เชียงใหม่ วัดพระธาตุดอยคำ ให้ความมั่นใจประชาชน จัด จนท.เข้าฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆ ของวัดแล้ว

วัดพระธาตุดอยคำ หลวงพ่อพระเจ้าทันใจ ศรัทธาประชาชนบางตาไปบ้าง หลังเชื้อไวรัสโควิส-19 กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง นักท่องเที่ยวขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิลดน้อยลง  แต่ขอให้มั่นใจทางวัดได้จัดจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่างๆ ขณะที่เทศบาลตำบลแม่เหียะ ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ขึ้นไปฉีดฆ่าเชื้อภายในวัดแล้ว

บรรยากาศที่วัดพระธาตุดอยคำ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ในวันนี้มีศรัทธาประชาชนเดินทางขึ้นมาเพื่อนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งนำดอกมะลิมากราบไหว้หลวงพ่อพระเจ้าทันใจลดน้อย แตกต่างจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีประชาชนเดินทางขึ้นมาทำบุญที่วัดพระธาตุดอยคำวันละหลายพันคน หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิส-19 ขึ้นมาอีกครั้ง ก็ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังมีประชาชนที่ต้องการเดินทางขึ้นไปยังวัดพระธาตุฯอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่วนขณะที่บรรยากาศบริเวณระเบียงจุดชมวิวของวัดก็ยังมีนักท่องเที่ยวบางตาไปบ้าง แต่ก็ยังมีประชาชนพาครอบครัวมาถ่ายภาพความสวยงามของจังหวัดเชียงใหม่และอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งจะมองเห็นด้านหลังหอคำหลวงสวยงาม

เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลแม่เหียะเข้าทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อบริเวณหลวงพ่อพระเจ้าทันใจ


อย่างไรก็ตามผู้ที่จะขึ้นไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนวัดพระธาตุดอยคำ จะต้องสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ซึ่งทางวัดก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง และทางวัดได้จัดน้ำยาฆ่าเชื้อไว้บริการตามจุดต่างๆ นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลแม่เหียะ ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามจุดต่างๆ ภายในวัดแล้ว จึงขอให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นมายังวัดพระธาตุดอยคำ ได้มั่นใจว่าทางวัดได้จัดมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิส-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เชียงใหม่ รองแม่ทัพภาคที่ 3 แนะกอ.รมน.ดตรวจสอบพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานเนื่อง

รองแม่ทัพภาคที่ 3 แนะกอ.รมน.จังหวัดตรวจสอบพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานเนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อประชาชน

จากการเฝ้าตรวจสอบสภาพอากาศและจุดความร้อนสะสมในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า พบว่า มี 2 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมือง จว.พิษณุโลก และ อ.แม่แจ่ม จว.เชียงใหม่ ที่เริ่มมีค่า pm 2.5 pm 10 และ AQI เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันหลายวันในช่วงนี้


พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเข้าตรวจสอบสาเหตุของสภาพอากาศในแต่ละจังหวัด พร้อมแนวทางการแก้ไขในแต่ละจุดเพื่อควบคุมไม่ให้สภาพอากาศส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชน


ทั้งนี้จากการบินสำรวจของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่พบว่า บางพื้นที่ทางโซนเหนือ ด้าน อ.เวียงแหง อ.ฝาง อ.ไชยปราการ มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ที่มีการควบคุมเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อปริมาณฝุ่นละออง เนื่องจากข่วงนี้สภาพอากาศนิ่ง ความกดอากาศสูง จึงต้องควบคุมเป็นพิเศษ


ทางด้าน พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รอง ผอ.รมน.จังหวัด พ.ล.(ท.) ได้รับรายงานจาก นายธีรัชสิทธิ์ วงศ์วาน ผอ.สง.ทสจ.พ.ล./หน.ฝ่ายประสานการปฏิบัติฯ กอ.รมน.จังหวัด พ.ล. มอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง, จ.พิษณุโลก


ผลการตรวจวัด สภาพอากาศช่วงเช้า พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 52 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (?g/m3) อยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งสาเหตุเกิดจากเกิดจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่การเกษตรของ อ.วัดโบสถ์ อ.บางกระทุ่ม อ.บางระกำ และ อ.พรหมพิราม โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ อ.วัดโบสถ์ ป่าสงวน อ.ชาติตระการ ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาวเย็นลง ความกดอากาศสูง ส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้น โดยในขณะนี้ กอ.รมน.จว.พ.ล. ได้จัดเจ้าหน้าที่ของจังหวัด และ อำเภอ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำกับ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ และ ประชาชน ห้ามเผาป่า พื้นที่การเกษตร และให้ช่วยกันดูแลป่า เพื่อสุขภาพของตนเองและผู้อื่น

เชียงใหม่ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ให้พรปีใหม่ประชาชนและผู้บริหารเทศบาลเชิงดอย

เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด ให้พรปีใหม่ประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิส-19 ขณะที่ผู้บริหารเทศบาลตำบลเชิงดอย ทีมฮักบ้านเกิดเดินทางมาขอพรในวันปีใหม่ ประกาศพร้อมทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2564 พระโพธิรังษี เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลวงพ่อได้ให้พรปีใหม่ ประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิส-19 ซึ่งกลับมาระบาดอีกครั้ง คณะบริหารเทศบาลเชิงดอย นำโดยนายชุติพนธ์ หรือนายกฯเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย, นายวิรัช บัวชุม ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีฯ และ นางจิราภา ชินสรนันท์ ปลัดเทศบาล, ว่าที่ ร.ต.ดร.อภิพงค์ คงสัมพันธ์ รองนายกเทศมนตรีฯ นายจรัญ บุษดาคำ เลขานุการสภาฯ นางสาริตา รัตนประกาศิลป์ เลขานุการนายกเทศมนตรีฯ และข้าราชการของเทศบาลตำบลเชิงดอย ที่เดินทางมาถวายสมุนไพรและอาหารเสริมแด่พระคุณเจ้าพระโพธิรังษี เจ้าอาวาสวัดดอยสะเก็ด

ด้านนายชุติพนธ์ หรือนายกฯเฉลิม สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย พร้อมทีมผู้บริหารและทีมทำงานของกลุ่มฮักบ้านเกิด (กลุ่มรักบ้านเกิด) ได้จัดประชุมวางแผนการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในปีนี้ พร้อมจัดงานเลี้ยงขอบคุณทีมงานกลุ่มฮักบ้านเกิดที่ร้านอาหาร ลาบเมืองป้าว ต.สันปูเลย อ.ดอยสะเก็ด ที่ทำงานในหลากหลายอาชีพ เช่น ทำงานด้านปกครองกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน และทำงานใน ทต.เชิงดอย จนทำให้ ต.เชิงดอยได้ก้าวไปอยู่แนวหน้าของประเทศมาแล้ว และได้รับรางวัลต่างๆในระดับชาติมาจำนวนมาก ภายใต้คอนเซ็ปต์ จัดใหญ่ ใหม่ แปลก เพื่อบริหารงานช่วยเหลือและพัฒนาให้หมู่บ้านมานานกว่า 7 ปีจากที่ฝากผลงานไว้มากมากแล้วนั้น ก็ยังจะเดินหน้าทำงานเพื่อพัฒนาหมู่บ้านและช่วยเหลือประชาชนต่อไป ปีใหม่แล้วก็ขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจในการบริหารงาน และขอให้ประชาชน ต.เชิงดอยไว้เนื้อเชื่อใจในการบริหารงานต่อไป.

DCIM100MEDIADJI_0607.JPG

เชียงใหม่ รพ.ราชเวชเชียงใหม่ แจงละเอียดยิบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระยอง

พ.ราชเวชเชียงใหม่ แจงละเอียดยิบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากระยองมาก่อน ศบค.ประกาศ จ.ระยองเป็นพื้นที่เสื่ยง มั่นใจการคัดกรองโรคมีคุณภาพมาตรฐาน

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 ธ.ค. 2563 นายหัสดิน โปรเทียรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่ ทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชน เรื่อง ชี้แจงกรณีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.ระยอง ยืนยันเมื่อ 27 ธ.ค. 2563 ที่ได้เข้ารับการรักษาโรคความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม รพ.ราชเวช เมื่อ 21 ธันวาคม 2563 จริง

รพ.ราชเวช ได้รับรายงานจากทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เวลา 17.45 น. ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของจังหวัดระยอง และมีประวัติเข้ารับการรักษา โรคความดันโลหิตสูงที่คลินิกประกันสังคม รพ.ราชเวช เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ในช่วงเวลา 09.00 – 11.30 น.

รพ.ราชเวช เชียงใหม่ ขอชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้เข้ารับการรักษาที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ในวันและเวลาดังกล่าวจริง ซึ่งในขณะนั้น จ.ระยองยังไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 และยังไม่ได้ประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง (ศบค.ได้ประกาศให้ จ.ระยอง เป็นพื้นที่เสี่ยง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2563) รพ.ราชเวช เชียงใหม่ มีระบบการคัดกรองที่ได้มาตรฐานและมุ่งเน้นความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้รับบริการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ม.ค.2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมีคลินิกคัดกรอง โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ (ARI Clinic) อยู่ด้านนอกอาคาร และมีนโยบายในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำหนดให้ผู้รับบริการรวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตนดังนี้ 1)ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าประตูอาคาร 2)สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่ของโรงพยาบาล 3)ใช้มาตรการการเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด

ผู้ป่วยรายนี้ได้รับการคัดกรองตามระบบของโรงพยาบาล และจากการซักประวัติไม่พบอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และไม่มีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศของ ศบค. ณ ช่วงเวลานั้น จึงสามารถผ่านเข้าไปรับบริการที่คลินิกประกันสังคมได้

หลังจากได้รับข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 เวลา 17.45 น. ทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1)ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับบริการพบว่าผู้ป่วยรายนี้, ผู้รับบริการราย อื่น ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทั้งหมด ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของโรงพยาบาลทุกประการ และผู้ป่วยรายนี้ได้อยู่บริเวณแผนกผู้ป่วยนอกประกันสังคม ชั้น 2 โดยการขึ้น – ลงทางบันได

2)ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น.ได้ติดตามกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูง ได้แก่ บุคคลในครอบครัวผู้ป่วย และผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำ ได้แก่ แพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา เภสัชกร และบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานในขณะนั้น เพื่อเข้ารับการตรวจ RT-PCR for COVID-19 ทันที และทราบผลการตรวจทั้งหมดว่าเป็นลบ (ไม่พบสารพันธุกรรมโคโรน่าไวรัส) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 เวลา 01.00 น. และ 3) เวลา 20.00 น. ปิดให้บริการคลินิกผู้ป่วยประกันสังคมทั้งหมด และทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์ในห้องตรวจทุกประเภท

เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้รับบริการ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ จะคงมาตรฐานการคัดกรองผู้รับบริการทุกท่านที่เข้ามารับบริการที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง อนึ่งหากผู้รับบริการที่เข้ามารับบริการในวันที่ 21 ธ.ค. 2563 ช่วงเวลา 09.00-11.30 น. ณ แผนกผู้ป่วยนอกประกันสังคม ชั้น 2 ถ้าท่านมีอาการผิดปกติสามารถเข้ารับการตรวจ RT-PCR for COVID-19 ที่ รพ.ราชเวช เชียงใหม่ได้ทันที นายหัสดิน โปรเทียรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชเวช เชียงใหม่ ชี้แจงตามเอกสารดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ราชเวชเชียงใหม่ มีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดไข้ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนตั้งแต่ด่านแรก ก่อนเข้าประตูภายในอาคาร หากพบมีไข้ก็จะทำการสอบประวัติว่ามีความเสี่ยงมาจากประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ จากนั้นก็จะคัดแยก ออกมาตรวจนอกอาคาร ตามกระบวนการเข้าห้องกักตัว มีเตียงนอน และตู้ตรวจเสมหะจมูกและคอ และนำตัวเข้าห้องความดันลบ(ฆ่าเชื้อ) เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะทราบผลภายใน 4 ชั่วโมง จากนั้นก็จะแจ้งทางสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ และโรงพยาบลนครพิงค์มารับตัวส่งต่อไปตามขั้นตอนของการกักตัวตามกระบวนการของ ศบค.ต่อไป

วันนี้ทางทีมแพทย์และพยาบาลของ รพ.ราชเวชเชียงใหม่ ก็ยังลงพื้นที่ตรวจคนหากลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อในเชียงใหม่ ตามที่กรมควบคุมแจ้งให้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจพนักงานที่ทำงานในปั๊มน้ำมัน ปตท.แม่ริม ตั้งอยู่แยกไปปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ทั้งหมดมีพนักงานของ ปตท. รวมทั้งเจ้าของร้านค้า และลูกจ้างของร้านค้าต่างๆ จำนวนประมาณ 30 คน เข้ารับการตรวจโรคโควิด-19โดยใช้ตู้ตรวจโรคความดันลบที่มีคุณภาพคือฆ่าเชื้อโรคได้ในตู้ความดันลบดังกล่าว.

เชียงใหม่ พบเลขเด็ด ! ต้นตะเคียน วัดโป่งหลวง อ.ปาย เห็น 2 ตัวชัดมาก

ฮือฮาพบเลขเด็ด ! ต้นตะเคียน วัดโป่งหลวง อ.ปาย เห็น 2 ตัวชัดมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดโป่งหลวง ต.โป่งสา อ.ปาย จ.เชียงใหม่ พบนักท่องเที่ยวและผู้มีจิตกุศลเดินทางไปเยี่ยมนักเรียนโรงเรียนบ้านโป่งสา อ.ปาย เพื่อมอบอุปกรณ์การเรียนและเครื่องอุปโภคบริโภค ต่อมานายพิพัฒน์ บุญปวน ผู้ใหญ่บ้าน ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แนะนำเข้าวัดไหว้พระที่วัดโป่งหลวง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ท่านั่งสมาธิประดิษฐานอยู่กลางวัดให้ประชาชนกราบไหว้ขอพร และทางวัดยังเป็นศูนย์รวมในการเผยแพร่ประวัติพระพุทธศาสนา โดยหมู่บ้านจะพัฒนาวัดเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนโดยจะพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อรวบรวมองค์ความรู้ของชุมชนรวบรวมประวัติชุมชน และองค์ความรู้ด้านศาสนาพุทธศาสนาเพื่อให้ประชาชนเข้าไปเรียนรู้ที่วิหาร กำลังรวบรวมข้อมูลนำเผยแพร่อยู่

ทางวัดยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่มีประวัติยาวนานเล่าสืบต่อกันมาว่า มีชาวลั๊ว หรือชาวละว้า เดินทางมาแสวงบุญที่หมู่บ้านโป่งสาแห่งนี้ แล้วมาขุดบ่อน้ำเพื่อสร้างสถานที่อันเป็นกุศล ตั้งแต่อดีตมาถึงปัจจุบัน น้ำในบ่อแห่งนี้น้ำจะออกมาเองตลอดไม่เคยแห้ง จึงเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของหมู่บ้าน ต่อมามีการสร้างวัดโป่งหลวง ทางวัดจึงมีน้ำใช้ตลอดทั้งปีตลอดมา และน้ำในบ่อดังกล่าวยังแบ่งปันให้ชาวบ้านได้นำไปใช้ได้อีกด้วย

ที่สำคัญในช่วงที่วัดโป่งหลวง กำลังสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่จากไม้ตะเคียน องค์ยืนในวันนี้ สร้างขึ้นจากต้นตะเคียนที่ตายเองตามธรรมชาติต้นใหญ่หลายคนโอบ และในป่าบ้านโป่งสา ก็ยังมีต้นไม้ตะเคียน 6 คนโอบให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมได้อีกด้วย ส่วนไม้ตะเคียนต้นที่ตายนำสร้างพระองค์ยืนทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้อนุญาตให้ชาวบ้านและทางวัดเอาต้นไม้ตะเคียนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้ ชาวบ้านจึงลงความเห็นให้นำต้นตะเคียนถวายวัดโป่งหลวงเพื่อทำประโยชน์นำมาแกะสลักสร้างพระใหญ่องค์ยืน สูง 9 เมตร แล้วนำประดิษฐานไว้ที่วัดเพื่อเป็นมงคลให้กับหมู่บ้านและเป็นศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ชาวบ้านมาขอพร

ตามความเชื่อส่วนบุคคลที่เชื่อกันว่า ไม้คะเคียนหากมาขอพรโดยเฉพาะเรื่องโชคมักจะได้พรตามหวัง และชาวบ้านและนักท่องเที่ยวก็เดินทางไปดูไม้ตะเคียนดังกล่าว พบชัดๆเลยว่า มีเลข 1 กับ 6 ที่เห็นชัดเจน ยิ่งชาวบ้านจะนำแป้งลงไปลูบเพื่อได้เลข ก็ยิ่งเห็นเลข 1 กับ 6 ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังพบเลขอื่นๆ อีก หลายเลข

เชียงใหม่ เครือข่ายสื่อฯเชียงใหม่ จัดกิจกรรม มอบสิ่งของให้ นักเรียนและชาวบ้านโป่งสา

เครือข่ายสื่อฯเชียงใหม่ จัดกิจกรรม มอบอุปกรณ์การเรียน เสื้อกันหนาวให้กับนักเรียนบ้านโป่งสา ส่วนชาวบ้านได้รับผ้าห่มกันหนาว ซึ่งสภาพอากาสที่บ้านโป่งสา ตำบลโปางสา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนเริ่มมีอากาศที่หนาวเย็นต่อเนื่อง

เมื่อช่วงวันที่ 26-27 ธ.ค.2563 นายพิพัฒน์ บุญปวน ผู้ใหญ่บ้าน ต.โป่งสา อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อม นายสุชาติ ชายคำ รักษาการ ผอ.รร.บ้านโป่งสา ได้รับมอบสิ่งของอุปกรณ์การศึกษา เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องกันหนาว และของเล่นเด็กชุดทหารเด็ก รวมทั้งจานดาวเทียมและทีวีขนาด 32 นิ้ว จากนายวสันต์ เจริญตระกูล ผู้สื่อข่าวทีวี ช่อง 3 เชียงใหม่  ผู้ประสานงานกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชน จ.เชียงใหม่ และกลุ่มเครือข่าย ที่เดินทางไปมอบสิ่งของให้ที่ รร.บ้านโป่งสา

smart

เนื่องด้วยโครงการ “ธารน้ำใจ เพื่อน้องหายหนาว” จัดกิจกรรมขึ้นมาก้าวสู่ปีที่ 10 ทางกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชน จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้สื่อข่าวในจังหวัดและกลุ่มสมาชิกฯ ชมรมต่างๆ เช่น กาแฟผีบ้า, เอ๋เซอร์วิส & หมูป่าเอ็นดูโร่ , กลุ่ม HYENA TEAM , วิทยุนครพิงค์ ดีเจหวานใจ เดินทางบริจาคสิ่งของ ให้กับ รร.โป่งสา ที่มีความต้องการรับบริจาค อุปกรณ์ทางการศึกษา เครื่องอุปโภค-บริโภค รวมทั้งเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมอบให้กับชาวบ้านโป่งสา และเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านโป่งสา

smart

รร.บ้านโป่งสา เป็นโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลชนบท สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยราชการไม่มากนัก ทำให้นักเรียนยังขาดอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์การกีฬา และเครื่องอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอุปกรณ์คลายหนาวจำนวนมาก ทาง รร.บ้านโป่งสา จึงได้แจ้งความประสงค์มายังกลุ่มเพื่อนสื่อมวลชน จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับมอบสิ่งของและงบประมาณเดินทางจัดซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้า ทีวี และจานดาวเทียมส่งมอบให้กับหมู่บ้านโป่งสา เพื่อนำไปติดตั้งยังหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน ส่วนเด็กๆได้ของเล่นและชุดทหารจากวัดสันมะเกี๋ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จากที่ประชาชนถวายชุดทหารเด็กและของเล่นให้ไอ้ไข่วัดสันมะเกี๋ยง ก็มอบชุดทหารมาเป็นต้น

ทางโครงการธารน้ำใจ เพื่อน้องหายหนาวต้องขอขอบคุณผู้ที่มีจิตศรัทธาประกอบด้วย #วัดพระธาตุดอยคำ,วัดป่าไม้แดง,วัดสันมะเกี๋ยง, บริษัท วี.พี.เอ็น.คอลเล็คชั่นส์ จำกัด,ตำรวจภูธรภาค 5 , ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ , โครงการ ดีเค.ปาร์ค ถนนมหิดล , สวนสัตว์เชียงใหม่, ปางช้างแม่สา , และผู้สนับสนุนที่ไม่ขอออกนาม ขอให้ประสบความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ได้รับผลที่ดีกลับมาในด้านธุรกิจและด้านครอบครัวต่อไป

smart

smart

smart

smart

เชียงใหม่ ทอดผ้าป่าส่งเสริมพระศาสนาและสร้างห้องน้ำนักเรียนอมก๋อย

ทอดผ้าป่าส่งเสริมพระศาสนาและสร้างห้องน้ำนักเรียนอมก๋อย

ทางคณะศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้รวมตัวกันร่วมบริจาคเงินเพื่อทอดผ้าป่าส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้มีการพัฒนาก่อสร้างอาคารสถานที่ในวัดตามสมควรโดยพันเอก ชัยยันต์ สิรสุนทร และคุณสุรชัย กวินวรพงษ์ร้านอาหารไม้เอกการ์เด้น เชียงใหม่พร้อมคณะเชียงใหม่ ได้ทอดถวายวันที่27ธันวาคม2563 ทอดถวายที่วัดสถิตบุญวาส ตำบล ม่อนจอง อำเภอ อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาวัดให้เจริญต่อไป

นอกจากนั้นยังได้ช่วยสร้างห้องน้ำให้นักเรียน โรงเรียนวัดแม่ตื่นน้อย(โรงเรียนตรีมิตรวิทยา)และได้มอบโรงเย็นสำหรับใส่ศพให้กับวัดเพราะยังขาดแคลนแล้วยังได้มอบผ้าห่มกันหนาว เสื้อผ้ากันหนาวให้กับชาวบ้าน และเด็กนักเรียนเพื่อช่วยคลายความหนาวเย็นของฤดูหนาวนี้เพราะอากาศทางภาคเหนือเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยหมุ่บ้านนี้ห่างไกลจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ห่างไกลความเจริญด้อยโอกาส ทางคณะจึงนัดหมายร่วมสร้างบุญกุศลให้กับตัวเองและคณะเพื่อให้คนอื่นๆทั้งชาวบ้านเด็กนักเรียน คณะครู คณะพระสงฆ์ให้มีความสุขและสืบสานพระพุทธศาสนาต่อไป

เชียงใหม่ เปิดประชุมวิชาการ เหลียวหลัง-แลหน้า เพื่อการแพทย์แบบครบวงจร

เปิดประชุมวิชาการ เหลียวหลัง-แลหน้า เพื่อการแพทย์แบบครบวงจร ในงานสถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มช. เปิดตัวผลงานวิจัยจากฝีมือคนไทย เครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจพร้อมระบบ GPS ใช้ได้จริงและถูกกว่าต่างประเทศถึง 10 เท่า

ที่ห้องเชียงใหม่ ชั้น 2 ศูนย์ประชุมนานาชาติดิเอ็มเพลส โรงแรมดิเอ็มเพลส จังหวัดเชียงใหม่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ “เหลียวหลัง-แลหน้า งานวิจัยมุ่งเป้า การพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินและสาธารณสุขอย่างครบวงจรจากล่างสู่บน” โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 100 คน เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นพ.สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การประชุมวิชาการในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานระบบบริการสุขภาพ โดยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นโคครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบเครือข่ายการจัดบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและเกิดความพิการอย่างรุนแรง โดยขอบเขตของการวิจัยจะครอบคลุมทั้งในดานการป้องกันภาวะเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุฉุกเฉิน ความรอบรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับการช่วยเหลือเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉินสำหรับประชาชน โดยมีโครงการย่อยจำนวน 32 โครงการเข้าร่วม ซึ่งเป็นพื้นที่วิจัยนำร่องในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และน่าน

สำหรับโครงการนี้ถือเป็นการขับเคลื่อนระยะที่ 2 แล้ว ซึ่งระยะแรกที่ดำเนินการนั้น ก็ได้มุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนาระบบให้เชื่อมโยงด้านข้อมูลของผู้ป่วยของโรงพยาบาล ไปจนถึงระดับตำบล เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วในด้านการรักษา แต่เนื่องจากผู้ป่วยบางรายที่ได้เดินทางกลับไปบ้านเพื่อฟื้นฟูร่างกาย กลับเป็นช่วงที่รอยต่อด้านการรักษาขาดหายไป ทำให้ผู้ป่วยบางรายกลายเป็นคนพิการ ซึ่งในระยะที่ 2 และ 3 ในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลในด้านการดูแลผู้ป่วยที่มากขึ้น

ขณะเดียวกันในวันนี้ก็มีผลงานวิจัย ของนายแพทย์ชาญชัย พจมานวิพุธ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ 1 โรงพยาบาลนครพิงค์ โดยเล็งเห็นว่าโรงพยาบาลนครพิงค์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด มีจำนวนเตียงทั้งหมด 609 เตียง แต่เนื่องจากมีผู้รับบริการจำนวนมาก ห้องฉุกเฉินมีความหนาแน่น ระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้ป่วยหนักอยู่ห้องฉุกเฉินนาน ไม่สามารถรับส่งต่อได้ทันต้องรอบริหารจัดการเตียงภายในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลเครือข่ายทั้งในและนอกจังหวัด ด้วยการสื่อสารทางโทรศัพท์ วิทยุสื่อสารเพื่อส่งต่อข้อมูล การบริหารพบปัญหาทั้งด้านการรับรู้และเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชน คุณภาพการประเมินและการช่วยเหลือผู้ป่วยของศูนย์รับแจ้งเหตุการแพทย์ฉุกเฉินและหน่วยบริการที่ออกปฏิบัติการ ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการพัฒนาระบบบริการฉุกเฉินด้านการแพทย์ และสาธารณสุขแบบไร้รอยต่อ จังหวัดเชียงใหม่ขึ้น เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัย สามารถบันทึกรายงานที่รวดเร็ว และไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งคาดว่าจะทดลองใช้โปรแกรมได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นไป

นอกจากนี้สถาบันวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ได้คิดค้นเครื่องตรวจวัดชีจรอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของชีจร ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด ความดันโลหิต และแสดงคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ลึกถึง 12 ลีด ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวได้เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มสื่อสารข้อมูลระหว่างคนไข้ รถพยาบาล และโรงพยาบาล มีระบบ GPS ระบุตำแหน่งของรถพยาบาลได้ตลอดเวลา สามารถส่งข้อมูลคนไข้และสัญญาณชีพพื้นฐานแบบเรียลไทม์ มาให้ศูนย์ข้อมูลที่ดูแลอยู่ได้รับทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้รวดเร็ว แม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้ในห้วงที่ผ่านมาต้องสั่งนำเข้ามาใช้ในราคา 300,000 – 500,000 บาท แต่ปัจจุบันสามารถผลิตขึ้นได้ด้วยฝีมือคนไทย ในราคาเพียง 40,000 บาท ถูกกว่าต่างประเทศถึง 10 เท่า ปัจจุบันได้นำเครื่องดังกล่าวไปทดลองใช้แล้วที่โรงพยาบาลสันทรายกว่า 20 เครื่องในการดูแลผู้ป่วย ถือว่าเป็นความสำเร็จของคนไทย ที่สามารถนำเอาแนวคิด และเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อดูแลผู้ป่วยได้อย่างครบวงจร และน่าภาคภูมิใจเพราะมาจากฝีมือคนไทย ในอนาคตเตรียมต่อยอดไปยังโรงพยาบาลอื่นๆ ต่อไป

เชียงใหม่ วัดสันมะเกี๋ยงเตรียมจัดงานบวงสรวง”ไอ่ไข่” ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วัดสันมะเกี๋ยง เตรียมจัดงานพิธีบวงสรวง “ไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยง” ในวันที่ 26 ธค. 63 พร้อมทำพิธีปลุกเสก ไม้ขนุนตายพราย “แม่สองนาง” ที่แกะสลักจากต้นขนุนที่แห้งตาย และพิธีสะเดาะเคราะห์ส่งท้ายปี โดยนินมต์พระครูโสภณบุญโญภาส เจ้าคณะตำบลหารแก้ว ณ วัดศรีสว่าว(วัวลาย) ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่มาทำพิธี

พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ดพระอารามหลวง เจริญพรว่า ทางวัดสันมะเกี๋ยงเตรียมจัดพิธีบวงสรวง “ไอ่ไข่ วัดสันมะเกี๋ยง “ ในวันที่ 26 ธค. 2563 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป เป็นการบวงสรวงไอ่ไข่ วัดสันมะเกี๋ยง พร้อมพิธีสะเดาะเคราะห์ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยนินมต์พระครูโสภณบุญโญภาส เจ้าคณะตำบลหารแก้ว ณ วัดศรีสว่าว(วัวลาย) ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่มาทำพิธี

นอกจากนั้นทางวัดได้ทำพิธีปลุกเสก“ไม้ขนุนตายพราย แม่สองนาง” ที่แกะสลักมาจากต้นขนุนที่แห้งตายในหมู่บ้าน นำไปแกะสลักเป็นหญิงสาว 2 คน โดยไม้ขนุนตายพราย คือต้นไม้ขนุนที่ยืนต้นตาย เป็นไม้ที่ เทพ เทวดา ที่สถิตย์อยู่ในต้นไม้ขนุน ถ้าต้นใดหมดอายุไขแล้วจะพลีต้นยืนต้นตาย เรียกว่าตายพรายผู้คนต่างหามาไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลหรือนำมาบูชา เมื่อทำพิธีปลุกเสกก็จะนำมาตั้งไว้ให้ประชาชนที่เดินทางมาขอพรไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยงได้กราบไหว้ขอพร


อย่างไรก็ดีฝากเชิญชวนประชาชนเดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวง “ไอ่ไข่วัดสันมะเกี๋ยง” จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 26 ธค. เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว นอกจากนั้นยังได้ร่วมพิธีสะเดาะเคราะห์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในปีใหม่ที่จะถึงนี้ พร้อมบูชา”ไอ่ไข่ รุ่นยกฐานะ 64″ ขอไหว้ได้รับ ซึ่งมีผู้นำไปบูชาสัมฤทธิ์ผลก็เดินทางกลับมาแก้บนด้วยการจุดประทัดแก้บนไอ้ไข่กันอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่ สหกรณ์การเกษตรพร้าวขายข้าวให้แอมเวย์เริ่มส่งปีใหม่

เกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิได้เฮ สหกรณ์การเกษตรพร้าวขายข้าวให้แอมเวย์เริ่มส่งปีใหม่

นายนิกร ทะกลกิจ ประธานสหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้ประชุมสรุปเรื่องการส่งข้าวหอมมะลิของสหกรณ์ในเดือนมกราคม พ.ศ.2564 ที่ต้องส่งข้าวหอมมะลิ 100% ให้ลูกค้ารายใหญ่ คือ แอมเวย์ กำหนดการส่งในต้นปีหน้า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเริ่มต้นปีใหม่แล้วมีลูกค้าให้ส่งข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุดในภาคเหนือเพื่อส่งถึงผู้บริโภคทั่วประเทศได้รับประทานข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพและได้มาตราฐานสากล ซึ่งมาตรฐานที่ได้รับ มีมาตราฐานการผลิตในโรงสี GMP Codex, HACCP, ISO 9001-9008, ISO 2200-2005 มกษ. 4403-2553 มาตราฐานผลิตภัณฑ์ มกษ.4000-2546, อย., ฮาลาน, OTOP และ สมส. และยังได้รับมาตรฐานอื่นๆอีกจำนวนมาก

พื้นที่ปลูกข้าวของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรพร้าว อ.พร้าว อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ จ.เชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 89 กม. พื้นที่ อ.พร้าว ล้อมรอบด้วยป่าไม้และภูเขา มีพื้นที่ราบลุ่มเป็นบางส่วน มีพื้นที่ 2,021 ตรม.ประชากรส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทำให้เกษตรกรจึงรวมตัวจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรพร้าวขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2520 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ อ.พร้าวเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

อ.พร้าว มีแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำแม่งัดที่ไหลลงสู่แม่น้ำปิง จึงมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สหกรณ์การเกษตรพร้าว ได้ส่งเสริมให้สมาชิกปลูกข้าวคุณภาพแบบครบวงจรเพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ รวมทั้งผลผลิตคุณภาพมาตราฐานตามความต้องการของตลาด สร้างมูลค่าภายใต้นโยบาย “มุ่งมั่นในการค้าการผลิตสินค้าคุณภาพและปลอดภัย เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” และสอดคลองกับแผนการเชื่อมโยงงานโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ การผลิตข้าวครบวงจร มาตราฐานสินค้าเกษตร

สหกรณ์การเกษตรพร้าว มีโรงสีข้าวสารคุณภาพจากแหล่งต้นนำที่ดี การันตีระดับสากล ธนาคารข้าวสถาบันการเกษตรเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกสหกรณ์และการเกษตรทั่วไป เป็นแหล่งสำรองเมล็ดพันธุ์และปัจจัยการผลิตทางการเกษตรรวมทั้งเครื่องอุปโภคบริโภค ยืมไปใช้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตรและการดำรงชีพได้อีกด้วย ยังมีบริการด้านต่างๆ มี ธุรกิจสินเชื้อ ธุรกิจผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจปั๊มน้ำมัน และธุรกิจแปรรูปต่างๆอีกด้วย ผู้สนใจศึกษาดูงานและสั่งสินค้าติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด เลขที่ 256 ม.4 ถนนปิงโค้ง-พร้าว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ www.coopthai.com / proud เวลา 09.00-15.00 น.ทุกวัน(หยุดวันเสาร์-อาทิตย์).