เชียงใหม่ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ทีม UAV อากาศยานไร้คนขับ

รองแม่ทัพภาคที่ 3 ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ทีม UAV : อากาศยานไร้คนขับ กองทัพบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 / ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า มอบหมายให้ พล.ต. จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า พร้อมคณะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ ทีม UAV : อากาศยานไร้คนขับ เพื่อใช้ในการบินลาดตะเวนตรวจจุดความร้อนในห้วงที่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ ที่กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่


ด้าน พ.ต.จิตรกร พุกเนียม ผบ.ชุดอากาศยานไร้ขนขับ กล่าวว่า กองทัพบก ส่งอากาศยานไร้คนขับ (UAV: Unmanned Aerial Vehicle) แบบ Hermes 450 สนับสนุนภารกิจให้กับ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. 63 จนถึงปัจจุบันได้ขึ้นบินลาดตะเวนตรวจจุดความร้อน จำนวน 6 วัน 30.45 ชั่วโมง ตรวจบพบจุดความร้อน 152 เป้าหมาย

ทั้งนี้อากาศยานไร้คนขับ Hermes 450 สามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน มีเพดานบินสูงสุด 18,000 feet บินได้นาน 18 ชั่วโมง พิสัยปฏิบัติการ 250 กิโลเมตร น้ำหนักระบบ 345 กิโลกรัม สามารถวิ่งขึ้นด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้ 490 กิโลกรัม

 

แม่ฮ่องสอน นายอำเภอแม่สะเรียงรับมอบข่าวสาร-ผักปลอดสารพิษจากกำนันไปแจกผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19

นายอำเภอและกิ่งกาดชาดอำเภอแม่สะเรียงรับมอบข้าวสารและผักปลอดสารพิษ จากกำนันตำบลป่าแป๋ เพื่อนำไปแจกจ่ายผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2563 นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอแม่สะเรียง นางวิลาวัณย์ คัดเชียงแสน นายกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง พร้อมด้วยกรรมการสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง รับมอบข้าวสารจำนวน 2 ตัน และผักปลอดสารพิษ จำนวน 500 กก.จากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนเพื่อนำไปจ่ายแจกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไววัสโควิด-19 ต่อไป

เชียงใหม่ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ขอบคุณทุกหน่วยฯช่วยแก้ไขปัญหาไฟป่า

รองแม่ทัพภาคที่ 3 ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ส่งผลให้วันนี้คุณภาพอากาศดีขึ้นเป็นวันที่ 2

วันนี้(28 เม.ย.) เวลา 09.00 พล.ต. จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าเป็นประธานการประชุมผ่าน VTC ร่วมกับ 9 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังช่วงนี้สภาพอากาศทางภาคเหนือมีคุณภาพอากาศดีขึ้นเนื่องจากหลายจังหวัดเกิดฝนตก

รองแม่ทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้ง ในปีนี้เริ่มตั้งแต่ ธ.ค. 62 เป็นต้นมา ประกอบกับสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ และความกดอากาศสูงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ม.ค. 63 ทำให้ค่าคุณภาพอากาศ เกิดผลกระทบมากกว่าปีที่แล้ว แต่ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ทำให้ความรุนแรงของสถานการณ์น้อยกว่า จึงขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี


รองแม่ทัพภาคที่ 3 รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวต่อว่า ในส่วนของการบริหารจัดการเชื้อเพลิง หลังห้วงประกาศห้ามเผา( 30 เม.ย.63 ) ขอให้แต่ละจังหวัดดูความเหมาะสมของสถานการณ์ค่าอากาศในพื้นที่ด้วย หากมีค่าคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ก็ควรพิจารณาหยุดเผาในทันที


อย่างไรก็ตามกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เตรียมจัดทำแผนบทเรียน ผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2563 ของแต่ละจังหวัด เพื่อรอจัดทำแผนบทเรียนระดับประเทศ ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในห้วงวันที่ 19 – 20 พ.ค. 63 ที่ จังหวัดเชียงใหม่

(คลิป)เชียงใหม่ มอบไข่ไก่ให้ ตร.ภ. 5 เป็นขวัญกำลังใจสู้โควิด-19

เทศบาลตำบลสำราญราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำไข่ไก่จำนวน 3,000 ฟอง เป็นไข่ไก่ที่มีคุณภาพ แม่ไก่เลี้ยงด้วยโปรตีนของถั่วเหลือง นำมามอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ดูแลประชาชนต่อสู้การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมือง เชียงใหม่ ดร.เกษม ปารมีศิลป์ขจร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำราญราษฏร์ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาล นำไข่ไก่จำนวน 3,000 ฟอง มามอบให้กับ พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับตำรวจสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยในการทำงานในช่วงการระบาดของไวรรัสโควิด-19 ซึ่งจะจัดเวรยามตั้งจุดตรวจร่วมกับฝ่ายปกครองคัดกรองผู้ที่เดินทางระหว่างจังหวัด และในยามค่ำคืนต้องจัดเวรออกมาตั้งจุดตรวจในช่วงเคอร์ฟิวในแต่ละวัน ขณะที่หน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ก็มีผู้มีจิตศรัทธาหลั่งไหลช่วยกันบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของต่างๆ จำนวนมากแล้ว จึงเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งทำงานหนักเช่นกันก็ควรที่จะได้รับอาหารที่มีโปรตีนไปรับประทาน ซึ่งไข่ไก่ที่ได้จัดเตรียมมาจำนวน 3,000 ฟองนั้น ก็ได้เลือกไข่ไก่จากฟาร์มที่มีคุณภาพ เป็นฟาร์มไก่ไข่ที่ใช้โปรตีนจากถั่วเหลืองเลี้ยงแม่ไก่เป็นโปรตีนธรรมชาติ จึงไม่มีสารพิษใดๆ ตกค้าง


ด้านพลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการจำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกทศมนตรีเทศบาลตำบลสำราญราษฏร์ที่ได้นำไข่ไก่ที่มีคุณภาพมามออบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งหลังจากรับเอาไว้ก็จะนำไปแจกจ่ายให้กับข้าราชการตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน เพื่อมิให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งตำรวจก็จะทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

เชียงใหม่ น้ำใจสหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยามจับมือชมรม ทหารกองหนุนชาวเหลือชาวบ้าน

น้ำใจ สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม จับมือ ชมรม ทหารกองหนุน ทหารผ่านศึก อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ช่วยเหลือชาวบ้าน อำเภอดอยสะเก็ด กว่า 300 ครัวเรือน ในยามวิกฤตไวรัสโควิด-19

ที่สนามกีฬา เทศบาลตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม ร่วมกับ ชมรมทหารกองหนุนและทหารผ่านศึกอำเภอดอยสะเก็ด ได้นำถุงยังชีพ มาแจกจ่ายให้กับประชาชน ในตำบลแม่โป่ง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ รวม 10 หมู่บ้าน เพื่อเป็นการ ช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ จากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีทั้งผู้ป่วยติดเตียง ผู้ยากไร้ที่ทางสหพันธ์ ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม และคณะ ได้นำถุงยังชีพ มามอบให้ ซึ่งมีทั้ง ข้าวสารอาหารแห้ง มาม่าปลากระป๋อง น้ำมันพืช รวมถึงเจลเเอนกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย โดยก่อนหน้านั้นได้มอบถุงยังชีพให้กับ ผู้ป่วยติดเตียงไปแล้ว จำนวน 200 กว่าชุด

ล่าสุดได้มอบให้กับประชาชน อีกจำนวน 320 ชุด ถุงยังชีพ จาก นายวงศ์ศิริ วโรสัน ประธานสหพันธ์ มุ้งและชนเผ่าแห่งสยาม ณ คริสตจักรความเชื่อพระเยซู อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และ สมาชิก ชมรมทหารกองหนุน ทหารผ่านศึก อำเภอดอยสะเก็ด ร่วมบริจาค สมทบ


ทั้งนี้ ทางสหพันธ์ฯและชมรม ทหารกองหนุนและทหารผ่านศึก อำเภอดอยสะเก็ด ยังเปิดรับบริจาค และให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อื่นๆ จนกว่าจะพ้น สภาวะวิกฤตการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับความเป็นมาของ สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม เมื่อครั้งอดีต นายใสดัว เเซ่ว่าง หรือนายเพียะ และภรรยา นางเคียะหรือนางเอียะ ทั้งสองเป็นบิดาและมารดาของนาย วงศ์ศิริ วโรสัน ประธานสหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยามในปัจจุบัน ย้อนกลับไปเมื่อช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เกิดสงคราม ระหว่าง กลุ่มคอมมิวนิสต์จีนแดงกับกองทัพไทย ในช่วงเวลานั้น นายใสดัวแซ่ว่าง หรือนายเพียะ ได้เข้าร่วม กองทัพ ต่อต้านระบบคอมมิวนิสต์ จีนแดง ในพื้นที่เขตเขาค้อจังหวัดเพชรบูรณ์ และเขาหินร่องกล้า, ภูสอยดาว, บ้านร่มเกล้าจังหวัดพิษณุโลก ขณะนั้น พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็น ผบ.ทบ

ในช่วงก่อนสิ้นสุดสงคราม พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้แต่งตั้งให้ นายใสดัว แซ่ว่าง(เพียะ) เป็นผู้นำกลุ่มชาวม้ง โดยตรง เพื่อใช้แผนเจรจาต่อรอง ด้วย ม.66/23 ของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เนื่องจากช่วงเวลานั้น กลุ่มคอมมิวนิสต์จีนแดงที่อยู่ในป่าส่วนใหญ่ ก็เป็นชาวม้งด้วยกันทั้งสิ้น โดยกลุ่มชาวม้งซึ่งนำโดย นายเพียะ ได้เข้าเจรจาหยุดยิง และเข้ามอบตัวร่วมกับกองทัพไทย สงครามก็ได้ยุติลง ต่างแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาเดิมของตน

(คลิปภาพ )

ต่อมาเมื่อพ.ศ 2556 นายวงศ์ศิริ วโรสัน( บุตรชายนายเพียะ) ได้ตระหนักและเกิดความห่วงใย ต่อพี่น้องชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และชนเผ่าอื่นๆ ที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมานานหลายสิบปี แต่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทย ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งๆที่ทราบกันดีว่า ที่ผ่านมาครั้งอดีต กลุ่มคนเหล่านี้ ได้ร่วมรบสงคราม ปกป้องประเทศชาติ และบางส่วนก็ยัง ไม่มีที่อยู่อาศัย เป็นของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ นายวงศ์ศิริ วโรสัน จึงได้ขอคำแนะนำ จากบิดา(นายเพียะ) ซึ่งปัจจุบันอายุ 80 ปี โดยหาช่องทางเพื่อเข้าพบกับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เพื่อกลับมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวตาม ม.66/23 ตามที่ได้ตกลงกัน หลังสงครามยุติ โดยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ก็ได้แนะนำให้นาย วงศ์ศิริ วโรสัน ก่อตั้งโครงการใดโครงการหนึ่ง เพื่อเป็นการรวบรวมกลุ่มสมาชิกชาติติพันธ์ ที่ยังไม่มีสัญชาติและที่อยู่อาศัย สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม จึงได้ถือกำเนิดก่อตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ 2558 จนถึงปัจจุบัน สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม ได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้น เป็น 22 ชนเผ่า อันได้แก่ 1 .ชนเผ่าม้ง 2 .ชนเผ่าเมี่ยน 3 ชนเผ่าลาหู่ 4 .ชนเผ่าลีซู 5 .ชนเผ่าอาข่า 6 ชนเผ่าไทยยูนาน 7 .ชนเผ่าไทยใหญ่ 8 .ชนเผ่าปกาเกอะญอ 9 .ชนเผ่าไทลื้อ 10 .ชนเผ่าขมุ 11 .ชนเผ่าถิ่น 12 .ชนเผ่าปะหล่อง 13 .ชนเผ่าคะฉิ่น 14 .ชนเผ่าดอยสาม จีม 15. ชนเผ่าลัวะ 16 .ชนเผ่าไทยลาวซ่ง 17 ชนเผ่านากะ 18 .ชนเผ่ามอแกน 19. ชนเผ่าชีน 20 .ชน เผ่าซาไก 21 .ชนเผ่าโมิเกล 22. ชนเผ่ากะยันบะตอง

ต่อมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2560 สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม ได้จัดงาน ปฏิญาณตนต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่หมู่บ้านผาแตก ตำบลพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี พลโท อนุธัช บุนนาค หัวหน้าศูนย์ประสานงานประเทศเพื่อนบ้านศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก)มาเป็นประธานเปิดงานปฏิญาณตนและได้เชิญท่านณรงค์ศักดิ์โอสถธนากร(ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย)มาร่วมเป็นพยานด้วยว่าเรากลุ่มชาติพันธ์รวบรวมเป็นกลุ่มเป็นก้อนเป็นปึกแผ่นน้ำหนึ่งใจเดียวร่วมใจสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติบ้านเมืองอย่างถุกต้องต่อไปนับแต่นั้นมาสหพันธ์จึ่งได้ออกบัตรสมาชิกให้สมาชิกผู้ที่จะร่วมจิตอาสาสร้างคุณงามความดี


ในเดือนมีนาคม พศ 2561 สหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยามได้รับหนังสือเชิญร่วมทำบุญทอดผ้าป่าด้วยร่วมใจบริจาคระหว่าง 4 ประเทศเพื่อนบ้านเช่น 1. ประเทศกัมพูชา เมื่วันที่ 7 มิถุนายน พศ.2561  2. ประเทศเมียนมา 3. ประเทศมาเลเซีย 4. ประเทศลาว ครั้งนี้สมาชิกทุกเผ่าก็ได้ร่วมใจสมทบทำบุญ100,000 บาท


ต่อมาวันที่ 13 สิงหาคม พศ. 2561 กลุ่มสหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยามได้ร่วมการปลูกป่ากับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติเขตรับผิดชอบสำนักบริหารพื้นี่อนุรักษ์ที่ 15 เชียงราย จำนวน200 กว่าไร่ในพื้นที่บ้านต้นฝาง ต.ออย อ.ปง จ.พะเยาทำให้สหพันธ์ได้มีโอกาสรับโล่เกียรติคุณสร้างความคุณงามความดีให้ประเทศชาติจากท่านอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ และขณะนี้ก็เป็นช่วงที่ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกลุ่มสหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม จึงได้ร่วมกับทหารกองหนุน และทหารผ่านศึก อำเภอดอยสะเก็ด ร่วมใจกันบริจาคถุงยังชีพ ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชุมชนต่างๆ นับว่า ทางกลุ่มสหพันธ์ฯ ได้เข้ามามีบทบาท ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย ทั้งในยามสงบ และยามทุกข์ สร้างคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมาโดยตลอด


ส่วนปัญหาที่ทางพี่น้องสหพันธ์ม้งและชนเผ่าแห่งสยาม ต้องการ ให้ภาครัฐ เข้ามาช่วย เหลือในตอนนี้ คือ 1. การขอสัญชาติไทยให้กับพี่น้องชนเผ่าที่ยังไม่มีสัญชาติ ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศไทยมาเป็นเวลานานแล้ว 2. เรื่องที่อยู่อาศัยกับกลุ่มที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัย ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนมากจะอยู่บนภูเขา 3. การเข้าร่วมกับภาครัฐช่วยปลูกป่าเพื่อประเทศชาติ 4. การเข้าร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ปกป้อง ประเทศ ไม่ให้ สิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ไม่ให้เข้ามาในดินแดนประเทศไทยได้

เชียงใหม่ พ่อเฒ่าชาวลำพูนชะตาขาด ฟ้าผ่าสายไฟแรงสูงขาดพาดโดนรถไฟไหม้ดับ

พ่อเฒ่าชาวจังหวัดลำพูนชะตาขาด ขับรถกระบะมาโรงงานที่เชียงใหม่เพื่อจะรับกระเทียมไปแกะที่บ้าน ขณะจอดรถเพื่อเปิดประตูโรงงาน ฟ้าผ่าสายไฟฟ้าแรงสูงขาดมาพาดตัวเองถูกช็อตจนตัวไหม้เกรียม และกระแสไฟยังช็อตรถจนไฟไหม้ทั้งคัน

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้(25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถ และมีผู้เสียชีวิตถูกเพลิงไหม้ในที่เกิดเหตุ บริเวณประตูปากทางเข้าโรงงานแกะหอม-กระเทียม เลขที่ 191 ตำบลสันพระเนตร ริมถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ดขาเข้าเมือง ห่างจากวงแหวนแยกแม่กวงไปประมาณ 200 เมตร จึงประสานไปยังรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลสันพระเนตรและเทศบาลตำบลสันนาเม็ง เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ


เมื่อไปถึงพบไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์กระบะโตโยต้ารุ่นไมตี้เอ็ก ทะเบียน บฉ-1738 ลำพูน บริเวณข้างประตูคนขับรถพบศพชายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สภาพศพถูกไฟไหม้จนเกรียมไปทั้งตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะใช้น้ำเพื่อฉีดสกัดไฟที่ไหม้รถก็ได้รับแจ้งว่า มีสายไฟฟ้าแรงสูงขาดอยู่ใกล้กับศพ หากฉีดน้ำก็เกรงว่าจะถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อต จึงต้องรอให้เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าสันทราย เดินทางมาเพื่อตัดกระแสไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถเข้าสกัดเพลิงที่ไหม้รถเอาไว้ได้

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายประทิน เทศชม ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า ขณะที่เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมกระโชกแรง ได้เกิดเสียงฟ้าผ่าขึ้นเสียงดังสนั่น ไม่นานนักก็พบกลุ่มควันขึ้นริมถนน จึงได้รีบวิ่งออกมาดูก็พบว่า รถยนต์กระบะเกิดเพลิงลุกไหม้ มีเสียงไฟฟ้าช็อตออกมาจากรถหลายครั้ง และพบว่ามีผู้เสียชีวิตถูกไฟไหม้อยู่บริเวณรถ แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลยเพราะเกรงจะถูกไฟไฟาแรงสูงช็อตเช่นกัน


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายชื่อแดง อายุประมาณ 62 ปี เป็นชาวจังหวัดลำพูน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางมารับกระเทียมโรงงานบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปแกะที่บ้าน ขณะที่เดินลงจากรถเพื่อมาเปิดประตูหน้าโรงงาน สายไฟฟ้าแรงสูงก็ได้ขาดลงมาพาดไปที่รถกระบะและผู้ตาย จนทำให้ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตจนเสียชีวิต ส่วนรถกระบะก็เกิดเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว


สำหรับบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ริมถนน เส้นทางสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ที่มุ่งหน้าไปยังจังหวัดเชียงราย ซึ่งกำลังในระหว่างการขยายถนน และจุดดังกล่าวพึ่งมีการย้ายเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งยังดำเนินการไม่เสร็จ แต่ก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนหาสาเหตุกันต่อไป

เชียงใหม่ สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานน้ำสรงและผ้าไตร ประกอบพิธีสรงน้ำพระธาตุจ๋อมสะหลีปุรีนามน่างรั้ว ณ วัดยางกวง

สมเด็จพระสังฆราช โปรดประทานน้ำสรงและผ้าไตร ประกอบพิธีสรงน้ำพระธาตุจ๋อมสะหลีปุรีนามน่างรั้ว ณ วัดยางกวง อำเภอเมือง เชียงใหม่

นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน

พระครูปลัดสุรเดช สิริสุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดยางกวงจ๋อมสะหลีปุรีนามน่างรั้ว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เจริญพรมาว่า ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานน้ำสรงและผ้าไตร เพื่อประกอบพิธีสรงน้ำพระธาตุจ๋อมสะหลีปุรีนามน่างรั้ว ณ วัดยางกวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบให้ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี (การประกอบพิธีแบบภายใน จำนวน ผู้ร่วมงาน 10 คน)

พระครูปลัดสุรเดช เจริญพรอีกว่า ในการประกอบพิธีมงคลดังกล่าว ขออนุโมทนา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ กรมอนามัยเชียงใหม่ กระทรวงสาธารณสุขมาตรวจสุขภาพ ณ จุดคัดกรอง ทหารจิตอาสา ญาติโยมทุกสายบุญทุกคณะ เจ้าหน้าที่คนงานเทศบาลฯคนงานก่อสร้างวิหารลายคำฯที่ได้ร่วมปฏิบัติงานในการประกอบพิธีมงคลดังกล่าว.

เชียงใหม่ ทหารช่วยเหลือประชาชนช่วงโควิด-19แจกข้าวกล่องวันละ 400 กล่องตลอดเดือนเมษายน

ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศป.บส.ชน.) ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยทหารในพื้นที่แจกข่าวกล่อง 400 กล่อง ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัส COVID -19 ที่ บริเวณอนุสาวรีย์ หน้า กองพลทหารราบที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่

เมื่อเย็นวานนี้(24 เม.ย.) พลตรี บุญยืน อินกว่าง รองผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (รองผบ.ศป.บส.ชน.) พร้อม ฝ่ายอำนวยการ ร่วมกับ พันโท วีระชาติ โชติวรอานนท์ ผู้บังคับกองพันพัฒนาที่ 3 แจกข่าวกล่อง จำนวน 400 กล่อง ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัส COVID -19 ที่ บริเวณอนุสาวรีย์ หน้า กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่


ทั้งนี้จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 มอบนโยบายให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 แจกข้าวกล่องให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนตลอดทั้งเดือนเมษายน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น

อย่างไรก็ตามในการมารับอาหารในครั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือให้มีจัดตั้งจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย, จัดที่ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่สำคัญคือมาตราการเว้นระยะห่างในการเข้าแถว เพื่อเป็นการป้องกันของโรคอีกด้วย

เชียงใหม่ อ.แม่ริมนำร่องปลูกผักสวนครัว1 บาท 1 อิ่ม 1 มื้อ บ้านพักนายอำเภอ

นายอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดบ้านพักนายอำเภอ ดัดแปลงจัดทำแปลงสาธิตปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ตามแนวทางการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกถั่วงอกเพียง 1 บาท 1 อิ่ม 1 มื้อ

ที่บริเวณบ้านพักนายอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร นายอำเภอแม่ริม เป็นประธานเปิดกิจกรรม ผู้นำต้องทำก่อน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ใช้ช่วยวิกฤตการแรพเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยดัดแปลงบริเวณสนามหญ้าภายในบ้านพักนายอำเภอ จัดทำเป็นสวนปลูกผักสวนครัว รั้วกินได้ ตามแนวทางการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยมีนายธาดา ธีระวาทิน พัฒนาอำเภอแม่ริม หัวหน้าหน่วยราชการอำเภอแม่ริม ชมรมอาสาพัฒนาชุมชนอำเภอแม่ริม ผู้นำสตรีอำเภอแม่ริม เครือข่าย OTOP อำเภอแม่ริม เพื่อเป้นการลดรายจ่ายในภาวะเศรษฐกิจชะลิตัว และเป็นแหล่งอาหารปลอดภัยในครัวเรือนที่มีความมั่นคง เพื่อให้สามารถรอดพ้นวิกฤตสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปได้


นายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร นายอำเภอแม่ริม เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการระบาดของไวรัส โควิด-19 ชาวบ้านก็ต้องอยู่กับบ้าน การที่มาทำแปลงปลูกพืชผักสวนครัวก็เป็นกิจกรรมที่จะเสริมในเรื่องอาการปากท้องด้วย เพราะรายได้ชาวบ้านก็ลดลง สามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ถ้าเป็นการปลูกถั่วงอก ก็ใช้เพียงวัสดุขวดน้ำดื่นขนาด 1.5 ลิตร ที่เราดื่มแล้วทิ้ง ก็ดัดแปลงนำมาทำได้ทั้งสิ่งแวดล้อม ได้ทั้งอาหาร ได้ทั้งใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อยู่บ้านก็จะได้มีกิจกรรมทำ เมื่อหมดช่วงโควิด-19 ไปแล้ว ก็จะได้นำความรู้ที่มีไปทำต่อที่บ้าน อยากจะทำถั่วงองในขวดน้ำก็ทำ 4-5 วันก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้แล้ว โดยอำเภอแม่ริมก็มีการรณรงค์การปลูกถั่วงอกเพียงถั่วงอก 1 บาท 1 อิ่ม 1 มื้อ นอกจากนั้นยังมีการปลูกพืชผัวสวนครัวหลายอย่าง จัดทำเป็นแปลงทดลองเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชุมชน เข้ามาศึกษานำไปกระจายความรู้ให้กับชาวบ้าน ให้กับมาปลูกพืชผักสวนครัว เพราะอนาคตประเทศของเราจะมีผู้สูงอายึมากยิ่งขึ้น นิ่ก็เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของผู้สูงอายุ ทำในยามว่าง มีอาหารไว้สำหรับกินด้วย ก็จะได้ออกกำลังกายไปพรวนดินรดน้ำอีกด้วย


นายอำเภอแม่ริม กล่าวอีกว่า สำหรับการนำบ้านพักของนายอำเภอมาจัดทำเป็นแปลงปลูกพืชผัวสวนครัวก็เป็นแค่ตัวอย่าง สาเหตุเพราะหน่วยงานราชการอื่นก็เทคอนกรีตหมด ก็คงเหลือสนามหญ้าภายในบ้านพักนายอำเภอที่ว่าง จึงให้ทำการดัดแปลงปลูกพืชผักสวนครัวไปก่อน ในส่วนท้องถิ่นต่างๆ ก็อยากให้มาดู เพื่อจะนำตัวอย่างแปลงปลูกสาธิต ไปปลูกในพื้นที่ว่างของหมู่บ้านของตน ช่วยกันปลูกเมื่อออกดอกออกผลก็ช่วยกันไปเก็บนำไปรับประทานประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน

 

เชียงใหม่ ชาวดอยน้ำใจงาม ขนข้าวสารจำนวน 2 ตัน ผัก 500 กก.ลงดอยแจกช่วยชาวเชียงใหม่

ชาวดอยน้ำใจงาม ขนข้าวสารจำนวน 2 ตัน ผัก 500 กก.ลงดอยแจกช่วยชาวเชียงใหม่ เพื่อสู้วิกฤตโควิด -19 คนไทยเราไม่ทิ้งกัน

ที่หน้าเทศบาลตำบลสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พี่น้องชนเผ่า ปกาเกอะญอ ( กะเหรี่ยง ) จากบ้านขุนแตะ ต.ดอยแก้ว อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นำโดย น.ส. วิไล รุจิพงศ์ไพรนาม ประธาน อสม.โรงพยาบาลส่งเสริมสุจภาพชุมชนบ้านขุนแตะ พร้อมกับสมาชิกจำนวน 50 คน ขนข้าวสาร จำนวน 2 ตัน รวมทั้งพืชผักผลผลิตจากบนดอย ขนมาด้วยรถ 5 คันรถ ได้มาแจกให้กับพี่น้องคนพื้นราบ ในชุมชนบ้านวัดป่าแดง ,ชุมชนวันฝายหิน และวัดศรีสุดา ต.สุเทพ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ได้นำข้าวสารและผักพลไม้ บริจาคให้กับเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่วัดดอนจั่น ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่มาแล้ว

น.ส.วิไล รุจิพงศ์ไพร เปิดเผยว่า เมื่อเกิดวิกฤต ไวรัส โควิด -19 ในครั้งนี้ เมื่อเห็นข่าว พบว่าพี่น้องคนไทยที่อยู่ในเมือง ตกงาน ว่างงาน ไม่มีรายได้และขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะข้าว ตนและเพื่อนๆในหมู่บ้านเกิดความสงสารเขา จึงได้รวบข้าสารแต่ละครอยครัว รวมกันแล้วได้จำนวน 2 ตัน ส่วนผักต่าง ๆ เราปลูกกินและยังมีผักอีกจำนวนมากขายก็ประสบปัญหาด้านการเดินทาง ปล่อยไปก็จะเน่าเสียหายโดยเปล่าประโยชน์ เกิดความสงสารพี่น้องในเมือง จึงนัดกับผู้นำชุมชนมาแจกให้กับคนที่ชาดแคลนจะดีกว่า และจะทำแบบนี้เรื่อยๆจนกว่าของบนดอยจะหมด การที่พี่น้องคนดอยได้รวบรวมผลิตที่ทำด้วยตัวเองจากชุมชนมาแจกในครั้งนี้ไม่คิดสิ่งตอบแทนหรือชื่อเสียงแต่อย่างใด ทำด้วยใจเพราะสงสารพวกเขาที่ไม่มีกินจริงๆ