เชียงใหม่ สท.แม่คือรวบรวมเงินซื้อสิ่งของมอบให้ จนท.และแพทย์ รพ.สู้วิกฤติไวรัสโควิด-19

สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่ บริจาคเงินจัดซื้ออุปกรณ์ชุดป้องกันการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิส-19 และเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย นอกจากนั้นยังจัดซื้อ อาหาร เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ น้ำดื่มให้กับเจ้าหน้าที่ที่สนธิกำลังตั้งจุดตรวจบูรณาการคัดกรองเฝ้าระวังการแพร่ระบาดริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย และ จัดซื้อหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ น้ำดื่ม และข้าวกล่องจำนวน 100 กล่อง ไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ดอีกด้วย

นายอุดม อิ่นคำ นายกเทศมนตรีตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่คือ มอบอุปกรณ์และชุดป้องกันที่ใช้ในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคไวรัสโควิด19 พร้อมเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย เพื่อแก้ไขปัญหาโรคระบาด ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลแม่คือ ตามโครงการรวมใจต้านโรคโควิด-19 เพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และอื่นๆ ซึ่งทางสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่คือ พร้อมผู้มีจิตศรัทธาในตำบลแม่คือร่วมใจกันบริจาค โดยเงินส่วนที่เหลือก็ได้นำไปจัดซื้ออาหาร เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำดื่ม กาแฟ มอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบริเวณจุดตรวจบูรณาการ คัดกรองเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด และจัดซื้อหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ น้ำดื่ม และข้าวกล่องจำนวน 100 กล่อง ไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายแพทย์ปรีชา สิริจิตราภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอยสะเก็ด และนายจิรชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด ร่วมรับมอบ

นายกเทศมนตรีตำบลแม่คือกล่าวว่า เทศบาลตำบลแม่คือได้เล็งเห็นความยากลำบากของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่แพทย์,พยาบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ อสม. ในการปฏิบัติหน้าที่ ร่วมใจกันป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่คือ จึงได้จัดโครงการรวมใจต้านโรคโควิด-19 โดยรวบรวมเงินบริจาคจากสมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่คือและชาวบ้าน นำมาจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ในการป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 และจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกัน อาหารให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ร่วมทั้งแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลดอยสะเก็ด นอกจากนั้นเทศบาลตำบลแม่คือได้อนุมัติงบประมาณเพื่อเป็นทุนจัดให้นักเรียน,นักศึกษาในพื้นที่ ได้ฝึกทำงานด้านต่างๆของเทศบาลแม่คือ ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน เป็นเงินงบประมาณฯ ถึง 40,000 บาท


ด้านนายแพทย์ปรีชา สิริจิตราภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอยสะเก็ดเปิดเผยว่า ผู้มีจิตศรัทธาที่จะนำหน้ากากอนามัย เฟสซิว หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับทางโรงพยาบาล บางอย่างหายากส่วนเฟสซิวก็มีผู้นำมาบริจาคให้กับโรงพยาบาลแล้วจำนวนมาก จึงคิดว่าจะขอหยุดรับ ส่วนท่านใดจะสนับสนุนให้กับกำลังใจกับเจ้าหน้าที่แพทย์,พยาบาล ในการต่อสู้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สิ่งที่ง่ายที่สุดในการบริจาคไม่รบกวนในยามวิกฤติ ขอเป็นอาหารเครื่องดื่มนำมาให้กับบุคลากรทางารแพทย์ของโรงพยาบาลดอยสะเก็ดซึ่งมีกว่า 200 คน ตามกำลังที่สามารถทำได้ ในช่วงกลางวันก็ขอเป็นก่อนเที่ยงวัน ส่วนในช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ขึ้นอยู่เวรบ่าย อาจเป็นขนมสามารถนำไปทานช่วงดึกได้


“พวกเราก็ยินดีแล้วแต่กำลังศรัทธา เพราะในช่วงเวลานี้หลายโรงพยาบาลในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลสันกำแพง โรงพยาบาลสันทราย โรงพยาบาลนครพิงค์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และโรงพยาบาลสันป่าตอง โรงพยาลเหล่านี้ได้รับผู้ป่วยโควิด-19 เข้ามาดูแล เมื่อมีอุบัติเหตุในท้องที่โรงพยาบาลเหล่านี้ ทางโรงพยาบาลดอยสะเก็ด ก็จะรับผู้บาดเจ็บบางส่วนมารักษา ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทุกคนมีความเสี่ยง และในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วหลายคน ในฐานะที่พวกเราเป็นผู้ที่มีความเสี่ยง เป็นนักรบแนวหน้า รบกับศัตรูที่มองไม่เห็น หากท่านคิดว่าจะให้กำลังใจพวกเราๆ ยินดีขอรับกำลังใจเหล่านี้โดยแล้วแต่กำลังศรัทธาของพวกท่านที่สามารถช่วยได้ โดยที่เราไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้แต่อย่างใด” ผอ.รพ.ดอยสะเก็ด กล่าว

มอบอุปกรณ์และชุดป้องกันที่ใช้ในการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคไวรัสโควิด19 ให้ จนท.กู้ภัย

จัดให้นักเรียน,นักศึกษา มาสมัครฝึกงานช่วงปิดภาคเรียน

มอบอาหาร เครื่องดื่มชูกำลังให้ จนท.

เชียงใหม่ นอภ.ดอยสะเก็ดตรวจจุดคัดกรองไวรัสโควิด-19 เส้นทาง ชม.-ชร.

อำเภอดอยสะเก็ดตั้งจุดบูรณาการเส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย คัดกรองเฝ้าระวังผู้ที่สัญจรข้ามจังหวัด ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพร้อมให้กรอกเป้าหมายการเดินทางและจุดพักอาศัยเน้นสำหรับรถที่มีทะเบียนต่างจังหวัด

เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสนธิกำลังตั้งจุดบูรณาการคัดกรอง เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริเวณริมถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย หน้าด้านสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอำเภอดอยสะเก็ดเป้นอำเภอที่มีเขตติดต่อกับจังหวัดเชียงราย ซึ่งจะมีผู้ใช้เส้นทางจากจังหวัดเชียงรายและพะเยา เดินทางเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ จึงจำเป็นต้องตั้งจุดคัดกรอง เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาจติดมากับผู้ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว


นายจิรชาติ ซื่อตระกูล นายอำเภอดอยสะเก็ด เปิดเผยว่า จุดตรวจแห่งนี้เป็นการบูรณาการของทุกภาคส่วน ร่วมมือร่วมใจการเพื่อปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะควบคุมป้องกัน ลดระดับความรุนแรงของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งจุดนี้มีขบวนการคัดกรองบุคคล สังเกตุพฤติการณ์บุคคล ที่เดินทางโดยรถโดยสาร รถยนต์ส่วนตัว ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดสังเกตุจากป้ายทะเบียนรถ โดยแบ่งช่องทางสำหรับตรวจสอบคัดกรอง ซึ่งอำเภอดอยสะเก็ดมีพื้นที่รอยต่อติดกับอำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป่า จังหวัดเชียงราย ฉะนั้นถ้าเป็นรถที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเราจะคัดกรองเป็นพิเศษ โดยการวัดอุณภูมิ ห้ามเกิน 37.5 องศา และมีการกรอกประวัติข้อมูลว่า เป้าหมายจะไปพักหรือไปที่จุดหมายใด ถ้ามีอุณหภูมิสูง ก็จะทำการกักตัว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ทราบสถานการณ์ความรุนแรงของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาของโลก และเชื่อมั่นว่าถ้าทุกฝ่าย ถือปฏิบัติเช่นนี้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็น่าจะคลี่คลายในเวลาอันใกล้นี้

คัดกรองผู้สัญจรเส้นทางมาจากเชียงราย

(คลิป)เชียงใหม่ เจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ดเจริญพรให้กำลังใจผ่านพ้นวิกฤติไวรัสโควิด-19

วัดพระธาตุดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ งดจัดงานประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรืองานสงกรานต์ พร้อมเปิดให้ศรัทธาประชาชนชาวพุทธได้เดินทางมาทำบุญ แต่ไม่จัดงานเป็นหมู่คณะ ขณะที่พระราชโพธิวรคุณ ในฐานะเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด เจริญพรให้กำลังใจประชาชนทั่วประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไปด้วยดี

ที่วัดพระรธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง พระราชโพธิวรคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด เจริญพรให้กำลังใจประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตไวรัสโควิด-19 ส่วนในช่วงประเพณีปี๋ใหม่เมือง หรือเทศกาลวันสงกรานต์ ปีนี้คงจะไม่จัดงานเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขอให้เป็นสายธารศรัทธาของญาตโยมที่จะเดินทางมาทำบุญสุนทานก็สามารถทำได้ แต่คงไม่มีการจัดรวมกันเป็นหมู่คณะ เช่นการสืบชะตา การทำบุญตานขันข้าว ก็คงจะแยกกันทำให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ของทางสาธารณสุขที่ได้กำหนดไว้ พร้อมสนองเจตนาของทางรัฐบาลและปฏิบัติตามมติของมหาเถรสมาคม พร้อมเจริญพรให้กำลังใจกับทุกๆ คนให้ผ่านพ้นวิกฤติไวรัสโควิด-19 ไปด้วยดี

พระราชโพธิวรคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าคณะอำเภอดอยสะเก็ด เจริญพร

 

เชียงใหม่ พิษโควิด-19 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำแจ้งงดจัดงานสงกรานต์และสรงน้ำพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำ วัดดังและเป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ งดจัดงานวันสงกรานต์ทรงน้ำพระรอดหลวงที่มีอายุกว่า 1,333 ปี และงดจัดงานสรงน้ำพระธาตุดอยคำ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล เกรงจะเป็นการแพร่เชื้อไวรัสโควิส-19 แต่ยังคงเปิดให้สาธุชนได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามปกติไม่ได้ประกาศปิดวัดแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวพาไปดูบรรยากาศภายในวัดพระธาตุดอยคำ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ซึ่งวัดแห่งนี้เคยมีบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางขึ้นมาเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมทั้งพวงดอกมะลิมาอธิฐานขอพร ขอโชคลาภจาก หลวงพ่อทันใจ และพระรอดหลวง ที่มีอายุประมาณ 1,333 ปี เป็นพระคู่วัดพระธาตุดอยคำและเป็นพระคู่เมืองเชียงใหม่มายาวนาน แต่ปัจจุบันบรรยากาศภายในวัดเงียบเหงา เพราะผู้คนส่วนใหญ่เกรงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้วัดพระธาตุดอยคำเหมือนกับเป็นวัดร้าง

พระครูสุนทร เจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ เจริญพรว่า สำหรับการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ วัดพระธาตุดอยคำได้งดการจัดงาน ซึ่งการจัดงานสงกรานต์ในทุกๆ ปี ทางวัดได้อัญเชิญพระรอดหลวง มาให้พุทธศาสนิกชมได้มีโอกาสสรงน้ำสักการะพระรอดหลวงกัน แต่ปีนี้วัดพระธาตุดอยคำของดจัด เพื่อสนองตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ทุกคนปราศจากโรคภัย เพราะฉะนั้นจึงถือว่าในปีนี้ทางวัดพระธาตุดอยคำ ของดอัญเชิญพระรอดหลวงออกมา สำหรับพระรอดหลวงวัดพระธาตุดอยคำนั้น เป็นพระรอดเก่าแก่ปีนี้มีอายุย่างเข้า 1,333 ปี สร้างขึ้นในสมัยพระนางเจ้าจามเทวี เป็นพระพุทธรูปหินทรายที่มีน้ำหนักมาก ได้อัญเชิญออกมาให้สาธุชนได้ทรงน้ำกันทุกปี ๆ นี้จึงของดการอัญเชิญออกมา

สำหรับงานสรงน้ำพระธาตุดอยคำทุกปีก็มีการจัดงานสรงน้ำพระธาตุหลังเทศกาลสงกรานต์ ได้ยึดถือเอาวันแรม 8 ค่ำ เรียกว่าวัน อัฎฐมีบูชา หลังวันวิสาฆบูชา แต่ปีนี้ทางวัดพระธาตุดอยคำก็ได้ประกาศยกเลิกไป เพื่อป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะมีสาธุชนทั้งหลายขึ้นมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก สำหรับศรัทธาญาติโยมที่จะเดินทางขึ้นมาทำบุญไหว้สาบารมี ทางวัดพระธาตุดอยคำก็ไม่ได้ประกาศปิดวัด พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เดินทางขึ้นมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ของทางวัดได้ตามปกติ โดยของให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคน ซึ่งทางวัดก็ได้เตรียมเจลฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่างๆ ของวัด เพื่อให้ได้ล้างมือฆ่าเชื้อโรคก่อนและหลังทำบุญในวัด

หลวงพ่อเตือนสติ

พระรอดหลวงอายุ 1,333 ปี

บรรยากาศภายในวัด

เชียงใหม่ รร.มงฟอร์ตเปิดการสอนในระบบออนไลน์สู้ศึกไวรัสโควิด-19

โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ก้าวสู่สังคมยุคดิจิทัล จัดระบบการเรียนการสอนออนไลน์ MC Online Classroom 2020 สู้ศึก COVID-19 ให้นักเรียนอยู่ที่บ้านเรียนหนังสือ ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ปัจจุบันสถานการณ์ COVID-19 หรือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2562 ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงด้านการศึกษา ส่งผลให้ครูและนักเรียนไม่สามารถเดินทางมาโรงเรียน หรือร่วมทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ร่วมกันได้


มาสเตอร์ธีรภัทร วิโรจน์สกุล หัวหน้าฝ่ายวิชาการ โรงเรียมงฟอร์ตวิทยาลัยเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว การเรียนผ่านระบบออนไลน์ คือรูปแบบการเรียนยุคใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการในปัจจุบันเป็นการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อผู้เรียนกับผู้สอนแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถโต้ตอบได้ทันที เหมือนกับได้เข้าห้องเรียนไปเจอผู้สอนแบบตัวต่อตัวและสามารถที่จะบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาตนเองได้ โดยผู้เรียนสามารถ เรียนที่ไหนก็ได้ ทำให้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ตัดเวลาที่ต้องเสียไปจากการเดินทาง จนอาจไม่มีโอกาสได้ฝึกฝนและปฏิบัติอย่างเต็มที่


ด้วยสถานการณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยจึงได้วางแผนการจัดการศึกษาในรูปแบบดังกล่าวมากว่า 3 ปี โดยได้จัดทำเป็นยุทธศาสตร์เพื่อปรับเปลี่ยนให้เข้าสู่การศึกษาในยุคดิจิทัล ปี 2561 – 2563 โดยในปี 2561 และ 2562 โรงเรียนได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานระบบไอที (IT Infrastructure) ได้แก่ การปรับปรุงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย และในปี 2563 จะจัดสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Classroom) เพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล โดยจะเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นประถมปีที่ 1 ไปจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนกว่า 3,000 คน


ในช่วงสถานการของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 การเรียนการสอนด้วย MC Online Classroom จึงถูกผลักดันให้เกิดขึ้นเร็วกว่ากำหนดจากแผนที่วางไว้ (ประมาณ 6 เดือน) โดยหลังจากที่โรงเรียนได้ทำการวิเคราะห์ถึงผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น จึงเห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการจัดการเรียนการสอนใหม่ โดยให้ครูผู้สอนจัดการสอนเป็นแบบออนไลน์ (Online Learning) ซึ่งปกติครูผู้สอนบางส่วนได้มีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์อยู่แล้ว จึงทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถจัด Online Classroom ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากโรงเรียนได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับครูผู้สอนโดยการฝึกอบรมทางด้านการจัดการเรียนการสอนยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง ในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ครูผู้สอนมีทักษะและสามารถปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพ โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ ร่วมกัน


ทั้งนี้ ทางโรงเรียนจะดำเนินการเปิดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในวันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะคลี่คลายลง และหลังจากนั้นการเรียนผ่านระบบ MC Online Classroom จะถูกปรับเป็นการเรียนเสริม-เพิ่มความรู้ให้กับผู้เรียน โดยไม่จำกัดเนื้อหา เวลา และสถานที่ สามารถตอบโจทย์การเรียนการสอนในปัจจุบัน และพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยทุกคน ได้เข้าสู่การเรียนรู้ ก้าวสู่สังคมยุคดิจิทัลต่อไป

เชียงใหม่ ชาวบ้านร่วมใจฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ทั่วหมู่บ้าน ไม่ง้องบฯหลวง

ชาวบ้านบ้านป่าสักน้อย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ นำเครื่องพ่นปุ๋ยมาใส่น้ำฆ่าเชื้อ ออกตระเวนฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามถนนและบ้านเรือนชาวบ้านทุกตารางนิ้ว ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้งบประมาณมาจากการบริจาคของชาวบ้านเอง ไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแม้แต่บาทเดียว พร้อมจัดทำน้ำยาฆ่าเชื้อบรรจุขวดสำหรับให้ทุกบ้านได้ใช้ และทุกๆ 3 วันนำขวดมาเติมได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ชาวบ้านป่าสักน้อย หมู่ 9 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมใจกันนำเครื่องฉีดพ่นปุ๋ยตามสวนไร่นาของตนเอง ออกมาล้างทำความสะอาดและนำน้ำยาฆ่าเชื้อที่ทางหมู่บ้านจัดขึ้น ใส่ในเครื่องพ่น ออกตระเวนฉีดพ่นตามถนนหลักและบ้านเรือนชาวบ้าน เป็นการป้องกันการแพร่เชื้อและฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19


นางสาวโสรัตยา บัวชุม ผู้ใหญ่บ้านป่าสักน้อยบอกว่า มาตรการควบคุมสำหรับคนในหมู่บ้านคือให้อยู่แต่ในบ้าน และสวมหน้ากากอนามัยทุกคน ส่วนมาตรการของหมู่บ้านตามมติที่ประชุมตามที่ได้คุยกัน โดยมีมาตรการป้องกันหมู่บ้านจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันสนับสนุนงบประมาณโดยแต่ละบ้านช่วยกันบริจาคเงิน ขณะนี้มีเงินสนับสนุนเกือบ 2 หมื่นบาท ที่จะนำไปจัดซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อจะนำมาฉีดพ่นฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วทั้งหมู่บ้าน ส่วนกิจกรรมที่ทางหมู่บ้านได้ทำขึ้นก่อนหน้านี้ คือทาง อสม.ได้จัดทำหน้ากาดกอนามัยแจกจ่ายให้กับทุกครัวเรือนและทุกคนในหมู่บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นงบประมาณของ อสม.เอง พร้อมจัดทำน้ำยาฆ่าเชื้อบรรจุขวดสำหรับให้ทุกบ้านได้ใช้ และทุกๆ 3 วันก็มาเติมได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

สำหรับวันนี้ได้จัดซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อให้ชาวบ้านมาช่วยกันฉีดพ่นฆ่าเชื้อในหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านหรือนักรบผ้าขาวม้า ซึ่งเป็นเกษตรกรในหมู่บ้าน นำเครื่องพ่นปุ๋ยมาร่วมกันพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งถนนสายหลักและที่สำคัญจะพ่นนอกบ้าน ในบ้าน และบริเวณบ้าน ทุกตารางนิ้วด้วยงบประมาณของชาวบ้านเอง ซึ่งจะพ่นซ้ำทุกๆ 7 วัน เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน ขณะเดียวกันกำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน ก็จะมีการตั้งจุดคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาในหมู่บ้าน ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผากเพื่อที่จะคัดกรองคนในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้านที่จะเข้ามา ขณะเดียวกัน อสม.ก็ได้ลงพื้นที่ให้คำแนะนำแก่ชาวบ้านด้วยการแจกแผ่นพับและการสวมใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่ นี้เป็นมาตราการเบื้องต้นที่ทางหมู่บ้านป่าสักน้อยได้ร่วมกันทำเพื่อปกป้องคนในหมู่บ้าน เพื่อบ้านป่าสักน้อย เพื่อชุมชน เพื่อสังคม ด้วยการปกป้องตนเองโดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการแม้แต่บาทเดียว

เชียงใหม่ เราจะไม่ทิ้งกันรวมมอบ Face Shield และ Acrylic Box Cover ให้กับทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเทศบาลนครเชียงใหม่

เราจะไม่ทิ้งกัน ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการในนามของ MED CHIC CLUSTER มอบ Face Shield และ Acrylic Box Cover ให้กับทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเทศบาลนครเชียงใหม่

นายจิรภัทร จะวะนะ พร้อมกับ รศ.ดร.พญ. ศิริอนงค์ นามวงศ์พรหม หัวหน้าศูนย์นวัตกรรมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายสุภกิจ ชัยเมืองเลน ผู้อำนวยการกลุ่มบริการธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ร่วมมอบ Face Shield และ Acrylic Box Cover อุปกรณ์ป้องกันเพื่อใช้ในสถานการณ์ COVID-19 ให้กับทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านเทศบาลนครเชียงใหม่ ในการนี้ได้รับเกียรติจาก คุณทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ พร้อมกับ คุณดนัย สารพฤกษ์ ผู้อำนวยส่งเสริมสาธารณะสุขเทศบาลนครเชียงใหม่ นายภาณุพงค์ วีรตันตยาภรณ์ สมาชิกกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม แขวงกาวิละเป็นผู้รับมอบ ณ อาคารสำนักงานเทศบาลนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

กลุ่มผู้ประกอบการ MED CHIC CLUSTER เป็นกลุ่มผู้ประกอบการในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ที่เกิดจากการเพาะบ่ม โดย ศูนย์นวัตกรรมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (MED CMU Health Innovation Center (MedCHIC)) ที่คัดเลือกและเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและมีความสนใจ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม ด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมกลุ่มกันเพื่อสร้างพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์MED CHIC CLUSTER และ ศูนย์นวัตกรรมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (MED CMU Health Innovation Center (MedCHIC)) ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ หากสถานพยาบาลใด ต้องการอุปกรณ์ป้องกันเพื่อใช้ในสถานการณ์ COVID-19 สารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ทาง Inbox Facebook MedCHIC ทีมงานยินดีเป็นสื่อกลางประสานติดต่อผู้ประกอบการเพื่อมอบอุปกรณ์ให้ครับ

เชียงใหม่ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจการแก้ไขปัญหาไฟป่า ฉก.ม.4

รองแม่ทัพภาคที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจการแก้ไขปัญหาไฟป่า ฉก.ม.4 เน้นการป้องปรามคนเผาป่า ตามนโยบายรัฐบาลไม่ให้บุคคลเข้าไปใช้ประโยชน์หรือบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และคณะ ตรวจพื้นที่และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ณ ห้องประชุม บก.ฉก.ม.4 ค่ายพิชิตปรีชากร อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ขอให้หน่วยสำรวจและเก็บข้อมูลอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เพื่อใช้ในการดับไฟป่า โดยให้คำนวนจากความกว้างความยาวและความลึกของอ่างเก็บน้ำ (กว้าง 50 ม. x ยาว 50 ม. x ลึก 5 ม.) และกำหนดทิศทางการเข้าไปตักน้ำของ ฮ.ลำเลียงทั่วไป (MI – 17) โดยให้มีหน่วยงานภาคพื้นดินคอยช่วยสนับสนุนภารกิจ นอกจากนี้ให้ใช้มาตรการในการป้องปรามผู้กระทำผิด (คนเผาป่า) ตามนโยบายของรัฐบาลที่ห้ามไม่ให้บุคคลเข้าไปใช้ประโยชน์หรือบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลข่าวสารกลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายว่าเป็นผู้กระทำผิดในการลักลอบเผาป่าจากบุคคลในพื้นที่

ทั้งนี้ฝากหน่วยงานของรัฐและประชาชนในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ของตนเองให้ได้ อย่าให้มีไฟป่าเกิดขึ้นและให้เฝ้าระวังประชาชนบางส่วนที่เดินทางกลับมาจาก กทม.ซึ่งอาจมีกลุ่มบุคคลเข้าไปรับจ้างเผาป่าเพื่อเป็นการหารายได้ นอกจากนี้ ให้หน่วยประสานกับ ร.7 พัน.2 ในการตรวจสอบข้อมูลกำลังพลทหารกองประจำการที่มีภูมิลำเนา หรือมีเครือญาติอยู่ในพื้นที่เพื่อดำเนินการด้านการข่าวให้หน่วย

อย่างไรก็ตามเน้นย้ำกำลังพลที่ออกไปปฏิบัติภารกิจในการดับไฟป่า เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงอันตรายให้หลีกเลี่ยง และคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นหลัก

เชียงใหม่ พาชมอภิมหาเทพตะเคียนทองที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในโลก

ชมองค์อภิมหาเทพสร้างจากไม้ตะเคียนทองกว่า 600 ท่อน ที่มีความสวยงามและเป็นปฏิมากรรมไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ชมความยิ่งใหญ่แล้ว

-พากันมาที่ริมถนนเชียงใหม่-สันกำแพง สายใหม่ ห่างจากห้างพรอเมราด้าไปทางอำเภอสันกำแพงประมาณ 1 กิโลเมตร ด้านซ้ายมือ จะได้พบกับสถานที่แสดงอภิมหาเทพตะเคียนทอง ที่กำลังจัดเตรียมสถานที่ประทับพระพิฆเณศวรปาง 5 เศียร ,องค์ท้าวมหาพรหม และองค์ช้างเอราวัณ ซึ่งอาจารย์เข้ม มฤคพิทักษ์ อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของบ้านร้อยทวารบาล บ้านเทวาลัย ได้สร้างขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ได้เข้ามาสักการะบูชา ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงการเคลื่อนย้ายและนำมาประทับ โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 2 รูปมาทำพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน


อาจารย์เข้ม มฤคพิทักษ์ เปิดเผยว่า สถานที่แห่งนี้มีมีเทวาลัยเทพ ที่มีองค์เทพอยู่ 3 องค์ แกะสลักด้วยไม้ตะเคียนทองทั้งหมด องค์แรกคือองค์พระพิฆเณศวรปาง 5 เศียร องค์ที่ 2 คือองค์ท้าวมหพรหม และองค์สุดท้ายคือองค์ช้างเอราวัณ ซึ่งทั้ง 3 องค์ที่นำมาจัดแสดงนั้น ใช้ไม้ตะเคียนทองมาแกะสลักประมาณ 39 ลำรถ 10 ล้อ เป็นไม้ตะเคียนทองที่ได้มาจากอำเภอสันทรายและอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นไม้ตะเคียนทองที่ถือว่าเป็นโคตรไม้ตะเคียนทองที่ใหญ่มหึมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ แต่ก็ได้มาถึง 500-600 ท่อน


สำหรับช้างเอราวัณ ใช้ไม้ตะเคียนทอง 19 ลำรถ 10 ล้อ นำไม้มาแพ๊คเข้าด้วยกันและลงมือแกะสลัก ใช้ช่าง 7 คน ใช้เวลาแกะสลัก 2 ปีครึ่ง มีความสูงที่ 15 เมตรถ้ารวมพระอินทร์ทรงบนหลังช้าง มีความยาว 10 เมตรครึ่ง มีความกว้าง 8 เมตร เป็นช้าง 3 เศียร ทั่วทั้งร่างกายแกะเป็นหนังช้างทั้งหมด น้ำหนักประมาณ 75,000 กิโลกรัม ซึ่งพญาช้างเอราวัณที่มีพระอินทร์นั่งประทับด้วย จะเป็นองค์มหาเทพที่จะประทานความสำเร็จ ประทานบารมี ประทานอำนาจชื่อเสียง และประทานความสุขขจัดอุปสรรค ซึ่งช่างแกะสลักพญาช้างเอราวัณก็เป็นสล่าพื้นบ้านชาวสันกำแพงช่วยกันแกะสลักถือว่าเป็นสุดยอดของช่างแกะสลัก หัวหน้าช่างคือนายวงศ์ทอง ผสมทรัพย์ และถือได้ว่าเป็นปฏิมากรรมการแกะสลักไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ในส่วนการแกะสลักพระอินทร์ทรงหลังช้างอีก 5 เดือนถึงจะแกะเสร็จ ซึ่งพระอินทร์จะสูงขึ้นไปอีก 4 เมตร


อาจารย์เข้ม กล่าวอีกว่า ส่วนองค์ท้าวมหาพรหมแกะสลักด้วยทีมช่างชาวอำเภอสันป่าตอง 10 คน นำทีมโดยสล่าโอรส ละมุน เป็นช่างที่มีฝีมือสุดยอดของประเทศ ซึ่ง 2 ทีมนี้ถือว่าเป็น 2 ทีมที่สุดยอดของประเทศไทย ไม่มีช่างทีมไหนที่เหนือไปกว่า 2 ทีมนี้แล้ว โดยองค์ท้าวมหาพรหมมีความสูง 11 เมตร กว้าง 8 เมตร น้ำหนักประมาณ 60 ตัน แกะด้วยไม้ตะเคียนทองประมาณ 17 ลำรถ 10 ล้อ ชิ้นนี้ก็ถือว่าเป็นสุดยอดของโลกอีกชิ้นหนึ่ง และตั้งแต่วันนี้ก็ขอเรียนเชิญผู้ที่สัญจรผ่านไปมา แวะกราบไหว้สักการะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

-“ปัญหาโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชากรโลกวิตกกันไปทั้งโลก หน้าที่ของประชาชนก็ต้องระวังตัวเอง หน้าที่ทีมงานที่เป็นแนวรบด้านหน้าก็คือแพทย์ พยาบาล เภสัช เจ้าหน้าที่ทางการสาธารณสุข ซึ่งถือว่าเป็นแม่ทัพใหญ่ที่จะสู้และเอาชนะไว้รัสโควิด-19 แต่ว่าขอให้สถานที่นี้ ขอให้องค์มหาเทพแห่งนี้ ถ้าแม้นว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ มีเทวานุภาพสูงสุก ก็ขอให้ทั้ง 3 องค์นี้ช่วยบันเทาขจัดปัดเป่าและเอาชนะโรคร้ายนี้ให้ได้ เพื่อให้ชาวโลกและประชนชาวไทยได้มีพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ อ.เข้ม กล่าว”

เชียงใหม่ เร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาดจุดความร้อนหรือตัว Hotspot นี้ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาดโดยให้จุดความร้อนหรือตัว Hotspot นี้ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้


วันนี้ (2 เม.ย.63) พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธาน การประชุม VTC เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าได้ขอความร่วมมือจาก 17 จังหวัดภาคเหนือเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการลาดตระเวน ป้องปรามการเกิดไฟป่าในทุกพื้นที่ โดยบูรณาการการทำงานของทุกส่วนราชการ ทั้งนี้หากพิ้นที่ไหนภาคพื้นไม่สามารถเขาดับไฟได้ ขอให้ขอรับการสนับสนุนอากาศยานมาที่กองบัญชาการฯ เพื่อร่วมกันวางแผนเข้าควบคุมพื้นที่ให้เร็วที่สุดก่อนไฟจะลุกลามก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง

 

ทั้งนี้ช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า พร้อม พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวีย์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เตรียม ขึ้น ฮ.ท.212 เพื่อลาดตระเวน และเข้าตรวจสอบเขตรอยต่อของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายในการเพิ่มความเข้มข้นการลาดตระเวนจุดที่มีความเสี่ยงระหว่างจังหวัด