(คลิป)เชียงใหม่ มณฑลทหารบกที่ 33 ส่งรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นละอองเพิ่มความชุ่มชื้น

มณฑลทหารบกที่ 33 ส่งรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นละอองเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ บริเวณประตูท่าแพ และรอบคูเมืองเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 เกินมาตรฐานที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

จากปัญหาฝุ่นควันขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่ลอยปกคลุมหนาทึบทั่วเมืองเชียงใหม่ต่อเนื่องมานานหลายวัน มณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดส่งรถบรรทุกน้ำ 3 คัน จากหน่วยขึ้นตรงในสังกัด ประกอบด้วย รถบรรทุกน้ำขนาด 4,000 ลิตร ของมณฑลทหารบกที่ 33, รถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร ของกองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก และรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร ของกองพันพัฒนาที่ 3 ช่วยออกฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ บริเวณรอบคูเมืองเชียงใหม่ เป็นระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร โดยเฉพาะที่บริเวณข่วงประตูท่าแพ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองเชียงใหม่ที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่หนาแน่น เพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นควันที่สะสมอยู่ในบริเวณโดยรอบ ลดผลกระทบจาก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งถือเป็นการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตไฟป่าและฝุ่นควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตามนโยบายของกองทัพบกและรัฐบาล ที่ให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย มาสนับสนุนปฏิบัติการดับไฟป่าให้บรรเทาเบาบางลง และส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด

(คลิป)เชียงใหม่ ตำรวจ ภาค 5 บุกจับผู้บริหารเว๊ปไซด์ พนันออนไลน์

วันนี้(14 มี.ค.) โดยการอำนวยการของ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.นิติพันธ์ สังขกร รอง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5, เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พ.ต.ท.วัชระ เทือกตา สว.ฯ พ.ต.ท.ประวิทย์ วงค์โขง สว.ฯ พ.ต.ต.วิทยา ใจคำ สว.ฯ ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวนายอิทธิวุฒิ หรือ จอร์ด ชารีวรรณ อายุ 33 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 4 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ asus สีดำ รุ่น FX505GE-BQ052T จำนวน 1 เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ acer สีเทา รุ่น F5-573G-73YR จำนวน 1 เครื่องโ ทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น iphone x สีดำหมายเลขโทรศัพท์ 082 3394089 จำนวน 1 เครื่องโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Huawei รุ่น p30 pro สี ขาว-ฟ้า หมายเลขหมายเลขโทรศัพท์0987974454 จำนวน 1 เครื่องสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม โดยกล่าวหาว่า “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานหรือรับอนุญาตแล้วแต่เล่น พลิกแพลง หรือผู้ใดเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือข้อความในใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12”


พฤติการณ์ในการจับกุมกล่าวคือก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.5 ได้ตรวจสอบการกระทำผิดการพนันทุกรูปแบบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับ (ไม่ประสงค์ออกนาม)เพื่อขอรับเงินรางวัล นำจับ ว่ามีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยแอบแฝงจัดให้มีการเล่นหรือจัดให้มีการโฆษณาชักชวนให้ประชาชนทั่วไปสมัครเล่นพนันออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยมีการเชิญชวนให้เล่นพนันฟุตบอลออนไลน์และพนันในรูปแบบต่างๆผ่านทางออนไลน์ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต โดยทางสายลับแจ้งว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Jord Chareewan UfaBet-Lotto” มีการโพสภาพการชักชวนการเล่นพนันออนไลน์ในรูปแบบต่างๆผ่านทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ http://www.uf99999.com โดยแจ้งว่าหากสนใจสามารถติดต่อสอบถามผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ หรือติดต่อเว็บบอลทางไลน์ไอดี และมีการประกาศแจ้งหมายเลขบัญชีเพื่อโอนเงินเข้าไปเล่นพนันฟุตบอล แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อประสานงาน แจ้งไลน์แอดเพื่อใช้เป็นช่องทางในการติดต่อระหว่างลูกค้ากับผู้ให้บริการ และทราบว่ามีที่ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 4 ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ต่อมาศาลแขวงเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายค้นที่ ค.8 /2563 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2563 ให้ค้นบ้านดังกล่าว

ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ได้บุกเข้าค้นที่บ้านดังกล่าวก็พบนายอิทธิวุฒิ ชารีวรรณ อายุ 33 ปีกำลังอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะภายในบ้านดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงหมายค้นให้ทราบและทำการตรวจค้นก็พบของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตนเองเป็นคนดูแลเว๊ปไซด์นี้ในส่วนของเชียงใหม่ และได้ทำการโฆษณาเชิญชวนให้มาเล่นการพนันในเวปไซต์ Ufabet หรือ http://www.uf99999.com โดยจะมีการสมัครเล่นผ่านทางไลน์แอด ซึ่งเป็นไลน์ที่ใช้ในการเชิญชวนให้เล่นพนันฟุตบอลออนไลน์และพนันในรูปแบบต่างๆ ผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งในเว๊ปมีการพนันรูปแบบต่างๆกันกว่า 50 ชนิดทั้งบาคาร่า ฟุตบอลลีกต่างๆ ไฮโล และอื่นๆอีกมากมาย โดยในเว๊ปนี้มีสมาชิกจำนวนมากเงินหมุนเวียนวันละหลายแสนบาท

(คลิป)ตาก ชาวปกาเกอะญออำเภอพบพระจัดงานอนุรักษ์ช้างไทย

ชาวปกาเกอะญอ อ.พบพระ จ.ตาก จัดงานอนุรักษ์ช้างไทย 

-ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านเพราะช้างหมู่บ้านยะพอ หมู่ที่ 5 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ผู้นำชาวปกาเกอะญอ พร้อมควาญช้างนำช้างจำนวน 23 เชือกซึ่งเป็นช้างโขลงสุดท้ายของหมู่บ้านมาร่วมกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์ช้างไทย ประจำปี 2563 ก่อนการจัดงานหนึ่งวันควาญช้างได้เข้าป่าเพื่อหาสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น บอระเพ็ด ตูมกาขาว ส้าน ผักหนาม ข้าวเปลือก กล้วย และมะขาม มาตำและคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปั้นเป็นก้อนเพื่อทำวิตามินให้ช้างได้กิน ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่ามีสรรพคุณเป็นทั้งยาระบายและทำให้ช้างเจริญอาหาร

สำหรับการจัดงานในวันนี้มีทั้งคนในและนอกหมู่บ้านเข้าร่วมงานกว่า 500 คน ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายคนต่างรู้สึกตื่นเต้นที่ได้นั่งบนหลังช้างเป็นครั้งแรก จึงต้องนำโทรศัพท์มาถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ด้านนายอดิศร พรไพรสณฑ์ ควาญช้างรุ่นที่สองของหมู่บ้าน วัย 28 ปี เล่าว่าตนเองฝึกเลี้ยงช้างจากพ่อ ปัจจุบันช้างในหมู่บ้านเหลือน้อยมากเนื่องจากแหล่งอาหารของช้างมีไม่เพียงพอ ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูแล้งแหล่งอาหารของช้างเหลือน้อยโดยเฉพาะหญ้าสดและผลไม้ ซึ่งชาวบ้านพยายามต่อสู้เพื่อรักษาช้างโขลงสุดท้ายของหมู่บ้านไว้ โดยสร้างปางช้างชื่อ “บ้านเพราะช้าง” เปิดให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสวิถีชีวิตของช้างและคนเลี้ยงช้างอย่างใกล้ชิด และอยากวิงวอนให้ภาครัฐช่วยเหลือส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้ทั้งควาญช้างและช้างมีงานทำ ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์ช้างไทยให้อยู่กับหมู่บ้านชายแดนแห่งนี้ตลอดไป

นายจริยาทร สูหู่ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานตาก กล่าวว่า การจัดงานวันช้างไทยของชาวปะกาเกอะญอบ้านยะพอ อ.พบพระ และชาวปะกาเกอะญอบ้านปูเต้อ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งมารวมตัวกันจัด ณ ที่แห่งเดียวกันในวันนี้ นอกจากจะเป็นการสืบสานงานประเพณีดั่งเดิมของท้องถิ่นแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถได้เรียนรู้วิถีความเป็นอยู่ของช้าง มาช่วยกันทำวิตามินบำรุงช้างจากพืชสมุนไพรในท้องถิ่น มาให้อาหารช้างแบบบุฟเฟ่ มาอาบน้ำให้ช้าง ตลอดจนเป็นการกระจายรายได้เข้าสู่ท้องถิ่นโดยตรงอีกด้วย ซึ่งคาดว่าในปีหน้า ทาง ททท.สำนักงานตาก จะเสริมกิจกรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของพื้นถิ่นให้มากยิ่งขึ้น เพื่อนำจุดแข็งมาเป็นจุดขายทางการท่องเที่ยวต่อไป

 

เชียงใหม่ สวนสัตว์เชียงใหม่ กับกิจกรรมเนื่องในวันช้างไทย 2563

สวนสัตว์เชียงใหม่จัดกิจกรรม วันช้างไทย ขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม 2563 ตามมติของคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันช้างไทย เพื่อเป็นการยกย่องและให้เกียรติช้างที่มีความสำคัญต่อบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน รวมทั้งเพื่อให้นักท่องเที่ยวร่วมกันอนุรักษ์และเห็นความสำคัญของช้างไทย

-วันนี้ (13 มีนาคม 2563) เวลา 10.30 น. นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันช้างไทย ณ บริเวณด้านหน้าส่วนจัดแสดงช้างเอเชีย ภายในสวนสัตว์เชียงใหม่ ประกอบด้วย การจัดซุ้มอาหารให้กับพังไชโย การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับช้างแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญและการดำรงชีวิตของช้างไทย และยังมีกิจกรรมเล่นเกมตอบคำถามแจกของรางวัลมากมายแก่น้องๆที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย

ปัจจุบันสวนสัตว์เชียงใหม่มีช้างอยู่ 1 เชือก คือ “พังไชโย” สำหรับ “ช้างไชโย” นั้นเคยถูกใช้เป็นสัตว์นำโชค หรือมาสคอตในการจัดแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2541 ปัจจุบันมีอายุ 22 ปี เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 มีพ่อช้างชื่อ “พลายเอก”และแม่ช้างชื่อ “พังใหม่”

จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆ

จัดกิจกรรมให้กับเด็กๆ

 

ขอบคุณคลืปภาพจากสวนสัตว์เชียงใหม่

เชียงใหม่ เทศบาลเชิงดอย จัดอบรมชาวบ้านทำหน้ากากอนามัยใช้เอง

เทศบาลตำบลเชิงดอย อำเภอดอยเก็ด สอนทำหน้ากากผ้าให้กับชาวบ้านสวมป้องกันฝุ่นPM 2.5 และไวรัสโควิด-19 นายกฯหลังสั่งซื้อไม่ได้นานนับเดือน ต้องหันมาทำหน้ากากผ้าแทน ส่วนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้แจกจ่ายให้กับกลุ่มเสี่ยง ส่วนในพื้นที่มี 2 ราย ทั้งอำเภอ 28 รายมาจากประเทศเสี่ยงเฝ้ากักตัวเองดูแลกันเป็นอย่างดี

หน้ากากอนามัย ยังขาดแคลน สั่งไปแล้วนับเดือน เพื่อมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านกว่า 7 พัน แต่ก็หาไม่ได้ ทำให้นายชุติพนธ์ สารแปง นายกเทศมตรีตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาช่วยประชาชนในพื้นที่เพราะต้องเผชิญกับปัญหาถึง 2 โรคที่ต้องเฝ้าระวังทั้งโรคไวรัสโควิ-19 และโรคจากฝุ่นควันพิษ PM2.5 ทำให้ต้องจัดหาครูมาสอนตัวแทนชาวบ้าน 11 หมู่บ้านเข้ามารับการฝึกอบรมการเย็บหน้ากากอนามัยแบบผ้า ซึ่งจะมีอุปกรณ์ 1 ชุดเพื่อให้ชาวบ้านไปฝึกเย็บใช้เป็นการแจกจ่ายให้กับประชาชนกว่า 7 พันคน ได้มีหน้ากากอนามัยป้องกันโรคทั้ง 2 โดยแบ่งเป็นผู้ป่วยและ กลุ่มเสี่ยงจะมีหน้ากากอนามัยทางการแพทย์แจกให้ ส่วนผู้ไม่ป่วยให้กันแบบชนิดผ้าแทน

อย่างไรก็ตามในห้วงเกิดการแพร่ะบาด และปัญหาฝุ่นควัน PM2.5 เพิ่มขึ้นได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยไปเพื่อมาแจกจ่ายแต่นานนับเดือน ก็ยังไม่ได้แต่เท่าที่หาได้ก็แจกจ่ายไปก่อนหน้านี้โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเป็นหลักก่อนจะมาใช้หน้ากากแบบผ้า จะมีความหน้าถึง 3 ชั้น สามารถป้องกันได้ในเบื้องต้น พร้อมนำวิทยากรจากสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่มาให้ความรู้แก่ตัวแทนชาวบ้านได้รู้ถึงอัตรายจากโรคนี้ นำไปเผยแพร่ให้กับชาวบ้านในชุมชน ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงมีจำนวน 2 ราย ได้กักตัวเองทำตามคำแนะนำ มี อสม. และทีมแพทย์ เข้าไปช่วยดูแลติดตามอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ดมีจำนวน 28 คนเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้วกลับ ทุกได้กักตัวเองตามมาตรการเป็นอย่างดี

เชียงใหม่ ม.แม่โจ้ ร่วมกับ ทปอ. มอบหน้ากากอนามัยให้โรงพยาบาล

มหาวิทยาลัย.แม่โจ้ ร่วมกับ ทปอ. มอบหน้ากากอนามัยให้โรงพยาบาล

วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกับ ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย) มอบหน้ากากอนามัย (N95) ให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ ที่ประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัยในเหตุภาวะวิกฤตโรค โควิด-19 ระบาด จนทำให้บุคลากรทางการแพทย์ไม่มีหน้ากากอนามัยใช้ในขณะปฏิบัติหน้าที่

โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้แทนส่งมอบหน้ากากอนามัย (N95) จำนวน 1,575 ชิ้น ให้กับ 3 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ จำนวน 700 ชิ้น โรงพยาบาลลำพูน จ.ลำพูน จำนวน 400 ชิ้น และโรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ จำนวน 475 ชิ้น โดยมี นพ.ศิริพจน์ ศรีบัณฑิตกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ อาวุโส โรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่, เภสัชกร สมพงษ์ คำสาน เภสัชการเชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลลำพูน และ แพทย์หญิงงามพิศ จันทร์ทิพย์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ ห้องประชุมสภา ชั้น 5 อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้

 

ฝ่ายสื่อสารองค์กร ม.แม่โจ้ //รายงาน

(คลิป)เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มเดินเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5

จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มเดินเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ต้นแบบ ที่มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาฝุ่นควัน เป็นวันแรก

วันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นาวาเอกอรรถสิทธิ์ พงษ์เกษตร์กรรม์ ผู้อำนวยการโรงเรียนช่าง กรมอู่ทหารเรือ ในฐานะคณะทำงานโครงการสร้างเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 (ต้นแบบ) ได้ชี้แจงขั้นตอนการใช้งาน รวมถึงการดูแลรักษาเครื่องบำบัดอากาศฯ ให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่เทศบาลนครเชียงใหม่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ โดยเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 (ต้นแบบ) ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 4 เครื่อง นั้น ก่อนหน้านี้ได้ติดตั้งอยู่บริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร แล้วเคลื่อนย้ายมาติดตั้งที่ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา และได้เริ่มเปิดใช้งานวันนี้เป็นวันแรก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนชาวเชียงใหม่ที่กำลังประสบปัญหา PM 2.5 เกินมาตรฐาน


สำหรับ เครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ต้นแบบ จัดสร้างขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีความห่วงใยในปัญหาสุขภาพของประชาชน จึงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระราชูปถัมภ์ คิดหาแนวทางควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาของรัฐบาล โดยให้คณะทำงานโครงการสร้างเครื่องบำบัดฝุ่น PM 2.5 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และกรมควบคุมมลพิษ พัฒนาต่อยอดเป็นงานวิจัยโดยใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ในประเทศ และใช้หลักการทำงานคือบำบัดอากาศในช่วงความสูงที่ 3 – 5 เมตร ซึ่งเป็นความสูงในระดับที่คนอยู่อาศัย ไม่ต้องบำบัดทั้งหมด โดยจะเดินเครื่องพร้อมกันทั้ง 4 เครื่อง ตั้งแต่พรุ่งนี้ตั้งแต่ 05.00 – 21.00 น. ทุกวัน ไปจนกว่าสถานการณ์ปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่เข้าสู่สภาวะปกติ


ด้าน ดร.ธงชัย เมธนาวิน ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ โครงการสร้างเครื่องบำบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 (ต้นแบบ) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกันเก็บข้อมูลเพื่อวิจัยและต่อยอดเครื่องบำบัดอากาศฯ ซึ่งได้ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ในประเทศ และผลิตโดยช่างไทย โดยใช้งบประมาณไม่เกิน 3 แสนบาทต่อเครื่อง ทั้งนี้ ตั้งเป้าภายใน 2 – 3 ปีนี้ จะพัฒนาให้การทำงานของเครื่องมีประสิทธิภาพการทำงานสูงยิ่งขึ้น เพื่อแก้ปัญหามลพิษของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

เชียงใหม่ ชวนเที่ยวกาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะโฮงพะชุม เปิด 9 เม.ย.2563

เทศบาลเมืองแม่เหียะ ชวนเที่ยวกาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะโฮงพะชุม เปิด 9 เม.ย.2563

 

ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเทศบาลเมืองแม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ แถลงข่าวประจำสัปดาห์สัญจร เรื่องเมืองแม่เหียะพร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะด้านการบริการสาธารณะ (Maehia Smart City) และหนึ่งจังหวัด หนึ่ง อปท. หนึ่งโครงการเฉลิมพระเกียรติ (โครงการจัดการเรียนการสอนผู้สูงอายุทางอากาศ) และแถลงข่าวเรื่องการเตรียมเปิดตลาดนัด “กาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะโฮงพะชุม” ในวันที่ 9 เม.ย.ที่จะถึงนี้

นายธนวัฒน์  ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ เปิดเผย ว่า เทศบาลเมืองแม่เหียะขอเชิฐชวนร่วมงานเปิดตลาดนัดเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ตลาดนัดดังกล่าวเปิดที่สาธารณประโยชน์ บ้านสันพระนอนฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสารสาสน์ หมู่ที่ 5 ต.แม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะเปิดตลาดอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 เม.ย.2563 ที่จะถึงนี้

กาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะโองพะชุม มีจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์ ผักพื้นบ้าน สินค้ากลุ่มอาชีพและเกษตรกรที่ปลูกผักอินทรีย์ อร่อยกับบูธร้านอาหารเพื่อสุขภาพ การฝึกอาชีพ การเสวนาความรู้ด้านเกษตร

“กาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะโฮงพะชุม ทางเข้ามีซู้มประตูโขงที่ทำจากไม้ไผ่ และซุ้มขายของที่มีลายกนก สวยงามมาก ตลาดนี้สร้างขึ้นเพื่อพี่น้องประชาชนสนองนโยบายตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เข้ากับวัฒนธรรมของชุมชน การสร้างซุ้มประตูโขงด้วยไม้ไผ่ดังกล่าวเป็นผลงานของนายคำปัน อุทรา ที่ได้รับรางวัลเพชรราชภัฎและเพชรล้านนา สาขาสถาปัตยกรรมงานไม้ไผ่เพื่อเป็นการสืบทอดให้ลูกหลานได้เห็นงานศิลปะไม้ไผ่และยังเสริมสร้างชุมชนกระบวนการสร้างอาชีพ สร้างงานที่มีคุณภาพและพัฒนาสินค้าชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ดีขึ้นอย่างทั่วถึงและที่สำคัญได้รับประทานพืชผักที่ดีต่อสุขภาพ ผักสะอาดปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ ตลาดนัดเกษตรปลอดพิษ อาหารปลอดภัย ต้องที่ “กาดฮอมฮักแม่เหียะโฮงพะชุม” นายธนวัฒน์  ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะกล่าว

กาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะ โฮงพะชุม จะอยู่ติดกับสำนักงานวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ส่งไนท์ซาฟารี มีนายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกนายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ พร้อมนายดี จันทคลักษณ์ ประธานวิสาหกิจชุมชนผลิตอาหารสัตว์ส่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ร่วมกันสนับสนุนงบประมาณ ก่อนหน้านี้ได้ร่วมประชุมกับทางกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ โดยมีนางอำพร ธนากุล กำนันตำบลแม่เหียะ นายประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล พร้อมอาจาร์คำปัน อุทรา ผู้สร้างซุ้มประตูโขงไม้ไผ่ และคณะกรรมการกาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะ จึงเห็นสมควรว่าจะเปิดตลาด กาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะโฮงพะชุม อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 เม.ย. 2563 ที่จะถึงนี้ และจะประกอบพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่ ผู้สนใจเข้าชมในเฟสบุ๊ค กาดฮอมฮักเมืองแม่เหียะ โฮงพะชุมได้ หรือสนใจเดินทางไปเที่ยวชมและซื้อสินค้าชุมชนสามารถโทรศัพท์สอบถามประสานงานขายของได้ที่ ผอ.โหน่ง 083-3231313 ได้ทุกวัน

เชียงใหม่ ซู อควาเรียม สู้วิกฤตปรับลดราคากระตุ้นการท่องเที่ยว

เชียงใหม่ ซู อควาเรียม สู้วิกฤตปรับลดราคากระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมเน้นย้ำเรื่องความสะอาด ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่ ซู อควาเรียมรับมือกับช่วงวิกฤตจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ด้วยการปรับลดราคาบัตรเข้าชม เพื่อหวังกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกมาจับจ่ายใช้สอย ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะลดน้อยลง แต่ทางอควาเรียมยังมีนักท่องเที่ยวเป็นคนในพื้นที่และชาวต่างชาติอื่น ๆ จึงถือโอกาสนี้ ทำโปรโมชั่นราคาพิเศษให้คนมาเที่ยวมากยิ่งขึ้น


คุณนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ กรรมการผู้จัดการเชียงใหม่ ซู อควาเรียมจึงเห็นว่าการปรับลดราคาบัตรเข้าชมให้ถูกลง จะช่วยทำให้ความซบเซาของธุรกิจการท่องเที่ยวมีการกระเตื้องขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังมิได้ปล่อยปละเละเลยในเรื่องการทำความสะอาด และทำการฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอลล์เป็นประจำทุกวันทั้งเช้าและบ่าย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาเข้าชมอควาเรียม โดยมีการทำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า จนปัจจุบันก็ยังคงทำอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ

เชียงใหม่ รองแม่ทัพภาคที่ 3 กำชับ 4 จังหวัดภาคเหนือเร่งควบคุมจุดความร้อนในพื้นที่

ที่สโมสรค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ประชุม vtc ร่วมกับ 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จว.เชียงใหม่ จว.เชียงราย จว.แม่ฮ่องสอนและ จว.พะเยา ภายหลัง ปริมาณ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ มีค่าระหว่าง 44 – 245 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ทั้งนี้ สาเหตุที่ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยด้านอุตุนิยมวิทยา ลมตะวันตกเฉียงใต้/ใต้กำลังปานกลาง-อ่อน พัดหมอกควันมาจากประเทศเพื่อนบ้าน อากาศไม่ยกตัวในตอนเช้า การระบายฝุ่นละอองอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง รวมทั้งสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ทำให้มีการสะสมตัวของฝุ่นละออง ที่สำคัญพบจุดความร้อนเพิ่มจำนวนใน 4 จังหวัด

รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ทางกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าต้องการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา ถึงแม้นว่าในแต่ละจังหวัดจะมีสภาพพื้นที่ที่แตกต่างกัน โดยขอให้ทุกจังหวัดเร่งดำเนินมาตรการควบคุมการเผาอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะการเตรียมพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ป่า ในพื้นที่ผ่อนผัน และ การควมคุมคนไม่ให้ไปใช้ประโยชน์ในป่า ตลอดจนใช้ศักยภาพของจิตอาสาในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ที่สำคัญประชาชนในพื้นที่ต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาทุกครั้ง เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ชุมชน