เชียงใหม่ เจ้าของปางช้างแม่สาและชาวเขาร่วมทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ถวายเป็นพระราชกุศล

ผู้บริหารปางช้างแม่สาและชาวเขาเผ่าดาราอั้ง ร่วมทำบุญตักบาตรกลางนาข้าว ซึ่งพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ก็เป็นพนักงานและควาญช้างของปางช้างแม่สา ที่ร่วมกันบวชเพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563 

ชาวเขาเผ่าดาราอั้ง หรือ เผ่าปะหล่อง ที่อาศัยอยู่ที่บ้านโต้งหลวง ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูปกลางทุ่งนา ซึ่งพระสงฆ์ทั้ง 9 รูป เป็นพนักงานและควาญช้างของปางช้างแม่สา ที่บวชเพื่อถวายเป็นพระกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563 เมื่อ 20 วันก่อน พร้อมโปรดสัตย์ช้างที่เลี้ยงไว้ในปางช้างแม่สา เป็นช้างพังแม่อ้วน อายุ 71 ปี


นางอัญชลี กัลมาพิจิตร กรรมการผู้จักการใหญ่ปางช้างแม่สา เปิดเผยว่า ปางช้างแม่สามีช้างอยู่ทั้งหมด 76 แยกเป็นช้างชรา 15 เชือก และเช้าวันนี้ปางช้างแม่สา ก็ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 9 รูป ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่บวชเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา ซึ่งบวชที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อ 20 วันก่อน และเดินทางกลับมายังปางช้างแม่สา จึงได้นิมนต์พระสงฆ์ทั้ง 9 รูป ตักบาตรกับชาวเขาเผ่าดาราอั้ง ซึ่งเป็นชนเผ่าที่เลี้ยงช้าง พระสงฆ์ที่บวชก็เป็นพนักงานของปางช้างส่วนหนึ่งและควาญช้าง

สำหรับสถานที่จัดงานได้จัดขึ้นที่หมู่บ้าน“เดอะช้าง วิลเลจ” ของปางช้างแม่สา เป็นสถานแห่งใหม่ที่คืนพื้นที่ให้กับช้าง ก่อนหน้านี้ได้ทำเป็นหมู่บ้านชนเผ่า แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพราระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก จึงได้ปรับเปลี่ยนเป็นนิวนอร์มอล ทำเป็นหมู่บ้านของช้าง นำช้างเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่ มีบ้านของช้างชรา ที่เรียกว่าเป็นบ้านหลังสุดท้ายของช้าง และหมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังแบ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมมีนาข้าวปลูกข้าวเหนียวออแกนิกเลี้ยงช้าง เป็นอินทรีย์ทั้งหมด และแบ่งเป็นพื้นที่ทำเกษตรเพื่อที่จะเลี้ยงพนักงานปางช้าง แบ่งเป็นแปลงปลูกหญ้าเลี้ยงช้าง ซึ่งปางช้างแม่สายังปรับเปลี่ยนเป็นนิวนอร์มอล โดยปางช้างแม่สาได้เปิดให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่กันมากๆ และขอให้มาดูช้างที่ปางช้างแม่สา มาร่วมกันเลี้ยงช้าง ป้อนอาหารช้าง พร้อมมีกิจกรรมต่างๆ มากมายที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังปางช้างแม่สาแห่งนี้

เชียงใหม่ พุทธศาสนิกชนร่วมพิธียกฉัตรทองคำรวมอัญมณีหนักกว่า 6 กก.ขึ้นยอดมหาเจดีย์วัดโลกโมฬี

พระมหาเถระ และพุทธศาสนิกชนชาวเชียงใหม่ ประกอบพิธีอัญเชิญ “ฉัตรทองคำ” น้ำหนักรวมอัญมณีกว่า 6 กก.ขึ้นสู่ยอดมหาเจดีย์วัดโลกโมฬี อายุ 600 ปี ร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหามหาราชินี นำบุญโดย “พระครูปลัดธีร์นวัช” นักเทศน์ธรรมาสน์ทอง และคณะสยามบวร ช่างฟ้อน 156 คนฟ้อนพื้นเมืองถวาย

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ที่วัดโลกโมฬี อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีอัญเชิญฉัตรทองคำจากประตูช้างเผือก เข้าสู่วัดโลกโมฬี แล้วประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ อันเชิญฉัตร และยอดฉัตรทองคำขึ้นประดิษฐานเหนือมหาเจติยะธาตุเจ้าโลกโมฬี โดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี รองเจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ มีพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระเทพสิงหวราจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ พระราชรัชมุนี เจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ พระภาวนาธรรมวิรัช วิ. รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ และพระศรีศิลปาจารย์ วัดพระธาตุศรีจอมทองฯ เป็นต้นเจริญพระพุทธมนต์ นอกจากนั้นยังมีพระเถระนั่งปรกแผ่เมตตาจิตอีก 2 รูป

โครงการบูรณะฉัตร และยอดฉัตรองค์เจดีย์วัดโลกโมฬี อายุ 600 กว่าปี หลังจากพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี ได้ฟื้นฟูบูรณะจากวัดร้างเป็นวัดมีพระสงฆ์จำพรรษา ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ก็ได้บูรณะครั้งหนึ่ง มาถึงครั้งนี้ พระครูไพบูลเจติยุนรักษ์ ดร.ประธานสงฆ์วัดโลกโมฬี ได้เสนอให้พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทธิวาที (พระเทศน์ธรรมาสน์ทอง)สัทธิวิหาริกในพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี รับเป็นเจ้าภาพ พร้อมด้วยคณะสยามบวร ศิษยานุศิษย์ และศรัทธาประชาชน โดยสร้างยอดฉัตรใหม่ห่อหุ้มด้วยทองคำ และอัญมณี น้ำหนักกว่า 6 กก. รวมมูลค่าหลายล้านบาท เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2563 และเป็นเนื้อนาบุญแก่ทุกคนไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ หลังการสร้างฉัตร และยอดฉัตรทองคำแล้ว พระครูปลัดธีร์วัช ได้เชิญไปให้พระมหาเถระแผ่เมตตา และเจิมเพื่อความเป็นสิริมงคล ต่อมาค่ำวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกสมโภช “ยอดพระมหารัตนโมฬีโลกนาถ นพบุรีสัตมาศ บรมฉัตร กำลังแผ่นดิน” โดยพระมหาเถระจุดเทียนชัย / พระสงฆ์สวดมนต์ตั๋นแบบล้านนา และพิธีสวดเบิกโดยคณะวัดศรีโสดา พระอารามหลวง ต่อมาเช้าวันที่ 14 สิงหาคม 2563 มีพิธีบวงสรวง พิทธาจารย์ นำพิธีบอกกล่าวเทพยดา อดีตบูรพกษัตริย์ ผู้สถาปนาวัดโลกโมฬี

จากนั้น จึงเข้าสู่พิธีอัญเชิญยอดพระมหารัตนโมฬีโลกนาถนพบุรีสัตมาศ บรมฉัตร กำลังแผ่นดิน ไปตั้งที่ประตูชัยช้างเผือกเพื่อแห่อัญเชิญไปสู่เขตพุทธสถานวิหารวัดโลกโมฬีโดยคณะขบวนแห่จากวิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ (ดร.กษมา ประสงค์เจริญ ผอ.)เมื่อเข้าสู่วัด คณะฟ้อนเล็บจากชมรมลูกเสือชาวบ้านจังหวัดเชียงใหม่ 139 คน(โดยนายสมศักดิ์ อ่อนอ้น ประธานชมรมฯ) ฟ้อนเล็บเพลง “ดารารัศมี” ต้อนรับขบวนแห่ยอดฉัตรทองคำ ส่วนภายในวิหารมีคณะศรัทธาเจ้าภาพทั้งจากส่วนกลาง และเชียงใหม่ รวมถึงพี่น้องชนเผ่าชาวปาปะกาญอจากวัดวังหลวง อ.ดอยเต่า ก็มาร่วมบุญด้วย

พิธีจุดเทียนชัย เจริญพระพุทธมนต์ และพระเดชพระคุณพระธรรมเสนาบดี เป็นประธานพิธียกยอดฉัตรพระมหารัตนโมฬีโลกนาถ นพบุรีสัตมาศ บรมฉัตร กำลังแผ่นดิน ขึ้นประดิษฐานเนือมหาเจติยะธาตุเจ้าโลกโมฬีเสร็จแล้วถวายภัตตาหารเพล และเปิดโรงทานเลี้ยงประชาชนที่ร่วมงาน โดยการพิธีทั้งปวงสำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อยด้วยดี ทั้งที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหนา ทำท่าจะมีฝนตก ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการยกฉัตร และยอดฉัตรทองคำขึ้นโดยรถเครนยกคันใหญ่ของบริษัทนิ่มซี่เส็ง จก. แต่ฝนก็หยุดจนพิธีแล้วเสร็จบริบูรณ์ พระธาตุเจดีย์วัดโลกโมฬี มีสีทองอร่ามสวยงามตระการตา ฝนจึงเริ่มโปรยปรายลงมา สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้ร่วมพิธีจำนวนมาก.

เชียงใหม่ วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้วจัดพิธีสืบชะตาแบบล้านนา ถวายเป็นพระราชกุศล

วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ร่วมกับ ศรัทธาประชาชนชาวตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมแม่ของแผ่นดิน ถวายพระพรชัยมลคลเฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563

ที่วัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายจิรชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำข้าราชการ ประชาชนชาวตำบลสันปูเลย ร่วมกิจกรรมแม่ของแผ่นดิน ถวายพระพรชัยมลคลเฉลิมพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 12 สิงหาคม 2563 ซึ่งคณะสงฆ์ตำบลสันปูเลยร่วมกับวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว โดยครูบาน้อย เขมปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ นวัคคหายุสมธัมม์มงคลถวายเป็นพระราชกุศล บนวิหารหลวง บูชาพระรัตนตรัยและอาราธนาศิล รับศิล พระสงฆ์ทำพิธีสืบชะตาแบบล้านนา และบายศรีสู่ขวัญถวายเป็นพระราชกุศล


หลังเสร็จสิ้นพิธี นายจิรชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด ได้มอบเกียรติบัตรแม่ดีเด่นของตำบลสันปูเลย จำนวน 15 คน 15 หมู่บ้าน ซึ่งคุณแม่อุ้ยสุข คำยอดใจ อายุ 102 ปี เป็นคุณแม่ดีเด่นอายุมากที่สุดที่ได้รับเกียรติบัตรแม่ดีเด่น จากนั้นนายอำเภอดอยสะเก็ด พร้อมข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้ร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา โดยครูบาน้อย เขมปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวัดสันปูเลยสะหลีเวียงแก้ว ได้ถวายผ้าป่า โดยมอบเงินขวัญถุงกองทุน “แม่ของแผ่นดิน” ตำบลสันปูเลย จำนวน 1 แสนบาท พร้อมได้จัดจุดพลุดอกไม้ไฟถวายพระพรจำนวน 108 ดวงอีกด้วย

 

เชียงใหม่ น้ำพุร้อนสันกำแพงเชิญชวนครอบครัวเที่ยววันแม่ 12 สิงหาคุณแม่เข้าฟรี

น้ำพุร้อนสันกำแพงเชิญชวนนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนเพื่อสุขภาพ ต้มไข่ไก่ในน้ำแร่รับประทาน อาบน้ำแร่-แช่เท้าในน้ำแร่ โดยในวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ คุณแม่เข้าฟรีโดยไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู

นางสารภี ศิลา ผู้จัดการกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ เชิญชวนนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาพักผ่อนเพื่อสุขภาพที่น้ำพุร้อนสันกำแพง โดยเฉพาะในวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติที่จะถึงนี้ เปิดให้คุณแม่เข้าเที่ยวน้ำพุร้อนสันกำแพงฟรีซึ่งก็จัดเป็นประจำทุกปี โดยน้ำพุร้อนสันกำแพงก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เปิดให้บริการไปในช่วงวิฤกตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา


สำหรับน้ำพุร้อนสันกำแพงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยใช้น้ำแร่ร้อนในเรื่องของการรักษาสุขภาพและเปิดบริการทุกโซน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เข้ามาสามารถใช้บริการได้เลยคือลำธารแช่เท้า หรือนักท่องเที่ยวซื้อไข่ไก่ไปต้มน้ำแร่ แล้วนำไปรับประทานขณะแช่เท้าได้ประโยชน์ทางโภชนาการและสุขภาพอีกด้วย ซึ่งได้สนับสนุนซื้อไข่ไก่จากฟาร์มของสหกรณ์การเกษตรในตำบลบ้านสหกรณ์ ที่เป็นผู้ร่วมทุนในการลงทุนของน้ำพุร้อนสันกำแพง ของสหกรณ์การเกษตรจากตำบลบ้านสหกรณ์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 ตามมติของอนุกรรมการบริหารจัดการกิจการน้ำพุร้อนสันกำแพง

นอกจากลำธารแช่เท้าแล้ว น้ำพุร้อนสันกำแพงยังมีห้องแช่น้ำแร่อีก 53 ห้อง เป็นห้องแช่น้ำแร่ที่แยกเป็นโซนหญิง-ชาย สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นอ่างแบบไหน เป็นอ่างแบบยุโรป อ่างแบบญี่ปุ่นหรือเป็นห้องแช่รวม ที่แช่ได้ 10-15 คน มีบริการครบวงจร และยังมีการนวดซึ่งน่าจะทำควบคู่กัน เพราะการนวดจะทำให้คลายกล้ามเนื้อ ร่างกายมีความยึดหยุ่นพร้อมจะรับประโยชน์จากน้ำแร่ได้เป็นอย่างดี เมื่อมาน้ำพุร้อนสันกำแพงแล้วทุกท่านก็จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ส่วนห้องพักก็มีอยู่ 18 ห้องและทุกห้องก็จะมีห้องแช่น้ำแร่บริการอีกด้วย

ส่วนในเรื่องมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ทางน้ำพุร้อนสันกำแพงก็มีมาตรการคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการโดยจัดให้จอดรถที่ลานจอดรถด้านนอก และให้เดินเข้ามาโดยผ่านขบวนการคัดกรองตามมาตรฐาน มีการเช็คอุณหภูมิร่างกาย สวมใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งมีการให้เข้าไปในแอปพลิเคชั่น“ไทยชนะ” เพื่อที่จะได้รวบรวมข้อมูลไว้ในเรื่องของการเดินทาง เพื่อประโยชน์ในการติดตาม ซึ่งได้ดำเนินการตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการ ส่วนผู้ที่มีปัญหาการเดินเท้าเข้ามาระยะทางประมาณ 500 เมตร ทางเราก็มีบริการรถวิวแชร์ สำหรับผู้ที่มาปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว จะได้เดินทางมาเข้าได้สะดวก มีการจัดระยะที่นั่ง เพื่อไม่ให้มีปัญหาในเรื่องการแพร่กระจายของเชื่อไวรัสโคโรน่า ส่วนบัตรผ่านประตูคนไทยผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท เปิดให้บริการทุกวัน

 

เชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่ดีเซลที่ชื่นชอบรถแต่งรวมตัวถวายเทียนพรรษา

กลุ่มเชียงใหม่ดีเซล ซึ่งเป็นกลุ่มแต่งรถสวยที่ชื่นชอบเครื่องยนต์ดีเซล จัดขบวนรถกว่า 150 คัน ถวายเทียนพรรษาที่วัดต้นผึ้ง อำเภอดอยสะเก็ด เป็นการรวมตัวเพื่อสร้างกิจกรรมดีๆ ให้กับสังคม พร้อมไม่สนับสนุนให้แต่งรถผิดกฏหมาย

ที่วัดต้นผึ้ง บ้านต้นผึ้ง หมู่ 7 ตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มเชียงใหม่ดีเซล ซึ่งเป็นกลุ่มหลากหลายอาชีพที่ชื่นชอบการแต่งรถยนต์กระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจำนวนกว่า 150 คัน เดินทางมาที่วัดแห่งนี้เพื่อถวายเทียนพรรษา เนื่องในวันเข้าพรรษา พร้อมถวายสังฆทานให้กับทางวัด เพื่อเป็นพุทธบูชา

นายเกรียงไกร สุนันต๊ะ ประธานกลุ่มเชียงใหม่ดีเซล และนายประพต รัชวัตร์ ประชาสัมพันธ์กลุ่มฯ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นกิจกรรมถวายเทียนพรรษาครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วจัดขึ้นที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จริงๆแล้วการถวายเทียนพรรษาต้องถวายก่อนเข้าพรรษา แต่ก็ติดเรื่องของ พรก.ฉุกเฉิน ห้ามรวมตัวกันแต่ขณะนี้รัฐบาลได้ปลดล็อก จึงได้มาจัดกิจกรรมถวายเทียนพรรษาที่วัดต้นผึ้งแห่งนี้ ซึ่งกลุ่มเชียงใหม่ดีเซลเป็นการรวมกลุ่มของคนรักเครื่องยนต์ดีเซลในจังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง รวมตัวกันเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องเครื่องยนต์ ออกทำกิจกรรมร่วมกัน สร้างความดีช่วยเหลือสังคม เป็นงานจิตสาธารณะ ทำเผื่อการกุศลเป็นหลักโดยมีสมาชิกกว่า 6 พันคน


สำหรับการควบคุมกลุ่มสมาชิกเชียงใหม่ดีเซล ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรถที่ปรับแต่งเครื่องยนต์นั้น ทางกลุ่มจะเน้นเป็นรถที่แต่งแล้วถูกกฏหมาย สีรถและการโหลดเตี้ยก็ต้องแจ้งกับทางขนส่ง ท่อไอเสียไม่ควรจะดัง ควันรถไม่ดำทำตามที่กฏหมายกำหนด ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบการแต่งรถสวยงาม โดยที่ทางกลุ่มไม่สนับสนุนให้สมาชิกไปสร้างความเดือดร้อนกับสังคมแต่กรณีที่สมาชิกไปสร้างความเดือดร้อนมีปัญหาเกิกขึ้นก็เป็นไปเฉพาะตัวบุคคล ทางกลุ่มก็จะทำการว่ากล่าวตักเตือนไปเป็นกรณีไป

 

เชียงใหม่ วัดสันมะเกี๋ยงบริจาคโลงศพให้ผู้ยากไร้

วัดสันมะเกี๋ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ บริจาคโลงศพให้กับผู้ยากไร้ที่สูญเสียญาติมิตรบุพการี และหน่วยงาน องค์กรสาธารณะกุศล หน่วยกู้ชีพ,กู้ภัย สามารถมาติดต่อโดยตรงได้ที่วัด ส่วนผู้ที่มีจิตศรัทธาต้องการบริจาคโลงศพเพื่อทำบุญ สามารถทำได้หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลข 089-5584332 ทุกวัน หรือจะมาบริจาคด้วยตัวเองทางวัดก็รับบริจาคโลงละ 2,000 บาท

พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด เจริญพรว่า ทางวัดสันมะเกี๋ยง ตำบลสำราษราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีโครงการบริจาคโลงศพให้กับผู้ยากไร้มานานกว่า 4 ปีแล้ว ได้บริจาคโลงศพให้กับผู้ยากไร้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 200 โลง เมื่อญาติพี่น้องหรือบุพการีได้เสียชีวิตไป ฐานะทางบ้านยากจน ขัดสนไม่มีเงินที่จะบำเพ็ญกุศลศพทางวัดสันมะเกี๋ยงก็มีโครงการบริจาคโลงศพเพื่อผู้ยากไร้ขึ้นมาสงเคราะห์กับครอบครัวสูญเสียผู้อันเป็นที่รักในครอบครัวไป ซึ่งฐานะทางครอบครัวนั้นยากจน โดยผู้ที่มาขอรับโลงศพ ไม่ต้องนำหลักฐานใดๆ มาประกอบ ไม่ว่าจะเป็นใบมรณะบัตร บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต ทางวัดไม่ได้เก็บหลักฐานเหล่านั้น ซึ่งวัดจึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นมา เพื่ออนุเคราะห์ให้กับครอบครัวเหล่านั้น ได้นำโลงศพที่มีผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคมาให้กับทางวัดนำไปใช้บรรจุร่างผู้ที่เสียชีวิตบำเพ็ญกุศลศพต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจจะบริจาคโลงศพให้กับทางวัดสันมะเกี๋ยงก็สามารถติดต่อได้ที่วัดสันมะเกี๋ยง ซึ่งทางวัดจะได้นำเงินที่ได้รับบริจาคทุกบาททุกสตางค์ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้ผู้บริจาคได้บุญกุศล สามารถสอบถามได้ที่หมายเลข 089-5584332 ทุกวัน หรือจะมาบริจาคด้วยตัวเองทางวัดก็รับบริจาคโลงละ 2,000 บาท เพื่อจะมอบให้กับหน่วยงาน องค์กรสาธารณะกุศล หน่วยกู้ชีพ,กู้ภัย ที่มาขอรับบริจาคจากทางวัดก็จะจัดสรรให้กับองค์กรเหล่านั้น ตามสมควรที่จะมอบให้สืบต่อไป


พระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ เจริญพรอีกว่า อนิสงฆ์ของการบริจาคโลงศพ ซึ่งโลงศพนั้นเปรียบเสมือนบ้านหลังสุดท้ายของคน การบริจาคโลงศพก็จะได้บุญกุศล และเป็นการอุทิศบุญกุศลเหล่านั้น ซึ่งบางคนก็ถือเป็นความเชื่อที่ว่า เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับบรรพบุรุษทั้งหลายที่เสียชีวิตไป บุญกุศลก็จะย้อนกลับมาถึงผู้บริจาคให้ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย อีกทั้งยังเป็นการแก้ดวงแก้ปีชงต่างๆ เป็นการทำบุญสะเดาะห์เคราะห์ เปลี่ยนเคราะห์กรรมให้เป็นโชคลาภ ความอยู่ดีมีสุขนี้คืออนิสงฆ์ของการบริจาคโลงศพ

เชียงใหม่ ชาวเหนือได้เฮ ! จุรินทร์ ลุยเปิดด่าน กิ่วผาวอก-บ้านหลักแต่ง เร่งค้าชายแดน

ชาวเหนือได้เฮ ! จุรินทร์ ลุยเปิดด่าน กิ่วผาวอก-บ้านหลักแต่ง เร่งค้าชายแดน เพิ่มตัวเลขการค้าเมียนม่า-เชียงใหม่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นบ้านอรุโณทัย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่โดยสำรวจพื้นที่จุดผ่อนปรนการค้ากิ่วผาวอก ติดตามนโยบายการค้าชายแดนเพื่อสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกษตร ของประเทศไทย -ผลักดันการเปิดด่าน โดยได้มีการประชุมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ก่อนการสำรวจพื้นที่ ชายแดนร่วมกับทุกฝ่ายด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รับฟังข้อมูลด้านชายแดนจากฝ่ายความมั่นคงและพื้นที่ ตรงพิกัดด่านกิ่วผาวอก และ กล่าวว่าข้อสรุปการประชุมทุกฝ่ายในวันนี้มีความคืบหน้าคือให้มีการเตรียมการจากฝั่งไทยโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อเตรียมการประชุมทุกฝ่ายในวันนี้ได้ข้อสรุปเบื้องต้น ว่าในเรื่องการที่จะหาหนทางให้พม่าเห็นด้วยก็จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ขอให้ทุกฝ่ายประสานกับทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมหากฝ่ายเมียนม่าเห็นชอบ พร้อมเมื่อไหร่ให้ทางเราดำเนินการทันทีภายในหนึ่งเดือน และเมื่อต้องดำเนินการให้แบ่งหน้าที่ 4 ส่วน คือ

1.ขอให้ฝ่ายความมั่นคง คือแม่ทัพภาคถือเป็นตัวแทนไปหารือหน่วยงานความมั่นคงของเมียนม่า เพื่อเจรจาให้เกิดผลสำเร็จ


2.กระทรวงต่างประเทศของไทยให้ประสานกับกระทรวงต่างประเทศของพม่าเพื่อหยิบยกประเด็น


3.ในส่วนของภาครัฐ กระทรวงพาณิชย์โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะรับหน้าที่หารือเรื่องนี้กับทูตเมียนม่าประจำประเทศไทยจะหารือกับทูตพาณิชย์ประจำประเทศไทยว่าจะมีลู่ทางอะไรได้ จะเป็นการช่วยอีกทางหนึ่ง และขณะเดียวกันก็จะสั่งให้ทูตพาณิชย์ไทยประจำเมียนม่า ได้ประสานกับทูตไทยประจำเมียนม่าได้ผลักดันช่วยกัน


4. ภาคเอกชนไทย กับ ภาคเอกชนเมียนม่าจะต้องประสานกันที่จะช่วยเจรจาให้รัฐบาลเมียนม่าอีกทางหนึ่ง เพื่อที่จะช่วยกันหลายลู่ทาง เพราะเป็นเรื่อง เศรษฐกิจ โดยมอบให้สมาคมเศรษฐกิจวัฒนธรรมไทย-เมียนม่า สภาอุตสาหกรรม หอการค้าไทย ร่วมมือกันประสานงาน

เชียงใหม่ จุรินทร์ ประกาศ อมก๋อยโมเดล หาตลาดให้สินค้าเกษตรบนดอย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ทนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พบปะและร่วมรับฟังปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง

(1 สค.) ที่หอประชุมที่ว่าการอําเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนสินค้าทางการเกษตร (มะเขือเทศ ผัก และ บุก) มอบถุงยังชีพบรรเทาทุกข์แก่ประชาชน และปรุงอาหารมอบข้าว กล่องให้แก่พี่น้องประชาชน ติดตามโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 4 (พิเศษ)


นายจุรินทร์ ใช้โอกาสนี้พบปะประชาชนชาติพันธุ์กว่า 2000 คน และกล่าวว่า ดีใจที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมพี่น้องชาวอมก๋อยได้ และทราบจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่บอกว่าอมก๋อยไม่ค่อยได้มีโอกาสต้อนรับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาล ซึ่งล่าสุดปี 2547 ผ่านมา 17 ปีแล้ว วันนี้ขอทำหน้าที่แทนรัฐบาลและแทนกระทรวงพาณิชย์ มาเยี่ยมพี่น้องที่นี่ มาช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้อง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้หาคนรับซื้อพืชเกษตร 5 ตัวให้กับพี่น้องคือ มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ฟักทอง พริกและบุก เพื่อให้พี่น้องมีหลักประกันว่าต่อไปนี้เค้าจะมารับซื้อในราคาขั้นต่ำว่าไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละเท่าไร โดยมีพรรคพวกของพี่น้องเองเป็นผู้รวบรวมผลผลิตอาจจะเรียกว่าสหกรณ์หรือกลุ่มสหกรณ์เป็นต้นรวมตัวกันรวมตัวกันและขายให้กับผู้รับซื้อที่กระทรวงพาณิชย์นำมาซื้อโดยให้ทำสัญญากันเลยโดยวันนี้จะมีการเซ็นสัญญา 10 สัญญาและตัวแทนเกษตรกรของพี่น้องที่จะมาเซ็นสัญญาจะไปรวบรวมผลผลิตจากพี่น้องตามราคาที่เซ็นสัญญาพี่น้องก็จะมีหลักประกันในการขายผลผลิตทางการเกษตรในราคาที่เป็นธรรมและแน่นอนชัดเจนขึ้น

นายจุรินทร์ระบุว่า เมื่อวานนี้มีโอกาสมานั่งคุยกับพวกเราที่ใต้ต้นมะเดื่อ 30 – 40 คน รับทราบว่าพี่น้องที่นี่ปลูกมะเขือเทศมีปัญหามากเพราะว่าเวลาที่น้องปลูกมะเขือเสร็จ ส่งไปขายเป็นเดือนแล้วยังไม่รู้ว่ามะเขือเทศได้กิโลกรัมละกี่บาทจะมารู้ที่หลังซึ่งไม่ยุติธรรมดังนั้นต่อไปนี้การรับซื้อมะเขือเทศจะต้องปิดป้ายราคารับซื้อไว้ให้ชัดเจนทุกวัน ตนจะมอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในลงนามกำหนดว่าการลงรับซื้อมะเขือเทศต้องประกาศปิดป้ายราคา

วันนี้ตนพาผู้ซื้อมาเซ็นสัญญา มะเขือเทศ กำหนดราคาว่าเบอร์หนึ่งให้รับซื้อกิโลกรัมละ 34 บาท เบอร์สอง 32 บาท เบอร์สาม 20 บาท แต่จะมาเซ็นสัญญา 3 เดือนก่อน ตั้งแต่สิงหาคม-ตุลาคม แล้วจะมาเซ็นสัญญารับซื้อ 2,300 ตัน โดยผู้ที่รวบรวมเซ็นสัญญาจะต้องไปกระจายแบ่งกันไป กับผู้ปลูกมะเขือเทศที่ลงทะเบียน พี่น้องต้องมาลงทะเบียนจะได้มีชื่ออยู่ในระบบ มอบหมายให้นายอำเภอและเกษตรจังหวัดรวมทั้งพาณิชย์จังหวัดได้ไปจัดจุดบริการให้ทุกตำบล และจะแจ้งว่าไปตำบลที่ไหนอย่างไรจึงให้พี่น้องไปขึ้นทะเบียนเพราะถ้าไม่ขึ้นทะเบียนรัฐบาลจะไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร


สำหรับกะหล่ำปลี มีผู้รวบรวมโดยกำหนดราคานอกฤดูคือตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ กิโลกรัมละ 12 บาท ส่วนในฤดูมีนาคมถึงกันยายน กิโลกรัมละ 5 บาท ส่วนฟักทองจะรับซื้อ 6,000 ตันโดยกำหนดราคาไว้ที่กิโลกรัมไม่ต่ำกว่า 11 บาทตลอดปี สำหรับฟักทองขนาด 2-3 กิโลกรัมต่อหัว ตามมาตรฐานที่กำหนด และบุกจะมารับซื้อเซ็นสัญญาวันนี้โดยกำหนดว่าจะรับซื้อ 6,000 ตันกิโลกรัมละ 25 บาทตลอดปี


” พี่น้องปลูกบุกได้แต่อย่าทำผิดกฎหมายอย่าบุกรุกป่า อย่าตัดไม้ทำลายป่า จะทำให้พื้นที่ป่าเสียหายเพราะป่าคือบ้านของพวกเราทุกคน ถ้าป่าหมดสุดท้ายบ้านเราก็จะกลายเป็นบ้านหัวโล้น คนที่ได้รับผลกระทบที่สุดคือรุ่นลูก รุ่นหลานเรา เราต้องช่วยกันแต่ถ้าเราปลูกพืชเกษตรบนที่ดินที่ถูกต้องเหมาะสมเราจะมีโอกาสขายราคาดี ผมจะเป็นคนหนึ่งที่ช่วยพี่น้องกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรมาช่วยพี่น้องต่อไป” นายจุรินทร์ กล่าว


รองนายกรัฐมนตรีกว่าด้วยว่า ได้นำโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนมาลดราคาขายของให้พี่น้องด้วยใครพกตังค์มาก็ไปซื้อได้ ราคาสินค้าจะถูกเป็นพิเศษที่ถูกมากที่สุดมี 5 ตัวคือ 1.ไข่ไก่ฟองละ 2 บาท 2.น้ำมันพืชขวดละ 30 บาท 3.น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 20 บาท 4.ปลากระป๋อง กระป๋องละ 10 บาท 5.ข้าวสาร 5 กิโลกรัม 95 บาทต่อถุงและมีเนื้อหมูราคาพิเศษมาขายด้วย หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 130 บาท พร้อมจะจะมีของยังชีพมามอบให้กับพี่น้องที่มาทุกคนโดยประกอบด้วย 1.ผ้าห่มจากบริษัทไทยเบฟ 2.ไข่ไก่คนละหนึ่งแผงมี 30 ฟอง3.น้ำตาลทรายคนละ 1 กิโลกรัม 4.น้ำมันพืชยี่ห้อมรกตคนละหนึ่งขวดเป็นต้น


” ต่อไปจะเป็น “อมก๋อยโมเดล”เพื่อที่จะนำไปใช้ต่อไป เพื่อให้เป็นหลักประกันว่าพี่น้องจะนำสินค้าไปขายได้ดีขึ้นและมีราคาที่พี่น้องคาดหวังได้ชัดเจนขึ้น คำนวณรายได้รายจ่ายของพี่น้องในการปรับปรุงชีวิตได้ชัดเจนเป็นขึ้น หวังว่าตัวแทนทั้งสองฝ่ายจะซื่อตรงต่อกันและปฏิบัติตามสัญญาที่ลงนามไว้ ถือเป็นการลงนามตามกฏหมายซึ่งผูกพันทั้งสองฝ่ายขอแสดงความยินดีกับพี่น้องทุกคน” นายจุรินทร์ กล่าว

เชียงใหม่ เปิดแล้วภูแจ่มฟ้ารีสอร์ท พร้อมรับนักท่องเที่ยวบรรยากาศในหุบเขา

เปิดแล้วภูแจ่มฟ้ารีสอร์ท สถานที่พักสัมผัสธรรมชาติ ใกล้กับม่อนแจ่ม มีทั้งห้องพักแบบครอบครัว ห้องพักเป็นหมู่คณะ ห้องจัดเลี้ยงสัมมนา พร้อมห้องอาบน้ำแร่ สำหรับคนรักสุขภาพ


พากันมาที่ “ภูแจ่มฟ้ารีสอร์ท” ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวณภัทร ณ ลำปาง เจ้าของกิจการภูแจ่มฟ้ารีสอร์ท ได้จัดพิธีทำบุญเพื่อเปิดกิจการใหม่ โดยได้นิมนต์พระครูปลัดสุรเดช สิริสุวณฺโณ เจ้าอาวาสวัดยางกวง ,พระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทธิวาที (พระธรรมาสน์ทอง) วัดโลกโมฬี ทำพิธีทางศาสนาเพื่อเป็นสิริมงคล มีประชาชนญาติมิตรและเจ้าของกิจการธุรกิจท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมในพิธี หลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาก็ได้ร่วมกันปล่อยปลาในสระรีสอร์ท

นางสาวณภัทร ณ ลำปาง เจ้าของภูแจ่มฟ้ารีสอร์ทเปิดเผยว่า หลังจากที่ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาปลูกป่าที่น้ำพุ 7 สี อำเภอแม่แตง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตนเห็นว่าในอำเภอแม่ริม ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส ประกอบกับที่พักบนดอยม่อนแจ่ม ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมสั่งให้รื้อและทุบทิ้งจำนวนหลายหลัง จึงตัดสินใจเปิดภูแจ่มฟ้ารีสอร์ทแห่งนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในช่วงเข้าสู่ฤดูหนาวที่จะถึงนี้


สำหรับภูแจ่มฟ้ารีสอร์ทตั้งตำบลโป่งแยง เลี้ยวจากปากทางเข้าม่อนแจ่มไปประมาณ 200 เมตร มีป้ายบอกอย่างชัดเจน เป็นรีสอร์ทที่มีความสวยงาม บรรยากาศที่ร่มรื่นเย็นสบาย มีบ้านพักหลายหลายสไตล์ให้เลือก อีกทั้งมีห้องประชุมสัมนา ห้องจัดเลี้ยง และห้องอาหารรวมทั้งลานกางเต้นท์ และห้องอาบน้ำแร่ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสำรองห้องพัก ซึ่งภูแจ่มฟ้ารีสอร์ท ตั้งอยู่กับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หลายแห่งในอำเภอแม่ริมไม่ว่าจะเป็นม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเชียงใหม่ สวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์ เชียงใหม่ ที่มีสวนดอกไม้และพันธุ์ไม้นานาชนิดให้ได้ชม น้ำตกแม่สา และเป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางไปยังอำเภอสะเมิงได้อีกด้วย

เชียงใหม่ จัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้าผลิตผลการเกษตรภาคเหนือ

หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้าผลิตผลการเกษตร ภายใต้โครงการยกระดับสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ผลไม้และผลิตผลการเกษตรภาคเหนือ

ที่โรงแรมไอบีสสไตล์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ กิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้าผลิตผลการเกษตร ภายใต้โครงการยกระดับสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ผลไม้และผลิตผลการเกษตรภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เป็นการนำสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมาต่อยอดด้านการเชื่อมโยงตลาด มาเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขันทางด้านการตลาดของสินค้าที่มีอัตลักษณ์ของจังหวัดภาคเหนือให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการตามโครงการและเพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของจังหวัดภาคเหนือ


นายณรงค์ พูลพิพัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นโยบายรัฐบาลด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจพื้นฐานความดิดสร้างสรรค์ กลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่งสิ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เปรียบเสมือนแบรนด์ชุมชนเป็นการยืนยันและรับประกันคุณภาพสินค้า ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคด้วยมาตรฐานการผลิตและแหล่งที่มาได้อย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ซึ่งผู้ผลิตและผู้ค้าจะใช้ชื่อสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์นี้เป็นเครื่องมือทางการตลาดส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่คุ้มค่า และนำเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไกลไปสู่ตลาดการค้าโลก กระทรวงพาณิชย์มีแนวทางการส่งเสริมสินค้าส่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามเป้าหมายโครงการฯ การส่งเสริมด้านการควบคุมสินค้าให้ได้คุณภาพ การส่งเสริมด้านการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า การจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้าผลิตผลการเกษตรภาคเหนือครั้งนี้ ก็จะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าผลไม้และผลิตภัณฑ์การเกษตรภาคเหนือ สามารถพัฒนาองค์ความรู้ด้านเชื่อมโยงตลาด โดยการสะท้อนความต้องการของผู้ประกอบการค้าในด้านผู้ซื้อไปยังผู้ผลิตให้มีความสอดคล้องกัน และนำไปสู่การเป็นคู่ค้ากันในอนาคตต่อไป


สำหรับโครงการยกระดับสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ผลไม้และผลิตผลการเกษตรภาคเหนือ มีกิจกรรมที่จะช่วยสร้างความมั่นคงทางอาชีพ โดยการส่งเสริมตลาดสำหรับผลผลิต และผลิตภัณฑ์ของธุรกิจชุมชนที่เชื่อมโยงกับการค้าทั้งภายในและต่างประเทศ การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งการเข้าถึงช่องทางการตลาด พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานคุณภาพและมูลค่าเพิ่มของสินค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชนได้