เชียงใหม่ ผู้ตรวจฯพาณิชย์เปิดงานจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรภาคเหนือ

ผู้ตรวจฯพาณิชย์เปิดงานจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรภาคเหนือได้รับGI เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร จำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นให้เป็นที่รู้จักของชาวไทยมากขึ้น ในช่วงเกิดผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด -19 วันนี้ไปจนถึงวันที่ 2 สค. 63 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พลอร์ตพลาซา จังหวัดเชียงใหม่

นายรณงค์ พูลพิพัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานเปิดการจัดงานจำหน่ายผลไม้และผลผลิตการเกษตรภาคเหนือ เกษตรGI ของดี 4 จังหวัด อุตรดิตถ์ แพร่ เชียงใหม่และลำปาง ภายใต้โครงการยกระะดับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ หรือ Geographical Indications ( GI ) ของภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม ถึง วันที่ 2 สิงหาคม 2563 จำนวน 5 วัน ณ ลานชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซา

ทั้งนี้การจัดจำหน่ายสินค้าการเกษตร GI เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ผลิตการเกษตร GI ของภาคเหนือ ได้มีตลาดเพิ่มเติม หลังจากประสบปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้การจำหน่ายที่ผ่านมาได้หยุดชงักลงไป จนเกิดผลกระทบแต่หลังจากมีการผ่อนคลายตามมาตรการต่างๆ จังหวัดเชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม หลังจากผลสำรวจต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเพื่อช่วยกระจ่ายสินค้าให้เป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น ช่วยผู้ผลิตเกษตรกร GI อาทิทุเรียนหลงลับแล จ.อุตรดิตถ์ , ข้าวสายน้ำแร่แจ้ซ้อน ส้มเกลี้ยง จ.ลำปาง , มะขามจากเพชรบูรณ์


สำหรับผู้สนใจสามารถเดินทางมาอุดหนุนผู้ผลิตเกษตรกร GI ได้ ณ ลานชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซา อำเภอเมือง เชียงใหม่

เชียงใหม่ จัดกิจกรรมจิตอาสาตามโครงการเก้าร้อยสิบฝายถวายน้ำสู่แผ่นดินและปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ

จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ตามโครงการเก้าร้อยสิบฝาย ถวายน้ำสู่แผ่นดิน และปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามมาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

(28 กค.) ที่บริเวณด้านหน้าสถานพักพิงสัตว์มูลนิธิ ดิ อาร์ค ในพระบรมาชูปถัมป์ ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นายสัตวแพทย์พงศ์พัฒน์ ขัตพันธุ์ ปศุสัตว์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาสิ่งแวดล้อม เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นำเจ้าหน้าที่จิตอาสาโดยมี นายอำเภอดอยสะเก็ด ,มณฑลทหารบกที่ 33 , องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ , กอ.รมน.จังหวัดเชียงใหม่ , ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ , กรมชลประทานผันนํ้าเขื่อนแม่กวงอุดมธารา , ตำบลลวงเหนือ , สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด , สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ , ศูนย์ส่งเสริมวนศาสตร์ชุมชนที่ 1 เชียงใหม่ , สาธารณสุขอำเภอดอยสะเก็ด , สัสดีอำเภอดอยสะเก็ด , ชมรมทหารกองหนุนและทหารผ่านศึกอำเภอดอยสะเก็ด (ชุดปฎิบัติการ) , สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม , โรงเรียนเพื่อชีวิตเชียงใหม่ , ชุดปฎิบัติการป่าสักงาม , ชุดปฎิบัติการผาลาด , กลุ่มพัฒนาสตรีตําบลแม่โป่ง , คริสต์จักร โดยมีการทำฝายกักเก็บน้ำ และปลูกป่าเพื่อเป็นการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาไฟป่าในปีต่อไปเพื่อเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1,000 คน

จากนั้นจิตอาสาทุกนายร่วมกันปลูกป่าปลูกต้นรวงผึ้งและทำฝายกักเก็บน้ำและชะลอน้ำ ตามโครงการเก้าร้อยสิบฝาย ถวายน้ำสู่แผ่นดิน และปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระวชิรกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อเป็นการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในระยะยาวด้านการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ วัดสันทราย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา

วัดสันทราย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา วรรณกรรมพื้นบ้าน เครื่องสักการะล้านนา สร้างงานสร้างรายได้สู้ภัยโควิด-19

ที่วัดสันทราย ต.หนองแก๋ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ นายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอหางดง พระครูธรรมธรนิธิศ หรือพระครูบาบุญเนธฐ์ สนฺตมโน เจ้าอาวาสวัดสันทราย พร้อมกับพระครู สังฆรักษนนธภัฎฐ์ สิรินฺธโร และนายอินตา เลาคำ นายกสมาคมสืบสานตำนานปี่ซอ นายเสน่ห์ สายเย็นใจ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และนางสาวอำไพ คำไชย ในนามตัวแทนวัดสันทราย พร้อมพ่อครูศิริพงษ์ วงค์ไชย ประธานชมรมกวีล้านนา นักค่าวภาคเหนือ และกลุ่มสตรีแม่บ้านอำเภอหางดง คณะซอรวมศิลปินล้านนา ข้าราชการประชาชนและเยาวชนทั้งหมดได้ร่วมกันเปิดศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา วรรณกรรมพื้นบ้าน เครื่องสักการะล้านนา โดยใช้สถานที่ภายในวัด การเรียนรู้วรรณกรรมด้านต่างๆ เช่น เรียนค่าว เรียนซอ และเรียนทำเครื่องสักการะล้านนา รวมทั้งทำอาหารพื้นถิ่นภาคเหนือ ปลูกผัก จักรสาน และทำไส้อั่ว ทำจิ้นส้มหรือแหนม และน้ำยาล้างจาน และอื่นๆอีกจำนวนมาก เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อสู้ภัยโรคระบาดโควิด-19 ด้วย.


วัดสันทรายได้ร่วมกับ สมาคมสืบสานตำนานปี่ซอ และชมรมกวีล้านนานักค่าวภาคเหนือร่วมเปิดศูนย์ฯ ดังกล่าว จากที่ทางวัดสันทรายได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์วรรณกรรมพื้นบ้านล้านนามาอย่างต่อเนื่อง ใช้สถานที่วัดเป็นที่ตั้งสำนักงานชมรมกวีล้านนานักค่าวภาคเหนือมาก่อนหน้านี้แล้ว และวันนี้จึงเปิดศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา วรรณกรรมพื้นบ้าน เครื่องสักการะล้านนา ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อสืบสานวรรณกรรมพื้นบ้านชนิดต่างๆ ให้แพร่หลายสืบทอดต่อกันไปจากรุ่นสู่รุ่น ให้บุตรหลานได้ศึกษาเรียนรู้ให้มีองค์ความรู้ด้านวรรณกรรมในสาขาต่างๆ ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านควรค่าในการอนุรักษ์มิให้สูญหาย

ศูนย์เรียนรู้ดังกล่าว ยังมุ่งบำเพ็ญประโยชน์ ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษา วิจัย ฟื้นฟู ปกป้องคุ้มครอง ต่อยอด สร้างสรรค์ สืบสานวรรณกรรมค่าวและซอ พัฒนาการแสดงให้ทันกับกระแสการเปลี่ยนแปลง และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชนและสถาบันทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในการพัฒนาบทบาทของศิลปินให้เป็นที่ยอมรับกับสาธารณชน และให้เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การให้คำปรึกษาและการถ่ายทอดการแสดงแก่ศิลปินและผู้ที่มีความสนใจ ที่สำคัญต้องส่งเสริมการตลาดของงานการแสดง เพื่อนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มของอาชีพทางวรรณกรรมพื้นบ้านดังกล่าว คือค่าว และซอ และฝึกประกอบอาหารให้เป็นอาชีพสร้างรายได้ให้มากขึ้นด้วย


ในการเปิดงาน ได้เปิดป้ายศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา วรรณกรรมพื้นบ้าน เครื่องสักการะล้านนา ได้ตกแต่งป้ายเปิดงานด้วยการสานใบมะพร้าวสวยงามมาก เป็นงานศิลปะที่สร้างอาชีพอีกอาชีพหนึ่ง หลังจากเปิดงานได้มีการจัดหากองทุนโดยตั้งกองผ้าป่าเพื่อสมทบทุนการเรียนการสอนของศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา วรรณกรรมพื้นบ้าน เครื่องสักการะล้านนา ท่านใดมีจิตกุศลร่วมทำบุญกับทางวัดได้ทุกวัน

ตลอดทั้งวันมีงานบรรเลงดนตรีปี่พาทย์ล้านนาจากเยาวชน และการแสดงซอจากสมาคมสืบสานตำนานปี่ซอแสดงให้ประชาชนได้ชม ส่วนประชาชนและเยาวชนผู้สนใจที่จะเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ด้านการแต่งค่าว เรียนรู้ซอ ร่วมทั้งการประกอบอาหารและเรียนการทำน้ำยาล้างจานและอาชีพอื่นๆ สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 084-9722838 ได้ทุกวันที่ศูนย์การเรียนรู้พื้นบ้านล้านนา วรรณกรรมพื้นบ้าน เครื่องสักการะล้านนาวัดสันทราย อ.หางดง จ.เชียงใหม่.

เชียงใหม่ พาชิมกาแฟผีบ้าคนชิมต้องมาบดปั่นกาแฟกันเอง ที่กาดหนองบัวพระเจ้าหลวง

ตลาดนัดวันอาทิตย์บริเวณลานม่วนใจ๋ หนองบัวพระเจ้าหลวงยังคงคึกคักต่อเนื่องสัปดาห์ที่ 3 วันนี้พามาชิมกาแฟผีบ้าสำหรับคนคอกาแฟ คนขายใช้รถจักรยานยนต์ทำเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ ลูกค้าอยากชิมต้องมาช่วยปั่นบดเมล็ดกาแฟเล่นเอาบางคนถึงกับเหงื่อแตกก่อนที่จะได้ชิม ส่วนการต้มก็ใช้หม้อต้มแรงดันที่เรียกว่า โมก้าพ็อทสไตล์อิตาเลี่ยน ซึ่งมีการคิดค้นมาตั้นแต่ปี คศ.1933 ต้มออกมาก็จะเป็นกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ที่เข้มข้น ต้มครั้งละ 40 บาท นั่งฟินจิบกาแฟไปจนหมดหม้อต้มกันเลย

พากันมาชมบรรยากาศตลาดนัดวันอาทิตย์ที่ลานม่วนใจ๋ หนองบัวพระเจ้าหลวง ซึ่งเทศบาลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่จัดขึ้น เป็นตลาดนัดของชาวบ้านได้นำข้าวของ อาหารการกินมาจำหน่าย เปิดมาเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว โดยตลาดนัดแห่งนี้เปิดให้ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของมาขายฟรีตลอด 3 เดือน ทั้งนี้ก็เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านหลังจากประสบปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิท-19


วันนี้ผู้ที่ริเริ่มจัดตลาดนัดวันอาทิตย์คือนายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีเชิงดอย ก็จัดแจกของให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งร้านขายของ เป็นของเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งก็มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวเดินทางมาจัดจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคักเช่นเคย

แต่ในวันนี้ก็พามาชิมกาแฟที่ไม่เหมือนใคร โดยคนขายชื่อนายดิสพงษ์ สุวรรณกิจ หรือที่คนรู้จักเรียกกันว่า นายคำใหม่ ก็ใช้รถจักรยานยนต์ดัดแปลงทำเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ ออกตระเวนไปขายตามสถานที่ต่างๆ และในวันนี้ก็ได้มาขายที่ตลาดนัดหนองบัวพระเจ้าหลวงแห่งนี้ ใช้ชื่อว่า กาแฟผีบ้า ลูกค้าคนไหนที่จะสั่งรับประทานก็จะต้องมาช่วยปั่นบดเมล็ดกาแฟเอง เพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมในการชงกาแฟ เล่นเอาบางคนถึงกับเหงื่อแตกกว่าจะได้ชิมกาแฟ ต้มกาแฟเพื่อดื่มหม้อละ 40 บาท มีเก้าอี้เล็ก ๆ ให้คอกาแฟได้นั่งจิบฟินกับบรรยากาศ โดยนำเมล็ดกาแฟมาจากไร่กาแฟในตำบลเทพเสด็จอำเภอดอยสะเก็ดนี่เอง ซึ่งนายคำใหม่ใช้เครื่องคั่วกาแฟประดิษฐ์เองฝีมือคนไทย ส่วนการชงกาแฟก็ชงกันในหม้อต้มแรงดันที่เรียกว่า โมก้าพ็อทสไตล์อิตาเลี่ยน ซึ่งมีการคิดค้นมาตั้งแต่ปี คศ.1933 ต้มออกมาก็จะเป็นกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ที่เข้มข้น แต่อย่างไรก็ดีถึงแม้ลูกค้าจะต้องมาช่วยกันบดปั่นเมล็ดกาแฟก่อนที่จะได้ชิม แต่ก็ยังมีลูกค้ามาสั่งกาแฟชิมกันอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมนตรีตำบลเชิงดอย กล่าวว่า กาแฟผีบ้านำเมล็ดกาแฟมาจากตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ดนี่เอง ซึ่งตำบลเทพเสด็จตั้งอยู่บนดอยสูง มีการปลูกเมคคาเดเมียและกาแฟผสมผสานกันทำให้กาแฟดอยสะก็ดมีรสชาดหอมอร่อย ก็อยากเชิญชวนคอกาแฟได้มาชิมกาแฟสดๆ ที่กาดหนองบัวพระเจ้าหลวงทุกบ่ายถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์ กาแฟผีบ้าของนายคำใหม่จะมาพร้อมเสริฟที่ตลาดหนองบัวพระเจ้าหลวงแห่งนี้ เป็นการสนับสนุนสินค้าในท้องถิ่นซึ่งนายคำใหม่ก็เป็นคนหนองบัวพระเจ้าหลวงแห่งนี้ ที่สำคัญจะใช้กาแฟของตำบลเทพเสด็จเป็นวัตถุดิบหลักในการชงกาแฟ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายซื้อของและชิมกาแฟสุดฟินกาแฟผีบ้าของนายคำใหม่รับรองว่าจะติดใจ

เชียงใหม่ ประมวล เอมเปีย ขึ้นนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนใหม่

ประมวล เอมเปีย ขึ้นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนใหม่ หลังจากมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่ 1/2563 ที่จังหวัดเชียงใหม่เช้านี้(26 กค.) ก่อนเข้าวาระการประชุม นายไตรเทพ รัตนาจารย์ หัวหน้าพรรคได้ยื่นหนังสือลาออกส่งผลทำให้หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการพรรคว่างลง จึงมีมติเลือกตั้งหัวหน้าพรรคใหม่ ซึ่งนายประมวล ได้รับการไว้วางใจจากสมาชิกพรรคให้ดำลงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนใหม่

วันนี้(26 กค.)ที่โรงแรมเชียงใหม่ออร์คิด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2563 โดยมีกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน กรรมการสาขาพรรคเพื่อแผ่นดิน ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินกว่า 400 คนเข้าร่วม โดยมีการรายงานผลการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี พ.ศ.2562 รายงานงบการเงินของพรรคในรอบปี พ.ศ.2562 การแก้ไขข้อระเบียบพรรค และเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรอง ตำรวจ, ทหาร และเจ้าหน้าที่ กกต. เดินทางมาร่วมสังเหตุการณ์ ก่อนการประชุมนายไตรเทพ รัตนาจารย์ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคก็ต้องยุติการทำงาน ที่ประชุมจึงการคัดเลือกสรรหาและคัดเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ซึ่งนายประมวล เอมเปีย ก็ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกพรรค ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินคนล่าสุด พร้อมมีการคักเลือกคณะกรรมการพรรคชุดใหม่


ภายหลังจากที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินนายประมวล เอมเปีย ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับนโยบายขับเคลื่อนของพรรคเพื่อแผ่นดิน คณะกรรมการเดิมมีนโยบายอยู่แล้ว มีทั้งหมด 14 ข้อ แต่คณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งมีผู้มีความรู้และทีมงานต่างๆ ที่จะต้องเพิ่มรายละเอียดเข้าไปในนโยบายซึ่งมีอยู่หลายข้อเช่นกัน ซึ่งนโยบายที่เสริมเข้าพรรคการเมืองอื่นยังไม่ได้ทำเลย และในการประชุมใหญ่กรุงเทพมหานครอีกครั้งก็จะมีรายละเอียดทั้งหมด

ส่วนการที่มารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อก็หวังอย่างยิ่งที่จะได้มาฟื้นฟูพรรคเพื่อแผ่นดินเพื่อจะขับเคลื่อน ให้มาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนในสภาให้ได้ เพื่อจะไปทำงานในส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ได้ทำเราจะเอาเสริมเข้าไป จะแนะนำเข้าไป ถึงแม้ว่าจะติติงยังงัยถ้าดีอยู่แล้วก็จะส่งเสริม แต่อันไหนที่ไม่ดียังปรกพร่องอยู่เราติติงไปก็ขอให้รัฐบาลโปรดรับฟังเราด้วย เสียงที่แนะนำไปก็เป็นเสียงจากพี่น้องประชาชนที่สะท้อนความทุกข์ยาก ปัญหาของเค้าก็สะท้อนกลับมา ส่วนหนึ่งได้รับการปฏิบัติอีกส่วนหนึ่งไม่ได้รับการปฏิบัติก็จะเสริมจุดนี้เข้าไป เพื่อให้รัฐบาลได้เห็นว่า พรรคเพื่อแผ่นดินมีศักยภาพเพียงพอที่จะเสนอนโยบายที่ยังไม่เคยมีมาก่อน ต้องนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนให้มากที่สุด นายประมวลกล่าว

เชียงใหม่ ศิษย์เก่าคณะเภสัชศาสตร์ มช.มอบรถบัสปรับอากาศ และอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท

ศิษย์เก่าคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มอบรถบัสปรับอากาศ และอุปกรณ์ตกแต่ง มูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท ให้กับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และยังมอบ เงินทุนการศึกษาอีก 1 แสนบาท ให้กับนักศึกษาที่เรียนดี

ที่หน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เภสัชกร แสงสุข พิทยานุกุล ศิษย์เก่าคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธาน สยาม เฮลท์ กรุ๊ป จำกัด ผลิตภัณฑ์ สมูท อี และเดนทิสเต้ ทำพิธีส่งมอบรถบัสปรับอากาศ ขนาด 35 ที่นั่ง ตกแต่งสติกเกอร์ พร้อมอุปกรณ์ มูลค่า 3,695,825 บาท เพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรใช้ ในกิจกรรมต่างๆ และอีกกว่า 3 แสนบาท นำไปปรับปรุง ห้องปฎิบัติการเภสัชเคมี รวมเงินทั้งหมด 4 ล้านบาท โดยมี โดยมี นายแพทย์ อำนาจ อยู่สุข รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ รองศาสตราจารย์ เภสัชกร วิรัตน์ นิวัฒนนันท์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้รับมอบ

ขณะเดียวกัน รองศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง พิมลพรรณ พิทยานุกุล ยังได้มอบเงินทุนการศึกษาอีก 1 แสนบาท ให้กับนักศึกษาที่เรียนดี ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ซึ่งทางคณะฯ ก็จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ต่อไป

เชียงใหม่ “ชูชัย”นำทีมฟุตบอลเชียงใหม่ยูไนเต็ดนำไข่ไก่ไปจำหน่ายฟองละบาทช่วยโควิด-19

“ชูชัย”นำทีมฟุตบอลเชียงใหม่ยูไนเต็ดนำไข่ไก่ไปจำหน่ายฟองละบาทเพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชนช่วงโควิดฯ

วันที่ 24 ก.ค.63 ที่ห้างสหพานิชเชียงใหม่สาขาข่วงสิงห์ สโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ดหรือ CMUTD นำโดยนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีต ส.ว.ในฐานะประธานสโมสรฯพร้อมด้วยนางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ผู้จัดการทีมสโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ด ทีมงานว่าที่ผู้สมัครส.อบจ.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย นักฟุตบอลทีมสโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ดได้นำไข่ไก่ไปจำหน่ายให้กับพนักงาน เจ้าหน้าที่ของบริษัทสหพานิช จำกัดในราคาเพียงฟองละ 1 บาท โดยมีนางอัจฉราวรรณ ลิ้มเล็งเลิศ กรรมการผู้จัดการบริษัทสหพานิชฯพร้อมด้วยนายสมโภช ลิ้มเล็งเลิศ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโตโยต้า ล้านนาได้รับมอบไข่ไก่เพื่อจำหน่ายให้กับพนักงานต่อไป


ประธานสโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ดและว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับทีมสโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ดเป็นทีมฟุตบอลของคนเชียงใหม่ เรามีความมุ่งหวังที่จะให้ทีมขึ้นชั้นไทยลีกให้ได้ จึงอยากขอแรงใจจากคนเชียงใหม่ร่วมเชียร์และส่งกำลังใจให้เชียงใหม่ยูไนเต็ด และอยากให้เชียงใหม่เป็นเมืองกีฬา ซึ่งที่ผ่านมาเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะเริ่มการแข่งขันได้ ซึ่งปัจจุบันทีมเชียงใหม่ยูไนเต็ดจะใช้สนามซ้อมที่โรงเรียนกีฬาสันป่าตอง และใช้สนามแข่งขันที่โรงเรียนดอยสะเก็ดวิทยาคมเนื่องจากสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปียังอยู่ระหว่างปิดปรับปรุง


ขณะที่นายสมโภช ลิ้มเล็งเลิศ ผู้ช่วยผู้จัดการบริษัทโตโยต้าล้านนา กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบทั้งต่อประชาชน พนักงานและผู้ประกอบการ ซึ่งทางสหพานิชฯและโตโยต้าล้านนามีพนักงานกว่า 400 คน การที่ทางสโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ดได้นำไข่ไก่มาขายในราคาฟองละ 1 บาทซึ่งหากเทียบกับราคาท้องตลาดทั่วไปอยู่ที่ฟองละ 3 บาทก็ถือว่าช่วยลดค่าครองชีพของพนักงานลงได้ เพราะช่วงนี้ก็เปิดเทอมแล้ว ถือว่าได้ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับพนักงานที่มีครอบครัวและส่งบุตรหลานเรียนด้วย ซึ่งก็ต้องขอบคุณน้ำใจของทีมสโมสรเชียงใหม่ยูไนเต็ดด้วย

เชียงใหม่ กลุ่มกะเหรี่ยงไทย ( KTG ) ยื่นหนังสือกงสุล USA และกงสุลเมียนมาร์

กลุ่มกะเหรี่ยงไทย ( KTG ) ยื่นหนังสือกงสุล USA และกงสุลเมียนมาร์ เพื่อประท้วงรัฐบาลและกองทัพ เมียนมาร์ กรณีทหารเมียนมาร์ใช้อาวุธสงครามยิงประชาชนชาวกะเหรี่ยงเสียชีวิตพร้อมเอาของมีค่าไป

วันนี้(23 กค.) นายณัฐพง๋ษ์ พงษ์น้อยไพรงาม ประธานเครือข่ายกะเหรี่ยงไทยกรู๊ป ( KTG ) นายลอยพอ สุริยะบุปผา สมาชิกสภาจังหวัดเชียงใหม่ ( สจ.) เขตอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ พร้อมกับสมาชิกเครือข่าย ฯ เดินทางไปยื่นหนังสือ ณ กงสุล สหรัฐอเมริกาประจำนครเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อต้องการเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯ ช่วยกดดันรัฐบาลและกองทัพ เมียนมาร์ หยุดข่มชู่ฆ่าชนกลุ่มน้อย กะเหรี่ยงในเมียนมาร์ โดยเจ้าหน้าที่ กงสุลสหรัฐฯออกมารับหนังสือพร้อมกับรับปากกับผู้มายื่นหนังสือว่า จะรายงานให้ กองทัพฯและผู้นำสหรัฐฯตามระดับชั้นให้เร็วที่สุด


ช่วงบ่ายเครือข่ายกะเหรี่ยงไทยกรุ๊ป ( KTG ) ได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ณ กงสุลเมียนมาร์ ประจำนครเชียงใหม่ ย่านสันติธรรม ต.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ โดยมีนายซอ เมียว แต๊ด Mr. Zaw Myo tltet ตัวแทนกงสุลเมียนมาร์ ประจำจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ


ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่16 ก.ค.63  ได้มีทหารเมียนมาร์ จำนวน 2 นายได้ขึ้นไปยังบ้านล่ากูนโพ ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ นางมึน่อ หญิงกะเหรี่ยง วัย 40 ปี เข้าบริเวณใบหน้าและบริเวณราวนมซ้ายได้เสียชีวิตคาที่ในบ้านของผู้ตาย จากนั้นทหารเมียนมาร์ ทั้งสองนายได้เอาทรัพย์มีค่าของผู้ตายเช่นสร้อยคอทองและอื่น ๆจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเขตรับผิดชอบของ กองพล 5 รัฐกะเหรี่ยง

ด้าน สจ.ลอยพอ สุริยะบุปผา ที่ปรึกษา เครือข่ายกะเหรี่ยงไทยกรุ๊ป เปิดเผยว่า การที่ตัวแทนเครือข่ายมายื่นหนังสือให้ กงสุลสหรัฐฯในครั้งนี้เพื่อให้ผู้นำสหรัฐฯกดดันนางอองซา ซูจี ผู้นำเงาประเทศเมีนมาร์ และกองทัพเมียนมาร์ กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง NCA ที่สหภาพยุโรปเป็นพยานและรับรองข้อตกลงอีกด้วย


พวกเราในฐานะกลุ่มกะเหรี่ยงไทย KTG ภายใต้กฎยัตรแห่งสหประชาชาติ ( Human Right ) ด้านสิทธิมนุษยชน มีความเห็นว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย ทารุน ป่าเถื่อน ไร้ซึ่งมนุษยธรรม กระทำเกินกว่าเหตุ เกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาจะยอมรับได้ จึงขอประณามอย่างรุนแรง ขอให้ลงโทษทหารเมียนมาร์ทั้งสองนาย มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดด้วย

เชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี เชียงใหม่ นำแม่ครัวมาสอนทำไส้อั่วอาหารพื้นเมือง

เจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี เชียงใหม่ นำแม่ครัวมาสอนทำไส้อั่วอาหารพื้นเมือง ให้กับชาวบ้านที่ตกงาน และอยากมีอาชีพเสริมกว่า 30 คน เพื่อนำไปประกอบอาชีพหรือทำอาชีพเสริม หารายได้ในยุคโควิค

พระครูไพบูลเจติยานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี จังหวัดเชียงใหม่ นำแม่ครัวมืออาชีพ มาสอนทำไส้อั่ว อาหารพื้นเมือง ที่บริเวณศาลาภายในวัด โดยมีชาวบ้านที่ตกงาน และสนใจอยากมีอาชีพเสริม สมัครมาเรียนกว่า 30 คน โดยลงมือทำแบบจริงๆ ตั้งแต่ขั้นตอน การเตรียมเครื่องปรุง เนื้อหมู และสมุนไพร ที่ใช้เป็นส่วนผสม นำมาคลุกเค้า และนำไปยัดใส่ในไส้หมู โดยหาวัสดุง่ายๆอย่างขวดน้ำพาสติก นำมาตัดเป็นกรวย ยัดไส่ในไส้หมู และนำหมูที่ปรุงแล้ว นำมายัดใส่ในไปที่ปาก กรวยเข้าไปในไส้ จนได้ขนาดตามที่ต้องการ จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 5 – 10 นาที จะนำไปย่าง หรือจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆก็ได้ ก็จะได้ไส้อั่ว หอมเครื่องปรุงสมุนไพร พร้อมรับประทาน บางคนก็จะใช้โทรศัพท์มือถือ บันทึก ขั้นตอนการทำไปด้วย เพื่อนำไปหัดทำ ที่บ้านอีกครั้ง ให้มีความชำนาญ เพื่อจะนำไปทำรับประทานเอง ในครอบครัว หรือทำขายเป็นอาชีพเสริม

พระครู ไพบูลย์เจติยานุรักษ์ บอกว่า ที่ผ่านมา ทางวัดสอนมาหลายอย่าง ทั้งอบรมสอนนั่งสมาธิ ปฎิบัติธรรม และเห็นชาวบ้านได้รับผลกระทบ จากโรคโควิค บางคนตกงาน หรือไม่มีรายได้ และวัดเองก็เคย รับบิณฑบาต จากประชาชน ทั้งนี้ทางวัดพอมีกำลัง จึงฝึกอาชีพให้ หากชาวบ้านอยู่ได้ วัดก็จะอยู่ได้ ก็จะมีประชาชน มาทำบุญถวายอาหารพระ เป็นการพึงพาอาศัยกัน การสอนอาชีพ ก็หวังว่าจะเกิดประโยชน์ กับประชาชน

เชียงใหม่ หนุ่มพิการทางการได้ยิน สู้ชีวิต เปิดร้านเบอร์เกอรี่ และกาแฟ ภาษามือ

น้องวิน วัย 21 ปี หนุ่มพิการทางการได้ยิน สู้ชีวิต เปิดร้านเบอร์เกอรี่ และกาแฟ ภาษามือ เป็นแห่งแรก บริเวณหน้าบ้านตนเอง ในหมู่บ้านริมน้ำ ในตัวเมืองเชียงใหม่ รับออเดอร์ ชงกาแฟเอง ทุกอย่าง ลูกค้าแห่อุดหนุน รสชาติกลมกล่อม ราคาไม่แพง เจ้าตัวดีใจและมีความสุขมาก ที่มีร้าน เป็นของตนเอง แต่ต้องทำงานหนักขึ้น

น้องวิน กระแสเวช เด็กหนุ่มวัย 21 ปี บกพร่องทางการได้ยิน หรือหูหนวก มาตั้งแต่กำเนิด เปิดร้านเบอเกอรี่ และร้านกาแฟ เป็นของตนเอง ทั้งบริการรับออเดอร์กาแฟเอง ทำขนมเบอร์เกอรี่เอง โดยมีคุณแม่เป็นทุนให้ แต่ก่อนหน้านี้ น้องวินได้ไปเรียน ทำขนมเบอร์เกอรี่ จนสามารถทำส่งขายได้ ให้กับร้านค้าทั่วไป และส่งให้กับเพื่อนๆ ของคุณแม่ การเปิดร้านขายกาแฟ วางแผนเปิดเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เจอพิษโควิด เลยเลื่อนมาเปิดขายวันนี้ การทำขนม คุณแม่ ไปเรียนและพาน้องวิน ไปเรียนด้วย และจดจำสูตรการทำขนมได้ และมาทำขนมขายเอง ส่วนภาษามือ และบรรยากาศ การตกแต่งร้านกาแฟ เพื่อนๆ ที่เป็นผู้พิการ ทางการได้ยิน ช่วยกันวาดลวดลาย บนฝาผนัง เป็นรูปดอกไม้ รูปผีเสื้อ เพื่อให้ลูกค้า ได้มาถ่ายรูป และในร้านยังมีเมนูเป็นภาษามือ ให้ลูกค้า ใช้สั่งเครื่องดื่มและขนมด้วย

ฝังวิดีโอ

ร้านกาแฟ Baked by win อยู่ภายในโครงการ หมู่บ้านริมน้ำ ถนนสายเชียงใหม่ – แม่โจ้ เลยตลาดรวมโชค อยู่ซ้ายมือ เข้าไปในโครงการประมาณ 100 เมตร ร้านค้าตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศร่มรื่น น้องวินบอกว่า วันนี้ดีใจและภูมิใจมาก เพราะเป็นร้านคนหูหนวก ร้านแรกของเชียงใหม่ โดยจะตั้งใจทำงานและต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น -นอกจากนั้น ยังเปิดโอกาสให้เพื่อนๆ คนหูหนวกที่ จบคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาวาดภาพผนัง เป็นรูปผี้เสื้อ ดอกไม้ ปลา แมว สุนัข โดยเฉพาะผีเสื้อเป็นแมลงบินได้ ลูกค้าจะไปยืนตรงกลางเหมือนมีปีกผีเสื้อ เพื่อถ่ายภาพ และยังมีดอกไม้ที่เป็นธรรมชาติ โดยเพื่อนๆได้วาดตามจินตนาการ เพื่อให้ลูกค้ามาถ่ายรูป กับความสวยงาม พร้อมตกแต่งร้านเป็นภาษามือ โดยทุกอย่าง ต้องสั่งออเดอร์ ภาษามือ โดยน้องวินเป็นผู้ลงมือชงกาแฟ ด้วยตนเอง และยังทำขนมเองด้วย แต่ก็จะมีเพื่อนๆมาช่วยทำด้วย ส่วนราคากาแฟเบาๆ เหมือนร้านกาแฟทั่วไป


นาง ศิรินันทา กระแสเวช มารดาบอกว่า นอกจากน้องวิน จะทำเองแล้ว ยังเปิดโอกาส ให้เพื่อนๆน้องวิน ที่หูหนวก ได้มาช่วยงานที่ร้าน ให้มีรายได้เสริมอีกด้วย