วนได้เสีย ในการพิจารณา ทั้งที่ความเป็นจริงตนเองได้ลาออก จากคณะกรรมการฝ่ายตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้สมัครไปก่อนแล้ว เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา โดยสิ่งที่เกิดขึ้น เชื่อว่าบุคคล ที่เขียนข้อความจงใจให้ร้าย และจะดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ดีทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและรับเป็นคดี และจะได้ออกหมายเรียก ผู้ที่กล่าวหา มาสอบปากคำต่อไป โดยจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทำให้การเมืองท้องถิ่นใกล้โค้งสุดท้าย เริ่มร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง ในวันที่ 28 มีนาคมนี้

 

เชียงใหม่ เจ้าของธุรกิจแก้บนไอ้ไข่วัดสันมะเกี๋ยง จุดประทัดถวาย 1 แสนนัด ธุรกิจได้กำไร 100 ล้าน

เจ้าของธุรกิจแก้บนไอ้ไข่วัดสันมะเกี๋ยง จุดประทัดถวาย 1 แสนนัด ธุรกิจได้กำไร 100 ล้าน ลูกศิษย์วัดถูกเลขน้ำตาเทียนในอ่างน้ำมนต์บวงสรวงไอ้ไข่

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 มี.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฏร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง ดูแลวัดสันมะเกี๋ยง นายมิตร ใจบุญตระกูล หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่ ได้ต้อนรับลูกศิษย์ที่ประกอบธุรกิจ บริษัท ศิลาศุภกิจ จำกัด ทำบุญแก้บนไอ้ไข่พ่อท่านเทิ่ม จากที่ก่อนหน้านั้นทางตัวแทนบริษัท ได้เดินทางมากราบไหว้พระที่วัดสันมะเกี๋ยง และมาขอพรไอ้ไข่ กลับไปแล้วทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จได้ผลกำไรปีนี้จำนวนกว่า 100 ล้านบาท จึงเดินทางกลับมาวัดสันมะเกี๋ยง ทำบุญบูชาวัตถุมงคลของวัดและปิดทองไอ้ไข่ แล้วถวายน้ำแดง อาหารคาว อาหารหวาน และบูชาประทัดจุดถวายจำนวน 100,000 นัด (หนึ่งแสนนัด) และปล่อยนก จำนวนกว่า 100 ตัว

สำหรับผู้ที่ถูกรางวัลในงวดวัดที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกเลขท้าย 2 ตัว และเลขหัวท้าย 3 ตัว มีนายสมศักดิ์ จินะใจ อดีต ผญบ.บ้านสันมะเกี๋ยง ถูกเลขท้าย 73 จำนวน 10 ใบ, นายประสิทธิ์ จันทร์ทา เป็นคณะกรรมการขายดอกไม้ในวัดสันมะเกี๋ยง ถูกเลขท้าย 73 จำนวน 2 ใบ, นายธงชัย ชัยดวงบาล คนขับรถในวัดสันมะเกี๋ยง ถูก เลข 3 ตัวหน้า 290 จำนวน 1 ใบ และ 3 ตัวท้าย 806 จำนวน 2 ใบ

เลขที่ทางลูกศิษย์วัดสันมะเกี๋ยงถูกกันจำนวนหลายราย สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมาทางวัดได้ประกอบพิธีบวงสรวงไอ่ไข่ (ทำบุญประจำเดือน) หลวงปู่ครูบาบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น อ.ลี้ จ.ลำพูน เป็นประธานประกอบพิธีปิดทองพญาอินแปลง สี่หู ห้าตา จากนั้นปลุกเสกไอ้ไข่พ่อท่านเทิ่ม และตามด้วยการประกอบพิธีสืบชะตาหลวง สืบชะตาแก้ปีชง เสร็จพิธีช่วงบวงสรวงพบน้ำตาเทียนในอ่างน้ำมนต์ เห็นมีเลข 3 และเลข 8 และเลข 7 ซึ่งเลยดังกล่าวทำให้มีคนนำไปซื้อเลขท้าย 2 ตัว ที่ออก 73 ในงวดวันที่ 1 มี.ค.นี้จึงมีผู้ถูกเลขดังกล่าว

ส่วนเลขอื่นหลังพิธีสืบชะตาหลวง สืบชะตาแก้ปีชง มองดูจะเห็นน้ำตาเทียนมีเลข 4 (บางคนมองดูเป็นเลข 0) และเลข 5 (บางคนมองเห็นเป็นเลข 8 และเลข 6) เพราะน้ำตาเทียนที่หยดทับซ้อนกัน และยังเห็นเลข 7 อีกหนึ่งหมายเลขด้วย ทางวัดได้ถ่ายภาพน้ำตาเทียนที่ออกมาเป็นเลขต่างๆ นำมาติดไว้ที่กระถางปักธูปด้วย ยังพบว่าชาวบ้านที่ถูกเลข ได้ไปดูทะเบียนรถของเล่น ที่ลูกศิษย์วัดสันมะเกี๋ยงคนหนึ่งได้มาบนขายที่ดินกับไอ้ไข่ แล้วขายได้ 20 ล้านบาท จึงซื้อรถของเล่น(คันใหญ่เด็กนั่งขับเล่นได้) ทะเบียน 3845 มาแก้บนเมื่อก่อนหวยออก 2 วัน ชาวบ้านก็นำไปซื้อเลข (แบบสลับตัวเลข) ก็ถูกหัวและท้ายรางวัลที่ 1 คือ 835538 อีกด้วย

สำหรับบรรยากาศในวัดตลอดทั้งวัน ศรัทธาประชาชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาแก้บนไอ้ไข่พ่อท่านเทิ่มกันจำนวนมาก ส่วนใหญ่ซื้อของเล่น ติดทองคำเปลว ถวายน้ำแดง และขอพรขอโชคลาภ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จ ตามคำขอที่ได้งานทำ หรือได้รับโชคก็จะจุดประทัดแก้บน จนทำให้วันนี้บริเวณรอบองค์ไอ้ไข่ มีชุดทหาร ของเด็กเล่น รูปปั้นไก่ น้ำแดง จนเต็มไปหมด แสดงถึงความศรัทธาที่มีต่อไอ้ไข่.

เชียงใหม่ เปิดแลนด์มาร์คใหม่ กม.20 สายเชียงใหม่-เชียงราย ทุ่มกว่า 10 ล้านบาทเนรมิตน้ำตกเสมือนจริงสูง 12 เมตร

เปิดแลนด์มาร์คใหม่ กม.20 สายเชียงใหม่-เชียงราย ทุ่มกว่า 10 ล้านบาทเนรมิตน้ำตกเสมือนจริงสูง 12 เมตร ปรับพื้นที่บ้านเป็นสวนป่าโซนร้านอาหารและกาแฟ จิบกาแฟนั่งมองธรรมชาติ มองรถวิ่งผ่านไปมา หรือจะรับประทานอาหารพื้นเมืองดังเดิมแท้ๆ แบบสบายๆ ชิวๆ ริมสระน้ำ สวนดอกไม้ ด้านเจ้าของหวังวัคซีน ได้ฉีดเร็วจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวได้กลับโดยมาเร็ว

ผู้สื่อข่าวพาไปที่ขาออกจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย กม.ที่ 20 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จากปากทางเขื่อนแม่กวง ไปอีก 3 กิโลเมตร ตรงข้ามหมวดทางหลวงดอยสะเก็ด แลนด์มาร์ค ของถนนสายนี้ เปิดใหบริการ ชื่อร้าน Chune Doisaket หรือ ชื่น ดอยสะเก็ด เป็นร้านกาแฟนั่งชิวๆ ไปพร้อมกับบรรยากาศสวนป่า มาพร้อมน้ำตกสูงขนาด 12 เมตร สระน้ำขนาดใหญ่ มีหลากหลายมุมให้เลือกนั่งจิบกาปฟชมธรรมชาติของป่าแท้และป่าเทียม สร้างขึ้นมา โดยเฉพาะธารน้ำตกมีไอหมอกเหมือนมีทะเลหมอกปกคลุม เหมือนได้ขึ้นไปอยู่บนอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์


เจ้าของทั้ง 2 คน นางสาวรัชนี ชมชื่น และนางพัชรมณี วัฒนสมบัติ หุ้นส่วนกัน ได้ควักระเป๋ากว่า 10 ล้านบาท มาสร้างแลนด์มาร์ค บนนถนนสายนี้เพราะไม่ค่อยจะมีร้านอาหารและกาแฟ มากหนัก จึงปรับพื้นที่บ้านของเดิม และพื้นที่ประมาณ 5 ไร่แบ่งเป็น 2 โซนให้ลูกค้าได้เลือกจะมาจิบกาแฟ หรือมารับประทานอาหารพื้นเมือง อาหารไทยหลากหลายเมนู หรือจะรับประทานอาหารฝรั่ง ก็มีให้เลือกรับประทาน เมนูที่ลูกค้าชื่นชอบที่มักจะแวะมาทานเป็นอาหารพื้นเมืองดั่งเดิม จากฝีมือคุณยาย ที่ปรุงแบบคนเหนือให้ได้รับประทาน ได้เปิดมาก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 1 เดือนแต่การตกแต่งต่างๆยังไมสมบูรณ์มาถึงตอนนี้กว่าร้อยละ 95 เหลือเก็บรายละเอียดต่างๆ ของสวนดอกไม้ นำพรรณไม้ต่างมาตกแต่เพิ่มเติม

ส่วนตอนนี้ยอมรับว่าวิกฤตโควิด-19 อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการแต่มองว่าถนนสายนี้งยังขาดจุดพักรถแวะพักผ่อน จึงได้มาเปิดแต่ตอนนี้ความหวังคือการได้ฉีดวัคซีนที่รัฐบาลได้เริ่มไปเมื่อวานนี้วันแรก หากจากนี้มีการฉีดเพิ่มจนครบแล้วเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะได้กลับมาโดยเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายจากต่างประเทศโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน ที่จะเดินทางบนถนนเส้นนี้จำนวนมากในช่วงก่อนหน้านี้ จะสอบถามได้ทางเพจร้านChune Doisaket หรือ โทรศัพท์: 062 -272 6655

เชียงใหม่ จัดพิธีสืบชะตาหลวง บวงสรวงไอ้ไข่ ได้เลขเด็ดน้ำตาเทียน 387 และ 45-54-57

จัดพิธีสืบชะตาหลวง บวงสรวงไอ้ไข่ ได้เลขเด็ดน้ำตาเทียน 387 และ 45-54-57 และทะเบียนรถหลวงปู่ครูบาบุญยัง เกจิดังภาคเหนือ เลข 4997
13.

วันนี้(28 กพ.) เวลา 13.00 น. ที่วัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฏร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นางสาวชนิสา ชมศิลป์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมศิลปิน ณัฏฐ์ กิตติสาร อาร์สยาม และสิบเอกวิสูตร สุวรรณโกศล อดีตกำนันตำบลสำราญราษฏร์ ร่วมเป็นประธานในการจุดธูปเทียนประกอบพิธีบวงสรวงไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยง (ทำบุญประจำเดือน) หลังเสร็จสิ้นพิธีพบน้ำตาเทียนในอ่างน้ำมนต์ เห็นมีเลข 387

จากนั้นหลวงปู่ครูบาบุญยัง วัดห้วยน้ำอุ่น อ.ลี้ จ.ลำพูน ท่านได้ประกอบพิธีเปิดหูเปิดตา “พญาอินแปลง สี่หู ห้าตา” จากนั้นตามด้วยพิธีปลุกเสกไอ้ไข่พ่อท่านเทิ่ม และตามด้วยการประกอบพิธีสืบชะตาหลวง สืบชะตาแก้ปีชง หลวงปู่ครูบาบุญยัง ท่านเป็นประธานสงฆ์นการประกอบพิธีดังกล่าว ซึ่งเป็นประเพณีของชาวล้านนา ช่วยให้เกิดสิริมงคลต่อผู้เข้าร่วมพิธี เป็นการเสริมบารมี สะเดาะเคราะห์ให้พ้นจากโชคร้าย เพื่อรับโชคลาภ ร่ำรวย และมีความสุข ความเจริญ ตลอดจนขจัดภัยอันตรายต่างๆที่จะบังเกิดขึ้น

หลังเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมด ชาวบ้านได้แห่ดูน้ำตาเทียนในอ่างน้ำมนต์อีกครั้ง อาจารย์ของวัด บอกว่า น้ำตาเทียนออกมาเป็นรูปของพญาอินทร์แปลง สี่หู ห้าตา ในความเห็นส่วนตัว มองดูจะเห็นน้ำตาเทียนเป็นเลข 45 และ 54 และ 57 จากนั้นทางหลวงปู่ครูบาบุญยัง ท่านเดินไปที่รถเพื่อเดินทางกลับ ชาวบ้านยังตามมาดูทะเบียนรถของหลวงปู่ คือเลข 4997 อีกด้วย

บรรยากาศในวัดสันมะเกี๋ยง ตลอดทั้งวันมีประชาชนชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาร่วมพิธีทำบุญและขอพรไอ่ไข่ท่านพ่อเทิ่มกันจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็จะซื้อของเล่น ติดทองคำเปลว ถวายน้ำแดง เพื่อขอพรและโชคลาภ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จ ตามคำขอที่ได้งานทำ หรือได้รับโชคก็จะจุดประทัดแก้บน หรือประชาชน ที่ได้รับโชคใหญ่จากการมาขอพร ก็จะมาตั้งโรงทาน เลี้ยงอาหารให้กับประชาชนฟรี มีอาหารคาวหวาน นับ 10 เจ้า จนทำให้วันนี้บริเวณรอบองค์ไอ่ไข่ มีชุดทหาร ของเด็กเล่น รูปปั้นไก่ น้ำแดง จนเต็มไปหมด แสดงถึงความศรัทธาที่มีต่อไอ่ไข่

และยิ่งใกล้วันหวยออกประชาชนก็จะทยอย เดินทางมากราบไหว้ขอโชคลาภตลอดทั้งวันจนแน่นวัดและมีเสียงประทัดจุดดังเป็นระยะตลอดทั้งวัน ซึ่งก็เป็นความหวังของคนไทย แต่ทางวัดยังมีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดไข้ และให้ผู้มาร่วมงานสวมหน้ากากอนามัย และวัดเองก็ยังมีมุมที่สวยงาม ให้ประชาชนได้เช็คอินถ่ายภาพ นำไปลงเฟซ ก็จะได้รับสายคล้องแมสฟรี ขณะเดียวกันประชาชนที่มาวัดแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเช่าบูชา เหรียญไอ่ไข่ไว้ติดตัวหรือนำไปบูชา เชื่อว่าจะเกิดโชคลาภ