เชียงใหม่ คลื่นศรัทธา แห่ขอโชคลาภหลวงพ่อทันใจ และต้นตะเคียนคู่

คลื่นศรัทธา แห่ขอโชคลาภหลวงพ่อทันใจ และต้นตะเคียนคู่ ร่วมแห่ผ่าป่าแก้บนได้เลขเด็ดกันทุกคน


บรรยากาศที่สำนักสงฆ์บ้านริมขาน หมู่ที่ 8 ตำบลดอนเปา อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีประชาชนจากทั่วสารทิศจำนวนมากมาแก้บน กราบไหว้ขอพรกับองค์หลวงพ่อทันใจ และต้นตะเคียนคู่ มีแม่สไบแพร กับแม่สไบพร หลังจากประสบความสำเร็จได้รับโชคในงวดวันที่ 1 ก.ย.63 ที่ผ่านมา

วันก่อน เจ๊หน่อย ตัวแทนปุ๋ยตรามือ ได้รับโชคงวดที่ผ่านมานำคณะช่างฟ้อนรำมาถวายแก้บนหลวงพ่อทันใจ พร้อมบูรณะทาสีทองให้หลวงพ่อทันใจได้บันดาลความโชคดีมีชัยแก่ผู้มาขอพร นอกจากนี้ยังถวายรูปปั้นห่มผ้าแพรสะไบเป็นตัวแทนแม่ตะเคียนคู่ 


สำหรับบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านนำธูปเทียนสวยดอกไม้ ผ้าเจ็ดสี อธิฐานขอพรหลวงพ่อทันใจ และนำแป้งมาลูบต้นตะเคียนหาเลขเด็ด มีพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลนำสลากมาขายจนเกลี้ยงแผง


นอกจากนี้ได้มีขบวนแห่ต้นผ้าป่าสมทบทุนสร้างวิหารและพระประธานพระสิงห์ 3 ล้านนา เนื้อทองสัมฤทธิ์ หน้าตัก 80 นิ้ว ไว้ประดิษฐานในวิหารสำนักสงฆ์บ้านริมขานยอดผ้าป่าวันนี้ได้เงินจำนวน 25,319 บาท บรรดาเซียนหวยไปรีรอนำเลขผ้าป่าไปซื้อหวยรวยๆ

สำหรับผู้ใจบุญสามารถร่วมสมทบทุนสร้างวิหาร และพระประธานได้ที่ 089-5573530 ,หรือที่บัญชีของวัด ธนาคาร ออมสิน 020339695866 สำนักสงฆ์บ้านริมขาน เพื่อสร้างพระพุทธรูป ซึ่งจะมีพิธีเททองหล่อพระประธาน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 นี้

เชียงใหม่ ศรัทธาประชาชนแห่บวงสรวง ไอ่ไข่ รุ่นมาเหนือดวง วัดสันมะเกี๋ยง

นายกเทศมนตรีตำบลสำราญราษฎร์ อำเภอดอยสะเก็ด เป็นประธานบวงสรวงไอ้ไข่ รุ่นมาเหนือดวง วัดสันมะเกี๋ยง ฤกษ์ดีวันที่ 13 ก.ย.เวลา 13.00 น.

เมื่อเวลา 13.13 น.วันที่ 13 ก.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฎร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายเกษม ปารมีศิลป์ขจร นายกเทศมนตรีตำบลสำราญราษฏร์ ร่วมกับกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในงานมีการประกอบพิธีบวงสรวงรูปปั้นไอ้ไข่ และ กุมาร“ไอ่ไข่ รุ่นมาเหนือดวง” จากที่ทางวัดสันมะเกี๋ยงได้อัญเชิญไอ้ไข่มาประดิษฐานที่วัดเพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

บรรยากาศในพิธีมงคลบวงสรวงไอ่ไข่ ที่ทางวัดสันมะเกี๋ยง อัญเชิญมาเพียง 1 องค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่กลางวัด ส่วนอีก 5 องค์(เล็ก) ทางศรัทธาประชาชนที่เคารพนับถือไอ้ไข่ ได้นำมาร่วมในพิธีมงคลด้วยมีความสูงใหญ่แตกต่างกัน แต่องค์ไอ้ไข่ ที่ทางวัดสันมะเกี๋ยง นำประดิษฐานที่วัด คือ องค์ที่ประดิษฐานอยู่กลางวัด ตั้งอยู่บนรากตอไม้ประดู่ที่ถูกฟ้าผ่า ไอ้ไข่ของวัดสันมาเกี๋ยงหากเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงแล้ว ก็ยังจะให้ไอ้ไข่ประดิษฐานไว้กลางลานวันที่เดิมตลอดไป เพื่อให้ศรัทธาประชาชนที่ศรัทธาเดินทางมาขอพรไอ้ไข่ได้สะดวก

ในพิธีบวงสรวงไอ้ไข่ องค์ใหญ่ที่วัดสันมะเกี๋ยง ที่อัญเชิญมาไว้ที่วัดแล้วนั้น ในพิธีมงคลยังประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์พุทธาภิเษกกุมารไอ้ไข่ รุ่น “ไอ้ไข่ มาเหนือดวง” ขนาด 23 นิ้ว จำนวน 9 องค์, ไอ้ไข่ เนื้อบรอนซ์พาติน่า สูง 5 นิ้ว จำนวน 108 องค์, ไอ้ไข่ เนื้อโลหะชนวน สูง 5 นิ้ว จำนวน 108 องค์, ไอ้ไข่ เนื้อทองสุข จำนวน 199 องค์, ไอ้ไข่ เนื้อทองชมพู จำนวน 199 องค์, ไอ้ไข่ เนื้ออาบเงิน จำนวน 199 องค์, ไอ้ไข่ เนื้อนิลกาฬ (รมดำ) จำนวน 199 องค์ และไอ้ไข่ เนื้อชนวนมงคล จำนวน 199 องค์

สำหรับศรัทธาประชาชนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมพิธีมงคลบวงสรวงไอ้ไข่ที่วัดสันมะเกี๋ยงได้ยังสามารถร่วมทำบุญหรือสั่งจองวัตถุมงคลโดยโอนเงินเข้าบัญชีได้ ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ 553-0-35610-9 สาขาบ่อสร้าง ชื่อบัญชี พัฒนาวัดสันมะเกี๋ยง หรือติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 089-5584332 ได้ทุกวัน

เชียงใหม่ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประชุมแผนพัฒนาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมสรุปการการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

ผู้สื่อข่าวรายที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จ.เชียงใหม่ ที่ห้องประชุมอาคารวารีกุญชร นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสรุปการดำเนินงานและการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และนายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร, นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ และ นายดี จันทคลักษณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนร่วมประชุม หลังเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกันปลูก “ต้นกัลปพฤกษ์” ในพื้นที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี


นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า “เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ของภาคเหนือ การมาตรวจเยี่ยมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในครั้งนี้เป็นความต้องการของตน เพื่อมาให้เห็นว่าที่นี่เป็นแลนด์มาร์คของภาคเหนือในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ผลิตเม็ดเงินที่จะนำมาสู่ประเทศไทยอย่างมาก ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวและกลุ่มนักธุรกิจนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร ภาคบริการต่างๆ ขนส่ง ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งวิสาหกิจชุมชนโดยเฉพาะที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่สามารถสร้างธุรกิจชุมชนให้มีรายได้กับพี่น้องประชาชนในภาคเหนือ ในการผลิตทำอาหารสัตว์มีหลายตำบลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งอาหารสัตว์ให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่ทำธุรกิจการท่องเที่ยวร่วมกัน และเป็นรายได้ที่นำมาสู่ประเทศไทย”


เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นแหล่งท่องเที่ยวไม่กี่แห่งของภาครัฐที่มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ตนเป็นห่วงในอนาคตถ้ามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่อาจไม่แน่ใจว่าจะสามารถและพัฒนาไปสู่องค์กรที่มีความคล่องตัว หรือมีการพัฒนาในหลายรูปแบบที่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับเรื่องของการท่องเที่ยว ทางภาคเอกชนเองก็อยากเห็นเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีระบบการเปลี่ยนแปลง และต้องการที่จะมีความร่วมมือกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ให้เป็น World Class เป็นที่ท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งในอนาคตสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในประเทศไทยจะกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง เนื่องจากเป็นประเทศที่นับว่ามีความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รวมทั้งมีมาตรการต่างๆ เชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวนานาประเทศอย่างแน่นอน”


รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมสรุปการดำเนินงานและการจัดทำแผนการพัฒนากิจกรรมของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี คณะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เดินไปยังวัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้เคียงเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจากนั้นเดินทางกลับ.

เชียงใหม่ ชาวบ้าน-นศ.ร่วมกันพัฒนา คลองชลประทาน ที่ไหลผ่าน 3 ชุมชน

ชาวบ้านและนักศึกษา และเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมกันพัฒนา คลองชลประทาน ที่ไหลผ่าน 3 ชุมชน ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีแต่วัชพืชขึ้นเต็มคลอง ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อให้เป็นที่ระบายน้ำฝน และปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม ให้น่ามองและปลอดจากสัตว์มีพิษและสัตว์เลื้อยคลาน

นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชาวบ้านชุมชนเทียมพร ชาวบ้านชุมชนเมืองลัง และชาวบ้านชุมชนบ้านท่อป่าตัน ในตัวเมืองเชียงใหม่นับ 100 คน นำอุปกรณ์ จอบ เสียม มีดดายหญ้า และเครื่องตัดหญ้า เข้า กำจัดวัชพืช ที่ขึ้นเต็มคลองส่งน้ำ ชลประทาน ที่ผ่านชุมชน ปัจจุบันเป็นคลองร้าง ไม่มีน้ำผันเข้ามาใช้ ในการเกษตร เนื่องจากพื้นที่นาและพื้นการเกษตร กลายเป็นชุมชนเมือง ทำให้คลองชลประทาน กลายเป็นคลองรกร้าง มีแต่วัชพืชขึ้นปกคุม จนมองดูรกสายตา ไม่สวยงาม กลายเป็นแหล่งอาศัย ของสัตว์เลื้อยคลาน และมีแต่เศษขยะ กิ่งไม้ใบไม้ ที่มีการแอบนำมาทิ้ง ทำให้ชาวบ้าน 3 ชุมชน และนักศึกษาจิตอาสา รวมทั้งเด็กๆ มาช่วยกัน กำจัดวัชพืช เก็บกวาด ทำความสะอาด ก้นคลอง จนดูโล่งตา เป็นระทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร

ขณะเดียวกันก็มีพนักงานเอกชน นำน้ำดื่มใส่หลังรถยนต์กระบะ มาแจกจ่าย ให้กับชาวบ้านดื่มฟรี นอกจากนั้น ยังมีชาวบ้าน นำขนมและน้ำดื่ม ขี่รถจักรยานยนต์ ตระเวนแจกให้กับน้องๆนักศึกษา เป็นการแสดงความมีน้ำใจของชาวบ้านในชุมชน ที่ขอมีส่วนร่วม ในการร่วมด้วยช่วยกัน เท่าที่จะทำได้ และมีรถบรรทุกของเทศบาลนครเชียงใหม่ มาช่วยนำเศษวัชพืชไปทิ้ง

เชียงใหม่ ชวนทำบุญ ไอ่ไข่ หารายได้สร้างพิพิธภัณฑ์ไม้สักทองตำหนักพระนเรศวร

วัดท่าใหม่อิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ชวนศรัทธาประชาชนร่วมทำบุญ ไอ่ไข่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด หารายได้สมทบทุนสร้างกุฏิกรรมมัฏฐาน อาศรมที่พักสำหรับพระสงฆ์และศรัทธาประชาชนที่เดินทางมาปฏิบัติธรรม พร้อมสร้างพิพิธภัณฑ์ตำหนักไม้สักทองถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่วัดท่าไหม่อิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางวัดได้อัญเชิญ ไอ่ไข่ จากวัดเจดีย์ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้อัญเชิญประดิษฐานที่วัดท่าใหม่อิ เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นวันมงคล คือ เสาร์ 5 วันแรง วันดี วันมงคลที่สุดหากผู้ใดมากราบไหว้ จะมีโชค มีลาภ เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ด้านธุรกิจการค้าขาย สมหวังทุกปราการ


โดยบรรยากาศภายในวัดมีบรรดาศรัทธาประชาชนที่ต้องการกราบไหว้ ไอ่ไข่ ต่างเดินทางกันมาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด นอกจากกราบพระประธานในวัดเพื่อเป็นมงคล กราบไหว้ครูบาเจ้าศรีวิชัย กราบไหว้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และที่สำคัญวันนี้ต้องขอพรไอ่ไข้ ได้ตลอดทั้งวันได้อีกด้วย ทางวัดมีวัตถุมงคลให้เช่าบูชา เป็นผ้ายันต์และตระกรุดไอ่ไข่ พร้อมกำไลหินสีมงคลและธูปจุดธูปแล้วได้เลขมงคลด้วยในชุดเดียวกัน วัตถุมงคลไอ่ไข่ดังกล่าว เข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์และปลุกเสกที่วัดเจดีย์ไอ้ไข่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราชเป็นที่เรียบร้อยมาแล้ว

การทำบุญในวัด ปัจจัยที่ศรัทธาประชาชนเช่าบูชาวัตุถุมงคลของวัดทั้งหมดจะนำไปสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้สักทองถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงไทย เป็นตำหนักสมเด็จพระนเรศวร ที่ทำจากไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมูลค่า 10 ล้านบาท ซึ่งวันนี้ได้เริ่มลงมือก่อสร้างวางฐานของพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว แต่ยังขาดปัจจัยค่าใช้จ่ายในการซื้อเสาพิพิธภัณฑ์ที่เป็นไม้สักทองขนาดใหญ่ รวมจำนวน 19 ต้น และยังขาดเจ้าภาพอีก 16 ต้น (เจ้าภาพต้นละ 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) ในพิพิธภัณฑ์ตำหนักพระนเรศวรจะแกะสลักรูปช้างทั้งหลัง


พร้อมกันนั้นได้สร้างกุฏิกรรมมัฏฐาน อาศรมที่พักจากไม้สักทอง เพื่อต้อนรับพระสงฆ์และศรัทธาประชาชนที่เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่วัดได้มีที่พักอาศัยให้ด้วย ศรัทธาประชาชนจิตกุศลเป็นเจ้าภาพร่วมสร้างได้กุฏิกรรมมัฏฐาน อาศรมได้หลังละ 500,000 บาท (ห้าแสนบาท) ภายในอาศรมตกแต่งด้วยลายฉลุทั้งหลัง


วัดท่าใหม่อิ นำไอ่ไข่มาประดิษฐานไว้ที่วัดเนื่องจากช่วงนี้กระแสไอ่ไข่มาแรง ญาติโยมที่ศรัทธาไอ่ไข่ทางภาคเหนือ และประชาชนชาว จ.เชียงใหม่ ที่ไม่สามารถเดินทางไกลไปถึง จ.นครศรีธรรมราชได้ ก็เข้ามากราบไหว้สิ่งมงคลในวัดท่าใหม่อิ เพื่อมาขอพรไอ่ไข่ได้ทุกวัน เพราะวัดท่าใหม่อิเองก็เป็นวัดท่องเที่ยว ตกแต่งวัดสวยงามร่มรื่น ปลูกต้นไม้ ปลูกข้าวทำนา มีจุดถ่ายภาพสวยงามจำนวนมาก จากที่มีชื่อเสียงห้องน้ำสวยที่สุดในโลกมาแล้ว คือห้องน้ำลอยฟ้า 12 ราศี ที่ใครเข้าห้องน้ำที่วัดแล้วชื่นชมในความสะอาดและสวยงามมาก


สำหรับวัดท่าใหม่อิ เป็นวัด Indication Of Happiness “การแห่งความสุขผู้ใดมาแล้วจะมีความสุข” ศรัทธาประชาชนมาวัดแล้วมีความสุขมากที่สุด ส่วนประวัติศาสตร์ของวัดท่าใหม่อิ เดิมมีชื่อเรียกว่า “วัดท่าแม่อิ” เป็นวัดที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นผู้สร้างให้แม่นาง ที่เป็นที่รัก คือองค์มณีจันทร์ เป็นผู้ที่พระนเรศวรรักมากแล้วให้องค์มณีจันทร์ ขึ้นท่าน้ำปิงในที่แห่งนี้ คือที่ตั้งของวัดในปัจจุบัน แต่กลัวว่าจะมีข้าศึกจับเจ้าแม่องค์มณีจันทร์ไปเป็นเฉลยศึกสงคราม จึงใช้กุศโลบายให้ตั้งชื่อเจ้าแม่มณีจันทร์ ตั้งชื่อให้ใหม่ ว่า “แม่อิ” คำนี้มาจากหัวใจพระพุทธเจ้าคือ อิสาสุ คิติปิโสภาควา เพื่อรักษาให้แม่มณีจันทร์อยู่รอดปลอดภัย แล้วปลูกต้นโพธิ์ 3 ต้นไว้ 3 ทิศ

เชียงใหม่ ประกันสังคมเชียงใหม่ ร่วมกับ รพ.ลานนา ตรวจสุขภาพผู้ประกันตน รร.ฟูราม่า

ประกันสังคมเชียงใหม่ ร่วมกับ รพ.ลานนา ตรวจสุขภาพผู้ประกันตน รร.ฟูราม่า ในโครงการ “Healthy Thailand ผู้ประกันตน สุขภาพดี ตามฐานวิถีชีวิตใหม่”

วันที่ 11 กันยายน 2563 นางสาวสุมณฑา ไพรสุวรรณา ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด โครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุกในสถานประกอบการ ประจำปี 2563 “Healthy Thailand ผู้ประกันตน สุขภาพดี ตามฐานวิถีชีวิตใหม่” ณ โรงแรมฟูราม่า จ.เชียงใหม่ โดยมี นางสาวลัดดา แซ่ลี้ ประกันสังคมเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ

สำหรับ โครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุกในสถานประกอบการ ประจำปี 2563 “Healthy Thailand ผู้ประกันตน สุขภาพดี ตามฐานวิถีชีวิตใหม่” ในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทาง โรงพยาบาลลานนา จ.เชียงใหม่ ที่ได้นำทีมพยาบาลวิชาชีพ ออกหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ แก่ผู้ประกันตนตามสิทธิ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด นำโดยนางสาวจันทนา จารุเศรณี หัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์ และนางจิราลักษณ์ จันทร์กระจาย หัวหน้าแผนกสื่อสารการตลาด พร้อมกันนี้ ยังมีการบรรยายให้ความรู้ด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องโรคเรื้อรัง และทำกิจกรรมที่มุ่งเน้นการตรวจสุขภาพ ป้องกันโรค การให้ความรู้ในการป้องกันโรค การเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงจากโรคเนื่องจากการทำงาน และโรคไม่เนื่องจากการทำงาน การปรับสภาพแวดล้อม และสร้างความปลอดภัยในสถานประกอบการ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกันตนมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงการปฏิบัติตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ตามฐานวิถีชีวิตชีวิตใหม่ (New Normal) คือ กินร้อน ซ้อนกลาง เว้นระยะห่างทางสังคม โดยมี นางภัณฑิรา ตาสา พยาบาลอาชีวอนามัย โรงพยาบาลลานนา เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้

นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคม เชียงใหม่ ได้นำทีมงานจากสำนักงานประกันสังคมฯ มาให้ความรู้ด้านประกันสังคม สิทธิประโยชน์ต่างๆ ของผู้ประกันตน ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การใช้สิทธิการตรวจสุขภาพ การใช้สิทธิด้านทันตกรรม 900 บาทต่อคนต่อปี การประชาสัมพันธ์มาตรา 39, 40 ให้ผู้ประกันตนแนะนำคนในครอบครัวสมัคร เพื่อได้รับสิทธิคุ้มครองจากทางสำนักงานประกันสังคม รวมถึงขอเชิญชวนผู้ประกันตนทุกท่าน ให้มาใช้สิทธิ์ของท่าน โดยสามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพ ตามโปรแกรม ของสำนักงานประกันสังคม และทำฟันตามสิทธิ์ปีละ 900 บาท ต่อคน ต่อปี ได้ในสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม ได้ทุกแห่งในประเทศไทย

 

เชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่นำของดำ 8 อย่าง ไปเซ่นไหว้พระราหูที่ย้ายราศี

ชาวเชียงใหม่นำของดำ 8 อย่าง ไปเซ่นไหว้พระราหูที่ย้ายราศี บริเวณวัดเสาหินเชียงใหม่ คึกคักตลอดทั้งวัน เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่วัดเสาหิน อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีประชาชนพากันไปขอพรรูปปั้นองค์ท้าวอสุรินทราหู องค์ขนาดใหญ่ กลางลานวัด คึกคักตลอดทั้งวัน ที่องค์พระราหูเคลื่อนย้าย จากราศีเมถุน ไปยังราศรีพิจิก มีทั้งมาส่งและมารับ โดยประชาชนจะเช่าบูชา ของดำ 8 อย่าง ที่ทางวัดจัดไว้ ถาดเล็กราคา 100 บาท ถาดใหญ่ราคา 200 บาท นำไปถวายเป็นของเซ่นไหว้ และสวดบทพระถาคาขอพร ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง มีความเจริญก้าวหน้า มีความโชคดี และความเป็นสิริมงคล

พระสงฆ์ พระลูกวัดเสาหินบอกว่า พระราหูเคลื่อนย้ายราศีออกจากราศีเมถุนและราศีธนู เมื่อเวลา 2 นาฬิกาของวันนี้(10 กย.) สามารถ ไหว้พระราหู ได้ทั้งวันที่ 9 และวันที่ 10 กันยายนนี้ เฉพาะเมื่อคืนวันที่ 9 กันยายน มีประชาชน มาร่วมไหว้พระราหู มากกว่า 1 พันคน จนของดำที่ให้เช่าบูชาไม่พอ แต่ทางวัดก็มีมาตรการ ในการคัดกรองโควิคด้วย และยังมีคืนนี้อีก 1 คืน ที่จะเปิดให้ประชาชน มาร่วมบูชาพระราหู หลังเวลา 20 นาฬิกา เริ่มพิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ของแต่ละบุคคล ซึ่งในยุคโควิค นี้ทำให้คนหาที่พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อ

เชียงใหม่ ฮือฮาคหบดีเชียงใหม่ ทำบุญวันเกิดอายุ 88 ปี แจกเครื่องรางและเงินสด

ฮือฮาคหบดีเชียงใหม่ ทำบุญวันเกิดอายุ 88 ปี แจกเครื่องรางและเงินสด ให้กับผู้มาร่วมงาน เป็นเงินขวัญถุง


พ่อครู สมบูรณ์ กันทะปา คหบดีเชียงใหม่ ทำบุญวันเกิดอายุ 88 ปี นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป มาสวดเจริญพุทธมนต์ ที่บ้านพัก ย่านตำบล ป่าตัน ในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมมอบเงิน ให้กับ เจ้าอาวาสวัดเมืองลัง ตำบลป่าตัน ที่อาพาธดวงตา นำเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล และยังได้มอบเครื่องราง วัตถุมงคล ให้กับผู้มาร่วมงาน และที่ฮือฮายังได้มอบเงิน ธนบัตร ฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ ให้กับแขก ที่มาร่วมอวยพร วันเกิดทุกคน เพื่อเป็นขวัญถุง ทำให้ทุกคนต่างดีใจ และพากันร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ และร้องเพลงเป็นภาษาไทยด้วย ทำให้พ่อครูสมบูรณ์ดีใจ และมีความสุขเป็นอย่างมาก ในวันเกิดปีนี้ และยังจัดเลี้ยงอาหาร โต๊ะจีน สำหรับผู้มาร่วมงาน ด้วย

สำหรับพ่อครูสมบูรณ์ เป็นผู้บุกเบิก ก่อตั้งโรงเรียน อนุบาลดรุณนิมิต ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาลชื่อดัง ของเชียงใหม่ สอนแนวทางวิธีพุทธ มานานเกือบ 40 ปี ปัจจุบันมี 2 สาขา มีบุตรสาวคนโต และคนเล็ก เป็นผู้สืบทอดกิจการ สร้างและปลุกฝังค่านิยมให้ เด็กๆ ตามแนวทางวิถีพุทธ จนจบการศึกษา ชั้นอนุบาล 3 และ 100 เปอร์เซ็นต์ เข้าเรียนต่อ ในโรงเรียนประถม ของโรงเรียนเอกชนชื่อดัง และเรียนต่อจนจบชั้นมัธยมปลาย เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา จบปริญญา สอบบรรจุเป็นข้าราชการ เป็นครู เป็นแพทย์ และอีกหลากหลายอาชีพรับใช้สังคม จนเป็นที่พรากภูมิใจ ในวิชาชีพครูของสถาบันแห่งนี้

เชียงใหม่ เปิดตัวธุรกิจธรรมดีภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่

กลุ่มธุรกิจธรรมดี เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมพบปะกับกลุ่มสมาชิกกลุ่มธุรกิจธรรมดี และเปิดตัวสุดยอดเครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจน ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ในเครื่องเดียว

ที่ภัตตาคารตูลู่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มธุรกิจธรรมดี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยทำการตลาดผ่านระบบตัวแทนจำหน่าย ได้เปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมพบปะกับกลุ่มสมาชิกกลุ่มธุรกิจธรรมดี และเปิดตัวสุดยอดเครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจน ที่ผสาน 3 เทคโนโลยีที่ดีที่สุดไว้ในเครื่องเดียว ซึ่งมีตัวแทนในพื้นที่ภาคเหนือรวมทั้งแขกผู้มีเกียรติ เดินทางมาร่วมการเปิดตัวเครื่องผลิตน้ำดื่มไฮโดรเจนจำนวนมาก

นายธีรวัฒน์ สุธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจธรรมดี เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปเปิดตัวเครื่องทำน้ำดื่มไฮโดรเจนแล้วในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่สามารถตอบโจทย์ได้ สำหรับตลาดด้านสุขภาพ และในกลุ่มธุรกิจธรรมดีก็ยังมีสินค้าอุปโภค-บริโภค มีทั้งหมด 5 กลุ่มประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สกินแคร์ ของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอีกกลึ่มหนึ่งที่ทางธรรมดีเชี่ยวชาญก็คือผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร ซึ่งพัฒนานำเข้าเทคโนโลยีจากประเทศอิสราเอลและประเทสแคนนาดา เข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก 100 % โดยเฉพาะปุ๋ยได้รับความนิยมจากเกษตรกรมากก็เป็นเพราะ ก็เนื่องจากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก ตอบโจทย์กับเกษตรกร ใช้ในปริมาณที่น้อยประหยัดต้นทุน ได้ผลผลิตจำนวนมาก

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ของ ธรรมดี สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์จำหน่ายเชียงใหม่ หมายเลขโทรศัพท์ 081-7603033 ,061-5545391 ,061-6151519

 

เชียงใหม่ ชาวบ้านสันมะเกี๋ยงจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก พัฒนาหมู่บ้าน

ชาวบ้านสันมะเกี๋ยง ตำบลสำราญราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก และพัฒนาหมู่บ้านโดยมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาล พระ-เณร ให้ความร่วมมือตามหลักพลังบวร บ้าน-วัด-ข้าราชการ ซึ่งบ้านสันมะเกี๋ยงได้รับเป็นหมู่บ้านคณุธรรมต้นแบบของกระทรวงวัฒนธรรม ในระดับหมู่บ้านอีกด้วย

ที่วัดสันมะเกี๋ยง ชาวบ้านสันมะเกี๋ยง หมู่ 6 ตำบลสำราญราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมรณรงค์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก และพัฒนาหมู่บ้าน นำโดยนายณรงค์ แสงเปียง ผู้ใหญ่บ้านสันมะเกี๋ยง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลสำราญราษฏร์ โรงพยาบาลประจำตำบลสำราญราษฏร์ กลุ่ม อสม. ชาวบ้าน พระ-เณร วันสันมะเกี๋ยง ร่วมในกิจกรรมกำจัดลูกน้ำยุงลาย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ซึ่งพื้นที่หมู่บ้านข้างเคียงบ้านสัมมะเกี๋ยงเริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก ชาวบ้านจึงได้ออกมาร่วมกิจกรรมรณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลาย และพัฒนาหมู่บ้าน เพื่อให้ปลอดภัยยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก


ดร.เกษม ปารมีศิลป์ขจร นายกเทศมนตรีตำบลสำราญราษฏร์ กล่าวว่า ตนเน้นหลักคำว่า บวร ซึ่ง บวรก็หมายถึง บ้าน วัด ราชการ เพราะว่าบ้านสันมะเกี๋ยงนั้นไม่มีโรงเรียน จึงต้องเน้นไปที่ราชการ ซึ่งราชการก็ได้รับการอนุเคราะห์และดูแลจากจังหวัดและอำเภอ และในฐานะที่ตนเป็นนายกฯ ก็ได้ให้ความสำคัญหมู่บ้านสันมะเกี๋ยง ชาวบ้านมาความรักสามัคคีกัน ให้ความร่วมมือกับทางราชการและวัด โดยท่านพระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง และในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง และพระครูสุรเชษฐ เตชะรังษี เจ้าอาวาสวัดและพระภิกษุ-สามเณร เพราะวัดแห่งนี้มีพระภิกษุสามเณรมากที่สุดในตำบล ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งและได้ผู้นำคือนายณรงค์ แสงเปียง ผู้ใหญ่บ้านสันมะเกี๋ยง เป็นหนุ่มไฟแรงที่มุ่งจะคืนสิ่งต่างๆ ให้กับสังคม จึงเป็นกำลังให้ตนและหน่วยราชการที่มีอุปกรณ์เครื่องมือ เข้าไปหนุนในกิจกรรมของหมู่บ้านและวัดที่ได้จัดขึ้น ซึ่งวัดแห่งนี้ดำรงในเรื่องสถาบัน โดยเฉพาะสถาบันสูงสุดคือสถาบันพระมหากษัตริย์ มีกิจกรรมกระฐินพระราชทาน และกิจกรรมต่างๆ มากมาย เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาที่วัดแห่งนี้ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาให้พื่น้องชาวตำบลสำราญราษฏร์

ด้านท่านพระครูปลัดทวีวัฒน์ อินฺทวณฺโณ ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดสันมะเกี๋ยง และในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง เจริญพรว่า บ้านสันมะเกี๋ยงได้รับเป็นหมู่บ้านคณุธรรมต้นแบบของกระทรวงวัฒนธรรม ในระดับหมู่บ้าน ความร่วมมือของวัดสันมะเกี๋ยงกับชุมชนหมู่บ้านที่เรียกว่า พลังบวร ซึ่ง บวร หมายถึง บ้าน-วัด-ราชการ-โรงเรียน ช่วยกันขับเคลื่อนชุมชนไปสู่จุดมุ่งหมายคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทางวัดสันมะเกี๋ยงเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชนบ้านสันมะเกี๋ยง มีผู้นำคือพ่อหลวงณรรงค์ แสงเปียง ผู้ใหญ่บ้านสันมะเกี๋ยง และ ดร.เกษม ปารมีศิลป์ขจร นายกทศมนตรีตำบลสำราญราษฏร์ ให้การสนับสนุนร่วมมือกันพัฒนาทุกด้าน เพื่อให้ชุมชนบ้านสันมะเกี๋ยง อยู่ดี กินดี น้ำไหล ไฟสว่าง โจรขโมยไม่มี เกิดมีหลักคุณธรรม โดยมีวัดเป็นจุดศูนย์กลาง จุดศูนย์กลางการพัฒนาต่างๆ จุดศูนย์กลางของการเชื่อมทุกฝ่ายสามัคคีกัน จึงเกิดหลักพลังบวรขึ้นมา