พบลุงวัย 66 ปี ชาวอำเภอสันทราย แข็งแรง สามารถปีนต้นเก็บผลมะก๊อ สูงกว่า 30 เมตร

พบลุงวัย 66 ปี ชาวอำเภอสันทราย แข็งแรง สามารถปีนต้นเก็บผลมะก๊อ ซึ่งเป็นต้นไม้มีลักษณะเหมือนต้นตาลสูงกว่า 30 เมตร นำผลมาจำหน่ายหารายได้ให้ครอบครัว โดยมะก๊อเป็นผลไม้ที่หายทานยาก ผู้เฒ่าผู้แก่ตามชนบทชอบทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ

นายอ้าย หน่อคำ อายุ 66 ปี ชาวบ้านป่ากล้วย ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงยึดอาชีพขึ้นต้นมะก๊อ ซึ่งลำต้นมีลักษณะคล้ายกับต้นมะพร้าว หรือ ต้นตาล มีความสูงกว่า 30 เมตรจากพื้นดิน เพื่อเก็บลูกมะก๊อ นำลงมาขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว โดยในแต่ละปีลูกมะก๊อจะออกลูกในช่วงฤดูฝน โดยคุณลงอ้ายยึดอาชีพนี้มานานหลายสิบปีแล้ว โดยสามารถปีนต้นไม้ได้เกือบทุกชนิดเลยทีเดียว

สำหรับมะก๊อ หรือบ่ะก๊อแกง แกะเอาเปลือกสีเทาๆ ออก จะเหลือเนื้อติดเม็ด เอาเกลือคลุกๆ หรือหมักดองเกลือไว้ 1-2 วันให้พอมีรสเค็ม พอน้ำเกลือซึมเข้าเนื้อ ก็ทานได้ ทานเปล่าๆก็ได้ หรือจะกินกะข้าวนึ่ง(ข้าวเหนียว)ร้อนๆ ซึ่งผู้เฒ่าผู้แก่ตามชนบทชอบกินกันแบบนี้ รสชาติของบ่ะก๊อจะมันๆ ฝาดนิดๆ เป็นผลไม้ที่หากินได้ยาก โดยจะขายในตลาดลูกละ 1 บาท หรือลูกละ 2 บาท เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับรสชาติและผลของมันว่าลูกเล็กหรือลูกใหญ่

(คลิป) ชาวบ้านชาวบ้านร่วมใจการทำบุญสรงน้ำรอยพระบาทอายุเก่าแก่หลายร้อยปี

ชาวบ้านป้อก ในอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมใจการทำบุญสรงน้ำรอยพระบาทตีนดอยและสรงน้ำพระธาตุอายุเก่าแก่หลายร้อยปี ซึ่งจัดเป็นประเพณีมายาวนาน

ชาวบ้านป้อก หมู่ 4 ตำบลสะเมิงเหนือ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันใจกันจัดงานทำบุญรอยพระพุทธบาทตีนดอย ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ของพระพุทธเจ้า ที่ชาวบ้านนับถือ ซึ่งในแต่ละปีชาวบ้านจะร่วมกันจัดงานทำบุญสรงน้ำรอยพระบาทตีนดอย และสรงน้ำพระธาตุ ถือเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน

สำหรับรอยพระบาทตีนดอย เล่ากันว่ารอยพระพุทธบาทตีนดอยบ้านป้อกเป็นรอยพระพุทธบาทที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดสัตว์โลกแล้วเสด็จกลับ (หันหลังกลับ) หมู่บ้านเกิดความแห้งแล้ง ครูบาอุปาละ บอกว่าในหมู่บ้านมีรอยพระพุทธบาท ควรแก่การสักการบูชา ครูบาอินตาได้สร้างศาลาครอบเอาไว้ และขณะที่มีการทำพิธีสักการบูชารอยพระพุทธบาท ฝนได้ตกลงมาอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ และต่อจากนั้นมาชาวบ้านได้ทำนา ทำไร่ และทำสวนจนถึงปัจจุบัน

ต่อมาครูบาอินสม โอภาโส วัดศาลาโป่งกวาว ได้ก่อสร้างพระเจดีย์ขึ้น นอกจากนี้บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังมีน้ำบ่อยา (น้ำบ่อศักดิ์สิทธิ์) กว้างประมาณ 1 ฟุต ลึกประมาณ 1 ศอก และบริเวณใกล้เคียงมีหินตาหินยายที่มหัศจรรย์ ในทุกปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุและพระบาท ประมาณเดือนพฤษภาคมของทุกปี

(คลิป) เชียงใหม่ หนึ่งเดียวในประเทศไทย เปิดสอนพระไตรปิฏกให้กับเด็กและเยาวชนฟรี

เชียงใหม่ หนึ่งเดียวในประเทศไทย เปิดสอนพระไตรปิฏกให้กับเด็กและเยาวชนฟรี ในพื้นที่จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ เมื่อเรียนศึกษาครบ 1 ปีในวันมาฆบูชาก็จะทำการสอบเพื่อชิงทุนการศึกษากว่า 1 หมื่นบาท ในอนาคตอยากให้เด็กและเยาวชนเหล่านี้ ได้นำคำสั่งสอนที่ศึกษามาในพระไตรปิฏก ไปใช้ในชีวิตประจำวันและเผยแพร่ศาสนาให้ยืนยาวต่อไป

ที่สถานศึกษาพระไตรปิฏกและวิปัสนากรรมฐาน สำหรับเด็กและเยาวชน บ้านเหล่าแมว หมู่ 1 ตำบลวังผาง ตำบลเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน เด็กนักเรียนในพื้นที่อำเภอจอมทอง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และนักเรียนในพื้นที่อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ต่างเดินทางมาเรียนศึกษาพระไตรปิฏกและวิปัสนากรรมฐาน ซึ่งนายปรีชา แดงซอน แบ่งพื้นที่ที่ดินของตนเองจัดตั้งสถานศึกษาพระไตรปิฏกและวิปัสนากรรมฐานขึ้น เพื่อให้เด็กนักเรียนที่มีความสนใจศึกษาพระไตรปิฏกได้มาเรียนรู้ ศึกษาร่วมกันโดยจะเปิดสอนทุกวันเสาร์ ซึ่งจะสับเปลี่ยนอาจารย์และพระสงฆ์ที่มีความรู้เกี่ยวกับพระไตรปิฏกเรื่องการทำวิปัสนากรรมฐาน มาฝึกสอนให้กับเด็กๆ

นายปรีชา แดงซอน เปิดเผยว่า ในวันนี้มีการแข่งขันอ่านพระไตรปิฏกและสอบแข่งขันพระไตรปิฏกซึ่งปีนี้ รางวัลที่ 1 ทางสถานศึกษาพระไตรปิฏกจะมอบเงินสดเป็นทุนการศึกษาให้ 11,250 บาท ส่วนรางวัลที่ 2 และ 3 เป็นรถจักรยานที่ผู้มีจิตศรัทธาได้นำมามอบให้ โดยผู้ที่สอบได้ที่ 1 จะต้องทำข้อสอบได้เกิน 80 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 ซึ่งกิจกรรมนี้ทำคิดต่อกันมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ส่วนสถานศึกษาพระไตรปิฏกได้ก่อตั้งขึ้นมา 9 ปีแล้ว มีเยาวชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ที่อยู่ใกล้เคียงเดินทางมาร่วมศึกษากันจำนวนมาก หลังเสร็จสิ้นการเรียนพระไตรปิฏกแล้ว ก็จะมีอาหารขนมเครื่องดื่มเลี้ยงเด็กๆ ทุกครั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งเด็กๆ ก็ชื่นชอบที่จะมาเรียนพระไตรปิฏก โดยส่วนใหญ่มาเรียนแล้วก็นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน บางคนมาเรียนแล้วต่อเนื่อง 3-4 ปี ทำให้ผลการเรียนดีขึ้น ส่วนผลการสอบความรู้เรื่องพระไตรปิฏกผู้ชนะเลิศคว้าเงินสดจำนวน 11,250 บาท ได้แก่เด็กชาย กิตติพงษ์ ศิวกรศิลป์ ได้ 82 คะแนน ส่วนรางวัลที่ 2 คือเด็กหญิงโชรดา คำวงศ์ษา ได้ 67 คะแน และเด็กชายธริษตร์ กันทะ ได้ 60 คะแนนได้รถจักยานเป็นรางวัลปลอมใจ ซึ่งผู้ที่ได้ที่ 1 ในแต่ละปีจะไม่มีสิทธิ์มาสอบ จะให้เป็นเป็นผู้ช่วยคุมสอบในปีต่อๆ ไป

เจ้าของสถานศึกษาพระไตรปิฏกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของการเปิดสถานศึกษาพระไตรปิฏกแห่งนี้ก็อยากจะส่งต่อพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กับเด็ก เยาวชน รุ่นใหม่ โดยมีกิจกรรมไหว้พระ สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ แผ่เมตตา และศึกษาพระไตรปิฏกทุกวันเสาร์ ตั้งแต่้วลา 18.00-21.00 น. โดยได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จาก ท่านเจ้าคุณพระสุวรรณเมธี รองเจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มาสอนวิปัสสนากรรมฐาน และพระสุขเกษม สุเขธิโต วัดเก่าบ้านหนองสลิง ตำบลศรีเตั้ย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ให้การสนับสนุนจัดหาพระไตรปิฏก มาให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษา

ด้านนายบุญเลิศ โคตรพัฒน์ เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลำพูน และเป็นอาจารย์สอนเรื่องพระไตรปิฏกให้กับเด็กๆ เปิดเผยว่า เด็กนักเรียนที่ทำการสอบในวันนี้เป็นเด็กนักเรียนที่มาเรียนประจำอยู่แล้วทุกๆ วันเสาร์ เมื่อเรียนครบ 1 ปี ในช่วงวันมาฆบูชาก็จะทำการสอบ ซึ่งได้ออกข้อสอบให้เด็กๆ ได้ทดสอบความรู้ความสามารถที่ได้เล่าเรียนมาในพระไตรปิฏก โดยให้ทำข้อสอบ 100 ข้อ เป็นแบบปรนัยกาอย่างเดียว คนที่สอบได้ราวัลที่ 1 ก็มีรางวัลให้เป็นทุนการศึกษา 11,250 บาท ที่ 1,250 ก็ต้องการให้จำว่า วันมาฆบูชา มีพระสงฆ์มาฟังโอวาทปาฏิโมกข์ของพระพุทธเจ้าจำนวน 1,250 องค์ จึงอยากให้เด็กๆ ได้จำตรงนี้เอาไว้

(คลิป) เชียงใหม่ พิธีไหว้ครูฤาษีมากที่สุดในประเทศไทย ชุมนุมฤาษีโลก

อาจารย์ทรัพย์ ประธานชุมนุมฤาษีโลกจัดพิธีไหว้ครูฤาษีมากที่สุดในประเทศไทย มูลนิธิฤาษีพระมุนีพร้อมประกาศช่วยเหลือสังคม โดยมีฤาษีจากทั่วประเทศเข้าร่วมงาน พร้อมประกาศช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะการให้โลงศพฟรีแก่ผู้ยากไร้ และศพไร้ญาติทั่วประเทศ มีเต็งหนึ่ง ดอกกระโดน ศิลปินนักแสดงตลกเข้าร่วม

ที่มูลนิธิฤาษีพระมุนี บ้านวังธาร ซอย 4 หมู่ที่ 8 ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายขุมทรัพย์ เหวขุนทด ประธานกรรมการ มูลนิธิฤาษีพระมุนี หรือ อาจารย์ทรัพย์ มุนีเทพ เป็นประธานในพิธีไหว้ครูมูลนิธิฤาษีพระมุนี โดยพิธีจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 63 โดยมีเครือข่ายฤาษีจากทั่วประเทศ เข้าร่วมงานกว่า 200 คน ซึ่งนอกจากจะเป็นวันวัฒนธรรมประเพณีไหว้ครูแล้ว ยังเป็นการพบปะสังสรรค์ของฤาษีและผู้ที่เลื่อมใส ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วเอเชีย ซึ่งบรรยากาศภายในงานมีการกางผ้ายันต์พระพุทธสิหิงค์องค์หลวงใหญ่ที่สุดในโลก ขนาด 16 x 16 เมตร ซึ่งได้รับการรับรองจาก Ripley’s Believe It or Not ว่าเป็นผ้ายันต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากงานมุนีศิลป์ Festival 2019 ครั้งที่ 1 เมื่อ 17 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมาด้วย

โดยพิธีเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า มีพิธีบวงสรวงเหล่าเทพเทวา โดยมีอาจารย์สมบัติ แก้วสุจริต ทำพิธีไหว้ครู และครอบครูตามวัฒนธรรมประเพณีสายวังหน้า และเป็นผู้ดำเนินพราหมณ์รวมทั้งเป็นเจ้าพิธี จากนั้นมีการรับกระแจะจุนเจิม โดย อาจารย์ศิริพงศ์ คุรุพันธ์กิจ มีการผูกแขนมัดมือโดยครูศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ประสิทธิ์ ปิ่นแก้ว จากนั้นได้ร่วมกันประกอบพิธีกรรมโดยอาจารย์ทั้ง 3 ท่าน การรำถวายมือ พระ ยักษ์ หนุมาน จากคณะศิลปะการแสดงโขน โดย ร.ศ.คำนึง สุขเกษม ที่ปรึกษาหลักมูลนิธิฯ ฝ่ายวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาและการบรรยายแลกเปลี่ยนวิทยาการด้านต่างๆ บริเวณสถานที่จัดงาน ซึ่งในวันสุดท้ายมีการเจริญทิพยมนต์ ฝ่ายฤาษีพุทธา-เทวาคมขลัง จนถึงเที่ยงคืนเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

อาจารย์ทรัพย์ มุนีเทพ ประธานกรรมการ มูลนิธิฤาษีพระมุนี เปิดเผยความเป็นมาของมูลนิธิฯ ว่า เมื่อก่อนนี้รุ่นครูบาอาจารย์ได้รวมกลุ่มกันเป็นชมรมอนุรักษ์การสักยันต์ไทยและหมอยาชาวบ้าน จากนั้นเมื่อ 4 ปีก่อนจึงได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ เพื่อทำกิจกรรมและช่วยเหลือสังคมได้มากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ คือ การอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรม การจัดหาทุนการศึกษาแก่น้องผู้ยากไร้ การเข้าไปช่วยเหลือการภัยภิบัติทั้ง 4 ด้าน การทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา และการสงเคราะห์เรื่องของโลงศพแก่ผู้ยากไร้ หรือศพไม่มีญาติ โดยการนำเงินจากการบริจาค และจากเครือข่ายสาขาต่างๆ นำมาจัดซื้อไว้ ซึ่งได้ช่วยเหลือไปแล้วเดือนละกว่า 300-400 โลง โดยสามารถไปขอได้ทุกสาขาใน 4 ภาค ทั่วประเทศ โดยเฉพาะศพไม่มีญาติทางมูลนิธิฯ ยังจัดการเรื่องการเผาให้ด้วย

ด้าน นายสุรพงษ์ สนิทพันธ์ หรือ เต็งหนึ่ง ดอกกระโดน ศิลปินนักแสดงตลก กรรมการบริหารสมาคมศิลปินตลก (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในนามของศิลปินนักแสดงต้องขอบิกว่ามูลนิธิฯ นี้ ช่วยเหลือคนจริงๆ โดยเฉพาะตน เมื่อปีที่ผ่านมาลูกสาวตน น้องมีตังค์ วัย 2 ขวบ ประสบเหตุจมในถังน้ำจนเป็นข่าวดัง ทางมูลนิธิฯก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งนี้กิจกรรมใดที่เป็นการช่วยเหลือพ่อน้องชาวไทย ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดี ซึ่งตนก้เข้ามาทำด้านประชาสัมพันธ์ให้ทางมูลนิธิฯ ด้วย ถึงวันนี้อยากให้ทุกคนร่วมด้วยช่วยกันในยามภาวะบ้านเมืองเกิดวิกฤติหรือเดือดร้อน ในนามของศิลปินตลกและตัวแทนของนักแสดง ก็ยากจะบอกว่าหากมูลนิธิฯ ทำในด้านที่ช่วยเหลือสังคมเราควรช่วยกันส่งเสริม เพราะวันหนึ่งสิ่งที่ท่านบริจาคไปให้มูลนิธิฯอาจจะกลับไปถึงตัวคุณในยามที่อาจจะเดือดร้อนก็ได้

(คลิป) กรมเจ้าท่า จัดอบรมเครือข่ายอาสาวารี รุ่นที่ 38 ที่เชียงใหม่ สร้างเครือข่ายภาคประชาชน ในการสอดส่องดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

กรมเจ้าท่า จัดอบรมเครือข่ายอาสาวารี รุ่นที่ 38 ที่เชียงใหม่ สร้างเครือข่ายภาคประชาชน ในการสอดส่องดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

นายวิทยา ยาม่วง เป็นประธานในพิธีโครงการอบรมเครือข่ายอาสาวารี รุ่นที่ 38  ที่ห้องพลอยไพลิน กรีนเลค รีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายออกไปสู่ภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานร่วมกับกรมเจ้าท่า โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจำนวนทั้งสิ้น 120 คน

กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ในฐานะเป็นองค์กรที่มุ่งพัฒนาระบบการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีให้ปลอดภัย สะดวกและมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานสากล มีแนวคิดสร้างเครือข่ายให้กว้างขวางมากขึ้น ด้วยการเพิ่มเป้าหมาย และขยายวัตถุประสงค์นำเครือข่ายออกไปสู่ภาคประชาชน หรือองค์กรต่างๆ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชน องค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมปฏิบัติงานกับกรมเจ้าท่า โดยเมื่อปี 2553 กรมเจ้าท่า ได้จัดให้มีการฝึกอบรมหลักสูตร “อาสาวารี” ภาคประชาชนขึ้น เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึก ความเป็นอาสาสมัคร จิตสาธารณะ การเสียสละ ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พร้อมเป็นตัวแทน “เจ้าท่า” ในการปกปักษ์รักษาแหล่งน้ำอันเป็นสาธารณสมบัติของชาติที่อยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่า การทำงานร่วมกันในการเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุอันอาจเกิดจากการใช้เรือและท่าเทียบเรือ การสัญจรทางน้ำ การแจ้งเหตุเกี่ยวกับมลภาวะ การกระทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำและผู้ละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับการเดินเรือ

ดังนั้น เพื่อให้การสร้างเครือข่าย “อาสาวารี” ภาคประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่องมีการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ตามวัตถุประสงค์ สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า จึงได้จัดการฝึกอบรมโครงการเครือข่าย “อาสาวารี” รุ่นที่ 38 ขึ้น โดยมีผู้ผ่านการอบรมมาแล้ว ทั้งสิ้น 6,066 คน โดยหัวข้อในการอบรมจะประกอบด้วย สาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ, การปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยฟื้นคืนชีพ บรรยายด้านกฎ ระเบียบ การขุดลอก บรรยายด้านสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ด้านการใช้วิทยุสื่อสาร การแจ้งเหตุทางน้ำ และความปลอดภัยในการเดินเรือ อันเป็นการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มกำลังคนในการช่วยปฏิบัติภารกิจของกรมเจ้าท่าเป็นการสร้างเครือข่ายอาสาวารีที่ยั่งยืนต่อไป

สำหรับผู้สนใจสมัครเป็นเครือข่ายอาสาวารี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มตรวจการเดินเรือ สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ โทรศัพท์ 0 2233 0437 , 0 2233 1311-8 ต่อ 308 , 309 , 229 หรือสายด่วน 1199

สวัสดีชาวโลก – -‘

ยินดีต้อนรับสู่ WordPress นี่คือเรื่องแรกของคุณ แก้ไขหรือลบทิ้งไป แล้วมาเริ่มเขียนกัน!