ลำพูน จ.ลำพูน เตรียมจัดงานประเพณีและวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ วิถีถิ่น วิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนา

จ.ลำพูน เตรียมจัดงานประเพณีและวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ วิถีถิ่น วิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนา อนุรักษ์สืบสานวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมชาติพันธุ์

ที่ ห้องจามจุรี 1 โรงแรมเดอะแกรนด์จามจุรี รีสอร์ท ลำพูน นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธาน พร้อมด้วย นายบพิตร วิทยาวิโรจน์ วัฒนธรรมจังหวัดลำพูน, นายจักรกฤษณ์ เอ่งฉ้วน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน, นายพงษ์เทพ มนัสตรง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน และ นายวรวุฒิ ดอกแก้วนาค ประธานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อประธานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน ร่วมแถลงข่าวงานประเพณีและวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ จังหวัดลำพูน “วิถีถิ่น วิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนา ลำพูน” โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ณ ศูนย์แสดงสินค้าโอทอป สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน มีหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชน ให้ความสนใจและร่วมงาน เป็นจำนวนมาก

สำหรับการจัดงานประเพณีและวัฒนธรรมของชาติพันธุ์ในจังหวัดลำพูน “วิถีถิ่น วิถีวัฒนธรรมชาติพันธุ์ล้านนา ลำพูน” ถือเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ทั้ง 5 กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ได้แก่ กลุ่มชาติพันธุ์ไทยอง กลุ่มชาติพันธุ์ไทยวนหรือคนเมือง กลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ กลุ่มชาติพันธุ์มอญ และกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจแก่สาธารณชนทั่วไป ทั้งในกลุ่มเด็ก เยาวชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจะเป็นการช่วยสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านกระบวนการสร้างการรับรู้ให้เป็นที่รู้จัก และกระบวนการ สร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับสาธารณชนทั่วไป เมื่อมีผู้รู้จักและเข้าใจ ก็จะช่วยรักษาวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ ให้คงอยู่ได้สืบไปได้

โดยภายในงาน นอกจากจะมีการสร้างสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพและสินค้าชุมชน การออกร้านค้าผลิตภัณฑ์ของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่จังหวัดลำพูนกว่า 30 ร้านค้า การจำหน่ายสินค้าทำมือ งานหัตถกรรมและอาหารพื้นถิ่นของชาติพันธุ์ การจัดนิทรรศการผ้าทอสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง นิทรรศการการแสดงอัตลักษณ์และแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ การแสดงมหกรรมเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าชาติพันธุ์ การเดินขบวนแห่ ร่วมสัมผัสกับประเพณีวัฒนธรรม ความเชื่อ ภูมิปัญญาของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ลิ้มรสอาหารของแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์

ภายในโซนบ้านกลุ่มชาติพันธุ์จำลอง มีการละเล่นงานประเพณี จำลองการจำหน่ายและสาธิตอาหาร งานหัตถกรรม ภูมิปัญญา ความเชื่อ สับเปลี่ยนกันในแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์ ให้มีความตื่นเต้นและน่าประทับใจ รวมถึง โซนลานขันโตกและเวทีกลางแจ้ง ที่สามารถชมการแสดงที่จะมาสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแสดงเป็นช่วง สลับกับเสียงดนตรีเคล้าคลอกับบรรยากาศในงานตลอดงาน เป็นการแสดง แสง สี เสียง อย่างสุดประทับใจ ประกอบกับการรับประทานอาหารแบบขันโตก ที่จะได้นำอาหารมาเสิร์ฟเป็นแบบพื้นถิ่น และอาหารกลุ่มชาติพันธุ์ โดยไม่ซ้ำในแต่ละวัน ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นกระบวนการหนึ่ง ที่จะช่วยอนุรักษ์และสืบสานวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ในพื้นที่จังหวัดลำพูน

 

เชียงใหม่ ชุดปฏิบัติการศูนย์อำนวยการแก้ไขความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย จับกุมแรงงานต่างด้าว

ชุดปฏิบัติการศูนย์อำนวยการแก้ไขความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อย จับกุมแรงงานต่างด้าว จำนวน 10 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 7 คน

วันนี้(7 เม.ย.) ชุดปฏิบัติการศูนย์อำนวยการแก้ไขความมั่นคงพื้นที่อำเภออมก๋อยร่วมกันจับกุม หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาทางเส้นทางบ้านสบลาน ด้วยรถยนต์กระบะจำนวน 4 คัน จึงจัดเตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณสามแยกปากทางเข้าบ.สบลาน ม.ต.ยางเปียง ฯ เส้นทาง จนพยรถรถยนต์ต้องสงสัยี่ห้อโตโยต้า รีโว่สีดำ หมายเลขทะเบียน ยจ.2667 เชียงใหม่ผ่านมาจึงขอทำการตรวจค้นแต่ไม่มีผู้โดยสารคนขับชื่อนายเสกสรร ศุภรนานา บ้านเลขที่ บ.ห้วยตอง ม.6 ต.ยางเปียง อ.อมก๋อย แสดงอาการมีลักษณะพิรุธจึงขอตรวจค้นพบอุปกรณ์ผ้าคลุมซ่อนอยู่หลังรถอย่างผิดปกติจึงเค้นซักถาม

ต่อมารับสารภาพว่ารับจ้างขนแรงงานต่างด้าวมาแต่รู้ตัวเสียก่อนจึงนำแรงงานต่างด้าวเอาทิ้งไว้ป่าข้างทางเพื่อจะกลับมากลับมารับอีกครั้ง ส่วนรถยนต์คันอื่นๆที่ร่วมกันขนแรงงานต่างด้าวอีก 3 คันได้นำแรงงานต่างด้าวถูกซ่อนไว้ในป่าข้างทางและขับหลบหนีไป โดย 1ใน 3 คันขับย้อนกลับมาพร้อมแรงงานต่างด้าว แจ้งตนว่ามีทหารเข้ามา ซึ่งตนไม่ทราบจุดที่แน่นอน ชุดกรรมการจึงให้ผู้ต้องหานำกลับไปชี้จุดจากการตรวจสอบพิกัดคือพิกัด 47Q MV 3 31599 จากการตรวจค้นบริเวณป่าข้างทางห่างจากเส้นทางสัญจรประมาณ 100 เมตรพบแรงงานต่างด้าวจำนวน 10 คนเป็นชาย 3หญิง 7 คน


สำหรับบุคคลต่างด้าวทั้งหมด มาจาก บ.แลบวยจังหวัดผาอัน สหภาพเมียนมาร์ เข้ามทางเรือบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทยพม่าอำเภอแม่สอด จังหวัดเมียวดี ปลายทางที่ ตลาดไทย,ตลาดบางพลี,ตลาดรังสิต เวียค่าจ้างคนละ 11,000 บาท จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภออมก๋อยและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโรงพยาบาลอมก๋อยมารับตัวทำการคัดกรองและดำเนินการต่อไป

เชียงใหม่ ผู้ตรวจการแผ่นดินเกี่ยวก้อย สสส. และทัองถิ่นดอยหล่อระดมสมองบริหารจัดการคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุแบบครบวงจร

ผู้ตรวจการแผ่นดินเกี่ยวก้อย สสส. และทัองถิ่นดอยหล่อระดมสมองบริหารจัดการคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุแบบครบวงจร

วันที่ 3 เมษายน 2565 – เชียงใหม่ นายกมลธรรม วาสบุญมา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายชวลิต ธูปตาก้อง ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน นายฑิฆัมพร ยะลา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบหน้าที่ของรัฐ และ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน และนายประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) รศ.ดร.ขนิษฐา นันทบุตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน ศูนย์สนับสนุนวิชาการเพื่อการจัดการเครือข่าย นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสาธารณสุข นายชัชวาล ฉายะบุตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายวิชัย อินต๊ะโน ปลัดเทศบาลตำบลสองแคว ผู้บริหารระดับสูงของกรมกิจการผู้สูงอายุ ศูนย์สนับสนุนวิชาการเพื่อการจัดการเครือข่ายภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน ตลอดจนนักวิจัยและวิชาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ กว่า 100 คน ระดมสมองเพื่อเตรียมการพัฒนาสังคมสูงวัย ความต้องการ และแนวทางการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ณ เทศบาลตำบลสองแคว อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่


นายกมลธรรม กล่าวว่า จากที่ทุกหน่วยงานตระหนักและให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบ กลไก และบริการสาธารณะที่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมการเตรียมสังคมให้มีความพร้อมรองรับสังคมผู้สูงวัยก็ได้ระดมกันหาแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อแก้ปัญหาและปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในทุกๆด้านทั้ง สภาพสังคม เศรษฐกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้มีความต่อเนื่อง ก่อให้เกิดระบบการดูแล การบริการ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ในวันนี้จึงได้ระดมสรรพกำลังกันมาร่วมกันระดมสมองหาจุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อพัฒนาทั้งเชิงวิชาการและพฤติกรรมของผู้สูงอายุ รวมถึงจัดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ตำบล อำเภอ จังหวัด และระดับชาติเพื่อพัฒนาบทบาทของหน่วยงานต่างๆที่จะต้องนำไปปฏิบัติการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและสังคมสูงวัยต่อไป และเพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบเชิงประจักษ์ ได้เยี่ยมชมกลุ่มส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุกลุ่มต่าง ๆ อาทิ กลุ่มดอกไม้ผ้าใยบัว กลุ่มประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ กลุ่มยาหม่องสมุนไพร กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มผลิตผ้าเช็ดเท้า กลุ่มการจัดการอาหารในชุมชน เช่น การคัดแยกขยะมูลฝอย การทำปุ๋ยใบไม้ การเลี้ยงไส้เดือนดิน การทำน้ำหมักชีวภาพ กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ กลุ่มแปรรูปอาหารพื้นเมืองคาว-หวาน รวมถึงการบริหารจัดการชุมชนกองทุนหมู่บ้าน และธนาคารชุมชนของเทศบาลตำบลสองแคว เป็นต้น เพื่อเรียนรู้นำไปต่อยอดขยายผลสนับสนุนการสร้างรายได้ให้เกิดกับผู้สูงวัย เศรษฐกิจชุมชน รวมถึงจัดการสิ่งแวดล้อมในแต่ละชุมชน


นายกมลธรรม กล่าวต่อว่า กระบวนการต่อไปสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุ และสสส. เชื่อมประสานเพื่อแก้ไขปัญหา ข้อจำกัดและเงื่อนไขในการดำเนินการขององค์กรในระดับพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อครอบคลุมทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สุขภาพ และสังคมอย่างเป็นรูปธรรม “ผู้สูงอายุเปรียบเสมือนแหล่งความรู้ ความชำนาญ และเป็นผู้ธำรงไว้ซึ่งประเพณี วัฒนธรรม และเป็นสายใยหลักของครอบครัวด้วยความที่เป็นบุคคลสำคัญและมีคุณค่าต่อสังคมเป็นอย่างมาก ในวันที่ 13 เมษายนของทุกปีจึงเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ อย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี และมีความสุขโดยเฉพาะความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างผู้สูงอายุและลูกหลานในครอบครัว” นายกมลธรรม กล่าวทิ้งท้าย

 

เชียงใหม่ บวชสามเณร สีสันแห่งศรัทธางานบุญปอยส่างลอง ชาวไทใหญ่ในประเทศไทย ที่วัดสันมะเกี๋ยง จ.เชียงใหม่

บวชสามเณร สีสันแห่งศรัทธางานบุญปอยส่างลอง ชาวไทใหญ่ในประเทศไทย ที่วัดสันมะเกี๋ยง จ.เชียงใหม่

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 เม.ย.2565 ที่วัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฏร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พระครูพิทักษ์ อรัญวัตร เจ้าคณะตำบลป่าป้อง-สง่าบ้าน อ.ดอยสะเก็ด พระอุปัชฌาย์ส่างลอง หรือพระอุปัชฌาย์บวชสามเณรให้เยาวชนเข้าวัดศึกษาธรรมะ ตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นประเพณีปอยส่างลองของชาวไทใหญ่ คืองานทำบุญบวชสามเณรให้บุตรหลานในภาคฤดูร้อนในช่วงปิดเทอมปีนี้ จำนวน 9 รูป

ประเพณีปอยส่างลอง เริ่มเมื่อวันที่ 4 เม.ย.เวลา 06.00 น.ทางพ่อ-แม่ส่างลองได้โกนผมให้ลูกชาย เพื่อเป็นลูกแก้ว จากนั้นญาติๆแต่งตัวให้ลูกแก้วเป็นชุดส่างลอง ชุดที่มีหลากสี เช่นชุดสีแดง สีเหลือง สีเขียว สีส้ม สีแสด สีชมพูเข็ม ดูแล้วสดใสสวยงาม แต่งหน้าทาเล็บเท้าให้สวยงาม ประดับเครื่องแต่งตัว และยังแต่งหน้าทาแป้งด้วยทานาคา จากนั้นจะนำแห่รอบอุโบสถ 3 รอบ ภายในหนึ่งวันจะแห่ 2 รอบ ช่วงเช้า เวลา 07.00 และช่วงบ่าย เวลา 16.00 น.เป็นเวลา 2 วัน คือวันที่ 4 – 5 เม.ย.และให้ส่างลองเก็บตัวนอนที่เต็นท์ในวัด ตกแต่งเต็นท์สวยงามหลากสีเช่นกัน ให้พักอาศัยอยู่กับญาติๆจำนวน 2 วัน 2 คืน ที่มาร่วมทำบุญฉลองปอยส่างลอง

พอถึงวันที่ 3 คือวันที่ 6 เม.ย. เวลา 13.00 น.ส่างลอง หรือลูกแก้วทั้งหมดที่ยังแต่งชุดส่างลอง ทั้ง 9 องค์ มารวมตัวที่หน้าอุโบสถ จากนั้นแห่รอบๆอุโบสถ จำนวน 3 รอบ แล้วเข้าไปในอุโบสถ โดยมีพระครูพิทักษ์ อรัญวัตร เจ้าคณะตำบลป่าป้อง พระอุปัชฌาย์ส่างลอง นำประกอบพิธีบวชสามเณรให้ส่างลอง กล่าวคำภาษาบาลีเพื่อขอรับการบวช จากนั้นให้พ่อและแม่ส่างลองถวายผ้าเหลือง พระสงฆ์พระพี้เลี้ยงนำส่างลองไปแต่ตัวสวมผ้าเหลืองเพื่อเป็นสามเณร กลับเข้ามาประกอบพิธีบวชสามเณร จากนั้นพ่อและแม่รวมถึงสามเณร รับศีลรับพร เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี ซึ่งสามเณรทั้ง 9 รูปก็จะจำวัดศึกษาธรรมะต่อไป

ประเพณีปอยส่างลอง ถือว่าเป็นสีสันแห่งศรัทธางานบุญปอยส่างลอง หรือชาวไทใหญ่เรียกว่า ป๊อยส่างล้อง หรืองานบวชลูกแก้ว เพื่อบรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา เป็นประเพณีของไทใหญ่ ชาวบ้านจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ทุกๆ ปี เนื่องจากเป็นประเพณีที่สำคัญทางศาสนา และเป็นเอกลักษณ์มาช้านานของชาวภาคเหนือ.

 

เชียงใหม่ สงกรานต์ปีนี้ เล่นสวนน้ำฟรีที่สวนสัตว์เชียงใหม่ม่วนใจ๋ปี๋ใหม่เมือง

สงกรานต์ปีนี้ เล่นสวนน้ำฟรีที่สวนสัตว์เชียงใหม่ม่วนใจ๋ปี๋ใหม่เมือง ร่วมประกวดก่อกองทรายรูปสัตว์ วันที่ 13-17 เม.ย.

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ กำหนดจัดกิจกรรม “มาเลย สงกรานต์ปีนี้ เล่นสวนน้ำฟรี! ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ม่วนใจ๋ปี๋ใหม่เมือง” ระหว่างวันที่ 13 – 17 เม.ย.2565 นี้ สวนสัตว์เชียงใหม่เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ พร้อมมอบความสุขให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ที่มาเยือนจังหวัดเชียงใหม่และเข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์เชียงใหม่ กับกิจกรรมที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวได้ร่วมสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์ กับกิจกรรมคาราวานกาดโก้งโค้งและดนตรีโฟล์คซอง บริเวณข่วงวัฒนธรรมและมินิซู ชมความน่ารักของลูกสัตว์นานาชนิด เช่น หมีขอ หมูจิ๋ว กระต่าย เต่าซูลคาต้า ม้าแคระ กิจกรรมสรงน้ำพระบริเวณศาลาชม ลามา กิจกรรมขนทราย เข้าวัดและประกวดก่อกองทรายรูปสัตว์ บริเวณวัดกู่ดินขาว กิจกรรมช้างเล่นน้ำ ณ ส่วนจัดแสดงช้างเอเชีย ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับน้องๆ หนูๆ ยังสามารถเข้ามาเล่นน้ำที่สวนน้ำสำหรับเด็ก Kids Water Park ฟรีอีกด้วย

ประเพณีสงกรานต์ ภาษาท้องถิ่นภาคเหนือเรียกว่า ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ ศักราชใหม่ของชาวล้านนาถือว่าเป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยล้านนาที่สืบทอดมาแต่โบราณ ประเพณีสงกรานต์ ตรงกับวันที่ 13 เม.ย.จึงเป็นโอกาสที่เด็กๆหนุ่มสาว ผู้เฒ่าผู้แก่ได้พบปะสังสรรค์และทำกิจกรรมเพื่อสืบสานประสานประเพณีล้านนาร่วมกันให้คงอยู่สืบต่อไป

ส่วนที่วัดกู่ดินขาว ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมการแข่งขันประกวดก่อกองทรายรูปสัตว์ แข่งขันเวลา 10.00 น.วันที่ 13 เม.ย.ชิงเงินรางวัลชนะเลิศ รับเงินรางวัลถึง 2,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 รับเงินรางวัล 1,500 บาท และรางวัลรองอันดับ 2 รับเงิน 1,000 บาท ส่วนรางวัลชมเชย 4 รางวัล รางวัลละ 500 บาท ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่สวนสัตว์เชียงใหม่

ขอเชิญชวนเที่ยวเทศกาลสงกรานต์นี้ พบกับความหลากหลายทุกสิ่ง สนุกสุดฟิน ชุ่มฉ่ำกันทุกวันได้ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ “ประหยัด สะดวก ใกล้เมือง สวนสัตว์เชียงใหม่สวนสัตว์แห่งความสุขของคนเชียงใหม่และผู้มาเยือน” รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่งานสื่อสารองค์กร 053-221179 หรือ www.chiangmai.zoothailand.org ทุกวันเวลาราชการ.

เชียงใหม่ อากาศร้อน ช้างหงุดหงิด แทงควาญดับ โชคดีนักท่องเที่ยวอยู่ในช่วงพักเที่ยง

อากาศร้อนอบอ้าว ช้างหงุดหงิด แทงควาญดับ โชคดีนักท่องเที่ยวอยู่ในช่วงพักเที่ยง

วันนี้(5 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีควาญช้างชาวกะเหรี่ยง คือนายนามุย ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 30 ปี เป็นหัวหน้าควาญปางช้างแห่งหนึ่งใน บ้านป่าไม้แดง ต.บ้านช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ถูกช้างแทงที่ท้องเสียชีวิตที่ รพ.แม่แตง

รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ปางช้างดังกล่าวได้เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวชมช้างในปางตามปกติ ในรูปแบบไม่ไม่ล่ามโซ่-ไม่ใช้ตะขอเลี้ยงช้าง ตอนเกิดเหตุเป็นช่วงที่ให้นักท่องเที่ยวหยุดพักเที่ยง หลังจากที่นักท่องเที่ยวทำกิจกรรมท่องเที่ยวในปางช้างแล้ว

ในช่วงที่นักท่องเที่ยวพักเที่ยงอยู่ นายนามุย เดินไปหาช้างที่ก่อเหตุ ซึ่งช้างไม่ได้ตกมัน แต่พอช้างเห็นควาญเดินเข้าไปหา ช้างได้ใช้งวงช้างตรวจสอบตามตัวของควาญ จากนั้นก็ใช้งาแทงที่ท้องทันที จนร่างของควาญกระเด็นลอยขึ้นฟ้าและตกลงมากับพื้น จากนั้นนายนามุย ได้ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งหนีออกห่างจากช้างที่ก่อเหตุ และยังพูดคุยได้ โดยขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆในปางช้าง ต่อมาเพื่อนในปางช้างก็นำขึ้นรถไปส่ง รพ.แม่แตง แต่นายนามุย ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในช่วงที่แพทย์กำลังรับการรักษาตัว

สำหรับนายนามุย เป็นคนนิศัยดี พูดเก่ง แต่ต้องมาจบชีวิตกับช้างที่ตนเลี้ยง สาเหตุเบื้องต้นที่ทำให้ช้างก่อเหตุมีหลายสาเหตุ เช่น กรณีช้างเมื่อได้กลิ่นช้างตัวอื่นที่เป็นศัตรูแล้วกลิ่นช้างตัวนั้นมาติดตามตัวควาญ ก็ทำให้ช้างไม่พอใจหงุดหงิดได้ และอีกสาเหตุหนึ่ง คือ อากาศร้อน ซึ่งวันนี้อากาศที่ จ.เชียงใหม่ กลับมาร้อนอีกแล้ว ก็ทำให้ช้างหยุดหงิดง่าย และอีกสาเหตุสำคัญ ช้างเมื่อถูกปล่อยแบบไม่ล่ามโซ่-ไม่ใช้ตะขอในการเลี้ยงช้าง ทำให้ช้างไม่กลัวควาญเลย ซึ่งเปลี่ยบเสมือน “โจรเจอตำรวจที่ไม่มีปืน” ดังนั้น ช้างเมื่อไม่มีการควบคุมโดยไม่ล่ามโซ่ช้างไว้ และยิ่งควาญไม่มีของ้าว และไม่มีมีดพกไว้กับตัว ช้างก็ไม่กลัวควาญเลย ซึ่งปางช้างทางภาคเหนือหลายแห่งพบว่า มีการเลี้ยงช้างแบบไม่ล่ามโซ่และไม่ใช้ตะขอเลี้ยงช้างกันจำนวนมาก.

เชียงใหม่ รองผู้บัญชาการทหารบกลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามการตรวจเลือกทหารกองเกินฯ และการแก้ไขปัญหาไฟป่า

รองผู้บัญชาการทหารบกลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามการตรวจเลือกทหารกองเกินฯ และการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ ประจำปี 65


วันที่ 5 เม.ย.65 เวลา 14.00 น.พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ รองผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี65 ณ ที่ว่าการอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ,พล.ต.สันติ สุขป้อม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ให้การต้อนรับ ซึ่งในพื้นที่ มณฑลทหารบกที่ 33 มียอดทหารกองเกิน ในพื้นที่จำนวน 8,468 นาย โดยมียอดทหารกองเกินที่ต้องการเข้ากองประจำการ จำนวน 2,396 นาย เป็น แผนกทหารบก ผลัดที่ 1, 2 จำนวน 2,051 นาย(ส่งหน่วยในพื้นที่ มทบ.33 (จังหวัดเชียงใหม่) จำนวน 1,194 นาย , ส่งช่วย มทบ.32 (จังหวัดลำปาง) จำนวน 187 นาย, ส่งช่วย มทบ.310 (จังหวัดตาก) จำนวน 287 นาย และ ส่งช่วย ทภ.1 จำนวน 383 นาย และเป็นแผนกทหารอากาศ ผลัดที่ 1, 2 จำนวน 345 นาย


ในส่วนทหารกองเกินที่ต้องการเข้ากองประจำการ ของ อ.หางดง วันนี้ มียอดทหารกองเกิน จำนวน 203 นาย ซึ่งได้ตัดยอดจำนวนคนที่ไม่นำมาแบ่งเฉลี่ย คือ คนที่ส่งหมายไม่ได้ฯ และคนผ่อนผัน ยอดทหารกองเกินที่ต้องการเข้ากองประจำการ จำนวน 56 นาย เป็นแผนกทหารบก ผลัดที่ 1, 2 จำนวน 56 นาย ทั้งนี้มณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดพื้นที่ในการตรวจเลือกทหาร และได้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ บริการตัดผมฟรี พร้อมจัดรถครัวสนามปรุงอาหารสดใหม่แจกจ่ายให้กับครอบครัวน้องๆที่เข้ารับการตรวจเลือกในวันนี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคโควิด -19 ของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด


จากนั้นรองผู้บัญชาการทหารบกพร้อมคณะตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานของ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ( บก.คฟป.ทภ.3 สน. ) ที่สโมสรยอดทัพบันเทิง กองพลทหารราบที่ 7 อ.แม่ริม โดยมี พล.ต.ประสิษฐิพงศ์ มูลดี รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ฝ่ายเสนาธิการให้การต้อนรับ เพื่อรับทราบสถานการณ์ แนวทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ภายหลังจากที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าคุณภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในหลายจังหวัด


แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านมากองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ได้ยึดถือนโยบายในการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหา โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน และประชาชน พร้อมกำหนดเป้าหมาย ปี65 ในการลดจำนวนวันที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ลดจำนวนพื้นที่ไฟป่า (Burn Scar) และลดจุดความร้อน (Hot Spot) จากปี 64 ลงมากกว่า 20 % ตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งได้เพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานโดยการสร้างเครือข่ายภาคประชาสังคม รวมถึงการใช้จิตอาสาเข้าร่วมการปฏิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่เกิดไฟป่าซ้ำซาก ให้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนและร่วมดับไฟป่า ตลอดจนควบคุมการเกิดไฟป่าและหมอกควัน ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่

สำหรับปีนี้ได้มีการขับเคลื่อนระบบการบริหารงานแบบ Single Command โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และริเริ่มการใช้เทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นตรวจวัดคุณภาพอากาศ การเกิดจุดความร้อน โดยใช้ข้อมูลดาวเทียม มาตรวจสอบ เพื่อช่วยการตัดสินใจในการประชุมสั่งการและดำเนินการดับไฟป่า อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งเสริมบทบาทเครือข่ายภาคประชาชนให้เป็นกำลังสำคัญ ในการสนับสนุนกิจกรรมของภาครัฐ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการปรับพฤติกรรม เปลี่ยนวิถีการดำรงชีพแบบดั้งเดิม สำหรับสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองในปัจจุบัน ตั้งแต่ ธ.ค. 64 ถึง มี.ค. 65 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ มีจุดความร้อน ลดลง 65% ส่งผลให้ค่าคุณภาพอากาศดีกว่าปีที่ผ่านมา

เชียงใหม่ จัดบวชเณร ปอยส่างลอง วัดสันมะเกี๋ยง ปีนี้บวชลูกแก้วจำนวน 9 องค์

จัดบวชเณร “ปอยส่างลอง” วัดสันมะเกี๋ยง ปีนี้บวชลูกแก้วจำนวน 9 องค์ ซึ่งขบวนแห่ปอยส่างลองนั้นจะให้ลูกแก้วนั้งขี่คอไปกับขบวนแห่ หรือบางครอบครัวให้ลูกแก้วนั่งบนเสลี่ยงไม้ไผ่ โดยเสลี่ยงตกแต่ด้วยดอกไม้และเงินใส่ในซองประดับสวยงาม ไม่ได้ขี่ม้าเหมือนเมื่อก่อน

ที่วัดสันมะเกี๋ยง ต.สำราญราษฏร์ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้มีศรัทธาประชาชนของวัดสันมะเกี๋ยง ที่เป็นชาวไทใหญ่ อาศัยอยู่ใน จ.เชียงใหม่ มีบุตรหลานและส่งบุตรหลานเรียนหนังสือ อายุตั้งแต่ 5-12 ขวบ ได้นำบุตรหลานที่หยุดเรียนในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนนี้ นำมาบรรพชาบวชเป็นสามเณร หรือ ชาวใหญ่ใหญ่เรียกว่า ประเพณี “ปอยส่างลอง” หรือเปรียบได้กับประเพณี “บวชลูกแก้ว” ของชาวล้านนาบ้านเรา ปีนี้เด็กๆ มาร่วมพิธีบวชลูกแก้ว ปอยส่างลอง จำนวน 9 องค์ หรือจะให้บวชเรียนศึกษาธรรมะเป็นสามเณร จำนวน 9 รูป


พิธีเริ่มตั้งแต่การต้นโกนผมลูกแก้ว จากนั้นญาติๆแต่งตัวให้ลูกแก้ว ซึ่งจะเป็นชุดปอยส่างลอง ชุดมีหลากหลายสี เช่นชุดสีแดง สีเหลือง สีเขียวสดใสสวยงาม แต่งหน้า ทาเล็บเท้าให้สวยงาม จากนั้นเวลาต่อมา .ก็นำปอยส่างลองแห่รอบอุโบสถ นำขบวนแห่ด้วยขบวนกลองยาว ปี ฆ้อง กล้อง ซึ่งขบวนแห่ปอยส่างลองนั้นจะให้ลูกแก้วนั้งขี่คอไปกับขบวนแห่ หรือบางครอบครัวให้ลูกแก้วนั่งบนเสลี่ยงไม้ไผ่ โดยเสลี่ยงตกแต่ด้วยดอกไม้และเงินใส่ในซองประดับสวยงาม ปีนี้ไม่มีการแห่แบบการขี่บนหลังม้าเหมือนที่ผ่านมา ช่วงแห่ก็จะยกขึ้นและเขย่าลูกแก้วไปรอบๆอุโบสถ จำนวน 3 รอบ แล้วให้ลูกแก้วพักตามเต็นท์ที่พักที่อยู่รอบๆวัดที่ตกแต่งด้วยผ้าสีสวยงามและลูกโป่ง ในวันเดียวกันลูกแก้วก็จะเข้าขบวนแห่รอบอุโบสถอีกในเวลา 16.00 น.ของวันเดียวกัน ทำเช่นนี้ 2 วัน คือวันที่ 4-5 เม.ย. จากนั้นวันที่ 6 เม.ย.2565 ก็จะเข้าสู่พิธีทางศาสนาพุทธเพื่อบวชสามเณรต่อไป

ปอยส่างลอง หรือชาวไทใหญ่เรียกว่า ป๊อยส่างล้อง หรืองานบวชลูกแก้ว เพื่อบรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา เป็นประเพณีของไทใหญ่ ชาวบ้านจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ทุก ๆ ปี เนื่องจากเป็นประเพณีที่สำคัญทางศาสนา และเป็นเอกลักษณ์มาช้านาน และพบมากที่ จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันประเพณีป๊อยส่างล้องได้ขยายไปยังจังหวัดใกล้เคียง คือ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดอื่นๆอีกด้วย

เชียงใหม่ ครูบาน้อย เตชะปัญโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อำเภอสารภีจังหวัดเชียงใหม่ ช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วย ทำบุญครบ 7 ปี

ครูบาน้อย เตชะปัญโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อำเภอสารภีจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา ช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วย ทำบุญครบ 7 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคลกับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่

พระครูบาน้อย เตชะปัญโญ เกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองล้านนา เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบพิธีทำบุญ โรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา ที่พระครูบาน้อยก่อตั้งขึ้น ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในชุมชน ที่มีทั้งแพทย์พยาบาล ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ โดยเฉพาะการดูแลผู้ป่วยที่เกิดอุบัติเหตุ ที่ ต้องกายภาพบำบัด ร่างกาย ซึ่งทางโรงพยาบาล มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เครื่องมือบางชนิด โรงพยาบาลบางแห่งยังไม่มี แต่ที่โรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนาแห่งนี้ มีเครื่องเลเซอร์ ในการบำบัดรักษา ผู้ป่วยที่เจ็บปวด จากกล้ามเนื้อแขนขา หรือส่วนต่างๆของร่างกาย ให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ซึ่งแต่ละปีมีจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีการดูแลรักษาผู้ป่วย ทั้งการฝั่งเข็ม และอาการป่วยทั่วไป ซึ่งโรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา ได้รับการอุปถัมภ์จากพระครูบาน้อย ในการก่อสร้างอาคาร และอุปกรณ์การแพทย์ โดยไม่ได้ใช้งบจากทางราชการ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 7 ของการก่อตั้ง จึงมีพิธีทำบุญประจำปี เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจ ให้กับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ โดยมีนายแพทย์ สมิต สมพันธ์พงศ์ (สะ-มะ -พัน – พงษ์ ) เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสารภี และเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสารภีบวรพัฒนา ซึ่งเป็นสาขาของโรงพยาบาลอำเภอสารภี

เชียงใหม่ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของวัดพระบาทปางแฟน ทำพิธีบวงสรวง จุดเทียนเทวดาสาริกาเหินฟ้า เปิดดวงรับพระราหูเข้าทับดวงเมือง

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของวัดพระบาทปางแฟน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กับพิธีบวงสรวง จุดเทียนเทวดาสาริกาเหินฟ้า เปิดดวงรับพระราหูเข้าทับดวงเมือง เพื่อขอพรพระราหูค้ำชูดวงชะตามิให้ตกต่ำ

ตามตำรากล่าวว่า ผู้ที่ชีวิตล้มเหลวติดขัดทุกข์ใจ ตกอับโชคร้าย หนี้สินรุมเร้าปัญหาชีวิตรุนแรง ทำกินไม่ขึ้น ได้เงินเท่าไหร่ก็มีเหตุต้องเสียไปตลอด เงินชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ โชคลาภไม่เคยมี ทำอะไรก็ไม่รุ่ง ไม่รวยเสียที มีแต่เจ๊งกับเจ๊า!!! ความรักไม่เป็นรองเขาก็มีมือที่สามสี่ห้า คนรอบข้างไม่รักไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจ พึ่งพาใครไม่ได้

หากใครไปทำพิธีแก้ดวงมาแล้วทุกอย่าง แต่ชีวิตไม่เคยดีขึ้น ให้จุดเทียนเทวดาสาริกาเหินฟ้า เทียนสืบชะตาล้านนา จุดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง หนุนชะตา เป็นศาสตร์วิชาศักดิ์สิทธิ์ ที่ครูบาอาจารย์สร้างเอาไว้ช่วยเหลือคนดวงตก วิบากกรรมไล่ล่ารุนแรง ชีวิตตกต่ำทำมาหากินไม่ขึ้น การเงินวิกฤต หนี้สินล้นตัว

เมื่อเจ้าชะตาได้จุดจุดบริกรรมบูชาเทียนเทวดาสาริกาเหินฟ้า พุทธคุณเสริมบุญหนุนดวงชะตาราศี สะเดาะเคราะห์ สืบชะตา ขอขมากรรมไปแล้ว พลังชีวิตจะถูกต่อให้ยืนยาว และดวงชะตาจะยกสูงขึ้น ดีขึ้น เกิดเมตตาสง่าราศี ผ่านพ้นจากเคราะห์หามยามร้าย และอุปสรรคต่างๆ ชีวิตจะกลับมาสว่างไสว ลืมหู ลืมตา อ้าปาก ได้อีกครั้ง เป็นการเสริมดวง หนุนชะตาชีวิต ให้หลบหลีกเคราะห์ พ้นโชคร้าย เปิดดวง รับโชคดี รับโชคลาภวาสนา

อานุภาพแห่งยันต์เทียนนี้ จะเสริมอำนาจราชศักดิ์ ตบะ เดชะ บารมี ให้เป็นที่รักใคร่เมตตาต่อมนุษย์และเทวดา ปัดเป่าสรรพเคราะห์ทั้งหลายให้หายไปจากตัวเรา เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม ทรัพย์สินศฤงคารจะมั่งคั่งชีวิตมั่นคง โชคลาภความโชคดีจะไหลหลั่งเข้ามาไม่ขาด จะเหนือคนเหนือใครเหนือดวง ศัตรูแพ้พ่าย บริวารและมิตรไม่คิดคดทรยศ ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์นี้ พิสูจน์มาแต่โบราณแล้วว่า หากใครทำ ชีวิตก็จะดีขึ้นเหนือดวงชะตาได้อย่างอัศจรรย์!!!

เทียนเทวดาสาริกาเหินฟ้า
ชุดใหญ่ ( เครื่องพลีบูชา ในสะตวงจัดเต็มสูตรตามตำรา เทวดานพเคราะห์ทั้ง ๙ หรือ เคราะห์นรา บอกกล่าวเทพเทวาชั้นสูง ทุกห้องสวรรค์ชั้นฟ้าเบื้องบน และอากาศเทวดา ขั้นตอนยุ่งยาก ลึกลับ ตามตำรา ) สร้างได้เฉพาะกิจ และเฉพาะบุคคลเท่านั้น
ชุดเล็ก ( เครื่องพลีบูชา เป็นบายศรีปากชาม บอกกล่าวบูชา ภุมเทวา พระภูมิเจ้าที่ และวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เจ้าพ่อเจ้าแม่ ) ทำง่าย และทำได้ทุกคนแบบทั่วไป

วิชาเทียนเทวดา สาริกาเหอนฟ้านี้ เคล็ดลับ ไส้เทียนต้องฟั่นจากสายสินญ์ปลุกเสกแช่น้ำส้มป่อยล้างคุณไสยสิ่งอัปมงคลทั้งปวง พันล้อมด้วยยันต์เทียน มหายันต์ศักดิ์สิทธิ์จารล้อม ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด แห่งดวงชะตาเจ้าของเทียนแบบเฉพาะตัวบุคคล รวมถึงเสื้อผ้าของเจ้าชะตาที่เคยสวมใส่ ปลุกเสกบริกรรมเวทย์คาถาปัดเคราะห์ หนุนดวง เสริมชะตา เล่ม-ต่อ-เล่ม ตามโบราณพิธีครบสูตร

กำหนดการ วันเสาร์ ที่ 9 เมษายน วันคู่มิตรพระราหู ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 เวลา 18.08 น. ประกอบพิธีบวงสรวงใหญ่ สายมูห้ามพลาดกับเลขโชคพระราหู จากขันน้ำมนต์ 108 สวดสาธยายโดยพระสงฆ์ 12 รูป ตามกำลังพระราหู ในโหราศาสตร์ไทย พระราหูถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ 8 และด้วยเหตุที่สร้างขึ้นมาจากหัวผีโขมด 12 หัว จึงมีกำลังพระเคราะห์เป็น 12 เป็นเทวดาของผู้ที่เกิดวันพุธในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังใช้แทนดาวมฤตยู (ดาวยูเรนัส) และเทียบได้กับยูเรนัส หรือ ไทฟอน ตามเทพปกรณัมกรีก อีกด้วย ราหูทับดวงเมือง ชีวิตใครจะรุ่ง หรือจะร่วง หลังสงกรานต์นี้ได้เห็นแน่นอน